LOGINมือเล็กไม่วายช่วยเร่งรูดขึ้นลงไปตามโพรงปากที่ทั้งดูดดุน ทั้งรูดรั้งจนเสียงครางต่ำเปล่งออกมาเป็นระยะ พร้อมกับมือหนาที่ออกแรงกดศีรษะยามที่เธอดูดดุนลึกจนลำคอ
“อื้อส์...ดี ดีมากน้องเอม”
เซนนิก้าครางต่ำ หลุบสายตามองเชอเอมด้วยสายตาลุ่มลึกอย่างพึงใจกับการกระทำของเธอ เพียงไม่นานแรงดูดดุนและรูดรั้งทั้งโพรงปากเล็กร้อนและมือเรียวบางก็ทำให้เขาถึงฝั่งฝัน ปลดปล่อยธารน้ำขาวขุ่นเต็มโพรงปาก ทว่าไม่ทำให้หญิงสาวรู้สึกขยะแขยงแต่อย่างใด เมื่อความรู้สึกของเธอยินยอมที่จะทำให้ท่อนเอ็นร้อนปลดปล่อยในโพรงปาก
เธอผละโพรงปากออก เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ปลดปล่อยเข้ามา พลางยกปลายนิ้วหัวแม่มือมาปาดที่มุมปากของตัวเองแล้วกลืนธารน้ำอุ่นลงคอต่อหน้าเขาอย่างยั่วยวน
“ชอบไหมคะที่เอมทำ”
“ชอบ ชอบมาก พี่หลงเอมหัวปักหัวปำแล้วสิ”
ชายหนุ่มยันตัวขึ้น โน้มใบหน้าไปหาหญิงสาว พลางยื่นมือไปลากไล้ที่ริมฝีปากอิ่ม มองสบสายตาเฉี่ยวหวานที่มองมา
“พี่เซนสะอาด” เธอพูดพลางเคลื่อนมือไปรูดรั้งที่ท่อนเอ็นที่ยังคงแข็งขึงอยู่อีกครั้ง สายตาสบคลายจะท้าทาย ทว่ากำลังเชิญชวนให้เขาพาเธอไปถึงฝั่งฝัน
“นี่หรือ การชดเชยให้กับพี่...สาวน้อย เธอจะยั่วเกินไปแล้วนะ” เขากระตุกมุมปากขึ้น ปลายนิ้วหัวแม่มือยังคงลากไล้ไปตามริมฝีปากอิ่ม สายตาจ้องสบกลับไปอย่างไม่ยอมราวกับเสือร้ายที่เจอเหยื่อที่ทั้งหอมหวาน
มือเรียวบางยังคงรูดรั้งขึ้นลงคลายจะหยอกเย้าท่อนเนื้อร้อนที่แข็งขึงขึ้นอีกครั้งเมื่อสัมผัสมือเล็ก ทว่าการหยุดชะงักทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วมอง ก่อนจะคลายเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อมือเล็กดันให้เขานอนราบไปกับเตียงนอน ยืดตัวขึ้นคร่อมชายหนุ่มอีกครั้ง ส่งสายตายั่วมาให้อย่างไม่รู้ตัว
เชอเอมมองเซนนิก้าด้วยสายตาลุ่มลึกที่เกิดจากสัญชาตญาณในตัวเมื่ออารมณ์เพลิงราคะปะทุขึ้น มือเรียวบางรูดรั้งท่อนเนื้อร้อนอีกครั้งสองสามที แล้วดุนดันเขาช่องแคบอย่างอ้อยอิ่งจนเขาขมกรามไปกับความคับแน่น ครางต่ำในลำคอ มองหญิงสาวที่ค่อย ๆ โถมน้ำหนักตัวลง สอดใส่ท่อนเนื้อร้อนระอุของเขาเข้าไปในโพรงแคบ มือหนายกขึ้นมาวางลงบนต้นขาอ่อน
“เอมขอคุมเกมนะคะ...ชดเชยให้พี่เซน”
เชอเอมยังคงสอดใส่ค้างไว้ โน้มตัวลงไปประชิดแก้มสากแล้วกระซิบเสียงแหบกระเส่าอย่างเย้ายวน ปลายนิ้วลากไล้หยอกเย้าอกแกร่ง ลากผ่านยอดที่ชูชันไม่ต่างจากเธอจนเซนนิก้าขบกรามจนปูดขึ้น มองท้าทายสายตาเฉี่ยวหวานคู่นั้นของเธอ
“ยอมครับ ยอมให้เอมคุมเกมได้เลย แต่ถ้าเกมนี้ไม่แรงพอ...”
“ยังไม่เริ่มเลย จะแรงหรือไม่แรง...ค่อยว่ากันสิคะ”
หญิงสาวระบายยิ้มอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า แต่ภายในใจก็แอบหวั่นกลัวว่าเธอจะทำไม่ได้อย่างที่พูด ถึงอย่างไรเรื่องเซ็กซ์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อการคบหา เธอเองก็มีความกลัวว่าเขาจะตีจากหากทำไม่ถูกใจ
สาวเจ้าก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่นึกหวั่นใจกลัว เธอไม่ได้ใจกว้าง อยากแบ่งปันเขากับใครเสียหน่อย
แต่หากไม่ลองไม่รู้ เมื่อเธอเริ่มเกมด้วยตัวเอง เธอก็ต้องทำให้ได้อย่างที่พูด ไวเท่าความคิด สะโพกกลมกลึงเริ่มร่อนอย่างช้า ๆ กดลึกจนสัมผัสได้ถึงท่อนเอ็นร้อนเสียดสีเนื้อนุ่มภายในโพรงแคบ เธอยังคงกดสะโพกร่อนรับท่อนเนื้อร้อนระอุที่ขยับขยายแข็งขึงเต็มความอวบใหญ่
ความคับแคบที่เสียดสีไปกับแก่นกายที่รายล้อมไปด้วยเส้นเอ็นปูดโปน ร่างเล็กสั่นสะท้านไปกับความเสียวซ่านที่ปะทุขึ้นจากการเสียดสีของแก่นกาย ทั้งที่เธอเป็นคนคุมเกม ทว่าคล้ายจะทานทนไฟราคะในครานี้ไม่ไหว แต่มีหรือคนอย่างคุณหนูเชอเอมจะยอมพ่ายแพ้ให้กับเขาที่ร้อนแรงได้ มือเล็กสอดประสานยันไปกับมือหนาทั้งสอง กดสะโพกร่อนยามที่สะโพกสอบของชายหนุ่มกระแทกสวนกลับมา
เขาเป็นผู้ชายที่เร่าร้อนเสียจริง
เชอเอมเพิ่งสัมผัสได้ก็ครานี้ที่รู้ตัวว่าคงสู้เขาไม่ได้กับเซ็กซ์ที่วาบหวามเร่าร้อนเช่นนี้ ยามที่เซนนิก้าเป็นฝ่ายคุมเกมทำให้สติของเธอไม่อยู่กับร่องกับรอยแล้ว แต่ทว่าครานี้ทำเธอเกือบสติหลุดกว่า
เธอเริ่มร่อนสะโพกกดลึกให้ท่อนเอ็นสอดลึกขึ้นอีกครั้ง เสียงหวานเริ่มเปล่งออกมายามที่ถูกกระแทกสวนกลับ มือเรียวบางที่สอดประสานมือหนากำไว้แน่นเมื่อความเสียวซ่านแล่นปราดไปทั่วสรรพางค์ หลับตาพริ้ม หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย
“อ๊ะ...อ่าส์”
“แรงกว่านี่อีกน้องเอม...อื้อส์ กำลังดี”
เสียงครางหวานผสมผสานไปกับเสียงคำรามของเขาไม่ต่างจากเสียงเนื้อจากแก้มก้นที่กระทบลงบนหน้าขาที่เคร่งครัด
สายตาคมจ้องมองสีหน้าที่สุขสมของหญิงสาวด้วยรอยยิ้มพึงใจ ไล่สายตาลงมามองความรื่นเริงในสายตากับสองเต้าที่เด้งขึ้นลงเมื่อเธอร่อนสะโพกด้วยความเร่าร้อนไปกับห้วงอารมณ์ราคะที่ปะทุขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มกระแทกโพรงแคบเสียดสีแรงขึ้น และดุดันอย่างที่เขาไม่คิดว่า...
เธอจะเร่าร้อนได้ขนาดนี้
เม็ดเหงื่อผุดพรายไปทั่วเรือนร่างของคนทั้งสองเมื่อความร้อนระอุในกายแผ่ซ่านออกมายามที่อารมณ์ราคะเพิ่มมากขึ้น แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาน่ะหรือจะยอมให้เธอถึงฝั่งฝันได้ตอนนี้
สะโพกกลมกลึงยังคงร่อนไปด้วยแรงราคะ เสียดสีโพรงแคบไปกับแก่นกายที่อวบใหญ่จนคับแน่น ขูดขึงไปกับเนื้อนุ่มภายในจนร่างบางอ่อนละทวย ยังดีที่ได้หน้าขาและมือแกร่งที่ประคองไม่ให้เธอล้มลงไป ความซ่านสยิวพุ่งทะยานเมื่อสัมผัสได้ว่าเม็ดอ่อนไหวเสียดสีกับแก่นกายมากขึ้น เขากระแทกกระทุ้งสวนกลับ
“อ๊าส์ พี่เซน เอม...อื้อ อ๊า เอม”
เธอเปล่งออกมาไม่ได้ศัพท์ ผสมผสานไปกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อเมื่อความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วสรรพางค์จนยากที่จะหยุดมันตอนนี้ หูพร่าตาลายเริ่มขึ้น สมองขาวโพลนเมื่อห้วงอารมณ์ใกล้ถึงขีดสุด วงหน้าสวยเชิดขึ้นกัด
ริมฝีปากล่าง หลับตาแน่นไปกับความซ่านสยิวเธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยกับตำแหน่งคุมเกม จนบัดนี้ที่เธอรู้ซึ้งถึงคำว่า ‘แรง’ ของเขา
สาวเจ้าร่อนสะโพกไปมาอยู่สองสามทีแล้วจึงแผ่วแรงลงอย่างเน้นหนักและอ้อยอิ่งจนชายหนุ่มขบกรามแน่น เมื่อถูกเธอเล่นงามเข้าให้ เขาคำรามต่ำในลำคอออกมา ปล่อยมือเล็กออก กดสะโพกกลมกลึง แล้วกระแทกกระทุ้งแก่นกายเข้าออกโพรงแคบเมื่อเธอกำลังสุขสม
แต่เขาไม่ยอม
มือหนากดเอวเล็กคอดแล้วกระแทกกระทุ้งจนร่างเล็กสั่นสะท้าน ดุนดันเข้าจนลึกอย่างเช่นเคย มือหนาเริ่มยกขึ้นแล้วฟาดลงมาบนก้นขาวเนียนขณะที่ยังคงสอดใส่ท่อนเอ็นที่ขยับขยายขึ้น กระแทกกระทุ้งทั้งที่เธอยังคงเป็นฝ่ายอยู่ข้างบน เสียงเนื้อกระทบเนื้อผสมผสานไปกับเสียงครางของคนทั้งสอง
“อ๊ะ...อ่าส์ พี่เซน เอมจะไม่ไหวแล้ว”
“อีกนิด พร้อมพี่”
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







