Home / วาย / พุดซ้อนสลัดได / สลัดไดต้นที่สอง

Share

สลัดไดต้นที่สอง

last update Last Updated: 2025-02-07 21:26:40

“ยังไงฉันก็ไม่ยอมเด็ดขาดค่ะ”

เสียงโวยวายดังสวนขึ้นทันทีหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยค

“ไหนคุณลองให้เหตุผลมาสิครับว่าทำไม”

เจ้าของตาคมสีเฮเซลเอ่ยถามหัวหน้าการตลาดสาวด้วยแววตานึกสนุก

“พี่อาทิตย์เตรียมแผนงานมาตั้งนานอีกแค่หนึ่งเดือนก็ถึงวันเปิดตัวแล้วไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่ออกไปก่อนอีกแบบนี้ไม่แย่ไปหน่อยเหรอคะนี่ผ่านการคิดมาแล้วเหรอ”

หลายคนไม่พอใจกับท่าทางเย่อหยิ่งกับคำพูดหักหน้าเจ้านายที่พวกเขาเคารพรัก แต่ต้องเก็บอาการไว้เพียงเพราะอีกฝ่ายคือน้องสาวสรัลผู้เป็นสามีของชายหนุ่ม 

แล้วยิ่งหงุดหงิดใจที่ผู้ถูกกระทำไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจหรือเป็นเป็นเดือดเป็นร้อนสักนิดซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาแต่ไม่เคยชินเสียที ทำไมครั้งนี้มันรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆกับรอยยิ้มที่ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั่น

“ไม่เอาน่าริน”

สรัลเอ่ยปรามน้องสาว

“ทำไมก็รินพูดเรื่องจริง”

สิรินยังคงลอยหน้าลอยตาเพราะถึงยังไงพี่ชายของเธอก็ไม่ได้ปรามแบบจริงจังอยู่แล้ว

“นั่นสิครับวินมันกระชั้นชิดไปหรือเปล่านี่ทางนั้นเขาก็เริ่มเตรียมงานให้เราแล้วเพราะของตกแต่งบางชิ้นต้องนำเข้าจากต่างประเทศด้วยบริษัทออแกไนซ์ของพี่อาทิตย์อาจจะฟ้องเรากลับได้นะ”

“อืมที่พวกคุณพูดก็ถูกนะ”

สิรินยิ่งลำพองใจที่เห็นพี่สะใภ้แสนโง่เง่าผู้เป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอยังคงเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูดไม่ได้นึกเอะใจกับรอยยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตาและสรรพนามที่เปลี่ยนไปยามที่อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมา

“คุณมินตราครับ”

คนเป็นเลขารู้ใจเจ้านายโดยไม่ต้องกล่าวอะไรเพิ่มก็มีแฟ้มเอกสารมาวางตรงหน้าสิรินทันที

ฟุบ

“นี่อะไรคะ”

“นั่นสิครับ ผมก็อยากถามคุณสิรินเหมือนกัน”

สรรพนามการเรียกที่แปลกไปของหัสวีร์สะกิดใจสรัลอยู่ไม่น้อยแต่ไม่ใช่กับสิรินที่คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าเสมอ

“ก็แค่งบการตลาดของไตรมาสแรกนี่จะเอามาทำไมอีก”

“ใช่ครับ คุณสิรินดูดีๆสิครับว่าอะไรแปลกไปนี่ยังไม่รวมกับงบที่ใช้จัดงานประมูลในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเลยนะ”

“ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกแถมงบก็สรุปเรียบร้อยแล้วนี่คะ”

ทั้งที่พูดด้วยความมั่นใจออกไปแบบนั้นแต่สิรินเริ่มรู้สึกหวั่นใจยังไงบอกไม่ถูกเพราะมีชนักติดหลังอยู่ยิ่งมองหัสวีร์ที่กำลังส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ยิ่งเสียวสันหลังแปลกๆ แต่ก็สลัดความคิดนั้นออกไปแล้วไงล่ะเธอมีพี่ชายหนุนหลังอยู่จะกลัวอะไร

“นั่นสินะครับเอาเป็นว่าคุณไปแก้ต่างที่ศาลแล้วกัน”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดฉันไม่ไป พี่รันคะดูภรรยาของพี่สิกำลังปรักปรำรินอยู่

สิรินเสียงแข็งก่อนที่หันไปทางผู้เป็นพี่ชายด้วยความความเอาแต่ใจเหมือนเคย

“วินครับ นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้นะ”

ผู้เป็นสามีเอ่ยกับคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเอาน้ำเย็นเข้าลูบเหมือนเคยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นใจอ่อนก็เขาเสมอ ไม่เคยคาดคิดว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับครั้งนี้

“ผมไม่ยักรู้ว่าคุณสรัลเห็นด้วยกับการยักยอกทรัพย์ของบริษัทไปเป็นทรัพย์สินส่วนตัว”

หัสวีร์ยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาทั้งที่ในใจอยากจะหั่นอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆก็ตาม 

แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้สรัลไม่กล้าแก้ตัวอะไรให้กับน้องสาวตัวเองอีก แต่เจ้าตัวยังคงหาวิธีช่วยอย่างแน่นอน ค่อยไปหว่านล้อมหัสวีร์ทีหลังแล้วกันอย่างไรอีกฝ่ายก็รักและตามใจเขาอยู่แล้ว

“โอเค เลิกประชุมได้”

“แกจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้กลับมาเดี๋ยวนี้นะ พี่รันปล่อยริน”

เสียงสิรินลอยออกมาจนกระทั่งประตูห้องประชุมปิดสนิทถึงได้เงียบไปไม่ใช่เพราะเลิกโวยวายเหมือนคนบ้าแต่มันเป็นห้องเก็บเสียงทุกคนเลยไม่ต้องปวดประสาทกับเสียงนั้น

ภายในห้องตอนนี้เหลือเพียงสรัลและสิริน

“ใจเย็นริน อย่าทำให้พี่เสียเรื่อง”

“รินไม่เย็นมันมีสิทธิ์อะไรมาทำกับรินแบบนี้เงินแค่ไม่กี่ล้านเอง พี่รันต้องจัดการให้รินนะ”

“เดี๋ยวพี่จัดการให้แล้วรินอย่าเรียกวินว่ามันอีก”

“ทำไมอย่าบอกนะว่าพี่เริ่มรักมันแล้วน่ะ รินจะฟ้องพี่เมษ”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะริน ควบคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยสิรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรออกมา”

คนเป็นน้องสาวกำลังจะเถียงต่อแต่เห็นสรัลที่เสียงแข็งทำหน้าจริงจังเลยทำได้แค่ฮึดฮัดเดินตึงตังออกจากห้องไป ผู้เป็นพี่ชายได้แต่ส่ายหน้ากับความเจ้าอารมณ์จากการถูกสปอยจนเคยตัวมาตั้งแต่เด็ก

พอนึกถึงท่าทีของภรรยาเมื่อครู่สรัลค่อนข้างแปลกใจแต่ไม่ได้หนักใจนักเพราะหัสวีร์หัวอ่อนเชื่อฟังเขาอยู่แล้ว

ณ กรุ๊ปไลน์เม้ามอยออฟฟิตกลุ่มลับ (สมาชิก 12 คน)

ติ้ง!

เอมม่า : แกเอ้ยเมื่อกี้ฉันโคตรสะใจเลยว่ะ

ซี : เออจริง ฉันไม่เคยเห็นคุณวินเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

มิ้ว : โอ๊ย แทบอยากลุกขึ้นมารำฉุยฉายถวายเจ้าที่ค่า สาธุ99

เพชร : +1 สาคู99 

โอเล่ : @เอมม่า แกว่าเพื่อนรักจะโดนไรมะ

เลย์ : @เอมม่า ใช่ๆเพื่อนรักแกอ่ะ

เอมม่า : @โอเล่ @เลย์ เพื่อนรักบ้านป้าแกสิ

เลย์ : ฮิฮิ

โรส : คุณวินเอาจริงไหมวะรอบนี้

มิ้ว : เอาจริง แต่ผลเปลี่ยนไหมไม่รู้ถ้ามีคนช่วยพูดให้น้องสาวตัวเอง

ซี : +1 ทำไมคนดีๆอย่างคุณวินต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ

มินตรา : อะแฮ่ม

เอมม่า : เจ๊มาแล้ว ตลาดวายด่วน

โรส : หลังเลิกงานเจอกันร้านหมูกระทะลุงฉุยนะ

มินตรา : ตามนั้น

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เชิญครับ”

ผู้เป็นเจ้าของห้องที่กำลังยืนมองวิวตึกสูงถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง

“เย็นนี้ไปดินเนอร์กับพี่นะครับ”

“ทำไมครับจะมาพูดแก้ตัวแทนน้องสาวเหรอ”

หัสวีร์ยืนนิ่งโดยที่ไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะเขากลัวใจอ่อนแต่กลัวว่าจะซ่อนแววตาขยะแขยง เคียดแค้นจนอยากฆ่าตัวปรสิตพวกนี้ให้ตายไม่มิดต่างหาก

“ที่รักลืมวันครบรอบของพวกเราแล้วเหรอครับ”

นั่นสินะเกือบลืมไปได้ยังไงในเมื่อวันครบรอบเป็นจุดเริ่มต้นของการนับถอยหลังสู่หายนะของลักษิกาเจ็ม อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าและยังเป็นจุดแตกหักที่ไม่มีทางเหมือนเดิมได้ของเขากับน้องสาว

“วินทำงานจนลืมไปเลยน่ะครับ”

หัสวีร์หลับตาเพื่อปรับอารมณ์ก่อนที่จะหันไปยิ้มบางให้กับคนที่เอาคางเกยกับไหล่เขาทั้งที่ยืนกอดไปด้วยจนแก้มชนกับจมูกของอีกฝ่ายก่อนที่สรัลจะค่อยๆจับตัวของคนรักให้หันมาเผชิญหน้ากันพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ละมุนว่า

“ทำงานหนักจนลืมนัดเราอีกแล้วนะครับ”

พร้อมกับจับมือข้างที่มีแหวนแต่งงานมาจรดปากลงไปอย่างทะนุถนอม

“พรุ่งนี้พี่รันมีไฟลท์เช้าไม่เป็นไรก็ได้นะครับ ไว้ค่อยกลับมาฉลองกันเดี๋ยวจะเหนื่อยเอา”

“วันสำคัญของพวกเราไม่มีคำว่าเหนื่อยเลยครับให้พี่ใช้แรงกับวินทั้งคืนก็ยังไหว”

เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของหัสวีร์โอนอ่อนตามเขาเหมือนเคยเลยพูดเรื่องสำคัญอีกเรื่อง

“วินครับเรื่องที่รินยักยอกไปเดี๋ยวพี่จะชดใช้ทั้งหมดให้เองอย่าดำเนินคดีเลยนะ”

ขณะที่พูดก็สังเกตท่าทีของคนรักไปด้วย

“ได้สิครับ”

เมื่อได้ยินการตอบรับที่ดีกลับมาสรัลจึงดึงหัสวีร์มากอดไว้ด้วยความดีใจและโล่งอก พลางคิดหาวิธีไม่ให้น้องสาวตัวดีก่อเรื่องขึ้นอีก

“ขอบคุณนะครับ ที่รักของพี่แสนดีที่หนึ่งเลยจะไม่ให้รักขนาดนี้ได้ยังไง”

โดยไม่ได้รับรู้ว่าภรรยาที่ตนสวมกอดอยู่นั้นแววตาเปลี่ยนประกายความเลือดเย็นทันทีในขณะที่อีกฝ่ายพูดทั้งจิกมือตัวเองจนห้อเลือดอย่างสะกดกลั้น

นั่นสิครับจะให้การรับโทษเป็นหน้าที่ของกฎหมายได้ยังไงในเมื่อมันเบาไปไม่สาสมใจเขาเลยนี่นะ

หัสวีร์จำได้ว่าวันนี้สรัลต้องถูกเรียกตัวไปหาใครบางคนระหว่างที่ดินเนอร์กันกับข้ออ้างที่ว่า

“พอดีแม่โทรมาบอกว่ารินปวดท้องมากขอให้พี่พาไปโรงพยาบาลหน่อย”

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับงั้นเราไปด้วยกันเลยดีกว่า”

“ที่รักอยู่นี่ทานให้อิ่มนะพี่สัญญาว่าจะกลับมาชดเชยให้”

“ไม่เป็นไรครับวินเข้าใจพี่ไปเถอะ”

ชาติที่แล้วเขานี่โง่จริงๆว่าคนที่สรัลไปหาไม่ใช่สิรินแต่เป็นเมธัสต่างหาก ไประเริงรักในวันครบรอบแต่งงานในขณะที่หัสวีร์ต้องดินเนอร์เพียงลำพัง โชคดีที่หัสวีร์ วัชรอมรเมฆ ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ย้อนเวลากลับมาในวัย 27 ปี หลังลืมตาตื่นขึ้นมาเช้านี้พร้อมกับอ้อมกอดที่แสนรังเกียจบนเตียงนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน กลับมาก่อนที่หายนะใหญ่ครั้งแรกอีกหนึ่งเดือนข้างหน้ากำลังจะเกิดขึ้น

Send message

สี่ทุ่มเจอกันที่สนามหวังว่าจะได้รับข่าวดีนะครับ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พุดซ้อนสลัดได   สลัดไดต้นที่สามสิบสาม (END)

    “ปล่อยกู!”เซฟเฮ้าส์ส่วนตัวย่านชานเมืองไม่ไกลจากสนามแข่งรถ Steed King มากนัก ห้องใต้ดินที่ถูกซ่อนตัวปรากฏเงาร่างกำยำเปลือยเปล่าของมาเฟียต่างวัยถึงสองคนถูกพันธนาการด้วยโซ่ล่ามทั้งแขนขากำลังถูกมดแดงหลายรังที่จิตรกรสั่งให้มาโปรยที่พื้นไต่ขึ้นตัวและกัดจนจุดแดงขึ้นเป็นจ้ำโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งส่วนอ่อนไหวกลางกลายด้วยแล้วกรีดร้องแทบจะทุกครั้งที่ปากเล็กเจาะผิวเนื้อจนน้ำตาเล็ดและคนที่โดนเยอะสุดคงหนีไม่พ้นมู่ตงเฉิงที่ตอนนี้มีสภาพราวกับศพ ลมหายใจแผ่วเบาใกล้ตายเต็มที เพราะแผลจากคมกระสุนที่ไม่ได้รับการรักษาห้ามเลือดแล้วระหว่างที่รอนายน้อยตระกูลมู่ตามล่าจางเฟิงก็ผ่านไปหลายชั่วโมงอวัยวะเพศบวมเป่ง เลือดไหลอาบย้อมแดงฉานมีทั้งจุดที่แห้งกรังและเป็นลิ่ม“แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอจางเฟิง”จิตรกรเดินเข้ามาในห้องนั่งลงไขว่ห้างมองใบหน้าคับแค้นใจของมาเฟียใหญ่ที่ถูกเอาตัวกลับมาจัดการในไทยมีเพียงกระจกกั้นเท่านั้นด้วยแววตาเย็นชา“ไอ้จิตรกร แน่จริงก็ฆ่ากูเลยสิวะ”ความรู้สึกของการพ่ายแพ้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเป็นสิ่งที่เจ้าของดวงตาสีขี้เถ้ายอมรับไม่ได้ว่าตัวเองจะตกต่ำจากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อน่าสมเพศเสียเอง เคียดแค้

  • พุดซ้อนสลัดได   สลัดไดต้นที่สามสิบสอง

    จำเลยหมายหัว คนที่ 0 และ 4จางเฟิง/วิคเตอร์สถานะ : มาเฟียหนึ่งในสามผู้ทรงอิทธิพลเจ้าของธันเดอร์เลค คาสิโน ผู้ค้าอาวุธเถื่อนและสร้างองค์กรค้ามนุษย์ในฮ่องกงมู่ตงเฉิงสถานะ : บอสมาเฟียสายรองตระกูลมู่ความผิด : ร่วมมือกันฆ่าและกวาดล้างตระกูลมู่สายหลักเพื่อจะได้รวบอำนาจเข้ตระกูลจาง (คดีเก่า), ร่วมมือกันจับจิตรกรเพื่อกำจัดกับหัสวีถูกฉีดสารเสพติดเพื่อกระตุ้นความต้องการก่อนลงมือข่มขืน (คดีใหม่)จางเฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้นำมาเฟียตระกูลจางอย่างจางเฟยหลงเจ้าของดวงตาสีขี้เถ้าซึ่งถอดนิสัยความโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรมจากผู้เป็นพ่อทั้งหมดและดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าด้วยซ้ำฆ่าคนครั้งแรกในวัย 8 ปี ด้วยด้ามปากกาแหลมแทงหัวใจเพื่อนร่วมชั้นเพียงเพราะอีกฝ่ายไม่แบ่งของเล่นให้แถมยังหัวเราะชอบใจมองดูการกระตุกเกร็งจนแน่นิ่งพี่เลี้ยงที่ดูแลล้วนเปลี่ยนรายวันเพราะหายสาบสูญทันทีโดยไม่ต้องมีเหตุผลเพียงแค่หายใจก็กลายเป็นคนผิดได้วัย 11 ปี วางยาอาจารย์ประจำชั้นเพราะถูกตักเตือนเรื่องที่เอาเท้ามาวางพาดไว้บนโต๊ะในขณะที่สอนอยู่วัย 14 ปี สั่งให้ลูกน้องไปฉุดรุ่นพี่เดือนโรงเรียนมาข่มขืนและส่งต่อให้ลูกน้องรุมโทรมจนขา

  • พุดซ้อนสลัดได   สลัดไดต้นที่สามสิบเอ็ด

    ทันทีที่จิตรกรมาถึงหน้าประตูธันเดอร์เลคคาสิโนก็พบกับเหล่าลูกน้องมาเฟียร่วมร้อยคนพร้อมอาวุธครบมือประจัญหน้าต้อนรับเขาอย่างดีใบหน้าคมมองอย่างเย็นชาครั้งนี้ชายหนุ่มก็พาคนมากฝีมือมาไม่น้อยเช่นกันทั้งของตัวเองและตระกูลมู่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นทันทีที่นายน้อยตระกูลมู่ยิงแสกเข้ากลางหน้าผากคนที่คาดว่าเป็นระดับหัวหน้าตายคาที่เมื่อมีการปะทะก็ย่อมมีการสูญเสียและฝ่ายจิตรกรนั้นล้วนเต็มใจเพราะที่ตามมาแทบทั้งสิ้นมีความแค้นฝังหุ่นกับจางเฟิง เมื่อไม่มีกำลังย่อมบุกมาทวงคืนไม่ได้แต่ตอนนี้มีโอกาสก็ลุยทันที คงจะเป็นฝั่งคาสิโนมากกว่าที่เสียเปรียบเพราะสายที่แทรกซึมอยู่ในกลุ่มมาเฟียเกือบครึ่งในนี้จากปลายกระบอกปืนและคมมีดที่หันมายังคนนอกที่บุกรุก อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอเพราะเพื่อนข้างกายเจอหน้ากินดื่มอยู่ทุกวันแทงลึกหมุนบิดจนคอเกือบขาดอย่างไร้ความปราณีกระสุนที่ออกจากรังเพลิงทุกลูกล้วนเข้าเป้าพลั่กขายาวถีบชายฉกรรจ์ที่ถูกคมมีดปักตัดขั้วหัวใจดวงตาเบิกโพลงร่างกระตุกเกร็งให้พ้นทางโดยไม่ได้ให้ความสนใจอีกก่อนเดินเข้าลิฟท์ไป“เกะกะ”ระหว่างทางที่ขึ้นกบด้านก็มีพวกลูกสมุนมาเฟียเข้ามาขัดขวางอยู่เรื่อยๆแต่ก็ถูก

  • พุดซ้อนสลัดได   สลัดไดต้นที่สามสิบ

    ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว“หาตำแหน่งเจอหรือยัง”น้ำเสียงเคร่งขรึมพร้อมกับทำแผลที่ถูกคมกระสุนไปด้วยถามชยุตลูกน้องคนสนิททันทีหลังจากออกคำสั่งนำตัวมู่ตงเฉิงไปขังไว้แล้วรีบไปช่วยหัสวีร์“ตอนนี้คุณวินอยู่ใกล้กับสมุทรปราการเป็นพื้นที่ส่วนตัวขนาดใหญ่ครับห่างจากที่นี่เกือบหนึ่งชั่วโมงครับ”“ฉันให้เวลาครึ่งชั่วโมงต้องไปถึงที่นั่น”“ครับ”จิตรกรรอไม่ได้แล้วเขาเสียเวลาที่นี่มามากพอแม้คนของมาร์ติโนจะนำไปก่อนหน้านั้นก็ตามชยุตค้นหาเส้นทางลัดจากดาวเทียมทันทีที่สิ้นสุดคำสั่งหากว่าเขาทำไม่ได้คงหลุดออกจากตำแหน่งแน่นอนรถยนต์แล่นด้วยความเร็วมิดไมล์ประหนึ่งติดปีกบินแต่ถึงยังไงก็ไม่ทันใจเจ้าของดวงตาสีรัตติกาลอยู่ดีตอนที่มาถึงลูกน้องของมาร์ติโนได้เคลียร์ทางไว้หมดแล้วซึ่งเป็นการซุ่มโจมตีโดยที่ไม่ให้คนข้างในรู้ตัวเพราะกลัวนายน้อยตระกูลเฉินจะเป็นอันตรายแม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคลจำนวน 50 ไร่ที่ไม่มีคนหาเจอแต่ก็สมเป็นจางเฟิงที่ยังรอบคอบ ลูกน้องที่เฝ้ากะจากสายตาไม่ต่ำกว่า 50 คนแน่นอนส่วนมาร์ติโนมาถึงทีหลังจิตรกรไม่กี่นาทีมาถึงตัวบ้านมีคนเฝ้าอยู่สองคนด้านหน้าจิตรกรพร้อมกับชยุตตรงเข้าไปจัดการโดยไม่ให้

  • พุดซ้อนสลัดได   สลัดไดต้นที่ยี่สิบเก้า

    เย็น?ชื้น?รำคาญจังไปให้พ้นนะเจ็บเฮือกความเจ็บจี๊ดที่ลำคอทำให้หัสวีร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาเปลือกตาสีอ่อนกระพริบถี่เพื่อปรับโฟกัส กลุ่มผมสีดำของใครบางคนกำลังสัมผัสกับแก้มขวาคือสิ่งแรกที่เห็นลิ้นร้อนที่ไล้อยู่ตรงคอขาวพร้อมขบกัดเนื้ออ่อนจนเจ็บแปลบคือสิ่งสองที่รู้สึก ไอ้บ้าเอ้ยใครวะเนี่ยจำได้ว่าพอไปถึงท่าเรือเฉลิมกิจแล้วชายคนรักขอแยกตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนเพราะสนามแข่งมีปัญหา หัสวีร์เดินมาถึงเรือขนส่งสินค้าของตัวเองซึ่งมีลูกน้องคอยเช็คอยู่หน้างานอยู่แล้วแต่สิ่งที่แปลกใจคือไม่คุ้นหน้าแถมยังทำท่าทางมีพิรุธราวกับไม่คาดคิดว่าเขาจะมาแล้วจริงดั่งคาดเพราะสายตาเหลือบไปเห็นอีกฝั่งที่ไม่ไกลกันนักกำลังถ่ายสินค้าแต่บรรจุภัณฑ์ที่ตีลังป้องกันความเสียหายไม่ใช่ของลักษิกาเจ็ม ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำขึ้นเองล้วนจดจำง่ายเพราะบทเรียนจากชีวิตที่แล้วพอรู้ว่าถูกจับได้ฝ่ายนั้นจึงละทิ้งงานไม่ได้มาเผชิญกับเขาโดยตรงแต่กลับวิ่งหนีไปทางตู้คอนเทนเนอร์เปล่าด้วยความคิดที่ว่าหากจับได้หนึ่งคนแล้วมาเค้นหาความจริงจะได้รู้ว่าใครเป็นคนสั่งการโดยขาดการไตร่ตรองถึงอันตรายข้างหน้าจึงวิ่งไล่ตามไป ทันทีที่เข้าไปในดงตู้เปล่าชายคน

  • พุดซ้อนสลัดได   สลัดไดต้นที่ยี่สิบแปด

    ท่าเรือเฉลิมกิจ เป็นท่าขนส่งทางน้ำที่มีสำคัญในภาคตะวันออกซึ่งธุรกิจหลายประเภทเลือกใช้บริการเพื่อจัดส่งสินค้าไปยังต่างประเทศเพราะหากมีสินค้าในปริมาณที่มากการขนส่งทางน้ำย่อมมีค่าใช้จ่ายถูกลงกว่าขนส่งทางอากาศถ้าไม่ใช่สิ่งที่บูดเสียง่ายแทบทุกเจ้าย่อมเลือกการขนส่งทางเรือตอนนี้หัสวีร์และจิตรกรเดินทางมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงพากันเดินเข้าไปทันทีแต่ในระหว่างนั้นมีสายเรียกเข้าจากทีมช่างที่ Steed King คนพี่จึงปลีกตัวออกมาคุยด้านนอกพอเสร็จเรียบร้อยจึงตามเข้าไปแต่กลับหาคนรักไม่เจอ โทรหาแล้วไม่รับสายจนร้อนใจเพราะหากไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือมาก็ยังมีสมาร์ทวอทช์ติดตัวซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะไม่ได้ยินเห็นพนักงานที่กำลังขนของอยู่แถวนั้นจึงเข้าไปสอบถาม“คุณครับเห็นผู้ชายใส่สูทสูงประมาณนี้ดวงตาสีทองไหมครับ”“เอ คนที่ใส่ชุดสีกรมท่าไหมครับ”“ใช่ครับ”“ผมเห็นเขาเดินไปทางนั้นนะ”ชายหนุ่มเดินมาเรื่อยๆแต่กลับไม่พบใครมีแค่ตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงอยู่เต็มไปหมดรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลและเป็นห่วงคนน้องมากอย่างนึกเจ็บใจตัวเองว่าประมาทเกินไปวินน้องอยู่ไหนนะ นิ้วเรียวกดโทรหามาร์ติโนเพื่อค้นหาตำแหน่งของหัสวีร์แต่ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status