Home / โรแมนติก / พี่ผีห้องตรงข้าม / บทที่ 5   ถ้าหากมันคือเรื่องจริง...

Share

บทที่ 5   ถ้าหากมันคือเรื่องจริง...

last update Last Updated: 2025-11-01 20:31:45

             ร่างเพรียวระหงที่กำลังครุ่นคิดหนัก หลังจากที่ใช้ความคิดอยู่สักพัก หญิงสาวก็รีบก้าวเดินไปยังทิศที่อีกฝ่ายเพิ่งจะจากไป

            “ยังไงวันนี้ก็ต้องได้คุยกัน!” ขวัญนรีเอ่ยออกมาเบา ๆ

สายตาคู่สวยหันไปเห็นร่างสูงของหนุ่มรุ่นพี่ที่กำลังจะเข้าห้องพอดี เธอจึงรีบเร่งฝีเท้ามากยิ่งขึ้นจนเข้ามาใกล้ตัวของเรน…

            “เอ่อ… คุยกันสักแป๊บได้ไหมคะ?”

            “ได้สิ แล้วเธอจะคุยอะไรล่ะ…” ใบหน้าหล่อหันความสนใจมาที่ร่างบางตรงหน้าก่อนจะจ้องมองใบหน้าสวยของคนตัวเล็ก

             “…ขวัญว่าจะเลี้ยงข้าวพี่เป็นการตอบแทนค่ะ”

เสียงใสเอ่ยบอกหลังจากที่นิ่งเงียบไปสักพัก

             “…ไม่เป็นไรหรอก ฉันควรต้องทำอยู่แล้ว” เรนว่าออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ ขวัญนรีจึงไม่อยากจะคัดค้านหรือเอ่ยท้วงอะไร

             “อ้อ… โอเคค่ะ ว่าแต่…”

             “หืม…  มีอะไรเหรอ…” เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเด็กสาวดูเหมือนมีอะไรจะพูดแต่เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมเอ่ยมันออกมา

             “ช่วงนี้พี่เรนไม่ค่อยว่างเหรอคะ ขวัญไม่ค่อยเจอพี่เรนเลย” สาวสวยเอ่ยถามขึ้น เมื่อได้ยินคำตอบกลับเชิงอนุญาตจากร่างสูงโปร่ง

             “อืม ก็คงจะประมาณนั้นแหละนะ”

            “อ้อ... เข้าใจแล้วค่ะ”

            “…”

            เกิดความเงียบขึ้นปกคลุมไปชั่วขณะ…

            สาวน้อยช่างพูดจึงเอ่ยเพื่อทำลายบรรยากาศ…

            “เมื่อคืน… ขวัญฝันแปลก ๆ ด้วยค่ะ”

            “ยังไงเหรอ” หนุ่มรุ่นพี่เอ่ยถามนิ่ง ๆ ตามสไตล์

            “ขวัญฝันเห็นพี่… กำลังเล่นกับแมว เราก็เลยเดินเข้าไปทักทายตามปกติ แต่… คุยกันได้ไม่เท่าไร… หัวพี่ก็มีเลือดออกมา” ขวัญตัดสินใจเล่าไปตามตรง เพราะตัวเธอค่อนข้างเป็นกังวลและเป็นห่วงชายหนุ่มห้องตรงข้ามอย่างเขา

            “…”

            “ช่วงนี้พี่เรนระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะ”

            ดวงตากลมโตจ้องมองมาด้วยความจริงจัง ไม่มีแววแห่งการหยอกล้อ เรนถึงกับงุนงงอยู่ไม่น้อย จนต้องเอ่ยปากถามขึ้น

            “ทำไมเหรอ?”

            “ขวัญกลัวว่าจะเป็นลางบอกเหตุน่ะค่ะ”

           ใบหน้าสวยน่ารักเต็มไปด้วยความกังวลจนฝ่ายคนมองดูรับรู้ได้ เรนยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อสาวน้อยรุ่นน้องดูจะเป็นห่วงตน

           “เธอคิดมากเกินไปแล้วขวัญนรี” ฉัตรธรเอ่ยตอบหวังจะคลายความเครียดในตัวของอีกฝ่าย สาวเจ้าจึงหันไปมองสบสายตา

           “ก็… ถ้าได้เห็นแบบในความฝัน ต้องคิดมากอยู่แล้วสิ” เสียงใสเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา เพราะฝันนั้นยังเป็นภาพติดตา

           “เธอวางใจเถอะ ฉันไม่มีทางเป็นอะไรไปหรอก”

           ประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากหยักอย่างมั่นใจ ทำเอาขวัญสงสัยไม่น้อย จนเธอต้องเอ่ยถาม

           “…ทำไมพี่ถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ?”

           “เปล่า… ไม่มีอะไร…” เรนเอ่ยตอบปัด ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

           “พี่ต้องระมัดระวังนะคะ”

          “ได้สิ ฉันจะพยายามนะ”

          ดวงตาคู่คมมีเสน่ห์เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกว่ายังคงคิดมากจึงเอ่ยปากรับคำ หวังให้ร่างเพรียวได้คลายความกังวลลงไปบ้าง

          “ได้ฟังแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย”

           ใบหน้าน่ารักค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อได้รับคำมั่นยืนยัน

           “เธอ… กังวลเกี่ยวกับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”

           “แน่นอนสิคะ!”

           ประโยคหนักแน่นที่คนตัวขาวเอ่ยตอบทำเอาชายหนุ่มถึงกับอุ่นวาบไปทั่วทั้งตัวและหัวใจ เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้มีใครมาห่วงใยเขาแบบนี้ ริมฝีปากหยักจึงระบายยิ้มกว้างออกมา

           “โอเค ฉันยอมเธอแล้ว”

           “ดะ…ดีมากค่ะ!”

           ขวัญนรีถึงกับเสียอาการใจเต้นเมื่อเห็นรอยยิ้มแสนดึงดูดและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จากหนุ่มหล่อที่ยืนอยู่ตรงหน้า

           “แล้วเธอกลัวผีไหม?”

           ทันทีที่ได้ยิน… ดวงตาสีน้ำตาลสวยถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าหัวข้อสนทนาต่อไป… จะเป็นเรื่องแบบนี้

           “อะไรนะคะ!?”

           “ไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอ” เรนเอ่ยถามขึ้นตรง ๆ ไม่ได้มีเจตนาจะแซะคนตัวเล็กแต่อย่างใด เขาเพียงแค่สงสัยและแคลงใจ

           “…กลัวสิคะ!”

           “หึหึ ฉันเชื่อนะ อาการเธอมันออกขนาดนี้”

           ร่างสูงโปร่งถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบ

           “อย่าล้อสิคะ…”

           ใบหน้าใสขึ้นสีระเรื่อเมื่อรู้ตัวว่ากำลังโดนหนุ่มรุ่นพี่แกล้ง

           “ขอนิดหน่อยน่า” ชายหนุ่มว่าออกมายิ้ม ๆ

           “ว่าแต่… หอนี้มีกุ๊กกุ๊กกู๋เหรอคะ?”

           เพราะยังมีความข้องใจ เจ้าหล่อนจึงตัดสินใจเอ่ยถามออกมา แต่ทว่า… แทนที่จะได้คำตอบ กลับได้เป็นเสียงหัวเราะแทน

           “ฮ่าฮ่า กุ๊กกุ๊กกู๋งั้นเหรอ… อะไรล่ะนั่น”

           ใบหน้าหล่อใสประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างบ่งบอกชี้ชัดให้เห็นว่าเขากำลังสนุกหรือขบขันมากแค่ไหนเพราะคำว่า ‘กุ๊กกุ๊กกู๋’

           “ก็… คำเรียกของผอสระอีไงคะพี่เรน!”

           “งั้นก็คงมี…ที่ไหนก็มีผีทั้งนั้นแหละ หอนี้ก็เหมือนกัน”

           “ยะ…อย่าพูดสิคะ ฟังแล้วขนลุก…”

           ขวัญนรีเอ่ยพลางมองไปรอบ ๆ บริเวณอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

           “ทำไมล่ะ ถ้าเธอรู้ว่าที่นี่มี… เธอจะย้ายออกเหรอ?” เรนถามอย่างอยากจะลองเชิง ดวงตาของเขายังคงจ้องมองคนตัวเล็ก

           “ไอ้กลัวมันก็กลัวอยู่หรอกนะคะ แต่ถ้าย้ายออกก็ไม่ได้ค่ามัดจำที่จ่ายไปน่ะสิ เห็นแบบนี้… ขวัญก็ค่อนข้างประหยัดนะคะ” สาวเจ้าว่าออกมา ฉัตรธรจึงพยักหน้ารับช้า ๆ อย่างเห็นด้วย

           “อืม… เธอหมายถึง… รู้คุณค่าของเงิน”

           “ใช่ค่ะ กว่าจะได้มาแต่ละบาท ยากลำบากจะตาย” เสียงใสว่าออกมาอย่างจริงจัง เพราะการหาเงินและสร้างรายได้นั้นไม่ง่ายเลยสักนิด ใบหน้าหล่อใสจึงพยักหน้ารับเบา ๆ อีกครั้ง

           “ก็จริงอย่างที่เธอว่าแหละ”

           “มันก็แน่นอนอยู่แล้วสิคะพี่”

           “แต่ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ เรื่องที่ว่ามีน่ะ”

          “เอ่อ…” เด็กสาวถึงกับพูดอะไรไม่ออก

          “ฮ่า ๆ ล้อเล่น… คงไม่มีหรอกมั้ง ฉันอยู่มานานยังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง ไม่ต้องทำท่าหวาดกลัว….ตัวสั่นขนาดนั้นก็ได้นะ”

           เมื่อรู้ตัวว่าโดนคนพี่แกล้ง ร่างบางจึงรีบเอ่ยสวนกลับ

           “โอ้โฮ! หลอกและหยอกเก่งกว่าคุณผอสระอี ก็พี่เรนนี่แหละ”

           “หึหึ ดูพูดเข้าสิ” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มเอ็นดูอีกฝ่าย

           “แล้วถ้าฉันเป็นผีจริง ๆ ล่ะ?”

           “ก็คงเป็นคุณผีที่หล่อ หน้าตาดี ใจดี และอบอุ่นที่สุดในโลก!” ขวัญนรีเอ่ยตอบในทันที ทำเอาฉัตรธรยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก

           “ฮ่า ๆ เข้าใจแล้วล่ะ”

           “ขวัญพูดจริง ๆ นะคะ”

           ใบหน้าหล่อพยักหน้ารับและยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหมุนลูกบิด

           “ฉันขอตัวก่อนนะ ต้องไปทำอย่างอื่นต่อน่ะ…”

           “โอเคค่ะ ไว้เจอกันใหม่นะคะ”

            สิ้นสุดบทสนทนา ร่างสูงสมส่วนก็ได้เดินหายเข้าห้องไปและเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างบางหันหลังให้พอดี ฉับพลัน… เจ้าหล่อนที่นึกได้ว่ามีเรื่องจะถามต่อจึงรีบหันกลับไปหาอีกรอบก่อนจะพบว่าตัวของเรนได้หายไปแล้ว ดวงตากลมโตมองดูที่บานประตูก็เห็นแม่กุญแจที่ยังคงล็อกเอาไว้เหมือนก่อนหน้า แม้จะแอบสงสัยและค้างคาใจแต่ขวัญนรีก็เดินกลับเข้าห้องไป

            และวันถัดมา…

            ร่างเพรียวตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย ดวงตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาเพื่อดูเวลา ขาเรียวก้าวลงจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดชำระล้างร่างกายก่อนจะเริ่มแต่งชุด ทานข้าว และเตรียมตัวไปยังมหาวิทยาลัย

             ผ่านไปสักพัก…

             เมื่อตรวจความเรียบร้อยต่าง ๆ เสร็จ ขวัญนรีก็ลงมาที่ชั้นล่างของหอ ซึ่งมีคุณนายปฐมาวัลย์ผู้เป็นเจ้าของสถานที่นั้นยืนอยู่

            “อ้าว! มาแล้วเหรอจ๊ะหนูขวัญ?”

            “สวัสดีค่ะ ป้าวัลย์มีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงใสเอ่ยทักทายอย่างเคารพและสุภาพนอบน้อมก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

            “ก็เรื่องที่หนูโทรบอกป้าเมื่อวานน่ะสิ”

            สาวน้อยทำหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะเข้าใจในที่สุด…

            “อ้อ… เรื่องก๊อกน้ำพังนี่เอง…”

            “เดี๋ยวระหว่างที่หนูไปเรียน ป้าจะให้ช่างไปซ่อมนะ”

           ใบหน้าสวยหวานแสดงออกถึงความแปลกใจเมื่อได้ฟังที่หญิงวัยกลางคนเอ่ยบอก เพราะหนุ่มรุ่นพี่ซ่อมให้จนเสร็จเรียบร้อย

            “ไม่เป็นไรค่ะ พี่เรนซ่อมให้หนูแล้วนี่นา”

            “…”

            “หนูขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ”

            เอ่ยจบ ร่างเล็กบอบบางก็ได้เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงแต่คุณนายวัลย์เจ้าของหอพักให้เช่าที่ยังคงยืนนิ่ง ๆ งุนงงและตะลึงอึ้งอยู่

            หลังจากที่มาถึงมหาวิทยาลัยและดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ต่อไปจนเวลานั้นล่วงเลยเข้าสู่ช่วงพักกลางวัน สองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มจึงได้พากันนั่งทานอาหารที่โต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่ ต่างฝ่างต่างก็หยิบเอากล่องข้าวขึ้นมาวางไว้ก่อนจะมองกันไปมาเพื่อสำรวจดูว่าแต่ละคนเตรียมเมนูอะไรสำหรับมื้อเที่ยงนี้

            “ขวัญห่ออะไรมาเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองไปที่กล่องอาหารของคนตัวเล็ก

            “ข้าวผัดสารพัดผักและเนื้อสัตว์น่ะ” ขวัญตอบและเปิดฝาออก เผยให้เห็นเมนูข้าวผัดรวมมิตรที่มีหน้าตาสวยงามดูน่าทาน

            “โห่… น่ากินจังเลยอะ” ตรีเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้น นิรณาที่นั่งเงียบอยู่นานสองนานจึงค่อย ๆ ชะโงกหน้าขึ้นมามองดูตาม

            “นายจะลองชิมไหมล่ะ?”

            “ขอลองคำหนึ่งแล้วกัน”

            มือหนาตักอาหารก่อนจะนำไปจ่อที่ปากตนและเริ่มลิ้มรสชาติ ทำเอาคนทำตัวเธอถึงกับแอบประหม่าและตื่นเต้นลุ้นคำตอบ

            “โห่… อร่อยมาก รสชาติกำลังดีเลย” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างชื่นชมทำเอาคนฟังถึงกับตาลุกวาว รู้สึกหัวใจพองนุ่มฟูอยู่ภายในอก

            “จะ…จริงเหรอ?”

            “ใช่สิ ตรีพูดจริง ๆ ครับ”

            สาวน้อยพยักหน้ารับคำเบา ๆ

            “โอเค กินกัน เดี๋ยวต้องไปเรียนต่อแล้ว”

            สิ้นสุดคำพูดของคนตัวเล็กทั้งสามก็เริ่มลงมือทานอาหารของตนเองจนอิ่มหนำสำราญ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับช่วงบ่าย

            ผ่านไปหลายชั่วโมง…

            “เฮ้อ… จบลงสักทีนะ อยากกลับไปนอนจะแย่” เสียงใสเอ่ยคร่ำครวญออกมาเมื่อถึงเวลาที่เจ้าตัวจะได้เป็นอิสระแล้ว

            “โอ้โฮ… รู้ตัวอีกทีก็ดึกแล้วแฮะ” ตรีว่าออกมาหลังจากที่มองดูเวลา ท้องฟ้าในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำเข้มมืดสนิทไร้แสงจันทร์

            “กลับกันเถอะ” นิราเอ่ยบอกสั้น ๆ ตามสไตล์ของเธอ

            “ขวัญกลับยังไงเหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น ใบหน้าหล่อคมเข้มจ้องมองมาที่คนตัวเล็กผิวขาวอย่างไม่ละสายตา

            “เราเดินกลับน่ะ ไม่ไกลมากหรอก” สาวเจ้าเอ่ยตอบ ก่อนจะสอดส่องสายตาไปรอบ ๆ บริเวณที่เงียบเหงา ไม่ค่อยมีผู้คน

            “งั้นเดี๋ยวตรีไปส่งนะ กลับคนเดียวค่ำมืดแบบนี้มันอันตราย” ร่างสูงโปร่งเอ่ยพลางอาสาจะเดินไปด้วย ประโยคที่ฟังเหมือนเป็นห่วงเป็นใยทำเอาฝ่ายคนฟังถึงกับปฏิเสธไม่ลง

            “โอเค เอาแบบนั้นก็ได้ ขอบคุณนายมากเลยนะ”

            “ไม่เป็นไรเลย ด้วยความยินดีครับผม”

            “ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” เสียงเล็กของนิรณาเอ่ยบอกทั้งสองคนพร้อมกับหันหลังเดินจากไป ขวัญนรีจึงตะโกนตามมา

            “กลับดี ๆ นะ นิรา!”

             เมื่อสาวสวยเซ็กซี่ได้เดินจากไป ก็เหลือหนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตรีวิทย์จึงเอ่ยพูดเพื่อทำลายความเงียบงัน

             “เราก็ไปกันเถอะขวัญ”

             ใบหน้าหวานพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะเริ่มเดินนำทางโดยมีหนุ่มหล่อที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนชายคนสนิทคอยเดินตาม

มาส่ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   ตอนพิเศษ 3 ครอบครัว

    หลังจากที่ใช้ชีวิตหลังแต่งงานอยู่กินด้วยกันมาหลายเดือน ในที่สุดขวัญนรีก็กำลังตั้งครรภ์เข้าสู่เดือนที่เก้าไปเสียแล้ว และคนที่ดูจะภูมิอกภูมิใจแลดูมีความสุขที่สุดก็คงจะเป็นว่าที่คุณพ่ออย่างฉัตรธรนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ร่างสูงกำลังนั่งรออยู่หน้าห้องคลอดอย่างใจจดใจจ่อ มือหนาชื้นเหงื่อกำเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่าหลัง จากที่หญิงสาวผู้เป็นที่รักและสิ่งมีชีวิตตัวน้อยภายในครรภ์ได้เข้าสู่กระบวนการสำคัญของแม่และเด็ก “ขอให้ปลอดภัย” เสียงทุ้มเอ่ยพึมพำเบา ๆ ขายาวลุกขึ้นก่อนจะก้าวเดินไปมาอย่างอยู่ไม่สุข ทำเอาผู้เป็นแม่อย่างคุณนายปฐมาวัลย์ถึงกับเริ่มจะวิงเวียนศีรษะจากการกระทำของลูกชาย “ใจเย็นหน่อยจ้ะ คุณพ่อ” เสียงนุ่มละมุนหูเอ่ยเตือนสติอีกฝ่าย เมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ เรนจึงค่อย ๆ สงบลง ทว่าภายในใจเขานั้นกำลังกระวนกระวายเพราะเป็นห่วงคนที่ยังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั้น “ผม… เป็นห่วงเมียและลูก” น้ำเสียงที่ฉายชัดถึงแววกังวลเอ่ยบอก หญิงสูงวัยทำได้เพียงพยักหน้ารับเบา ๆ อย่างเข้าอกเข้าใจ

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   ตอนพิเศษ 2 เข้าหอ

    หลังจากที่เข้าห้องหอมาเป็นที่เรียบร้อย สามีหนุ่มหล่อก็จูงมือเจ้าสาวคนสวยมานั่งที่เตียงสีแดงสดที่โรยด้วยกลีบกุหลาบรูปหัวใจเอาไว้อยู่ ซึ่งคนตัวเล็กก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี “ที่รักครับ พี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ” “ได้ค่ะ เราแกะของขวัญรอได้ไหม?” “ได้สิ เดี๋ยวพี่มาดูด้วยอีกทีนะหนู” เจ้าหล่อนพยักหน้ารับเบา ๆ ชายหนุ่มจึงมุ่งเดินเข้าห้องน้ำไป มือเรียวขาวเอื้อมไปหยิบของขวัญแต่งงานที่ได้จากแขกเหรื่อขึ้นมาแกะดูทีละกล่องด้วยความตื่นเต้นและรอลุ้น “อืม อันนี้ของพี่เขมสินะ” เธอเอ่ยพึมพำและเริ่มเปิดดูของที่อยู่ข้างใน และสิ่งที่ได้เห็นทำเอาขวัญนรีถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย เพราะภายในมีเสื้อผ้าเด็กทารกและของอื่น ๆ อีกหลายอย่างสำหรับลูกน้อย “พี่เขมนะพี่เขม หนูก็เขินเป็นนะ” เสียงใสเอ่ยบ่นพี่สาวอย่างไม่จริงจังมากนะ ก่อนจะหันความสนใจไปที่กล่องสี่เหลี่ยมอันถัดไปที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ “อันนี้จากนิราและตรีนี่นา เปิดเลยดีกว่า” สาวเจ้าไม่รอช้า เธอจัด

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   ตอนพิเศษ 1 แต่งงาน

    วันที่ 1 เดือนเมษายน พุทธศักราช 256x ฤกษ์งามยามดีที่ครอบครัวทั้งสองบ้านนั้น จะได้ปรองดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน เป็นวันที่คู่รักทั้งหลายต่างก็ใฝ่ฝันให้เกิด ขึ้นในชีวิตของพวกเขาในสักครั้ง วันที่จะเป็นเหมือนการประกาศถึงความรักและความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวสามี-ภรรยา ซึ่งฉัตรธรกับขวัญนรีเองก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากที่ทั้งคู่ตกลงคบหาดูใจกันเป็นระยะเวลาอันยาวนาน และวันนี้ก็มาถึง วันที่ทั้งสองจะได้เปิดเผยความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ ถูกต้องและเหมาะสม โดยมีสักขีพยานรักรับรู้ เมื่อบรรดาแขกเหรื่อมากันครบแล้ว พิธีแต่งงานจึงเริ่มต้นขึ้นโดยมีผู้เป็นมารดาของหนุ่มสาวทั้งสองฝั่งได้เดินไปจุดเทียนที่แท่นบูชาเพื่อเริ่มพิธีสำคัญนี้ หลังจากจุดเทียนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย วงดนตรีค่อย ๆ บรรเลงเพลงเพื่อต้อนรับการมาของเจ้าสาว เสียงเพลงเคล้าดนตรีที่นุ่มละมุนหูดังคลอไปทั่วทั้งบริเวณ ประกอบไปด้วยเสียงจากเปียโน ไวโอลิน และเครื่องดนตรีอื่น ๆ ที่เสียงไม่ดังโฉ่งฉ่างนัก ร่างเพรียวระหงที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวลวดลายลูกไม้ห

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   บทที่ 20 คงอยู่ตลอดไป  

    ห้าสิบปีผ่านไป… จากที่เคยเป็นสาวสวยร่างกายก็เปลี่ยนไปตามอายุและวัย ผมที่เคยสีน้ำตาลสวยบัดนี้ได้แปรผันไปเป็นสีขาวหงอก ผิวหนังที่เคยเต่งตึงก็เริ่มเหี่ยวย่นมากขึ้น ดวงตาคู่สวยเริ่มฝ้าฟางจ้องมองไปยังเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ที่นอนนิ่งอยู่บนตัก ขวัญนรีได้ผ่านช่วงเวลาอันยาวนานและมีชีวิตต่อมาอย่างสงบสุข เธอไม่ได้พบรักหรือว่าแต่งงาน เพียงแต่หลังจากเรียนจบเธอก็ทำอาชีพสุจริตและรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้เป็นบุตรบุญธรรมกระทั่งที่อีกฝ่ายได้คลอดลูกน้อยออกมาจนได้ สิบสองขวบเสียแล้ว “คุณยายคะ ช่วยเล่าเรื่องรักแรกหรือความรักของคุณยายให้หนูฟังหน่อยได้ไหมคะ หนูไม่เคยเห็นผู้ชายที่ยายรักเลยค่ะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย พลางจ้องมองไปยังมืออันอบอุ่นที่คอยลูบศีรษะอยู่ “อืม อันที่จริงก็มีอยู่คนหนึ่งนะหลาน” เสียงแหบแห้งเอ่ยบอกพลางนึกไปถึงใบหน้าหล่อใสของชายผู้เป็นที่รักและเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป แม้จะเลือนรางไม่เท่าเมื่อก่อน แต่ขวัญนรียังคงจดจำฉัตรธรได้ “โอ้โฮ รักที่มั่

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   บทที่ 19 คุณผีที่รัก

    ฉัตรธรเปิดประตูให้คนตัวเล็กได้เข้าไปภายใน ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปรอบ ๆ ด้วยความสนอกสนใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ขวัญนรีได้ก้าวเข้ามาในอาณาเขตของอีกฝ่าย “ดอกกุหลาบนั่นมันอะไรกัน?” เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาเมื่อสังเกตเห็นดอกไม้ในมือเรียวขาวของคนตัวเล็กที่ยังตื่นเต้นกับการสำรวจห้องของเขาอยู่ “อ้อ เกือบลืมไปเลยแน่ะ” “หือ? ลืมอะไรครับ” “สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ คุณผีที่รัก” เธอว่าออกมายิ้ม ๆ พร้อมกับยื่นกุหลาบขาวแทนใจส่งมาให้ ชายหนุ่มจึงรับเอาไว้ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ เบา ๆ “ขอบคุณนะครับ” “ด้วยความรักค่ะ” “ต้องด้วยความยินดีสิ” “คิกคิก ก็มันจริงนี่นา” ทั้งสองมองสบประสานกันอย่างลึกซึ้ง ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะก้มลงต่ำและโฟกัสไปที่พื้นแทน “พี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” “พี่อยู่ได้ถึงพรุ่งนี้นะหนู” ประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากหยักทำเอาคนฟังถึงกับนิ่งอึ้งตะลึงค้าง ขวัญรู้ดีว่าในสักวันหนึ่งเร

  • พี่ผีห้องตรงข้าม   บทที่ 18 วันวาเลนไทน์  

    และแล้วก็มาถึง… วันที่เหล่าคนโสดนั้นแสนจะเกลียดและขยาด นั่นก็คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์นั่นเอง สองสาวเพื่อนรักที่กำลังนั่งอยู่ที่จุดชมวิวของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ในขณะที่กำลังรอตรีวิทย์เดินทางมาอยู่นั้น “เธอจะชวนฉันมาทำไม?” นิราเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคนตัวเล็ก ขวัญจึงยิ้มบาง ๆ ออกมา และเหตุผลที่ทั้งคู่กำลังอยู่ที่นี่ก็คือ เพื่อนชายเพียงคนเดียวในกลุ่มอย่างตรี ได้เอ่ยชวนเธอมาเที่ยว แต่ด้วยความที่รู้ดีว่านิรณาเองก็แอบมีใจให้อีกฝ่ายเลยชักชวนมาด้วยกัน ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะกลัวว่าขวัญจะปฏิเสธ “ก็… เรารู้นะว่าเธอชอบตรี” “ใช่แล้ว แต่ฉันก็นกนั่นแหละ” ใบหน้าสวยของเจ้าหล่อนเริ่มเศร้าสร้อยเมื่อหวนนึกไปถึงคนที่ตนเองแอบชอบ แค่คิดก็ทำเอาเจ็บจนจุก เพราะตรีวิทย์ไม่เคยเหลียวแลนิรณามากกว่าเพื่อนเลย “อย่าเพิ่งท้อสิ ลองดูก่อนนะ” ขวัญเอ่ยอย่างให้กำลังใจพร้อมกับบีบมือเพื่อนสาวเบา ๆ นิราจึงยิ้มรับอย่างขมขื่น และเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มมาถึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status