Share

บทที่ 2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-04 21:15:42

ปึก เสียงแรงเหวี่ยงร่างบางกระทบกับเตียงนอนใหญ่

"โอ๊ย เป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย! " หญิงสาวตะโกนเอ่ยถามออกมาอย่าเก็บความเกลียดชังไม่มิด

"แล้วที่ไปทำแบบนั้นละเป็นบ้าอะไร! " แรนดิ้งค์พูดออกมาด้วยความโมโหอย่างเหลืออด

"นั้นมันก็สิทธิ์ของฉันนายอย่ามายุ่งได้ไหม" เธอก็พูดออกมาเพราะสุดจะทนแล้วเหมือนกัน

"แต่เธอเป็นแฟนฉันนะ จะทำอะไรที่ไหนก็ควรบอกฉันหน่อยสิวะ" ชายหนุ่มก็พยายามที่จะระงับอารมณ์ร้ายๆ ของตัวเองอย่างที่สุด

"หึ จะมาสนใจอะไรเอาปานนี้มันไม่สายเกินไปหน่อยเหรอ" หญิงสาวก็ตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน รู้สึกสมเพชตัวเองที่ทุ่มเทความรักให้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของมัน

"อะไรนักหนาวะ ก็แค่ไลน์บอกโทรบอกอะไรก็ได้ช่วยบอกกันหน่อยไม่ได้หรือไงสถานะแฟนของเราเธอเอามันไปไว้ไหนเหรอ" ชายหนุ่มพึ่งจะมาถามหาอะไรเอาตอนนี้ตอนที่เธอกำลังเลือกที่จะเดินออกไปจากชีวิตของเขา

"เหอะนายละเอามันไปไว้ไหนก่อนจะถามคนอื่นย้อนถามตัวเองก่อนไหม! แค่แฟนไม่ใช่ผัวไม่ต้องอยากมาสะระแนเรื่องคนอื่น! " หญิงสาวตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความอัดอั้นที่อยู่ในใจมานาน

"มันจะมากไปแล้วนะ! ที่เอากันอยู่เกือบทุกเมื่อเชื่อวันนี้ให้ได้แค่แฟนหรอวะ! " ต่างคนต่างสาดอารมณ์ใส่กันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง

"แล้วทีนายไปเอาคนนั้นคนนี้ซึ่งๆ หน้ากันขนาดนี้ฉันไม่เห็นจะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย! แค่สถานะแฟนสำหรับนายที่ฉันให้ไปมันก็มากเกินพอแล้ว! " หญิงสาวพูดอย่างจริงจังวันนี้เธอกับเขาจะต้องตัดความสัมผัสกันให้ขาด

"ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลยสินะ แล้วไง! ไม่รักกันมากกว่ามั้ง ทั้งใจคงมีให้แค่ไอ้ทันสินะ แต่ขอโทษนะไอ้ทันมันมีเมียไปแล้ว! " ด้วยความเก็บกดของชายหนุ่มตั้งแต่สนามแข่งรถยันคอนโดตอนนี้กับได้รับการระบายโทสะลงบ้างนิดหน่อย

"แล้วยังไง นายลองคิดใหม่ดีไหมฉันเคยให้นายไปทั้งใจ ในเมื่อมีมันแล้วไม่เก็บรักษาจะถามหามันทำไมอีก! ในวันที่ทุกอย่างมันกำลังเปลี่ยนไปห้ะ!" หญิงสาวก็เริ่มมีอารมณ์เหวี่ยงขึ้นมาอีกครั้ง

"แต่เธอก็ควรบอกฉันสักนิดสิ ไปไหนทำอะไรกับใครควรบอกกันบ้าง" ชายหนุ่มเริ่มระงับสติอารมณ์ได้เล็กน้อยแต่ก็ยังเคลือบแคล้งใจ

"เหอะจะมาเห็นความสำคัญในวันที่แทบจะไม่เหลือเยื่อใยให้แล้วเนี่ยนะ นายประสาทหรือไง! " เขายิ่งพูดก็เหมือนยิ่งจุดไฟในใจของเธอให้ประทุออกมาแทบจะไม่มีกักเก็บเอาไว้เลย

"เอาเวลาของนายคืนไปเถอะเพราะตอนนี้ไม่มีนายฉันก็อยู่ได้ ถึงจะมีนายอยู่ฉันก็เหมือนอยู่คนเดียวแล้วมันจะต่างอะไรกัน!" เธอระบายออกมาอย่างเหลืออดกับการกระทำของชายหนุ่มที่เหมือนตบหัวแล้วลูบหลังมันยิ่งทำให้เธอสมเพชตัวเองที่ไม่รู้ทนอยู่กับคนแบบนี้มาได้ยังไง

"เธอควรใจเย็นกว่านี้หน่อยสิ" ชายหนุ่มเริ่มอ่อนลงหลังจากที่เกือบปะทุแรงอารมณ์ของตัวเอง

"ใจเย็นเหรอตอนนี้ยังใจเย็นไม่พออีกหรือไง รับไม่ได้ก็เลิกกันไป! " เป็นครั้งแรกที่เธอพูดคำว่าเลิกออกมาเป็นครั้งแรกจริงๆ

สีหน้าตกใจระคนกลัวเริ่มแสดงออกมาจากใบหน้าของชายหนุ่มอย่างเป็นกังวล

"พูดอะไร อ..ออกมารู้ตัวหรือเปล่า" น้ำเสียงสั่นเคืองเล็กน้อยของชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างปิดไม่มิด

"หึ เกิดกลัวขึ้นมาหรือไงชีวิตนายยังมีผู้หญิงรอต่อคิวอีกเพียบแค่เลิกกันคงไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตนายหรอมั้ง!? " หญิงสาวพูดออกมาอย่างคนเย็นชาทำเอาหัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบอย่างคนเริ่มอยู่ไม่สุข

"ไม่สิเราไม่ควรคุยเรื่องนี้" เขารีบเปลี่ยนประเด็นทันที

"งั้นนายก็ออกไปจากชีวิตฉันชะสิต่างคนต่างอยู่ชีวิตใครชีวิตมัน" หญิงสาวยังคงพูดเพื่อการตัดความสัมพันธ์อันไร้ค่านี้ให้มันจบๆ ลงสักที

"รอเธอใจเย็นกว่านี้ค่อยคุยกันดีไหม" ชายหนุ่มยังคงไม่ยอมจะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้แต่เขายังไม่พร้อมคุยเรื่องนี้กับเธอ

"คนอย่างนายนี่มัน..." หญิงสาวชำเลืองตามองหน้าชายหนุ่มเล็กน้อยและไม่พูดอะไรออกมาอีก

"ออกไปได้แล้วฉันจะพักผ่อน" หญิงสาวพูดออกมาด้วยความเหนื่อยล้าจากการแข่งขันยังต้องมาใช้พลังงานในการทะเลาะกันกับชายหนุ่มอีก

"นอนเถอะ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับสาวเท้าขึ้นบนเตียงไม่ยอมออกจากห้องตามที่หญิงสาวกล่าวไล่เขา เธอแค่มองการกระทำของเขาแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมาให้มากความ

ช่วงดึกเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของหญิงสาวทำให้รับรู้ถึงการเข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อย

"เธอพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า" เสียงของชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับกระซับอ้อมแขนกอดเธอเอาไว้แน่นอย่างคนไม่อยากเสียของรักไป

"....."

"ขอโทษ.." คำพูดเบาๆ ที่เปล่งออกมาแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินก็ตามตอนนี้ชายหนุ่มกับหลุดอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง

"ให้โอกาสกันอีกสักครั้งได้ไหม.." ชายหนุ่มยังคงอยากพูดคำนี้ต่อหน้าเธอแต่ก็ทำได้แค่เก็บไว้แล้วกระซิบบอกเบาๆ แม้จะรู้ว่าคนที่เข้าสู่ห้วงนิทราจะไม่ได้ยินก็ตามแต่เขาก็ยังอยากได้โอกาสจากเธออีกสักครั้ง แม้ที่ผ่านมาเขาจะทำตัวแย่แค่ไหนเธอก็ยังไม่เคยพูดคำว่าเลิกออกมาเลยสักครั้งจนวันนี้ วันที่เขาพยายามจูนตัวเองเข้าหาเธอหลังจากนอนคิดทบทวนทั้งวัน

แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นว่าไม่ได้ดังใจเขาไปเสียหมด คนในอ้อมกอดก็ยังคงหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่นมาฟังเลยสักนิด

"ให้โอกาสกันอีกครั้ง อีกแค่ครั้งเดียว..ยังทันอยู่หรือเปล่า" คำพูดแผ่วเบาผ่านน้ำเสียงขอร้องคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดก็ไม่รับรู้ว่าจะได้ยินในสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่าแต่เขาก็ยังอยากจะพูดออกมาสักครั้ง

ช่วงเช้าของวันใหม่

"อื้ออ" เสียงครางงัวเงี่ยเบาๆ ในลำคอของหญิงสาวเนื่องจากความอึดอัดที่เธอได้รับจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม

"ตื่นแล้วเหรอ" น้ำเสียงทุ้มจากคนในอ้อมกอดเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงแหบแห้งที่เหมือนคนยังไม่ได้นอนหรือนอนไม่เต็มอิ่มมากนัก

"ออกไป.." หลังจากที่ได้ยินเสียงของชานหนุ่มของคนที่รัก เธอไม่รอช้าที่จะเอ่ยปากไล่เขาทันทีแบบไม่ต้องคิดสิ่งใดให้เจ็บปวดในใจเหมือนที่เคยผ่านมา

"ไม่ขอกอดอีกสักพักนะ อย่าไล่ได้ไหม" คำพูดของไอซ์แลนด์กลับทำให้เขากอดเธอแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม

"ฉันอึดอัด" เธอบอกออกมาแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับหรือตอบกลับใดๆ ให้ได้ยินเลยได้แต่นอนให้เขากอด

"..."

"แรนดิ้งค์ฉันอึดอัด" หญิงสาวยังคงพูดออกมาอีกครั้งแต่ก็ไร้เสียงตอบรับของเขาอีกเช่นเคย

"..."

"เดียวเราค่อยคุยกันได้ไหม" แรนดิ้งค์พูดออกมาเพราะเขาคิดมาทั้งคืน วันนี้เขาต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง

"เรามีอะไรต้องคุยกันอีกงั้นเหรอทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไปช้าๆ จนมันเกินจะเยียวยาแล้วและฉันคิดทบทวนดูแล้วว่าเราควร ละ..." 'เลิกกัน' เธอยังไม่ทันได้พูดออกมาก็ถูกคัดจังหวะการพูดของเขาที่แทรกขึ้นมาเสียก่อน

"ไม่! และฉันก็คิดแล้วเหมือนกันว่าฉันควรคุยกับเธอให้รู้เรื่องแต่เดียวค่อยคุยกันได้ไหม ได้ไหม!?" น้ำเสียงที่เขาพูดออกมามันไม่ใช่ประโยคคำสั่งแต่เป็นเหมือนคำขอร้องมากกว่า

"อื้ม" เธอตอบรับออกไปเบาๆ เพื่อรอคุยกับเขาให้เคลียร์แลัวจบกันไปด้วยดีพอเวลาผ่านไปสักพักกลับมีเพื่อลมหายใจสม่ำเสมอของคนที่นอนกอดเธออยู่

"แรนดิ้งค์? นายหลับหรอ" เธอเรียกเขาพร้อมกับกล่าวถามออกมาแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับของคนที่กอดเธออยู่มีเพียงลมหายใจที่สม่ำเสมอที่หายใจรดต้นคอของเธอเท่านั้น เมื่อไม่ได้รับเสียงตอบรับเธอก็ไม่กล่าวถามอะไรอีก และพยายามแกะมือของชายหนุ่มออก

"อย่าไป.." น้ำเสียงละเมอของชายหนุ่มหยุดมือของหญิงสาวที่กำลังพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออกต้องหยุดชะงักลง

"อย่าไปจากฉัน..ขอร้อง" เสียงละเมอของชายหนุ่มยังคงพูดออกมาอีกครั้งหญิงสาวก็ได้แค่รับฟังและยังคงมึนงงกับอาการละเมอของชายหนุ่ม

"ละเมอถึงใครอีกเนี่ย!?" เธอพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะได้ยินคำพูดที่ละเมอของเขาออกมาอีกครั้ง

"ไอซ์..อย่าไป!" หญิงสาวถึงกับตัวแข็งค้างกับการที่ชายหนุ่มละเมอชื่อของเธอออกมา

"..." ชายหนุ่มรีบลืมตาขึ้นมาทันทีก่อนจะกระซับกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม

"ขอบคุณ ขอบคุณที่เธอยังไม่ไปไหน" เขารีบพูดขึ้นมาทันทีที่ตกใจลืมตามองแผ่นหลังของเธออย่างคนที่เริ่มแสดงความรู้สึกที่ไม่เคยได้เห็นบ่อยนัก

"อื้ม" เธอตอบรับเขาเบาๆ ก่อนจะเกิดการตั้งคำถามกับตัวเองภายในใจกับการกระทำของชายหนุ่ม

หลังจากที่ทั้งคู่กอดกันอยู่นานจากภายในห้องนอน ก็ทำการเปลี่ยนที่มานั่งลงบนโซฟาภายในห้องเพื่อที่จะทำการพูดคุยกันให้รู้เรื่องคนหนึ่งต้องการตัดส่วนอีกคนต้องการรั้งไม่รู้ว่าการหันหน้าคุยกันจะส่งผลให้ทุกอย่างดูย่ำแย่หรือว่าดีกว่าเดิมแต่ทั้งคู่ก็เลือกที่จะคุยกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้จะมีการทะเลาะกันแต่มันก็ไม่ถึงขั้นที่รุนแรงหรือทำร้ายร่างกายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

"เรามาปรับความเข้าใจกันก่อนสักหน่อยดีไหม" แรนดิ้งค์เริ่มพูดขึ้นมาก่อนด้วยความกระตือรือร้นที่มากกว่าปกติแถมยังแฝงความกังวลที่อยู่ภายในใจไปด้วย

"ปรับไปก็ไม่เข้าใจหรอกในเมื่อทุกอย่างมันเลยจุดนั้นมาแล้ว จุดที่ความสัมพันธ์ของเราไม่มีใครสามารถอยู่หรือไปต่อได้นายเข้าใจใช่ไหมแรนดิ้งค์" ไอซ์แลนด์พูดออกมาด้วยเหตุผลที่ดูว้าจะเข้าใจง่ายที่สุดระหว่างเราควรพอและจบมันลงตอนนี้หรือความจริงมันควรจบลงไปตั้งนานแล้ว

"ฉันเข้าใจ แต่ช่วยฟังกันอีกหน่อยอยู่ด้วยกันอีกหน่อยไม่ได้เหรอ" ชายหนุ่มอยากจะเข้าไปสวมกอดและฉุดรั้งเธอเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้เพียงแต่เป็นแค่ความคิดและความรู้สึกของเขาเท่านั้นที่ไม่ยอมเอ่ยออกมาจากปากเขาเลย ทำได้เพียงพูดขอร้อง

"นายเข้าใจ !? แล้วที่ขอออกมามันคืออะไรกัน มันไม่ใช่การรั้งให้ฉันอยู่กับนายต่อหรอกเหรอแรนดิ้งค์" หญิงสาวพูดออกมาตามความรู้สึกที่ได้รับฟังคำที่ชายหนุ่มพูดออกมา

"ไม่ มันไม่ใช่การรั้งเธอแต่มันคือการขอร้องเธอใหเอยู่ต่ออีกหน่อยได้ไหม" ชายหนุ่มยังคงถามออกมาเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือทำให้เธออยู่กับเขายังไงเขาไม่มีวิธีรับมือกับคนตรงหน้าที่ตอนนี้พร้อมจะเดินจากไปอย่างไม่หันหลังกลับมามองเขาเลยสักนิด

"นายไม่เคยเข้าใจอะไรเลยสักครั้งจริงๆ สินะแรนดิ้งค์ การที่เราคุยกันนายต้องรับฟังเหตุและผลของอีกฝ่ายไม่ใช่เอาแต่คำพูดของตัวเองเป็นที่ตั้งแบบนี้" ไอซ์แลนด์พยายามมากที่จะคุยด้วยเหตุผลเพื่อที่จะทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้จบลงด้วยดีโดยไม่มีการเกียดชังกันไปมากกว่านี้

"ใครบอกเธอกัน เหตุผลของฉันคือเธอ" ชายหนุ่มรีบท้วงทันทีที่เธอพูดจบเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เพราะตอนนี้เขาพร้อมที่จะให้ใจเธอเพียงคนเดียว

"???" หญิงสาวเงียบไปสักพักก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้า

"ดูเหมือนวันนี้เราจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วละแรนดิ้งค์" ไอซ์แลนด์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"ฉัน... ฉันขอโอกาส" ชายหนุ่มพูดออกมาทันทีแทบจะไม่ต้องคิดอะไร

"โอกาสของนาย นายเคยได้มันไปแล้ว ไม่ใช่เหรอแล้วตอนนี้ยังจะมาขอโอกาสอะไรอีกฉันไม่มีให้หรอกนะ" หญิงสาวพูดออกมาช้าๆ ในเมื่อเขาเคยได้มันไปแล้วและไม่เคยคิดที่จะรักษาโอกาสอันมีค่านั้นไว้เลยแล้วมันจะต่างอะไรกับการให้โอกาสเขาอีกครั้งมันก็คงจะเป็นแบบเดิมไปเรื่อยๆ

"ฉันต้องทำยังไงบอกฉันสิ บอกฉันหน่อย" แรนดิ้งค์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเคืองดวงตากลมโตเริ่มแดงกล่ำ

"ไม่ยากเลยแรนดิ้งค์ นายแค่ปล่อยฉันไปเราแค่เลิกกันทำได้ใช่ไหมถ้าฉันจะขอร้องนายบ้าง" หญิงสาวพูดออกมาด้วยความปวดหนึบในใจแม้ภายนอกจะดูเหมือนไม่สนใจอะไรแต่ภายในใจกลับเจ็บปวดเมื่อเห็นหยดน้ำตาของชายหนุ่มเธอรีบเบี่ยงหน้าไปทางอื่นเพราะกลัวจะใจอ่อนให้กับชายหนุ่ม

"ไม่ฉันทำไม่ได้ฉันไม่ยอม" แรนดิ้งค์รีบพูดขึ้นมาและพยายามที่จะควบคุมเสียงตัวเองให้อยู่ในโทนเสียงที่ดูปกติ

"อยู่ไปก็ไม่มีใครมีความสุขหรอกนะถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้รัก ฉันเข้าใจความรู้สึกนี้ดีช่วยปล่อยฉันไปได้ไหมในเมื่อเราก็ไม่ได้รักกันตั้งแต่แรกนายไม่ได้รักฉันไม่เคยรักแล้วจะขอร้องหรือรั้งไว้ทำไม สักวันนายคงได้เจอคนที่นายอยากใช้ชีวิตคู่ด้วยจริงๆ นายจะเอาฉันไปไว้ตรงไหนเราควรจบตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่ทุกอย่างมันจะแย่ไปมากกว่านี้ นายว่ามันไม่ดีเหรอ" เธอยังคงหาข้อที่เป็นเหตุเป็นผลกับการจากลาครั้งนี้โดยที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บปวดแต่กลับเป็นตัวเธอเองที่พยายามฝืนพูดมันออกมาอย่างเจ็บปวดแทน

"แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เคยรักเธอ ฉันไม่เคยบอกว่าไม่รักเธอเลย มีแต่เธอที่คิดไปคนเดียวและฉันจะไม่ยอมเลิกกับเธอแน่ช่างเหตุผลของเธอสิ" ชายหนุ่มเริ่มระเบิดอารมณ์ความหงุดหงิดออกมาอย่างไม่ยอมรับกับเหตุผลน้ำเน่าของเธอ

"ใช่นายไม่เคยพูดว่าไม่รักฉันนายพูดถูกฉันคิดไปเอง แต่นายก็ไม่เคยที่จะบอกว่ารักฉันเหมือนกันไม่ใช่เหรอ" หญิงสาวรีบพูดท้วงออกมาทันทีเหมือนว่าวันนี้การพูดคุยจะไม่จบลงง่ายๆ อย่างที่เธอคิดเอาไว้

"ฉันไม่อยากเจ็บปวดอีก" เพียงคำพูดสั้นๆ ของหญิงสาวก็ทำให้ชายหนุ่มฉุดคิดได้อีกครั้ง

"เธอจะไม่เจ็บปวดอีกขอแค่เธอยังอยู่ตรงนี้อยู่กับฉัน" ชายหนุ่มรีบพูดขึ้นมาทันที

"ฉันว่าวันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ" เธอพูดออกมาก่อนจะคว้ากระเป๋าบนโต๊ะที่เตรียมไว้เพื่อจะออกไปข้างนอกไปเอารถที่ถูกทิ้งไว้ที่สนามแข่งทั้งคืน แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องหยุดลง

หมับ! ชายหนุ่มรีบคว้าข้อมือของเธอแล้วหมุนตัวเธอกลับเข้ามาสวมกอดเอาไว้แน่น

"อย่าไป...จากฉัน" น้ำเสียงแหบแห้งเพียงเบาๆ ที่ออกมาจากปากชายหนุ่มแต่ก็ทำให้เธอได้ยินมันอย่างชัดเจนเขากลับรั้งเธอในวันที่เธอจะก้าวออกจากชีวิตของเขาแล้วจริงๆ ตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงควรอยู่ต่อหรือเดินออกไปโดยไม่หันหลันกลับมาอีกเลยความสับสนตีฝ่าเส้นเลือดในสมองกระตุกให้ทำงานหนักกว่าเดิม หรือเธอควรจะเอาความรู้สึกเป็นที่ตั้งแทนความคิด
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พิษรักนักแข่ง ToxicLoveRacers   บทที่ 63

    "แล้วรักพี่ไหมครับ" มือสองข้างค่อย ๆ จับขาทั้งสองข้างของหญิงสาวตั้งชันเข่าขึ้นก่อนจะแทรกร่างอันหนาแน่นและซิกแพ็คเป็นลอนสวยลำเอ็นค่อย ๆ เลือนขึ้นลงเพือเปิดทางรักของหญิงสาวก่อนจะกระแทกลงสุดแรง ปึก! ปึก! ปึก! "อืม" ใบหน้าของเธอแทบจะไปไม่เป็นเมื่อโดนแกนกายใหญ่กระแทกกระทั้นรุนแรงกว่าทุกครั้งจนจุกหน่วงห

  • พิษรักนักแข่ง ToxicLoveRacers   บทที่ 62

    พอเธอออกมาจากบ้านก็มุ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อจะไปร้านไอติมพร้อมกับหลานชายตัวน้อย "ถึงแล้วสั่งเลยครับเอาอะไร" ผู้เป็นน้าเอ่ยถามหลานชายก่อนจะได้รับคำตอบออกมา "chocolate chocolate lava" เด็กชายตัวน้อยรีบสั่งออกมาทันทีเมื่อมีพนักงานเข้ามารับเมนู พอผ่านไปไม่นานไอกครีมที่เด็กชายตัวน้อยสั่งก็มาอยู่

  • พิษรักนักแข่ง ToxicLoveRacers   บทที่ 61

    "ค่ะพอทราบแล้วทุกอย่างล้วนเป็นการตัดสินใจของลูกชายของไอซ์เอง" ไอซ์แลนด์พูดออกมาอย่างเป็นกันเองพร้อมกับหันไปมองลูกชายตัวแสบของเธอ "น้องจะเกิดตอนไหนเหรอครับ" น้องแรมโบถามออกมาด้วยความสงสัย "อีกไม่กี่เดือนก็เห็นแล้วหน้าน้องสาวของพี่แล้ว" นาคินเป็นคนตอบแรมโบด้วยใบหน้านิ่งแต่ก็ไม่ได้อะไร "จริงเหรอครับ

  • พิษรักนักแข่ง ToxicLoveRacers   บทที่ 60

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมาผู้ที่ทำการวางแผนทำร้ายและลอบฆ่าชายหนุ่มก็ได้ถูกจับกุมตัวเข้าตารางตลอดชีวิตไปเป็นที่เรียบร้อยเนื่องจากพนักงานคนนี้มีหลายคดีที่ก่อขึ้นและหนีไม่พ้นการถูกจับขังคุกตลอดชีวิต พอไอซ์แลนด์ทราบข่าวว่าคนที่ช่วยสามีของเธอจับกุมบุคคลอันตรายที่คิดจะฆ่าเขาเมื่อห้าปีก่อน ก็รีบโทรไปขอบคุณยกใหญ่พร้

  • พิษรักนักแข่ง ToxicLoveRacers   บทที่ 59

    ปึก!! "อ๊ะ จ..เจ็บอ๊ะ" หญิงสาวเอ่ยออกมาชายหนุ่มก็ยังคงแช่แกนกายของเขาเอาไว้ที่ร่องรักของเธอที่ตอนนี้กับตอดรัดแก่นกายใหญ่ของเขาแน่นแทบจะขยับไม่ได้ "ทนหน่อยอย่าเกร็งนะครับ" ชายหนุ่มพูดออกมาก่อนจะค่อย ๆ ขยับแกนกายของเขาออกช้า ๆ แล้วกระแทกลงไปแรง ๆ สามสี่ครั้งทำให้หญิงสาวกัดฟันร้องครางออกมาอย่างลืมตัว

  • พิษรักนักแข่ง ToxicLoveRacers   บทที่ 58

    "แล้วถ้าบอกว่าใช่ล่ะลูกจะยอมหรือเปล่า" พอน้องแรมโบได้ยินแบบนั้นก็ทำตาโตพร้อมกับมองผู้เป็นพ่อ "ข้อแลกเปลี่ยนคืออะไรเหรอครับปะป๊า" น้องแรมโบพูดออกมาด้วยความที่เป็นเด็กฉลาดมากพอจะเข้าใจสถานะการณ์ของพวกผู้ใหญ่ "แค่พ่อกับลูกไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานของเขาคุณคริส เขาจะจัดการคนร้ายให้เราเพื่อความปลอดภัยข

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status