Share

ตอน 2 แผล

last update Last Updated: 2025-06-14 16:32:37

อธิปพูดสวนขึ้นมา สีหน้าเย่อหยิ่ง

"และก็ไม่คิดจะมีแม่เลี้ยงคนใหม่ด้วย มีแค่น้านุชเป็นแม่คนเดียวก็พอ"

ลินดาหน้าซีดทันตา อรรถหน้าเครียด

"เจ้าอาร์ต! ขอโทษน้าลินดาเดี๋ยวนี้!"

"ขอโทษทำไมครับ ถ้าเมียใหม่พ่อกล้าพอจะแย่งพ่อมาจากน้านุช คำพูดผมแค่นี้ก็ไม่น่าจะทำอะไรเขาได้นะ"

"ไอ้ลูกเวรนี่ ถ้าแกจะมาทำให้เสียบรรยากาศ ก็ไปซะ จะไปไหนก็ไป"

อรรถตัวสั่น เขาไม่เคยดุด่าลูกชายมากไปกว่านี้ แม้จะโกรธจัดอย่างตอนนี้เขาก็ทำได้แค่ชี้มือชี้ไม้ไล่ลูกชายออกไปไกล ๆ

แต่อธิปไม่คิดจะไปไหนทั้งนั้น เขาแค่ผิวปากหวือ คำนับให้ลินดาอย่างล้อเลียน โยนกุญแจรถให้คนรถที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่อีกด้านแล้วก็เดินเข้าตัวบ้านไปไม่ใส่ใจใครอีก ไม่แม้แต่จะมองหญิงสาวคนที่เขาเคยขับรถเฉี่ยวเมื่อไม่กี่วันก่อน...หากเขาจะจำได้

"ลินดา ผมเสียใจ"

อรรถรีบหันมาบอกภรรยาคนใหม่ ลินดาส่ายหน้ายิ้ม ๆ ทั้งที่หน้ายังไร้สีเลือด

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ ไม่ต้องไปดุลูกชายคุณนะคะ ไม่อย่างนั้นเขาจะยิ่งไม่ชอบหน้าฉันกับลูก"

อรรถกัดฟันหันมามองหญิงสาวคราวลูกที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ สีหน้ารู้สึกผิด ลลิตราไม่โทษพ่อเลี้ยงของเธอหรอก พวกเขาอยู่กันมาก่อน เธอกับแม่ต่างหากที่มาทีหลัง

* * * * *

ในห้องนอนที่แสนกว้างขวาง ตกแต่งอย่างทันสมัยแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น กลิ่นหอมจากเทียนอโรมาลอยฟุ้งชวนให้ผ่อนคลายสมกับที่แม่บ้านว่าไว้

หลังอาบน้ำสระผมแล้วเปลี่ยนมาสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสบายตัว ลลิตราก็ทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงกว้างที่หอมสะอาด ผ้าปูตึงแน่นรับสรีระอย่างพอดี แผลที่ข้อศอกและหัวเข่าก็ล้างทำความสะอาดและปิดพลาสเตอร์ยา ไม่ต้องปิดผ้าพันแผลผืนใหญ่แล้ว โชคดีที่แผลไม่ได้ลึกและใส่ยาฆ่าเชื้อได้ทัน ส่วนวินมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ได้บาดเจ็บมากนักเพราะใส่หมวกกันน็อก

เธอจ้องเพดานสีครีม มันแตกต่างจากเพดานบ้านเช่าราคาถูกที่เธอเพิ่งจากมา... ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะได้มีโอกาสอยู่ในคฤหาสน์หรู เหมือนในหนังที่แม่ของเธอเคยแสดงเมื่อครั้งยังสาว ๆ

แต่แทนที่จะได้ปลาบปลื้มชื่นชมกับความหรูหราสะดวกสบายรอบตัว ใบหน้าของใครบางคนกลับลอยขึ้นมาแทน

"นี่เราต้องอยู่ร่วมบ้านกับคนพรรค์นั้นจริง ๆ น่ะเหรอ คนอะไรนิสัยต่ำทราม อย่างกับลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน"

หญิงสาวก่นด่าอยู่คนเดียวในห้อง... รู้ว่าไม่เป็นธรรมกับบุพการีของเขาเลย เพราะเท่าที่เธอเห็น คุณลุงอรรถเป็นผู้ชายที่ใจดี อารมณ์ดี ให้เกียรติและจริงใจกับแม่ของเธออย่างแท้จริง

'แม่เลี้ยงของผมมีแค่น้านุช คนที่พ่อทิ้งได้หน้าตาเฉยเพื่อมาแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้'

นี่ก็อีกเรื่องที่ทำให้ลลิตราไม่สบายใจอยู่ลึก ๆ

แม้อรรถจะยืนยันว่าจีรานุชยินดีเซ็นใบหย่าด้วยความเต็มใจ เพื่อหลีกทางให้เขาแต่งงานใหม่กับแม่ของลลิตรา นั่นเท่ากับว่าแม่ของเธอเป็นภรรยาคนที่สามของอรรถ เพราะก่อนจะแต่งกับคุณจีรานุช อรรถก็มีภรรยาคนแรก... แม่ของนายอธิปนั่นไงล่ะ

ลลิตรารู้แค่นั้น รู้ว่าพ่อเลี้ยงแต่งงานมาแล้วสองครั้ง และมีลูกชายกับภรรยาทั้งสองคน

คนแรกคืออธิป คนที่สองชื่อว่าโอม อายุน้อยกว่าเธอ แต่เธอยังไม่เคยเจอเขา

อรรถบอกว่าลูกชายที่ชื่อโอมเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง และขอย้ายออกไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยเพราะอยากใช้ชีวิตใกล้ชิดกับเพื่อน ๆ

'นายโอมเป็นเด็กดี นิสัยอ่อนโยนเหมือนแม่ของเขา ลุงคิดว่าถ้าได้เจอกันลูกอมน่าจะเข้ากับน้องได้'

พ่อเลี้ยงของเธอเคยบอก และลลิตราก็หวังเอาไว้อย่างนั้น ถ้ามีคนอย่างนายอธิปพร้อมกันถึงสองคน บ้านนี้ก็คงจะลุกเป็นไฟแล้ว

* * * * *

มื้อเช้ามื้อแรกในบ้านรชต

ลลิตรารู้สึกเหมือนตื่นมาในโรงแรม มีอาหารเช้าหลากหลายให้เลือก แถมยังมีแม่บ้านคอยปรนนิบัติชนิดไม่ให้ได้กระดิกตัว ดื่มน้ำพร่องไปสักหน่อย กาแฟลดน้อยลงไปสักนิด ก็มีแม่บ้านปราดเข้ามาเติมให้ทุกที

หญิงสาววัย 23-24 อย่างเธอขัดเขินและทำตัวไม่ค่อยจะถูก แต่ลินดากลับสงบนิ่งและดูกลมกลืนราวกับที่ตรงนี้เป็นของเธอมาตั้งแต่ต้น ลินดาสวยสง่าและมีบุคลิกเยือกเย็นสมกับที่เคยเป็นรองนางสาวไทย

หากมองผ่านๆใครก็บอกว่าลลิตราสวยเหมือนแม่ แต่ถ้าได้รู้จัก ทุกคนก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านิสัยใจคอของหญิงสาวนั้นไม่เหมือนแม่เอาเสียเลย

"เป็นยังไงบ้างหนูลูกอม อาหารเช้าบ้านลุงพอจะกินได้ไหม"

อรรถเอ่ยถามอย่างใส่ใจ เด็กสาวคราวลูกพยักหน้ายิ้ม ๆ

"อร่อยมากเลยค่ะ ว่าแต่กับข้าวจะเยอะแยะอย่างนี้ทุกเช้าเลยหรือคะ"

ลลิตราถามซื่อ ๆ อรรถหัวเราะ

"เปล่าหรอก ปกติแม่ครัวเขาก็จะทำตามที่ลุงสั่ง บางวันลุงอยากกินข้าวต้ม บางวันลุงอยากกินอเมริกาเบร็กฟัสต์ ถ้าหนูอยากกินอะไรวันไหนก็สั่งแม่บ้านเขาได้ เขาทำได้ทุกอย่าง"

"ขอบคุณมากนะคะ"

ลลิตาเอ่ยอีกครั้ง ดูเหมือนตั้งแต่แม่ของเธอได้เจอกับอรรถ เธอก็เอ่ยคำว่าขอบคุณเป็นล้าน ๆ ครั้งแล้ว

ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้ ตอนนี้เธอกับแม่ก็คงยังอยู่บ้านเช่าหลังเดิม และเธอก็อาจจะต้องออกไปวิ่งหางานทำเพื่อให้มีเงินเพียงพอมาให้ใช้จ่ายในบ้านรวมถึงจ่ายค่ายารักษาอาการซึมเศร้าของแม่ด้วย

"อรุณสวัสดิ์ครับพ่อ อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่เลี้ยง"

เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังของใครบางคนดังมาก่อนตัว แต่ลลิตราก็แทบจะอิ่มทันที ผู้ชายคนนี้เสียงนุ่มหล่อ หน้าตาก็ยิ่งหล่อเหลา แต่ไม่รู้ทำไมแค่เขาปรากฏตัวเธอก็รู้สึกได้ถึงมลพิษในอากาศ

"ขอกาแฟกับไข่ดาวให้ฉันที"

อธิปหันไปสั่ง เด็กสาวแม่บ้านรีบรับคำแล้วหายวับไปในครัว

อรรถมองลูกชายด้วยดวงตาแจ่มใส

"วันนี้แกตื่นเช้ามากินข้าวกับพ่อ คงจะเป็นวันดี ๆ ของพ่อสินะ"

"ก็คงไม่ทุกวันหรอกฮะ วันนี้แค่อยากทำความรู้จักคุณแม่คนใหม่ เมื่อวานขอโทษทีที่ผมทำหยาบคายไปหน่อย"

ลินดาฝืนยิ้ม ลลิตราเองก็ไม่ได้โง่ ฟังดูก็รู้ว่านายคนนี้ไม่ได้จริงใจเลยสักนิด

อรรถก็ย่อมรู้จักลูกชายตัวเองดี แต่เขาแกล้งไม่รู้... อาจเพราะในใจยังหวัง ว่าอธิปจะยอมรับสมาชิกใหม่ของบ้านได้อย่างเต็มใจ

ลลิตราเขี่ยอาหารในจาน วันนี้เธอมีนัดกินข้าวกลางวันกับใครคนหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง กำลังคิดว่าจะมีรถเมล์ผ่านแถวนี้ไหม... ก็รู้สึกเหมือนมีสายตาของใครจ้องมอง

เงยหน้าขึ้นก็สบสายตาแรงกล้าของอธิปพอดี... ดวงตาสีฟ้าอมเทาเข้มเปล่งประกายเหมือนจะสะกดให้ลืมหายใจ

"นี่...ฉันเคยเจอเธอมาก่อนหรือเปล่า"

จู่ ๆ อธิปก็ถามขึ้นพลางจ้องหน้าลลิตราอย่างจริงจัง

อรรถเลิกคิ้ว ลินดาก็เงยหน้าขึ้นทันทีเช่นกัน

หญิงสาวที่อ่อนวัยที่สุดในโต๊ะส่งเสียงฮึเบา ๆ

"จำได้แล้วเหรอ...คะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 47 รักษาสัญญา

    "นายก็ไม่ได้ดีไปกว่าแฟนเก่าฉันหรอก เห็นแก่ตัวเหมือนกัน คิดเข้าข้างตัวเองเหมือนกัน และก็...ตอแยฉันไม่เลิกเหมือนกัน""ฉันไม่ได้..."อธิปนึกอยากจะเถียง แต่จำนนด้วยหลักฐาน เขายอมปล่อยมือออกจากเอวบางอย่างเสียดายแต่ยังไม่ยอมก้าวห่างไปไหน "ฉันไม่เหมือนแฟนเก่าเธอ เพราะฉันยังไม่มีพันธะอะไรกับใคร""คุณโชติรสได้ยินแบบนี้เธอคงยิ้มดีใจสินะ""ฉันกับโช เราไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น"อธิปแก้ตัว แล้วเขาก็รู้สึกรังเกียจตัวเองขึ้นมานิดๆ ทันทียังไม่นับว่าตอนนี้ลลิตราก็มองมาด้วยความรู้สึกเดียวกัน...เขามันทุเรศจริงๆ"ช่างฉันเถอะ ฉันมาคุยเรื่องของเรา...อย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยรู้สึกกับฉันเลยสักครั้ง..."อธิปยังดื้อดึง ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากคนตรงหน้ารวดเร็วจนเธอผงะหนีแทบไม่ทัน"เธอรู้สึก ฉันดูออก... ไม่ต้องอายหรอกเพราะฉันก็รู้สึก ฉันแทบบ้าที่รู้ว่าเธออยู่ใกล้แค่นี้แต่ทำอะไรไม่ได้...และฉันไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป เธอ...ลูกอม...แฟนเก่าเธอมันแต่งงานไปแล้ว แต่ฉันยังว่าง ฉันให้เธอได้ทุกอย่างขอแค่เธอ..."อธิปละไว้ในฐานที่เข้าใจ ลลิตราแค่นหัวเราะ "นายนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ""แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะ เยส หรือ โน""แป

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 46 แววตาที่ว่างเปล่า

    "ก็ฉันไม่คิดว่าจะเป็นนายนี่!"ลลิตราเถียง มือยกจับคอเสื้อโดยอัตโนมัติ นึกโล่งอกที่ยังสวมเสื้อชั้นใน และเสื้อนอนผ้าฝ้ายก็ไม่ได้บางจนหมิ่นเหม่"ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วเธอเปิดประตูให้ใคร""เปิดให้น้องโอมมั้ง!" หญิงสาวประชด แต่อธิปกลับสีหน้าจริงจัง"ไม่ต้องมากวน! เธอกำลังรอใคร? ถึงได้รีบเปิดประตูแบบไม่คิดอย่างนั้น""เอ๊ะ! มันเรื่องของฉันนะ นายออกไปได้แล้ว มีอะไรไปคุยกับพรุ่งนี้""แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอตอนนี้ เดี๋ยวนี้""ฉันไม่สะดวก"ลลิตราตอบเสียงแข็ง ตามองออกไปนอกประตู หวังให้น้ำตาลหรือแม้แต่น้ำค้างก็ได้ เดินถือถาดอาหารเข้ามาขัดจังหวะอีกเช่นเคยแต่ท่าทางของเธอทำให้อธิปไม่พอใจเพราะคิดว่าเธอกำลังรอใครอยู่จริงๆ เขายื่นแขนที่ยาวกว่าและมีกำลังมากกว่าปิดประตูใส่หน้าเธอดังโครม แถมยังกดล็อกเสร็จสรรพ"นายอธิป! อย่ามาทำตัวแบบนี้กับฉันนะ!""ทำตัวแบบไหน"อธิปเลิกคิ้ว สีหน้ายียวน แต่แววตาที่เข้มขึ้นบ่งบอกว่าเขาไม่อยู่ในอารมณ์ยั่วล้อมีอะไรบางอย่างในท่าทีนั้นที่ทำให้ลลิตรารู้สึกขึ้นมาว่าวันนี้เขาเอาจริง!ถ้อยคำแรงๆ ที่ตั้งใจจะพูดในตอนแรกจึงถูกกลืนกลับไปทันที หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ทำใจดีสู้เสือ"นาย...ค

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 45 นี่เปิดประตูให้ทุกคนง่ายๆ แบบนี้ตลอดเลยหรือ

    คืนนั้นโชติรสค้างคืนกับอธิปเหมือนเคยแอร์โฮสเตสสาวฉลาดมากพอที่จะรับรู้ได้ว่า แม้ร่างกายของเขาจะยังคงทำงานอย่างเร่าร้อนและมอบความสุขให้เธอล้นปรี่ แต่หัวใจของอธิปไม่ได้อยู่ที่เธอเลยเขาแทบไม่จูบเธอเลยด้วยซ้ำโชติรสรู้สึกเจ็บหน่วงในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และคนที่รักตัวเองมากอย่างเธอไม่อยากเห็นตัวเองเป็นแบบนี้แต่ขออีกสักครั้งก่อนเถอะ ขออยู่กับเขาอีกสักคืน อีกสักวัน แล้วเธอค่อยตัดใจ โชติรสบอกตัวเองแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา* * * * *ลลิตราไม่ได้เจอหน้าอธิปมาหลายวันแล้ว วันแรกๆ เธอยังเผลอหวาดระแวง กลัวว่าจู่ๆ เขาก็จะโผล่มาแบบไม่ให้สุุ้มให้เสียงเหมือนครั้งก่อนๆ แต่เมื่อได้ยินว่าอธิปไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้วจริงๆ เธอจึงค่อยสบายใจขึ้นอย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนสลับหนาวเหมือนคนจะเป็นไข้ในแทบทุกครั้งที่ได้สบตากับดวงตาสีฟ้าคู่นั้นลลิตราค่อนข้างแน่ใจว่าดวงตาของอธิปเป็นสีฟ้าสดใสแบบน้ำทะเลในวันไร้คลื่นลม แต่ไม่รู้ทำไมเธอมักได้เห็นมันกลายเป็นสีฟ้าเข้มเหมือนกลางทะเลลึกทึ่พร้อมจะดูดกลืนเธอลงไปได้่เสมอและที่ทำให้เธอตัวสั่นคือสายตาแบบนั้น ราวกับมีไว้เพื่อจ้องมองเธอเพียงผู้เดียวหญิงสาวค

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 44 เขาก็ไม่ควรจะได้อยู่ในบ้านผมอีก

    "เดี๋ยวชล! ผมอธิบายได้!"จะมีสักกี่ประโยคกันเชียวที่คนเรานึกโพล่งออกมาในสถานการณ์แบบนี้"ไม่ต้องอธิบาย! ถ้าอยากอธิบายค่อยไปพูดต่อหน้าอีนี่ บอกมามันอยู่ที่ไหน!""จะบ้าหรือไงคุณชล จะไปหาเขาทำไม...""ปกป้องมันเหรอ!"ชลธิชาที่อดทนอดกลั้นได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีโผเข้าทุบตีกิตติทัศน์ทันที ชายหนุ่มรีบยกมือปัดป้องเป็นพัลวัน เวลาชลธิชาโกรธ เธอน่ากลัวร้อยเท่า แต่เวลาความโกรธนั้นผสมกับความหึงหวง ก็คูณพันเท่าไปเลย"คุณท้องแก่อยู่นะ! ระวังลูกบ้างสิ""จำได้เหมือนกันเหรอว่ามีเมียมีลูกแล้วนะ! แล้วยังจะกล้ากลับไปหามันอีก เลวๆๆ!!!"หญิงสาวกรีดร้องไม่สนว่ากี่โมงกี่ยาม และยิ่งไม่ห่วงใยว่าจะกระทบกระเทือนลูกในครรภ์ กิตติทัศน์เสียอีกยังรู้สึกกลัวว่าเธอจะทำอะไรรุนแรงจนเป็นอันตรายต่อเด็กในท้อง "ชล! ผมบอกแล้วไงว่าหยุดก่อน! คุยกันก่อน!""ไม่!"ยิ่งห้าม ชลธิชาก็ยิ่งกรีดร้อง กิตติทัศน์กำลังละล้าละลังคิดว่าจะวิ่งหนีออกไปเลยดีหรือไม่ แต่พลันนั้นชลธิชาก็หยุดชะงัก ตาเบิกกว้าง..."ชล..."ชายหนุ่มใจหายวาบ ทำไมจู่ๆ ชลธิชาทำหน้าแบบนั้น เขาเริ่มจะกลัวแล้วนะก่อนที่กิตติทัศน์จะคิดไปเองว่าเมียโดนผีเข้ากะทันหัน ชลธิชาที่หน้าซีดข

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 43 โป๊ะแตก!

    เคยคบหากันมาตั้งหลายปี แต่ลลิตราก็เพิ่งรู้ว่ากิตติทัศน์เป็นคนช่างตื๊อได้ขนาดนี้เขาไม่เพียงหาทางส่งข้อความมาหาเธออยู่เรื่อย ๆ ยังไร้มารยาทถึงขั้นกลับมาที่บ้านรชตเพื่อขอพบเธออีกครั้ง แน่นอนว่าลลิตราไม่ยอมออกไปพบ เธอทั้งไม่สบายใจระคนโมโห จนต้องพิมพ์ไลน์ไปฟ้องเพื่อนในกลุ่มไลน์ที่มีกันอยู่สามคนคือเธอ กันตา และอมาวสีกันตา: เดี๋ยวฉันไปด่ามันให้เองกันตาญาติผู้น้องของกิตติทัศน์พิมพ์ตอบกลับมาพร้อมสติ๊กเกอร์รูปโมโหลูกอม: ไม่ต้องด่าไอ้เกี๊ยว ไม่ต้อง ฉันแค่มาบอกแกเฉยๆ เพราะฉันหงุดหงิดลูกอม: กำลังคิดอยู่ว่าหรือจะยอมไปเจอสักครั้งดี ไปคุยกันให้รู้เรื่องอีกสักที เพราะจะว่าไปตั้งแต่เลิกกันก็ยังไม่เคยคุยกันดีๆ อีกเลยอุ๋ม อมาวสี: แต่ไอ้พี่ติมันแต่งงานไปแล้วนะแก ไปเจอแฟนเก่าที่มีเมียแล้วมันจะดีหรอวะอุ๋ม อมาวสี: งั้นเดี๋ยวฉันสองคนไปด้วยดีไหม ไปคุยให้เด็ดขาดว่าไม่ต้องมายุ่งกันอีก ฉันเดาว่าไอ้พี่ติมันคงอยากจับปลาสองมือ มันคงไม่รู้ว่าแก move on ไปแล้วลลิตราเห็นด้วยกับเพื่อนเธอจึงยอมตอบข้อความของกิตติทัศน์ นัดหมายเขาที่คอมูนิตี้ฮอล์ชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า ตั้งใจจะคุยให้เด็ดขาดว่าไม่ต

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 42 ราแจฮยอน

    ในห้องโดยสารชั้นประหยัด เที่ยวบินจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ชายร่างสูงผิวขาวจัด ผมดำ สวมแว่นตาดำ และสวมสูทเนี้ยบเรียบกริบไม่มีที่ติ ตั้งแต่เข้าขึ้นเครื่องมา โชติรสยังไม่เห็นเขาถอดแว่นกันแดดออกเลย แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะผู้โดยสารบางคนก็มีอาการตาแพ้แสงที่แปลกมากกว่าคือบุคลิกและวิธีการพูดจาของเขาเหมือนผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่เธอคุ้นชินมากกว่า"ขอบใจนะโช ที่มาช่วย"เพื่อนแอร์โฮสเตสด้วยกันเอ่ยกับหญิงสาวเมื่ออยู่ในห้องจัดเตรียมเครื่องดื่ม ปกติโชติรสได้ดูแลลูกค้าในชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาส วันนี้เป็นกรณีพิเศษของเธอ"ไม่เป็นไรหรอก ผู้โดยสารชั้นประหยัดไม่ค่อยรีเควสอะไรหรอก"หญิงสาวเอ่ยขำๆ เพื่อนหัวเราะเบาๆ ด้วย "แต่ผู้ชายคนนั้น ท่าทางหล่อนะ ไม่เห็นถอดแว่นสักที"จู่ๆ เพื่อนก็เอ่ยถึงคนที่โชติรสเพิ่งนึกถึงเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าในบรรดาผู้โดยสารเกือบทั้งลำ เขาก็ยังดูโดดเด่นที่สุด"ถ้าถอดแว่นแล้วอาจจะไม่หล่อก็ได้มั้ง""วุ้ย! ใครจะไปหล่อเท่าคุณอธิปล่ะ จริงปะ"เพื่อนเอ่ยแซว เพราะรู้กันทั่วแล้วว่าโชติรสเป็นคนรักของอธิป รชต ลูกชายเจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทในเครือสยามเจ็ตแอร์ไลน์โชติรสยิ้มนิดๆ พอให้น่าเอ็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status