Share

บทที่ 14

last update Last Updated: 2025-04-08 09:13:27

เมื่อถึงบ้านชนบท ซูเจินจูเข้าไปทำลายผ้าทันที สี่เสวี่ยจัดการบอกกล่าวกฎระเบียบในบ้านให้ซินซียงทาสที่ซื้อมาใหม่ฟัง เมื่อเห็นว่าหลิวหยางและจางหมิ่นออกไปอยู่ที่เรือนชั้นนอกแล้ว ก็ให้ซินเซียงเข้าไปพักอยู่ห้องเดิมของทั้งสองคนก่อน ตรวจดูความเรียบร้อยในบ้านและในครัวแล้วเห็นว่าข้าวและธัชพืชเหลือเล็กน้อย จึงให้หลิวหยางเตรียมรถม้าและพาซินเซียงไปตลาดในตำบล สี่เสวี่ยซื้อชุดเครื่องนอนใหม่และผ้าฝ้ายสำหรับตัดชุดหนึ่งพับให้ซินเซียง ข้าวสาร ธัญพืช ผักดอง เกลือ น้ำตาล เพียงพอที่จะใช้ไปถึงสองเดือน สี่เสวี่ยจ่ายเงินสามตำลึงอย่างเจ็บปวดและยัดของทุกอย่างเข้าไปในรถม้า วันนี้คุณหนูไม่ได้มาด้วย นางไม่จำเป็นต้องจ้างเกวียนเทียมวัวเพิ่ม

เมื่อกลับมาถึงบ้าน แต่ละคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง สี่เสวี่ยไปวาดลายผ้าที่ลานหิน ซินเซียงเก็บข้าวของและเข้าครัวทำกับข้าว หลิวหยางตรวจตราบริเวณหน้าบ้านไม่ให้คนงานเข้ามาวุ่นวายที่เรือนชั้นใน จางหมิ่นตรวจตราบริเวณหลังบ้าน ดูแลสวนดอกหอมหมื่นลี้และดูแลซูเจินจูบริเวณลานหิน

ซูเจินจูที่ทำลายผ้าเสร็จก่อนสี่เสวี่ยก็สั่งให้จางหมิ่นขึ้นเขาไปล่าสัตว์ป่ากับตน

“คุณหนู อย่าเข้าไปลึกเลยขอรับ พวกเราไม่มีธนู ล่าสัตว์ตัวเล็กๆแถวนี้ก็พอขอรับ” จางหมิ่นที่นึกอยากจะให้ซูเจินจูเป็นผู้ชาย ตนจะได้อุ้มขึ้นบ่าป้องกันไม่ให้ร่างกายของคุณหนูของเขาถูกกิ่งไม้ได้รับบาดเจ็บ หากเจอสัตว์ป่าก็ได้อุ้มหนีได้ทัน

“เจ้านี่ขี้บ่นเหมือนสี่เสวี่ยไม่มีผิด พวกเจ้าเป็นพี่น้องที่พลัดพรากกันมาหรือไง”

“โถ่ คุณหนู หากบ่าวปล่อยให้คุณหนูเข้าไปลึกกว่านี้ กลับไปแม่นางสี่เสวี่ยก็คงไม่ปล่อยให้หูทั้งสองข้างของบ่าวได้อยู่สงบแน่” ถึงแม้จะเป็นบ่าวเหมือนกัน แต่บ่าวอย่างเขา และบ่าวอย่างสี่เสวี่ยก็แตกต่างกันมากนัก เขาจึงต้องเกรงใจสี่เสวี่ยอยู่หลายส่วน

ฟิ้ววว!! เสียงมีดสั้นเล่มหนึ่งลอยผ่านอากาศผ่านหน้าของจางหมิ่นไปอย่างว่องไว

“เจ้าไปเก็บมาสิ”

จางหมิ่นยังมีสีหน้าตกใจแววตาตื่นตะลึง เมื่อสักครู่คุณหนูปามีดสั้นออกไปทั้งรวดเร็วและรุนแรง หากไม่ใช่คนที่มีประสาทสัมผัสไวหรือคนที่มีพื้นฐานวรยุทธ์คงไม่มีทางหลบเลี่ยงมีดเล่มนั้นได้แน่

“เป็นกระต่ายป่าขอรับ” จางหมิ่นใช้เชือกผูกขากต่ายสะพายขึ้นหลังและเช็ดมีดสั้นส่งคืนให้ซูเจินจู

“โอ้โห กระต่ายที่นี่ช่างตัวใหญ่นัก ไปๆ ไปหาอีกสามสี่ตัวเถอะ”

กระต่ายอีกสามตัวที่จับได้ที่หลังล้วนตายด้วยมีดสั้นของซูเจินจูทั้งสิ้น

“จางหมิ่น เห็นที่ว่าข้าต้องซื้อธนูกับมีดสั้นให้พวกเจ้าเพิ่มเสียแล้ว ลำพังดาบที่ใหญ่โตของเจ้า เข้าป่ามาก็ทำได้เพียงตัดเถาวัลย์เท่านั้น”

จางหมิ่นมองหน้าซูเจินจูก่อนพยักหน้ารับอย่างปลงๆ จะให้เขาพูดอะไรได้ ไม่ใช่ว่าดาบของเขามันไม่ได้เรื่อง คราวก่อนที่ขึ้นเขามากับหลิวหยางเขาก็ใช้ดาบนี้จัดการหมูป่าตัวใหญ่ได้ด้วยซ้ำ ต้องโทษว่ามีดสั้นของคุณหนูรวดเร็วเกินไปเสียมากกว่า “เรากลับกันเถอะขอรับคุณหนู หากช้ากว่านี้แม่นางสี่เสวี่ยคงบังคับให้หลิวหยางขึ้นมาตามคุณหนูแน่ๆ”

“อ่อ เช่นนั้นก็กลับเถอะ สี่ตัวนี้ก็คงพอกินแล้ว”

“ลงไปทางนี้เถอะขอรับคุณหนู”

“ฝั่งนู้นใกล้กว่าไม่ใช่หรือ เหตุใดให้ข้าเดินอ้อม”

 “หากไปทางฝั่งนั้น จะมีภูเขาลูกเล็กขวางทางเดินอยู่ ทางเดียวที่จะผ่านได้คือลอดถ้ำขอรับ แต่ในถ้ำเต็มไปด้วยแมงมุม คนในหมู่บ้านบอกว่าแมงมุมพวกนั้นเป็นแมงมุมเฝ้าป่า เคยมีนายพรานฆ่าเสือผ่านทางมากลับถูกแมงมุมกัดไม่พ้นสามวันก็ตาย บางคนเข้าไปก็ขยับตัวไม่ได้อีกเลย บางคนดีหน่อยไม่ตายแต่ก็มีผื่นขึ้นทั่วตัว ดังนั้นชาวบ้านที่ขึ้นมาล่าสัตว์ป่าจึงไม่เดินผ่านถ้ำนั้นกันขอรับ บ่าวเคยเข้าไปดูแล้วพบว่าเป็นอย่างที่ชาวบ้านว่า คุณหนูเดินอ้อมหน่อยเถอะขอรับ”

“แมงมุมหรือ เหตุใดถูกแมงมุมกัดจนถึงตาย พาข้าไปดูหน่อยเถอะ”

“คุณหนู แต่ว่า..”

“แต่ว่าอะไร เอาน่าๆ ตามข้ามาเถอะ คุณหนูผู้นี้จะปกป้องเจ้าเอง”

“โถ่ คุณหนู ..คุณหนูเดินตามหลังบ่าวเถอะขอรับ ไปดูเพียงหน้าถ้ำพอนะขอรับ หากเกิดอะไรขึ้น เอ่อ บ่าวกลัวจะไปตามหมอไม่ทัน”

“เพ้ย เจ้าแช่งข้าหรือ ไปๆ ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ไว้ ขอแค่เจ้าเดินตามข้าคุณหนูผู้นี้ แมงมุมพวกนั้นไม่กัดเจ้าหรอก”

“จริงหรือขอรับ”

“จะจริงได้อย่างไร ข้าหลอกเจ้าไปอย่างนั้นเอง ฮ่าๆ” ดูท่าจางหมิ่นผู้นี้จะเป็นพี่น้องที่พลัดพลากจากสี่เสวี่ยจริงๆเป็นแน่..

ในถ้ำมีแมงมุมมากมายหลายร้อยตัว แต่ไม่ใช่แมงมุมเจ้าป่าอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจ แมงมุมพวกนี้เหมือนจะเป็นแมงมุมกินนก หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อแมงมุมทารันทูร่า นางเคยอ่านเจอในประวัติศาสคร์จีนว่าแมงมุมพวกนี้มีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ พบได้ในพื้นที่ไห่หนาน หูเป่ย แล้วก็อวิ๋นหนาน มีขนาดตัวเมื่อโตเต็มวัยประมาณสิบห้าถึงสามสิบเซนติเมตร แต่เจ้าพวกนี้มีขนาดตัวใหญ่โตมากกว่าลูกหลานมันสองถึงสามเท่า ดูท่าทางว่าพิษแมงมุมก็น่าจะรุนแรงกว่าเหล่าทายาทของพวกมันในชาติก่อนมากเช่นกัน พิษที่ขนตามขาของพวกมันทำให้ชาและเป็นอัมพาตพิษโดยมากส่งผลต่อระบบประสาท พิษจากเขี้ยวของพวกมันจะทำให้อักเสบ ติดเชื้อ เกร็ดเลือดต่ำ และเจ็บปวดรุนแรง หากได้รับพิษมากเกินไป การทำงานของตับและไตผิดปกติจนตายในที่สุด

แค่พวกมันสลัดขนเบาๆพร้อมๆกัน จำนวนหลายร้อยตัวตรงนี้ไม่เป็นอัมพาตก็แปลกเกินไปแล้ว

ซูเจินจูคร้านจะฟังเสียงทัดทานของจางหมิ่น นางกรีดเนื้อกระต่ายตัวหนึ่งแล้วโยนเข้าไปในถ้ำ อาศัยช่วงเวลาที่แมงมุมสนใจซากกระต่ายตัวนั้น นำใบไม้ใบใหญ่มาช้อนรังแมงมุมที่ห่อหุ้มไข่แมงมุมใบเล็กๆไว้หลายสิบฟองแล้วจากมาทันที

รังแมงมุมที่ซูเจินจูนำกลับมาถูกวางในกล่องไม้ขนาดใหญ่ที่นางสั่งให้จางหมิ่นทำขึ้น กล่องสูงเท่าอกของนางและกว้างสิบฉื่อ มีบานพับคล้ายหน้าต่างด้านข้าง ฝาด้านบนสามารถเปิดออกได้ วางกิ่งไม้ขนาดใหญ่ไว้ด้านในทั้งสี่มุม

กล่องไม้ถูกตั้งไว้ที่ห้องยาวฝั่งขวาภายในเรือน ทุกคนถูกห้ามยุ่งกับมัน และไม่มีใครคิดอยากจะยุ่งกับมันเช่นกัน

การมาบ้านชนบทครั้งนี้ ซูเจินจูได้ผ้ากลับไปขายหกผืน ก่อนกลับมาซูเจินจูให้เงิน หลิวหยาง จางหมิ่นและซินเซียง คนละสองตำลึง และต่อจากนี้ทุกคนจะเงินเดือนละสองตำลึง

ทุกคนดีใจและแปลกใจโดยปกติการเป็นทาสหากไม่มีความดีความชอบจะไม่ได้รับเงิน โชคดีของพวกเขาเหลือเกินที่ได้รับใช้คุณหนูที่แสนจะใจดีผู้นี้

จางหมิ่นขับรถม้ามาส่งซูเจินจูที่ร้านผ้าซูเตี้ยน แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้นัก เพราะหน้าร้านเต็มไปด้วยผู้คน

“หน้าร้านผ้าคนเยอะมากขอรับ คุณหนูต้องการอะไรให้บ่าวเข้าไปซื้อให้เถอะ”

“สี่เสวี่ย เจ้าไปดูหน่อยเถอะว่าคนเหล่านั้นมาทำอะไร หากมาดูงิ้วเจ้าก็รีบวิ่งกลับมาอย่าให้ใครเห็น”

“ได้เจ้าค่ะ” สี่เสวี่ยรีบลงจากรถม้าวิ่งเข้าไปทางกลุ่มคนทันที ซูเจินจูไม่ต้องรอนานสี่เสวี่ยก็รีบกลับมารายงานว่าคนที่มุงอยู่หน้าร้านคือคนมารอซื้อผ้าไหมหอมหมื่นลี้

ซูเจินจูรีบลงจากรถม้าและให้จางหมิ่นขับรถม้าจากไปทันที ซูเจินจูและสี่เสวี่ยถือผ้าหกพับเดินผ่านกลุ่มคนหน้าร้านไป กลิ่นหอมของผ้าดึงดูดใจผู้คนจนแทบเข้ามาแย่งผ้าจากมือของพวกนาง หลงจู๊ที่เห็นเหตุการณ์ต้องให้เด็กในร้านเข้ามาช่วยขวางกลุ่มคนไว้

“คุณหนู คุณหนูของบ่าว ท่านกลับมาแล้ว”

“นี่มันอะไรกันเจ้าคะท่านลุงฝู เหตุใดคนถึงมายืนออกันเต็มหน้าร้าน นี่ท่านนำผ้ามาขายลดราคาหรือเจ้าคะ” ซูเจินจูเห็นหลงจู๊ฝูกระสับกระส่ายก็อดไม่ได้ที่หยอกล้อสักเล็กน้อย

“ฮ่าๆ คุณหนู ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คนพวกนั้นล้วนมารอซื้อผ้าไหมหอมหมื่นลี้ ข้าเองก็เขียนใบสั่งจองซะจนเมื่อยมือไปหมดแล้วขอรับ”

“เหตุใดจึงมารอซื้อมากถึงเพียงนี้เล่า ไม่ใช่ว่าไม่มีของตัวอย่างในร้านแล้วหรือ”

“นั่นเพราะเมื่อวานฮูหยินท่านรองนายอำเภอใส่ชุดที่ตัดจากผ้าไหมหอมหมื่นลี้ไปงานชมดอกไม้ที่เรือนตระกูลจี้ งานนี้มีแต่เหล่าฮูหยินขุนนางหรือไม่ก็ฮูหยินของเหล่าเถ้าแก่ สตรีใดบ้างเมื่อออกจากบ้านแล้วยอมต่ำต้อยเหล่าบรรดาฮูหยินเถ้าแก่ที่ไม่เคยขาดเงินแต่ละคนล้วนสั่งจองทุกลายลายละหนึ่งพับขอรับ”

“มากถึงเพียงนั้น คนทำจะทำทันหรือ”

“… เอ่อ ไม่ใช่ว่าต้องการเท่าไหร่ก็สั่งได้หรือขอรับ”

“ผิดแล้วท่านลุง คนทำ ทำได้เพียงวันละสองพับเท่านั้น”

“น้อยเพียงนั้น!!”

“ใช่ น้อยเพียงนั้น”

“ไม่ใช่ว่าเขาขายให้ร้านอื่นหรือขอรับ”

“ข้ารับประกันได้ว่าในแคว้นหนานแห่งนี้ มีเพียงร้านผ้าซูเตี้ยนเท่านั้นที่มีผ้าไหมหอมหมื่นลี้ขาย”

“…..”

“ท่านลุง เหตุใดเงียบไปละเจ้าคะ หรือว่าท่านรับจองมาเยอะมากหรือเจ้าคะ”

“โอกาสทอง นี่มันโอกาสทองของร้านผ้าซูเตี้ยน ข้าต้องออกไปบอกให้งดจองชั่วคราว หลังผู้ที่จองไว้ได้รับผ้าทั้งหมด ข้าจะเปิดประมูลผ้าไหมหอมหมื่นลี้” หลงจู๊ฝู้คิดไวทำไว ไม่รอให้ซูเจินจูตอบรับออกออกไปงดรับจองผ้าไหมหอมหมื่นลี้ทันที

เช้านี้หลงจู๊รับสั่งจองผ้าไหมหอมหมื่นลี้ไว้หกสิบห้าพับ รวมกับคำสั่งจองเมื่อคราวก่อนขาดอีกสิบพับ งานของซูเจินจูเรียกว้าล้นมือเลยทีเดียว

ซูเจินจูรับเงินค่าผ้าหกพับ สี่ร้อยห้าสิบตำลึง โดยไม่หักค่าผ้าไหมอีก หลงจู๊ตัดสินใจไม่เก็บค่าผ้าไหมมีตำหนิอีกต่อไปแลกกับสัญญาว่าต้องขายผ้าไหมหอมหมื่นลี้ให้ร้านผ้าซูเตี้ยนร้านเดียวเท่านั้น

ซูเจินจูตัดสินใจให้สี่เสวี่ยย้ายเขาไปอยู่ที่หมู่บ้านชนบท คำสั่งซื้อผ้ามากมายทำให้ไม่อาจเสียเวลาให้สี่เสวี่ยไปๆกลับๆได้อีก

“หากเป็นเช่นนั้น คุณหนูซื้อบ่าวสักคนเถอะเจ้าค่ะ คนในเรือนไม่มีคนของคุณหนูเลย หากคุณหนูใหญ่ส่งคนมากลั่นแกล้ง คุณหนูจะเสียเปรียบนะเจ้าคะ”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น หากไม่มีคนคอยปรนิบัติ ข้าคงห่วงหน้าพะวงหลัง อยู่แบบไม่เป็นสุขแน่”

“เช่นนั้นพรุ่งนี้เราไปตลาดค้าทาสกันอีกสักรอบเถอะเจ้าค่ะ ซื้อทาสสัญญาตายสักคน จะได้พอไว้วางใจได้”

 ....

การมาตลาดค้าทาสครั้งนี้ ซูเจินจูซื้อทาสหญิงที่พอรู้หนังสือหนึ่งคนอายุประมาณสิบแปดปีนามเยว่ชิงให้ติดตามสี่เสวี่ยกลับไปหมู่บ้านชนบทเพื่อสี่เสวี่ยจะมีเวลาวาดลายผ้าไม่ต้องเสียเวลาทำงานอื่นอีก

ซูเจินจูเลือกทาสหญิงที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า รอยบากลากยาวตั้งแต่หางคิ้วจรดปลายคาง อารุราวยี่สิบปีนามเฟยหลัน

 “โอ้ว คุณหนูท่านนี้ ท่านเลือกของดีเชียว ทาสที่ท่านเลือกเป็นทาสตีตรา ไม่ต้องกลัวว่านางจะหลบหนีหรือทำเรื่องไม่ดี เพราะหากนางทำอะไรผิด ทาสที่มาจากที่เดียวกับนางจะต้องถูกประหารทั้งหมดทันที ดังนั้นพวกนางจะไม่กล้าขัดคำสั่งของท่านแน่นอนขอรับ”

“หากเป็นผู้อื่นทำผิด ทางการมาจับนางกลับไปข้าไม่ขาดทุนแย่หรือ”

“แน่นอนว่าทางการจะชดเชยสิบห้าตำลึงให้ท่าน”

“เช่นนั้น ข้าก็เลือกนางแล้วกัน”

.....

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 15

    คราแรกสี่เสวี่ยไม่ต้องการให้คุณหนูเลือกทาสที่ดูน่ากลัวผู้นี้ แต่คัดค้านความต้องการของคุณหนูไม่ได้ เมื่อฟังพ่อค้าทาสแล้วก็เบาใจขึ้นหลังจากจ่ายเงินสามสิบตำลึง สี่เสวี่ยไปซื้อรังผึ้งจากร้านชำบ้านไฉและพาเยว่ชิงออกเดินทางไปที่หมู่บ้านชนบททันทีซูเจินจูพาเฟยหลันมาที่ร้านผ้าซูเตี้ยน ให้นางเลือกชุดผ้าฝ้ายสำเร็จรูปสองชุดก็จะตรงไปที่โรงหลอมเหล็กอู่จินจาง“เจ้าเข้าไปเลือกอาวุธสักชิ้นเถอะ”“….”“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นวรยุทธ์ เข้าไปเลือกเถอะ”“คุณหนู เหตุใด...” นางแปลกใจ เฉพาะแผลเป็นบนใบหน้าก็ทำให้คนทั่วทั้งแคว้นรังเกียจนาง ผู้ที่ต้องการซื้อตัวนางล้วนเป็นบุรุษวัยกำดัด หากเป็นสตรีก็สตรีที่ชื่นชอบการเหยียบย่ำผู้อื่น แต่หากรู้ว่านางเป็นวรยุทธ์ก็จะยิ่งทรมานนางมากขึ้น ด้วยรู้นางไม่สามารถตอบโต้ได้ ก่อนหน้านี้นางถูกคุณหนูจวนแม่ทัพผิงซื้อตัวไป

    Last Updated : 2025-04-08
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 16

    วันต่อมาซูเจินจูมาที่โถงยาเจี้ยนคังอีกครั้ง เมื่อวานนางลืมซื้อสมุนไพรแก้พิษแมงมุมและยาห้ามเลือด นางต้องการกลับเข้าไปจับแมงมุมตัวโตเต็มวัยมาลองสกัดพิษสักสองตัว ดังนั้นนางต้องปรุงยาแก้พิษพวกมันเสียก่อนโดยปกติตำรับยารักษาแผลกับห้ามเลือดจะเป็นคนละตำรับกัน แต่ซูเจินจูใช้ความรู้ดั้งเดิมปรับสูตรยาเป็นฟื้นฟูเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังลดอักเสบฆ่าเชื้อและห้ามเลือดเข้าด้วยกัน สมุนไพรสำคัญของยาตัวนี้คืออ้ายเยี่ยที่มีคุณสมบัติขับกระจายความเย็นระงับปวด อบอุ่นเส้นลมปราณเพื่อห้ามเลือด หวงฉีที่มีคุณสมบัติทำให้ชี่ไหลเวียน ระงับปวด ช่วยรักษาบาดแผลและสร้างเนื้อเยื่อ ป๋าเซีย เป็นยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติและเป็นตัวยาเสริมของยาแก้พิษทั่วไป เมื่อสมุนไพรหลักสามตัวรวมกับสมุนไพรเสริมอีกสามสิบชนิดก็จะได้ยาใส่แผลคุณภาพดีเลยที่เดียวส่วนสมุนไพรแก้พิษนั้นกลับมีไม่ครบ ขาดส่วนประกอบสำคัญอย่างรากหญ้าขน แต่รากหญ้าขนไม่ใช่ของหายากอะไร นางสามารถเก็บได้ตามภูเขานอกเมืองหลังจากซื้อสมุนไพรที่ต้องการแล้วนางแ

    Last Updated : 2025-04-09
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 17

    “ช่วยด้วย นายหญิง ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ” สตรีผู้หนึ่งวิ่งมาที่เฟยหลัน ร้องตะโกนขอให้ช่วยอย่างสุดเสียง เมื่อนางวิ่งมาจนถึงรถม้าก็คุกเข่าลงที่หน้าเฟยหลันทันที“นายหญิงช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ”เฟยหลันสังเกตว่ามีชายฉกรรจ์วิ่งตรงมาทางนี้อีกเกือบสิบคน นางไม่อยากให้คุณหนูที่อ่อนโยนอย่างซูเจินจูต้องรับรู้เหตุการณ์ตรงหน้าจึงชักกระบี่อ่อนออกมาขวางสตรีผู้นั้นไว้“แม่นาง เจ้านายของข้าต้องรีบเดินทาง ขอแม่นางอย่าขวางทาง”“ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ หากข้าถูกจับไปข้าต้องตายแน่ๆ”“พวกเจ้า ส่งตัวนังแพศยานั่นมา ไม่ใช่นั้นอย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจ” เหล่าชายฉกรรจ์ที่วิ่งตามมาถึงก็ตะโกนใส่เฟยหลันทันที“พวกมันเรียกเจ้าแล้ว เจ้าไปเถอะ อย่าทำให้คุณหนูของข้าต้องแปดเปื้อน” การแกะมือของสตรีผู้นั้นออกจากร่างกายสำหรับเฟยหลันที่เป็นวรยุทธ์ไม่ใช่เรื่องยากนัก แต่สตรีผู้นั้นก็เห็นขบวนร

    Last Updated : 2025-04-09
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 18

    ซูเจินจูที่สั่งงานเสร็จเรียบร้อยก็เข้าไปปรุงยาในห้อง เพียงไม่นานยาทั้งสองชนิดก็เสร็จเรียบร้อย ซูเจินจูสะพายตะกร้า พร้อมผ้าและเชือกสำหรับปิดด้านบนตะกร้าขึ้นไปยังถ้ำแมงมุมทันทีซูเจินจูเดินลัดเลาะขึ้นมาทางลัด นางจำได้ว่าหากมาจากอีกฝั่งก็จะเข้าไปในถ้ำได้เช่นกันแถมระยะทางก็ใกล้กว่า นางกระโดดขึ้นต้นไม้ตรวจสอบร่องรอยของทิศทางกระโดดจากต้นหนึ่งไปยังต้นหนึ่งอย่างมั่นคงเพียงนานก็มาถึงหน้าถ้ำแต่เมื่อซูเจินจูกระโดดลงมาจากต้นไม้สิ่งที่รอรับเท้าทั้งสองข้างของนางอยู่กลับไม่ใช่พื้นดิน“โอ้ย” ซูเจินจูที่รั้งตัวเองไว้ไม่อยู่ก็ล้มลงไปหัวกระแทกพื้นดินเข้าอย่างจัง ความคิดชั่ววูบที่ผุดขึ้นมาคือการกระทบกระเทือนที่หัวจะทำให้วิญญาณนางหลุดออกจากร่าง ทำให้นางรีบจับเนื้อจับตัวของตัวเอง ลมหายใจหนักหน่วงประหนึ่งว่าโล่งใจที่ไม่ได้กลายเป็นวิญญาณเร่รอนถูกผ่อนออกมา เมื่อตั้งสติได้ก็หันมามองที่ต้นเหตุ“เพ้ยยยย ศพคนนี่หว่า ไฉนมีคนมานอนตายหน้าถ้ำ บรื้ออ” นางใช้เท้าเขี่ยศพที่

    Last Updated : 2025-04-10
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 19

    ขณะเดียวกันหน้าถ้ำแมงมุมก็มีชายชุดดำคนหนึ่งคุกเข่าอยู่หน้าชายหนุ่มที่ซูเจินจูช่วยชีวิตไว้“คารวะท่านรองแม่ทัพ”“เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”“ตอนนี้ท่านแม่ทัพเดินทางถึงเมืองหลวงแล้ว อาการก็พ้นขีดอันตราย ท่านจะเดินทางเข้าเมืองหลวงเลยหรือไม่ขอรับ”“ยังไม่ไป ในกองทัพมีสายลับ ข้าศึกรู้กลศึกของเราทั้งหมด หากหาตัวสายลับไม่เจอ ออกศึกคราวหน้าข้ากับท่านพี่คงต้องตายในสนามรบ ... เจ้าไปส่งข่าวให้ท่านพี่ข้าเก็บข่าวเรื่องข้าไว้เป็นความลับ ให้แจ้งกองทัพไปว่าหาข้าไม่พบ เป็นหรือตายไม่แน่ชัด ประกาศคัดเลือกรองแม่ทัพคนใหม่ ข้าเชื่อว่าผู้บงการเบื้องหลังต้องแย่งชิงตำแหน่งของข้าแน่”“ถ้าเช่นนั้น ท่านไปอยู่ที่หมู่บ้านเฟิงโจวก่อนดีหรือไม่ขอรับ ที่นั่นมีบ้านลับกองทัพฝั่งใต้ สะดวกต่อการติดต่อ”“ไม่ หากรู้ว่าข้าหายไปพวกมันต้องส่งคนออกตามหาแน่ เมืองฝั่งใต้ ตะวันตกฉียงใต้ และตะวังออกเฉียงใต้ล้วนอันตราย ฝั่งตะวั

    Last Updated : 2025-04-10
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 20

    หน้าถ้ำแมงมุมชายหนุ่มชุดดำที่เห็นหยางหย่งเจิ้งเดินเข้ามาก็โค้งตัวคารวะ“คารวะท่านรองแม่ทัพ”“เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”“ท่านแม่ทัพดำเนินการตามแผนของท่านแล้วขอรับ แต่ก้านลู่ถูกลอบสังหารเมื่อคืนนี้ ยังไม่พบตัวคนร้ายขอรับ”“เล่ามา”“เมื่อคืนก้านลู่ไปที่หอห่าวซีเถียนตามปกติแต่เช้านี้กลับไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย ทางการตรวจศพแล้วไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่ข้าให้คนของเราเข้าไปแอบตรวจสอบอีกครั้งพบว่าเขาถูกวางยาพิษ เป็นพิษที่แปลกนักถูกพิษแต่ศพกลับเป็นปกติดูเหมือนนอนหลับตายไปเฉยๆ พิษหายากเช่นนี้คนธรรมดาไม่มีทางครอบครองได้ ข้าจึงคิดว่าเขาถูกฆ่าปิดปากขอรับ”“เข้าไปหาหลักฐานในที่พักแล้วส่งคนของเราเฝ้าเอาไว้ด้วย คนที่ลอบสังหารต้องกลับมาหาหลักฐานแน่นอน หากพวกมันมาก็ให้คนของเราสะกดรอยตามไป”“ทราบแล้วขอรับ”ในขณะเดียวกันเฟยหลันก็มารายงานเรื่องที่ซูเจินจูสั่งให้ทำ“จัดการเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ บ่าวอยู่รอจนเห็นว่าไม่มีใครสงสัยจึงค่อยกลับมาเจ้าค่ะ”“ดีมาก ระหว่างนี้เจ้าลองหาข่าวพวกพ้องของเจ้าเถอะ ข้ายินดีซื้อตัวพวกเขาไว้”“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ” เฟยหลันรู้สึกยินดีมากหากพี่น้องของตนสามารถมารับใช้คุณหนูได้ นางยังจำความ

    Last Updated : 2025-04-11
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 21

    เมื่อวันส่งสินสอดมาถึง ชาวบ้านต่างมุงดูกันด้วยความอิจฉา ขบวนสินสอดยาวสามลี้ เต็มไปด้วยตำลึงเงิน ตำลึงทอง เครื่องประดับ ของล้ำค่าแปลกตาอีกมากมาย ครอบครัวซูที่สวมชุดแดงใบหน้ายิ้มแย้มเปิดประตูยืนตรวจรายการสินสอด ขานรายการของมีค่าแต่ละครั้ง ชาวบ้านแทบตาถลนออกมา รายการสินสอดล้วนเป็นไปด้วยของมีค่าที่มีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อได้ทั้งนั้น“ข้าอิจฉาเจ้านัก น้องรอง ว่าที่สามีเจ้าช่างร่ำรวยยกขบวนสินสอดมายาวถึงสามลี้ เจ้าแต่งงานใหญ่โตถึงเพียงนี้ ถึงคราข้าต้องแต่ง มิขายหน้าเจ้าแย่หรือ”“พี่ใหญ่เหตุใดเย้าข้าเช่นนี้ ท่านก็รู้ว่างานแต่งนี้ข้าไม่ได้เต็มใจ”“น้องรอง เหตุใดพูดเช่นนั้น งานแต่งแต่ไหนแต่ไรพ่อแม่เป็นคนจัดการ ไม่ว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ วาจาท่านพ่อก็ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะไม่ฟังได้”“ข้ารู้ แต่ข้า...”“เม่ยเอ๋อร์ ไม่ใช่ว่าสามีของเจ้าไปทำการค้าต่างแคว้นบ่อยๆหรือ นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะไม่ค่อยได้เจอกับเขาใช่หรือไม่”“ท่านพ่อบอกเช่นนั้นเจ้าค่ะ”“แล้วเจ้าจะเศร้าไปไย ท่านพ่อเพียงไปทำงานค้าต่างอำเภอเดือนหนึ่งพวกเรายังเจอท่านไม่กี่วัน นี่ไปทำการค้าต่างแคว้นปีหนึ่งเจ้าจะเจอหน้าเขาได้สักกี่หน เจ้าอย่าได้เส

    Last Updated : 2025-04-11
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 22

    “เจ้า.. อุทานให้เหมือนสตรีมากกว่านี้ได้หรือไม่” หยางหย่งเจิ้งหันกลับมามองเด็กสาวที่มีเค้าความงามตรงหน้า ‘ชิบหายแล้ว’ อย่างนั้นหรือ คำอุทานหยาบคายเช่นนี้เด็กสาวตรงหน้าไปเรียนรู้มาจากที่ใดกัน“ไอหย๋า พี่ชาย คนตกใจแยกบุรุษ สตรีด้วยหรือ”หยางหย่งเจิ้งมองหน้าซูเจินจูอย่างคาดไม่ถึงว่านางจะกล้าต่อปากต่อคำกับเขา เขามองหน้านางนิ่งๆอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจวบจนสายตาเลื่อนลงไปเห็นว่ากริชเงินที่นางถืออยู่เป็นของเขา“กริชเงินในมือเจ้าคุ้นตาข้านัก”“พี่ชาย ท่านเป็นโจรป่าหรือ เหตุใดจึงมาคุ้นตาของในมือผู้อื่นเล่า”“เจ้าเหมือนโจรยิ่งกว่าข้าเสียอีก”“ตาท่านบอดเสียแล้ว”“!!!!!”การต่อปากต่อคำของคนทั้งสองยังไม่จบก็ได้ยินเสียงสวบสาบดังขึ้นอีกครั้ง หยางหย่งเจิ้งรวบตัวซูเจินจูขึ้นมาก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ เสือตัวหนึ่งที่ตามกลิ่นเลือดของหมูป่าโผล่ออกมากระทันหัน เมื่อเห็นว่าเป็นเสือ หยางหย่งเจิ้งไม่รอช้ากระโดดออกมาจากจุดนั้นทันที“ไอหย๋า พี่ชายวรยุทต์ท่านล้ำเลิศนัก เป็นข้าเสียมารยาทดูเบาท่านไปเสียแล้ว”“เมื่อครู่เจ้ายังว่าข้าเป็นโจรป่าอยู่เลย”“เพ้ย หูท่านไม่ดีเสียแล้ว บุรุษที่สูงส่งเช่นท่านจะเป็นโจรป่าไปไ

    Last Updated : 2025-04-11

Latest chapter

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   50

    วันถัดมาในยามเฉิน เฟยอวี่เข้ามาหาซูเจินจูเพื่อรายงาน“คุณหนู บ่าวสืบข่าวมาได้เล็กน้อยเจ้าค่ะ พ่อค้าต่างแคว้นหลายคนเร่งเดินทางเข้าเมืองหลวง ของมีค่าหลายอย่างถูกขนเข้าเมืองหลวงผ่านขบวนขนสินค้า จุดหมายคือตรอกถงยู่ ที่เป็นแหล่งจัดงานประมูลของตลาดมืด นี่เป็นของรายการของส่วนหนึ่งที่บ่าวได้มาจากบัญชีส่งสินค้าเจ้าค่ะ”“งานประมูลของตลาดมือหรือ น่าสนใจ เจ้ารู้เรื่องงานนี้ดีแค่ไหน”“บ่าวเคยได้ยินว่าเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อประมูลของหายาก มีทั้งโสมพันปี อาวุธต่างๆ หยกม่วง หินแร่ รวมถึงหัวของผู้ครองแคว้นก็เคยถูกนำมาประมูลเจ้าค่ะ การจะเข้าร่วมประมูลได้ต้องจ่ายเงินค่าเข้าคนละหนึ่งพันตำลึง และหากมีของที่ต้องการนำเข้าประมูลก็นำของไปประเมิณได้เช่นกันเจ้าค่ะ”“เจ้าทำงานได้ดีมาก พักสักหน่อยแล้วออกเดินทางไปรอข้าที่เมืองหลวง สืบข่าวเรื่องการประมูลให้ข้า และจองโรงเตี๊ยมที่ปลอดภัยที่สุดเอาไว้ให้เพียงพอกับคนของเรา ข้าจะพาสี่เสวี่ย เฟยหลัน เฟยหรง เฟยเมี่ยว หลิวหยาง จางหมิ่นไป”“บ่าวรับคำสั่งคุณหนูเจ้าค่ะ” เฟยอวี่รับตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงจากซูเจินจูก่อนจะออกจากห้องไป คล้อยหลังเฟยอวี่ออกไปไม่ถึงหนึ่งเค่อซูเจินจูก็ตรง

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   49

    “เฟยอวี่ การเข้าเมืองหลวงต้องใช้ป้ายผ่านเข้าเมืองด้วยหรือ”“จริงๆแล้วไม่ต้องใช้เจ้าค่ะคุณหนู แต่ชาวบ้านทั่วไปหากต้องการผ่านเข้าเมืองหลวงจะต้องเสียอีแปะเป็นค่าผ่านทางให้กับทหารเฝ้าประตู เสียเยอะหรือเสียน้อยแล้วแต่ว่าผู้เฝ้าประตูเป็นใคร ส่วนป้ายผ่านเข้าเมืองเป็นเพียงชื่อเรียกเท่านั้นเจ้าค่ะ ในความเป็นจริงแล้วป้ายพวกนี้มีขึ้นเพื่อให้คนมีเส้นสายสามารถผ่านเข้าออกเมืองโดยไม่ต้องเสียอีแปะ ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องตรวจค้นสัมภาระอย่างละเอียดและได้รับความเคารพจากทหารเฝ้าประตู รวมถึงป้องกันไม่ให้พวกทหารสร้างปัญหากับพวกคนรวยและขุนนางด้วยเจ้าค่ะ”“อ่อ แค่ยื่นป้ายออกไปก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยแล้วสินะ ช่างดีจริงๆ”“นายน้อยหงคงเหลือเส้นสายอยู่ไม่น้อยถึงขนาดใจกว้างทำป้ายให้คุณหนูได้ง่ายๆ”“เขาเห็นข้าเป็นโอกาสที่จะช่วยร้านผ้าฟู่หงเทียนกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งต่างหาก เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ ออกไปสืบข่าวดูสักหน่อยก็ได้ ไปเมืองหลวงครั้งนี้ข้าจะพาเจ้า สี่เสวี่ย หลิวหยาง จางหมิ่น เฟยหรง เฟยเมี่ยว และเฟยหลันไปด้วย บอกเพ่ยเพ่ยกับเยว่ชิงเสียแต่เนิ่นๆให้นางได้เตรียมตัวจัดการงานและดูแลเรื่องต่างๆทั้งหมดที่นี่ตอนที่พวกเรา

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   48

    “พ่อหนุ่มเจิ้งผู้นี้ดูมีลับลมคมในเหลือเกินนะเจ้าคะ จะว่าไปพ่อหนุ่มเจิ้งเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องของตน แม่แต่แซ่ก็ไม่บอก ชื่อเจิ้งก็ไม่รู้ว่าใช่ชื่อจริงหรือไม่”“นั่นสิเจ้าคะคุณหนู คุณหนูเองก็แปลกนัก แค่พ่อหนุ่มเจิ้งบอกจะมาด้วยก็ปล่อยให้มา บอกจะไปก็ไม่ถามไถ่สิ่งใดสักคำ”“ช่างเขาเถอะ เพียงแค่ไม่มีพิษภัยกับพวกเราก็พอแล้ว เรื่องอื่นๆรู้มากไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี”“เจ้าค่ะคุณหนู”ซูเจินจูพาเจียงไป๋ไปยังห้องที่เจียงชิงนอนอยู่และให้ซินเซียงยกที่นอนอีกหนึ่งอันมาวางข้างเตียงเพื่อให้พี่น้องได้นอนห้องด้วยกัน“เจ้านอนห้องเดียวกันไปก่อน ช่วงนี้ก็คอยดูแลนาง ข้างๆห้องเจ้าคือห้องของชิงหยุน มีอะไรก็ไปหานางได้ สี่เสวี่ยเจ้าไปบอกให้ซินเซียงหาอะไรให้เด็กนี่กินเสียหน่อยเถอะ”“เจ้าค่ะคุณหนู”เจียงไป๋มองคนทั้งหมดทยอยออกจากห้องไปก่อนจะหันกลับมานั่งข้างเตียงของเจียงชิง“พี่สาว ท่านรีบตื่นขึ้นมานะ…”... เช้าวันต่อมาซูเจินจูเดินทางเข้าร้านหว่างลี่เซียงพร้อมเฟยหลันตั้งแต่ยามเฉิน กิจการของร้านหว่านลี่เซียงเป็นไปด้วยดี คนที่ดูเหมือนจะทะเลาะกับผู้อื่นได้ง่ายๆอย่างเพ่ยเพ่ยกลับทำงานได้อย่างสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นก

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   47

    “มองอะไร พวกเจ้ามองอะไร ไอ้พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว เด็กมันมีวาสนาได้ช่วยเหลือสกุล เลี้ยงมันต่อไปก็ไม่ใช่ว่ามันจะหาเงินให้ข้าได้ถึงยี่สิบตำลึงเสียเมื่อไหร่ ต้องมากินข้าวบ้านข้านอนบ้านข้าไม่สู้ไปกินบ้านอื่นนอนบ้านอื่นแล้วยังได้เงินรึ แล้วเงินที่มันถืออยู่ไม่ใช่ว่าขโมยของข้าไม่หรือไงเด็กอย่างพวกมันจะเอาปัญญาหาเงินมากมายขนาดนี้ได้ที่ไหน เอาเงินข้าคืนมานะไอ้พวกเด็กตัวเหม็น”“ท่านย่านี่เป็นเงินที่พี่สาวหามาได้ ไม่ได้ขโมยเงินของท่าน”“นั่นมันเงินโชคดีที่แม่หนูเจินจูแจกไม่ใช่หรือ บ้านข้าก็ได้มาสองพวง ไหมถักแบบนั้นรูปทรงแบบนั้น ข้าจำไม่ผิดหรอก” ชาวบ้านที่มุงดูอยู่พูดขึ้น“ใช่ ข้าเองก็จำได้ นั่นมันพวงเงินที่แม่หนูเจินจูแจกเมื่อวันเกิด” หัวหน้าหมู่บ้านหวังสำทับขึ้น ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ต่างเคยได้รับพวงเงินโชคนี้ทุกคนล้วนเป็นพยายานให้เด็กน้อยว่าเขาไม่ได้ขโมยเงินของแม่เฒ่าเจียง“เหอะ เอาเข้าบ้านข้าก็ต้องเป็นของข้านั่นแหละ อาไป๋ เข้าบ้าน เหม่ยเหมย เสี่ยวเจี๋ยลากนังเด็กชิงเข้าบ้าน”“แม่เฒ่าเจียง รอเดี๋ยวก่อนเถอะ ข้าขอเจรจาเรื่องเด็กสองคนนี้สักประโยคหนึ่งได้หรือไม่” ซูเจินจูพูดยังไม่ทันจบ เฟยหลันก็เอาตัว

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   46

    การค้าของร้านหว่านลี่เซียงเต็มไปด้วยความราบลื่น ที่ควรขายได้ขาย ที่ควรสงบก็สงบ กว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะออกจากร้านก็เป็นยามโหย่ว หลังจากปิดร้าน เหล่าคนงานที่หมดแรงมานั่งรวมกันอยู่ที่กลางร้าน ซูเจินจูลากเก้าอี้มานั่งก่อนจะขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการเปิดร้านวันแรกจนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี วันนี้ถุงหอมขายได้หกร้อยหกใบ เป็นเงินหนึ่งหมื่นสองพันหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึง การขายได้จำนวนมากตั้งแต่วันแรกนับเป็นเรื่องดีแต่ซูเจินจูกังวลว่าหากขายดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่สามารถผลิตมาขายได้ทันสี่เสวี่ยรับหน้าที่สอนเยว่ชิงวาดลายผ้าและผสมสีผ้าไหมหอมหมื่นลี้ เมื่อเชี่ยวชาญแล้วเยว่ชิงจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผ้าไหมหอมหมื่นลี้พวกนี้แทนสี่เสวี่ย อีกทั้งสี่เสวี่ยยังต้องคุมคนงานเย็บปัก และติดป้ายรับสมัครหญิงสาวที่เชี่ยวชาญงานเย็บปักมาปักถุงหอมหมื่นลี้ที่ร้านหว่านลี่เซี่ยงด้วยเฟยหรงและเฟยเมี่ยวที่เพิ่งได้ข่าวพรรคพวกอีกหนึ่งคนด้วยเห็นว่าพรรคพวกที่เจอนั้นถูกซื้อตัวไปด้วยชายชราที่อยู่กับหลานชายหนึ่งคนบนกระท่อมบนเขา นางไม่ได้ลำบากหรือโดนทำร้ายจึงพักการติดต่อแล้วหันมาช่วยซูเจินจูดูแลร้านหว่านลี่เซียงไปก่อน“เอาล

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   45

    “องค์ชายหก ท่านช่างเป็นดาวนำโชคของพวกข้านัก” ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณชายเซียวพูดขึ้นขณะที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ยาวที่ปูทับด้วยเบาะรองนั่งขนกระต่าย เบาะรองนี้ซูเจินจูสั่งให้ซินเซียงทำขึ้นจากขนกระต่ายสีอื่นๆเย็บติดสวมทับเบาะด้านในที่ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายยัดใส่ด้วยนุ่นที่ซื้อไปจากตำบลอีกที ที่สี่มุมผูกด้วยพู่หลากสีที่ทำขึ้นด้วยพู่ไหมจากเผ่าเจี๋ยที่ซูเจินจูได้รับมาจากนายท่านซูเมื่อครั้งออกไปทำการค้าต่างแคว้น“นั่นสิเพคะ หากไม่มีพระองค์พวกหม่อมชั้นคงต้องต่อแถวยาวหลายลี้ ตากแดดตากลมอยู่ด้านนอกเสียแล้ว” ผิงเหม่ยเหรินพูดขึ้นขณะพยักเพยิดไปท่างลี่รุ่ยเซียงสหายรักแต่ยังไม่ทันที่ลี่รุ่ยเซียงจะได้พูดอะไร องค์ชายหกก็หันกลับไปพูดคุยกับหญิงสาวอีกคนที่นิ่งเงียบมาตลอด“จิวอิง เหตุใดเจ้าจึงเงียบนัก คนงานนั่นก็บอกแล้วว่าเป็นถุงหอมหมื่นลี้ ไม่ใช่ผ้าไหมหอมหมื่นลี้เสียหน่อย หรือเจ้ากลัวว่าพวกข้าติดใจผ้าไหมหอมหมื่นลี้จนลืมผ้าไหมหยกของเจ้า”“หามิได้เพคะ ขอเพียงองค์ชายหกทรงพอพระทัย หม่อมฉันจะกล้าไม่พอใจได้เช่นไร”“คุณหนูเจ้าคะ มีกลุ่มคุณหนูคุณชายดูว่าจะมาจากเมืองหลวง อ้างตัวว่าเป็นองค์ชายหก ตอนนี้บ่

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   44

    เช้าวันต่อมา หลิวหยางรับหน้าที่ขับรถม้าคันใหม่พาซูเจินจู สี่เสวี่ย เฟยหลัน และเฟยอวี่เข้าพบฮูหยินนายตำบลที่จวนนายตำบลเป่ย เมื่อมาถึงหน้าจวนนายตำบลหลิวหยางลงไปแจ้งกับคนเฝ้าประตูว่าคุณหนูของตนแซ่ซูชื่อเจินจูนำผ้าไหมหอมหมื่นลี้มาขอเข้าพบฮูหยิน พร้อมให้เงินหนึ่งตำลึงแก่คนเฝ้าประตู เงินหนึ่งตำลึงเร่งฝีเท้าคนให้ไวได้ดังม้า ไม่ถึงสองเค่อคนเฝ้าประตูก็ออกมาเปิดประตูให้ให้รถม้าเข้าไปซูเจินจูสวมชุดผ้าไหมหยกสีขาวปักลายนกกระยาง ลายปักละเอียดเพียงดูผ่านๆก็ยังสามารถรู้ได้ว่าเป็นงานปักชั้นสูง ผมรวบขึ้นอย่างประณีตปักด้วยปิ่นหยกขาวเนื้อดีหนึ่งคู่ที่ดูเข้ากันได้ดีกับกำไลหยกขาวที่ข้อมือ ผิวขาวราวหยก ขนตาเป็นแพหนาสีดำ ปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อยิ่งทำให้ซูเจินจูงดงามจนคนที่ได้เห็นไม่สามารถละสายตาไปได้สี่เสวี่ย เฟยหลัน เฟยอวี่ ผู้ติดตามทั้งสามคนสวมชุดผ้าไหมเฉกเช่นคุณหนูจากจวนใดจวนหนึ่ง เฟยหลันที่รอยแผลเป็นบนใบหน้าหายดีแล้วยิ่งดูงดงามและลึกลับเมื่อสวมชุดผ้าไหมสีน้ำเงิน ปักด้วยปิ่นเงินลายดอกหลันฮวาเดินคู่มากับเฟยอวี่ในชุดผ้าไหมสีเดียวกันรวมผมขึ้นอย่างเป็นระเบียบปักด้วยปิ่นเงินลายเมฆา สี่เสวี่ยที่ตามรับใช้ใกล้ชิ

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   43

    ซูเจินจูฝั่งร้านผ้าซูเตี้ยนได้สั่งให้คนงานไปซื้อผ้าไหมหอมหมื่นลี้ของร้านผ้าเฉินอี้เตี้ยนมาหนึ่งพับ เมื่อสำรวจดูแล้วพบว่ากลิ่นของผ้าไม่ใช่กลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้แต่เป็นกลิ่นของดอกเหมย อีกทั้งลายผ้าไม่คมชัดคงเป็นการวาดลายลงไปโดยตรง การใช้สีอ่อนเช่นนี้จะทำให้ลายผ้ามีสีซีดได้ง่าย อีกทั้งกลิ่นดอกเหมยไม่สามารถเกาะติดผ้าได้ดีเท่ากลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้ เวลาผ่านไปสักพักกลิ่นก็คงจางหายไปเอง ดังนั้นผ้าไหมพวกนี้ไม่สามารถนับเป็นคู่แข่งอย่างแท้จริงได้หลงจู๊ฝูที่ออกไปสืบข่าวด้วยตนเองกลับมาพบนายท่านซูละซูเจินจูด้วยสีหน้าสบายใจ“เห็นทีว่าคุณหนูจะพูดถูกทุกอย่างเลยขอรับ ผู้ที่ซื้อผ้าไหมหอมหมื่นลี้จากร้านเฉินอี้เตี้ยนไปกลับมาโวยวายที่ร้านเหตุเพราะเพียงนำผ้าไปซักเท่านั้น กลิ่นที่ควรมีก็ไม่มีอีกต่อไป เห็นทีว่าร้านผ้าเฉินอี้เตี้ยนจะเสียชื่อเสียครั้งใหญ่เป็นแน่”“เช่นนั้นข้าค่อยสบายใจหน่อย เอาล่ะ เมื่อหมดเรื่องแล้วเห็นทีว่าถึงเวลาไปเอาผ้าเสียที เจ้าล่ะ อาจู จะไปเอาผ้าหอมไหมหมื่นลี้อีกเมื่อใด”“ข้าให้เฟยหลันไปเอาผ้าแล้วเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ก็คงนำผ้ากลับมาแล้ว เห็นทีว่างานปักงานแรกคงเป็นการตีตราร้านลงบนผ้าเสียแล้วน

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   42

    “คุณหนู บ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” เฟยหลันมองเฟยหมิงที่อยู่บนเตียงแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ลมหายใจของนางดีขึ้นมากแล้ว คุณหนูรักษานางได้จริงๆซูเจินจูรับเข็มเงินและโถบดยาไปก่อนจะสั่งให้เสี่ยวเหลียนนำเข็มเงินไปต้มในน้ำร้อนและให้เฟยหลันกรีดผ้าที่ขาของเฟยหมิงออก“กระดูกขาของนางแตก หากนางทนอยู่เฉยๆ ไม่ขยับขาสักสามเดือนขาของนางก็จะกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม”“นางยังจะกลับมาเดินได้อีกหรือเจ้าคะ”“ต้องนอนนิ่งๆอยู่แบบนี้ไปก่อนสามเดือน หากขยับเขยื้อนก่อนหน้านั้นก็อาจจะเดินไม่ได้”“คุณหนูเหมือนหมอเทวดาเลยเจ้าค่ะ”“เจ้าจะร้องไห้ทำไม ไอหย๋า ข้าแพ้น้ำตาของพวกเจ้านัก หยุดร้องเถอะข้าจะให้เสี่ยวเหลียนไปซื้อขนมให้เจ้ากิน”“คุณหนู บ่าวแค่ดีใจมากไปเจ้าค่ะ แต่เดิมบ่าวแค่ต้องการฝังศพนางให้ดีเสียหน่อย ใครจะรู้ว่าคุณหนูดึงวิญญาณนางกลับมาจากนรกได้”“เพ้ย เจ้านี่ ตายแล้วไม่ให้นางขึ้นสวรรค์แต่กลับให้นางไปลงนรก เอาล่ะๆ เจ้าไปบดยากองนั้นเถอะ เดี๋ยวข้าฝังเข็มเสร็จแล้วต้องพอกยาให้นาง”“ทั้งหมดเลยหรือเจ้าคะ มัน เยอะมากเลยนะเจ้าคะ”“ทั้งหมดนั่นแหละพอกทั้งขาแล้วเอาผ้ามาพันเข้ากับไม้แผ่นเสียหน่อย กระดูกจะได้ไม่เคลื่อนที่มากนัก”

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status