LOGIN
ผมชื่อวันอายุ 11 ปี มีน้องชายชื่อทูอายุ 8 ขวบ และมีน้องเล็กชื่อทรีอายุ 7 ขวบ มายังไงหัวปีท้ายปีแถมไม่มีศิลปะในการตั้งชื่อลูกอีกด้วย
พ่อแม่สองคนนี้นี่ยังไง เห็นลูกดกแบบนี้ก็ใช่ว่าจะญาติดีกัน แค่บ้านพ่อแม่คนทั้งคู่มีฐานะก็เลยเอาแต่ใจมากไปหน่อย ปู่ย่าตายายก็ไม่ลงรอยกันแต่รักหลานมากแข่งกันเปย์แต่ไปบ้านไหนไม่ได้เพราะถ้าไปอีกบ้านอีกบ้านจะก่อสงครามน้อยใจ นั่นคือหายนะเพราะฉะนั้นอยู่บ้านตัวเองดีที่สุด พ่อผมชื่อดี..ดีที่ไม่ค่อยดีพ่อยังอายุไม่มากนักมีลูกตั้งแต่อยู่มัธยมตอนนี้อายุ 28 ก็ลองบวกลบดู เกเรหน้าตาแบดๆ เป็นคนง่ายๆ ..มักง่าย ถ้าไม่ง่ายคงไม่ได้กับแม่ แกหล่อแหละแต่ร้ายด้วย ใช้ชีวิตง่ายๆ ชอบเล่นเกมแล้วหัวร้อน ไม่ยอมคนพร้อมบวกทุกเวลายู่ติดบ้าน เอาจริงคือติดเกมเรียกก็ไม่ออกมาหรอกนอกจากจะออกมาเอง ก็ดูรักลูกนะ รักแบบสมาธิสั้นมาแป๊บๆ แล้วก็ไปเล่นเกม คนนี้เจรจากับชาวบ้านยากเพราะหน้าดุ ยิ่งออกบ้านยิ่งหน้าเหี้ยม หัวร้อนง่าย ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับโรงเรียนจึงมักจะเป็นหน้าที่แม่ แต่อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจว่าคนนี้จะสุดแล้ว ยังมีอีกบ้านไหนก็มีตัวแม่ที่อยู่เหนือทุกคนอยู่ แม่หรือผู้ชายชื่อแมน..แมนมากตัวเท่าพ่อเลยถึงตีกันได้ เป็นคนอยู่ไม่ติดบ้านชอบเที่ยวชอบสังสรรค์ เป็นคนของสังคมต้องหล่อตลอดเวลาฉีดน้ำหอมฟุ้ง ปากหวานกับสาวๆ จะมีอยู่คนเดียวที่คุณแมนด่าได้แบบนันสตอป.. คุณดีไงจะใครล่ะ แอ้ดด~ "กลับมาแล้วจ้า~" ... ... ยามวิกาลประตูบ้านเปิดพ่าง ใครบางคนแผดเสียงดังมาก่อนตัว ที่ตามมาคือกลิ่นน้ำหอมฟุ้งลอยมาเหมือนพึ่งอาบมากกว่าจะเรียกว่าฉีด เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ดื่มมา กลัวลูกจะได้กลิ่นเหล้าแต่ลืมไปว่ากลิ่นน้ำหอมก็แย่ไม่ต่างกัน หนุ่มน้อยหน้านิ่งหน้าหล่อถอดแบบหูตาจมูกปากมาจากคนแม่แต่เป็นเวอร์ชั่นหน้านิ่งนิสัยเจ้าระเบียบเหมือนคุณยาย ใช้หางตาเหลือบมองร่างสูงสมส่วนเดินเซกางแขนกว้างถลาเข้ามา ห้าทุ่ม... ชิลเหลือเกินทำอย่างกับไม่มีลูกไม่มีผัว คนตัวขาวแต่หน้าแดงสวมเชิ้ตสีดำปลดกระดุมแหวกอกดวงตาเยิ้มปรือ สะดุดขาตัวเองจนต้องเกาะผนังบ้านเดินเข้ามากลางบ้าน มาลูบหัวลูกชายหัวเห็ดพร้อมกลิ่นเหล้ากับน้ำหอมลอยคลุ้งมาแต่ไกล เมามาอีกแล้วพ่อนักสังคมใหญ่ ลูกชายคนโตของบ้านลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งรอเช่นนี้ทุกวันหลังจากพ่อสั่งอาหารมาให้กินกับน้องจับอาบน้ำำดูการ์ตูนพาเข้านอนตามเวลาเดิม ก็มานั่งอ่านหนังสือดูหนังรอคนเป็นแม่ขี้เมา "น้องหลับหมดแล้ว" ลูกชายสุดที่รักพูดตัดบทด้วยใบหน้านิ่งสนิทน้ำเสียงเย็นชาไม่ใช่ไม่สนใจ แต่ความปากร้ายใจดีนี่ก็ถอดแบบคุณยายมาเปี๊ยบ เพราะมักจะมารอแม่กลับบ้านทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก "เค้าซื้อนี่มาให้" ริมฝีปากหยักยิ้มกว้างจนตาปิดควักบางอย่างในกระเป๋ากางเกงวางแหมะบนตักเล็ก แปะ! เฮื้อก! " แมลงสาป!" เด็กหน้านิ่งตาถลนสะดุ้งโหย๋งลุกยืนขึ้นพรวดพราดแต่ถูกมือคนแม่รั้งไว้พร้อมระเบิดเสียงหัวเราะใส่ที่แกล้งลูกชายขี้เก๊กได้ "ฮ่าๆๆๆๆๆ ของเล่นน่ะกลัวเหรอ~" "คุณแมน! อย่าเล่นพิเรนทร์!" ลูกบ้านนี้ไม่เรียกพ่อแม่ว่าพ่อแม่แต่จะเรียกคุณเพราะความห่างเหิน น้องๆ ก็เช่นกันมักจะเรียกพี่ชายคนโตว่าแม่เพราะความใกล้ชิดแทน "กินข้าวยาง ไอ้พ่อตัวดีมันสั่งอะไรให้กินจ้ะ" ขี้เมาตัวโตไถลตัวมานอนขดบนโซฟาหนุนตักลูกชายเจ้าระเบียบคล้ายคุณยาย เด็กหน้านิ่งบีบจมูกหันหน้าหนีกลิ่นหอมฉุน "ซูชิครับน้องอยากกิน คุณล่ะ?" "หมูกระทะจ้าคุยนานไปหน่อยเลยเมา" "จะอาบน้ำไหม" "ไม่ไหวแล้วนอนโซฟานะ ขอผ้าห่มหน่อยจ้ะคุณลูกชาย" พรึ้บ! วันผลักหัวคุณแม่ตัวโตออกจากตักแล้วยืนขึ้นขาเล็กก้าวหายไปทางครัวหยิบกะละมังใส่น้ำกับผ้าขนหนูผืนเล็กมาวางที่โต๊ะ "ถอดเสื้อเช็ดตัวก่อน" "หนาวอ่า~" "คุณชอบออกไปเจอคนเยอะกลัวเชื้อโรคติดน้อง" "ก็ดะ~" คุณแม่ปลดทุกอย่างออกจากตัวเหลือเพียงชั้นในสีดำนอนแผ่หลับตาพริ้ม เป็นแม่ที่เหมือนเป็นลูกอีกที วันส่ายหัวให้ผู้ให้กำเนิดพลางหยิบตุ๊กตาหมีสีขาวมาวางปิดเป้าให้ กันอุจาดตา "ถูมาเลย" ปื้ดๆๆๆ "คุณแมน..ที่อกรอยอะไร" ระหว่างเช็ดตัวนิ้วเล็กจิ้มลงบนรอยแดงบนผิวอกขาว เขาเกิดมาจากคนลามกสองคนที่พูดเรื่องเพศเป็นปกติ รอยแดงตามตัวจึงชวนให้คิดไปถึงเรื่องแบบนั้น "หื้ม~ไม่รู้ซีพอดีเมา" "อย่าไปมีอะไรกับคนอื่นนะ" ตั้งแต่เกิดมาแมนเป็นคนหัวรั้นและดื้อด้านที่สุดในบ้านเขาไม่เคยฟังใครสักคนไม่เคยมีใครห้ามความห้าวของเขาได้ยกเว้น..เนี่ย พอท้องลูกคนแรกอย่างวัน แมนแพ้ท้องหนักมากแพ้ตั้งแต่ตั้งท้องยันใกล้คลอดแม้แต่คนเป็นพ่ออย่างดียังพากันอ้วกหมดสภาพทั้งคู่จนปู่ยาตายายพากันสับเปลี่ยนมาดูแลเด็กมัธยมที่ท้องกลางเทอม "ทำไมอ่า กลัวพ่อของลูกเหรอ ไม่ต้องกลัวเรารักกันซะที่ไหน" แมนยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวเล็กแต่ลูกไม่ยิ้มด้วย... ปกติวันก็ไม่ยิ้มอยู่แล้ว เหมือนใครน้า~ "ผมไม่อยากเลี้ยงน้องคนละพ่อ" เจ้าตัวเล็กแต่ใหญ่สุดในบ้านเอ่ยถ้อยคำหนักแน่นจนคุณแม่สร่างเมาขึ้นมานิดหน่อย กลัวลูกด่า แค่มองหน้าขนก็ลุก รู้สึกเหมือนมีแม่อีกคน "อะ...โอเค ด้าย ไม่เอากับคนอื่นก็ด้าย" "นี่ชุดนอน คุณใส่เองก็แล้วกัน ผมปิดไฟนะ" คนตัวเล็กสวมชุดนอนสีดำเรียบไร้ลวดลายชอบทำเหมือนเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่พึ่งจะสิบขวบแท้ๆ"แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ
วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่
ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย
ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่
(วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ
เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล







