Home / วาย / พิศวาสลวงบ่วงมาร / บทที่ 1 ผู้มาเยือน

Share

พิศวาสลวงบ่วงมาร
พิศวาสลวงบ่วงมาร
Author: Luffy.g

บทที่ 1 ผู้มาเยือน

Author: Luffy.g
last update Last Updated: 2025-08-19 11:11:55

บทที่ 1 ผู้มาเยือน

         บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า ใจกลางป่าสนโบราณที่ปกคลุมด้วยม่านหมอกเยือกเย็นตลอดทั้งสี่ฤดู ปรากฏที่ตั้งสูงตระหง่านนั่นคือ สำนักเมฆาขาว สถานที่ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแหล่งรวมสรรพวิชาลึกล้ำ และเป็นที่พำนักของ ปรมาจารย์หลี่ซาน ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดั่งเทพเซียนมีชีวิต ความรู้ของเขาลึกซึ้ง หยั่งถึงศาสตร์เร้นลับแห่งฟ้าดินจนมิอาจมีผู้ใดเทียบเทียม

         ทว่าความสามารถอันเป็นเลิศนั้นกลับถูกห่อหุ้มไว้ด้วยบุคลิกที่เยือกเย็นดุจหิมะ ใจแข็งกระด้างราวศิลา ยะเยือกจนผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้ แม้แต่ลูกศิษย์ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยรับใช้อยู่รายล้อมยังคงต้องรักษาระยะห่าง ไม่อาจก้าวล่วงเข้าไปในอาณาเขตส่วนตัวของเขาได้ ไม่เคยมีผู้ใดได้สัมผัสถึงความอ่อนโยน หรือแม้แต่รอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกสลักเสลาอย่างสมบูรณ์แบบนั้น

         หลี่ซานคือปรมาจารย์ผู้โดดเดี่ยวที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของหุบเขาแห่งความรู้และความเกรียงไกร มีเพียงลมหายใจเข้าออกที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพียงรูปปั้นหินสลักที่งดงามไร้ความรู้สึก

         ค่ำคืนหนึ่งซึ่งจันทร์เต็มดวงสาดส่องลงมาต้องยอดไม้จนเกิดเงาทมิฬยามลมพัดกรู สำนักเมฆาขาวที่มักเงียบสงัดดุจป่าช้า กลับถูกรบกวนด้วยเสียงเคาะประตูที่เบาแผ่ว

         หลี่ซานผู้ซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าแท่นบูชา หินอ่อนสีดำขลับสะท้อนแสงเทียนริบหรี่ บำเพ็ญเพียรในยามวิกาล คิ้วเรียวโก่งงามขมวดเข้าหากันเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบดุจเหยี่ยวมองผ่านม่านหมอกที่ลอยต่ำออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มีจังหวะที่อ่อนระโหยโรยแรงลงไปอีก ราวกับผู้มาเยือนกำลังจะขาดใจ

         “ผู้ใดบังอาจมารบกวนยามวิกาล” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นแผ่วเบา หากแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่ทำให้มวลอากาศรอบกายหนาวเย็นยะเยือก

         พลังปราณอันทรงพลังแผ่ซ่านออกมารอบกาย ทำให้ลูกศิษย์ผู้เฝ้าประตูที่กำลังขนลุก พวกเขารีบก้มศีรษะลงแสดงความเคารพต่อเงาร่างสูงสง่าที่ก้าวเข้ามาใกล้

         หลี่ซานลุกขึ้นยืนช้าๆ ร่างสูงสง่าในชุดผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์ราวหิมะขยับเพียงเล็กน้อยยามก้าวเดินอย่างมั่นคง ไร้ซึ่งความกังวลหรือหวาดระแวงแม้แต่น้อยในแววตาที่สงบนิ่ง เขาก้าวเท้าออกไปช้าๆ ตรงไปยังประตูไม้เนื้อแข็งบานใหญ่ที่สลักลวดลายเมฆมงคลโบราณ

         เมื่อประตูไม้บานหนาหนักถูกผลักออกช้าๆ เผยให้เห็นด้านนอกที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะโปรยปราย สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับทำให้แม้แต่ปรมาจารย์ผู้เยือกเย็นดุจน้ำแข็งยังชะงักงันไปชั่วขณะ ดวงตาคมกริบเบิกกว้างขึ้นเพียงน้อยนิด ก่อนจะหรี่ลงพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด

         ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งล้มฟุบอยู่บนธรณีประตู เสื้อผ้าที่สวมใส่ขาดรุ่งริ่งจนเห็นเนื้อใน เปื้อนดินโคลนและเลือดตามร่างกายจนแยกไม่ออกว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง เส้นผมสีดำขลับที่เคยถูกรวบอย่างเป็นระเบียบกลับยุ่งเหยิงพันกันเป็นปม ใบหน้าซีดขาวจนแทบไร้สี ริมฝีปากแห้งผากแตกเป็นรอย ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังฝืนเปิดมองโลกที่พร่าเลือนเบื้องหน้า แต่สิ่งที่ทำให้หลี่ซานรู้สึกแปลกประหลาดอย่างถึงที่สุดคือ... รอยยิ้มจางๆ ที่ประดับอยู่บนริมฝีปากซีดเผือดนั้น มันเป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยน บอบบาง ราวกับดอกไม้แรกแย้มที่กำลังจะเหี่ยวเฉาเพราะพิษหนาว

         บางสิ่งที่ดึงดูดสายตาของหลี่ซานให้จ้องมองโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีมนตร์สะกดลึกลับที่ยากจะต้านทาน

         “คารวะ...ท่านปรมาจารย์หลี่ซาน...” เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาแผ่วเบา ราวกับใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อเปล่งคำพูดเหล่านั้น ก่อนที่ร่างนั้นจะทรุดลงหมดสติไปในอ้อมแขนของศิษย์ผู้หนึ่งที่รีบเข้าไปประคองด้วยความตกใจ

         หลี่ซานมองร่างที่ไร้สติของชายหนุ่มผู้นั้นนิ่งนาน ดวงตาที่เคยไร้ความรู้สึกกลับฉายแววครุ่นคิดเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันไปออกคำสั่งเสียงเรียบเฉย ทว่าแฝงความหนักแน่น “พาเขาไปรักษา”

         ศิษย์รับคำสั่งด้วยความงุนงง เพราะปรมาจารย์ไม่เคยยื่นมือเข้าช่วยผู้ใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักมาก่อน แต่พวกเขาก็รีบทำตามคำสั่งโดยทันที

         ดวงตาของหลี่ซานยังคงจับจ้องไปที่ร่างที่อ่อนแอและบอบบางที่กำลังถูกพยุงลับหายไปในความมืดมิดของโถงทางเดิน พลันภาพรอยยิ้มจางๆ นั้นก็ย้อนกลับมาฉายชัดในห้วงความคิด รอยยิ้มที่ดูบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ทว่ากลับทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจที่เคยสงบนิ่งราวผืนน้ำในบึงอันเงียบสงัด

         เมื่อกลับเข้ามาในห้องบำเพ็ญเพียร หลี่ซานยังคงนั่งขัดสมาธิในท่าเดิม ทว่าจิตใจกลับไม่สงบดุจเดิม ภาพของชายหนุ่มผู้นั้นยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแปลกประหลาดใจ ความสงบนิ่งที่เคยมีมาตลอดหลายร้อยปีกลับสั่นไหวอย่างไม่น่าเชื่อ

         หลี่ซานหยิบหยกเย็นที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาสัมผัส ความเย็นเยียบของหยกช่วยให้จิตใจสงบลงได้บ้าง แต่มันก็ทำได้เพียงชั่วครู่ เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของชายหนุ่มเมื่อครู่ เสียงที่ดูอ่อนแรง ทว่ากลับเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวและความดื้อรั้นยังคงก้องอยู่ในโสตประสาท

         หลี่ซานไม่เคยสนใจโลกภายนอก ไม่เคยมีสิ่งใดกระทบกระเทือนจิตใจอันมั่นคงของเขาได้ แต่ชายหนุ่มผู้นั้น... เขากลับทิ้งบางสิ่งไว้ในจิตใต้สำนึกของเขาอย่างไม่อาจห้ามได้

         หลายชั่วยามผ่านไป ภายในห้องพักที่มักถูกใช้เพื่อรักษาศิษย์ที่บาดเจ็บจากการฝึกวิชา ร่างของชายหนุ่มผู้นั้นนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม้ พลังปราณบริสุทธิ์ถูกถ่ายเทเข้าร่างโดยหมอประจำสำนักเพื่อขับพิษและรักษาบาดแผลภายนอก

         เมื่อบาดแผลถูกชำระล้างจนสะอาด เผยให้เห็นผิวพรรณที่ขาวละเอียดราวหยกน้ำดี แม้จะผอมซูบไปบ้างจากการอดอยาก แต่เค้าโครงใบหน้านั้นกลับงดงามเกินกว่าบุรุษเพศทั่วไป เส้นผมสีดำขลับที่สยายออกคลอเคลียใบหน้า ทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูอ่อนโยนและน่าทะนุถนอมยิ่งนัก แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาอาบไล้เรือนร่าง ทำให้เขาดูราวกับเทพเซียนที่ร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์ สั่นสะเทือนจิตใจของผู้ที่พบเห็น

         ทันใดนั้นเอง ดวงตาที่หลับพริ้มมานานก็ค่อยๆ เปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นนัยน์ตาสีเทาหม่นที่ดูลึกลับแต่ชวนให้หลงใหลในคราเดียวกัน ริมฝีปากซีดเผือดขยับเล็กน้อย พึมพำชื่อหนึ่งออกมาเบาๆ “ท่านปรมาจารย์...หลี่ซาน...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 55 ภาพฝันที่ไม่เลือนหาย

    ตอนที่ 55 ภาพฝันที่ไม่เลือนหาย วันเวลาผันผ่านไป เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า หลี่ซานยังคงใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำอันเงียบสงบกลางเทือกเขาสูงใหญ่ ที่ซึ่งเขาปลีกวิเวกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นที่พำนักของความทรงจำและหัวใจที่แตกสลาย ชายหนุ่มนั่งอยู่ริมธารน้ำตกเล็กๆ ภายในถ้ำ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับความเย็นบริสุทธิ์ของอากาศยามเช้า ปล่อยให้สายน้ำที่ไหลรินชะล้างความเจ็บปวดในจิตใจ “เฟิ่งอวี้…” หลี่ซานกระซิบชื่อนั้นแผ่วเบา ราวกับจะเรียกหาชายหนุ่มให้กลับมา ความทรงจำถึงเฟิ่งอวี้ยังคงชัดเจนในใจของหลี่ซาน ราวกับว่าชายหนุ่มยังคงอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา ทุกรอยยิ้ม ทุกสัมผัส ทุกคำพูด ยังคงตรึงอยู่ในห้วงลึกของจิตใจ ภาพของเฟิ่งอวี้ในวันแรกที่พบกัน ความโหดร้าย ความเจ้าเล่ห์ รวมถึงวันที่เขาพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ และวันที่เขาจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ภาพเหล่านี้ผุดขึ้นมาในความคิดของหลี่ซานไม่เคยว่างเว้น เขาหวนนึกถึงวันที่เขาโอบกอดร่างของเฟิ่งอวี้ที่ไร้วิญญาณไว้แน่น ก่อนจะจากสำนักเมฆาขาวมา ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 54 ความสูญเสีย

    ตอนที่ 54 ความสูญเสีย หลี่ซานโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเฟิ่งอวี้ไว้แน่น เสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วบริเวณ เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความรู้สึกผิดบาปและความสูญเสียถาโถมเข้าใส่เขาอย่างรุนแรง เขาได้สูญเสียคนที่เขารักไปแล้วจริงๆ แม้ว่าเฟิ่งอวี้จะเป็นมารร้าย แต่ในช่วงเวลาสุดท้าย ชายหนุ่มกลับแสดงความรักที่บริสุทธิ์และจริงใจให้เขาเห็น เสิ่นหยวนและหลันเฟิงยืนนิ่งอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจและสับสน พวกเขาไม่คิดว่าเหตุการณ์จะลงเอยเช่นนี้ พวกเขาตั้งใจจะกำจัดมารร้าย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้พรากชีวิตของคนที่อาจารย์ของพวกเขารักไปแล้ว “อาจารย์…” เสิ่นหยวนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หลี่ซานเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นหยวน ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยน้ำตาและความเจ็บปวด “เจ้า…เจ้าทำอะไรลงไป!” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตัดพ้อและความสิ้นหวัง เสิ่นหยวนรู้สึกผิดอย่างแสนสาหัส เขาไม่เคยเห็นอาจารย์ของเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน “ข้า…ข้าไม่คิดว่า…” หลันเฟิงเดินเข้ามาใกล้ เขาคุกเข่าลงข้างๆ หลี่ซาน “อาจารย์…พวกเราเพียงต้องการปกป้องท่าน…”

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 53 ความจริงที่ไม่อาจทนรับ

    ตอนที่ 53 ความจริงที่ไม่อาจทนรับ ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน แม้ด้านนอกของเรือนพักจะเกิดการปะทะอย่างรุนแรง แต่เพราะม่านมนต์ที่หลี่ซานร่ายครอบคลุมเรือนเอาไว้ ทำให้เขามิอาจได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกแม้แต่น้อย หลี่ซานยังคงนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างรู้สึกกระสับกระส่าย ความรู้สึกไม่สบายใจเกาะกินจิตใจของเขาอย่างบอกไม่ถูก ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ลางสังหรณ์อันเฉียบคมของเขา ทำให้เขารู้สึกได้ถึงพลังปราณที่รุนแรงผิดปกติกำลังปะทุขึ้นในบริเวณเรือนพักของเขา หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สัญชาตญาณทำให้เขาต้องรีบก้าวออกมาจากเรือนพักด้วยความเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงก้าวเท้าออกมาจากเรือนพัก ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทำให้หลี่ซานถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด เขามองเห็นเสิ่นหยวน ศิษย์เอกของเขากำลังปลดปล่อยพลังปราณสีขาวบริสุทธิ์อันรุนแรงมหาศาลพุ่งเข้าใส่เฟิ่งอวี้อย่างจัง ร่างของเฟิ่งอวี้ที่นั่งนิ่งรับปราณนั้นอย่างไร้การป้องกันตนเอง ดวงตาหลับพริ้มราวกับกำลังรอคอยความตายที่กำลังจะมาถึง “หยุดเดี๋ยวนี้!” หลี่ซานตะ

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 52 ความจริงเปิดเผย

    ตอนที่ 52 ความจริงเปิดเผย ในขณะที่หลี่ซานกำลังพยายามข่มใจให้แข็งแกร่ง และยอมปล่อยมือจากเฟิ่งอวี้เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย อีกด้านหนึ่งของสำนักเมฆาขาว เสิ่นหยวนและหลันเฟิง ศิษย์เอกทั้งสองที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงสำนักเมฆาขาว หลังจากที่ออกเดินทางไปประชุมและเยี่ยมเยียนสำนักต่างๆ ตามเทียบเชิญที่ได้รับมานานเกือบปีก็กำลังเผชิญหน้ากับความจริงอันน่าตกตะลึง “หลงจู ระหว่างที่พวกข้าไม่อยู่ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในสำนักหรือไม่” เสิ่นหยวนถามออกมาด้วยน้ำเสียงขึงขัง ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบๆ สำนักอย่างนึกหวาดระแวง เขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณบางอย่างที่แปลกไปจากเดิม พลังปราณที่แฝงกลิ่นอายของมาร แม้จะเจือจางลงไปมากก็ตาม มันทำให้เขาอดนึกระแวดระวังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากที่เคยมีประสบการณ์ตรงในการต่อสู้กับเฟิ่งอวี้เมื่อหลายปีก่อน หลงจูรีบเข้ามารายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ตั้งแต่การมาถึงของเฟิ่งอวี้ ศิษย์คนใหม่ผู้มีพรสวรรค์ การที่เฟิ่งอวี้สามารถเข้าใกล้หลี่ซานได้อย่างผิดปกติ และเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน รวมถึงการบาดเจ็บของเฟิ่งอวี้โดยไม่ทราบสาเ

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 51 จำนน

    ตอนที่ 51 จำนน เช้าวันต่อมา หลี่ซานได้รับจดหมายจากเสิ่นหยวนและหลันเฟิงอีกครั้ง พวกเขาทั้งสองกำลังเดินทางกลับสำนักเมฆาขาว พร้อมกับรายงานเรื่องเบาะแสของเฟิ่งอวี้ที่ถูกพบในบริเวณใกล้สำนัก พวกเขาหมายมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะกำจัดเฟิ่งอวี้ให้สำเร็จให้จงได้ “เฟิ่งอวี้ เจ้าไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว หากเสิ่นหยวนและหลันเฟิงกลับมาพบเจ้า ชะตาของเจ้าคงจบสิ้นเป็นแน่” หลี่ซานพ้อออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและจนใจ เขารู้ดีว่าเวลานี้ร่างกายของเฟิ่งอวี้นั้นไม่อาจต้านทานกำลังของศิษย์ทั้งสองได้ และในขณะเดียวกันเขาก็มิอาจลุกขึ้นมาปกป้องชายหนุ่มได้เช่นเดียวกัน ภาระและหน้าที่ที่มีต่อสำนักและยุทธภพทำให้เขามิอาจเลือกเส้นทางได้ตามอำเภอใจ และทางเดียวที่จะปกป้องเฟิ่งอวี้ได้ นั่นคือการยอมปล่อยมือเฟิ่งอวี้ให้จากไปอย่างไม่หวนกลับ บ่ายวันนั้น ขณะที่แสงตะวันเริ่มคล้อยต่ำ หลี่ซานและเฟิ่งอวี้ยืนเผชิญหน้ากันในห้องโถงที่เงียบสงบ หลี่ซานตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเป็นไปได้นี้ แม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม ชายหนุ่มพยายามรวบรวมความเข้มแข็งทั้งหมดที่มี เพื่อกล่าวคำที่บาดลึกหัวใจของตนเอง

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 50 ใจอ่อน

    ตอนที่ 50 ใจอ่อน คืนหนึ่งหลี่ซานนั่งอ่านตำราอยู่ในห้องอย่างเงียบๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา เฟิ่งอวี้เดินเข้ามา เขายังคงซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายดี แต่ดวงตาของเขากลับเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น “หลี่ซาน ข้าทำขนมมาให้ท่าน” เฟิ่งอวี้ยื่นจานขนมเล็กๆ ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นมาให้ หลี่ซานรับมาโดยไม่พูดอะไร เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากจานขนมที่เฟิ่งอวี้ถือมา “หลี่ซาน…ข้าขออยู่เป็นเพื่อนท่านได้หรือไม่” เฟิ่งอวี้กล่าวเสียงแผ่วเบา พลางนั่งลงบนพื้นข้างๆ หลี่ซานอย่างเงียบๆ เขาไม่ได้พยายามสัมผัสกาย ไม่ได้พยายามพูดจาออดอ้อน เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ หลี่ซานอ่านตำราต่อไป แต่ในใจของเขากลับไม่สงบเหมือนเคย เขาเหลือบมองเฟิ่งอวี้เป็นระยะๆ เห็นชายหนุ่มนั่งนิ่ง ดวงตาจับจ้องไปที่ตำราที่เขาอ่านราวกับกำลังสนใจอย่างแท้จริง เวลาผ่านไปช้าๆ ความเงียบในห้องไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิดแต่กลับอบอุ่นอย่างประหลาด เฟิ่งอวี้รู้สึกว่าความแข็งกระด้างในใจของหลี่ซานกำลังอ่อนลงทีละน้อย เขาไม่อาจรู้ว่าหลี่ซานจะใจอ่อนอีกนานเท่าใด แต่ในเวลานี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status