LOGINอธิปพูดสวนขึ้นมา สีหน้าเย่อหยิ่ง
"และก็ไม่คิดจะมีแม่เลี้ยงคนใหม่ด้วย มีแค่น้านุชเป็นแม่คนเดียวก็พอ" ลินดาหน้าซีดทันตา อรรถหน้าเครียด "เจ้าอาร์ต! ขอโทษน้าลินดาเดี๋ยวนี้!" "ขอโทษทำไมครับ ถ้าเมียใหม่พ่อกล้าพอจะแย่งพ่อมาจากน้านุช คำพูดผมแค่นี้ก็ไม่น่าจะทำอะไรเขาได้นะ" "ไอ้ลูกเวรนี่ ถ้าแกจะมาทำให้เสียบรรยากาศ ก็ไปซะ จะไปไหนก็ไป" อรรถตัวสั่น เขาไม่เคยดุด่าลูกชายมากไปกว่านี้ แม้จะโกรธจัดอย่างตอนนี้เขาก็ทำได้แค่ชี้มือชี้ไม้ไล่ลูกชายออกไปไกล ๆ แต่อธิปไม่คิดจะไปไหนทั้งนั้น เขาแค่ผิวปากหวือ คำนับให้ลินดาอย่างล้อเลียน โยนกุญแจรถให้คนรถที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่อีกด้านแล้วก็เดินเข้าตัวบ้านไปไม่ใส่ใจใครอีก ไม่แม้แต่จะมองหญิงสาวคนที่เขาเคยขับรถเฉี่ยวเมื่อไม่กี่วันก่อน...หากเขาจะจำได้ "ลินดา ผมเสียใจ" อรรถรีบหันมาบอกภรรยาคนใหม่ ลินดาส่ายหน้ายิ้ม ๆ ทั้งที่หน้ายังไร้สีเลือด "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ ไม่ต้องไปดุลูกชายคุณนะคะ ไม่อย่างนั้นเขาจะยิ่งไม่ชอบหน้าฉันกับลูก" อรรถกัดฟันหันมามองหญิงสาวคราวลูกที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ สีหน้ารู้สึกผิด ลลิตราไม่โทษพ่อเลี้ยงของเธอหรอก พวกเขาอยู่กันมาก่อน เธอกับแม่ต่างหากที่มาทีหลัง * * * * * ในห้องนอนที่แสนกว้างขวาง ตกแต่งอย่างทันสมัยแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น กลิ่นหอมจากเทียนอโรมาลอยฟุ้งชวนให้ผ่อนคลายสมกับที่แม่บ้านว่าไว้ หลังอาบน้ำสระผมแล้วเปลี่ยนมาสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสบายตัว ลลิตราก็ทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงกว้างที่หอมสะอาด ผ้าปูตึงแน่นรับสรีระอย่างพอดี แผลที่ข้อศอกและหัวเข่าก็ล้างทำความสะอาดและปิดพลาสเตอร์ยา ไม่ต้องปิดผ้าพันแผลผืนใหญ่แล้ว โชคดีที่แผลไม่ได้ลึกและใส่ยาฆ่าเชื้อได้ทัน ส่วนวินมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ได้บาดเจ็บมากนักเพราะใส่หมวกกันน็อก เธอจ้องเพดานสีครีม มันแตกต่างจากเพดานบ้านเช่าราคาถูกที่เธอเพิ่งจากมา... ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะได้มีโอกาสอยู่ในคฤหาสน์หรู เหมือนในหนังที่แม่ของเธอเคยแสดงเมื่อครั้งยังสาว ๆ แต่แทนที่จะได้ปลาบปลื้มชื่นชมกับความหรูหราสะดวกสบายรอบตัว ใบหน้าของใครบางคนกลับลอยขึ้นมาแทน "นี่เราต้องอยู่ร่วมบ้านกับคนพรรค์นั้นจริง ๆ น่ะเหรอ คนอะไรนิสัยต่ำทราม อย่างกับลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน" หญิงสาวก่นด่าอยู่คนเดียวในห้อง... รู้ว่าไม่เป็นธรรมกับบุพการีของเขาเลย เพราะเท่าที่เธอเห็น คุณลุงอรรถเป็นผู้ชายที่ใจดี อารมณ์ดี ให้เกียรติและจริงใจกับแม่ของเธออย่างแท้จริง 'แม่เลี้ยงของผมมีแค่น้านุช คนที่พ่อทิ้งได้หน้าตาเฉยเพื่อมาแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้' นี่ก็อีกเรื่องที่ทำให้ลลิตราไม่สบายใจอยู่ลึก ๆ แม้อรรถจะยืนยันว่าจีรานุชยินดีเซ็นใบหย่าด้วยความเต็มใจ เพื่อหลีกทางให้เขาแต่งงานใหม่กับแม่ของลลิตรา นั่นเท่ากับว่าแม่ของเธอเป็นภรรยาคนที่สามของอรรถ เพราะก่อนจะแต่งกับคุณจีรานุช อรรถก็มีภรรยาคนแรก... แม่ของนายอธิปนั่นไงล่ะ ลลิตรารู้แค่นั้น รู้ว่าพ่อเลี้ยงแต่งงานมาแล้วสองครั้ง และมีลูกชายกับภรรยาทั้งสองคน คนแรกคืออธิป คนที่สองชื่อว่าโอม อายุน้อยกว่าเธอ แต่เธอยังไม่เคยเจอเขา อรรถบอกว่าลูกชายที่ชื่อโอมเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง และขอย้ายออกไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยเพราะอยากใช้ชีวิตใกล้ชิดกับเพื่อน ๆ 'นายโอมเป็นเด็กดี นิสัยอ่อนโยนเหมือนแม่ของเขา ลุงคิดว่าถ้าได้เจอกันลูกอมน่าจะเข้ากับน้องได้' พ่อเลี้ยงของเธอเคยบอก และลลิตราก็หวังเอาไว้อย่างนั้น ถ้ามีคนอย่างนายอธิปพร้อมกันถึงสองคน บ้านนี้ก็คงจะลุกเป็นไฟแล้ว * * * * * มื้อเช้ามื้อแรกในบ้านรชต ลลิตรารู้สึกเหมือนตื่นมาในโรงแรม มีอาหารเช้าหลากหลายให้เลือก แถมยังมีแม่บ้านคอยปรนนิบัติชนิดไม่ให้ได้กระดิกตัว ดื่มน้ำพร่องไปสักหน่อย กาแฟลดน้อยลงไปสักนิด ก็มีแม่บ้านปราดเข้ามาเติมให้ทุกที หญิงสาววัย 23-24 อย่างเธอขัดเขินและทำตัวไม่ค่อยจะถูก แต่ลินดากลับสงบนิ่งและดูกลมกลืนราวกับที่ตรงนี้เป็นของเธอมาตั้งแต่ต้น ลินดาสวยสง่าและมีบุคลิกเยือกเย็นสมกับที่เคยเป็นรองนางสาวไทย หากมองผ่านๆใครก็บอกว่าลลิตราสวยเหมือนแม่ แต่ถ้าได้รู้จัก ทุกคนก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านิสัยใจคอของหญิงสาวนั้นไม่เหมือนแม่เอาเสียเลย "เป็นยังไงบ้างหนูลูกอม อาหารเช้าบ้านลุงพอจะกินได้ไหม" อรรถเอ่ยถามอย่างใส่ใจ เด็กสาวคราวลูกพยักหน้ายิ้ม ๆ "อร่อยมากเลยค่ะ ว่าแต่กับข้าวจะเยอะแยะอย่างนี้ทุกเช้าเลยหรือคะ" ลลิตราถามซื่อ ๆ อรรถหัวเราะ "เปล่าหรอก ปกติแม่ครัวเขาก็จะทำตามที่ลุงสั่ง บางวันลุงอยากกินข้าวต้ม บางวันลุงอยากกินอเมริกาเบร็กฟัสต์ ถ้าหนูอยากกินอะไรวันไหนก็สั่งแม่บ้านเขาได้ เขาทำได้ทุกอย่าง" "ขอบคุณมากนะคะ" ลลิตาเอ่ยอีกครั้ง ดูเหมือนตั้งแต่แม่ของเธอได้เจอกับอรรถ เธอก็เอ่ยคำว่าขอบคุณเป็นล้าน ๆ ครั้งแล้ว ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้ ตอนนี้เธอกับแม่ก็คงยังอยู่บ้านเช่าหลังเดิม และเธอก็อาจจะต้องออกไปวิ่งหางานทำเพื่อให้มีเงินเพียงพอมาให้ใช้จ่ายในบ้านรวมถึงจ่ายค่ายารักษาอาการซึมเศร้าของแม่ด้วย "อรุณสวัสดิ์ครับพ่อ อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่เลี้ยง" เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังของใครบางคนดังมาก่อนตัว แต่ลลิตราก็แทบจะอิ่มทันที ผู้ชายคนนี้เสียงนุ่มหล่อ หน้าตาก็ยิ่งหล่อเหลา แต่ไม่รู้ทำไมแค่เขาปรากฏตัวเธอก็รู้สึกได้ถึงมลพิษในอากาศ "ขอกาแฟกับไข่ดาวให้ฉันที" อธิปหันไปสั่ง เด็กสาวแม่บ้านรีบรับคำแล้วหายวับไปในครัว อรรถมองลูกชายด้วยดวงตาแจ่มใส "วันนี้แกตื่นเช้ามากินข้าวกับพ่อ คงจะเป็นวันดี ๆ ของพ่อสินะ" "ก็คงไม่ทุกวันหรอกฮะ วันนี้แค่อยากทำความรู้จักคุณแม่คนใหม่ เมื่อวานขอโทษทีที่ผมทำหยาบคายไปหน่อย" ลินดาฝืนยิ้ม ลลิตราเองก็ไม่ได้โง่ ฟังดูก็รู้ว่านายคนนี้ไม่ได้จริงใจเลยสักนิด อรรถก็ย่อมรู้จักลูกชายตัวเองดี แต่เขาแกล้งไม่รู้... อาจเพราะในใจยังหวัง ว่าอธิปจะยอมรับสมาชิกใหม่ของบ้านได้อย่างเต็มใจ ลลิตราเขี่ยอาหารในจาน วันนี้เธอมีนัดกินข้าวกลางวันกับใครคนหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง กำลังคิดว่าจะมีรถเมล์ผ่านแถวนี้ไหม... ก็รู้สึกเหมือนมีสายตาของใครจ้องมอง เงยหน้าขึ้นก็สบสายตาแรงกล้าของอธิปพอดี... ดวงตาสีฟ้าอมเทาเข้มเปล่งประกายเหมือนจะสะกดให้ลืมหายใจ "นี่...ฉันเคยเจอเธอมาก่อนหรือเปล่า" จู่ ๆ อธิปก็ถามขึ้นพลางจ้องหน้าลลิตราอย่างจริงจัง อรรถเลิกคิ้ว ลินดาก็เงยหน้าขึ้นทันทีเช่นกัน หญิงสาวที่อ่อนวัยที่สุดในโต๊ะส่งเสียงฮึเบา ๆ "จำได้แล้วเหรอ...คะ""ไม่! ฉันคบกับพี่ต้นแล้ว นายจะมาทำแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว!" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด "ใครอีกล่ะ คราวนี้เธอให้ใครมาเล่นละครอีก" "ครั้งนี้ไม่ใช่ คราวก่อนฉันยอมรับว่าฉันโกหกนาย แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แล้ว" "งั้นเหรอ งั้นคราวนี้มันเป็นใครล่ะ" เขาถามอย่างอดทน ทั้งที่อยากกดเธอลงบนเตียงเต็มทีแล้ว ลลิตราขยุ้มคอเสื้อแน่นโดยอัตโนมัติ ราวกับว่าแค่สายตาของเขาก็จะทำให้เสื้อผ้าเธอหลุดรุ่ยล่อนจ้อนได้ "เขาเป็นรุ่นพี่ของฉันสมัยเรียน ฉันเคยชอบเขามาก่อนแต่ตอนนั้นเราเด็กเกินไปเลยไม่ได้คบกัน ฉันเพิ่งกลับไปเจอพี่ต้นที่ตราด...ใช่ฉันเพิ่งไปเที่ยวทะเลที่ตราดมา โรงแรมนั่นเป็นของพี่ต้น และฉันกับเขาก็...ตกลงเป็นแฟนกัน" อธิปหัวเราะพรืดทั้งที่แววตาไม่ขำด้วยสักนิด ก็เธอเล่นบอกเขาเหมือนท่องเตรียมมาแล้ว "เลิกตั้งแง่ใส่กันเถอะนะลูกอม เราทั้งคู่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกยังไงกัน โชติรสไม่ใช่ปัญหาเลย โชก็อยากถอนหมั้นพอ ๆ กับฉันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้เพราะ..." อธิปหยุดไปเล็กน้อย ถอนหายใจ เขาสัญญากับโชติรสว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ "เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ ที่ฉันกับโชยังไม่ถอนหมั้นเพราะมัน
"อาร์ต เมื่อไหร่แม่จะได้รู้จักคู่หมั้นของลูกล่ะ"ออเดรย์ถามขึ้นมาระหว่างที่มือกำลังหั่นสเต๊ก ลลิตราทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามนั้น กินอาหารของเธอไปตามปกติแม้จะรู้สึกว่าสายตาของอธิปพุ่งตรงมาที่ตัวเองก็ตามอธิปแทบไม่ชะงักเลยเหมือนกันตอนที่ตอบ"ไม่จำเป็นหรอก เพราะอีกไม่นานผมกับเขาก็จะถอนหมั้นกัน"คราวนี้นายอรรถเงยหน้ามองทันที แม้แต่ลินดาก็ยังอดหันมาด้วยไม่ได้"หมายความว่ายังไง อาร์ต""ตามนั้นแหละครับ"อธิปตอบ ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างใจเย็น และเมื่อเห็นว่าพ่อยังคงจ้องเขาอยู่ เขาจึงขยายความ"ยังไม่เป็นทางการหรอกนะครับพ่อ และยังไม่ได้บอกใคร แต่ผมกับโช เราตกลงกันแล้วว่าถ้าผ่านเรื่องยุ่ง ๆ ไปสักระยะ เราค่อยถอนหมั้นกันเงียบ ๆ""เหตุผล?""เหตุผลก็คือ ผมกับโชไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก เราแค่หมั้นกันด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่วันหนึ่งเมื่อทุกอย่างคลึ่คลาย เราก็จะคืนอิสรภาพให้กัน""ตอนลูกมาขอให้พ่อไปสู่ขอเขา ลูกไม่ได้พูดแบบนี้นี่"อรรถอดตำหนิไม่ได้ อาจเพราะเขาเห็นว่าบนโต๊ะนี้ก็มีแต่คนกันเองจึงเผลอพูดออกมา"ผมทราบ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว...เอาเป็นว่าผมกับโชเราคิดตรงกัน ผมไม่ได้ทำร้ายใจเธอ ถ้าพ่อคิดว่าผม
ลลิตรากลับจากตราดพร้อมของฝากเกินสองมือจะถือได้ไหว เมื่อรถแท็กซี่มาจอด คมสันต์ต้องวิ่งลงมาช่วยหิ้วด้วยหลายถุง เธอยอมรับกับตัวเองว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน คงไม่สามารถจับจ่ายอะไรได้มือเติบแบบนี้"ฉันซื้อขนมของกินมาฝาก เดี๋ยวคมสันต์แบ่งไปได้เลยนะจ๊ะ"ลลิตราบอก รปภ. หนุ่มรุ่นน้อง คมสันต์ตะเบ๊ะแข็งขัน"ครับผม ขอบคุณครับ""แม่อยู่บ้านใช่ไหมจ๊ะ"เธอถามทั้งที่ก็รู้ว่าลินดาคงไม่ได้มีธุระที่ไหน แม่ของลลิตราไม่ใช่คนชอบเที่ยว แม้อรรถจะคะยั้นคะยอให้ออกไปใช้เงินบ้างแต่ลินดาก็พอใจจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่บ้าน และเดี๋ยวนี้หล่อนกลับมาถักไหมพรมอีกครั้งอย่างที่จิตแพทย์เคยแนะนำ เวลาเดียวที่ลินดาจะออกไปห้างสรรพสินค้าก็คือตอนที่จะไปซื้อไหมพรมเซ็ตใหม่ ๆ นั่นแหละ"ครับผม คุณผู้ชายก็อยู่ครับ""คุณอรรถอยู่บ้านงั้นหรือ"ลลิตราแปลกใจเพราะนี่ไม่ใช่วันหยุด ปกติอรรถยังไม่กลับจากบริษัทเลยไม่ใช่หรือ คมสันต์รีบอธิบายต่อ"ตอนแรกมีแขกมาหาคุณผู้หญิงครับ แล้วสักพักคุณผู้ชายก็รีบกลับมา""แขก? มาหาแม่เหรอ""ครับ มาหาคุณลินดาครับ คุณผู้ชายโทรบอกผมเองว่าให้เข้าไปได้"คมสันต์รีบบอกเพราะกลัวจะโดนตำหนิว่าปล่อยคนแปลกหน้าเข้าบ้านโดยพลการลลิต
เดินทางมาถึงตอนที่ 109 แล้ว สำหรับเรื่องพาล แต่ตลอดร้อยกว่าตอนมานี้ ไรต์ยังไม่เคยได้อ่านคอมเมนต์นักอ่านเลยนะเชื่อปะ เป็นไปได้ว่าไม่มีใครอ่าน ๕๕ และยอดวิวก็คงเป็นของไรต์เองนี่แหละที่คลิกเข้ามาอ่านนิยายตัวเองไรต์จะพยายามเขียนให้จบ ถึงมีคนอ่านแค่คนเดียวก็ตาม (แต่อาจช้าหน่อยเพราะต้องไปหาค่าน้ำค่าไฟด้วย) ถ้าได้เจอกันในภายภาคหน้า ฝากนิยายของไรต์ด้วยเช่นเคยนะคะ ขอบคุณค่ะ แวมไพร์ปีกดำ(ลีขิตา).
"พี่ต้น!""ลูกอมจริง ๆ ด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลย"ตระการยิ้มกว้าง ดวงตาสีดำส่องประกายสดใสอย่างคนที่ดีใจและคาดไม่ถึง ลลิตราจำเขาได้แทบจะทันทีเพราะแม้ผู้ชายที่เธอเห็นตรงหน้าตอนนี้จะไม่ใช่เด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูงใส่แว่นเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่แววตาและรอยยิ้มแบบนี้ก็มีแค่ตระการคนเดียว"โอ้โห กี่ปีแล้วนี่ที่ไม่ได้เจอกัน พี่แทบจะจำลูกอมไม่ได้เลย""ก็ตั้งแต่พี่ต้นจบม.หกไงคะ แล้วก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย"ลลิตราตอบยิ้ม ๆ ตระการคือรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมฯ เคยติวหนังสือให้เธอและกลุ่มเพื่อนจนกระทั่งเขาเรียนจบออกไป"ลูกอมมาเที่ยวเหรอ แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน""มาเที่ยวค่ะ กับอุ๋มไง พี่ต้นจำอุ๋มได้ไหม อมาวสี..."ดวงตาของตระการกว้างขึ้นอีกรอบ พยักหน้าหงึก ๆ ดูเหมือนความทรงจำของชายหนุ่มเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนขาสั้น ยังแจ่มชัดดีทุกรายละเอียด จำได้กระทั่งชื่อเล่นและความแก่นแก้วของแต่ละคนที่เป็นไปตามวัย"แต่อุ๋มของีบก่อนเพราะเพิ่งมาถึงเมื่อเที่ยงนี้เองค่ะ นี่ลูกอมโชคดีจังเลยที่ลงมาเดินเล่น ไม่งั้นคงไม่ได้เจอพี่ต้น พี่ต้นก็มาเที่ยวหรือเปล่าคะ แล้วจะกลับวันไหน พักที่นี่ใช่ไหม...""ก็ไม่เชิงหรอกครับ บ้านพี่ห่าง
แม้อาหารมื้อนั้นจะผ่านไปด้วยดีตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมายี่สิบกว่าปี แต่อธิปกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก อรรถก็คงไม่ต่างกัน สองพ่อลูกกลับมาบ้านแล้วก็แยกกันเข้าห้องส่วนตัวโดยไม่คุยอะไรกันอีกเลยเกี่ยวกับผู้หญิงที่เกี่ยวพันกับคนทั้งคู่คนนั้นแต่อธิปอยากลงไปเจอลลิตรา เขาส่งข้อความไปหาเธอว่าขอลงไปหาเธอได้ไหม เจอกันที่สนามหญ้าก็ได้ถ้าเธอไม่สะดวกให้เขาเข้าไปหาในบ้าน- ฉันไม่ได้อยู่บ้าน ออกมาอยู่บ้านเพื่อน -หญิงสาวพิมพ์ตอบกลับมาอธิปห้ามใจตัวเองไม่ไหว ต้องพิมพ์บอกไปว่า- คิดถึง -- ไปบอกคู่หมั้นนายเถอะ -เธอพิมพ์ตอบมารวดเร็วเช่นกันเพราะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง จึงไม่รู้ว่าเธอประชด หรือจริงจัง อธิปกดโทรหาเธอแทนที่จะส่งเป็นข้อความกลับไป"โทรมาทำไม ฉันไม่สะดวกคุยนะ"หญิงสาวกดรับสายทันทีและเปิดฉากพูดก่อนโดยไม่รอให้เขาทัก"ก็อยากได้ยินเสียงไง""อย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก ฉันขอร้อง มันไม่เหมาะสม""ระหว่างฉันกับเธอยังมีอะไรไม่เหมาะสมอีกหรือ"เขาตั้งใจจะยั่วหยอกเธอเล่น ๆ แต่ลลิตราตอบกลับมาน้ำเสียงกรุ่นโกรธ"พอทีเถอะคุณอธิป ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว""แบบไหน""ก็แบบที่..."เขาได้ยินเสียงห







