@ โรงพยาบาล
เช้าวันต่อมา
“ความจริงพี่หมอไม่ต้องลำบากมาส่งชะเอมกับยายก็ได้นะคะ ชะเอมเกรงใจ”
“ไม่เป็นไรเลยครับ พี่ดูแลคุณยายมาหลายปี ยังไงพี่ก็ต้องมาส่ง”
คิริณ หนุ่มหล่อในชุดกาวน์ ผู้เป็นศัลยแพทย์หัวใจและเป็นแพทย์เจ้าของไข้ยายของชะเอมเอ่ยตอบเธอ
“พี่หมอไม่โกรธใช่ไหมคะที่ชะเอมย้ายโรงพยาบาล”
ชะเอมเองก็ลำบากใจไม่น้อย เพราะเขาก็ตรวจรักษายายของเธอมาเป็นเวลาหลายปี
คิริณเป็นแพทย์ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เขาเป็นคนสุภาพและดูแลคนไข้ได้ดีเสมือนญาติ เขาเป็นถึงลูกนักการเมืองในท้องถิ่น หากจะไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนที่มีรายได้สูงกว่านี้ก็คงไม่ยาก แต่พอเรียนจบเขาก็เลือกมาทำงานที่โรงพยาบาลรัฐ ซึ่งขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจ
แต่เธอก็แค่อยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับยาย
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัย ครบครัน และเชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจโดยเฉพาะ อีกทั้งยังเป็นโรงพยาบาลเครือข่ายกับโรงพยาบาลต่างประเทศ โอกาสที่ยายของเธอจะได้รับการผ่าตัดมีเปอร์เซ็นที่สูงกว่า
หลังจากที่คิริณรู้ว่าชะเอมได้ขอทำเรื่องย้ายผู้เป็นยายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ต่อ ก็อาสาช่วยติดต่อประสานงานและมาส่งคนไข้ประจำด้วยตนเอง
“ไม่เลยครับ พี่เข้าใจ”
ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มอย่างละมุนให้หญิงสาว ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้ง คิริณก็ยังทำให้ชะเอมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งสองคนรู้จักกันมาเกือบแปดปี นับตั้งแต่ยายตรวจพบปัญหาสุขภาพ เขาเป็นทั้งหมอของยายและเปรียบเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง และมักจะแวะเวียนซื้อของฝากเข้าไปเยี่ยมยายที่บ้าน
“ให้ยายอยู่ห้องรวมก็ได้นะชะเอม เปลืองเงินเปล่า ๆ ไม่รู้ว่าจะหมดกับค่ารักษาไปอีกเท่าไหร่ ผ่าตัดไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ ยายปลงแล้ว”
ผู้เป็นยายที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วยยื่นมือที่ไร้เรี่ยวแรงมาจับมือหลานสาว เอ่ยกับเธอด้วยเสียงแผ่วเบาที่ยังพอจับใจความได้
“ไม่เป็นไรจ้ะยาย ยายพักรักษาตัวอยู่ที่นี่เถอะนะจ๊ะ เรื่องค่ารักษาไม่ต้องเป็นห่วง”
ชะเอมได้เลือกห้องพิเศษที่มีขนาดเล็กสุด อีกทั้งยังจ้างพยาบาลพิเศษมาช่วยดูแลยายในยามที่เธอไม่อยู่
หญิงสาวคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ดูแล้ว ค่ารักษาตัวก่อนผ่าตัดก็ประมาณสามถึงห้าแสน และทางโรงพยาบาลก็ยังบอกว่าจะรีบติดต่อขอรับหัวใจจากโรงพยาบาลในเครือต่างประเทศ เพื่อให้ยายได้รับการผ่าตัดให้เร็วที่สุด อาจจะได้รับภายในสามเดือนต่อจากนี้
แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะบอกให้เธอลาออกจากงานกลางคืน แต่เธอก็ยังมีงานส่งอาหาร มีงานร้านคาเฟที่สามารถทำได้ในช่วงกลางวัน ไปกินอยู่ในบ้านของเขาก็คงจะมีอาหารให้กินฟรี แต่เธอก็ต้องเสียค่าเช่าบ้านหลังเดิมอยู่เพื่อรอยายกลับมาพักอาศัยเหมือนเดิม
*****
@ บ้านท้ายซอย
หลังจากยายของเธอกินข้าวกินยาและนอนหลับพักผ่อน ชะเอมจึงขอตัวกลับและให้พยาบาลพิเศษดูแลต่อ
“พี่หมอออกเวรมาเหนื่อย ๆ กลับไปพักก่อนเถอะค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไปส่งยายและแวะมาส่งที่บ้าน”
คิริณอาสามาส่งเธอ และทันทีที่ชะเอมเอ่ยขอบคุณเขาก็ยกมือขึ้นปิดปากหาว เพราะเมื่อคืนเข้าเวรดึก พอออกกะเช้ามาก็รีบเข้าไปหาชะเอมกับยายที่กำลังทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล
“ตาพี่จะปิดแล้วครับ พี่ขอเข้าไปงีบในบ้านสักสามสิบนาทีได้ไหม”
“อืม… ก็ได้ค่ะ แต่นอนพักที่โซฟานะคะ”
คิริณมาที่บ้านหลังนี้บ่อยครั้งจนแทบจะเป็นคนในครอบครัวอยู่แล้ว ขืนปล่อยให้กลับไปในสภาพที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน และยังเสียสละเวลาพักผ่อนไปส่งยายที่โรงพยาบาลใหม่ กว่าเขาจะขับรถกลับถึงบ้านก็คงจะเกือบเที่ยง อาจจะเผลอหลับใน ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางได้
เมื่อทั้งสองคนลงจากรถ คิริณก็เข้าไปล้มตัวลงนอนบนโซฟาไม้ที่ถูกปูทับด้วยเบาะผ้าตรงชั้นล่างของบ้าน ชะเอมก็ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีนำหมอนมาให้เขาหนุนนอน และเปิดพัดลมไล่ไอร้อนภายในบ้านให้
“ขอบคุณครับ”
ชะเอมเผยรอยยิ้มตอบ อีกฝ่ายก็คลี่ยิ้มเล็กน้อยก็ปิดเปลือกตาลง เธอจึงขึ้นไปเก็บของบนชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอน
เฮ้อ…
เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมกับมือที่หยิบเสื้อผ้าออกจากตู้ มานั่งพับบนเตียงขนาดสามจุดห้าฟุตทีละผืนด้วยความลำบากใจ
เธอจะต้องตกเป็นของเล่นของผู้ชายที่ชื่อสกายจริง ๆ หรือ ผู้ที่เป็นเจ้าของใบหน้าหล่อออกไปทางยุโรป น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาแต่ละคำมันก็มีพลังอันน่ากลัวบางอย่าง บวกกับสายตาดุดันคู่นั้นยิ่งทำให้เธอหวั่นใจ
เขาแค่อยากนอนกับเธอ หรือว่าจะซื้อตัวเธอไปฆ่าไปแกงกันแน่
ชะเอมเผลอคิดถึงสกายได้ไม่นาน ก็มีเสียงเรียกเข้าจากเบอร์แปลกที่ไม่ได้บันทึกชื่อไว้ในโทรศัพท์ มือเล็กไล่มองตัวเลขทั้งสิบตัวก่อนจะกดรับสาย
“มีความสุขมากสินะที่ได้ปั่นหัวฉันเล่น”
เสียงที่แล่นเข้ามาในสายก็ทำให้เธอเบิกตาโพลง ขนกายลุกชันราวกับเห็นผีที่ล่องลอยอยู่ภายในห้องนอนขนาดเล็ก
ไม่น่าไปนึกถึงเขาเลย แค่คิดก็โทรเข้ามาได้จังหวะพอดี
“คุณเอาเบอร์ฉันมาได้ยังไง”
“คนอย่างฉันอยากได้อะไรก็ต้องได้ แค่หาเบอร์ผู้หญิงคนเดียวมันจะไปยากอะไร”
“...”
ชะเอมได้ฟังก็นิ่งเงียบ เขากำลังทำให้เธอกลัวมากขึ้น เมื่อคืนเขาก็ขู่เธอด้วยปืนที่ซ่อนอยู่ตรงเอว ครั้งนี้ก็หาเบอร์เธอมาจากไหนอีก แล้วเธอไปปั่นหัวเขาเล่นอย่างไร
“ฉันให้เวลาเธอไปจัดการธุระ ไม่ได้ให้เธอไปร่านผู้ชาย”
“มากไปแล้วนะคะ ฉันไปร่านผู้ชายตอนไหน”
น้ำเสียงของเธอเริ่มแข็งกระด้างเมื่อโดนอีกฝ่ายดูถูก ทั้งที่เธอก็ไปจัดการเรื่องยาย และก็เพิ่งจะเข้าบ้านมานั่งเก็บของต่อ
“อย่าลืมเงื่อนไขล่ะ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่น ผ่านไปแค่คืนเดียวเธอก็คิดจะผิดสัญญาแล้วเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ เอ๊ะ นี่คุณสะกดรอยตามฉันเหรอ”
ทำไมมันฟังดูชอบกล เหมือนว่าเขาจะรู้ทุกความเคลื่อนไหว หรือเห็นว่าเธอกำลังอยู่กับใคร
“อย่าให้เห็นอีกว่าเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน ไม่อย่างนั้นมันได้เจอดีแน่”
@ มหาวิทยาลัย1 ปีต่อมาเหล่ารุ่นน้องได้ยืนรายล้อมรุ่นพี่บัณฑิตที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อมกับร้องเพลงบูมกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ท่ามกลางสายตาของคนที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันรับปริญญาชะเอมอยู่ในชุดนักศึกษาที่สวมชุดครุยสีดำทับอีกชั้น ได้ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่ารุ่นน้อง ทั้งร่วมร้องเพลงและขยับร่างกายเป็นจังหวะตามเนื้อเพลงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นเธอก็ไปถ่ายรูปร่วมเฟรมกับเพื่อนรัก ผลัดกันแสดงความยินดี“ดีใจด้วยนะแก”“ยินดีกับแกเหมือนกันนะน้ำหวาน”“เรียนจบแล้วก็อย่าลืมเพื่อนอย่างฉันล่ะ” น้ำหวานทำหน้าหงอยเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเรียนจบแล้วคงจะได้เจอกันน้อยลง ด้วยอายุที่มากขึ้น และต่างคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตนเอง“จะลืมได้ยังไง แกเป็นเพื่อนรักของฉันนะ ฉันยังอยู่กรุงเทพฯ พักที่บ้านพี่สกาย ถ้ามีเวลาก็มาเจอกันบ่อย ๆ นะ”ขณะที่สองสาวกอดกัน ก็มีเสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ ๆ และพอหันไปมองก็พบว่าเป็นธามไท หนุ่มเจ้าของโรงแรมที่พวกเธอไปฝึกงาน“ยินดีด้วยนะครับน้องน้ำหวาน น้องชะเอม”“ขอบคุณนะคะพี่ธามไท ว่าแต่มาแสดงความยินดีกับพวกเราสองคน ทำไมมีดอกไม้แค่ช่อเดียวคะ” ชะเอมเอ่ยทักทายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเ
@ โรงแรมธามไทสกายขับรถมาส่งแฟนสาวด้วยตัวเอง วันนี้เธอต้องฝึกงานเป็นวันแรกในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อโรมแรมของเพื่อน เพื่อขอให้แฟนสาวและเพื่อนรักของเธอมาฝึกงานที่นี่“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วโน้มตัวไปจูบที่แก้มของเขา“ปากด้วยสิครับ”จุ๊บ!“หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวยัยน้ำหวานจะบ่นเอาว่ามาถึงช้า”ที่ช้าก็เพราะถูกเขาจับกินตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งบนเตียง ในห้องน้ำ จนได้อาบน้ำด้วยกัน กว่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วลงมากินมื้อเช้า ก็ทำให้ออกจากบ้านช้ากว่าที่กำหนด“ครับ”สิ้นเสียงขานรับชะเอมก็เปิดประตูลงจากรถ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูอีกฝั่งที่เปิดออก จึงรีบหันไปมองด้วยความสงสัย“พี่สกาย จะลงมาทำไมอีกคะ”“รีบไม่ใช่เหรอครับ เข้าไปข้างในสิ พี่แค่จะเข้าไปส่งเมีย”ชะเอมกระตุกยิ้มพร้อมกับมือที่โดนอีกฝ่ายกอบกุม แล้วพากันเดินเข้าไปในโรงแรมของเพื่อนแฟนหนุ่ม“ชะเอม”ทันทีที่น้ำหวานเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับแฟน ก็โบกมือแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหนุ่มรุ่นพี่ใจดีที่เป็นธุระเรื่องฝึกงานให้เธอกับชะเอม“สวัสดีค่ะพี่สกาย ห
ร่างของหญิงสาวถูกอุ้มคีบเอวขณะที่ริมฝีปากก็บดจูบกันอย่างเร่าร้อน และวางลงข้างโต๊ะสนุกเกอร์ เท้าแตะพื้นโน้มตัวคว่ำหน้านอนบนนั้น แอ่นก้นงามให้เขากระแทกร่องสาวจากทางด้านหลัง“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า... พี่สกาย”เสียงร้องครางดังระงมของทั้งคู่ประสานกันลั่นห้อง เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มกินดุ กินโหด เพราะฉะนั้นน้ำเดียวไม่เคยพอ“อ่า... เมียพี่ตอดดีมาก”“อื้อ จะ จุก ซี้ด...”“พี่ขออีกน้ำนะครับ”ปัก ปัก ปัก!!!คนทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันมอบบทรัก จนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นหลั่งออกมาเป็นครั้งที่สาม สกายก็อุ้มหญิงสาวมานั่งอยู่บนตักตรงโซฟาดังเดิมเพื่อพักให้หายเหนื่อย“ขอบคุณนะคะที่พายายมาอยู่ด้วย”“เราขอบคุณพี่หลายรอบแล้วนะ”เอ่ยพลางยื่นมือหนาเชยปลายคางของหญิงสาวให้เงย ก่อนจะก้มลงไปจูบแผ่วเบา ทำเอาคนโดนจูบคลี่ยิ้มเขิน“ก็พี่แสนดีแบบนี้ไงล่ะคะ ให้ขอบคุณวันละล้านรอบก็ยังตอบแทนไม่หมดเลย”“ไม่ต้องล้านรอบหรอก ตอบแทนเป็นตัวกับหัวใจวันละน้ำสองน้ำก็พอ”“คนบ้า”หญิงสาวคลี่ยิ้มส่งสายตามองค้อนให้คนเจ้าเล่ห์ พูดดีด้วยหน่อยไม่ได้ ต้องวกเข้าเรื่องสิบแปดบวกตลอดทั้งสองต่างจ้องตาและหลุดยิ้มออกมา พักกันพอหายเหนื่อย สกายและชะเอมก็พากันไปยั
@ โรงพยาบาลสามทุ่มของวันนี้ยายของหญิงสาวจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ เมื่อช่วงพลบค่ำได้ตรวจเลือดและสภาพร่างกายโดยรวมแล้วมีความพร้อมทุกอย่างปรียานุชแม่ของสกายได้จัดการติดต่อกับทางโรงพยาบาลทั้งสองแห่งเรื่องการผ่าตัด เพราะหัวใจที่นำออกมาแล้วนั้น จำเป็นต้องนำไปปลูกถ่ายให้กับยายของชะเอมโดยด่วน จะให้มีเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด“เจอกันอีกแล้วนะพ่อหนุ่ม”ผู้เป็นยายเอ่ยทักทายสกายทันทีที่เห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าไปหาในห้องพักผู้ป่วย ทำเอาชะเอมงุนงงว่าไปรู้จักกันตอนไหน เพราะเธอไม่เคยพาแฟนหนุ่มมาเยี่ยมยายเลยสักครั้ง“ยายรู้จักพี่สกายด้วยเหรอคะ”“รู้จักสิ เขาก็เคยมาเยี่ยมยาย”ชะเอมยังไม่อยากคาดคั้นสิ่งที่อยากรู้ในตอนนี้ เลยได้แต่คลี่ยิ้มส่งกำลังใจให้ผู้เป็นยาย สักพักก็มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่เวรเปลมาพายายไปที่ห้องผ่าตัด“หนูจะรออยู่ตรงนี้นะคะ”หญิงสาวที่จับมือของยายมาตลอดทางก็ปล่อยมือออกเพราะเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยไม่ได้ สกายจึงโอบไหล่พาชะเอมไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดผู้เป็นยายเข้าไปได้ไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งออกมาจากลิฟต์ ในมือยังถือกระติกสี่เหลี่ยม เข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็วหัวใจข
@ ทะเลชะเอมถูกแฟนหนุ่มจูงมือเข้าไปยังร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง ทั้งสองเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดดูเมนูเพื่อสั่งอาหาร“พามากินข้าวไกลจังเลยนะคะ”“เราเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกัน พี่เลยอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น”“ขอบคุณนะคะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้กับคนตรงหน้าทั้งสองนั่งรออาหารไม่นานก็มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ หลังจากนั้นสกายก็พาชะเอมไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับชายทะเล เปิดประตูออกมานั่งเล่นรับลม และลงเล่นน้ำทะเลที่ด้านหน้าได้เลย“คืนนี้นอนกันที่นี่นะ”ชะเอมที่กำลังแง้มผ้าม่านมองดูคลื่นของน้ำทะเลก็หันมาถามกลับ“แต่เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะคะ”“พี่เตรียมมาให้แล้วครับ”“ไปแอบเตรียมมาตอนไหนคะ หนูไม่เห็นพี่หิ้วกระเป๋าลงมาจากห้องเลย”“ถ้าเห็นจะเรียกว่าแอบเหรอ”ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง จับหญิงสาวนั่งลงบนตักแล้วสวมกอดเธอทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอ่ยกระซิบข้างใบหู“เราจะทำอะไรดี”“ไปเดินเล่นกันไหมคะ”“ดูแดดสิครับ เดี๋ยวผิวเมียพี่ก็เสียหมด เรามานอนพักกันดีกว่า”“ว้าย พี่สกาย ไม่เอา นี่มันกลางวันอยู่เลยนะคะ”เสียงหว
ชะเอมกดเบอร์โทรออกไปหาเพื่อน และทันทีที่น้ำหวานรับสายก็ส่งเสียงเอ็ดเธอด้วยความเป็นห่วง“แกไปอยู่ไหนมา ฉันติดต่อไม่ได้เลย รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าแกคงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ถึงได้หายไปเลย สรุปมันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันมาเดี๋ยวนี้”“เอาทีละคำถามได้ไหม ฉันฟังไม่ทัน”“ก็ฉันเป็นห่วงแกนี่ เล่นหายออกไปแล้วให้คนอื่นมาบอก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”“แกตั้งสติก่อนนะ เมื่อวานฉันถูกคุณอคิณจับตัวไป”“คุณอคิณ ทำไมต้องจับตัวแกไปด้วย ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ไอ้ปีศาจในคราบนักบุญ หน้าหล่อเสียเปล่าแต่สันดานแย่สุด ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะผลักให้ตกเรือตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วม”น้ำหวานรู้สึกโกรธแทนเพื่อน และโมโหตัวเองด้วยที่หลงไหลเพียงหน้าตาหล่อเหลา โดยไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง“เอาน่า อย่าโมโหไปเลย ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พี่สกายเป็นคนไปช่วย”“พี่สกาย พี่รถสปอร์ตที่แกแอบชอบน่ะเหรอ นั่นไง ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องชอบแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงชีวิตไปช่วยแกทำไม แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม”“ฉันอยู่โรงพยาบาล”“นี่มันทำแกเจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”“เป