Home / โรแมนติก / พี่ผีห้องตรงข้าม / บทที่ 4   สิบสี่อีกครั้ง

Share

บทที่ 4   สิบสี่อีกครั้ง

last update Last Updated: 2025-10-31 20:02:01

              หลังจากที่ขวัญนรีกลับขึ้นห้องเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็เอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยอ่อน มือขาวยกเอาโทรศัพท์ขึ้นโทรหาเพื่อนใหม่ที่เพิ่งสนิทกันได้ไม่นานอย่างนิราในทันที

              ตื๊ดดด… ตื๊ดดด…

              รอไม่นานปลายสายก็กดรับ…และกรอกเสียงลงมา

             “ยังไม่นอนอีกเหรอ คนน่ารัก” นิรณาเอ่ยถามขึ้นเมื่อพบว่าเวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงสี่ทุ่มกว่าแล้ว เป็นเวลาที่เธอใกล้ จะเข้านอน แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวตัวเล็กโทรมาจึงต้องยอมรับสาย

            “นิรา ขวัญมีเรื่องจะคุยน่ะ”

            “ได้สิ เธอเล่ามาได้เลยนะ”

            เมื่อได้รับคำอนุญาตจากอีกฝ่าย น้ำเสียงใสจึงเริ่มเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เพื่อนสาวสวยในคณะที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานมากฟัง

            “คือ… เราบังเอิญไปเจอผู้ชายคนหนึ่ง เรารู้จักกันได้ไม่นาน เขาเป็นคนที่หล่อ นิสัยดี จิตใจดีและอบอุ่นจนสัมผัสได้เลย” ขวัญเอ่ยพลางนึกไปถึงร่างสูงโปร่งของหนุ่มรุ่นพี่ผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลา นิสัยช่างแสนดี เป็นเพียงคนเดียวที่ติดอยู่ภายในใจของเจ้าตัว เพราะขวัญนรีไม่เคยมีความรักมาก่อนเลยสักครั้ง

            “โอเค แล้วยังไงต่อนะ?”

            “เอ่อ… เหมือนว่าเราจะเจอกันบ่อยและพูดคุยกันบ่อยมากขึ้นน่ะ จนพักหลังมานี้ เหมือนขวัญเริ่มจะตกหลุมรักเขาน่ะ” หญิงสาวยอมรับออกมาตรง ๆ เพราะเชื่อว่านิราไว้วางใจได้

            “อืม… ก็ดีแล้ว พอฟังที่เธอเล่ามา…ก็ดูเป็นคนที่ใช้ได้อยู่นะ”

            “ใช่เลย แต่ว่า… พี่เขามักจะชอบโผล่มาตอนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกันอะ นี่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้นิราได้เข้าใจเหมือน กัน” สาวน้อยเอ่ยออกมาพร้อมกับนึกไปถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิด

            “ยังไงนะ?”

            “…อย่างวันแรกนะ พี่เขาทักเราเรื่องไหว้ศาล เรายังไม่ได้ทำก็เลยลงไปไหว้ตามที่พี่เขาบอก และในขณะที่พูดขอขมาลาโทษเสร็จและกำลังจะปักธูปใช่ไหม… อยู่ดี ๆ เขาก็โผล่มาตรงนั้น”

            “โอเค แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหม?”

            “ก็… อย่างวันนี้ ตอนที่พวกเราแยกย้ายกันกลับน่ะ ขวัญรู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังเดินตามหลังอยู่ เกิดกลัวมากก็เลยรีบวิ่งหนีมาและไปชนเข้ากับพี่เขาพอดี ไม่รู้บังเอิญหรืออะไร”

            “…อาจจะบังเอิญก็ได้มั้งนะ” ถึงแม้สาวสวยอย่างนิรณาจะแปลกใจมากแค่ไหน แต่เจ้าหล่อนก็ทำเพียงเก็บความสงสัยไว้

            “คงจะอย่างที่เธอว่า…”

            “…ใช่แหละ”

            “แต่ว่าเมื่อกี้นี้… ขวัญเห็นพี่เขาเล่นกับแมวอยู่เลยแวะไปคุยด้วยสักหน่อย มือเราสองคนแตะกันด้วยแหละ ใจเรานี่…เต้นแรงมากเลย ไม่รู้ว่าพี่เรนจะได้ยินไหม… แต่มือพี่เขาอุ่นมาก”

            “…จ้ะ อันนี้อยากขิงแหละเนอะขวัญนรี” ปลายสายอดไม่ได้ที่จะถามกึ่งค่อนแคะขึ้น ทำเอาคนพูดถึงกับต้องหัวเราะออกมา

            “คิกคิก~ ขอนิดหนึ่งนะ มันยุบยิบในใจ ไม่รู้จะพูดให้ใครฟัง”

            “โอเค…”

            “หลังจากที่เผลอแตะเนื้อต้องตัวกัน ขวัญเลยรีบดึงมือตัวเองกลับ จังหวะนั้นคือทำอะไรไม่ถูก เหมือนกลับไปสิบสี่

อีกครั้ง” สาวน้อยวัยแรกแย้มยังคงพูดคุยต่อไป ตัวเธอยังคงจำได้ดีถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อตอนนั้น ทำเอาใบหน้าใสเริ่มขึ้นสีระเรื่อ

            “โอ้โฮ… ย้อนกลับไปตอนมัธยมต้นเลยนะ” นิรารีบเอ่ยแซว

            “ก็คนมันเขิน~ เราไม่รู้จะชวนคุยอะไรต่อ เพราะเงียบกันไปทั้งคู่ หันไปเห็นขนมปังที่ซื้อมา ก็เลยยื่นครัวซองต์ไปให้พี่เขาน่ะ”

            “แล้วพี่เขารับไหม?”

           “หึ… ไม่อะ พี่เรนไม่ได้รับ เห็นบอกว่า… ถ้าไม่ได้เรียกชื่อดี ๆ เหมือนจะไม่ยอมกินหรือกินไม่ได้อะไรประมาณนั้นแหละมั้ง” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยออกมาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู แต่ประโยคที่พูดมานั้น ทำเอาคนฟังถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยไม่น้อย

           “หืม… แปลก ๆ นะ เธอไม่แอบเอะใจบ้างเลยเหรอ?”

           “แปลกยังไงนิรา” ใบหน้าสวยมีเสน่ห์ทำท่าครุ่นคิดอยู่สักพัก แต่ก็ยังนึกคิดอะไรไม่ออกจึงต้องเอ่ยปากถามอย่างช่วยไม่ได้

            “ก็… ปกติไม่ต้องเรียกชื่อก็กินได้นี่นา”

            “อืม…” ขวัญนรียังคงใช้ความคิดอยู่

            “นี่จำเป็นต้องเรียกชื่อซะด้วย… มันแปลกจริง ๆ นะ”

            “ไม่หรอกง… เธออาจจะคิดมากเกินไป” เมื่อมองไม่เห็นถึงความแปลกหรือว่าผิดปกติสักเท่าไร เจ้าตัวจึงเอ่ยเพื่อตัดบท

            “ส่วนเธอ…ก็ไม่คิดอะไรเลยสินะ”

            “คิกคิก~ พูดอีกก็ถูกอีก ใช่เลย!”

            เกิดเป็นเสียงหัวเราะขบขันขึ้น เมื่อประโยคสนทนานั้นน่าขำ สองสาวจึงแย้มยิ้มเริงร่าอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยพูดต่อไป

            “เธอนี่มัน…จริง ๆ เลย…” นิรณาเอ่ยขึ้นเบา ๆ อย่างเหนื่อยใจ แต่ก็อดเอ็นดูอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะขวัญนรีนั้นช่างน่ารักน่าเอ็นดู

            “เราว่าจะวางสายแล้ว นิราควรได้พักผ่อน”

            “โอเค ขวัญก็เหมือนกันนะ รีบนอนได้แล้ว”

            “ราตรีสวัสดิ์นะ”

            “จ้ะ ราตรีสวัสดิ์”

            เมื่อเพื่อนสาวสวยตอบกลับมาเรียบร้อย นิ้วเรียวขาวก็กดวางสายไป พลางครุ่นคิดไปถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าตัวกับหนุ่มรุ่นพี่ที่อยู่ห้องตรงข้าม แต่ก็ต้องรีบกลับมาตั้งสติให้มั่นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากหน้าห้อง ร่างเพรียวระหงจึงต้องรีบลุกและเดินไปที่ประตูบานใหญ่ก่อนจะสอดส่องดูตาแมวช่องใสเล็ก ๆ ที่พอให้สังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่หน้าห้องตนได้

            “ป้าวัลย์นี่นา… ออกมาจากห้องพี่เรนงั้นเหรอ?”

            ดวงตากลมโตยังคงจ้องมองและเฝ้าสังเกตต่อไป

            “มืดจังเลยนะ ไฟก็ไม่เปิดให้มันสว่างสักหน่อย”

            และในขณะนั้น… ตากลมโตถึงกับเบิกโพลง

            “เดี๋ยวนะ… คุณป้าเขาล็อกห้องของลูกชาย…” เจ้าหล่อนเอ่ยออกมาเบา ๆ ดวงตาสีน้ำตาลสุกใสยังคงเฝ้ามองดูการกระทำของหญิงวัยกลางคนที่กำลังล็อกแม่กุญแจอยู่ห้องตรงข้ามตน

            “ช่างเถอะ พี่เรนคงไม่อยู่แหละมั้ง ไปนอนดีกว่า” ใบหน้าเนียนส่ายสะบัดไปมาก่อนจะเดินไปที่เตียงนุ่มเพื่อเข้าสู่การพักผ่อน

            ในขณะที่ร่างบางของเด็กสาวกำลังหลับใหลอยู่นั้น…

             ขวัญนรีสังเกตเห็นร่างสูงโปร่งของรุ่นพี่หน้าหล่อที่กำลังเล่นกับแมวอยู่ ราวกับเดจาวู ขาเรียวจึงก้าวเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

             “มาทำอะไรมืด ๆ อยู่ตรงนี้คะ?”

             “มาเล่นกับแมวน่ะ”

            “ทำไมถึงเป็นตอนดึกดื่นแบบนี้ล่ะ”

            “กลางคืนมันสงบดีน่ะ เหงาดีด้วย”

            “โอเคค่ะ ขวัญเข้าใจแล้ว…”

            ร่างเล็กบอบบางถึงกับตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น ใบหน้าหล่อที่ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากบริเวณหน้าผาก ขวัญถึงกับตกใจและนิ่งอึ้งไป ปากสวยพยายามจะเอ่ยพูดแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อของเหลวสีสดยังคงทะลักออกมากขึ้นเรื่อย ๆ

             เฮือก!!!

             กายขาวเนียนสะดุ้งตื่นขึ้นในทันที ใบหน้าสวยน่ารักนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมา มือเรียวยกขึ้นเช็ดออกอย่างลวก ๆ

            “ฝันงั้นเหรอ…”

            น้ำเสียงใสเอ่ยพึมพำเบา ๆ ก่อนจะลูบและสัมผัสไปที่บริเวณหน้าอกที่กำลังเต้นแรงอยู่ด้านใน สาวเจ้าค่อย ๆ สูด

ลมหายใจเข้าและผ่อนลมหายใจออก อย่างอยากจะเรียกสติให้กลับคืน

            เช้าวันต่อมา…

            เปลือกตาสีอ่อนค่อย ๆ เปิดขึ้นมาและเริ่มกะพริบเพื่อปรับการมองเห็น มือเล็กยกขึ้นลูบผมตัวเองเบา ๆ เพื่อจัดทรงให้เข้าที่

            “เมื่อคืนเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนนะ…”

            ใบหน้ามีเสน่ห์ครุ่นคิดสักพักก่อนจะส่ายสะบัดไปมา

            “ช่างเถอะ… ลุกไปอาบน้ำและหาอะไรกินดีกว่า”

            เมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้น ขาเรียวจึงลุกลงจากเตียงและก้าวเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกายให้กลับมาสดชื่นมีชีวิตชีวาดังเดิม

            ผ่านไปสักพัก…

            ร่างเล็กบอบบางเดินกลับออกมาโดยสวมใส่ชุดเรียบร้อยเสร็จสรรพ เจ้าตัวเดินไปที่เตียงเพื่อหยิบเอาโทรศัพท์เครื่องสวยหรูก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่างเพื่อหาอะไรกินคลายความหิวที่เกิด

            และสิ่งที่เธอเลือกก็คือ…ร้านตามสั่งนั่นเอง

            “ป้าคะ หนูขอกะเพราหมูกรอบไข่ดาวหนึ่งที่ค่ะ”

            เจ้าของร้านเพียงแค่พยักหน้ารับและยิ้มให้บาง ๆ ก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหารให้ลูกค้าต่อ ขวัญจึงเดินไปนั่งลงที่โต๊ะใกล้ ๆ

            “กะเพราหมูกรอบของหนูคนสวยได้แล้วจ้ะ”

            เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยเรียกตนและเมนูที่สั่ง ร่างบางจึงรีบเดินไปรับเอาจานอาหารมาไว้ในมือและเดินกลับมานั่งประจำที่เดิม

            “น่ากินจัง…”

            ปากบางเอ่ยออกมา ไม่รอช้า… สาวเจ้ารีบตักข้าวเข้าปากเพื่อลิ้มรสอาหาร ทันทีที่กลืนเสร็จ รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัวทำเอาดวงตาคู่สวยถึงกับเบิกกว้างและเป็นประกายขึ้น

            “นั่นแมวนี่นา”

            ขณะเดียวกัน ใบหน้าน่ารักก็ได้หันไปเห็นสัตว์สี่ขาที่กำลังนอนอยู่ไม่ไกล ทำให้หวนนึกไปถึงความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้น…

            “คงต้องแวะให้อาหารหน่อยแล้ว”

            เมื่อทานเสร็จ เจ้าหล่อนก็รีบเดินไปจ่ายเงินทันที เพราะตัวเธอมีจุดหมายต่อแล้ว

            “เป็นเท่าไรคะ?”

            “ของหนูห้าสิบบาทจ้ะ สแกนตรงนั้นได้เลย”

             มือขาวจัดการชำระเสร็จก็โชว์สลิปขึ้นให้ดู เจ้าของร้านจึงพยักหน้ารับ และในขณะที่เด็กสาวกำลังหันหลังและจะเดินจากไป ก็มีเสียงเอ่ยเรียกรั้งเอาไว้ ขวัญจึงต้องพุ่งความสนใจคืนมาหา

             “หนู… เอานี่ไปสิ”

             “…อาหารแมว?”

             “ป้าฝากให้อาหารแมวพวกนั้นหน่อยนะ อย่างที่เห็นว่าป้าเปิดร้านอาหาร ทั้งยุ่งและไม่ค่อยมีเวลา และลูกค้าคงไม่ค่อยโอเคเท่าไรถ้าเห็นว่าให้อาหารพวกสัตว์และกลับมาทำอาหารต่อ”

            “โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้นะคะ”

            สาวน้อยรับเอาอาหารแมวขนาดกำลังดีมาไว้ก่อนจะรีบเดินไปหาพวกสี่ขาที่ยังคงนอนอยู่ที่เดิม ไม่ยอมขยับไปไหนมาไหน

           “เจ้าเหมียว~ มากินข้าวเร็ว”

           ฝูงแมวต่างเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะจ้องมองไปยังตัวเธอ มือขาวจึงค่อย ๆ เทอาหารเม็ดลงบนพื้นที่สะอาดและไม่ค่อยสกปรก

           “กินเยอะ ๆ ให้อิ่มไปเลยนะ”

           เมื่อเห็นของกินอยู่ตรงหน้า เหล่าสัตว์น่ารักจึงเริ่มขบเคี้ยวและลิ้มรสของโปรดของพวกมันอย่างเอร็ดอร่อย ทำเอาฝ่ายคนให้ถึงกับแย้มยิ้มอย่างมีความสุขกับภาพที่ตนเองกำลังได้เห็นอยู่

           “อ้าว! หนูขวัญ… มาให้อาหารเจ้าพวกนี้เหรอ?”

           “ใช่ค่ะ ป้าวัลย์กำลังจะไปไหนเหรอคะ?”

           “ป้ากำลังจะไปทำธุระน่ะ เห็นพอดี เลยแวะมาหา ขอบคุณนะจ๊ะที่เอาอาหารให้พวกมันกินน่ะ ป้าเองก็ไม่ค่อยว่างมาให้ของกินพวกมันสักเท่าไร เห็นหนูทำแบบนี้ ป้าค่อยโล่งใจหน่อย”

           “ไม่เป็นไรเลยค่ะ หนูเห็นพี่เรนชอบเล่นกับแมว” เสียงใสเอ่ยตอบก่อนจะหันความสนใจไปที่ฝูงสัตว์สี่ขาตรงหน้าตนเองต่อ

           “…”

           “แล้ววันนี้… พี่เขาไม่อยู่เหรอคะ หนูไม่เห็นเลย?”

           “…”

           เมื่อไร้เสียงตอบกลับ ใบหน้าเนียนจึงหันกลับไปมองยังทิศที่เจ้าของหอเช่าอย่างคุณนายปฐมาวัลย์ยืนอยู่ แต่ก็ต้องงุนงงเมื่ออีกฝ่ายไม่อยู่เสียแล้ว

           หลังจากที่ให้อาหารแมวเสร็จ ร่างเพรียวก็เดินกลับขึ้นหอไป ในระหว่างที่เจ้าตัวกำลังจะเข้าห้องก็เห็นว่าประตูของหนุ่มรุ่นพี่ยังคงถูกล็อกด้วยแม่กุญแจอยู่

           “ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเหรอเนี่ย… หรือพี่เขาจะยุ่งอยู่กับการฝึกงานนะ เอาเถอะ… ไว้ถ้าเจอกันอีกค่อยลองถามดูแล้วกัน”

           หลังจากที่เข้าห้องมาแล้ว ขาเรียวก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่อจะล้างมือที่ให้อาหารและสัมผัสขนแมว ในระหว่างที่กำลังยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือและเอื้อมไปเปิดหัวก๊อกน้ำอยู่นั้น เจ้าหล่อนพบว่าน้ำไม่ไหล ขวัญนรีจึงรีบโทรศัพท์หาคุณป้าเจ้าของหอในทันที

            รอไม่นาน… ปลายสายก็กดรับ

            “ว่าไงจ๊ะหนูขวัญ?”

            “ก๊อกน้ำห้องหนูมันเสียอะค่ะ”

            “อืม… ช่างไม่ว่างซะด้วยสิวันนี้ เอาเป็นพรุ่งนี้ได้ไหมลูก เดี๋ยวป้าจะรีบให้ช่างไปซ่อมให้นะ ตอนนี้ยุ่งกันทั้งป้าและช่างเลย”

            เมื่อได้ยินดังนั้น ขวัญจึงต้องจำยอมอย่างเข้าใจ แม้จะอยากเร่งเร้าให้แก้ปัญหาโดยเร็วไวมากแค่ไหนก็ตาม

            “โอเคค่ะ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ”

            “จ้ะ ฝากวางสายให้ป้าทีหนูขวัญ”

            มือสวยกดวางสาย ก่อนจะคิดไม่ตกเกี่ยวกับเรื่องก๊อกน้ำ เด็กสาวได้แต่ปล่อยวางเมื่อไม่อาจจะแก้ไขอะไรได้มากในตอนนี้

            ก๊อก! ก๊อก!

            เสียงเคาะที่ดังขึ้นทำลายความว้าวุ่นใจที่มีอยู่ ขวัญนรีรีบตั้งสติก่อนจะเดินไปที่ประตูและเปิดออก ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทำเอาหญิงสาวถึงกับแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้เห็นหนุ่มรุ่นพี่ที่ในมือหนากำลังหิ้วกล่องอุปกรณ์และเครื่องมือช่างเอาไว้อยู่

           “ฉันขอเข้าไปหน่อยได้ไหม?”

           “ดะ…ได้ค่ะ เข้ามาเลยค่ะพี่”

           ทันทีที่ได้รับคำอนุญาตแล้ว ขายาวของชายหนุ่มก็ก้าวเดินเข้ามาในห้องของสาวน้อยก่อนจะมุ่งตรงไปยังก๊อกน้ำทุกจุดและเริ่มจัดการแก้ไขมันโดยมีร่างบางคอยมองดูอยู่ไม่ไกลมากนัก

            ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง…

            “อืม… เสร็จเรียบร้อยแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยออกมา เมื่อทดลองเปิดดูและพบว่าน้ำกลับมาไหลเป็นปกติจึงได้ปิดหัวก๊อกเอาไว้

            “…พี่เรนซ่อมเป็นด้วยเหรอคะ” เสียงใสเอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนดูเงียบ ๆ อยู่นาน ใบหน้าหล่อจึงพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยตอบ

            “ก็พอทำได้อยู่นะ”

            “ขอบคุณนะคะ ที่มาจัดการให้ขวัญ”

            สองสายตาสบมองกันอยู่สักครู่ เรนจึงเอ่ยพูดต่อ

            “ไม่เป็นไร ขอตัวก่อนนะ พอดียุ่ง ๆ อยู่”

            เอ่ยจบ ร่างสูงโปร่งก็ก้าวเดินจากไปในทันที ทิ้งให้แต่เจ้าของห้องตัวเล็กได้มองตามก่อนจะถูกประตูปิดกั้นการมองเห็นไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   ตอนพิเศษ 3 ครอบครัว

    หลังจากที่ใช้ชีวิตหลังแต่งงานอยู่กินด้วยกันมาหลายเดือน ในที่สุดขวัญนรีก็กำลังตั้งครรภ์เข้าสู่เดือนที่เก้าไปเสียแล้ว และคนที่ดูจะภูมิอกภูมิใจแลดูมีความสุขที่สุดก็คงจะเป็นว่าที่คุณพ่ออย่างฉัตรธรนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ร่างสูงกำลังนั่งรออยู่หน้าห้องคลอดอย่างใจจดใจจ่อ มือหนาชื้นเหงื่อกำเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่าหลัง จากที่หญิงสาวผู้เป็นที่รักและสิ่งมีชีวิตตัวน้อยภายในครรภ์ได้เข้าสู่กระบวนการสำคัญของแม่และเด็ก “ขอให้ปลอดภัย” เสียงทุ้มเอ่ยพึมพำเบา ๆ ขายาวลุกขึ้นก่อนจะก้าวเดินไปมาอย่างอยู่ไม่สุข ทำเอาผู้เป็นแม่อย่างคุณนายปฐมาวัลย์ถึงกับเริ่มจะวิงเวียนศีรษะจากการกระทำของลูกชาย “ใจเย็นหน่อยจ้ะ คุณพ่อ” เสียงนุ่มละมุนหูเอ่ยเตือนสติอีกฝ่าย เมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ เรนจึงค่อย ๆ สงบลง ทว่าภายในใจเขานั้นกำลังกระวนกระวายเพราะเป็นห่วงคนที่ยังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั้น “ผม… เป็นห่วงเมียและลูก” น้ำเสียงที่ฉายชัดถึงแววกังวลเอ่ยบอก หญิงสูงวัยทำได้เพียงพยักหน้ารับเบา ๆ อย่างเข้าอกเข้าใจ

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   ตอนพิเศษ 2 เข้าหอ

    หลังจากที่เข้าห้องหอมาเป็นที่เรียบร้อย สามีหนุ่มหล่อก็จูงมือเจ้าสาวคนสวยมานั่งที่เตียงสีแดงสดที่โรยด้วยกลีบกุหลาบรูปหัวใจเอาไว้อยู่ ซึ่งคนตัวเล็กก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี “ที่รักครับ พี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ” “ได้ค่ะ เราแกะของขวัญรอได้ไหม?” “ได้สิ เดี๋ยวพี่มาดูด้วยอีกทีนะหนู” เจ้าหล่อนพยักหน้ารับเบา ๆ ชายหนุ่มจึงมุ่งเดินเข้าห้องน้ำไป มือเรียวขาวเอื้อมไปหยิบของขวัญแต่งงานที่ได้จากแขกเหรื่อขึ้นมาแกะดูทีละกล่องด้วยความตื่นเต้นและรอลุ้น “อืม อันนี้ของพี่เขมสินะ” เธอเอ่ยพึมพำและเริ่มเปิดดูของที่อยู่ข้างใน และสิ่งที่ได้เห็นทำเอาขวัญนรีถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย เพราะภายในมีเสื้อผ้าเด็กทารกและของอื่น ๆ อีกหลายอย่างสำหรับลูกน้อย “พี่เขมนะพี่เขม หนูก็เขินเป็นนะ” เสียงใสเอ่ยบ่นพี่สาวอย่างไม่จริงจังมากนะ ก่อนจะหันความสนใจไปที่กล่องสี่เหลี่ยมอันถัดไปที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ “อันนี้จากนิราและตรีนี่นา เปิดเลยดีกว่า” สาวเจ้าไม่รอช้า เธอจัด

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   ตอนพิเศษ 1 แต่งงาน

    วันที่ 1 เดือนเมษายน พุทธศักราช 256x ฤกษ์งามยามดีที่ครอบครัวทั้งสองบ้านนั้น จะได้ปรองดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน เป็นวันที่คู่รักทั้งหลายต่างก็ใฝ่ฝันให้เกิด ขึ้นในชีวิตของพวกเขาในสักครั้ง วันที่จะเป็นเหมือนการประกาศถึงความรักและความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวสามี-ภรรยา ซึ่งฉัตรธรกับขวัญนรีเองก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากที่ทั้งคู่ตกลงคบหาดูใจกันเป็นระยะเวลาอันยาวนาน และวันนี้ก็มาถึง วันที่ทั้งสองจะได้เปิดเผยความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ ถูกต้องและเหมาะสม โดยมีสักขีพยานรักรับรู้ เมื่อบรรดาแขกเหรื่อมากันครบแล้ว พิธีแต่งงานจึงเริ่มต้นขึ้นโดยมีผู้เป็นมารดาของหนุ่มสาวทั้งสองฝั่งได้เดินไปจุดเทียนที่แท่นบูชาเพื่อเริ่มพิธีสำคัญนี้ หลังจากจุดเทียนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย วงดนตรีค่อย ๆ บรรเลงเพลงเพื่อต้อนรับการมาของเจ้าสาว เสียงเพลงเคล้าดนตรีที่นุ่มละมุนหูดังคลอไปทั่วทั้งบริเวณ ประกอบไปด้วยเสียงจากเปียโน ไวโอลิน และเครื่องดนตรีอื่น ๆ ที่เสียงไม่ดังโฉ่งฉ่างนัก ร่างเพรียวระหงที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวลวดลายลูกไม้ห

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   บทที่ 20 คงอยู่ตลอดไป  

    ห้าสิบปีผ่านไป… จากที่เคยเป็นสาวสวยร่างกายก็เปลี่ยนไปตามอายุและวัย ผมที่เคยสีน้ำตาลสวยบัดนี้ได้แปรผันไปเป็นสีขาวหงอก ผิวหนังที่เคยเต่งตึงก็เริ่มเหี่ยวย่นมากขึ้น ดวงตาคู่สวยเริ่มฝ้าฟางจ้องมองไปยังเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ที่นอนนิ่งอยู่บนตัก ขวัญนรีได้ผ่านช่วงเวลาอันยาวนานและมีชีวิตต่อมาอย่างสงบสุข เธอไม่ได้พบรักหรือว่าแต่งงาน เพียงแต่หลังจากเรียนจบเธอก็ทำอาชีพสุจริตและรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้เป็นบุตรบุญธรรมกระทั่งที่อีกฝ่ายได้คลอดลูกน้อยออกมาจนได้ สิบสองขวบเสียแล้ว “คุณยายคะ ช่วยเล่าเรื่องรักแรกหรือความรักของคุณยายให้หนูฟังหน่อยได้ไหมคะ หนูไม่เคยเห็นผู้ชายที่ยายรักเลยค่ะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย พลางจ้องมองไปยังมืออันอบอุ่นที่คอยลูบศีรษะอยู่ “อืม อันที่จริงก็มีอยู่คนหนึ่งนะหลาน” เสียงแหบแห้งเอ่ยบอกพลางนึกไปถึงใบหน้าหล่อใสของชายผู้เป็นที่รักและเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป แม้จะเลือนรางไม่เท่าเมื่อก่อน แต่ขวัญนรียังคงจดจำฉัตรธรได้ “โอ้โฮ รักที่มั่

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   บทที่ 19 คุณผีที่รัก

    ฉัตรธรเปิดประตูให้คนตัวเล็กได้เข้าไปภายใน ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปรอบ ๆ ด้วยความสนอกสนใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ขวัญนรีได้ก้าวเข้ามาในอาณาเขตของอีกฝ่าย “ดอกกุหลาบนั่นมันอะไรกัน?” เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาเมื่อสังเกตเห็นดอกไม้ในมือเรียวขาวของคนตัวเล็กที่ยังตื่นเต้นกับการสำรวจห้องของเขาอยู่ “อ้อ เกือบลืมไปเลยแน่ะ” “หือ? ลืมอะไรครับ” “สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ คุณผีที่รัก” เธอว่าออกมายิ้ม ๆ พร้อมกับยื่นกุหลาบขาวแทนใจส่งมาให้ ชายหนุ่มจึงรับเอาไว้ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ เบา ๆ “ขอบคุณนะครับ” “ด้วยความรักค่ะ” “ต้องด้วยความยินดีสิ” “คิกคิก ก็มันจริงนี่นา” ทั้งสองมองสบประสานกันอย่างลึกซึ้ง ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะก้มลงต่ำและโฟกัสไปที่พื้นแทน “พี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” “พี่อยู่ได้ถึงพรุ่งนี้นะหนู” ประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากหยักทำเอาคนฟังถึงกับนิ่งอึ้งตะลึงค้าง ขวัญรู้ดีว่าในสักวันหนึ่งเร

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   บทที่ 18 วันวาเลนไทน์  

    และแล้วก็มาถึง… วันที่เหล่าคนโสดนั้นแสนจะเกลียดและขยาด นั่นก็คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์นั่นเอง สองสาวเพื่อนรักที่กำลังนั่งอยู่ที่จุดชมวิวของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ในขณะที่กำลังรอตรีวิทย์เดินทางมาอยู่นั้น “เธอจะชวนฉันมาทำไม?” นิราเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคนตัวเล็ก ขวัญจึงยิ้มบาง ๆ ออกมา และเหตุผลที่ทั้งคู่กำลังอยู่ที่นี่ก็คือ เพื่อนชายเพียงคนเดียวในกลุ่มอย่างตรี ได้เอ่ยชวนเธอมาเที่ยว แต่ด้วยความที่รู้ดีว่านิรณาเองก็แอบมีใจให้อีกฝ่ายเลยชักชวนมาด้วยกัน ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะกลัวว่าขวัญจะปฏิเสธ “ก็… เรารู้นะว่าเธอชอบตรี” “ใช่แล้ว แต่ฉันก็นกนั่นแหละ” ใบหน้าสวยของเจ้าหล่อนเริ่มเศร้าสร้อยเมื่อหวนนึกไปถึงคนที่ตนเองแอบชอบ แค่คิดก็ทำเอาเจ็บจนจุก เพราะตรีวิทย์ไม่เคยเหลียวแลนิรณามากกว่าเพื่อนเลย “อย่าเพิ่งท้อสิ ลองดูก่อนนะ” ขวัญเอ่ยอย่างให้กำลังใจพร้อมกับบีบมือเพื่อนสาวเบา ๆ นิราจึงยิ้มรับอย่างขมขื่น และเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มมาถึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status