Home / วาย / พิศวาสลวงบ่วงมาร / บทที่ 2 จอมมารน้อย

Share

บทที่ 2 จอมมารน้อย

Author: Luffy.g
last update Last Updated: 2025-08-19 11:12:13

บทที่ 2 จอมมารน้อย

         “เฟิ่งอวี้” คือชื่อของชายหนุ่มผู้นี้ ในห้วงแห่งสติที่เลือนราง ภาพสุดท้ายที่เขามองเห็นคือใบหน้าอันเย็นชาและสง่างามของปรมาจารย์หลี่ซาน และเขาก็รู้ดีว่าแผนการขั้นแรกของเขานั้น...สำเร็จแล้ว รอยยิ้มบางเบาผุดขึ้นบนใบหน้ายามหลับตาลงอีกครั้ง ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับแตกต่างจากรอยยิ้มที่หลี่ซานได้เห็น มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอำมหิต แผนการอันแยบยลและเลือดเย็นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

         เบื้องหน้าของเฟิ่งอวี้คือหลี่ซาน ปรมาจารย์ผู้เย่อหยิ่งที่ผู้คนต่างเกรงกลัว ทว่าสำหรับเขาแล้ว นั่นเป็นเพียงก้าวแรกสู่การครอบครองสิ่งสูงค่าที่เขาหมายปองมาเนิ่นนาน

         เฟิ่งอวี้ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อน ในวันที่เขาตัดสินใจเดินทางมายังสำนักเมฆาขาว เส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรคมากมาย แต่เขากลับไม่คิดจะย่อท้อ ด้วยเป้าหมายเดียวคือการเข้าใกล้หลี่ซานให้มากที่สุด

         เฟิ่งอวี้ไม่ใช่บุรุษผู้อ่อนแออย่างที่ปรากฏภายนอก เขาเป็นถึงบุตรชายของจอมมารผู้ชั่วร้ายและแกร่งกล้า เขามีความสามารถในการต่อสู้ที่ซ่อนเร้น ความเฉลียวฉลาดที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบได้ และเหนือสิ่งอื่นใดคือจิตใจที่เย็นชาและอำมหิต

         การที่เฟิ่งอวี้ยอมลดตัวลงมาแสดงท่าทีอ่อนแอ บาดเจ็บปางตายนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการที่เขาคิดคำนวณมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาต้องการให้หลี่ซานรับเขาไว้ในสำนัก เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสเข้าใกล้ปรมาจารย์ผู้สูงส่งคนนี้ได้อย่างแนบเนียนที่สุด

         ในวัยเยาว์ เฟิ่งอวี้เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูงดงามและอ่อนแอราวกับหญิงสาว ทำให้เขาตกเป็นเป้าโจมตีของผู้คนอยู่เสมอ ดังนั้นบิดาของเขาจึงพยายามเคี่ยวกรำให้เขากลายเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างที่ไม่อาจมีใครเทียบได้

         เฟิ่งอวี้เห็นความจริงที่ว่าความอ่อนแอคือหนทางสู่ความพินาศ เขาจึงฝึกฝนตนเองมาโดยตลอด เรียนรู้ที่จะซ่อนคมมีดไว้ใต้รอยยิ้ม และความแข็งแกร่งไว้ภายใต้รูปลักษณ์ที่บอบบาง ผู้คนต่างมองว่าเขาเป็นเพียงมารน้อยผู้ไร้เดียงสา ไม่มีพิษภัย แต่แท้จริงแล้วภายในจิตใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและแรงขับดันที่สั่งสมมานาน

         เฟิ่งอวี้ได้ยินกิตติศัพท์ของปรมาจารย์หลี่ซานมานานแสนนาน ชายผู้ที่ผู้คนต่างเทิดทูนบูชา ทว่ากลับไม่เคยแยแสสิ่งใด ชายหนุ่มรู้สึกท้าทายในจิตใจ เขาต้องการพิชิตบุรุษผู้นี้ และทำให้เขาตกอยู่ภายใต้อาณัติของตนเองให้จงได้

         “ในที่สุดข้าก็ได้ก้าวเข้ามาในอาณาเขตของท่านแล้ว ...หลี่ซาน” เฟิ่งอวี้พึมพำกับตัวเองอีกครั้ง รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ดูบริสุทธิ์ราวเทพบุตร มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยชัยชนะอันมืดมิด

         เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่ซานเดินไปที่ห้องพักคนป่วย ดวงตาคมกริบกวาดมองไปทั่วห้องก่อนจะหยุดลงที่ร่างของเฟิ่งอวี้ที่กำลังนอนหลับใหลอย่างสงบ

         หมอประจำสำนักรายงานอาการของชายหนุ่มอย่างละเอียดถี่ถ้วน “เขาเสียเลือดมาก แต่โชคดีที่บาดแผลไม่ลึกถึงกระดูก และพิษในร่างก็ถูกขับออกไปแล้ว คาดว่าภายในไม่กี่วันก็จะฟื้นตัวเป็นปกติ”

         หลี่ซานพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด เขาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง จ้องมองใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเฟิ่งอวี้อย่างพิจารณา หากมองเพียงผิวเผิน ชายหนุ่มผู้นี้ดูราวกับกระต่ายน้อยที่หลงทางเข้ามาในรังหมาป่า ทว่าลึกลงไป หลี่ซานกลับสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ความอ่อนแอที่น่าหลงใหลนั้น เขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร แต่ความรู้สึกประหลาดนี้ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาจากคนตรงหน้าได้เลย

         “เมื่อเขาฟื้น ให้เขามาพบข้า” หลี่ซานออกคำสั่งเสียงเรียบ ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เหล่าลูกศิษย์ด้านในยืนงุนงงอยู่ลำพัง

         หลี่ซานกลับไปยังห้องบำเพ็ญเพียรของตนเอง เขานั่งลงบนแท่นบูชาอีกครั้ง พยายามทำจิตใจให้สงบนิ่ง แต่ภาพของเฟิ่งอวี้กลับยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด รอยยิ้มประหลาดนั้น...มันยังคงกวนใจเขา

         “ไม่เคยมีผู้ใดรบกวนข้าได้ถึงเพียงนี้” หลี่ซานพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาแหบพร่ากว่าปกติเล็กน้อย “เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่...”

         ในขณะที่หลี่ซานกำลังจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดอันชวนสับสนนั้น เฟิ่งอวี้ที่กำลังนอนหลับใหลอย่างสงบ พลันลืมตาขึ้น ดวงตาคู่งามเปล่งประกายคมกริบราวคมมีดที่ซ่อนเร้นภายใต้ความนุ่มนวล เขาได้ยินบทสนทนาทั้งหมดที่หลี่ซานพูด และรู้ดีว่าแผนการของเขาได้ผลยิ่งกว่าที่คาดไว้เสียอีก รอยยิ้มอันอำมหิตปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหลับตาลงอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของศิษย์ผู้ดูแลเดินเข้ามาใกล้

         “หลี่ซาน...ให้เวลาข้าอีกสักหน่อย เพียงไม่นานทุกสิ่งของท่านจะเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว” เฟิ่งอวี้คิดในใจพร้อมวาดฝันถึงจุดมุ่งหมายที่เขารอคอยมานานแสนนาน

         ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้าสำหรับหลี่ซานผู้ไม่เคยรู้สึกกระสับกระส่ายเช่นนี้มาก่อน เขายังคงนั่งบำเพ็ญเพียรจนรุ่งสาง แต่สมาธินั้นกลับไม่นิ่งเท่าที่ควร ภาพของเฟิ่งอวี้ยังคงรบกวนจิตใจเขาอยู่ตลอดเวลา ราวกับมีผีเสื้อนับพันตัวโบยบินอยู่ในช่องท้อง สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ความเยือกเย็นที่เคยโอบล้อมกายและใจของเขามาตลอดหลายสิบปี กำลังถูกรบกวนด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้จักและไม่เคยปรากฏมาก่อน

         เมื่อแสงแรกของอรุณรุ่งสาดส่องเข้ามาในห้อง หลี่ซานก็ลุกขึ้นยืน เขาจำเป็นต้องได้เห็นชายหนุ่มผู้นั้นด้วยตาของตัวเองอีกครั้ง ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างที่ดึงดูดเขาเอาไว้

         หลี่ซานก้าวเท้าเข้าไปยังห้องพักของเฟิ่งอวี้ตามลำพัง เมื่อเข้าไปด้านใน ชายหนุ่มก็พบว่าเฟิ่งอวี้ได้ตื่นขึ้นแล้ว และกำลังนั่งพิงศีรษะกับผนัง ใบหน้ายังคงซีดเซียว แต่ดวงตาคู่นั้นกลับสุกใส เปล่งประกายขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ

         เมื่อเฟิ่งอวี้เห็นหลี่ซาน เขาก็พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงด้วยความยากลำบาก

         หลี่ซานก้าวเข้าไปใกล้ ใบหน้ายังคงเรียบเฉย ทว่าดวงตาที่จับจ้องไปยังคนตรงหน้ากลับฉายแววบางอย่างที่ยากจะเข้าใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 55 ภาพฝันที่ไม่เลือนหาย

    ตอนที่ 55 ภาพฝันที่ไม่เลือนหาย วันเวลาผันผ่านไป เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า หลี่ซานยังคงใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำอันเงียบสงบกลางเทือกเขาสูงใหญ่ ที่ซึ่งเขาปลีกวิเวกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นที่พำนักของความทรงจำและหัวใจที่แตกสลาย ชายหนุ่มนั่งอยู่ริมธารน้ำตกเล็กๆ ภายในถ้ำ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับความเย็นบริสุทธิ์ของอากาศยามเช้า ปล่อยให้สายน้ำที่ไหลรินชะล้างความเจ็บปวดในจิตใจ “เฟิ่งอวี้…” หลี่ซานกระซิบชื่อนั้นแผ่วเบา ราวกับจะเรียกหาชายหนุ่มให้กลับมา ความทรงจำถึงเฟิ่งอวี้ยังคงชัดเจนในใจของหลี่ซาน ราวกับว่าชายหนุ่มยังคงอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา ทุกรอยยิ้ม ทุกสัมผัส ทุกคำพูด ยังคงตรึงอยู่ในห้วงลึกของจิตใจ ภาพของเฟิ่งอวี้ในวันแรกที่พบกัน ความโหดร้าย ความเจ้าเล่ห์ รวมถึงวันที่เขาพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ และวันที่เขาจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ภาพเหล่านี้ผุดขึ้นมาในความคิดของหลี่ซานไม่เคยว่างเว้น เขาหวนนึกถึงวันที่เขาโอบกอดร่างของเฟิ่งอวี้ที่ไร้วิญญาณไว้แน่น ก่อนจะจากสำนักเมฆาขาวมา ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 54 ความสูญเสีย

    ตอนที่ 54 ความสูญเสีย หลี่ซานโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเฟิ่งอวี้ไว้แน่น เสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วบริเวณ เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความรู้สึกผิดบาปและความสูญเสียถาโถมเข้าใส่เขาอย่างรุนแรง เขาได้สูญเสียคนที่เขารักไปแล้วจริงๆ แม้ว่าเฟิ่งอวี้จะเป็นมารร้าย แต่ในช่วงเวลาสุดท้าย ชายหนุ่มกลับแสดงความรักที่บริสุทธิ์และจริงใจให้เขาเห็น เสิ่นหยวนและหลันเฟิงยืนนิ่งอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจและสับสน พวกเขาไม่คิดว่าเหตุการณ์จะลงเอยเช่นนี้ พวกเขาตั้งใจจะกำจัดมารร้าย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้พรากชีวิตของคนที่อาจารย์ของพวกเขารักไปแล้ว “อาจารย์…” เสิ่นหยวนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หลี่ซานเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นหยวน ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยน้ำตาและความเจ็บปวด “เจ้า…เจ้าทำอะไรลงไป!” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตัดพ้อและความสิ้นหวัง เสิ่นหยวนรู้สึกผิดอย่างแสนสาหัส เขาไม่เคยเห็นอาจารย์ของเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน “ข้า…ข้าไม่คิดว่า…” หลันเฟิงเดินเข้ามาใกล้ เขาคุกเข่าลงข้างๆ หลี่ซาน “อาจารย์…พวกเราเพียงต้องการปกป้องท่าน…”

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 53 ความจริงที่ไม่อาจทนรับ

    ตอนที่ 53 ความจริงที่ไม่อาจทนรับ ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน แม้ด้านนอกของเรือนพักจะเกิดการปะทะอย่างรุนแรง แต่เพราะม่านมนต์ที่หลี่ซานร่ายครอบคลุมเรือนเอาไว้ ทำให้เขามิอาจได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกแม้แต่น้อย หลี่ซานยังคงนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างรู้สึกกระสับกระส่าย ความรู้สึกไม่สบายใจเกาะกินจิตใจของเขาอย่างบอกไม่ถูก ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ลางสังหรณ์อันเฉียบคมของเขา ทำให้เขารู้สึกได้ถึงพลังปราณที่รุนแรงผิดปกติกำลังปะทุขึ้นในบริเวณเรือนพักของเขา หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สัญชาตญาณทำให้เขาต้องรีบก้าวออกมาจากเรือนพักด้วยความเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงก้าวเท้าออกมาจากเรือนพัก ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทำให้หลี่ซานถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด เขามองเห็นเสิ่นหยวน ศิษย์เอกของเขากำลังปลดปล่อยพลังปราณสีขาวบริสุทธิ์อันรุนแรงมหาศาลพุ่งเข้าใส่เฟิ่งอวี้อย่างจัง ร่างของเฟิ่งอวี้ที่นั่งนิ่งรับปราณนั้นอย่างไร้การป้องกันตนเอง ดวงตาหลับพริ้มราวกับกำลังรอคอยความตายที่กำลังจะมาถึง “หยุดเดี๋ยวนี้!” หลี่ซานตะ

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 52 ความจริงเปิดเผย

    ตอนที่ 52 ความจริงเปิดเผย ในขณะที่หลี่ซานกำลังพยายามข่มใจให้แข็งแกร่ง และยอมปล่อยมือจากเฟิ่งอวี้เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย อีกด้านหนึ่งของสำนักเมฆาขาว เสิ่นหยวนและหลันเฟิง ศิษย์เอกทั้งสองที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงสำนักเมฆาขาว หลังจากที่ออกเดินทางไปประชุมและเยี่ยมเยียนสำนักต่างๆ ตามเทียบเชิญที่ได้รับมานานเกือบปีก็กำลังเผชิญหน้ากับความจริงอันน่าตกตะลึง “หลงจู ระหว่างที่พวกข้าไม่อยู่ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในสำนักหรือไม่” เสิ่นหยวนถามออกมาด้วยน้ำเสียงขึงขัง ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบๆ สำนักอย่างนึกหวาดระแวง เขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณบางอย่างที่แปลกไปจากเดิม พลังปราณที่แฝงกลิ่นอายของมาร แม้จะเจือจางลงไปมากก็ตาม มันทำให้เขาอดนึกระแวดระวังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากที่เคยมีประสบการณ์ตรงในการต่อสู้กับเฟิ่งอวี้เมื่อหลายปีก่อน หลงจูรีบเข้ามารายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ตั้งแต่การมาถึงของเฟิ่งอวี้ ศิษย์คนใหม่ผู้มีพรสวรรค์ การที่เฟิ่งอวี้สามารถเข้าใกล้หลี่ซานได้อย่างผิดปกติ และเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน รวมถึงการบาดเจ็บของเฟิ่งอวี้โดยไม่ทราบสาเ

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 51 จำนน

    ตอนที่ 51 จำนน เช้าวันต่อมา หลี่ซานได้รับจดหมายจากเสิ่นหยวนและหลันเฟิงอีกครั้ง พวกเขาทั้งสองกำลังเดินทางกลับสำนักเมฆาขาว พร้อมกับรายงานเรื่องเบาะแสของเฟิ่งอวี้ที่ถูกพบในบริเวณใกล้สำนัก พวกเขาหมายมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะกำจัดเฟิ่งอวี้ให้สำเร็จให้จงได้ “เฟิ่งอวี้ เจ้าไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว หากเสิ่นหยวนและหลันเฟิงกลับมาพบเจ้า ชะตาของเจ้าคงจบสิ้นเป็นแน่” หลี่ซานพ้อออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและจนใจ เขารู้ดีว่าเวลานี้ร่างกายของเฟิ่งอวี้นั้นไม่อาจต้านทานกำลังของศิษย์ทั้งสองได้ และในขณะเดียวกันเขาก็มิอาจลุกขึ้นมาปกป้องชายหนุ่มได้เช่นเดียวกัน ภาระและหน้าที่ที่มีต่อสำนักและยุทธภพทำให้เขามิอาจเลือกเส้นทางได้ตามอำเภอใจ และทางเดียวที่จะปกป้องเฟิ่งอวี้ได้ นั่นคือการยอมปล่อยมือเฟิ่งอวี้ให้จากไปอย่างไม่หวนกลับ บ่ายวันนั้น ขณะที่แสงตะวันเริ่มคล้อยต่ำ หลี่ซานและเฟิ่งอวี้ยืนเผชิญหน้ากันในห้องโถงที่เงียบสงบ หลี่ซานตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเป็นไปได้นี้ แม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม ชายหนุ่มพยายามรวบรวมความเข้มแข็งทั้งหมดที่มี เพื่อกล่าวคำที่บาดลึกหัวใจของตนเอง

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 50 ใจอ่อน

    ตอนที่ 50 ใจอ่อน คืนหนึ่งหลี่ซานนั่งอ่านตำราอยู่ในห้องอย่างเงียบๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา เฟิ่งอวี้เดินเข้ามา เขายังคงซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายดี แต่ดวงตาของเขากลับเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น “หลี่ซาน ข้าทำขนมมาให้ท่าน” เฟิ่งอวี้ยื่นจานขนมเล็กๆ ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นมาให้ หลี่ซานรับมาโดยไม่พูดอะไร เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากจานขนมที่เฟิ่งอวี้ถือมา “หลี่ซาน…ข้าขออยู่เป็นเพื่อนท่านได้หรือไม่” เฟิ่งอวี้กล่าวเสียงแผ่วเบา พลางนั่งลงบนพื้นข้างๆ หลี่ซานอย่างเงียบๆ เขาไม่ได้พยายามสัมผัสกาย ไม่ได้พยายามพูดจาออดอ้อน เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ หลี่ซานอ่านตำราต่อไป แต่ในใจของเขากลับไม่สงบเหมือนเคย เขาเหลือบมองเฟิ่งอวี้เป็นระยะๆ เห็นชายหนุ่มนั่งนิ่ง ดวงตาจับจ้องไปที่ตำราที่เขาอ่านราวกับกำลังสนใจอย่างแท้จริง เวลาผ่านไปช้าๆ ความเงียบในห้องไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิดแต่กลับอบอุ่นอย่างประหลาด เฟิ่งอวี้รู้สึกว่าความแข็งกระด้างในใจของหลี่ซานกำลังอ่อนลงทีละน้อย เขาไม่อาจรู้ว่าหลี่ซานจะใจอ่อนอีกนานเท่าใด แต่ในเวลานี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status