Share

ตอน 4 คนรัก

last update Last Updated: 2025-06-15 18:17:45

ลลิตราสาปส่งอธิปอยู่ในใจมาตลอดทางที่กำลังจะไปห้างสรรพสินค้า ริมฝีปากยังรู้สึกร้อนเห่อ

"ไอ้คนต่ำช้าสารเลว"

หญิงสาวเผลอคำรามออกมา คนขับรถแท็กซี่ถึงกับสะดุ้งนิด ๆ แล้วมองกระจกมองหลังอย่างหวาดระแวง คงนึกเสียวสันหลังอยู่บ้างไม่น้อย

ชั่วโมงต่อมา ลลิตราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าที่นัดกับกิตติทัศน์เอาไว้... หญิงสาวมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เธอรีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา หยิบตลับแป้งมาตบหน้าเบา ๆ อีกรอบและแตะลิปกลอสสีส้มใสที่ริมฝีปากอีกครั้ง...พยายามลบลืมความรู้สึกและการกระทำหยาบเถื่อนของนายอธิป

เธอกำลังจะมาเจอคนที่ควรจะได้เป็นเจ้าของจูบแรกของเธอตัวจริง ดังนั้นเธอต้องกำจัดรอยร้อนผ่าวจากผู้ชายอีกคนออกไปให้หมด

"พี่ติ!"

หญิงสาวร้องออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าคนรักมารอที่ร้านอาหารก่อนแล้ว

กิตติทัศน์เพิ่งกลับจากต่างจังหวัด ชายหนุ่มเป็นผู้จัดการฝ่ายขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง โครงการบ้านจัดสรรระดับลักซูรี่เพิ่งเปิดตัวที่เชียงใหม่ กิตติทัศน์จึงต้องไปเทรนด์งานให้ลูกน้องที่นั่นถึงสามเดือนและเพิ่งกลับมา

วันนี้ลลิตราตั้งใจจะบอกเขาว่าแม่ของเธอแต่งงานใหม่และพวกเธอได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของพ่อเลี้ยงแล้ว

ที่ผ่านมาหญิงสาวยังไม่ค่อยมั่นใจ จึงไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้คนรักฟัง มีเพียงเพื่อนสนิทแค่ 2 คนเท่านั้นที่รู้

"คิดถึงพี่ติจังเลยค่ะ"

ลลิตรารีบเอ่ยออกไปด้วยความรู้สึกอย่างวัวสันหลังหวะ

ถ้าเป็นเวลาปกติ กิตติทัศน์คงจะผิดสังเกต เพราะแฟนสาวของเขาไม่เคยเป็นฝ่ายเอ่ยเช่นนี้ก่อน ขนาดว่าเขาถามว่ารักเขาบ้างไหม คิดถึงเขาบ้างหรือเปล่า เธอก็ยังไม่ค่อยจะตอบ

แต่วันนี้เหมือนชายหนุ่มมีเรื่องครุ่นคิดอยู่ในใจ จึงไม่ได้สังเกตอาการกระตือรือร้นแปลก ๆ ของลลิตรา

"มารอนานหรือยังคะพี่ติ"

"ยังหรอก พี่ก็เพิ่งมาถึง สั่งอะไรก่อนสิ"

ชายหนุ่มเอ่ยทื่อ ๆ แต่ลลิตราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอรีบขอเมนูจากพนักงานและสั่งราดหน้าทะเลที่เธออยากกินมาแล้วหลายวัน

กิตติทัศน์สั่งแค่เครื่องดื่ม เขาบอกว่ายังไม่ค่อยหิว

"จะไม่กินอะไรสักหน่อยหรือคะ นี่มันเที่ยงแล้วนะ พี่ติกินอะไรมาแล้วเหรอ"

"ฮื่อ เพิ่งกินตอนสาย ๆ น่ะ ลูกอมกินเถอะ พี่เลี้ยงเอง"

"งานที่เชียงใหม่เป็นอย่างไรบ้างคะ ปิดโครงการได้เลยใช่ไหม"

หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงสดใส เดาว่าเขาคงเพิ่งได้ค่าคอมมิชชั่นมาเยอะพอสมควร

กิตติทัศน์เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเพื่อนสนิทในกลุ่มของเธอ ตอนที่ลลิตราเข้าเรียนปีหนึ่ง เขาก็อยู่ปีสี่ และจีบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากัน

อาจเพราะความสม่ำเสมอของเขาที่เทียวมาแสดงความจริงใจให้เธอเห็นทุกวัน บวกกับแรงเชียร์ของเพื่อน ๆ ทำให้ลลิตรายอมตกลงคบหาเขาเป็นแฟน

จนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลาห้าปีพอดี

"อืม ก็ดี บ้านสวยดี..."

ชายหนุ่มตอบอย่างคนใจลอย มองออกไปนอกร้าน สติดูไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัว ลลิตราเอียงคอมองเขาอย่างชั่งใจและกำลังจะถามว่าเขาสบายดีไหม กิตติทัศน์ก็หันกลับมาสบตาเธอพอดี

"ลูกอม... ลูกอมคิดว่าเราสองคนจะมีปัญญาได้อยู่บ้านหรูหลักสิบล้านร้อยล้านแบบนั้นบ้างไหม"

ลลิตราสะดุ้งนิด ๆ

หรือว่ากันตา...เพื่อนสนิทของเธอที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกิตติทัศน์ จะหลุุดปากบอกออกไปแล้ว

"หมายถึงบ้านหลังไหนหรือคะ"

"ก็บ้านโครงการที่พี่ขายอยู่น่ะ รู้ไหมว่าบ้านราคาเริ่มต้นห้าสิบหกสิบล้าน ไปจนถึงร้อยล้าน แต่แค่เดือนเดียวก็มีคนจองเกือบหมดยูนิต... คนรวยนี่มันรวยจริง ๆ เลยนะ"

อ๋อ...ที่แท้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับบ้านรชตสินะ โล่งอกไปที

"พี่ติชอบบ้านหลังใหญ่ ๆ หรือคะ"

"ชอบสิ ใครล่ะจะไม่ชอบ พี่ฝันทุกครั้งว่าสักวันพี่จะได้อยู่บ้านแบบนั้นบ้าง แบบเดียวกับที่พี่ขายให้ลูกค้า"

"ลูกอมก็เชื่อว่าพี่ติทำได้นะคะ พี่ติเป็นคนเก่ง เก่งมากด้วย"

ลลิตราเอ่ยจริงใจ คนรักของเธอเป็นคนมุ่งมั่น จริงจัง ขยันขันแข็ง และที่สำคัญเป็นคนทะเยอทะยาน เพื่อนร่วมคณะที่จบพร้อมกัน ถ้าไม่ไปสอบราชการก็หางานประจำที่มั่นคงทำ แต่กิตติทัศน์เลือกจะทำงานที่ไม่มีเพดานรายได้อย่างการเป็นฝ่ายขาย

'พี่ชอบงานที่ยิ่งทำเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เท่านั้น งานที่จ่ายเงินตามผลงานของเรา...มันคุ้มค่าเหนื่อย'

เขาเคยบอกเธอแบบนี้ และยังบอกด้วยว่างานขายขนมไทยที่เธอทำอยู่มันก็ดี แต่ถ้าเธอขยันทำการตลาดมากกว่านี้ก็คงจะมีโอกาสได้รวยกับเขาบ้าง

'ลูกอมเป็นคนสวย น้าลินก็เคยเป็นดารา พี่ว่าถ้าลูกอมเป็นดาราเหมือนแม่ หรือเอาหน้าออกกล้องแบบอินฟลูเอนเซอร์สมัยนี้ ก็คงไม่ต้องมาทำขนมหลังขดหลังแข็งแบบนี้หรอกนะ'

เขาก็เคยบอกเธอแบบนี้ด้วยเช่นกัน แต่ลลิตราก็มีเหตุผลของตัวเอง เธอแค่ยิ้ม ๆ และเมื่อเขาพูดบ่อยขึ้นเธอก็ตอบเลี่ยงไปทางอื่น

ช่วงปีหลังกิตติทัศน์จึงไม่ค่อยพูดเรื่องนั้นกับเธออีก คงเพราะขี้เกียจจะผลักดันให้คนรักหาเงินให้ได้มาก ๆ อีกแล้วกระมัง

กิตติทัศน์ถอนหายใจท่าทางอึดอัด มองไปทางครัวเหมือนกำลังคิดว่าเมื่อไรอาหารที่ลลิตราสั่งจะมาสักที

"พี่ติมีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมวันนี้ดูแปลก ๆ"

"แปลกเหรอ ไม่หรอก ไม่ได้เจอกันตั้งสามเดือน ลูกอมจะรู้ได้ยังไงว่ามันแปลกหรือไม่แปลก"

หญิงสาวกะพริบตา งุนงง ไม่เข้าใจเลยว่าเขาพูดอะไร

แต่เธอก็เลือกจะไม่เซ้าซี้

ลลิตราไม่เคยจับผิดหรือซักไซ้ให้เขาต้องลำบากใจเลยสักครั้ง แม้งานของกิตติทัศน์จะทำให้เขากับเธอไม่ค่อยได้มีเวลาให้กัน แต่ลลิตราก็สบายใจดีแล้วที่มีระยะห่างระหว่างกันแบบพอดี

"ลูกอม..."

"คะ"

"เราเลิกกันเถอะนะ..."

ลลิตรานิ่งอึ้ง หัวใจพลันหล่นไปอยู่แทบเท้า แต่ยังฝืนหัวเราะเพราะคิดว่าเขากำลังล้อเล่น

"พี่ติพูดอะไรน่ะ ไปเชียงใหม่มาแค่สามเดือนเองนะ หยอกกันแรงเลย"

กิตติทัศน์ถอนหายใจอย่างหม่นหมอง ได้แต่มองเธอด้วยแววตาที่ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่

 "มัน...มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ"

เขามองตาเธอตรง ๆ ไม่คิดจะปกปิดหรือหลบเลี่ยงอีกต่อไป

"พี่ขอโทษจริง ๆ แต่มันไม่ได้เพิ่งเกิดที่เชียงใหม่หรอก พี่กับคุณชลรู้จักกันตั้งแต่ที่กรุงเทพฯ แล้ว ชลเค้าเป็นลูกสาวเจ้านายพี่เอง..."

ชายหนุ่มบอกไม่หมดว่า 'เจ้านาย' ที่เขาหมายถึง ไม่ใช่แค่ระดับหัวหน้า แต่เขาหมายถึง 'ชาญ วรเศรษฐกุล' กรรมการบริหารวรเศรษฐพร็อพเพอร์ตี้ 

ชลธิชา วรเศรษฐกุล เป็นลูกสาวคนโตของชาญ

เป็นหลานสาวคนโตของเจ้าสัวเชียง วรเศรษฐกุล ผู้ก่อร่างสร้างอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ระดับหมื่นล้านอย่าง 'วรเศรษฐพร็อพเพอร์ตี้' ที่กิตติทัศน์ทำงานอยู่

"ตอนแรกชลเขาจะมาบอกลูกอมด้วยตัวเอง แต่พี่ขอไว้ ขอให้พี่ได้เป็นคนพูดเองดีกว่า...มันน่าจะดีกับลูกอมมากกว่า" 

กิตติทัศน์ยังพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ราวกับว่าเธอควรจะขอบคุณเขาด้วยซ้ำไป

ลลิตราหูอื้อตาลายอยู่สักพัก ก่อนเค้นถามออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"ตั้งแต่เมื่อไหร่"

"เกือบสองปีแล้ว"

"แล้วทำไมเพิ่งมาบอกอมตอนนี้..."

"เพราะพี่สงสารลูกอมไง"

เขาบอก

ส่วนลึกก็ยังใจหายและเสียดายที่ต้องปล่อยมือจากลลิตรา...ผู้หญิงที่สวย มีเสน่ห์ และน่าค้นหาที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จัก

แต่คบกันมาห้าปี เธอยังไม่เคยยอมให้เขาได้เชยชมเลยสักครั้ง กลับต้องปล่อยไปเสียแล้ว

ถ้าไม่เพราะชลธิชาจับได้และยื่นคำขาด เขาก็คงจะยังเก็บเธอไว้ได้ทั้งสองคน 

แต่เมื่ออีกฝ่ายยื่นคำขาดให้มาบอกเลิกทางนี้ กิตติทัศน์ก็ต้องเลือกฝั่งที่เขาคิดว่าดีที่สุด...สำหรับอนาคตของเขา

"พี่ขอโทษ ลูกอมอย่าโกรธพี่เลยนะ ถึงยังไงเราก็คงไปกันได้ไม่รอดหรอก พี่เชื่อว่า...ลูกอมจะหาผู้ชายที่ดีได้มากกว่าพี่ พี่มันแค่ลูกจ้างเขา ถึงอยากดูแลให้ลูกอมได้มีบ้านหลังใหญ่ ๆ ก็คงทำไม่ได้..."

"แล้วอมเคยบอกเหรอว่าอยากอยู่บ้านหลังใหญ่"

ลลิตราโต้กลับไปเสียงแผ่ว พนักงานยกจานราดหน้ามาเสิร์ฟให้พอดีแต่แน่นอนว่าเธอคงกินไม่ลงแล้ว หญิงสาวกัดริมฝีปาก ไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมาตอนนี้ ตรงนี้ เธอกัดฟันหยิบกระเป๋าถือแล้วลุกขึ้นยืนช้า ๆ ให้มั่นคงที่สุด

"ลูกอม จะกลับยังไง ให้พี่ไปส่งไหม"

กิตติทัศน์เงยหน้าถามเธออย่างอาทร อย่างน้อยเขาก็ยังอยากได้อยู่ใกล้ชิดเธออีกสักครั้ง ก่อนจะต้องตัดใจ แต่ลลิตราสบตาเขาด้วยแววตาปวดร้าวขึ้งเคียด แล้วเดินออกจากร้านอาหารไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย

* * * * *

อีกมุมหนึ่งของประเทศไทย ไกลจากกรุงเทพฯ ไปเจ็ดร้อยกว่ากิโลเมตร

ชลธิชา วรเศรษฐกุล กำลังให้ช่างตัดชุดแต่งงานที่เรียกมาถึงบ้าน วัดตัวใหม่อีกครั้งเพื่อตัดแก้ชุดเจ้าสาวที่เลือกแบบไปแล้วก่อนหน้า เนื่องจากสรีระของเจ้าสาวมีความเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ชุดเดิมที่ตัดไว้แล้วจึงต้องขยาย

นางวิภาที่นั่งดูอยู่ใกล้ ๆ ชี้บอกช่างคนสนิทด้วยน้ำเสียงกึ่งเหน็ดเหนื่อยกึ่งระอา

"คุณแป้ง ทำระบายฟู ๆ พอง ๆ ตรงหน้าท้องด้วยนะ...ให้พองเยอะ ๆ เลยยิ่งดี"

ช่างฝืนยิ้มเจื่อน ๆ แต่ว่าที่เจ้าสาวสีหน้าน้อยอกน้อยใจ โชติรสที่นั่งใกล้ ๆ หัวเราะคิก

"แหม แม่ก็ร้ายนะ"

"แม่แกนี่นะร้าย? ถ้าฉันร้าย รับรองว่าพี่สาวแกไม่มีทางได้แต่งกับไอ้เซลล์นั่นหรอก พ่อแกส่งให้มาทำงาน ดันมากินบนเรือนขี้บนหลังคา"

"แม่!"

คราวนี้ชลธิชาอดรนทนไม่ไหวร้องขึ้นมา วิภาโบกมือให้ทีมช่างตัดเย็บที่มากันสี่คนออกไปรอข้างนอกก่อน พวกเขารีบออกไปทันที ปล่อยให้แม่ลูกเขาได้คุยกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 112 ระบม

    "ไม่! ฉันคบกับพี่ต้นแล้ว นายจะมาทำแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว!" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด "ใครอีกล่ะ คราวนี้เธอให้ใครมาเล่นละครอีก" "ครั้งนี้ไม่ใช่ คราวก่อนฉันยอมรับว่าฉันโกหกนาย แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แล้ว" "งั้นเหรอ งั้นคราวนี้มันเป็นใครล่ะ" เขาถามอย่างอดทน ทั้งที่อยากกดเธอลงบนเตียงเต็มทีแล้ว ลลิตราขยุ้มคอเสื้อแน่นโดยอัตโนมัติ ราวกับว่าแค่สายตาของเขาก็จะทำให้เสื้อผ้าเธอหลุดรุ่ยล่อนจ้อนได้ "เขาเป็นรุ่นพี่ของฉันสมัยเรียน ฉันเคยชอบเขามาก่อนแต่ตอนนั้นเราเด็กเกินไปเลยไม่ได้คบกัน ฉันเพิ่งกลับไปเจอพี่ต้นที่ตราด...ใช่ฉันเพิ่งไปเที่ยวทะเลที่ตราดมา โรงแรมนั่นเป็นของพี่ต้น และฉันกับเขาก็...ตกลงเป็นแฟนกัน" อธิปหัวเราะพรืดทั้งที่แววตาไม่ขำด้วยสักนิด ก็เธอเล่นบอกเขาเหมือนท่องเตรียมมาแล้ว "เลิกตั้งแง่ใส่กันเถอะนะลูกอม เราทั้งคู่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกยังไงกัน โชติรสไม่ใช่ปัญหาเลย โชก็อยากถอนหมั้นพอ ๆ กับฉันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้เพราะ..." อธิปหยุดไปเล็กน้อย ถอนหายใจ เขาสัญญากับโชติรสว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ "เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ ที่ฉันกับโชยังไม่ถอนหมั้นเพราะมัน

  • พาล Blaming Her Sin    ตอน 111 ดื้อ

    "อาร์ต เมื่อไหร่แม่จะได้รู้จักคู่หมั้นของลูกล่ะ"ออเดรย์ถามขึ้นมาระหว่างที่มือกำลังหั่นสเต๊ก ลลิตราทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามนั้น กินอาหารของเธอไปตามปกติแม้จะรู้สึกว่าสายตาของอธิปพุ่งตรงมาที่ตัวเองก็ตามอธิปแทบไม่ชะงักเลยเหมือนกันตอนที่ตอบ"ไม่จำเป็นหรอก เพราะอีกไม่นานผมกับเขาก็จะถอนหมั้นกัน"คราวนี้นายอรรถเงยหน้ามองทันที แม้แต่ลินดาก็ยังอดหันมาด้วยไม่ได้"หมายความว่ายังไง อาร์ต""ตามนั้นแหละครับ"อธิปตอบ ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างใจเย็น และเมื่อเห็นว่าพ่อยังคงจ้องเขาอยู่ เขาจึงขยายความ"ยังไม่เป็นทางการหรอกนะครับพ่อ และยังไม่ได้บอกใคร แต่ผมกับโช เราตกลงกันแล้วว่าถ้าผ่านเรื่องยุ่ง ๆ ไปสักระยะ เราค่อยถอนหมั้นกันเงียบ ๆ""เหตุผล?""เหตุผลก็คือ ผมกับโชไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก เราแค่หมั้นกันด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่วันหนึ่งเมื่อทุกอย่างคลึ่คลาย เราก็จะคืนอิสรภาพให้กัน""ตอนลูกมาขอให้พ่อไปสู่ขอเขา ลูกไม่ได้พูดแบบนี้นี่"อรรถอดตำหนิไม่ได้ อาจเพราะเขาเห็นว่าบนโต๊ะนี้ก็มีแต่คนกันเองจึงเผลอพูดออกมา"ผมทราบ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว...เอาเป็นว่าผมกับโชเราคิดตรงกัน ผมไม่ได้ทำร้ายใจเธอ ถ้าพ่อคิดว่าผม

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 110 ดินเนอร์

    ลลิตรากลับจากตราดพร้อมของฝากเกินสองมือจะถือได้ไหว เมื่อรถแท็กซี่มาจอด คมสันต์ต้องวิ่งลงมาช่วยหิ้วด้วยหลายถุง เธอยอมรับกับตัวเองว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน คงไม่สามารถจับจ่ายอะไรได้มือเติบแบบนี้"ฉันซื้อขนมของกินมาฝาก เดี๋ยวคมสันต์แบ่งไปได้เลยนะจ๊ะ"ลลิตราบอก รปภ. หนุ่มรุ่นน้อง คมสันต์ตะเบ๊ะแข็งขัน"ครับผม ขอบคุณครับ""แม่อยู่บ้านใช่ไหมจ๊ะ"เธอถามทั้งที่ก็รู้ว่าลินดาคงไม่ได้มีธุระที่ไหน แม่ของลลิตราไม่ใช่คนชอบเที่ยว แม้อรรถจะคะยั้นคะยอให้ออกไปใช้เงินบ้างแต่ลินดาก็พอใจจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่บ้าน และเดี๋ยวนี้หล่อนกลับมาถักไหมพรมอีกครั้งอย่างที่จิตแพทย์เคยแนะนำ เวลาเดียวที่ลินดาจะออกไปห้างสรรพสินค้าก็คือตอนที่จะไปซื้อไหมพรมเซ็ตใหม่ ๆ นั่นแหละ"ครับผม คุณผู้ชายก็อยู่ครับ""คุณอรรถอยู่บ้านงั้นหรือ"ลลิตราแปลกใจเพราะนี่ไม่ใช่วันหยุด ปกติอรรถยังไม่กลับจากบริษัทเลยไม่ใช่หรือ คมสันต์รีบอธิบายต่อ"ตอนแรกมีแขกมาหาคุณผู้หญิงครับ แล้วสักพักคุณผู้ชายก็รีบกลับมา""แขก? มาหาแม่เหรอ""ครับ มาหาคุณลินดาครับ คุณผู้ชายโทรบอกผมเองว่าให้เข้าไปได้"คมสันต์รีบบอกเพราะกลัวจะโดนตำหนิว่าปล่อยคนแปลกหน้าเข้าบ้านโดยพลการลลิต

  • พาล Blaming Her Sin   แวะทักทายระหว่างทาง

    เดินทางมาถึงตอนที่ 109 แล้ว สำหรับเรื่องพาล แต่ตลอดร้อยกว่าตอนมานี้ ไรต์ยังไม่เคยได้อ่านคอมเมนต์นักอ่านเลยนะเชื่อปะ เป็นไปได้ว่าไม่มีใครอ่าน ๕๕ และยอดวิวก็คงเป็นของไรต์เองนี่แหละที่คลิกเข้ามาอ่านนิยายตัวเองไรต์จะพยายามเขียนให้จบ ถึงมีคนอ่านแค่คนเดียวก็ตาม (แต่อาจช้าหน่อยเพราะต้องไปหาค่าน้ำค่าไฟด้วย) ถ้าได้เจอกันในภายภาคหน้า ฝากนิยายของไรต์ด้วยเช่นเคยนะคะ ขอบคุณค่ะ แวมไพร์ปีกดำ(ลีขิตา).

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 109 แขกวีไอพี

    "พี่ต้น!""ลูกอมจริง ๆ ด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลย"ตระการยิ้มกว้าง ดวงตาสีดำส่องประกายสดใสอย่างคนที่ดีใจและคาดไม่ถึง ลลิตราจำเขาได้แทบจะทันทีเพราะแม้ผู้ชายที่เธอเห็นตรงหน้าตอนนี้จะไม่ใช่เด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูงใส่แว่นเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่แววตาและรอยยิ้มแบบนี้ก็มีแค่ตระการคนเดียว"โอ้โห กี่ปีแล้วนี่ที่ไม่ได้เจอกัน พี่แทบจะจำลูกอมไม่ได้เลย""ก็ตั้งแต่พี่ต้นจบม.หกไงคะ แล้วก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย"ลลิตราตอบยิ้ม ๆ ตระการคือรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมฯ เคยติวหนังสือให้เธอและกลุ่มเพื่อนจนกระทั่งเขาเรียนจบออกไป"ลูกอมมาเที่ยวเหรอ แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน""มาเที่ยวค่ะ กับอุ๋มไง พี่ต้นจำอุ๋มได้ไหม อมาวสี..."ดวงตาของตระการกว้างขึ้นอีกรอบ พยักหน้าหงึก ๆ ดูเหมือนความทรงจำของชายหนุ่มเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนขาสั้น ยังแจ่มชัดดีทุกรายละเอียด จำได้กระทั่งชื่อเล่นและความแก่นแก้วของแต่ละคนที่เป็นไปตามวัย"แต่อุ๋มของีบก่อนเพราะเพิ่งมาถึงเมื่อเที่ยงนี้เองค่ะ นี่ลูกอมโชคดีจังเลยที่ลงมาเดินเล่น ไม่งั้นคงไม่ได้เจอพี่ต้น พี่ต้นก็มาเที่ยวหรือเปล่าคะ แล้วจะกลับวันไหน พักที่นี่ใช่ไหม...""ก็ไม่เชิงหรอกครับ บ้านพี่ห่าง

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 108 พักร้อน

    แม้อาหารมื้อนั้นจะผ่านไปด้วยดีตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมายี่สิบกว่าปี แต่อธิปกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก อรรถก็คงไม่ต่างกัน สองพ่อลูกกลับมาบ้านแล้วก็แยกกันเข้าห้องส่วนตัวโดยไม่คุยอะไรกันอีกเลยเกี่ยวกับผู้หญิงที่เกี่ยวพันกับคนทั้งคู่คนนั้นแต่อธิปอยากลงไปเจอลลิตรา เขาส่งข้อความไปหาเธอว่าขอลงไปหาเธอได้ไหม เจอกันที่สนามหญ้าก็ได้ถ้าเธอไม่สะดวกให้เขาเข้าไปหาในบ้าน- ฉันไม่ได้อยู่บ้าน ออกมาอยู่บ้านเพื่อน -หญิงสาวพิมพ์ตอบกลับมาอธิปห้ามใจตัวเองไม่ไหว ต้องพิมพ์บอกไปว่า- คิดถึง -- ไปบอกคู่หมั้นนายเถอะ -เธอพิมพ์ตอบมารวดเร็วเช่นกันเพราะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง จึงไม่รู้ว่าเธอประชด หรือจริงจัง อธิปกดโทรหาเธอแทนที่จะส่งเป็นข้อความกลับไป"โทรมาทำไม ฉันไม่สะดวกคุยนะ"หญิงสาวกดรับสายทันทีและเปิดฉากพูดก่อนโดยไม่รอให้เขาทัก"ก็อยากได้ยินเสียงไง""อย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก ฉันขอร้อง มันไม่เหมาะสม""ระหว่างฉันกับเธอยังมีอะไรไม่เหมาะสมอีกหรือ"เขาตั้งใจจะยั่วหยอกเธอเล่น ๆ แต่ลลิตราตอบกลับมาน้ำเสียงกรุ่นโกรธ"พอทีเถอะคุณอธิป ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว""แบบไหน""ก็แบบที่..."เขาได้ยินเสียงห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status