Share

12. หม้อทองคำ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-29 12:00:15

เมื่อถึงแผงขายที่จองไว้ พิริยารีบจัดแจงปูเสื่อผืนใหญ่และดึงเสื้อผ้าที่จะขายทั้งหมดออกมาวางเรียงไว้บนเสื่อแยกเป็นกอง ๆ ตามประเภท แล้วเธอยังตั้งราวแขวนผ้าอีกหนึ่งราว ไว้แขวนโชว์ให้สะดุดตาคน

เธอกำหนดราคาขายให้ต่ำกว่าทั่วไปเล็กน้อยด้วยต้องการให้ขายออกไว เสื้อยืดอยู่ที่ 35 บาท เสื้อผ้าฝ้ายอยู่ที่ 45 บาท กางเกงสกินนี่และกางเกงยีนเอวสูงอยู่ที่ 75 บาท

“พี่ลองใส่ได้นะคะ หนูเตรียมผ้าถุงไว้ให้เผื่ออยากถอด กระจกแขวนอยู่ตรงราวผ้านะคะ”

“ขอบใจจ้ะน้อง สงสัยจะได้หลายตัว แบบและสีถูกใจมาก ๆ ราคาก็ไม่แพงด้วย แต่ถ้าซื้อหลายตัว น้องช่วยลดราคาให้อีกหน่อยได้ไหมคะ” ถึงจะเอ่ยปากว่าราคาไม่แพง แต่ตามวิสัยของคนก็อดไม่ได้ที่จะขอลดราคาอยู่ดี

“ถ้าพี่อุดหนุนเยอะหนูลดให้แน่นอนค่ะ แล้วก็เป็นลูกค้ารายแรกด้วย หนูจะลดให้เยอะเป็นพิเศษ” พิริยาเอ่ยปากอย่างใจกว้าง

แล้ววันนี้ พิริยาจึงมียอดเปิดบิลที่อู้ฟู่ถึงหกร้อยบาท ยอดเงินนี้ได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกว่าพลังใจในการมีชีวิตอยู่ได้เพิ่มขึ้นมาทีละน้อยแล้ว

เมื่อเปิดบิลแรกได้ ลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเลือกซื้อเสื้อผ้าดั่งสายน้ำหลาก บางครั้งถึงกับรุมเบียดกันที่หน้าร้านกว่ายี่สิบคน จนเป็นที่อิจฉาตาร้อนของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าละแวกข้างเคียง เพราะความสวยและความแปลกของเสื้อผ้าที่ขาย เสื้อผ้าในร้านเธอขายดีเหมือนแจกฟรี หญิงสาวรู้สึกถึงความพองฟูของกระเป๋าสะพายที่ใช้เก็บเงินจนแทบจะอดใจไม่ไหวอยากควักเงินที่ได้มานับตรงนั้นเลย

ตอนนี้เวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว พิริยาเหลือเสื้อผ้าบนเสื่ออีกไม่ถึงสามสิบตัว เนื่องจากไม่มีความหลากหลายให้เลือก จึงไม่มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาซื้ออีก เธอจึงตัดสินใจที่จะเก็บร้านไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับจังหวัด s แล้ว

“น้องคะ สะดวกคุยกับพี่หน่อยไหม”

พิริยาหันไปมองจึงได้พบผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง เธอคนนี้เคยเข้ามาเลือกดูเสื้อผ้าที่ขายเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน หลังจากเลือกดูเป็นเวลานานก็ลุกเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้ซื้อเลยสักชิ้น เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ร้องทัก พิริยาจึงเลิกคิ้วมองเป็นเชิงถาม

“น้องพอจะบอกแหล่งที่ขายส่งเสื้อผ้าแบบเดียวกับน้องรึเปล่า พี่อยากรับไปขายที่อื่น รับรองไม่ใช่ตลาดนัดนี้แน่ ๆ” ผู้หญิงคนนั้นสอบถามอย่างตรงไปตรงมา

พิริยาตาสว่างวาบ ไม่คิดว่าจะโชคดีจะเจอลูกค้ารายใหญ่แบบนี้ “พี่ต้องการเยอะไหมคะ หนูรับมาจากแหล่งผลิตโดยตรง รับรองเลยว่านอกจากหนูแล้วไม่มีใครขายเสื้อผ้าแบบนี้แน่นอน”

“จริงเหรอน้อง โชคดีจัง พี่อยากได้เยอะพอควรนะ แต่ก็อยู่ที่ราคาส่งของน้องด้วยว่าแพงแค่ไหน เราไปหาที่เงียบ ๆ คุยก่อนดีกว่า” ผู้หญิงคนนั้นเดินนำไปที่ลานจอดรถซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ตลาดนัดอย่างไม่รีรอ

“น้องคิดราคาส่งยังไง”

“ลดได้อีกไม่เยอะค่ะ เพราะหนูขายชิดทุนแล้วอาศัยปล่อยไวค่ะ เสื้อยืดให้ที่ 30 บาท เสื้อผ้าฝ้าย 40 บาท กางเกงทั้งสองแบบ 65 บาทค่ะ หนูสามารถเอามาให้ได้วันนี้เลย”

“ลดอีกนิดได้รึเปล่า พี่จะสั่งทีเดียวเยอะ ๆ จะนำไปขายตลาดนัดใหญ่อาทิตย์หน้าค่ะ”

พิริยาเอียงหน้าคิดอยู่ชั่วครู่ “เสื้อลดไม่ได้แล้ว กางเกงให้ได้ที่ 60 บาทค่ะ หนูขอเป็นจ่ายสดนะคะ เพราะหนูต้องกลับต่างจังหวัดพรุ่งนี้แล้ว”

ผู้หญิงคนนั้นทำตาโต “แล้วจะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่คะ”

“ไม่แน่ใจค่ะ แต่คิดว่าคงอีกนาน เพราะใกล้เปิดเทอมแล้ว” พิริยาอ้าง

“ถ้าพี่มั่นใจในเสื้อผ้าเหล่านี้ แนะนำให้ซื้อไปเยอะ ๆ ทีเดียวนะคะ หนูรับประกันว่าแบบและเนื้อผ้าแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้แน่นอน”

หญิงวัยกลางคนคนนี้มีหรือจะไม่รู้ อยู่ในวงการค้าขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปมานานเกือบสิบปี เธอไม่เคยเจอเสื้อผ้าที่มีรูปแบบที่สวยงามและเนื้อผ้าที่ดูดีแบบนี้มาก่อน มั่นใจได้เลยว่าถ้านำไปขายในแหล่งประจำ แม้จะเพิ่มราคาไปอีกสองเท่า รับประกันเลยว่าต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอย่างแน่นอน

“น้องรอแป๊บนะพี่ขอคำนวณเงินในกระเป๋าก่อน” เธอพร้อมที่จะเทหมดหน้าตักเลยทีเดียว

“พี่อยากได้กางเกงยีน 150 ตัว กางเกงแนบเนื้อ 200 ตัว เสื้อยืด 100 ตัว เสื้อผ้าฝ้าย 200 ตัว น้องมีของพอไหม”

“พอค่ะ...ยอดรวม 28,000 บาท หนูลดให้เหลือ 27,000 บาท พี่รอหนูครึ่งชั่วโมงนะคะ เดี๋ยวจะเอามาให้ที่นี่เลย” พิริยาเอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นเต้น หลังจากบอกกล่าวลูกค้ารายใหญ่แล้วเธอก็รีบเข็นรถวิ่งดิ่งไปยังทิศที่ตั้งของสุสาน

ไม่เกินครึ่งชั่วโมง พิริยาก็เข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยกล่องใส่เสื้อผ้ากลับมาด้วยพร้อมกับเหงื่อที่แตกซ่กเต็มใบหน้า ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงหอบ ๆ “มาแล้วค่ะ พี่นับดูก่อนนะคะว่าครบไหม หนูแถมให้ชนิดละสองตัวนะคะ”

“เร็วมากเลยค่ะน้อง” หญิงวัยกลางคนเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะหันไปเรียกสามีช่วยยกกล่องกระดาษขึ้นไปบนหลังรถกระบะของตัวเอง และเมื่อนับได้ครบตามจำนวนที่สั่ง เธอก็มอบเงินให้ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้อย่างไม่รีรอ

“ขอบคุณพี่มากนะคะ ขอให้ขายดี ๆ กำไรเป็นหมื่นเป็นแสนค่ะ” พิริยาเอ่ยอวยพรปิดท้ายก่อนจะเข็นรถเข็นเดินกลับสุสานอย่างมีความสุข เมื่อมีเงินอยู่เต็มกระเป๋าความรู้สึกกลัวในสถานที่แห่งนี้ก็พากันหายไปอย่างไร้ร่องรอยเลยทีเดียว

เธอเข้าไปในคอนโดส่วนตัวก่อนจะเทเงินที่ขายได้ในวันนี้ออกมานับ ยิ่งนับก็ยิ่งตื่นเต้น ท้ายสุดยอดรวมทั้งหมดอยู่ที่สี่หมื่นเจ็ดพันบาท

“อื้อฮือ รวยไม่รู้เรื่องเลยเรา” หญิงสาวตาพราวระยิบระยับ นี่เป็นเงินก่อนแรกในชีวิตทั้งสองชาติที่เธอสามารถหามันมาได้ด้วยตัวเอง ความรู้สึกภาคภูมิใจพุ่งทะยานขึ้นสูงแบบไม่เคยมีมาก่อน

 ชาติก่อนเธอทำหน้าที่เพียงแค่ผลาญเงินที่ป๊ากับม้าหามาเท่านั้น เรียกว่าผลาญวันละล้านบาทก็ยังมี เธอไม่เคยรู้สึกถึงความทุกข์ของการขาดเงิน การอด หรือการข่มใจไม่ให้ซื้อเมื่อเจอของที่อยากได้

แต่พอมาชาตินี้ที่ต้องกระเบียดกระเสียรไปเสียทุกอย่าง เงินสี่หมื่นกว่าบาทนี้จึงมีค่าสำหรับเธอนัก แล้วอย่าลืมว่าตอนนี้คือปี พ.ศ.2525 ค่าครองชีพไม่ได้สูงลิ่วแบบเนื้อหมูกิโลกรัมละเกือบสองร้อยบาทอย่างในปี พ.ศ.2566 ที่เธอจากมา

เงินสี่หมื่นกว่าบาทในยุคนี้มีค่าเทียบเท่าเงินหลักแสนของยุคปี พ.ศ.2566 ได้อย่างสบาย สามารถซื้อที่ดินในหมู่บ้านของเธอตอนนี้ได้หลายแปลง

เพราะอารมณ์ดี ความอยากอาหารจึงกลับมา เธอไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อบ่ายของวานนี้

น่าแปลกใจจริง ๆ ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ดีที่ไม่เป็นลมไปเสียก่อน เธอคิดอย่างมีความสุขระหว่างเดินสำรวจพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าส่วนตัวเพื่อหาอะไรกิน แล้วก็เลือกเนื้อออสเตรเลียอย่างดีมาหนึ่งชิ้น วันนี้เธออยากกินสเต๊กพริกไทยดำ

เมื่อหาส่วนผสมครบแล้ว เธอก็นำมาปรุงที่ห้องครัวเล็กในคอนโดส่วนตัว หลังจากเสร็จเรียบร้อยก็ไปนั่งกินสเต๊กเนื้อนุ่มอย่างเอร็ดอร่อยในห้องนั่งเล่นพร้อมกับดูคลิปใหม่ล่าสุดจากแอปชื่อดังไปด้วย

เมื่อเพิ่มพลังให้ตัวเองเรียบร้อย เธอจึงรีบอาบน้ำเข้านอน พรุ่งนี้ได้เวลาเดินทางกลับบ้านไปหาลู่ทางสำหรับชีวิตใหม่ของตัวเองแล้ว เหมือนที่ลุงคำปันพูดไว้ หากเราไม่ท้อ ชีวิตจะไม่มีอะไรยาก พิริยาปิดตาลงพร้อมรอยยิ้ม คืนนี้เป็นการนอนหลับที่ช่างปลอดโปร่งโล่งใจแตกต่างจากเมื่อคืนวานมากนัก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   104. เข้าไปยุ่งอีกจนได้

    ยุพินและมานพกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างชอบใจเมื่อเห็นเงินห้าหมื่นบาทในมือ ไม่นึกเลยว่าแค่รอบแรกก็ได้มากถึงเพียงนี้ แล้วรอบต่อไปนั้นเป็นกาแฟซึ่งร่ำลือกันว่ารายได้ดีกว่าดอกไม้แห้ง คงได้จับเงินแสนกันก็คราวนี้“แม่ยุพินที่หลักแหลมจริง ๆ” มานพเอ่ยชมภรรยาไม่หยุด“เอาเชียว ที่แรกทำท่าเหมือนไม่เต็มใจ”“ฉันขอโทษ ต่อไปไม่ค้านแล้ว ไม่คิดเลยว่ารายได้จะมากขนาดนี้ แล้วรวมทั้งปีที่เจ้าดินได้มันไม่เหยียบล้านไปแล้วเหรอ”“ก็คงประมาณนั้นแหละพี่ คราวหน้าฉันว่าจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว ฉันจะเอาเมล็ดพันธุ์มาปลูกเองด้วย นี่ก็ไปมอง ๆ ที่เปล่าในหมู่บ้านของพ่อฉันเอาไว้แล้ว ฉันตั้งใจจะเอาไปปลูกตรงโน้น จะได้ไกลหูไกลตาไอ้ดินมันหน่อย”“ดี อีกหน่อยบ้านเราก็จะมีเงินมากมายเหมือนกับมันแล้ว”“ว่าแต่เราเอาเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้ที่ยืมมาก่อนเถอะ ที่เหลือก็พอส่งให้นารีได้อีกสามสี่เดือน รอขายงวดหน้าเราก็สบายกันแล้ว”“เจ้านะตั้งแต่ย้ายไปทำงานในเมืองนี่หายเงียบไม่ยอมกลับมาบ้านเลย” มานพเอ่ยด้วยสุ้มเสียงไม่พอใจ“ลูกสอนพิเศษหลายที่ กำลังช่วยกันเก็บเงินซื้อที่ดินเพื่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   103. คนโกง

    “นี่บ้านเก่า ๆ โทรม ๆ ที่เธอเคยเล่าจริง ๆ เหรอ” นิสารัตน์หันมาถาม“เมื่อก่อนเคยเก่าและโทรมมาก” ปิ่นแก้วยืนยัน “เพิ่งได้ปรับปรุงใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง”“ไม่พ้นพี่ดินอีกแล้วแน่เลย” อรรณพหรี่ตามองอย่างรู้ทัน ขณะที่แดนดินยืนยิ้มกว้างอยู่ข้าง ๆ“เฮ้อ..พี่ดินไม่ควรมีคนเดียวในโลก” อรรณพยังคงรำพึงรำพันต่อไปคราวนี้พาเอาทุกคนหัวเราะครืนด้วยความชอบใจเพื่อไม่ให้เสียเวลา หลังจากจัดเก็บข้าวของกันแล้วปิ่นแก้วจึงพาทุกคนไปที่สวนผลไม้ของแดนดินที่ตอนนี้ทุเรียนและมังคุดออกลูกแก่จัดรอเก็บเกี่ยวในอีกสองสามวันข้างหน้านี้แล้ว“พวกเรากินได้จริง ๆ หรือคะพี่ดิน” มาลินีหันมาถามชายหนุ่มอีกทีเพื่อความแน่ใจ“กินได้เลย ไม่ใช่แค่ทุเรียนและมังคุดนะ สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รีที่ปลูกในสวนข้าง ๆ ก็เข้าไปเด็ดกินได้เหมือนกัน ห้ามเกรงใจพี่เด็ดขาด คิดเสียว่าเป็นสวนบ้านตัวเอง” แดนดินอนุญาตอย่างใจดี“หน้าร้อนแบบนี้สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รียังออกผลได้อีกเหรอคะ” นิสารัตน์อดทึ่งไม่ได้“เมล็ดพันธุ์ของเราค่อนข้างพิเศษน่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหันมา

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   102. เป็นที่รู้จัก

    แดนดินขมวดคิ้วเมื่อเห็นปริมาณดอกไม้แห้งที่เก็บเกี่ยวได้จากไร่ของผาด หนึ่งในคนที่เซ็นสัญญาปลูกดอกไม้และกาแฟเมื่อคราวก่อน“ที่ดินตั้งสิบไร่ ทำไมได้ดอกไม้แห้งพอ ๆ กับไร่น้าทาที่มีเพียงห้าไร่”“ม..แหม ความชำนาญมันต่างกันนะดิน น้าทานั่นชาวไร่ดีเด่นประจำหมู่บ้าน แกมีฝีมือในการดูแลต้นไม้อยู่แล้ว ปลูกดอกไม้ได้เยอะก็ไม่แปลก ไอ้ฉันมันมือใหม่ ถึงพื้นที่จะเยอะกว่าแต่ดันไม่มีฝีมืออย่างใครเขา เลยได้มาเท่านี้” ผาดละล่ำละลักอธิบายแดนดินกวาดตามองไปทั่วไร่อย่างสงสัย ในใจไม่คิดเชื่อคำพูดของผาดแม้แต่น้อย เขารู้ดีถึงคุณภาพของเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ ขนาดคนที่ปลูกอะไรไม่เป็นเลยอย่างปิ่นแก้วยังสามารถปลูกจนออกดอกออกผลได้งดงาม แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ทำไร่ทำนาอยู่ทุกวันแบบนี้ล่ะถึงจะไม่เชื่อแต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกมาเรื่องนี้ผิดปกติเกินกว่าจะละเลยได้ เมื่อกลับถึงบ้านเขาเล่าความผิดปกตินี้ให้กับทั้งคำปันและวงเดือนได้รับทราบ ผู้สูงอายุทั้งสองคนต่างมีสีหน้าเครียดลงถนัดตา“ดินคิดว่ามีเรื่องคดโกงเกิดขึ้นแน่ใช่ไหม” คำปันถามเสียงเครียด

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   101. ห้ามดูถูกตัวเอง

    “จินตนานั่งรถประจำทางไปหาน้าที่ต่างอำเภอ แล้วรถเกิดคว่ำทับจินตนาจนแขนขาด”ปิ่นแก้วใจหายวาบเมื่อได้ยิน นึกถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้มและบุคลิกที่ไม่คิดอะไรมากของจินตนา ปิ่นแก้วก็ยิ่งใจหาย ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทสนมกันนักแต่ก็มีโอกาสได้ทำงานด้วยกันหลายครั้ง จินตนานับว่าเป็นคนที่ทำงานด้วยง่ายคนหนึ่งแล้วคนที่เคยมีครบทั้งสามสิบสอง จู่ ๆ กลายเป็นคนพิการแบบนี้ ที่สำคัญยังอายุน้อยแค่นี้ จินตนาจะทำใจได้อย่างไรปิ่นแก้วเหลียวมองไปรอบห้อง “แล้วนิสารัตน์?”“เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน คอยอยู่เป็นเพื่อนรอพ่อกับแม่จินตนาที่กำลังนั่งรถมาหา”“แก้วใจไม่ดีเลย สงสารจินตนา แล้วนี่เราจะไปเยี่ยมกันดีไหม”คราวนี้มาลินีเป็นฝ่ายเล่า “ฉันกับอันนาไปเมื่อเย็นวานแต่ไม่ได้เจอ นิสารัตน์ให้กลับมาก่อนเพราะสภาพจิตใจของจินตนายังไม่สู้ดีนัก ให้รอพ่อกับแม่เค้ามาก่อนสักสองสามวัน ให้สงบลงอีกนิดแล้วค่อยไปเยี่ยมกันตอนนั้น”-----“อย่าตัดอนาคตตัวเองแบบนี้สิจิน”“นั่นสิลูก แค่เสียแขนซ้ายไปเอง แขนขวาก็ยัง

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   100. สัมภาษณ์

    ถ้าพวกเขาได้มีโอกาสมาเห็นปิ่นแก้วในตอนนี้รับรองเลยว่าคงพูดไม่ออกเลยสักคนเดียว ปิ่นแก้วที่นวดแป้ง ปั่นส่วนผสมของขนมอย่างคล่องแคล่ว ปิ่นแก้วที่สามารถสั่งการได้อย่างเฉียบขาดและทุกคนที่อยู่รายรอบพร้อมจะทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่มีข้อแม้ เพราะปิ่นแก้วคนนี้คือเจ้าของร้านขนมรสชาติอร่อยที่สร้างความประทับใจให้กับประธานหอการค้าของจังหวัด m จนได้มาทำขนมจัดเลี้ยงผู้เข้าร่วมสัมมนากว่าสามร้อยคนในครั้งนี้“พวกเธอรู้ไหม รายได้ต่อวันของร้านแก้วสามารถจ่ายค่าเทอมทั้งปีได้อย่างสบาย” อรรณพเล่าด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มคล้ายกับว่าทั้งสองร้านนี้เป็นของเขาก็ไม่ปาน“ทำไมปิ่นแก้วถึงไม่คิดพูดแก้ต่างเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ ในคณะล่ะ ปล่อยให้พวกเรามองเขาเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ตั้งนาน” จินตนาบ่นงึมงำ“เค้ามองว่าเสียเวลาไง ถ้าเค้าพูดแก้ต่างพวกเธอคิดว่าจะมีใครยอมเชื่อไหม คนเราลองมีอคติต่อกันแล้ว ถึงจะแก้ตัวหรือทำดีให้ตายยังไงก็ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองหรอก พวกเขาเลือกที่จะเชื่อมุมที่พวกเขาคิดเสมอ สู้เอาเวลาที่เสียไปตรงนี้มาหาความสุขให้ตัวเองและมาใส่ใจคนที่รักและเข้าใจตัวเองดีกว่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   99. ปิดกิจการ

    “ก็ไปพูดไม่ไว้หน้าเขาแบบนั้น ใครเขาจะไปทนไหว มานี่ฉันช่วยเอง” นิสารัตน์นั่งลงยอง ๆ อยู่ด้านข้างและคว้ากรรไกรมาช่วยตัด ขณะที่จินตนาลูกคู่ของเธอก็มานั่งช่วยพับกระดาษเป็นรูปดอกไม้ให้ด้วย“ขอบใจนะ” ปิ่นแก้วหันไปยิ้มให้“ไม่เป็นไร งานจะได้เสร็จไว ๆ”นิสารัตน์เงยหน้ามองปิ่นแก้วก่อนพูดออกมา “อันที่จริงการุณเขาก็พูดถูกนะ คนที่มีแววอนาคตจะสดใสแบบเธอน่าจะหันกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแบบเพื่อน ๆ ได้แล้ว”หลังจากเหตุการณ์เย็นวันนั้น บรรดานักศึกษาและผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเอาเรื่องนี้ไปพูดคุยกันอย่างสนุกปาก การุณรู้สึกอับอายอย่างที่สุด และมักจะทำหน้าบูดบึ้ง ส่งตาขวางให้ทุกครั้งที่เห็นปิ่นแก้ว ซึ่งปิ่นแก้วทำเพียงแค่ยักไหล่และใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองไปวัน ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและใบหน้าการุณยิ่งบูดบึ้งมากขึ้นเมื่อได้ยินข่าวว่าปิ่นแก้วย้ายออกจากหอในไปอยู่กับผู้ชาย และยิ่งใบหน้าการุณบูดบึ้งเท่าไหร่ ใบหน้าของสกุณาก็ยิ่งสดชื่นมากขึ้นเท่านั้น-----“แก้ว ร้าน Best Bake ปิดกิจการไปแล้วนะ”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status