เธอปั่นจักรยานอย่างเร็วรี่ไปที่โซนเสื้อผ้า ระหว่างเดินวนเพื่อเลือกแบบ พิริยาได้นึกถึงความนิยมของคนในเมืองหลวงช่วงนี้ไปด้วย หลังจากนึกภาพการแต่งตัวของผู้คนที่เดินสวนกันขวักไขว่ในสองวันที่ผ่านมา เธอก็นึกออกแล้วว่าจะขายเสื้อผ้าประเภทไหนในเย็นนี้
พิริยาเดินไปมุมที่วางกางเกงยีน ซึ่งมีหลายแบบ หลายสไตล์ ทั้งขาเดฟ ขากระบอก ขาม้า ขากระดิ่ง หลังจากค้นหาอยู่นานเธอก็เจอเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เธอรีบดึงกางเกงยีนทรงเอวสูงจำนวนหนึ่งร้อยตัวพับใส่กล่องกระดาษอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้แฟชั่นกางเกงยีนเอวสูงเป็นที่นิยมกันอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าเดินมาสิบคน ก็จะเห็นคนใส่กางเกงยีนทรงนี้ถึงแปดคน และเธอมั่นใจว่าสินค้าในโกดังของเธอชุดนี้ต้องขายดีอย่างแน่นอน เพราะกางเกงยีนของเธอเป็นรูปแบบล้ำสมัย ผลิตในปี พ.ศ.2566 มีความเด่นตรงสีที่หลากหลาย เนื้อผ้าที่ใส่สบายไม่หนักเหมือนกางเกงยีนยุคสมัยเก่า การตัดเย็บที่ละเอียด และลวดลายการตกแต่งแบบล้ำสมัย
นอกจากกางเกงยีนแล้ว เธอยังเลือกเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์สกรีนลายสวย ๆ และเสื้อผ้าฝ้ายลวดลายแปลกตาทั้งแบบตัวสั้นและแบบคลุมสะโพกเพิ่มอีกอย่างละหนึ่งร้อยตัว เท่านี้ก็เหลือจะพอสำหรับการขายในคืนนี้
ระหว่างที่กำลังจะเข็นรถเข็นสี่ล้อที่บรรทุกเสื้อผ้าทั้งสามร้อยชิ้นเดินจากไป สายตาก็เหลือบไปเห็นกางเกงทรงสี่ส่วนและห้าส่วนทรงสกินนี่ที่แขวนอยู่อีกมุมหนึ่ง เธอเดินไปมองอย่างสนใจ
ในยุคนี้ไม่มีใครนิยมใส่กางเกงขาลีบติดตัวแบบนี้นัก อาจเพราะรู้สึกว่าใส่ไม่สบาย ขยับขาหรือลุกนั่งลำบาก แต่กางเกงสกินนี่ที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้เป็นเนื้อผ้ายืดทั้งหมด หากดูด้วยตาเปล่าจะมองเห็นเนื้อผ้าเป็นผ้ายีนและผ้าฝ้ายเนื้อหนา แต่ถ้าลองได้ใช้มือสัมผัสก็จะรู้ว่าจริง ๆแล้วเป็นเนื้อผ้าที่ยืดได้ เธออยากลองนำออกไปขายดูเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่
และไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน หญิงสาวรีบดึงกางเกงสกินนี่พับลงกล่องไปอีกหนึ่งร้อยตัว รวมสินค้าทั้งหมดตอนนี้ก็เป็นทั้งหมดสี่ร้อยตัว
ระหว่างที่กำลังเข็นรถเข็นที่บรรทุกกล่องเสื้อผ้าหลายกล่องเดินเข้ามายังตลาดนัด พิริยาก็รู้สึกถึงสายตาของผู้คนที่จ้องมอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มองมาด้วยความสนใจ บางคนพูดคุยซุบซิบ บางคนถึงกับชี้นิ้วออกมาตรง ๆ อย่างลืมตัว ซึ่งหญิงสาวรู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เธออมยิ้มอย่างมีความสุข
“น้อง น้อง พี่ขอถามนิดหนึ่ง” แล้วก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอดรนทนไม่ได้ เดินรี่เข้ามาสอบถาม
พิริยามองตรงไปที่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับยิ้มเบา ๆ “พี่จะถามเรื่องอะไรคะ”
“น้องซื้อกางเกงกับเสื้อที่ไหน แบบแปลกตามากเลยค่ะ”
พิริยายิ้มกว้างให้กับความสำเร็จ ใช่แล้ว ก่อนออกมาจากที่ว่าง เธอได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมใส่ของเธอด้วย การสวมใส่ให้คนเห็นที่แหละเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด และเธอเลือกกางเกงสกินนี่กับเสื้อผ้าฝ้ายตัวยาวแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาใส่โชว์ในครั้งนี้
“หนูขายเองค่ะ เป็นแบบใหม่ล่าสุดจากโรงงาน ถ้าพี่สนใจตามไปดูที่แผงได้เลยนะคะ อยู่ข้างหน้านี้เอง รับรองสวยแล้วราคาก็ไม่แพงด้วย”
ผู้หญิงวัยยี่สิบกว่าคนนั้นตาสว่างวาบขึ้นมาทันที “ดีจังเลยค่ะ พี่ไปกับน้องด้วยเลยดีกว่า จะได้เลือกตั้งแต่หัวไม้”
“ใส่กางเกงแคบ ๆ แบบนี้แล้วเข็นรถเข็นไปด้วยนี่เดินไม่ลำบากเหรอคะน้อง”
“ไม่ลำบากค่ะ นี่เป็นกางเกงเนื้อผ้ายืด ใส่เดิน ใส่นั่งได้สบายค่ะพี่”
“เอ๊ะ พี่เห็นเป็นผ้ายีนไม่ใช่เหรอ”
“เป็นผ้าเลียนแบบยีนค่ะ แต่เนื้อยืด ใส่สบาย ไม่เชื่อพี่ลองดึงเนื้อผ้าได้เลย”
หญิงสาววัยยี่สิบกว่ามองไปยังกางเกงที่พิริยาสวมด้วยความสนใจมากยิ่งขึ้น
“พี่ขอโทษนะคะ” หลังจากเอ่ยปากขออนุญาตแล้วเธอจึงได้ใช้มือสัมผัสเนื้อผ้าตรงหน้าขาของพิริยาเบา ๆ ก่อนจะเบิกตามองด้วยความทึ่ง เนื้อสัมผัสคล้ายยีนมาก หญิงสาวค่อย ๆ ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือดึงเนื้อผ้าขึ้นมา และเมื่อเห็นเนื้อผ้ายืดติดนิ้วขึ้นมาตามแรงดึง ตาเธอยิ่งเบิกกว้างมากขึ้นอย่างประหลาดใจ
“กางเกงน่าสนใจมากเลยค่ะน้อง” เธอเอ่ยออกมาด้วยเสียงตื่นเต้น
“ถึงจะเป็นกางเกงแนบตัว แต่ใส่ไม่โป๊ด้วยนะคะพี่ พี่ลองดู” ว่าแล้วพิริยาก็ยกชายเสื้อขึ้นไว้ที่เอวเพื่อโชว์เป้ากางเกงและสะโพกให้หญิงสาวคนนั้นดู “ตรงเป้าเหมือนใส่ยีนตามปกติเลย ไม่แนบ ไม่ติด ใส่แล้วทรงสวยค่ะ”
“สวยจริง ๆ ด้วย พี่อยากเห็นของไว ๆ แล้ว มาค่ะ พี่ช่วยเข็นจะได้ถึงไว ๆ” หญิงสาวคนนั้นพูดอย่างใจร้อนพร้อมกับเข้าไปช่วยเข็นรถเข็นที่หนักอึ้งในทันที
ระหว่างที่ยุ่งกับการขาย เธอก็ไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นแหวงและแววมายืนมองด้วยความอิจฉาเป็นระยะ ทำให้เธอรู้สึกสะใจเป็นอย่างยิ่ง ก็ตามประสามนุษย์คนหนึ่งแหละนะส่วนความกลัวที่เคยมีต่อทั้งคู่ไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้วในครั้งนี้ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ไปแย่งที่ของใครเขา อีกอย่างมีลุงสุขมานั่งคุมเชิงให้ที่หลังร้านยิ่งทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นไปอีก“ปิ่นแก้ว! ใช่ปิ่นแก้วจริง ๆ ด้วย” น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของหญิงสาววัยรุ่นดังขึ้นที่หน้าร้านเมื่อได้ยินเสียงไม่คุ้นหูเรียกชื่อตนเอง ปิ่นแก้วจึงเขม้นมองไป เธอยืนนึกอยู่ครู่ใหญ่จึงยิ้มออกมาอย่างดีใจวิภาวี สาวน้อยบนรถไฟคนนั้นนั่นเอง“พ่อคะ แม่คะ ใช่ปิ่นแก้วจริง ๆ ด้วย บอกแล้วว่าวิตาไม่ฝาด” วิภาวีหันไปพูดกับทั้งพ่อและแม่ที่เดินตามหลัง“ปิ่นแก้ว นี่พ่อของเรา ส่วนแม่ เธอก็เคยเจอแล้วเมื่อคราวก่อน”ชาตรีและญาดาต่างส่งยิ้มให้ปิ่นแก้วอย่างมีไมตรีจิต หลังจากที่ลูกสาวเล่าเหตุการณ์ในรถไฟให้ฟัง ทั้งคู่ต่างตกอกตกใจและรู้สึกขอบคุณปิ่นแก้วมาโดยตลอดที่ช่วยให้วิภาวี
หญิงสาวเดินเข้าร้านเพื่อเลือกซื้อขนมอบ ขนมเค้กไม่มีแบ่งขายเป็นชิ้น เธอจึงเลือกปอนด์เล็กสุด และหยิบคุกกี้กระปุกเล็ก เค้กโรล ขนมปังปอนด์มาอีกอย่างละหนึ่งเพื่อทดสอบรสชาติ“แอะ! แค็ก..” คาวไข่ขั้นสุดเมื่อกลับมาถึงหอพัก เธอได้รีบแกะขนมออกมาชิม ทันทีที่ตักขนมเค้กเข้าปาก ผลที่ได้คือเนื้อเค้กที่หวานจัดและคาวไข่เป็นอย่างมาก ไม่เท่านั้น เนื้อครีมที่ปาดหน้าเค้กค่อนข้างหนัก ทั้งหวานและเลี่ยน เมื่อกัดชิมคำแรกถึงกับคายทิ้งแทบไม่ทัน แล้วทำไมถึงยังขายดีได้ขนาดนี้เค้กโรลก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน สำหรับคุกกี้นั้นให้ความรู้สึกหวานเพียงอย่างเดียว ไม่มีความหอมหรือมันของเนยแม้แต่น้อย ส่วนขนมปังปอนด์นั้นสามารถพูดได้เลยว่าขนมปังให้ปลาในยุคที่เธอจากมายังนุ่มมากกว่า แล้วทำไมถึงยังขายดีขนาดนี้ได้อีกแต่ข้อด้อยพวกนี้แหละคือตัวช่วย หากทำขนมออกมาแบบไม่เหลือข้อด้อยพวกนี้ ธุรกิจจะต้องรุ่งโรจน์อย่างไม่ต้องสงสัย ปิ่นแก้วอยู่ในอารมณ์ที่คึกคักถึงขีดสุดเธอรีบหายเข้าไปในพื้นที่และเปิดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับขนมยอดฮิตต่าง ๆ ดู ก่อนจะคัดเมนูที่ทำได้ไม
“แก้วรู้ค่ะว่าป้าเป็นห่วงแก้วและหวังดีกับแก้วที่สุด แก้วขอบคุณป้ามาก ๆ นะคะ”“ถ้าจะให้พูดตามจริง ตอนนี้แก้วมีเงินพอที่จะส่งทั้งตัวเองและชัยเรียนได้อย่างสบาย แต่ใจแก้วยังไม่อยากเรียนเอง เพราะถ้าเรียนต่อ ม.4 แล้วพอจบ ม.6 ก็ต้องอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยอีก ค่าใช้จ่ายเรียนมหาวิทยาลัยค่อนข้างสูงป้าเองก็รู้นี่คะ แล้วแก้วจะเอาเงินที่ไหนไปเรียนต่อ”“สู้ตอนนี้ หยุดเรียนก่อนสักครึ่งปี สร้างฐานะให้มั่นคง เก็บเกี่ยวเงินให้ได้เยอะ ๆ แล้วค่อยไปเรียน กศน. แก้วว่าน่าจะสบายกว่า”วงเดือนถอนหายใจแรง “แต่เรียน กศน. แล้วเหมือนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยยากเต็มทีนะแก้ว ป้าเสียดายอนาคต”“ไม่หรอกค่ะป้า ลองเราตั้งใจจริง ไม่ว่าเรียนจบจากไหนก็สามารถสอบเข้าได้ แต่ที่เห็นกันจนชินตาว่าเรียน กศน.แล้วความรู้ไม่พอจะไปต่อมหาวิทยาลัย นั่นเพราะคนเรียน กศน.มีภาระผูกพันค่อนข้างมาก บางคนก็มีครอบครัวอยู่แล้ว ทำให้คิดไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยกันน้อย แต่แก้วไม่มีภาระตรงนี้นี่คะ ภาระอย่างเดียวของแก้วคือต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองให้ได้เยอะ ๆ ถ้า
วงเดือนใช้มือตบพื้นเรือนเสียงดังด้วยความไม่พอใจ “ยุพินนี่มันเกินไปจริง ๆ รังแกได้แม้กระทั่งเด็ก”“ป้า อย่าโมโหไปเลย เรื่องมันสบช่องให้เขาได้เปรียบก็ต้องปล่อยไป” ปิ่นแก้วพูดปลอบ“ชัย พี่แก้วเค้าไปลงชื่อค้ำประกันเราไว้แบบนี้แล้ว ต่อไปเราต้องระมัดระวังตัว อย่าไปทำเรื่องทำนองนี้จนทำให้พี่เค้าเดือดร้อนอีกนะ ถ้าหิวหรือขาดอะไร ให้มาหาป้ากับลุงก่อน ป้ากับลุงจะช่วยเอง”“ผมขอบคุณพี่แก้วอีกครั้งนะครับที่ช่วย ต่อไปผมไม่กล้าแล้วจริง ๆ” ชิงชัยพูดพร้อมกับมีน้ำตารื้นอยู่เต็ม มันเป็นความรู้สึกทั้งเสียใจบวกกับความอับอายที่โดนประณามในเรื่องนี้“แม่กับพี่แก้วไม่ต้องห่วง ชัยเป็นคนดีจริง ๆ ไม่เคยมีนิสัยชอบขโมย” แดนไทยช่วยรับประกันให้เพื่อนรัก “ต่อไปหลังเลิกเรียนผมจะไปช่วยชัยหาผักป่าไปขายอีกแรง จะได้เอาเงินไปใช้หนี้ที่ติดอยู่ไว ๆ”“นี่แม่ชัยยังสร้างหนี้เพิ่มอีกเหรอ” วงเดือนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจ “อาทิตย์หน้าจะเปิดเทอมแล้วด้วย จะมีเวลาไปหาของป่าขายได้ที่ไหน เลิกเรียนก็ใกล้ค่ำแล้ว คงไม่พอหาหรอก”“ชัยไม่เรียนต่อแล้วนะแม่ ไม่มีค่าเทอม”“แล้วแม่ชัยรู้ไหมว่าลูกตัวเองจะไม่เรียนต่อแล้ว” วงเดือนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พ
“ที่น้าพูดมันก็ถูก แต่ควรดูเจตนาเด็กก่อนที่จะกล่าวหา ชัยไม่ได้ตั้งใจขโมยแต่แรกนี่ เขาได้ยินว่าน้าไม่กินแล้ว และกำลังจะเทให้หมา ชัยเขาหิว เขาเลยตัดสินใจไปแบบนั้น”“หล่อนไม่ต้องมาทำหัวหมอ ฉันไม่สนใจ ถึงแม้ฉันจะไม่ต้องการกินแกงนี่แล้ว แต่มันก็ยังเป็นของฉัน ฉันจะให้ใครมันก็เป็นเรื่องของฉัน ในเมื่อฉันตั้งใจจะยกให้หมาแล้ว ไอ้เด็กหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แย่งไปได้ ฉันจะเอาเรื่องไอ้เด็กเหลือขอนี่ให้ถึงที่สุด”เมื่อยุพินพูดจบ ผู้คนที่ยืนรายล้อมต่างส่งเสียงออกมาหลายแนว บ้างก็เห็นด้วยกับยุพิน บ้างก็เห็นด้วยกับปิ่นแก้ว บ้างก็มองดูเหตุการณ์ด้วยความสะใจและสนุกกับคราวเคราะห์ของชัยในครั้งนี้ บ้างก็มีสีหน้าแสดงความเห็นใจเด็กชาย แต่ยุพินไม่สนใจ เธอยังคงตั้งมั่นในความคิดของตน“ตกลงมีเรื่องอะไรกัน” คำแปง ผู้ใหญ่บ้านที่โดนเรียกตัวมาอย่างเร่งด่วน สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อได้ฟังทั้งยุพินและปิ่นแก้วชี้แจงเรื่องราวในมุมมองของตน คำแปงก็ทำสีหน้าหนักใจอยู่ไม่น้อย เรื่องเหมือนจะดูเล็กน้อย แต่ถ้าคิดเป็นเรื่องใหญ่ ก็ดูใหญ่พอตัว โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่ไม่เคยเกิดเหตุทำนองนี้มาก่อน“ยุพิน ปล่อยเด็กไปสักครั้งเถอะ อย
หลังจากทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยแล้วและเห็นว่ายังเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงมื้อเย็น เธอจึงตั้งใจจะเดินสำรวจหมู่บ้านนาแสนแห่งนี้ไปเพลิน ๆ ก่อนหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ อากาศจึงเย็นตลอดปี และมีผู้คนอยู่อาศัยประมาณสามร้อยกว่าชีวิต ส่วนมากมีฐานะยากจน ประกอบอาชีพทำนาทำไร่เป็นหลัก บ้านที่ปลูกส่วนมากเป็นบ้านไม้สีหม่นหลังคามุงจาก มีบ้านฐานะดีที่หลังคามุงกระเบื้องและสังกะสีอยู่ไม่ถึงสิบหลัง ปิ่นแก้วเดินไปตามทางเดินซึ่งเป็นเส้นทางหลักภายในหมู่บ้านถึงจะขึ้นชื่อว่าเส้นทางหลัก แต่จริง ๆ ก็คือทางดินแดงเล็ก ๆ กว้างขนาดสองคนเดินสวนกัน พื้นผิวขรุขระและเป็นหลุมเป็นบ่อเสียเยอะ บางจุดเละเป็นโคลนเนื่องจากฝนที่ตกมาตั้งแต่เช้า ซึ่งผู้คนในหมู่บ้านไม่ได้รู้สึกแปลกหรือลำบากแต่อย่างใดเพราะคุ้นชินกับถนนแบบนี้มาหลายสิบปีแล้วจะมีก็เพียงปิ่นแก้วนี่แหละที่รู้สึกลำบาก เธอผู้เคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงมาทั้งชีวิต จึงไม่เคยรู้จักและไม่เคยสัมผัสฝุ่นสีแดงที่เกิดจากถนนดินแดงเลยสักครั้ง วันแรกที่ได้ย้อนเวลากลับมาเธอถึงกับสูดเอาฝุ่นแดงเข้าไปจนสำลักและแสบค