นี่ก็ผ่านไปแล้วสามสัปดาห์ที่ชายหนุ่มและหญิงสาวนั้นอาศัยอยู่ด้วยกัน...และความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเหมือนทิศทางจะไปในทางที่ดีขึ้น แต่มันก็กับหยุดชะงักเหมือนวันสองวันแรกที่อาศัยอยู่ด้วยกันเพราะหญิงสาวนั้นขีดเส้นและจำกัดความสัมพันธ์ของเขากับเธอไว้อย่างชัดเจน คือทุกมื้อเธอจะต้องนั่งทานข้าวเพียงแค่คนเดียว โดยจะต้องมีชายหนุ่มนั้นเป็นคนเตรียมอาหาร ไม่ว่าเธอจะทำอะไรชายหนุ่มก็ต้องเว้นระยะห่างกับเธอห้ามแตะเนื้อต้องตัว เว้นแต่ตอนที่จะต้องนวดเท้าให้เธอทุกคืน และตอนเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังเขาก็จะได้จูบลงที่ท้องนู้นนั้นหนึ่งครั้งในทุกๆ วันก่อนนอนและเขานั้นจะต้องนอนบนพื้นไม้แข็งๆ ข้างที่นอนของเธอเสมอๆ และมองใบหน้าของเธอทุกๆ คืนก่อนหลับไป แต่สิ่งที่หญิงสาวทำร้ายจิตใจเขามากที่สุดก็คือ ในช่วงเวลาที่เธออาบน้ำ หญิงสาวจะให้เขาไปยืนเฝ้าทุกครั้ง เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น เธอก็ไม่ยอมอาบน้ำคนเดียวอีกเลย และเป็นเขาเองเช่นเดียวกันที่ไม่อยากให้เธอคลาดสายตาของเขาแม้แต่วินาทีเดียว เพราะกลัวว่าลูกในท้องนั้นจะเป็นอะไรไป นั่นจึงทำให้ลูกชายตัวน้อยๆ ที่อยู่ภายในกางเกงของเขานั้นแสนจะทรมานเป็นอย่างมากในทุกๆ วั
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ!!!”“ฮึก!! คุณมาร์ช”“ครับพี่เอง”ในขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งร้องไห้อยู่และอ้อนวอนให้เขากลับมานั้น อยู่ดีๆ ชายหนุ่มที่เธอนั้นรอคอยนั้นก็เดินเข้ามาหาเธอในห้องนอน เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?? เธอก็ไม่ค่อยแน่ใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูเธอก็วิ่งเข้าไปกอดชายหนุ่มให้หายคิดถึงทันที“ฮึก!! คุณหายไปไหนมา?? พายนึกว่าคุณจะกลับไปแล้ว ไม่มาหาพายแล้ว ฮือๆ”“หยุดร้องก่อนนะครับคนดี พอดีเมื่อคืนพี่มีเดินทางไปคุยงานด่วนมา เพราะคนของพี่เคลียร์ไม่ลงตัวเลยจำเป็นต้องไป และเห็นหนูนอนอยู่พี่เลยไม่อยากรบกวน พี่คิดว่าแค่คุย 2-3 ชั่วโมงก็คงเสร็จ แต่มันดันกินเวลาไปค่อนข้างนาน พี่เลยกลับมาหาพายช้าไปนิดนึงครับ พี่ขอโทษนะครับคนดี”“ฮืออ!! น่าจะบอกพายสักนิดบ้าง ทำพายใจหายหมดเลย พายคิดถึงคุณค่ะ ฮือๆ”“พี่ก็คิดถึงพายเหมือนกันครับ” ชายหนุ่มกอดปลอบหญิงสาวและลูบที่ศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน“ฮือออ!! คนบ้า นึกว่าจะทิ้งพายกับลูกไปเสียแล้ว”“พี่จะทิ้งพายกับลูกได้ยังไงกันละครับ เพราะหัวใจของพี่อยู่ที่นี่ พี่จะหนีไปที่ไหนได้ละครับ”“ฮึก!! คุณมาร์ชพูดจริงเหรอคะ??”“จริงสิครับ พี่รักพายมากนะ” เมื่อเ
คำพูดของหญิงสาวเมื่อสักครู่ทำให้ชายหนุ่มนั้นแทบช๊อคเข้าไปอีก‘พระเจ้า!!! แมวน้อยของเขากำลังจะเป็นแม่เสือสาวอีกแล้ว’ แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันทำให้เขานั้นไม่ค่อยไว้ใจหญิงสาวสักเท่าไหร่ จึงหรี่ตามองหญิงสาวอย่างชั่งใจ“พายยยย กำลังแกล้งพี่อีกแล้วใช่ไหม??” ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่ไว้ใจ“ครั้งนี้ไม่แกล้งแล้วค่ะ พายสัญญา” หญิงสาวที่เห็นชายหนุ่มนั้นแอบลังเลเธอจึงค่อยๆ ถอดชุดนอนกระโปรงยาวสีขาวที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในตั้งแต่แรกออกอย่างช้าๆ ทำให้เห็นหน้าท้องที่นู้นเด่น บวกกับร่างอวบอิ่มของเธอให้ชายหนุ่มนั้นเห็นอย่างเต็มตา“พายยยยย!!!” ชายหนุ่มมองภาพที่อยู่ตรงหน้าและเปล่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงแห่บพร่า“พี่มาร์ช เข้ามาสิคะ พายพร้อมแล้ว” ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าที่ส่วมใส่อยู่ออกอย่างรวดเร็ว และค่อยๆ คลานเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ“ทำไมพายตัวแดงจังเลย เขินพี่เหรอครับ หึหึ”หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็เบือนหน้าไปอีกฝั่งเพราะความเขินอาย เพราะวันนี้เธอนั้นเป็นฝ่ายที่ชักชวนเขาเสียเอง“พะ พายยย เออ ขอดับไฟห้องดีกว่านะคะ”ในขณะที่เธอกำลังเอี้ยวตัวหันหลังให้ชายหนุ่มและกำลังใช้มือเรียวของเธอที่กำล
หลังจากที่ทั้งสองได้นอนปรับความเข้าใจกันในวันนั้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป…ทั้งสองเริ่มเปิดใจและพูดคุยกันมากขึ้น ทำให้ทั้งสองปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายขึ้นวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวนั้นต้องกลับไปกลับชายหนุ่มที่กรุงเทพ เพราะชายหนุ่มให้เหตุผลว่า ตอนนี้เธอนั้นท้องแก่มากๆ แล้วอยู่ที่กรุงเทพจะดีกว่า เพราะที่นี่ค่อนข้างห่างไกลจากในตัวเมืองและโรงพยาบาล หญิงสาวนั้นก็ตอบตกลง เพราะแอบเป็นห่วงลูกในท้องอยู่เหมือนกันแต่สิ่งที่เธอประทับใจในตัวของชายหนุ่มมากที่สุดคือ คนอย่างเขายอมคุกเข่าและยกมือไหว้ขอโทษพ่อกับแม่ของเธอที่ทำผิดและรังแกเธอก่อนหน้านี้ และสัญญาต่อหน้าพ่อกับแม่ของเธอว่าจะดูแลเธอและลูกในท้องเป็นอย่างดี จะไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อยที่ไหน และยังชวนพ่อกับแม่ของเธอย้ายถิ่นฐานไปอยู่กรุงเทพด้วยกันอีกด้วย ส่วนพ่อแม่เธอนั้นก็ยกโทษให้ชายหนุ่มโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ขอเพียงแต่ดูแลเธอได้พ่อกับแม่ของเธอนั้นก็พอใจแล้ว และยังขอบคุณชายหนุ่มมากๆ ที่ตลอดระยะเวลาที่แม่ของเธอเป็นมะเร็ง เขาก็คอยหาหมอเก่งๆ มารักษา ทำให้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ แถมยังแข็งแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแต่สิ่งที่เธอแอบน้อยใจนั้นก็คือวันที่ชายหนุ่มกลับกรุง
“พะ พี่มาร์ช!!!”หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็เขินชายหนุ่มจนหน้าแดง นับวันเขายิ่งพูดจาห่ามๆ ได้ทุกวัน ไม่อายเธอเลย แถมยังรุกเธอไม่หยุดหย่อน“หึหึ!!” เขาหัวเราะออกมาในลำคอเบาๆ อย่างชอบใจ“ว๊ายย!!! พี่มาร์ช หยุดมองพายเดี๋ยวนี้นะ คนบ้า!!! พายก็อายเป็นนะ”เมื่อเธอมัวแต่เขินอายจนลืมไปว่าตอนนี้เธอนั้นตัวเปลือยเปล่าไม่มีอะไรติดตัวเลย และชายหนุ่มนั้นก็จ้องมองเธออย่างไม่วางตา“ไม่ต้องอายครับ พี่เห็นของหนูทุกซอกทุกมุม แถมยังสัมผัสมาหมดแล้ว”ชายหนุ่มพูดจบก็ค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปหญิงสาวโดยอ้อมไปทางด้านหลังของเธอ“พี่มาร์ช จะทำอะไรคะ??”“พี่ก็จะนวดให้พายไงละครับ เดินทางมาเหนื่อยคงจะเมื่อยน่าดู”ชายหนุ่มพูดจบก็ค่อยๆ ใช้มือนวดที่ไหล่ของหญิงสาวเบาๆ เพื่อให้เธอนั้นรู้สึกผ่อนคลาย“อือ พะ พี่มาร์ช!!!”“ครับ??”“ไม่ต้องนวดให้พายก็ได้ค่ะ พาย ไม่เมื่อยแล้ว” หญิงสาวที่กำลังจะลุกขึ้นก็อ่างอาบน้ำก็ถูกมือของชายหนุ่มนั้นรั้งที่บ่าไหล่ของเธออีกครั้ง“อยู่เฉยๆ นะครับ พี่กำลังทำให้หนูผ่อนคลาย ลูกของเราก็จะได้ไม่เครียดด้วย”“อืมมม!!! อื้อออ!!!” อยู่ๆ มือหนาที่กำลังนวดที่บ่าไหล่ของเธอนั้นค่อยเลื่อนลงมาบีบคล้ำที่หน้าอกของเธออย
นี่ก็ผ่านมานานหลายสัปดาห์แล้ว ที่เธอเข้ามาอยู่คฤหาสน์หลังนี้…และนี่เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้วที่หญิงสาวนั้นจะตั้งครรภ์ เพราะอาทิตย์หน้าก็ครบกำหนดวันคลอดของเธอตอนนี้ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และนับวันตั้งหน้าตั้งตารอเจอหน้าเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องวันนี้หญิงสาวนั้นนั่งเล่นและอ่านหนังสือ เพื่อรอชายหนุ่มนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน ตอนนี้ท้องเธอเริ่มโตมากๆ และการขยับตัวนั้นก็ค่อนข้างยาก ชายหนุ่มนั้นจึงคอยดูแลเธอไม่ยอมห่างจากสายตา แม้กระทั่งงานทั้งหมดที่บริษัท เขาก็สั่งให้บอดี้การ์ดนั้นหอบกลับมาทำที่คฤหาสน์ทั้งหมด“มองหน้าอย่างนี้ อยากให้พี่ทักทายลูกอีกเหรอครับ หื้มมม” ชายหนุ่มแซวหญิงสาวที่กำลังแอบมองชายหนุ่มผ่านหนังสือกที่บังใบหน้าของเธอตอนที่แอบมองชายหนุ่มอยู่“พาย เปล่านะคะ” เมื่อเธอรู้ว่าชายหนุ่มรู้ตัวเธอก็เบือนหน้าไปทางอื่น แก้อาการเขินของตัวเอง น่าอายจัง แอบมองสามีของตัวเอง“ทำไมหน้าแดงละครับ เขินพี่เหรอ??”“เออ..คือ พายยย…”“พี่ก็ไม่ได้ห้ามอะไรนี่ครับ อยากมองหน้าพี่เต็มๆ ก็ไม่บอก” ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ทำงานและเดินไปหาเธอยังโซฟา ค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปจูบที่หน้าผากของเ
ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบได้เพียงนิดเดียว ชายหนุ่มก็เพิ่งคิดได้ว่าเขานั้นเพิ่งผ่านกิจกรรมกับหญิงสาวมา เมื่อหญิงสาวพูดออกมานั้นทำให้เขานั้นอายเป็นอย่างมาก เขามองจากกระจกด้านหลังในรถ ก็พบว่าบอดี้การ์ดของเขานั้นแอบยิ้มอยู่มุมปาก แต่ไม่กล้าพูดออกมา“อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่งั้นกูจะยิงพวกมึงทิ้งแน่”ชายหนุ่มตะโกนสั่งบอดี้การ์ด และรีบเอามือเช็ดมุมปากอย่างรวดเร็ว“ครับนาย”‘หน้าอายชะมัด’ เขานึกอยู่ในใจ“อือ พี่มาร์ช พายปวดท้องจังเลยค่ะ”หญิงสาวที่นั่งอยู่ภายในรถ จับมือชายหนุ่มแน่น ตอนนี้เธอมีเหงื่อผุดออกมาตามไรผมเต็มไปหมด ชายหนุ่มกุมมือหญิงสาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือไปไหน“อดทนอีกนิดนะครับน้องพาย ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว พี่บอกไอ่คินน์กับปันปันไว้แล้ว ไม่ต้องกังวลอะไรนะ พี่จะอยู่เคียงข้างหนูทุกวินาที”“หืออ พี่มาร์ช สัญญานะคะ จะไม่ทิ้งพายไปไหน พายกลัว”“พี่สัญญาครับ ไม่ทิ้งพายอย่างแน่นอน”ชายหนุ่มจับศีรษะของเธอมาและลูบปลอบโยนเบาๆ“พวกมึงอีกนานไหมจะถึงโรงพยาบาล??” ชายหนุ่มตะโกนไปถามบอดี้การ์ดด้านหน้ารถ“อีกไม่เกิน 10 นาทีครับนาย”“เร็วๆ หน่อย เมียกูจะคลอดแล้ว”“พี่มาร์ช อย่าไปเร่งพี่การ์ด
“ยินดีด้วยนะครับน้องพาย ยินดีด้วยนะไอ่เพื่อนรัก”คินน์เดินมาตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆ ที่กำลังยืนมองดูเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองอยู่ในมือของหมอปันปัน และร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ“ยินดีด้วยนะคะน้องพะพาย พี่มาร์ช เด็กแข็งแรงมากเลยค่ะ” หมอปันปันอุ้มเด็กอยู่ในมือและค่อยๆ ยืนให้ต่อให้กับคุณแม่มือใหม่พะพายที่เจ็บท้องจากการคลอดลูกเมื่อสักครู่ เมื่อได้เห็นเด็กทารกที่ตนเองอุ้มท้องมาถึงเก้าเดือนก็ดีใจจนน้ำตาไหลและก้มไปจูบที่ใบหน้าของเจ้าตัวเล็กอย่างแผ่วเบา และลืมความเจ็บปวดเมื่อสักครู่นี้จนหมดสิ้นไป“น้องพาย ฮึก ลูกของเรา พี่ดีใจเหลือเกิน ขอบคุณมากนะครับ ที่อุ้มท้องเจ้าตัวเล็กจนคลอดออกมา”ชายหนุ่มหันไปขอบคุณหญิงสาวที่นอนมองดูหน้าลูกอยู่ และก้มจูบที่หน้าผากมนของหญิงสาวเบาๆ“ขอบคุณพี่มาร์ชเช่นกันนะคะ ที่ค่อยเลี้ยงดูลูกตอนที่อยู่ในท้องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ลูกได้ทานอาหารดีๆ และได้ฟังนิทานก่อนนอนทุกวัน”หญิงสาวพูดขอบคุณและใช้มือดึงชายหนุ่มลงมาหอมที่แก้มสากของเขาเช่นเดียวกัน“ขอบคุณพี่หมอคินน์พี่หมอปันปันมากๆ นะคะที่คอยให้กำลังใจและทำคลอดให้พาย และคุณพยาบาลทุกคนมากๆ ด้วยค่ะ วันนี้เป็นวันที่พิเศษสุดๆ
แอ๊ดดด!! ปัง!!“มึงมาทำเชี้ยไรอีกเนี้ยะ ไอ้โรม” ชายหนุ่มมองหน้าเพื่อนรักอย่างหงุดหงิดที่มารบกวนเวลานอนของเขา“หวัดดี!! กูมาดูอาการของน้องกอหญ้าครับเพื่อนรัก” หมอหนุ่มยืนโบกมือและส่งยิ้มไปหาเพื่อนรักเบาๆ“มึงไม่มีงานมีการทำหรือไง คนไข้ที่โรงพยาบาลมึงน้อยไปหรอ กูจะได้จัดการยิงคนส่งไปให้มึงรักษา”“มีครับ แต่กูไม่ทำ มึงลืมไปแล้วเหรอ ว่ากู...เป็นเจ้าของโรงพยาบาล” หมอหนุ่มยืนยักคิ้วเบาๆ ใส่ชายหนุ่ม“ไอ้เหี้ยยยย!!”“ว่าแต่มึงเถอะ สายขนาดนี้งานการไม่มีทำหรือไง กูจะได้ให้ลูกน้องไปทุบตึกโรงแรมมึงแล้วให้มึงสร้างใหม่ และปกติเนี้ยะ...กูเห็นทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือว่ามีอะไรผิดปกติไปนะ” หมอหนุ่มยืนจ้องชายหนุ่มอย่างจับผิด“กูก็ปกติของกู แค่วันนี้กูอยากพักผ่อน”“โว้วๆ เป็นห่วงแม่สาวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงก็บอกมาเถอะ” หมอหนุ่มทำท่ามองทะลุเข้าไปในห้องของชายหนุ่ม“ไอ้โรม มึงห้ามมอง” ชายหนุ่มพยายามปิดประตูเพื่อไม่ให้หมอหนุ่มเห็นหญิงสาวในสภาพแบบนี้ แต่ก็ถูกหมอหนุ่มพยายามดันประตูเพื่อแกล้งชายหนุ่ม"แต่กูจะมอง""กูไม่ให้มอง"“หึๆ งั้นกูมีข้อตกลง”“อะไร??”“มึงต้องยกเว้นการเข้าใกล้กูกับน้องกอหญ้า”“ไม่ได้!!”“งั
“ไอ้มิกซ์ ไอ้ฟิลิป พวกมึงหายหัวไปไหนกันหมดวะ!!” ชายหนุ่มตะโกนดังลั่นคฤหาสน์บอดี้การ์ดรีบวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างตกใจเพราะตั้งแต่ทำงานกับเจ้านายไม่เคยเห็นพฤติกรรมของเจ้านายแบบนี้เลย“ครับนาย/ครับนาย”“เธอหายไปไหน??” พอชายหนุ่มกล่าวออกมาก็ทำให้บอดี้การ์ดทั้งสองรู้ทันทีว่าหมายถึงใคร“ผมเห็นเธอเดินกะเผลกขาเข้าไปในห้องรับรองครับ” ฟิลิปรีบตอบผู้เป็นนายเมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ใจชื่นขึ้นทันที“อืม พวกนายไปทำงานได้แล้ว”"ครับนาย/ครับนาย" ทั้งสองโค้งคำนับและพากันเดินออกไปทำหน้าที่ของตนณ ห้องรับรองชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเห็นหญิงสาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงก็แทรกตัวเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มเดียวกับเธอและดึงเธอมากอดเอาไว้“อือ...” หญิงสาวพึมพำในละคอเบาๆ เหมือนถูกใครดึงมากอดอย่างอ่อนโยนและซุกเข้าไปหาแผงอกแกร่งอย่างเบาๆ19.00 น.“อือ...” หญิงสาวลืมตาขึ้นมาก็พบว่าชายหนุ่มกำลังกอดเธอไว้ เธอก็ตกใจเล็กน้อย ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ เธอจองใบหน้าของเขา ปลายจมูกของเขา และริมฝีปากของเขา“ทำไมคุณใจร้ายกับกอหญ้าจังเลยนะ” หญิงสาวพูดออกมาเบาๆ นอนมองชายหนุ่มที่กอดเธอไว้และน้ำตาคลอเธอยกแขนชายหนุ่มออกจากตัวเธออย่างเบ
“ใครอยู่ข้างนอก ไปตามหมอโรมมา!!!” ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวนอนแน่นิ่งก็ทำให้เขาแทบคลั่ง"เธอจะตายไม่ได้ นี่คือคำสั่ง"เอี๊ยดดดดดดดดด!!!หมอโรมรีบวิ่งเข้ามาในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เมื่อได้รับสายโทรศัพท์จากบอดี้การ์ดของแดเนียลว่าน้องกอหญ้าหมดสติ“ไอ้แดเนียล กูมาแล้ว”ชายหนุ่มวิ่งขึ้นไปบนห้องรับรองที่หญิงสาวพักอาศัยอยู่เมื่อแต่“ทางนี้โว้ย!! ไอ้โรม”“ห๊ะ!!” แดเนียลตะโกนเรียกหมอหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง“ทำไมน้องกอหญ้าถึงไปอยู่ห้องมึงได้??” หมอหนุ่มถามออกมาอย่างสงสัย“ก่อนจะตั้งคำถามมาถามกู มึงมาดูเธอก่อนเถอะ” หมอหนุ่มหยุดความสงสัยไว้ ณ ตอนนั้น และรีบวิ่งเข้าไปดูหญิงสาวที่ห้องของแดเนียล“ไอ้แดเนียลลล ไอ้เพื่อนเวร ทำไมมึงทำร้ายน้องเขาหนักขนาดนี้วะ”หมอหนุ่มยืนดูหญิงสาวที่ตอนนี้หมดสติอยู่ ร่างกายเธอตอนนี้บอบช้ำไปหมด ไหนจะผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ คราบเลือดเกรอะบนที่นอน ที่มาจากบริเวณขาของเธอเต็มไปด้วยรอยถลอก หมอหนุ่มเอื้อมไปแตะหน้าผากเธอก็พบอีกว่า ตัวเธอนั้นร้อนเป็นไฟ“มึงทำร้ายน้องกอหญ้าของกูแล้วใช่ไหม??” หมอหนุ่มหันหน้าไปถามชายหนุ่ม“ไม่ใช่ของมึง!!” ชายหนุ่มเถียงกลับมาอย่างลืมตัว จนห
ชายหนุ่มลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าไม่สนใจหญิงสาว มองดูคราบเลือดที่เปื้อนบนที่นอนอย่างสงสัยและแอบดีใจที่เขาเป็นคนแรกของเธอ“ฉันให้เวลาเธอแต่งตัว 15 นาที เตรียมตัวไปทำงาน”“แต่หนูเจ็บตรงนั้น หนูลุกไม่ไหว”“โดนแค่นี้ อย่ามาสำออย เธอเป็นแค่เชลย ไม่มีสิทธิ์มาต่อรองกับฉัน”“ฮือๆ”“หยุดร้อง ฉันรำคาญ”“ฮึก!! ค่ะ”“ฉันจะไปรอข้างล่าง ถ้าช้า!!เธอโดนหนักกว่านี้แน่” แล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไป“เธอต้องเข้มแข็งนะ กอหญ้า” แล้วหญิงสาวก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วรีบเดินไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวชายหนุ่มจะโมโหอีก15 นาทีต่อมาณ หน้าคฤหาสน์หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีครีม เธอใส่ชุดนี้ทำให้เธอดูดีเป็นอย่างมาก และเดินขากะเผลกลงมายังประตูทางเข้าคฤหาสน์ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงไม่พอใจขึ้นอีก“อ่อยเพื่อนฉันยังไม่พอ นี่ยังมาอ่อยบอดี้การ์ดของฉันอีกหรอ ห๊ะ”“หนูเปล่านะ หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” หญิงสาวถามชายหนุ่มอยากสงสัย“ก็เธอใส่ชุดนี้ลงมายังไงล่ะ”“ก็ในตู้เสื้อ..” หญิงสาวกำลังจะบอกว่าในตู้เสื้อผ้ามีแต่ชุดเดรสจะให้เธอใส่อะไร แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจคำอธิบายของเธอ“อย่ามาเถียงฉัน”“ค่ะ” หญิงสาวยืนก้มหน้าน้ำตาคลอ ไม่กล
เช้าวันต่อมา…“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้หมอหนุ่มที่เข้ามารักษาเธอ“สวัสดีครับ ผมชื่อโรม เป็นหมอประจำคฤหาสน์แห่งนี้ครับ” หมอโรมกล่าวทักทายหญิงสาว“หนูชื่อกอหญ้านะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เมื่อชายหนุ่มได้ยินชื่อหญิงสาวก็คิ้วขมวดเล็กน้อย เพราะจำได้ว่าแดเนียลบอกว่าคนที่ทำร้ายพี่ชาย ชื่อว่า ข้าวฟ่าง“อ๋อ เอ่อ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณกอหญ้า”“เรียกกอหญ้า เฉยๆ ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตาหยีส่งให้หมอหนุ่ม‘เชี้ยแล้วไหมล่ะ ไอ้โรม ทำไมเธอน่าตาน่ารัก น่าทะนุถนอมขนาดนี้ว่ะ’ หมอหนุ่มคิดอยู่ในใจ“เออ หมอโรมคะ อาการกอหญ้าเป็นอย่างไงบ้างคะ”“เรียกผมพี่โรมก็ได้ครับ ตอนนี้อาการน้องกอหญ้าดีขึ้นมากๆ เลยครับ นอนพักอีกสักวันน่าจะหายดีแล้วครับ”“ขอบคุณมากค่ะ พี่โรม”“ครับ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะครับ หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะครับ” หญิงสาวยิ้มให้ชายหนุ่มด้วยนัยตาเศร้าเมื่อได้ยินว่าจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป“ไม่เจอกันเลยน่าจะดีกว่านะคะ ถ้าพี่โรมมาแสดงว่ากอหญ้าจะต้องป่วย กอหญ้าไม่ชอบฉีดยาค่ะ” หญิงสาวทำจมูกย่นอย่างน่าเอ็นดูหมอหนุ่มยื่นมือไปลูบศรีษะของกอหญ้าเบาๆ“หึ เด็กน้อย วันหน้าถ้าพี่ว่างพี่จะพาน้องกอหญ้าไปเที่
ณ ห้องทำงานก๊อก!! ก๊อก!!“เข้ามา”“นายครับ หมอโรม มาถึงแล้วครับ”“ให้ไปที่ห้องของเธอได้เลย”“ครับนาย”20 นาทีต่อมาแอ๊ดดด!! ปัง!!หมอโรมรักษากอหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยความโมโหจึงเปิดประตูเข้ามายังห้องทำงานของแดเนียลที่เจ้าตัวกำลังนั่งทำงานอยู่อย่างรวดเร็ว“ไอ้แดเนียล มึงทำอะไรของมึงเนี้ยะ”“ทำอะไร??” ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนของตนจะเข้ามาต่อมา“ก็มึงเอาคุณข้าวฟ่างเข้ามาในบ้านยังไงล่ะ”“แล้วจะทำไม”“นี่มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะเว้ย มึงจะจับตัวเธอมาแก้แค้นไม่ได้ ตัวเธอยิ่งเล็กๆ บอบบางอยู่ นี่ถ้ากูมาไม่ทันนะ เธออาจจะช็อคตายไปแล้วก็ได้”“มึงไม่ใช่กูจะไปรู้อะไร กูรอวันเวลานี้มานานมาก กว่าจะจับตัวเธอมาได้ และอีกอย่างนังนั่นไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง แต่คือ ฆาตรกร!!”“กูคงห้ามมึงไม่ได้สินะ”“ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แล้วมึงจะถามทำไม”“งั้นก็เบาๆ กับเธอหน่อยก็แล้วกัน จากที่ฉันดูลักษณะเธอไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร น่าเอ็นดูด้วยซ้ำไป”“กูไม่รับปาก”“ไอ้แดเนียล มึงนี่มัน!!” หมอโรมยืนชี้หน้าชายหนุ่มอย่างโมโห“ตรวจเสร็จแล้วใช่ไหม”“เออ อีก 1-2 วัน น่าจะดีขึ้น กูฉีดยาลดไข้และให้น้ำเกลือไว้แล้ว เพราะร่างกา
บรรยากาศค่ำคืนนี้เหน็บหนาวกว่าปกติ ภายนอกคฤหาสน์มีอากาศเย็นจัด และละอองน้ำบนฟ้าเกิดการจับตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็ง เริ่มโปรยลงมาจากท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน นั่นคือฤดูกาลหิมะตกเข้ามาถึงแล้ว ทำให้ห้องชั้นใต้ดินอากาศเย็นกว่าปกติ ร่างบางนอนขดตัวอยู่บนพื้น ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ เพราะปรับตัวไม่ทัน เพราะย้ายมาจากเขตเมืองร้อนที่ประเทศไทย มายัง เขตเมืองหนาวที่ประเทศอิตาลี บวกกับเสื้อผ้าชุดนักศึกษาของเธอที่ไม่สามารถบรรเทาความหนาวให้อุ่นขึ้นมาได้เลยตอนนี้ภายในร่างกายของเธออุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงขึ้นอย่างเรื่อยๆ“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยหนูด้วย” เธอพยายามเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากด้านนอก“หนูหนาว ขอผ้าห่มคลุมตัวหน่อยได้ไหมคะ” แต่ไร้เสียงตอบรับจากภายนอกเหมือนเดิมหญิงสาวได้แต่พยายามข่มตัวเองและข่มตานอนเพื่อให้ถึงเช้าของอีกวันเพื่อจะได้ขอผ้าห่มหนาๆ ประทังความหนาวและข้าวอีกสักมื้อ ณ ห้องทำงานก๊อก!! ก๊อก!!“เข้ามา”“นายครับ คนที่ยืนเฝ้าหน้าประตูบอกว่า หญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือ เพราะอากาศหนาวครับ” ฟิลิปยืนรายงานเจ้านายของตัวเอง“นายเป็นห่วงเธอ???” ชายหนุ่มเงยหน้าออกมาจากกระดาษที่กำลังจดจ่อบริเวณด้านห
หญิงสาวกรี๊ดและหลับตาเพื่อทำใจยอมรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นแต่!!!! เสียงกระโจนเข้ามานั้นไม่โดนตัวเธอ และไม่ทำให้เธอนั้นเจ็บปวดแต่ปวดอย่างใดหงิง!! หงิง!! หงิง!! แผล่บ แผล่บ เธอสัมผัสได้ถึงน้ำลายของสัตว์ตัวนั้นโดนที่ใบหน้าของเธอเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ใช่ หมาป่า ลักษณะดุร้ายตัวนั้น กำลังเลียที่ใบหน้าของเธอ พร้อมหางกระดิกอย่างดีใจเห้อ!! เธอถอนหายใจออกมาอย่างเต็มปอด และมองจ้องหน้าสายตาอ่อนโยนไปยังหมาป่าตัวนั้น“ไง เธอคงชื่อเจ้าลูซ สินะ” หญิงสาวเอามือเรียวยาวของเธอ สัมผัสลูบเข้าไปที่ลูซหงิง!! หงิง!! หงิง!! เหมือนเจ้าลูซจะตอบรับเธอว่าใช่ ว่าตัวเองชื่อลูซ“เธอทำฉันตกใจหมดเลยนะ” ลูซยังพยายามสำรวจสำรวจตัวเธอและรับรู้ได้ว่าร่างกายเธอซูบผอม จึงใช้มือกัดที่แขนของเธอและดึงแขนเบาๆ เพื่อบอกให้เธอลุกขึ้น และลูซก็เดินมายังจานอาหารอีกจานก่อนหน้านี้ที่บอดี้การ์ดนำว่าวางไว้ให้เธอและมองหน้าเธอหงิง!! หงิง!! หงิง!!“ให้ฉันกินข้าวเหรอ”หงิง!! หงิง!! หงิง!!“ฉันไม่อยากกิน ฉันคิดถึงบ้าน” แต่ลูซก็ไม่ลดความพยายาม เดินเข้ามาดึงแขนของเธอและส่งสายตาอ้อนวอนเพื่อให้เธอกินข้าว“อืม กินก็ได้ จะได้มีแรงไปสู้ก
เช้าวันใหม่“นายครับตอนนี้คุณข้าวฟ่างก็ยังไม่ทานข้าวเลยครับ”“เตรียมข้าวมาให้เธอใหม่”“ครับนาย”ณ ห้องใต้ดินหญิงสาวนอนซมอยู่บนพื้นอันเย็นเฉียบ รวมถึงศรีษะกระแทกพื้นอย่างแรกเมื่อวานทำให้มีแผลบริเวณหน้าผาก และไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ถูกจับตัวมา ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก บอดี้การ์ดชุดดำหลายๆ คน เดินเอาอาหารมาให้แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมกิน เพราะมั่วแต่วิตกกังวลและคิดถึงแต่บ้าน หญิงสาวพยายามนั่งคิด นอนคิดว่าทำไมถึงจับตัวมาที่นี่แต่คิดทีไรก็คิดไม่ออก แต่จากการถามชายชุดดำว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เขาบอกเธอได้แค่ว่า ที่นี่คือประเทศอิตาลี หญิงสาวพยายามคิดต่อก็นึกขึ้นได้ว่าหรืออาจจะเป็นเพราะจับมาผิดตัว เพราะพี่สาวฝาแฝดของเธออาศัยอยู่ที่อิตาลี แต่ก็นานหลายปีแล้วที่พี่สาวไม่ยอมติดต่อกลับมาหาเธอที่ทางบ้านเลย เธอพยายามติดต่อไปแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับกลับมา หรือพี่สาวของเธอทำร้ายพี่ชายของชายหนุ่มนั้น แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม เพราะเธอรักและเป็นห่วงพี่สาวของเธอมาก กลัวว่าพี่สาวของเธอจะได้รับอันตราย แต่ทันใดนั้นเองแกร๊ก!! เสียงประตูห้องเปิดออกมาอย่างช้าๆ ทำให้เธอหรี่ม่านตาลงเพราะแสงสว่างด้านนอกจ้า ทำให้เธอป