คล้อยหลังที่บุรุษรูปงามเดินเข้าจวนไปแล้ว สามพี่น้องตระกูลอวี้และคุณชายหยางก็พากันเดินทางกลับจวน
ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงพระจันทร์เงาสองสายกระโดดตามกันไปทางสวนร้างนอกเมือง ก่อนที่ความมืดจะพรางตาจนไม่มีใครเห็นว่าทั้งสองคนหายเข้าไปที่จุดใด
“คารวะองค์รัชทายาท” บุรุษชุดดำสองคนคุกเข่าลงตรงหน้าบุรุษที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“ลุกขึ้นๆ ยามอยู่นอกวังเราเป็นแค่คุณชายหนิง อย่าได้มากพิธีจนเป็นที่สังเกต”
“นี่คืออวี้ลู่หมิงสหายของข้า”
“ขอบคุณเจ้าที่ยื่นมือช่วยเหลือเฟยฉี หากไม่มีพวกเจ้าข้าคงขยับตั
ที่แท้บุรุษผู้นี้ก็ดีดลูกคิดรางแก้วเอาไว้แล้ว ร้ายกาจ หยางเฟยฉีผู้นี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว มิคาดคิดว่านางมัวแต่ระแวงสตรีดอกบัวขาวเจ้ามารยา แต่กลับลืมระแวงบุรุษดอกบัวขาวผู้นี้ บุรุษดอกบัวขาวที่มักทำตัวเป็นโจรบุปผาผู้นี้ ทั้งร้ายกาจ มากเล่ห์ รู้ตัวอีกทีนางก็ถูกกินเต้าหู้จนหมดตัว ทั้งยังถูกล่อลวงจนหลีกก็ไม่ได้ เลี่ยงเขาก็คงไม่ยอม “ดีๆ เช่นนี้ค่อยน่ารับเป็นบุตรเขยหน่อย” อวี้ผิงกล่าวอย่างดีใจ ในเมื่อรักและเอาใจบุตรสาวเขามากถึงเพียงนี้ “ลู่หมิง เฟยฉี ท่านผู้ตรวจการโจว ลู่เสียน และซีเยว่ พวกเจ้าออกไปเดินเล่นพูดคุยกันข้างนอกเถิด เรื่องหลังจากนี้ ให้เป็นการสนทนาของผู้ใหญ่” “ขอรับ/เจ้าค่ะ” ทั้งห้าคนตอบรับก่อนจะพากันเดินออกจากห้องโถ
18 ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร “ข้า...” อวี้ซีเยว่เอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะหลุบตาลงมองพื้นราวกับกำลังลำบากใจ ท่าทางเช่นนั้นยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาได้ใจ “หากเจ้าไม่ได้มีใจให้เฟยฉี ก็ไม่ต้องฝืน บิดามารดาเจ้าไม่ว่าอันใดหรอก พวกเราทุกคนยินดียอมรับการตัดสิน
“ไม่ต้องเป็นห่วง...ประเดี๋ยวนะ เมื่อครู่ท่านกล่าวว่าใครจะแต่งเข้าจวนข้านะขอรับ” เจ้ากรมพิธีการเอ่ยย้ำ “ก็หยางเฟยฉีบุตรชายของพวกเรา เขาส่งจดหมายมาแจ้งว่าจวนอวี้มีกฎไว้ว่าหากอยากแต่งสตรีจวนอวี้เป็นฮูหยิน จะต้องแต่งเข้าเท่านั้น” หยางฮูหยินกล่าวซึ่งพวกตนก็พร้อมจะตามใจบุตรชายที่ไม่อยากสืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อจากบิดา “เรื่องนั้นพวกเราแค่กล่าวล้อเล่นกัน มิได้จริงจังอันใดมากหรอกเจ้าค่ะหยางฮูหยิน” “แต่หากเขาอยากแต่งเข้าจวนอวี้พวกข้าก็ยินยอมเจ้าค่ะ” “กล่าวถึงเรื่องแต่งเข้าจวนอวี้ เฟยฉีเจ้าพึงใจบุตรสาวของน้าคนใดหรือ” แม้คนเอ่ยถามจะเป็นอวี้ฮูหยินแต่คนที่นิ่งฟังกลับเป็นผู้เป็นใหญ่ในจวนอย่างอวี้ผิง&n
คล้อยหลังที่บุรุษรูปงามเดินเข้าจวนไปแล้ว สามพี่น้องตระกูลอวี้และคุณชายหยางก็พากันเดินทางกลับจวน ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงพระจันทร์เงาสองสายกระโดดตามกันไปทางสวนร้างนอกเมือง ก่อนที่ความมืดจะพรางตาจนไม่มีใครเห็นว่าทั้งสองคนหายเข้าไปที่จุดใด “คารวะองค์รัชทายาท” บุรุษชุดดำสองคนคุกเข่าลงตรงหน้าบุรุษที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว “ลุกขึ้นๆ ยามอยู่นอกวังเราเป็นแค่คุณชายหนิง อย่าได้มากพิธีจนเป็นที่สังเกต” “นี่คืออวี้ลู่หมิงสหายของข้า” “ขอบคุณเจ้าที่ยื่นมือช่วยเหลือเฟยฉี หากไม่มีพวกเจ้าข้าคงขยับตั
“เช่นนั้นพี่ซ่างกวนป๋อก็ไม่ได้เดินทางกลับกับเราใช่หรือไม่...” นางยังกล่าวไม่ทันจบ บุรุษผู้ชอบซดไหน้ำส้มก็ใช้มือสองข้างที่ยังประคองใบหน้านางไว้ให้อยู่นิ่งแล้วทาบทับริมฝีปากลงบนปากนาง ลิ้นร้อนบุกรุกอย่างดุดันแฝงโทสะ แล้วปิดท้ายด้วยการดูดดึงริมฝีปากอย่างแรงเป็นการลงโทษ “อย่าได้เอ่ยชื่อบุรุษอื่นให้พี่ได้ยิน” โดยเฉพาะบุรุษที่นางเคยเอ่ยชมว่ารูปงาม “ข้าเพียงแค่ถามเพราะอยากรู้ว่าใครจะเดินทางกลับเมืองหลวงกับเราบ้าง ท่านซดน้ำส้มให้น้อยลงได้หรือไม่” มือเรียวพยายามแกะมือเขาที่ยังคงเกาะกุมดวงหน้าหวานของตนอยู่ “พี่รักเจ้า หวงแหนเจ้าถึงเพียงนี้ พี่ย่อมไม่อยากให้สตรีในดวงใจตนเอ่ยถึงบุรุษใด” “ก่อนท่านจะซดน้ำส้ม ท่านก็ควรจะดูที่เจตนาขอ
17 ในที่สุดพี่สาวข้าก็มีสามี และก็เป็นอย่างที่อวี้ลู่หมิงคิด เมื่อในเช้าวันต่อมาคนของสหายที่ซุ่มดูเหตุการณ์ในจวนเจ้าเมืองได้มารายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาจวนเจ้าเมืองหนานโจวได้ถูกคนร้ายบุกเข้าจวนแล้วสังหารคนทั้งจวนไม่เว้นแม้แต่บุตรชายของเจ้าเมืองกับอนุภรรยาคนใหม่ที่อายุเพียงหกเดือน&n