การันต์กันธีต์

การันต์กันธีต์

last updateLast Updated : 2025-10-17
By:  โบกรOngoing
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
50Chapters
11views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เรื่องราวของ 'ไอ้กาน' นักศึกษาทุนมหาลัยคิงส์เวล มหาลัยเอกชนชื่อดังระดับประเทศที่วันดีคืนดีดันขี่มอเตอร์ไซค์ไอ้นวลลูกรักไปเฉี่ยวเข้ากับรถสปอร์ตหรูสีเหมือนขี้ ก่อนที่เจ้าของรถที่มีผมสีเดียวกับรถจะเรียกร้องค่าเสียหายของกระจกข้างเดียวถึง 8 แสนบาทไทย นำมาซึ่งการให้ไอ้กานมาช่วยทำวิจัยจบ เพราะไอ้รุ่นพี่หัวขี้มันดันเรียนมหาลัยเดียวกับเขา แถมยังอยู่คณะเดียวกันอีกด้วย งานนี้พรหมลิขิตหรือจะสู้ส้นเท้าลิขิต ชีวิตที่เคยสงบสุขของไอ้กานต้องพังลงเมื่อรู้จักกับรุ่นพี่ปี 8 อย่าง 'ไอ้ธีต์' ไอ้หัวขี้ที่เขาเหม็นขี้หน้ายิ่งกว่าขี้ในส้วม

View More

Chapter 1

ปฐมบท

07:25 น.

“ฉิบหายแล้วไอ้กาน!”

เสียงร้องด้วยความตกใจดังออกมาจากเรียวปากนุ่มของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดนอนตัวเก่าที่สวมใส่มาหลายปีจนคอเสื้อนั้นย้วยลงมาเผยให้เห็นหัวไหล่เนียน แววตาแตกตื่นเบิกกว้างก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนขนาด 3 ฟุตในห้องเช่าสี่เหลี่ยมเท่ารูหนู แล้วนำพาร่างกายของตัวเองวิ่งหน้าตั้งไปยังตู้เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่เพียงแค่ก้าวขายาว ๆ สองก้าวจากเตียงนอนก็มาถึง

ฝ่ามือใหญ่เปิดตู้เสื้อผ้าออกกว้าง สีหน้ายังคงความกังวลเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาแขวนบนผนังประตูห้องน้ำ บ่งบอกว่าเขามีเวลาอีกแค่ 35 นาทีในการแต่งตัว พร้อมกับขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปมหาลัยเพื่อให้ทันเข้าสอบตอน 8 โมงเช้า

“อาบน้ำตอนนี้ไม่ทันแน่มึง ซักแห้งเลยแล้วกันวะ”

คิดได้ดังนั้น เจ้าตัวจึงคว้าหมับเข้าที่เสื้อนักศึกษาตัวเก่งที่ใส่ซ้ำมาแล้วถึง 2 ปีซ้อน แน่นอนว่าสีของมันดูซีดเซียว แต่เจ้าของยังคงรักษาความสะอาดด้วยการซักมือและรีดจนเรียบอยู่สม่ำเสมอ

เสื้อนักศึกษาสีขาวแขนยาวถูกสวมใส่ลงบนตัวในเวลาอันรวดเร็ว เช่นเดียวกับกางเกงขายาวสีดำที่ถูกใส่ทับกางเกงบ็อกเซอร์ตัวโปรด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ลืมที่จะวิ่งเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน พร้อมใช้น้ำสะอาดถูหน้าไปสองสามทีเพื่อล้างคราบขี้ตาออกจากหน้าเสียหน่อย

“โทรศัพท์แม่งเก่าจนไม่ปลุกเลยเหรอวะ”

การันต์ หรือ กาน นักศึกษาทุนเรียนดีชั้นปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาลัยคิงส์เวล บ่นกับตนเองเมื่อเขาสวมชุดนักศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์รุ่นอาม่าที่วางอยู่ข้างหมอนใบเก่าขึ้นมามองไปบนหน้าจอ โทรศัพท์ปุ่มกดที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากหลวงตา สภาพของมันแม้จะไม่ได้ใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟนของผู้คนในยุคสมัยนี้ แต่ถึงอย่างนั้นไอ้จิ๋วของเขามันยังใช้โทรออก และรับสายได้ตามปกติ เว้นเสียแต่ว่าการตั้งปลุกอาจจะต้องลุ้นเป็นลูกผีลูกคนกันในแต่ละวัน เพราะวันดีคืนดีมันปลุก แต่ในบางวันกลับไม่ปลุกเลยก็มี…เช่นวันนี้

แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่เคยน้อยใจในโชคชะตากับการที่เขาต้องเติบโตมาในฐานะของเด็กกำพร้าที่ถูกนำไปทิ้งไว้หน้าประตูวัดตั้งแต่อายุได้เพียง 3 เดือนเศษ และนับตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งตอนนี้ที่อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เขาเติบโตมาได้จากการเลี้ยงดูของหลวงตา แถมยังได้ทุนเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของประเทศที่ผู้คนใฝ่ฝันอยากเข้าเรียนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของไทยอีกต่างหาก

นับตั้งแต่เขาสอบติดมหาลัยคิงส์เวล จากเดิมที่เคยอาศัยวัดในการหลับนอน จึงเอ่ยปากขออนุญาตกับหลวงตาออกมาเช่าหอพักที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยแทน เพราะระยะทางจากวัดมาถึงมหาลัยนั้น ค่อนข้างไกลพอสมควร ซึ่งหลวงตาท่านก็เข้าใจดี แต่ขอให้เขารักษาเนื้อรักษาตัว โดยตลอดระยะเวลาที่ออกมาอยู่หอนั้น เขาไม่เคยรบกวนเงินจากหลวงตาอีกเลย อาศัยทำงานพิเศษตอนเย็นอย่างพวกล้างจาน เสิร์ฟอาหารในร้านข้าวต้มเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแทน

แววตาสุกใสมองสำรวจตัวเองอีกครั้งอยู่หน้ากระจกที่ติดมากับตู้เสื้อผ้าเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อย เมื่อเขาหยิบถุงผ้าคู่ใจขึ้นมาสะพายไหล่ “ลืมอะไรไหมวะ” ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องพักสี่เหลี่ยมขนาด 21 ตารางเมตร ที่มุมห้องมีเตียงนอนขนาด 3 ฟุตตั้งอยู่ ตรงปลายเตียงเขาซื้อพัดลมตั้งพื้นมาใช้ดับร้อน ข้าง ๆ กันคือโต๊ะวางของขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งเป็นที่วางสัมภาระและกระติกใส่น้ำแข็ง เนื่องจากเขาไม่ยอมเช่าตู้เย็นมาเพิ่ม เพราะอยากประหยัดค่าหอลงไปอีก โดยติดกันกับชั้นวางของจะเป็นห้องน้ำขนาดย่อม ๆ และประตูออกสู่ระเบียงที่มีเครื่องครัวอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น อย่างกระทะไฟฟ้า หม้อหุงข้าวที่เอาไว้สำหรับต้มมาม่ากันตายในช่วงปลายเดือนแบบนี้

“ไม่ลืมอะไร ไปได้ไอ้กาน สู้เขา”

ฝ่ามือหนายกขึ้นมาตบที่หน้าอกของตัวเองเบา ๆ เมื่อวันนี้เขามีสอบตอน 8 โมงเช้า แต่เมื่อคืนดันเผลออ่านหนังสือดึกไปหน่อย อีกทั้งนาฬิกาปลุกเจ้ากรรมยังเล่นงานแต่เช้า จึงทำให้เช้านี้มันดูวุ่นวายไปหมด เพราะเขาเหลือเวลาขี่รถไปให้ทันเข้าสอบไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ

คิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งออกจากห้องพัก แล้วพุ่งตรงไปยังลานจอดมอเตอร์ไซค์ โชคดีอีกอย่างของเขาคือห้องพักอยู่ชั้น 1 ทำให้ไม่ต้องเสียเวลานาน “ช่วยพ่อด้วยนะลูกวันนี้” เขามองตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์เวสป้าสีเหลืองนวลคู่ใจที่จอดอยู่ใต้ชายคาสังกะสีตามสภาพของหอพักราคาถูก เจ้าของความสูง 182 เซนติเมตร ก้าวขาขึ้นคร่อมลูกรักแล้วสตาร์ตเครื่องยนต์ในทันที ก่อนจะบิดมันออกไปจากซอยด้วยความรวดเร็ว

ถนนลาดพร้าวในช่วงเช้าที่ได้ชื่อว่ารถติดเป็นอันดับต้น ๆ ในกรุงเทพฯ แม้ว่ารถไฟฟ้าจะสร้างเสร็จแล้ว แต่รถในช่วงเช้าและเย็นยังคงเต็มท้องถนน เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้รถส่วนตัวกันอยู่มาก ยิ่งการจราจรในช่วงเช้าซึ่งเป็นเวลาที่คนออกเดินทางไปทำงานนั้น ไม่ต้องจินตนาการภาพให้ยุ่งยาก เพราะรถจ่อก้นกันเป็นแถวยาวเหยียดแบบที่ว่ามองไม่เห็นหัวแถวกันเลยทีเดียว ซึ่งพวกที่ขับมอเตอร์ไซค์จะรู้กันดีว่าเลนถนนในกรุงเทพฯ ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อมอเตอร์ไซค์ ดังนั้น ช่องแคบ ๆ ระหว่างรถยนต์สองคันที่ขับคู่กันไป จึงเป็นช่องทางหลักของพวกเขานั่นเอง

“กูจะไปทันไหมวะเนี่ย”

กานบ่นเสียงอู้อี้อยู่ภายใต้หมวกกันน็อก พร้อมตบไฟเลี้ยวเพื่อเบี่ยงรถไปเลนขวาสุดเมื่อถึงทางโค้งไฟแดงแยกไปมหาวิทยาลัย โดยมีพี่ไลน์แมนคันข้างหน้าของเขาเลี้ยวผ่านไปได้ด้วยดี และเขากำลังจะตามหลังพี่แกไปติด ๆ ถ้าไม่เกิดเรื่องโคตรซวยขึ้นเสียก่อน

โครม เพล้ง!

“ไอ้เวร!”

เสียงสบถดังขึ้นทันทีหลังจากที่ไอ้นวลลูกชายของเขาเพิ่งจะเฉี่ยวชนเข้ากับรถสปอร์ตหรูแต่สีเหมือนขี้หมาแห้งเข้าให้ เมื่อครู่จังหวะที่เขากำลังเบี่ยงรถไปเลนขวาสุด โดยที่เปิดไฟเลี้ยวแล้ว จู่ ๆ ไอ้รถหรูคันนั้นที่ขับแช่อยู่ในเลนขวาสุดมันดันหักรถมาฝั่งซ้ายโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวใด ๆ ทำให้ตอนนี้รถของเขาไปจูบด้านข้างรถคู่กรณีสร้างรอยแผลขีดข่วนเป็นทางยาว แถมกระจกมองข้างรถคันนั้นยังติดมือเขามาด้วย ‘โชคดีที่สกิลการทรงตัวของเขาเป็นเลิศทำให้รถไม่ล้มหรือเสียหลักให้สิบล้อเหยียบจนหัวแบะ’

“เหี้ยเอ้ย ชนรถแพงด้วย”

กานมองรถคู่กรณีที่ตอนนี้จอดนิ่งอยู่กลางถนนข้าง ๆ กัน “ทีอย่างนี้เสือกเปิดไฟกะพริบได้นะมึง” ไอ้กานผู้ขึ้นชื่อเรื่องเลือดร้อน เมื่อเห็นว่าตอนเลี้ยวเมื่อครู่ไอ้รถหรูไม่แม้แต่จะเปิดไฟเลี้ยวขอทาง ดันหักพวงมาลัยมาเลย แต่ตอนนี้กลับเปิดไฟกะพริบได้เสียอย่างนั้น มันน่าโมโหฉิบหาย “ไอ้พวกนี้มันซื้อใบขับขี่มาหรือไงวะ” บ่นไปแต่ตาก็พยายามมองความเสียหายของรถตัวเองควบคู่ไปด้วย

คู่กรณีของกานคือชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีส้มที่ไถผมด้านข้างออกจนสั้น แล้วไว้ผมตรงกลางให้ยาวจนมัดรวมไปไว้ด้านหลัง อีกฝ่ายเอี้ยวตัวออกมาจากฝั่งคนขับด้วยสีหน้าหงุดหงิด เนื่องจากเจ้าตัวเปิดประทุนขับรถโดยไม่สนใจค่าฝุ่นของกรุงเทพฯ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนกระจกลงให้มากความ แถมยังแต่งตัวอย่างกับหลุดออกมาจากเมืองหนาวทั้งที่อุณหภูมิรอบกายตอนนี้พุ่งทะลุไปเกือบ 40 องศาแล้ว

“ขับรถภาษาอะไรของนาย ไม่เห็นหรือยังไงว่ารถจะเลี้ยว”

เสียงเข้ม ๆ ว่าออกไปราวกับคนขับรถมอเตอร์ไซค์เป็นฝ่ายผิดเข้าจนเต็มประตู

“โห! พูดอย่างนี้ก็สวยสิครับ คำถามนั้นผมต้องเป็นฝ่ายถามคุณมากกว่า จู่ ๆ จะเปลี่ยนเลนถนนทำไมถึงไม่เปิดไฟเลี้ยว ผมไม่ใช่พระพุทธเจ้านะครับที่จะได้ตรัสรู้ได้เองว่าคุณท่านจะเลี้ยวรถไปฝั่งไหน นี่โชคยังดีว่าผมทรงตัวได้ รถเลยไม่ล้ม ไม่งั้นพี่สิบล้อคันข้างหลังได้เหยียบสมองผมไหลออกมากองอยู่บนถนน ตัวผมคงได้ไปเฝ้ารากมะม่วงคุยกับท่านยมแล้ว”

เถียงคู่กรณีกลับออกไปยาวเหยียด เขาเกลียดนักไอ้พวกรวยแต่ไร้สมอง ชอบดูถูกคนจนแบบนี้มันต้องเจอสั่งสอนสักหน่อย

“นี่น้อง ให้มันน้อย ๆ หน่อย”

“แล้วจะเอายังไงว่ามาเลยครับ”

“กระจกนั่น” เจ้าของรถหรูชี้นิ้วมาที่กระจกมองข้างซึ่งยังคงห้อยอยู่กับรถมอเตอร์ไซค์ “ข้างละ 8 แสน” เขากดเน้นเสียงในตอนท้ายทำเอาคนฟังหน้าถอดสีเมื่อรู้ราคาของกระจกสีเหมือนขี้หมาไม่ต่างจากสีผมของเจ้าของรถ

“ปะ แปดแสนนี่ชื่อยี่ห้อกระจก ระ หรือว่าราคา”

กานถามออกไปเสียงสั่น ๆ ตอนนี้เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ เริ่มผุดขึ้นตามกรอบหน้า โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า เป็นเพราะอากาศร้อน หรือเพราะตัวเองกำลังขนลุกกับราคากระจกรถที่ติดมือมากันแน่ ซึ่งคำตอบต่อมาทำเอามือเขาเย็นเฉียบทันที

“ค่ากระจกรถ เพิ่งเปลี่ยนมาเลย 8 แสน”

“กระจกรถบ้าอะไรข้างละ 8 แสน ผมไม่มีปัญญาจ่ายค่าเสียหายหรอกนะ คุณอะผิดที่จู่ ๆ เลี้ยวรถมาไม่เปิดไฟเลี้ยวแบบนั้น ใครมันจะไปรู้”

“นี่ ขับรถเขาให้ใช้ลูกตามองถนน ไม่ใช่ตาตุ่มนะ”

“อ้าวเห้ย! ถ้าการตบไฟเลี้ยวมันยากมาก คุณท่านก็ลงมาตบกับกูเลยมา”

คราวนี้กานเลือดขึ้นหน้าเมื่อไอ้หัวส้มแต่งตัวไม่สนอากาศประเทศไทยมีดีแค่หล่อกับรวยแต่สมองเต็มไปด้วยขี้ทำท่าจะโยนความผิดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้มาให้เขาคนเดียว งานนี้ไอ้กานไม่มีเงินมาสู้ แต่ฝีปากของเขามันไม่เคยแพ้ใครหรอกนะ

“พูดจาให้มันดี ๆ หน่อยน้อง”

“คุณมึงก็พูดกับผมดี ๆ บ้างสิ ตัวเองคิดจะเลี้ยวรถปุ๊บดันหักพวงมาลัยรถมาปั๊บแบบนั้น ใครมันจะไปหลบทันวะ”

“งั้นให้ประกันมาเคลียร์ ขี้เกียจจะคุยด้วย”

“เออ ขี้เกียจจะคุยด้วยเหมือนกันแหละ”

ทั้งที่ไม่รู้จักชื่อแต่ตอนนี้เขากล้ารับได้เต็มปากเต็มคำว่าเหม็นขี้หน้าคู่กรณีเหมือนขี้ สุดท้ายเช้าอันแสนสดใสของไอ้กานก็จบลงด้วยการไปสอบไม่ทันแน่นอน เขาต้องจอดไอ้นวลลูกรักตากแดดอยู่กลางถนนระหว่างรอประกันของเจ้าของรถมาเจรจาตกลงค่าเสียหาย แน่นอนว่าประกันฝั่งเขาไม่มีหรอก แถมไอ้นวลยังเป็นเวสป้ามือแปดที่ซื้อต่อมาในราคาถูกแสนถูก แค่มีเอกสารครบก็บุญหัวแล้ว ตอนนี้เลยทำได้แค่เดินมาหลบอยู่ในร่มข้างถนน พร้อมกับไอ้หัวขี้ที่เขาเพิ่งจะมีโอกาสได้สำรวจใบหน้าหล่อ ๆ ของมันใกล้ ๆ

‘คนบ้าอะไรวะ อากาศร้อนฉิบหายแต่ใส่เสื้อฮู้ดแขนยาว แถมยังขับรถเปิดประทุนรับควันและมลพิษเป็นว่าเล่น…ท่าจะไม่เต็ม’

“มึงชื่ออะไร”

เสียงถามดังออกมาจากเจ้าของรถหรู

“กาน”

“พูดกับคนอายุมากกว่าช่วยมีหางเสียงด้วยสิ”

“ชื่อกานขอรับคุณท่าน”

กานหันมาแยกเขี้ยวพร้อมตอบด้วยโทนเสียงติดหงุดหงิด แต่ก็ไม่ลืมที่จะค่อนขอดชายหนุ่มที่มองดูแล้วน่าจะแก่กว่าเขาหลายปีด้วยแววตาเดือด ๆ เพราะแทนที่เวลานี้เขาจะได้ไปเตรียมตัวก่อนเข้าห้องสอบพร้อมกับเพื่อน ๆ แต่ต้องมาติดแหง็กอยู่ข้างถนนเพื่อรอประกันอยู่กับไอ้หัวส้มนี่

“เรียนที่มหาวิทยาลัยคิงส์เวลเหรอ”

“เออ”

กานตอบเสียงห้วน ๆ ทำเอาคนฟังลมออกหู เขาชักหมั่นไส้ไอ้เด็กเปรตข้าง ๆ จนนึกอยากแกล้งเข้าให้

“กูชื่อกันธีต์ หรือจะเรียกธีต์เฉย ๆ ก็ได้”

“ครับคุณพี่ธีต์เฉย ๆ”

นั่นปะไร เขาคิดไว้ไม่มีผิดว่าเด็กนี่จะต้องกวนตีนไม่เลิก แต่พอเหลือบไปเห็นสีเนกไทของอีกฝ่ายมันกลับทำให้เขายิ้มออกมาอย่างคนนึกแผนการบางอย่างออก

“ยิ้มอะไรคุณพี่ธีต์เฉย ๆ”

กานถามเสียงขุ่นเมื่อเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ ของอีกคนปรากฏขึ้นบนใบหน้ากวนส้นตีนนั่น

“เรียนนิติเหรอ”

“รู้ได้ไง”

“มหาลัยนี้เขาแยกคณะกันด้วยสีเนกไทไม่ใช่เหรอ เนกไทดำแบบนี้” ฝ่ามือหนายื่นไปจับที่เนกไทของอีกฝ่ายโดยไม่ได้เอ่ยปากขอก่อน ทำเอาคนตรงหน้าถอยออกห่างทันที “มันเด็กนิตินะสิ” กันธีต์พูดทิ้งท้าย

“ถ้าใช่แล้วมันยังไง”

“เอางี้ เดี๋ยวเรื่องรถกูให้ประกันมาจัดการ มึงไปเรียนเถอะ”

เจ้าของเรือนผมสีส้มแปร๋นว่าออกมาอย่างคนอารมณ์ดีต่างจากในตอนแรกลิบลับ จนกานต้องหรี่ตามองด้วยความไม่ไว้วางใจ ถึงอย่างนั้นเขายังคงย้ำในเรื่องค่าเสียหายอีกครั้ง

“แต่บอกก่อนนะว่ากระจกข้างละ 8 แสนไม่มีจ่ายนะเว้ย”

“เออกูรู้แล้ว เอาเบอร์มึงมา”

สมาร์ตโฟนเครื่องหรูถูกยื่นมาตรงหน้ากาน เขาจำใจรับมันมาถือไว้แล้วเพ่งมองลงไปบนหน้าจอแบบสัมผัสด้วยความงุนงง เพราะไม่เคยใช้มาก่อนในชีวิต

“กดตัวเลขยังไง”

“ถามจริง มึงใช้โทรศัพท์ไม่เป็นเหรอวะ”

“เออ ของแพงขนาดนี้เคยใช้ที่ไหนกัน”

กันธีต์มองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง แม้ว่าจะอยู่ในชุดมหาวิทยาลัยเอกชนดังที่เลื่องลือเรื่องค่าเทอมแพงหูฉี่ แต่ชุดนักศึกษาของเด็กนี่กลับดูเก่าราวกับมันถูกใช้งานมาเนิ่นนาน เห็นดังนั้นจึงเอาโทรศัพท์ของตัวเองกดเข้าหน้าปุ่มตัวเลข แล้วยื่นกลับไปให้อีกฝ่าย เพื่อให้กดเบอร์โทรให้กับเขา ซึ่งกานก็รับมันมากดตัวเลขสิบหลักลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยื่นคืนให้

“อะ เสร็จแล้ว ไปได้ยัง”

“เดี๋ยวก่อน”

ตาคมมองเบอร์โทรบนหน้าจอนิ่ง ก่อนจะกดโทรออกเพื่อเช็กว่าอีกคนให้เบอร์มั่วแก่เขาหรือเปล่า ชั่วครู่เสียงริงโทนฟังดูโบราณก็ดังออกมาจากถุงผ้าที่อีกฝ่ายสะพายเอาไว้

“ของจริง ไม่โกหกหรอกครับ”

เจ้าของถุงผ้าล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ปุ่มกดของตัวเองขึ้นมาแล้วหันหน้าจอไปทางคู่กรณีนิ่ง

“เออ ไปเรียนไป เสียเวลาวะ”

“คิดว่าตัวเองเสียเวลาคนเดียวมั้ง…ไอ้ควายหัวขี้”

ฉายาในตอนท้ายกานพูดเสียงเบาให้ได้ยินแค่ตัวเอง ก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือลงไปในถุงผ้าตามเดิม แล้วเดินไปขึ้นคร่อมไอ้นวลลูกรัก แต่ก็ไม่วายเอากระจกรถหรูที่ตัวเองเสยติดมือมาด้วยกลับไปวางไว้บนเบาะของคนขับ จากนั้นไอ้กานก็รีบบึ่งรถออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เพื่อหวังว่าเขาจะไปขออาจารย์เข้าสอบได้ทัน เพราะตอนนี้มันยังเลยเวลามาไม่มาก แม้ในใจจะอยากด่าไอ้พี่ธีต์อะไรนั่นให้มากกว่านี้ก็ตามเถอะ

ทางด้านกันธีต์เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่าออกไปจนพ้นสายตาของเขาแล้ว ร่างสูงเกือบ 190 เซนติเมตรได้แต่ยืนหงุดหงิดท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว จนต้องสบถออกมาเสียงดังโดยไม่สนใจผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในละแวกนั้น

“กูเพิ่งจะเอารถไปทำสีมาใหม่ ลูกพ่อดันมาโดนเปิดซิงเข้าให้ ซวยจริงกู”

เขายืนมองรถสปอร์ตคันละเกือบ 100 ล้านที่กว่าจะนำเข้ามาถึงไทยได้นั้น ต้องใช้เวลารอนานนับปี แถมเพิ่งเอาไปทำสีส้มให้เข้ากับสีผมใหม่มาไม่ทันข้ามวัน ตอนนี้ลูกชายสุดหล่อของเขาดันมีร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์นัก คนรักรถแบบไอ้ธีต์เห็นแล้วอยากจะร้องไห้ เขาหมายมั่นเอาไว้ว่าจะต้องเอาคืนคู่กรณีให้สาสม

“เราได้เจอกันแน่ครับไอ้น้องกาน

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
50 Chapters
ปฐมบท
07:25 น.“ฉิบหายแล้วไอ้กาน!”เสียงร้องด้วยความตกใจดังออกมาจากเรียวปากนุ่มของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดนอนตัวเก่าที่สวมใส่มาหลายปีจนคอเสื้อนั้นย้วยลงมาเผยให้เห็นหัวไหล่เนียน แววตาแตกตื่นเบิกกว้างก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนขนาด 3 ฟุตในห้องเช่าสี่เหลี่ยมเท่ารูหนู แล้วนำพาร่างกายของตัวเองวิ่งหน้าตั้งไปยังตู้เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่เพียงแค่ก้าวขายาว ๆ สองก้าวจากเตียงนอนก็มาถึงฝ่ามือใหญ่เปิดตู้เสื้อผ้าออกกว้าง สีหน้ายังคงความกังวลเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาแขวนบนผนังประตูห้องน้ำ บ่งบอกว่าเขามีเวลาอีกแค่ 35 นาทีในการแต่งตัว พร้อมกับขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปมหาลัยเพื่อให้ทันเข้าสอบตอน 8 โมงเช้า“อาบน้ำตอนนี้ไม่ทันแน่มึง ซักแห้งเลยแล้วกันวะ”คิดได้ดังนั้น เจ้าตัวจึงคว้าหมับเข้าที่เสื้อนักศึกษาตัวเก่งที่ใส่ซ้ำมาแล้วถึง 2 ปีซ้อน แน่นอนว่าสีของมันดูซีดเซียว แต่เจ้าของยังคงรักษาความสะอาดด้วยการซักมือและรีดจนเรียบอยู่สม่ำเสมอเสื้อนักศึกษาสีขาวแขนยาวถูกสวมใส่ลงบนตัวในเวลาอันรวดเร็ว เช่นเดียวกับกางเกงขายาวสีดำที่ถูกใส่ทับกางเกงบ็อกเซอร์ตัวโปรด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ลืมที่จะวิ่งเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน พร้อม
last updateLast Updated : 2025-10-16
Read more
บทที่ 1 : เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษไอ้กาน
มหาวิทยาลัยคิงเวลส์“ดีนะไอ้กานที่อาจารย์เขายังใจดีให้มึงเข้าสอบได้”พร้อมพบตบไล่เพื่อนรักเบา ๆ หลังจากที่พวกเขาก้าวขาพ้นออกมาจากเขตของห้องสอบ เนื่องจากวันนี้ไอ้ตัวดีข้าง ๆ ตนมันดันมาเข้าสอบสาย แต่ด้วยเหตุผลที่ฟังขึ้นบวกกับตำแหน่งลูกรักของอาจารย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สุดท้ายไอ้กานก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำข้อสอบ“จริงอย่างที่ไอ้พร้อมว่า ถ้ามึงไม่ใช่ลูกรักทีชเชอร์ เขาไม่ให้มึงเข้าสอบหรอก”ณดลเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่เพิ่งวิ่งตามหลังออกมาจากห้องสอบ แต่ทันได้ยินประโยคก่อนหน้านี้ รีบว่าขึ้นทันที พลางเดินเข้าไปแทรกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนทั้งสอง พร้อมกับวาดวงแขนแกร่งสมกับเป็นนักกีฬามหาลัยขึ้นกอดคอเพื่อนไปด้วย“ช่วยไม่ได้ พวกมึงมันลูกชังอาจารย์เองนี่หว่า” คนต้นเรื่องตีหน้ามึนขณะพากันก้าวขาเดินออกจากอาคารเรียน “หิววะ เมื่อเช้ารีบเกิน กูยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย เราไปโรงอาหารกันไหม” กานถามออกไปเมื่อเห็นว่าการสอบช่วงเช้ามันกินเวลาล่วงเลยมาจนเกือบเที่ยง ซึ่งพวกเขายังพอมีเวลากินข้าวเติมพลังกันก่อนที่จะเริ่มสอบอีกครั้งในช่วงบ่าย“ไปดิ ไอ้พร้อมเลี้ยงนะ”“อ้าว ไหนมาให้กูเลี้ยงวะไอ้ดล”“เงินกูหมดวะเพื่อน
last updateLast Updated : 2025-10-16
Read more
บทที่ 2 : ถ้าเธอเป็นไฟ ฉันจะเป็นน้ำมัน
“แบตมาหมดอะไรตอนนี้วะ! อย่างกับกูอยู่ในฉากน้ำเน่าของหนังไทยเลย…แม่มึงเอ้ย!”ความหวังสุดท้ายอย่างโทรศัพท์ที่ดูจะเป็นเพียงตัวช่วยเดียวเพื่อให้เขารอดพ้นจากสถานการณ์ฉิบหายตรงหน้า ตอนนี้หน้าจอได้ดับสนิทไปเป็นที่เรียบร้อย…มืดมิดไม่ต่างจากอนาคตอันใกล้ของเขาเลย“มีใครอยู่ข้างนอกไหมครับ มีคนติดอยู่ในนี้”ตะเบ็งเสียงออกไปจนเส้นเลือดขึ้นคอแต่กลับไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตตอบกลับมา แต่ถึงอย่างนั้น กานยังคงแหกปากตะโกนขอความช่วยเหลือต่อ เพราะหวังว่าจะมีใครสักคนผ่านมาได้ยินแล้วช่วยไปตามเจ้าหน้าที่มาเปิดประตูให้“ช่วยด้วยครับ มีคนอยู่ในนี้”“.....”แต่ไม่ว่าเขาจะตะโกนดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครได้ยินเลยสักคน“นี่กูอยู่ในสระน้ำมหาลัย หรือวัดร้างวะ มันจะไม่มีใครเดินผ่านมาเลยหรือไง”บ่นออกไปด้วยความหงุดหงิด ฝ่ามือหนายกขึ้นดึงทึ้งผมตัวเองไม่แรงมากนัก เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเอาอารมณ์ขุ่นมัวในใจของตนเองไปลงกับอะไร“โอ้ย!”แต่ดูเหมือนเขาจะเผลอดึงผมตัวเองแรงไปหน่อย จนหัวแทบขมำลงพื้น “อย่าให้กูออกไปได้นะ พ่อจะแจ้งตั้งแต่คนดูแล ยันอธิการบดีเลยคอยดู” พูดเสียงขึ้นจมูกด้วยความโกรธ ก่อนที่เจ้าตัวจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินกระท
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
บทที่ 3 : มวยถูกคู่
สถานการณ์หลังจากที่รุ่นน้องตัวดีเดินจากออกไปแล้ว ห้องทั้งห้องได้กลับเข้าสู่สภาพปกติอีกครั้ง ทว่ายังคงมีเสียงซุบซิบนินทาถึงเหตุการณ์ก๋ากั๋นเมื่อครู่เล็ดลอดเข้ามาให้ผู้เสียหายเพียงหนึ่งเดียวอย่าง ‘กันธีต์’ ได้ยินและทำให้ร่างสูงหัวเสียได้ไม่น้อย แต่ก็ทำได้เพียงกระทืบฝ่าเท้าลงไปบนพื้นแล้วเดินกลับไปนั่งยังเก้าอี้เรียนตัวเดิม“เด็กเปรต”ก่นด่าออกมาด้วยความหงุดหงิด พลางทุบฝ่ามือหนาลงไปบนโต๊ะจนเกิดเสียงดัง จนมหาสมุทรอดไม่ได้ที่จะค่อนขอดคนพี่“ไอ้พี่ธีต์ มึงจะทุบโต๊ะให้มันพังลงมาเลยหรือไง”“ไอ้หมุดมึงช่วยกูคิดแผนเอาคืนเด็กนั่นหน่อยดิ”“พอเลยพี่มึง ไม่เคยได้ยินคำพระท่านว่าเหรอ?”“ว่าไรวะ”“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถ้าพี่มึงไปเอาคืนเด็กนั่น ก็เท่ากับว่าได้สร้างบาปให้ตัวเองเปล่า ๆ ใครทำอะไรไว้เวรกรรมย่อมตามทันเสมอ”มหาสมุทรว่าออกไปอย่างใจคิด เพราะการแก้แค้นกันไปมามันไม่ได้ก่อประโยชน์อะไร อีกทั้งยังมีก็แต่การไปสร้างเวรสร้างกรรมร่วมกันเท่านั้น“หมุด!”“ว่าไงพี่มึง”“มึงฟังกูนะ นี่ปี 2024 แล้ว เวรย่อมระงับด้วยการตบไอ้เวร” ไม่พูดเปล่า ธีต์ยังยกฝ่ามือขึ้นไปลูบเรือนผมสีแดงของคนตรงหน้าราวกับผู้ใหญ่ก
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
บทที่ 4 : นี่พระเอกหรือตัวร้าย?
1 สัปดาห์ต่อมา“กูไปก่อนนะ”กานโพล่งขึ้นหลังจากที่เขาช่วยหาข้อมูลสำหรับวิจัยของวันนี้ให้ไอ้หัวขี้จนครบหมดแล้ว โดยไม่รอฟังคำอนุญาต ฝ่ามือหนากวาดข้าวของตัวเองที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะภายในห้องสมุดลงใส่กระเป๋าผ้าในครั้งเดียว ธีต์ปรายตามองคนตรงหน้า การกระทำที่ดูรีบร้อนแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่มันเป็นเช่นนี้มาตลอดระยะเวลาร่วมอาทิตย์ที่อีกฝ่ายมาช่วยงานเขาซึ่งทุกครั้งตนจะทำเพียงพยักหน้ารับ ไม่ก็ทำเป็นลืมเอาหูมาด้วย เหตุเพราะไม่อยากจะอยู่ใกล้ไอ้เด็กเปรตคนนี้มาก แต่วันนี้เขาชักเริ่มหงุดหงิดที่มันมาช่วยทำวิจัยแบบลวก ๆ เหมือนมาขายผ้าเอาหน้ารอดไปวัน ๆ เท่านั้น“มีไรวะ ถึงเวลานี้ทีไรรีบร้อนจะไปทุกที”“กูไม่ได้บ้านรวยเหมือนคนแถวนี้ ต้องไปทำงานหาเงินมากินมาใช้”“บอกกี่ทีแล้วเวลาพูดกับกู อย่ามาขึ้นกูมึง เป็นเด็กเป็นเล็ก”แต่แทนที่คนฟังจะถามกลับว่าอีกคนทำงานอะไร เขาดันเลือกให้ความสนใจเรื่องสรรพนามที่มักจะถูกคนน้องเรียกแทนด้วยคำว่ากูมึงอยู่เสมอ“ทีมึงยังพูดกูมึงได้เลย เป็นรุ่นพี่ทำตัวไม่น่าเคารพ ใครเขาจะอยากนับถือกันวะ”“แต่ยังไงมึงก็อายุน้อยกว่ากูตั้งหลายปีนะ”“แล้วไง กูตัวเท่ามึง เตะปากมึงย
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
บทที่ 5 : สาแก่ใจไอ้กานนัก
มหาวิทยาลัยคิงเวลส์, ตึกคณะนิติศาสตร์“แล้วแบบนี้มึงจะเอาเงินที่ไหนกินวะกาน”เสียงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงของพร้อมพบดังขึ้นขณะที่เขา ไอ้กาน และไอ้ดลพากันเดินมานั่งเล่นอยู่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้บริเวณด้านหลังตึกคณะ และที่เขาเพิ่งจะถามไอ้กานออกไปเช่นนั้น เพราะเมื่อครู่ตอนนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ในโรงอาหาร เขาจับสังเกตได้ว่าวันนี้ไอ้ตัวดีมันเงียบผิดปกติ และพอเค้นถามกันอยู่พักใหญ่ มันถึงยอมปริปากบอกว่าลาออกจากร้านเจ๊ตุ้มมาแล้วเมื่อคืน“กูยังไม่รู้เลย แต่กูพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่ถ้าภายในสิ้นเดือนนี้ยังไม่ได้งานใหม่นะ เดือนหน้ากูแย่แน่วะ”คนที่เพิ่งตกงานมาหมาด ๆ ยังไม่ทันจะพ้น 24 ชั่วโมง สภาพในตอนนี้ไม่ต่างจากซอมบี้เดินได้ ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยดูสดใสตอนนี้ใต้ตาคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอน แววตาหม่นหมองพร้อมกับหัวคิ้วที่ย่นจนแทบชนกันราวกับกำลังใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา“แล้วพี่ยุ้ยกับเจ๊เขาไม่ตามมึงกลับไปทำงานเหรอวะ”“พี่เขาก็มีไลน์มาตามแหละมึง แต่จะให้กูบากหน้ากลับไปทำงานร้านเขา มึงว่าคนจะกล้าเข้ามากินข้าวที่ร้านไหม…แม่ง!”“เออ กูเข้าใจ รอบนี้พวกรุ่นพี่แม่งเล่นแรงจริงวะ กูละเกลียดฉิบหายพวกคนรวยรังแกคนจนเน
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
บทที่ 6 : ตกลงพี่มึงเป็นผัว หรือ เป็นเมีย?
มหาลัยคิงส์เวล“เออ เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างที่กูเล่าไป เล่นกูแสบฉิบหาย”ภายในห้องเรียนที่เพิ่งจะหมดคาบสุดท้ายไปนั้น ขณะนี้เหลือเพียงสามหนุ่มหัวสีที่ต่างพากันนั่งสุมหัวพูดคุยถึงเรื่องราววีรกรรมสุดแสบของกานที่ไปเหมาข้าวมันไก่และน้ำมะม่วงปั่นมาเมื่อวาน จนคนถูกแกล้งต้องรีบโทรกลับหาร้านหลังจากตั้งสติได้ แล้วไหว้วานให้ทางร้างนำอาหารไปบริจาคให้กับคนยากไร้แทนธีต์นั่งเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองได้ฟัง วาโยนั่งฟังเงียบ ๆ โดยไม่พูดสิ่งใดออกมา ผิดกลับมหาสมุทรที่หัวเราะเสียงดังลั่นไปทั่วห้องเรียนด้วยความพึงพอใจที่คนอย่างไอ้พี่ธีต์โดนกระตุกหนวดเสือเข้าให้“สมน้ำหน้า! อยากไปแกล้งเขาดีนัก เป็นไงโดนเอาคืนเสียบ้าง”“กูแม่งไม่คิดเลยว่ามันจะเอาคืนด้วยวิธีนี้”“นี่แหละหนา เขาถึงเรียกว่าเวรกรรมตามทัน”“พอเลยไอ้หมุด พูดแล้วกูเซ็ง แดกข้าวมันไก่ครึ่งแสน ไหนจะน้ำมะม่วงปั่นอีก เมื่อวานกูนึกว่ามะม่วงทั้งประเทศมารวมอยู่ที่คอนโดกูหมดแล้ว”คนหล่อหวนนึกถึงตอนที่พนักงานร้านเปิดลังโฟมที่ภายในอัดแน่นไปด้วยน้ำมะม่วงปั่นจำนวนมาก จนเขานับด้วยตาไม่หวาดไม่ไหว ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นลูบไปตามแขนของตัวเอง พลางทำสี
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
บทที่ 7 : ไม่เก่งจริง อย่ามาล้อเล่นกับระบบ
“ถ้าพี่มึงไม่ใช่ผัวมัน แสดงว่าเป็นเมียมันอย่างนั้นเหรอ?”“ไอ้หมุด!!”“เอ้า กูแค่ถาม พี่มึงจะมาขึ้นเสียงทำส้นตีนอะไรครับ”คนพูดเพียงแค่สงสัยจึงถามออกไป แต่ด้วยความที่ปากมันไวกว่าสมอง คำถามที่ออกมาจึงดูเหมือนเป็นการไปกระตุกหนวดเสือเข้าให้ แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ควรจะมาขึ้นเสียงใส่เขา“หล่อแบบกูถ้าจะมีเมีย กูหาได้ดีกว่ากว่าคนแบบไอ้กานโว้ย อีกอย่างกูชอบสาว ๆ อกบึ้ม ๆ มึงก็รู้”ธีต์รีบโต้กลับทันควันเพื่อไม่ให้เพื่อนคิดเลยเถิดไปไกลกว่านี้ ส่วนตัวเขานั้นยังไม่อยากคิดสั้นด้วยการคว้าไอ้เด็กเปรตนั่นมาทำเมีย“เออกูรู้ มึงมันไอ้แก่บ้ากาม”“ปากมึงนี่นะไอ้หมุด!”ผู้อาวุโสที่สุดในกลุ่มตั้งท่าจะลุกจากโซฟาฝั่งตนเองเพื่อมาเพ่นกบาลเพื่อนรักสักดอก แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ใจนึกคิด เสียงจากบุคคลที่นั่งเงียบมาตลอดอย่าวาโยดังสวนขึ้นมาก่อน“มึงชอบเขา”วาโยยังคงอยู่ในชุดสีดำดังเดิมไม่ต่างจากที่ใส่ไปเรียน ประโยคสั้น ๆ แต่ทรงพลานุภาพของเจ้าชายน้ำแข็งทำเอามหาสมุทรเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้น เพราะวันนี้เพื่อนของพวกเขามันพูดจาเกินหนึ่งคำแล้วแต่คนที่ร้อนรนจนนั่งไม่ติดเก้าอี้คือธีต์ ร่างสูงถึงกลับชะงักงันแล้วหันไปจ้อ
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
บทที่ 8 : ไอ้ภาระที่ชื่อธีต์
“พี่มึงทำไมหน้าเป็นแบบนั้น?”มหาสมุทรเป็นฝ่ายเอ่ยถามเพื่อนในทันทีที่อีกฝ่ายเปิดประตูห้องเข้ามา ก่อนออกไปไอ้พี่ธีต์มันดูสภาพปกติดี แต่ทำไมขากลับเข้ามาถึงมีสีหน้าไม่สู้ดี แถมยังเอามือลูบปลายคางตัวเองไม่หยุด“โดนหมาไล่กัดมาวะ”“หมา? ในร้านมีหมาด้วยเหรอวะ”“เออ กูบอกว่าหมากัดมา มึงรู้เท่านี้พอ”คนเจ็บกระแทกเสียงใส่หน้าเพื่อนแล้วค่อย ๆ พาตัวเองเดินไปนั่งลงบนโซฟาเบา ๆ เพราะนอกจากปลายคางที่ยังเจ็บจนชาอยู่นั้น อาการจุกที่ช่องท้องยังดันขึ้นมาจนถึงคอเลยก็ว่าได้ ‘ไอ้เด็กเปรตนั่นหมัดหนักฉิบหาย’“คงจะไปพูดจาไม่เข้าหูหมา หมาเลยแว้งกัดเข้าให้”คราวนี้วาโยเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง ดูเหมือนความลับของธีต์ที่เจ้าตัวพยายามจะปกปิดเอาไว้นั้น ไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของวาโยไปได้“เออ ได้ทีเยาะเย้ยกูเลยนะมึง แล้วนี่อะไร พูดเยอะผิดปกติ”“หึ แค่เบื่อพวกปากไม่ตรงกับใจ”เจ้าชายน้ำแข็งยกยิ้มมุมปาก น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่งตามแบบฉบับของคนนาน ๆ พูดทีทางด้านมหาสมุทรที่เหมือนถูกกันออกจากบทสนทนาได้แต่มองหน้าเพื่อนรักทั้งสองคนสลับกันไปมา ก่อนจะหันหน้าไปถามวาโยในสิ่งที่ตนสงสัย “ไอ้โยมึงพูดถึงเรื่องอะไรวะ กูตามไม่ทัน”“..
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
บทที่ 9 : เช็ดอ้วกให้พระเอกมันมีแต่ในละครเท่านั้นแหละ
“มึงนี่มัน!”หลังจากใช้เวลาขี่ไอ้นวลจากร้านมาถึงคอนโดร่วมครึ่งชั่วโมง เขาก็พาคนเมาขึ้นมาส่งถึงห้องจนได้ แต่เหมือนอยู่ใกล้ไอ้เวรนี่ทีไร มีอันให้ต้องซวยทุกทีโอ้กกกกก!เสียงอาเจียนยกใหญ่เนื่องจากรอบนี้กานยกมือขึ้นมาปิดปากอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ทัน ทำให้ของเหลวปนเศษอาหารที่ยังย่อยไม่หมดพุ่งเข้าใส่เนื้อตัวของเขาจนเปรอะเปื้อน อีกนิดเดียวเขาจะพามันไปที่ห้องน้ำอยู่แล้ว เสือกโก่งคอหันมาอ้วกใส่ไหล่เขาก่อนจนได้“กูปล่อยให้นอนจมกองอ้วกเลยดีไหมวะ”เขาปล่อยคนเมาลงกองกับพื้นห้อง แล้วหันมาสำรวจเนื้อตัวตนเอง ทั้งของเหลว และเศษอาหารตอนนี้ติดไปตามเสื้อที่เขาสวมใส่ กลิ่นคาวคละคลุ้งไปรอบตัวจนต้องยกมือขึ้นมาบีบจมูก“ทุเรศฉิบหาย”บ่นออกมาด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก พลางก้มลงมองคนเมาที่ตอนนี้หลับทับกองอ้วกบางส่วนอยู่บนพื้น แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนดีที่จะมาหิ้วมันขึ้นมา แล้วพาไปล้างเนื้อล้างตัวเหมือนในละครแน่นอน นี่ชีวิตจริง อ้วกเหม็นฉิบหายขนาดนี้ ใครมันนึกพิศวาสลงกันวะ ‘เขานี่ขมคอจนอยากอ้วกตาม’“กูไม่ยอมเหม็นอ้วกมึงคนเดียวหรอกนะ”กานเดินตัวปลิวเข้าไปยังห้องอาบน้ำ โดยถือวิสาสะใช้ห้องน้ำของอีกฝ่ายทันที แววตาใสมองไปยังบรรยากาศร
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status