คืนวันเสาร์ศิลาเลือกจะออกมาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนสนิททั้งสองคนอย่างธีรวัฒน์หรือธีร์ลูกชายผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งและจิรกิตต์หรือกิตต์เจ้าของผับที่พวกเขามานั่งรวมตัวกันวันนี้ พวกเขามีนัดดื่มกันเป็นประจำเพื่ออัปเดตชีวิตและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
“ไงศิลา” จิรกิตต์เอ่ยทักทายพลางยื่นแก้ววิสกี้ให้ศิลาเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะประจำซึ่งเป็นโต๊ะในมุมส่วนตัวที่สุดของร้าน
“ก็ดีนะ คืนนี้คนเยอะเหมือนกันนะ” ศิลาตอบรับสั้นๆ เขามองไปทั่วผับก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบเล็กน้อย สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายเมื่อได้ออกมาดื่มกับเพื่อนสนิท
“ชีวิตนายเป็นไงบ้างวะย้ายไปอยู่ชานเมืองแล้ว” ธีรวัฒน์ถามพลางจิบวิสกี้ในแก้วอย่างสบายอารมณ์ เขาเป็นห่วงเพราะปกติแล้วศิลาจะอยู่แต่คอนโดมาตลอด
“ก็ดี เงียบสงบดี” ศิลาตอบอย่างสบายๆ พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณผับที่เต็มไปด้วยผู้คน
“แล้วนายคิดยังไงของนายวะถึงย้ายไปอยู่หมู่บ้านจัดสรรแถวนั้น คอนโดนายก็อยู่ใจกลางเมือง” จิรกิตต์ถามด้วยความสงสัย
“ฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ อยากได้บ้านที่มีสวนเล็กๆ ให้ฉันได้ปลูกต้นไม้บ้าง” เขาตอบอย่างเซ็งๆ
“ถ้าเบื่อก็ขายทิ้งแล้วซื้อใหม่สิ ไม่ใช่ย้ายไปอยู่โดดเดี่ยวแบบนั้น นี่ลูกสาวฉันบ่นใหญ่เลยว่าลุงศิลาทำไม่ไม่ค่อยไปเล่นเกมที่บ้านด้วย” ธีรวัฒน์คนเดียวในกลุ่มที่แต่งงานแล้วถามขึ้น
“ฝากบอกน้องเดียร์ด้วยนะว่าถ้าว่างฉันจะเข้าไป แต่ทำไมนายไม่พาลูกกับเมียนายไปบ้านฉันล่ะ ที่นั่นกว้างร่มรื่นและมีสระว่ายน้ำด้วยลูกสาวนายน่าจะชอบ”
“เอาไว้ฉันว่างจะไปเยี่ยมนายที่บ้านนะศิลา นายก็จะไปกับฉันด้วยใช่ไหม” เขาหันมาถามจิรกิตต์ที่นั่งดื่มอยู่ข้าง
“อือ”
“แล้วเรื่องงานล่ะ นายได้เข้าบริษัทบ้างหรือเปล่า” ธีรวัฒน์ถามต่อ
“ก็เข้านะแต่ไม่บ่อย ฉันให้พวกเด็กๆ ทำไป ถ้าไม่มีเรื่องด่วนจริงๆ ก็ไม่มาหรอกใช้วิอีโอคอลเอาน่ะ”
“ดีจังเลยนะนาย ไม่ต้องทำอะไรก็มีเงินเข้าบัญชี” จิรกิตต์บ่นอุบอิบอย่างอิจฉา
“นายก็เป็นเจ้าของผับนี่นั่งกินเหล้าอยู่ก็มีเงินเข้าเหมือนกันจริงไหมล่ะ”
“มันก็จริงนะ” จิรกิตต์ตอบพลางหัวเราะ
“แล้วเรื่องหัวใจนายล่ะศิลา นายจะอยู่คนเดียวแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ” ธีรวัฒน์เปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องส่วนตัวทันที
“อยู่แบบนี้ก็ดีแล้วนี่” ศิลาตอบพลางยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่
“ดีที่ไหน ทุกวันนี้นายไม่มองใครเลย แก่ไปใครจะเลี้ยง”
“ก็ลูกสาวนายไงล่ะ ฉันถามแล้วน้องเดียร์บอกว่าจะดูแลฉันตอนแก่นะ”
“ไม่ตลกเลยฉันจริงจังนะศิลา นายควรลืมอดีตแล้วมองไปข้างหน้า”
“ฉันก็ไม่ได้คิดอะไร” ศิลาตอบพร้อมกับรินเหล้าเพิ่ม ดวงตาของเขาดูว่างเปล่าเล็กน้อย
“นายอย่าโกหกตัวเองเลยศิลา มันผ่านมาสองปีแล้วนะ นายจะจมอยู่กับอดีตแบบนี้ไม่ได้” ธีรวัฒน์บอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ฉันไม่ได้จมอยู่กับอดีต” ศิลาตอบเสียงเรียบ
“แล้วทำไมนายไม่ลองเปิดใจดูบ้างวะ ลองหาใครสักคนมาอยู่ข้างๆ นาย” จิรกิตต์ถามด้วยความหวังดี
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่อยากจริงจังกับใคร แล้วนายล่ะกิตต์ว่าแต่ฉันเมื่อไหร่จะจริงจังกับใคร” ศิลาถามกลับ
“ใครว่าฉันไม่มีใครล่ะ ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้วนะ” จิรกิตต์ตอบอย่างมั่นใจ
“ฉันย้ายบ้านไม่ถึงเดือนนายมีแฟนแล้วเหรอ พามาให้รู้จักหน่อยสิ” ศิลารีบบอกเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเลิกกับแฟนก่อนที่เขาจะได้รู้จัก
“นั้นสินี่ยังไม่ดึกมาโทรตามมาเลย” ธีรวัฒน์เสนอ
“ไม่ได้หรอกช่วงนี้น้องเขามีสอบ”
“มีสอบ นี่แฟนนายยังเรียนอยู่เหรอ” ศิลามองอย่างแปลกใจเพาะที่ผ่านมาจิรกิตต์มักจะมีแฟนที่เรียนจบแล้ว
“อือ ปีสามแล้ว”
“นึกยังไงไปมีแฟนเด็กขนาดนั้น คุยกันรู้เรื่องเหรอ” ธีรวัฒน์นึกถึงตัวเองที่มีแฟนอายุห่างกันห้าปีแต่บางครั้งก็คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
“รู้สิ ส่วนใหญ่เวลาเจอกันก็ไม่ค่อยได้คุยหรอก ฉันจะบอกว่ามีแฟนเด็กมันดีมาก เอาใจเก่งอ้อนเก่งนายก็ลองมั่งสิศิลา รับรองเลยว่าโลกอันมืดหม่นของนายจะสดใสมากขึ้นแน่ๆ ”
“ถ้าเจอก็จะลองดูนะ” เขาตอบอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่
“ฉันเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้” จู่จิรกิตต์พูดด้วยสีหน้าจริงจังมากขึ้นมาจนเพื่อนสองคนมองอย่างสงสัย
“อะไรเหรอ” ธีรวัฒน์ถามด้วยความสนใจ
“ฉันเจอวดี เมียเก่านายด้วยนะศิลา ตอนนี้เธอเปลี่ยนแฟนไปเป็นคนที่สามแล้วนะ หลังจากหย่ากับนายไป”
คำพูดของจิรกิตต์ทำให้ศิลาชะงักไปเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม
“แล้วไงวะ” ศิลาถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่สนใจ
“ฉันแค่อยากบอกว่าเขาก็มีความสุขดี นายควรจะมีความสุขกับชีวิตของนายได้แล้ว”
“แต่ชีวิตโสดของฉันทุกวันนี้ก็สนุกดี ตอนนี้ฉันไม่คิดจะคบใครจริงจังอีกแล้ว ฉันจะมองผู้หญิงเป็นแค่ของเล่น”
“หือ” จิรกิตต์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“ฉันเลือกที่จะวันไนท์สแตนด์มากกว่าจะคบใครอย่างจริงจังฉันแค่ต้องการหาคนมาเติมเต็มความต้องการทางร่างกายเท่านั้น” ศิลาบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
“นายแน่ใจนะว่านายไม่ได้พูดเล่น” ธีรวัฒน์ถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ฉันพูดจริง ฉันไม่ได้ลืมคนเก่าไม่ได้ แต่ฉันแค่เบื่อความสัมพันธ์แบบเดิมๆ ที่สุดท้ายก็จบลงด้วยการหลอกลวง” ศิลาตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“ระวังโรคติดต่อด้วยนะเว้ย” จิรกิตต์เตือนด้วยความหวังดี
“ฉันรู้เรื่องถุงยางอนามัยและฉันคิดว่าฉันพอดูออกว่าผู้หญิงคนไหนออกมาแค่อยากสนุก” ศิลาตอบกลับอย่างมั่นใจ
ธีรวัฒน์กับจิรกิตต์มองหน้ากันอย่างจนปัญญา พวกเขาไม่คิดว่าเพื่อนที่เคยรักเดียวใจเดียวจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ ศิลาในวันนี้ดูเป็นคนละคนกับศิลาที่พวกเขาเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง
“แล้วแต่นายเลยนะแต่ถ้านายเหงาเมื่อไหร่ก็บอก ฉันจะพาไปหาผู้หญิงดีๆ ให้” จิรกิตต์บอก
“ไม่ต้องหรอกน่า ฉันมีวิธีจัดการความเหงาของตัวเอง”
ศิลาและเพื่อนๆ ยังคงนั่งดื่มและพูดคุยกันต่อไป แต่ในใจของศิลามีแต่ความว่างเปล่า ความเชื่อในความรักของเขาได้หายไปตั้งแต่ภรรยามีชู้เหลือไว้เพียงความเย็นชาและหัวใจที่ปิดตาย
ท่ามกลางแสงสีและเสียงที่ดังกระหึ่มในผับ ศิลามองไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเต้นอยู่บนฟลอร์ เธอดูเซ็กซี่และยั่วยวนแต่ก็ยังไม่ใช่ในแบบที่เขาต้องการ เขาจิบเหล้าในแก้วอย่างช้าๆ พลางคิดในใจว่าคืนนี้จะต้องมีใครสักคนที่ถูกใจและพากลบไปสนุกด้วยกันในโรงแรมใกล้ๆ เขาไม่คิดจะพาใครไปที่บ้านเพราะที่นั่นมันจะเป็นที่ส่วนตัว ผู้หญิงที่เขานอนด้วยต้องไม่รู้ว่าเขาคือใคร พักอยู่ที่ไหนทุกอย่างจะจบบนเตียงในห้องของโรงแรมเท่านั้น
เสียงเปิดประตูทำให้ศิลาลืมตาตื่น เขาเห็นแผ่นหลังของปณาลีที่ดูรีบร้อนออกจากห้องไปแต่ก็ไม่คิดจะเรียกหรือรั้งเธอไว้เพราะตอนนี้เขายังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองและก็คิดว่าปณาลีก็คงไม่ต่างกัน ถ้าอย่างนั้นเธอคงไม่รีบร้อนไปจากเขาตั้งแต่เช้าทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมงเท่านั้นความทรงจำของเมื่อคืนระหว่างเขากับปณาลีมันชัดเจนมาก ความสุขสมที่ได้รับมันสุขล้นอยู่ในความรู้สึก ศิลาแทบจะลืมไปว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้ ไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาคลั่งได้มากเท่านี้ ไม่เคยมีใครที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคนที่มีชีวิตชีวาอีกครั้งจากได้รับสถานะพ่อหม้ายมานานถึงสองปีกว่าศิลานึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอและเขาที่แนบชิด ความรู้สึกนี้มันดีเกินกว่าที่เขาจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ พ่อหม้ายหนุ่มนอนนิ่งๆ บนเตียง ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างใช้ความคิด กำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง“ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้กับเธอด้วยนะยี่หวา” เขาบ่นกับตัวเอง เสียงหงุดหงิดเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจเมื่อคืนศิลายอมรับว่าตัวเองมีความสุขมาก และตอนนี้ก็ยังรู้สึกดีอย่างประหลาด การได้นอนกอดเธอแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยอยู่เคียง
ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามหากแต่เขาใช้มือประคองใบหน้าเธอแล้วริมฝีปากหยักก็ก้มลงมามอบจูบที่เร่าร้อนเติมไฟพิศวาสของทั้งสองโหมกระหน่ำอีกครั้ง ศิลาจูบนานก่อนจะลากปลายลิ้นมาดูดดุนยอดถันที่เขาดูดกินแล้วหลงใหลอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน มันชูชันสู้ลิ้นอย่างที่เขาชอบ“ยี่หวาหวานไปทั้งตัว”เสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหูก่อนจะขบเม้มเบาๆ แล้วลากปลายลิ้นไปตามซอกคอระหงสูดดมกลิ่นกายที่หอมยั่วยวน“อื้อ....อาศิลา”หญิงสาวแอ่นโค้งไปตามแรงดูดดุนของปากร้อน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าร่างกายของตนเองกำลังมีความต้องการอยากให้เขาเข้ามาในตัวเธออีกครั้งแต่ไม่รู้จะบอกเขายังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด เธอกำลังจมอยู่กับตัณหาปณาลีที่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีความต้องการมากมายขนาดนี้ แม้จะแตะขอบสวรรค์ไปแล้วแต่ร่างกายยังร้อนรุ่ม หญิงสาวโทษว่าเพราะเหล้าดีกรีแรงที่ดื่มเข้าไป มันไม่ใช่ตัวตนของเธอเลยสักนิดหญิงริมฝีปากอิ่มแลกจูบอย่างเร่าร้อนและดูดดื่มไปตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง เธอจึงเบียดกายเข้าหาเพื่อรอคอยการเติมเต็มของพ่อหม้ายหนุ่มอีกครั้ง“ยี่หวาอาขอสดได้ไหม”เขายืดตัวขึ้นมากระซิบข้างหูและมองหน้าเธออย่างวิงวอน ตาคมจ้องอย่างรอคอยคำตอบเพร
ศิลามองร่างที่หอบเหนื่อยอยู่บนเตียงในห้องนอนที่เขายังไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมานอนแล้วเขาก็ยิ้ม ในเมื่อเธอเองก็ยินยอมและเขาเองก็เป็นชายชาตรีก็คงไม่อาจจะปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรอย่างแน่นอนชายหนุ่มรีบจัดการกับชุดของตนแล้วคร่อมทับลงมาบนร่างหญิงสาวอีกครั้ง ปณาลีมองศิลาด้วยสายตาหวานเชื่อม ความเมาทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่กล้ามากขึ้น หญิงสาวเอื้อมมือลากไล้ไปตามกล้ามหน้าท้องของเขาอย่างแผ่วเบา“อ่า....ยี่หวา”เขาครางแหบพร่าเมื่อมือนุ่มลากไปตามกล้ามท้อง มันกระตุ้นให้เขาไม่อยากจะรอเวลาอีกต่อไป ชายหนุ่มจูบไปยังเรียวปากอิ่มสีสวย สอดปลายลิ้นหยอกล้อเป็นพัลวันหญิงสาวจูบตอบแม้จะยังไม่เก่งแต่ก็ทำให้เขารู้สึกดี จูบหวานเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนจนปณาลีแทบหลอมละลายศิลาเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงควานหาถุงยางอนามัยที่ซื้อมาติดไว้แต่ยังไม่เคยได้เอาออกมาใช้เพราะนี่เป็นครั้งที่เขานอนกับผู้หญิงที่นี่ เขารีบสวมลงบนแก่นกายที่ร้อนระอุจากนั้นแยกเรียวขาของหญิงสาวให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิมริมฝีปากร้อนพรมจูบ ฝ่ามือฟอนเฟ้นหน้าอกอวบกนะตุ้นให้เธอเสียวซ่าน ส่วนมือข้างที่เหลือก็จับท่อนเอ็นร้อนลากขึ้นลงกลางกลีบสวยให้น้ำหวานช
คำตอบของปณาลีทำให้ศิลาต้องพยายามคุมสติของตนเองอย่างที่สุด เขามองลึกลงไปในดวงตาที่แดงก่ำและเห็นความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใน ชายหนุ่มเข้าใจถึงความรู้สึกที่อยากจะหลีกหนีจากความเป็นจริงเพราะเขาเองก็เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน อยากจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น“อาอยากให้เราคิดให้ดีก่อนนะ” ศิลาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเขาไม่อยากใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอของเธอ“ยี่หวาคิดดีแล้วค่ะ อาศิลาไม่รังเกียจยี่หวาใช่ไหมคะ” เธอถามพลางมองหน้าเขาสายตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ หญิงสาวกำลังคิดว่าใครๆ ก็รังเกียจและพากันทิ้งเธอไปศิลามองปณาลีในตอนนี้ดูสวยและเย้ายวนมากในชุดเกาะอกแดงรัดรูปที่ขับผิวขาวเนียนและปากอวบอิ่มสีแดงของเธอแล้วแอบกลืนน้ำลาย“ถ้ารังเกียจอาคงไม่พายี่หวามาที่นี่หรอกนะ” ศิลาตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าปณาลียิ้มก่อนจะดึงเขาเข้ามาใกล้และจูบลงบนริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา ศิลาตกใจเพราะไม่คิดว่าปณาลีจะทำแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ผลักไสเธอออกไป เขาจูบตอบเธออย่างนุ่มนวลก่อนที่ความร้อนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของร่างกายศิลากอดเธอไว้แน่นและจูบเธออย่างดูดดื่ม ปณาลีตอบสนองเขาอย่างไม่ประสาแต่ก็เต็มไป
ศิลาพาปณาลีมาที่บ้านของตนเองแต่กว่าจะพาเธอเดินมาถึงก็เล่นเอาแทบแย่เพราะเธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก็ถอยหลังอีกสามก้าวจนสุดท้ายเขาต้องประคองและแทบจะลากเธอเข้ามาด้านในชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่ห้องรับแขกและหาไวน์ให้เธอดื่มเพราะถ้าให้ดื่มวิสกี้อย่างที่เขาชอบเธอก็คงจะแย่ไปกว่าที่เห็น“อร่อย” หญิงสาวจิบไวน์แล้วยิ้มตาเยิ้มทั้งเมาและพอใจกับรสชาติที่หอมหวานของไวน์ราคาแพง“ยี่หวาบอกอาได้ไหมว่าทำไมถึงกินเหล้าหนักขนาดนี้ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” ศิลาถามพลางมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์“เปล่าสักหน่อยก็แค่อยากเมา” เธอเถียงก่อนจะดื่มไวน์ไปทีเดียวหมดแล้วแล้วทำท่าจะหยิบขวดไวน์มารินอีก“ไหนบอกว่าจะกินอีกแค่นิดเดียว” ศิลาถามพลางเลื่อนขวดไวน์ออกห่างจากมือเธอ“อาศิลาอย่างกได้ไหมของอร่อยก็ขอกินเยอะหน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กน้อย ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูดื้อรั้นจนศิลาใจอ่อน“เอางั้นก็ได้ แต่ต้องเล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาพูดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะรีบวิ่งกลับลงมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กให้เธอเช็ดหน้า“อยากฟังเหรอคะ”“อยากฟังสิ เช็ดหน้าหน่อยจะได้สดชื่นและมีสติเล่าให้อา
ในขณะที่ปณาลีกำลังดื่มเหล้าอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สายตาคู่หนึ่งก็มองด้วยความประหลาดใจและอดแปลกใจไม่ได้ว่าจะมาเจอกับเธอที่นี่ วันนี้ปณาลีดูสวยเซ็กซี่และโดดเด่นจนหลายคนในผับต่างมองไปที่เธอรวมถึงเขาและเพื่อนอีกสองคน“ผู้หญิงคนนั้นเป็นไงล่ะ สวยพอที่นายจะจัดการกับความเหงาของนายได้ไหมล่ะ” จิรกิตต์ถามพลางพยักหน้าไปทางหญิงสาวในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงที่เห็นว่าศิลาจ้องเธออยู่นาน“ไม่ดีกว่าเดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด” ถึงแม้จะสนใจในตัวเธอมากแต่เขาก็ไม่อยากจะเสียเพื่อนบ้านที่ดีอย่างปณาลีไป“คนรู้จักเหรอ แต่นั่นมันสเปกนายเลย” ธีรวัฒน์แปลกใจเพราะผู้หญิงคนนั้นตรงกับสเปกของศิลามาก ตัวเล็กผิวขาวและที่สำคัญหุ่นของเธอก็ดีมากๆ ด้วย“เธอเป็นเพื่อนบ้าน”“แบบนี้ฉันว่าไม่ดีนะ เพราะถ้าคิดจะแค่วันไนท์ฯ คงต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไม่ใช่ว่าตอนแรกบอกว่าวันไนท์ฯแต่พอนอนด้วยกันแล้วอยากให้รับผิดชอบขึ้นมานายจะซวยเอานะ” จิรกิตต์ด้วยความหวังดี“อือ ฉันก็ไม่คิดจะนอนกับเธอหรอก ยี่หวาเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เธอน่ารักทำอาหารอร่อยมากด้วย”“แต่นายจ้องเธอนานแล้วนะ”“ก็แค่เป็นห่วงเห็นมากันแต่ผู้หญิงแล้วก็ท่าทางจะเมามากด้วย” เขาไม่เคย