Se connecterบทที่ 4
โดนแซว
เช้าวันถัดมา
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าตึกใหญ่ของตระกูล โทมัสก้าวลงจากรถด้วยท่าทางสุขุม เงียบงันราวกับโลกทั้งใบไม่อาจสั่นคลอนเขาได้ ดวงตาคมกริบกวาดมองตึกสูงตรงหน้า ก่อนจะก้าวเข้าไปยังโถงใหญ่ที่พนักงานต่างก้มหัวทักทายด้วยความเคารพ
เสียงส้นรองเท้าหนังกระทบพื้นหินอ่อนดังเป็นจังหวะชัดเจน ทุกสายตาเผลอหันมองด้วยความเกรงขาม แต่โทมัสกลับไม่เหลียวแล ใบหน้านิ่งเรียบไร้รอยยิ้มเหมือนเคย
เมื่อเข้ามายังห้องทำงานชั้นบนสุด เขาปลดสูทวางลงบนพนักเก้าอี้ หยิบเอกสารกองหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่านทันที แสงแดดลอดผ่านม่านกระทบขอบโต๊ะทำงานหรู แต่ภายในห้องกลับเย็นชาราวกับปราศจากสิ่งมีชีวิตอื่น
“คุณโทมัสครับ เรื่องหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่คุณสายขิมสนใจ ทีมกฎหมายถามว่าจะให้ดำเนินการจัดการอย่างไร” เลขาหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ พลางวางแฟ้มเอกสารตรงหน้าเขา
โทมัสเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แววตานิ่งสงบแต่เย็นเฉียบ ริมฝีปากกระตุกยิ้มบางที่ไร้ความอบอุ่น
“ปล่อยให้เธอคิดว่าเป็นสิทธิ์ขาดของตัวเองไป”
น้ำเสียงเย็นชา ไม่ได้สะท้อนความหวงแหน หรือความผูกพันใดๆ มีเพียงการวางหมากในเกมธุรกิจ ที่สายขิมก็เป็นแค่ผู้เล่นอีกคนเท่านั้น
“ตอนนี้คุณขิมกำลังเดินทางมาที่บริษัทครับ คาดว่าจะมาถึงหลังคุณโทมัสเข้าประชุม”
“อืม”
“ตอนนี้คุณขิมกำลังเดินทางมาที่บริษัทครับ คาดว่าจะมาถึงหลังคุณโทมัสเข้าประชุม”
“อืม” โทมัสเพียงครางรับสั้นๆ ไม่ได้เงยหน้าจากเอกสารในมือด้วยซ้ำ
สามสิบนาทีต่อมา เสียงส้นรองเท้าสูงกระทบพื้น ก๊อก ก๊อก ก๊อก ดังขึ้นเมื่อสายขิมก้าวเข้ามาในตึกใหญ่ของบริษัท ทุกสายตาหันมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยสง่าของเธอ หากแต่เพราะชื่อของเธอถูกเชื่อมโยงกับทายาทหนุ่มผู้เย็นชาแห่งตระกูลนี้ไปแล้วโดยปริยาย
เธอก้าวเข้ามาหน้าห้องประชุมอย่างมั่นใจ มือบางถือแฟ้มเอกสารที่เตรียมมาเกี่ยวกับเรื่องหุ้น แต่ก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไป กลับได้ยินเสียงทักทายจากด้านหลัง
“อ้าวคุณขิม มาเฝ้าสามีเหรอครับ” พนักงานอาวุโสฝ่ายการเงินเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มกว้าง น้ำเสียงแฝงความเป็นกันเอง
สายขิมชะงักนิดหนึ่ง หันไปมองแววตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจผิด เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบาง ยิ้มที่ไม่มีแววอายหรือเขินเหมือนคนถูกทัก แต่เป็นรอยยิ้มเย็นเฉียบจางๆ ที่แทบจะมองไม่ออกว่าเป็นการยิ้ม
“เปล่าค่ะ ฉันมาเรื่องงาน” เธอตอบกลับสั้นๆ น้ำเสียงราบเรียบจนบรรยากาศรอบตัวนิ่งค้างไปชั่วขณะ
พนักงานผู้นั้นกระแอมในคอเบาๆ อย่างเก้อ ก่อนจะถอยออกมาเปิดทางให้เธอเดินเข้าไปในห้องประชุม และทันทีที่บานประตูเปิดออก ทุกสายตาของทีมบริหารก็หันมาจับจ้อง ทว่าโทมัสเพียงกวาดตามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มกลับไปสนใจเอกสารตรงหน้า ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำทักทายใดๆ
บรรยากาศในห้องประชุมพลันเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศที่ทำงานเต็มกำลัง
‘เป็นบ้าอะไรใส่แว่นตา ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นใส่แว่นเข้าบริษัท’
“สวัสดีค่ะทุกคน” เธอทักทายทุกคนในห้องประชุมด้วยรอยยิ้มหวานหยด ก่อนจะก้าวเดินไปหาผู้ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะประชุม แล้วเลื่อนเก้าอี้มานั่งลงข้างๆ เขา
“วันนี้คุณสายขิมมาเฝ้าคุณโทมัสเหรอครับเนี่ย”
“อ๋อ…” เธอหันมองโทมัสอย่างยิ้มๆ “ค่ะ มาให้กำลังพี่โทมัสหน่อย”
“ก่อนแต่งงานก็รักกันมาก หลังแต่งงานยิ่งรักกันมากๆ ไม่ห่างกันเลยนะครับ”
“ค่ะ ต้องจับตาดูยี่สิบสี่ชั่วโมง เดี๋ยวมีอีหนูมาจีบสามีขิม”
คำพูดติดตลกของเธอเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนในที่ประชุมยกเว้นโทมัส ที่เอาแต่มองเอกสารโดยไม่ใส่ใจคนข้างๆ เลยสักนิด
เสียงหัวเราะในห้องประชุมยังคงดังระงมอยู่ครู่หนึ่ง แต่ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเป็นกันเองนั้น กลับมีเพียงโทมัสที่ไม่แม้แต่จะยกสายตามองหญิงสาวข้างตัว เขายังคงพลิกเอกสารในมือทีละหน้าอย่างใจเย็น ราวกับเสียงรอบข้างไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย
ปลายนิ้วเรียวยาวเคาะเบาๆ บนโต๊ะประชุม ตึก ตึก ตึก เป็นจังหวะสั้นๆ ที่ชวนกดดัน แทนการตอบรับคำหยอกล้อใดๆ ใบหน้าเรียบเฉยไร้รอยยิ้มถูกยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบหันไปมองทีมบริหารเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะกดเสียงต่ำเอ่ยอย่างเย็นเฉียบ
“ประชุมต่อได้หรือยัง”
เสียงนั้นทำให้ห้องประชุมเงียบกริบลงแทบจะทันที ทุกคนหุบยิ้ม รู้ทันทีว่าความสนุกเมื่อครู่ได้สิ้นสุดลงแล้ว ท่าทีของโทมัสชัดเจนเกินกว่าจะตีความผิด เขาไม่ได้รู้สึกขบขันเลยแม้แต่น้อย
สายขิมยังคงยิ้มหวานอยู่ แต่ในแววตาแฝงร่องรอยไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเขากำลังแสดงออกต่อหน้าทุกคนว่าเธอไม่มีความสำคัญแม้จะนั่งอยู่ข้างกาย และการเพิกเฉยนั้นทำให้คนอื่นๆ เพ่งสายตามาทางเธออย่างจับผิด
โทมัสขยับเก้าอี้เล็กน้อย เว้นระยะห่างระหว่างเขากับเธออย่างจงใจ จากนั้นก็จดจ่ออยู่กับเอกสารและการประชุม ปล่อยให้เธอนั่งยิ้มอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นยะเยือกลงอย่างชัดเจน
“ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทำคุณหงุดหงิดหรอก เพราะฉันมาที่นี่…เพราะฉันก็คือทีมบริหารเหมือนกัน” สายขิมกระซิบเสียงแผ่วให้ได้ยินกันสองคน
โทมัสปรายตามองหญิงสาวที่เอียงหน้ามากระซิบ ใบหน้าสวยได้รูปฉีกยิ้มทันทีที่เขาจ้อง ก่อนที่มือเธอจะวางทาบแก้มเขา
“ขิมไปรอพี่โทมัสที่ห้องทำงานดีกว่า เดี๋ยวพี่ไม่มีสมาธิประชุม” ก่อนจะลุกออกไป เธอก็ไม่ลืมแกล้งเขาด้วยการบีบจมูกเบาๆ หากมองภายนอกอาจดูน่ารัก แต่สำหรับโทมัส มันโคตระไร้สาระและน่าหงุดหงิดที่เธอทำเกินกว่าเหตุ
ตอนพิเศษ 4 จบผ่านมาอีกหลายนาทีบทรักเร่าร้อนยังไม่จบเพียงเท่านั้น โทมัสอุ้มสายขิมมานั่งริมสระว่ายน้ำ เธอนั่งคร่อมตักเขา กำลังเคลื่อนไหวร่างกายอย่างพลิ้วไหวภายใต้แสงแดดร่ำไรในช่วงบ่าย“อ๊า ขิม…ทำแบบนี้พี่ก็เสร็จก่อนสิ”“นานๆ ทีนะ” โทมัสกระซิบบอก ความเสียวซ่านที่ได้รับพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ภายในหญิงสาวตอดรัดเบาๆ บ่งบอกถึงความเสียวซ่านอย่างหนักเสียงครางระงมดังขึ้นเบาๆ กับจังหวะรักเร่าร้อนของทั้งสองโทมัสจูบเนินอกอวบเบาๆ พลางบีบขยำบั้นท้ายของสายขิม“พี่ชอบนะ”“ชอบ…อ๊ะ อ๊า~ ชอบแบบไหน”“ชอบแบบนี้ แบบที่เราเป็น”ร่างเล็กอมยิ้มจนตาหยี แล้วโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเขาเบาๆ“ขิมก็ชอบเหมือนกัน”“หึหึ”ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงสายขิมนอนหอบหายใจถี่อยู่ในอ้อมแขนของคนรัก ร่างกายทั้งสองยังเปลือยเปล่า และแสงของวันก็กำลังลับขอบฟ้า“พี่ทำนานเกินไปแล้วนะเนี่ย”“วันนี้อิ่มแล้ว เอาไว้ต่อพรุ่งนี้แล้วกัน”สายขิมตีแขนเขาเบาๆ แล้วเกยคางกับอกแกร่ง“อิ่มเรื่องนี้ แต่ท้องขิมยังว่างนะคะ หิวด้วย”“พี่สั่งอาหารมาให้แล้ว อีกเดี๋ยวพนักงานคงเอามาให้”“รู้ใจจริงๆ”“เมียใช้แรงเยอะ พี่ต้องเอาใจหน่อย”โทมัสหัวเราะเบาๆ พลางยกมือขึ้น
ตอนพิเศษ 3 NC“เดี๋ยวก่อนคุณพ่อ เราเพิ่งมาถึงนะคะ ไม่ไปเที่ยวก่อนแน่นะ”“เที่ยววันไหนก็ได้ เรามาตั้งห้าวัน”“แต่จะ…ทำตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเลยเหรอ”“เรามีเวลาว่างทั้งห้าวัน จะออกไปเที่ยวตอนไหนก็ได้ หรือ…จะอยู่แต่ในห้องก็ยังได้เลย” เสียงเขากระเส่ามากแล้วโทมัสก็พาสายขิมเดินไปที่เตียงนอน “เรามายั่วให้พี่อยากเองนะ”“แล้วอยากไหม”“ไม่อยากได้ไง แข็งแล้วเนี่ย จะดูไหม”“บ้า! พูดอะไรเนี่ยพี่โท”“พูดบ้าอะไร พูดตรงๆ กับเมียผิดตรงไหนล่ะ แต่พี่ว่าเราอย่าหาเรื่องคุยให้เสียเวลาเลยดีกว่า” ชายหนุ่มดันตัวคนตัวเล็กไปที่เตียงนอน ขณะที่มือข้างหนึ่งไล่ปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดจนเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุม “ต้องให้พี่ป้องกันไหม”“ป้องกันเถอะ ตอนนี้ขิมยังไม่พร้อมเลี้ยงเบบี๋อีกค่ะ รอให้พัตเตอร์โตกว่านี้ก่อน เราค่อยวางแผนกันอีกทีนะ”“ได้ พี่ก็เตรียมพร้อมมาพอดี”“ทำไมรู้ว่าต้องเตรียม?”“หึหึ สายตาเราฟ้องขนาดนั้น พี่ก็ต้องเตรียมตัวบ้างสิ” เขาพูดขณะหันไปหยิบซองถึงยางอนามัยในกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วโยนมันลงบนเตียงโทมัสถอดเสื้อออก แล้วปลดเข็มขัดออกจากเอวสอบ“แอบไปฟิตหุ่นมาไหม ทำไมดูแข็งแรงขึ้น”“ก็ต้องมีบ้างสิ เดี๋ยวเมียจ
ตอนพิเศษ 2สองชั่วโมงต่อมาโทมัสกับสายขิมนั่งรถมาถึงพลูวิลลาจังหวัดพังงา บรรยากาศเย็นสบายชุ่มฉ่ำเพราะฝนเพิ่งหยุดตก“รู้ได้ยังไงว่าขิมชอบที่นี่”“พี่ทักไปถาทจุ๊บแจง เห็นว่าเราเคยมาที่นี่สมัยเรียนมหา'ลัย แล้วเราก็บ่นบ่อยๆ ว่าอยากใส่ชุดว่ายน้ำ”“อ๋า…แบบนี้นี่เอง ขอบคุณนะคะ”“เข้าที่พักเถอะ”พนักงานเดินมาเข็นกระเป๋าและเดินนำทั้งสองไปยังห้องพักที่จองเอาไว้ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีทั้งสระว่ายน้ำที่มองวิวได้สามร้อยหกสิบองศา“สวยเหมือนเดิมเลย ค่าพักต่อคืนแพงหน่อย แต่คุ้ม”“แพงก็จ่ายไหว ว่าแต่เมียชอบ”“แหม ปากหวานเชียว”“พี่มีของจะให้ขิมด้วย” โทมัสเดินไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีดำออกมาจากยื่นให้เธอ “จะให้นานแล้วล่ะ แต่มัวยุ่งอยู่กับพัตเตอร์ ก็เลยไม่ได้ให้สักที”“อะไรคะ?”“เปิดดูสิ”สายขิมยิ้มบางๆ แล้วเปิดกล่องนั้นอย่างระวัง เธอยิ้มหวานเมื่อรู้ว่าของข้างในคือบัตรแบล็คการ์ดไม่จำกัดวงเงิิน“ให้ทำไมเนี่ย ขิมไม่ได้ใช้บ่อยขนาดนั้น”“พี่กลัวเราเครียดเรื่องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เผื่อเราอย่กชอปปิงออนไลน์บ้าง”“เป็นสามีที่เอาใจเก่งมากๆ” เธอวางกล่องลงแล้วลุกขึ้นไปหาเขา สองแขนโอบรอบคอเขาหลวม
ตอนพิเศษ 1หลายเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของพัตเตอร์ดังมาจากห้องนั่งเล่น ขณะที่เขากำลังเล่นกับพ่อหลังจากตื่นนอนช่วงบ่ายสายขิมถือถ้วยข้าวบดที่เตรียมจะป้อนลูกเดินมานั่งลงบนโซฟา มองโทมัสหยอกล้อลูกชายก็พลอยได้ยิ้มตามเขา“ป้อนข้าวลูกไหม หรือพี่จะให้ขิมป้อน?”“พี่ป้อนเองดีกว่า เราจะได้มีเวลาพัก”“เอางั้นก็ได้ แล้วก็เรื่องจะไปเที่ยวน่ะค่ะ ขิมคุยกับแม่แล้วนะ แม่จะมาอยู่ที่นี่ แม่อาสาจะดูพัตเตอร์เอง”“หืม? เราไม่พาลูกไปด้วยเหรอ”“ขิมอยากพาไปนะ แต่แม่บอกว่าให้เราสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง”“อืม…เดี๋ยวพี่คุยกับพี่เลี้ยงพัตเตอร์อีกทีหนึ่ง ให้เขาดูพัตเตอร์ช่วยแม่ด้วย จะได้ไม่เหนื่อยมาก”“ค่ะ”เย็นวันนั้นโทมัสอุ้มพัตเตอร์เดินเล่นอยู่ริมสระว่ายน้ำ เด็กน้อยตัวจ้ำม่ำดีดขาไปมาเบาๆ เพียงแค่ดองลีลาวดีร่วงลงตรงหน้า“ดิ้นใหญ่เลยลูก แค่ดอกไม้ครับ” เสียงสองพ่อลูกพูดคุยกันดังเข้ามาในห้องนั่งเล่นสายขิมที่นั่งพักอยู่จนต้องละสายตาจากโทรศัพท์แล้วหันมองไปยังพ่อลูก“ร้อนไหมคะนั่น กลับมานั่งเล่นในห้องดีไหม”“อากาศดี ให้ถูกลมถูกแดดบ้าง เดี๋ยวป่วยบ่อย”“ไปฟังใครพูดมาเนี่ย”“ก็พ่อๆ ในกลุ่ม”“หะ? อะไรนะคะ”“อืม…ก็ตามที่เ
บทที่ 50บทส่งท้ายหลายเดือนต่อมาอากาศในเมืองอบอ้าวเล็กน้อย แสงแดดลอดผ่านม่านบางๆ เข้ามาในห้องนอน สะท้อนกับแหวนแต่งงานที่ยังอยู่บนนิ้วของสายขิม เธอนั่งพิงหมอนใบใหญ่ มือข้างหนึ่งวางบนหน้าท้องกลมโตที่ขยับเบาๆ เป็นระยะโทมัสเพิ่งกลับจากเตรียมของในห้องนั่งเล่น เขามีกระเป๋าใบหนึ่งที่จัดไว้เรียบร้อย เสื้อผ้า ผ้าห่ม เอกสาร และของใช้เด็กอ่อนครบทุกอย่าง เขาเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นเธอกำลังลูบท้องเบาๆ พลางพูดกับลูกในท้อง“อีกนิดเดียวนะครับลูก…อีกนิดเดียวเราก็จะได้เจอกันแล้ว”“พูดกับลูกเหรอ” เขาถามพลางเดินเข้ามาสายขิมหันมายิ้ม“ก็ต้องพูดสิ เขาเริ่มดื้อแล้วนะ ดิ้นทั้งคืนเลย”“สงสัยจะอยากออกมาเร็วๆ เหมือนพ่อ”“อย่ามาโยนความซนให้ลูกเลย คนที่ชอบวุ่นวายคือพี่นั่นแหละ” เธอหัวเราะเบาๆ แต่ก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบรัดที่หน้าท้อง“โอ๊ย…”โทมัสรีบเข้ามาพยุงทันที“ขิม เป็นอะไร เจ็บเหรอ”“เหมือนจะปวด…แต่ยังไม่ถี่นะ คงแค่เตือน” เธอตอบพลางหายใจลึกๆ “พี่อย่าเพิ่งตกใจสิ”“พี่ไม่ได้ตกใจ แค่…แค่กลัวจะไม่ทัน” เขาหัวเราะแห้งๆ แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความกังวลสายขิมจับมือเขาไว้แน่น“ใจเย็นหน่อยค่ะคุณพ่อมือให
บทที่ 49ครอบครัวสองเดือนต่อมาเวลา 21:20 น.ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นใหม่ดำเนินไปอย่างราบรื่น โทมัสเตรียมของบางอย่างไว้ให้สายขิม ขณะที่เธอกำลังนั่งเล่นอยู่ริมสระว่ายน้ำ“ง่วงหรือยัง” เขาถามขึ้นพลางเดินเข้ามาใกล้“ยังเลย ขิมกำลังดูน้ำในสระอยู่… อยากลงไปเล่น แต่กลัวใส่ชุดว่ายน้ำแล้วไม่สวย”“ทำไมล่ะ”“ก็พุงออกขนาดนี้น่ะสิ ใส่ชุดว่ายน้ำมันต้องหุ่นเพรียวๆ เซ็กซีๆ หน่อยสิ”“หึ เอาไว้หลังคลอดแล้วค่อยเข้าคอร์สฟิตหุ่นก็ได้”“แน่นอนอยู่แล้ว” เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา “แล้วพี่ล่ะ ไม่ง่วงเหรอ มานั่งเฝ้าขิมทุกคืนแบบนี้ ไม่เหนื่อยหรือไง”“ไม่เหนื่อย พี่อยากทำเอง”“อืม…”เขาวางแก้วนมอุ่นๆ ลงบนโต๊ะข้างตัวเธอ แล้วนั่งลงเคียงกัน“พรุ่งนี้เราไปหาพ่อกับแม่พี่กันไหม ท่านถามถึงขิมทุกวันเลย”สายขิมนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงแผ่ว“ขิมไม่อยากออกไปไหน กลัวเป็นข่าว…” แต่พอเห็นแววตาอ้อนปนอบอุ่นของเขา เธอก็ถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ ขิมจะไป แล้วจะแวะหาพ่อกับแม่ด้วย”“ถ้าไม่อยากไป ไม่ต้องฝืนก็ได้ พี่ไม่บังคับนะ”“ไม่ได้ไปเพราะถูกบังคับหรอก แต่อยากไปจริงๆ ตั้งแต่กลับมาอยู่คอนโดก็ยังไม่ได้ไปหาท่านเลย ไปเยี่ยมท่







