Home / โรแมนติก / พาล Blaming Her Sin / ตอน 3 เวลคัมคิส

Share

ตอน 3 เวลคัมคิส

last update Last Updated: 2025-06-14 17:24:16

อธิปจ้องเธอ สักพักริมฝีปากบางเฉียบสีสดก็คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์

"เธอใช่ไหม มอเตอร์ไซค์คันนั้น"

ลลิตรากัดฟันกรอด กำลังจะแหกหน้าเขาด้วยการบอกว่าหมอนี่ขับรถเร็วจนน้ำโคลนกระเซ็นใส่คนริมถนน รถเธอล้ม แถมยังแค่โยนเงินให้ แต่อธิปชิงหันไปหาพ่อของเขาก่อน

"ผมจำได้แล้วพ่อ สองสามวันก่อนเกิดอุบัติเหตุ ขับรถเฉี่ยวมอเตอร์ไซค์ ที่แท้ก็เป็นลูกเลี้ยงของพ่อคนนี้นี่เอง"

อรรถสีหน้าตกใจ หันไปหาลลิตราทันที

"แล้วหนูเป็นอะไรมากไหม ที่บอกว่าแผลตามตัวเพราะรถล้ม ก็เพราะรถนายอาร์ตเองหรือนี่"

"ค่ะ แผลใกล้จะหายแล้วค่ะ"

ลลิตรายกมือแตะโหนกแก้มที่มีพลาสเตอร์ยาปิดอยู่โดยไม่ได้ตั้งใจ อธิปเอ่ยขึ้นมาอีก

"ตอนนั้นผมรีบ ไม่ได้ขอคอนแท็กไว้ ได้เจอกันก็ดีแล้ว วันนี้ฉันจะพาเธอไปหาหมอตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งก็แล้วกัน"

หญิงสาวแค่นหัวเราะ คิดว่าเขาพูดเล่น จะมาตรวจอะไรกันตอนนี้ ถ้าสมองเธอกระทบกระเทือนป่านนี้ก็คงตายไปแล้วมั้ง

แต่อรรถกลับเห็นเป็นเรื่องจริงจัง

"ดีแล้ว ดี หนูลูกอม ให้พี่เขาพาไปหาหมออีกครั้งก็แล้วกันนะ ลุงก็ผิดเองไม่ได้ถามให้ละเอียดว่าหนูไปโดนอะไรมา"

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณลุงอรรถ หนูไม่เป็นไร"

"เป็นหมอหรือไง ฉันบอกว่าจะพาไปก็ไปสิ หรือรังเกียจพี่ชายคนใหม่จนไม่อยากเข้าใกล้"

-ใช่ โคตรจะรังเกียจ-

หญิงสาวตอบทันควันในใจ แต่แน่นอนว่าไม่ได้พูดออกมา... ยิ่งอรรถทำดีต่อเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเกรงใจจนไม่อยากปะทะคารมกับลูกชายของเขา...ต่อหน้า

"ไปเถอะลูกอม แม่ก็ห่วง เห็นหนูบ่นว่าปวดหัวด้วยไม่ใช่หรือ ไปเถอะนะ"

คราวนี้เป็นลินดาที่เอ่ยออกมา พลางสบตาลูกสาว พยักหน้าน้อย ๆ

แม่คงอยากเอาใจลูกชายของคุณลุงอรรถ การปฏิเสธความหวังดีของอธิป อาจยิ่งทำให้เขาไม่พอใจพวกเธอสองแม่ลูก

หญิงสาวจึงได้แต่กล้ำกลืนความขุ่นเคืองเอาไว้ แล้วพยักหน้าน้อย ๆ

"ก็ได้ค่ะ ไปก็ไปค่ะ"

* * * * *

ลลิตราเดินตามหลังอธิปมาที่โรงจอดรถ เธอปรายตามองรถสปอร์ตสีเหลืองของเขาอย่างไม่ให้ค่า แต่แทนที่จะไปขึ้นรถ เธอเดินผ่านเลยไป ตั้งใจจะไปอีกทาง

"จะไปไหน รถอยู่นี่"

"ไม่ได้อยู่ต่อหน้าลุงอรรถแล้ว ไม่ต้องตอ... ไม่ต้องเสแสร้งหรอก ฉันมีธุระ จะนั่งรถไปเอง"

อธิปขมวดคิ้วหน้าบึ้งทันควัน ทั้งชีวิตเขามีแต่หยาบคายใส่คนอื่น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดแบบนี้กับเขาบ้าง

หญิงสาวไม่สนใจว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร เธอหันจะเดินไปข้างหน้า อาณาจักรบ้านรชตใหญ่โตกว้างขวางอย่างกับรีสอร์ทขนาดย่อม กว่าจะเดินไปถึงประตูรั้วใหญ่ก็หลายร้อยเมตร แต่ก้าวไปได้แค่ก้าวเดียวก็โดนใครบางคนกระชากแขนกลับมา

"โอ๊ย! จะทำอะไรเนี่ย!"

"เธอนั่นแหละจะทำอะไร จะแกล้งเล่นตัวให้ฉันง้อหรือไง บอกแล้วว่าให้ไปขึ้นรถ"

"ไม่ขึ้น! ก็ไอ้รถคันนี้เกือบเหยียบฉันตาย ฉันคงจะยอมขึ้นอยู่หรอก"

"นี่ยัยบ้านนอก ถ้าฉันจะเหยียบเธอให้ตาย เธอคงตายไปแล้ว ไม่มาปากแจ๋วอยู่อย่างตอนนี้หรอก"

ชายหนุ่มกร้าวใส่คนตัวเล็ก แม้ลลิตราจะสูงเกินมาตรฐานสาวไทยทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับเขาก็ตัวเล็กอยู่ดี

และยัยตัวเล็กนี่ท่าทางไม่เกรงกลัวเขาเลยสักน้อย

"ไป ขึ้น รถ เพราะฉันบอกพ่อไว้แล้ว ฉันต้องทำตามที่บอกเขาไว้ แล้วพ้นประตูรั้วไปเธอจะลงก็ค่อยลง"

อ้อ...แค่นั้นเอง เขาไม่ได้คิดจะพาเธอไปหาหมอจริง ๆ ตั้งแต่แรก

ลลิตราสะบัดแขนออกจากมือเขา เงยหน้าจ้องมองตาเขียว และยอมเดินกลับไปที่รถโดยไม่ได้พูดอะไร

เมื่อก้าวขึ้นรถสปอร์ตคันนั้น เธอก็รู้สึกแปลก ๆ กลิ่นใหม่ของรถหรูมันกลิ่นแบบนี้เอง แต่กลิ่นที่ชัดที่สุดคือกลิ่นโคโลญจ์จาง ๆ จากคนข้าง ๆ กลิ่นที่สะอาดแต่ชวนให้อึดอัดและใจเต้น

อธิปเหลือบมองคนข้าง ๆ ยัยนั่นไม่ยอมคาดเข็มขัดนิรภัย คงเพราะเตรียมตัวจะลง ตอนแรกเขาอยากจะแกล้งกระชากรถออกให้แรง แต่ก็เปลี่ยนใจ ค่อย ๆ เคลื่อนรถออกจนผ่านประตูรั้ว พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ป้อมหน้าบ้านยกมือตะเบ๊ะให้ชายหนุ่มอย่างคุ้นเคย

"จอดตรงหน้านี่แหละ...ค่ะ"

"จะไปไหน ฉันจะให้ติดรถไปด้วย"

"ไม่ต้อง ฉันหารถไปเองได้"

"ตามใจ"

อธิปไม่คิดจะยื้อ เขาจอดรถเลียบขอบถนน แต่ก่อนจะกดเปิดล็อกให้เธอ เขาก็ฉุดแขนเธอไว้อีกรอบ ลลิตราร้องเอ๊ะ พริบตาก็พบว่าอธิปชะโงกหน้ามาดูแผลที่โหนกแก้มของเธอใกล้ ๆ

"จะทำอะไรน่ะ"

เธอเสียงดังขึ้นทันที พลางถดตัวจนชิดกระจกอีกด้าน

สายตาของอธิปยังจับจ้องที่พลาสเตอร์ยาตรงโหนกแก้มนั้น

"น่าเสียดายนะ ถ้าเป็นแผลเป็นเธอคงจะเป็นนางงามอย่างแม่ไม่ได้"

"ช่างฉัน!"

"เอาไว้ไปหาหมอให้ทำหน้าใหม่ก็แล้วกัน ฉันออกตังค์ให้เอง หน้าสวย ๆ น่ะมีประโยชน์ จะได้ไว้ใช้จับผู้ชายรวย ๆ เหมือนอย่างแม่เธอไง"

เพียะ!!!

ลลิตราก็ไม่รู้ว่าเธอกล้าซัดฝ่ามือใส่หน้าเขาไปได้อย่างไร มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ แม้จะเป็นคนสู้คน แค่เธอก็ไม่เคยทำร้ายใครมาก่อน... อาจเพราะตลอดชีวิตไม่เคยเจอใครปากร้ายใจหยาบแบบคนตรงหน้านี้ก็เป็นได้

แต่แค่วินาทีเดียวที่เธอตบหน้าเขา อธิปก็ตาลุกเป็นไฟแล้วสอดมือจับท้ายทอยเธอไว้ก่อนจะกระแทกริมฝีปากลงมาอย่างแรง

หญิงสาวตาลุกโพลง... ไม่รู้สึกอะไรนอกจากตกใจและ...เจ็บ

จูบแรกที่เธอเพิ่งเคยสัมผัส กลับเป็นการบดขยี้ริมฝีปากจนเจ็บแปลบ

เมื่อได้สติ เธอดิ้นขลุกขลักแล้วรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักเขาออก อธิปยอมผละออกไปแต่โดยดี แววตาเขาไม่อ่อนลงเลยแม้แต่น้อยแสดงว่าที่เขาทำไม่ใช่เพราะพิศวาสแต่มันคือการลงโทษล้วน ๆ

และเมื่อเธอเงื้อมือจะตบเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาจับข้อมือเธอไว้ได้ทัน ดวงตาเอาเรื่อง

"ลองตบอีกที เธอจะโดนมากกว่าจูบแน่"

"ไอ้ ไอ้คนสกปรก"

"คนสกปรกคือเธอกับแม่มากกว่ามั้ง รู้ไหมว่าผู้หญิงดี ๆ คนหนึ่งต้องกระเด็นออกจากบ้านเพราะแม่ของเธอน่ะ"

"แม่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด!"

"ผู้หญิงที่เป็นชู้ก็เห็นพูดแบบนี้ทั้งนั้น ไม่ได้ทำอะไรผิด ผู้ชายเลือกเองอย่างนั้นสินะ"

ลลิตราปากคอสั่น น้ำตาคลอ ทำร้ายเธอแค่ไหนเธอยังทนได้ แต่ว่าร้ายแม่เธอแบบนี้ หัวใจทั้งสั่นทั้งบีบรัดจนเจ็บไปทั้งอก

"แล้วจะให้ฉันทำยังไง อยากให้ฉันกับแม่ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นใช่มั้ย"

แววตาอธิปหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนมุมปากจะแสยะยิ้ม

"ไม่จำเป็น อยู่ที่นี่ต่อไปนี่แหละ แค่อยากจะบอกว่า... ขอต้อนรับสู่บ้านรชตอย่างเป็นทางการ!!!!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 112 ระบม

    "ไม่! ฉันคบกับพี่ต้นแล้ว นายจะมาทำแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว!" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด "ใครอีกล่ะ คราวนี้เธอให้ใครมาเล่นละครอีก" "ครั้งนี้ไม่ใช่ คราวก่อนฉันยอมรับว่าฉันโกหกนาย แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แล้ว" "งั้นเหรอ งั้นคราวนี้มันเป็นใครล่ะ" เขาถามอย่างอดทน ทั้งที่อยากกดเธอลงบนเตียงเต็มทีแล้ว ลลิตราขยุ้มคอเสื้อแน่นโดยอัตโนมัติ ราวกับว่าแค่สายตาของเขาก็จะทำให้เสื้อผ้าเธอหลุดรุ่ยล่อนจ้อนได้ "เขาเป็นรุ่นพี่ของฉันสมัยเรียน ฉันเคยชอบเขามาก่อนแต่ตอนนั้นเราเด็กเกินไปเลยไม่ได้คบกัน ฉันเพิ่งกลับไปเจอพี่ต้นที่ตราด...ใช่ฉันเพิ่งไปเที่ยวทะเลที่ตราดมา โรงแรมนั่นเป็นของพี่ต้น และฉันกับเขาก็...ตกลงเป็นแฟนกัน" อธิปหัวเราะพรืดทั้งที่แววตาไม่ขำด้วยสักนิด ก็เธอเล่นบอกเขาเหมือนท่องเตรียมมาแล้ว "เลิกตั้งแง่ใส่กันเถอะนะลูกอม เราทั้งคู่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกยังไงกัน โชติรสไม่ใช่ปัญหาเลย โชก็อยากถอนหมั้นพอ ๆ กับฉันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้เพราะ..." อธิปหยุดไปเล็กน้อย ถอนหายใจ เขาสัญญากับโชติรสว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ "เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ ที่ฉันกับโชยังไม่ถอนหมั้นเพราะมัน

  • พาล Blaming Her Sin    ตอน 111 ดื้อ

    "อาร์ต เมื่อไหร่แม่จะได้รู้จักคู่หมั้นของลูกล่ะ"ออเดรย์ถามขึ้นมาระหว่างที่มือกำลังหั่นสเต๊ก ลลิตราทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามนั้น กินอาหารของเธอไปตามปกติแม้จะรู้สึกว่าสายตาของอธิปพุ่งตรงมาที่ตัวเองก็ตามอธิปแทบไม่ชะงักเลยเหมือนกันตอนที่ตอบ"ไม่จำเป็นหรอก เพราะอีกไม่นานผมกับเขาก็จะถอนหมั้นกัน"คราวนี้นายอรรถเงยหน้ามองทันที แม้แต่ลินดาก็ยังอดหันมาด้วยไม่ได้"หมายความว่ายังไง อาร์ต""ตามนั้นแหละครับ"อธิปตอบ ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างใจเย็น และเมื่อเห็นว่าพ่อยังคงจ้องเขาอยู่ เขาจึงขยายความ"ยังไม่เป็นทางการหรอกนะครับพ่อ และยังไม่ได้บอกใคร แต่ผมกับโช เราตกลงกันแล้วว่าถ้าผ่านเรื่องยุ่ง ๆ ไปสักระยะ เราค่อยถอนหมั้นกันเงียบ ๆ""เหตุผล?""เหตุผลก็คือ ผมกับโชไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก เราแค่หมั้นกันด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่วันหนึ่งเมื่อทุกอย่างคลึ่คลาย เราก็จะคืนอิสรภาพให้กัน""ตอนลูกมาขอให้พ่อไปสู่ขอเขา ลูกไม่ได้พูดแบบนี้นี่"อรรถอดตำหนิไม่ได้ อาจเพราะเขาเห็นว่าบนโต๊ะนี้ก็มีแต่คนกันเองจึงเผลอพูดออกมา"ผมทราบ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว...เอาเป็นว่าผมกับโชเราคิดตรงกัน ผมไม่ได้ทำร้ายใจเธอ ถ้าพ่อคิดว่าผม

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 110 ดินเนอร์

    ลลิตรากลับจากตราดพร้อมของฝากเกินสองมือจะถือได้ไหว เมื่อรถแท็กซี่มาจอด คมสันต์ต้องวิ่งลงมาช่วยหิ้วด้วยหลายถุง เธอยอมรับกับตัวเองว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน คงไม่สามารถจับจ่ายอะไรได้มือเติบแบบนี้"ฉันซื้อขนมของกินมาฝาก เดี๋ยวคมสันต์แบ่งไปได้เลยนะจ๊ะ"ลลิตราบอก รปภ. หนุ่มรุ่นน้อง คมสันต์ตะเบ๊ะแข็งขัน"ครับผม ขอบคุณครับ""แม่อยู่บ้านใช่ไหมจ๊ะ"เธอถามทั้งที่ก็รู้ว่าลินดาคงไม่ได้มีธุระที่ไหน แม่ของลลิตราไม่ใช่คนชอบเที่ยว แม้อรรถจะคะยั้นคะยอให้ออกไปใช้เงินบ้างแต่ลินดาก็พอใจจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่บ้าน และเดี๋ยวนี้หล่อนกลับมาถักไหมพรมอีกครั้งอย่างที่จิตแพทย์เคยแนะนำ เวลาเดียวที่ลินดาจะออกไปห้างสรรพสินค้าก็คือตอนที่จะไปซื้อไหมพรมเซ็ตใหม่ ๆ นั่นแหละ"ครับผม คุณผู้ชายก็อยู่ครับ""คุณอรรถอยู่บ้านงั้นหรือ"ลลิตราแปลกใจเพราะนี่ไม่ใช่วันหยุด ปกติอรรถยังไม่กลับจากบริษัทเลยไม่ใช่หรือ คมสันต์รีบอธิบายต่อ"ตอนแรกมีแขกมาหาคุณผู้หญิงครับ แล้วสักพักคุณผู้ชายก็รีบกลับมา""แขก? มาหาแม่เหรอ""ครับ มาหาคุณลินดาครับ คุณผู้ชายโทรบอกผมเองว่าให้เข้าไปได้"คมสันต์รีบบอกเพราะกลัวจะโดนตำหนิว่าปล่อยคนแปลกหน้าเข้าบ้านโดยพลการลลิต

  • พาล Blaming Her Sin   แวะทักทายระหว่างทาง

    เดินทางมาถึงตอนที่ 109 แล้ว สำหรับเรื่องพาล แต่ตลอดร้อยกว่าตอนมานี้ ไรต์ยังไม่เคยได้อ่านคอมเมนต์นักอ่านเลยนะเชื่อปะ เป็นไปได้ว่าไม่มีใครอ่าน ๕๕ และยอดวิวก็คงเป็นของไรต์เองนี่แหละที่คลิกเข้ามาอ่านนิยายตัวเองไรต์จะพยายามเขียนให้จบ ถึงมีคนอ่านแค่คนเดียวก็ตาม (แต่อาจช้าหน่อยเพราะต้องไปหาค่าน้ำค่าไฟด้วย) ถ้าได้เจอกันในภายภาคหน้า ฝากนิยายของไรต์ด้วยเช่นเคยนะคะ ขอบคุณค่ะ แวมไพร์ปีกดำ(ลีขิตา).

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 109 แขกวีไอพี

    "พี่ต้น!""ลูกอมจริง ๆ ด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลย"ตระการยิ้มกว้าง ดวงตาสีดำส่องประกายสดใสอย่างคนที่ดีใจและคาดไม่ถึง ลลิตราจำเขาได้แทบจะทันทีเพราะแม้ผู้ชายที่เธอเห็นตรงหน้าตอนนี้จะไม่ใช่เด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูงใส่แว่นเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่แววตาและรอยยิ้มแบบนี้ก็มีแค่ตระการคนเดียว"โอ้โห กี่ปีแล้วนี่ที่ไม่ได้เจอกัน พี่แทบจะจำลูกอมไม่ได้เลย""ก็ตั้งแต่พี่ต้นจบม.หกไงคะ แล้วก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย"ลลิตราตอบยิ้ม ๆ ตระการคือรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมฯ เคยติวหนังสือให้เธอและกลุ่มเพื่อนจนกระทั่งเขาเรียนจบออกไป"ลูกอมมาเที่ยวเหรอ แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน""มาเที่ยวค่ะ กับอุ๋มไง พี่ต้นจำอุ๋มได้ไหม อมาวสี..."ดวงตาของตระการกว้างขึ้นอีกรอบ พยักหน้าหงึก ๆ ดูเหมือนความทรงจำของชายหนุ่มเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนขาสั้น ยังแจ่มชัดดีทุกรายละเอียด จำได้กระทั่งชื่อเล่นและความแก่นแก้วของแต่ละคนที่เป็นไปตามวัย"แต่อุ๋มของีบก่อนเพราะเพิ่งมาถึงเมื่อเที่ยงนี้เองค่ะ นี่ลูกอมโชคดีจังเลยที่ลงมาเดินเล่น ไม่งั้นคงไม่ได้เจอพี่ต้น พี่ต้นก็มาเที่ยวหรือเปล่าคะ แล้วจะกลับวันไหน พักที่นี่ใช่ไหม...""ก็ไม่เชิงหรอกครับ บ้านพี่ห่าง

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 108 พักร้อน

    แม้อาหารมื้อนั้นจะผ่านไปด้วยดีตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมายี่สิบกว่าปี แต่อธิปกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก อรรถก็คงไม่ต่างกัน สองพ่อลูกกลับมาบ้านแล้วก็แยกกันเข้าห้องส่วนตัวโดยไม่คุยอะไรกันอีกเลยเกี่ยวกับผู้หญิงที่เกี่ยวพันกับคนทั้งคู่คนนั้นแต่อธิปอยากลงไปเจอลลิตรา เขาส่งข้อความไปหาเธอว่าขอลงไปหาเธอได้ไหม เจอกันที่สนามหญ้าก็ได้ถ้าเธอไม่สะดวกให้เขาเข้าไปหาในบ้าน- ฉันไม่ได้อยู่บ้าน ออกมาอยู่บ้านเพื่อน -หญิงสาวพิมพ์ตอบกลับมาอธิปห้ามใจตัวเองไม่ไหว ต้องพิมพ์บอกไปว่า- คิดถึง -- ไปบอกคู่หมั้นนายเถอะ -เธอพิมพ์ตอบมารวดเร็วเช่นกันเพราะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง จึงไม่รู้ว่าเธอประชด หรือจริงจัง อธิปกดโทรหาเธอแทนที่จะส่งเป็นข้อความกลับไป"โทรมาทำไม ฉันไม่สะดวกคุยนะ"หญิงสาวกดรับสายทันทีและเปิดฉากพูดก่อนโดยไม่รอให้เขาทัก"ก็อยากได้ยินเสียงไง""อย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก ฉันขอร้อง มันไม่เหมาะสม""ระหว่างฉันกับเธอยังมีอะไรไม่เหมาะสมอีกหรือ"เขาตั้งใจจะยั่วหยอกเธอเล่น ๆ แต่ลลิตราตอบกลับมาน้ำเสียงกรุ่นโกรธ"พอทีเถอะคุณอธิป ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว""แบบไหน""ก็แบบที่..."เขาได้ยินเสียงห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status