แชร์

บทที่ 13

ผู้เขียน: แซมมี่ซี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-07 09:41:55

หลังจากขึ้นรถม้ามา สี่เสวี่ยก็อดที่จะพูดพึมพำใส่ซูเจินจูได้ไม่

“เข็มเงินร้านข้างนอกชุดละหกตำลึงเท่านั้นนะเจ้าคะคุณหนู”

“ข้ารู้ แต่คุณภาพต่างกันมากนัก เข็มเงินของท่านอาฮุ่ยซิ่วทั้งตรง กลม และแหลมในขนาดที่สมส่วน ขนาดเข็มแต่ละเล่มก็มีความสั้นยาวสูงต่ำตามที่ข้าต้องการ หากไปซื้อร้านด้านนอก วันนึงก็ต้องกลับมาสั่งทำอยู่ดี เมื่อถึงวันนั้นต้นแบบก็ไม่มี ไม่รู้จะได้เข็มเงินที่ถูกใจเช่นนี้หรือไม่”

“แต่ว่า คุณหนูใช้เงินจนจะหมดอีกแล้วนะเจ้าคะ เหลือเพียงหนึ่งร้อยสิบเอ็ดตำลึงเท่านั้น อีกทั้งกลับไปคราวนี้ยังต้องจ้างช่างเฉินมาทำสร้างห้องบ่าวไพร่ จะให้บ่าวไพร่มาอยู่ร่วมเรือนไม่ได้นะเจ้าคะ”

“ข้ารู้แล้ว อย่างไรเสียช่วงนี้พวกเราก็ไม่ได้อยู่ สร้างก่อนสองห้อง สามวันก็คงเสร็จ”

รถม้าพุ่งออกจากอำเภอเหอ แวะซื้อข้าวของจำเป็นที่ตำบลจางหนาน จ้างเกวียนเทียมวัวอีกหนึ่งคันเพื่อบรรทุกข้าวของ ก่อนมุ่งหน้าเข้าหมู่บ้านซาน

เมื่อมาถึงที่บ้านก็ให้สี่เสวี่ยบอกกล่าว ดูแล และจัดการเรื่องในบ้าน ส่วงซูเจินจูเดินไปหาหัวหน้าหมู่บ้านหวังที่เรือน

“ท่านลุงหวัง อยู่บ้านหรือไม่เจ้าคะ”

“แม่หนูเจินจูหรือ อยู่ๆ ข้าอยู่บ้าน เจ้าขนของย้ายเข้าบ้านหรือ มาๆเข้ามาข้างในก่อน”

“ข้ายังไม่ย้ายมาเจ้าค่ะ แต่พาคนมาอยู่ที่เรือนก่อน วันนี้ข้ามารบกวนลุงหวังแจ้งข่าวช่างเฉินให้หน่อยเจ้าค่ะ ข้าต้องการสร้างเรือนเพิ่ม”

“ได้ๆ พรุ่งนี้ข้าจะให้เขาเข้ามาหาเจ้า”

“ข้าต้องกลับเข้าเมืองวันนี้ ไม่สามารถอยู่รอช่างเฉินได้เจ้าค่ะ ข้าเพียงฝากลุงหวังแจ้งช่างเฉินว่า ข้าต้องการสร้างห้องบ่าวไพร่ที่เรือนชั้นนอกฝั่งขวา สิบห้าห้องเจ้าค่ะ เมื่อคราวก่อนข้าได้คุยกับช่างเฉินไว้แล้ว หากติดขัดตรงไหนให้คุยกับคนของข้าที่อยู่ที่เรือนได้เลยเจ้าค่ะ”

“เป็นเรื่องง่าย ข้าจะแจ้งเขาให้”

“นี่เป็นตั๋วเงินแปดสิบตำลึง ข้าฝากท่านให้ช่างเฉินด้วยเจ้าค่ะ”

“แม่หนู เฮ้อ ข้าน่ะอยากจะเตือนเจ้าไว้ การฝากเงินจำนวนมากถึงเพียงนี้ไว้กับผู้อื่นไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย ต่อไปเรื่องเงินเรื่องทองเจ้าละเอียดมากกว่านี้หน่อยเถอะ”

“ข้าทราบเจ้าค่ะ แต่ลุงหวังดีกับข้ามาก เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้ข้ามากมายนัก หากไม่มีท่านข้าคงซื้อที่ดินดีๆแบบนี้ไม่ได้ ไหนจะออกหน้าพาข้าไปซื้อต้นไม้ เงินทองอะไรก็ปฏิเสธข้าเสียหมด หากข้ายังคิดเล็กคิดน้อยไม่ไว้ใจท่านแม้แต่เงินจำนวนเท่านี้ ข้าคงต้องละอายใจไม่กล้าสู้หน้าใครแล้วเจ้าค่ะ”

“ฮ่าๆ แม่หนู เจ้าช่างปากหวานกับคนแก่อย่างข้า เอาเถอะๆ ข้าจะจัดการให้ ไม่ต้องเป็นห่วง”

 หลังจากกลับมาจากบ้านหัวหน้าหมูบ้านหวัง สี่เสวี่ยก็มารายงานว่านางให้หลิวหยางและจางหมิ่นนอนห้องเดียวกันไปก่อน และบอกสิ่งที่ต้องทำ ต้องดูแลสิ่งใดบ้าง อาหารต่างๆอยู่ที่ใดอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่นางย้ำหนักหนาว่าคุณหนูไม่เคยหวงอาหาร นางต้องการให้ทุกคนกินให้อิ่ม อยู่กับนางไม่อนุญาตให้มีผู้ใดอดอยาก

ซูเจินจูให้หลิวหยางเตรียมม้าเพื่อกลับเข้าอำเภอ และกำชับกับทั้งสองว่า พรุ่งนี้ช่างเฉินจะมาสร้างห้องฝั่งเรือนชั้นนอก ให้กำชับช่างเฉินสร้างห้องของพวกเขาสองคนให้เสร็จภายในสามวันและอีกสามวันนางจะกลับเข้ามา

เมื่อกลับมาถึงบ้านในอำเภอเหอ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย และเสียงร่ำไห้ออกมาเป็นระยะๆ ซูเจินจูคาดว่าฮูหยินใหญ่มีเรื่องกับอนุลั่วเยี่ยน จึงเดินเลี่ยงโถงหน้าเดิมอ้อมสวนมาเข้าเรือนของตน แต่เมื่อเข้าเรือนมากลับเจอมารดาของนางนั่งจิบชากินขนมอยู่ในห้อง

“คารวะท่านแม่ มาที่เรือนข้ามีอันใดหรือเจ้าคะ”

“มารยาทเจ้าชักจะต่ำทรามลงทุกที ไม่เคยมีผู้ใดสอนเจ้าหรือว่าคำถามมากมายให้เก็บไว้ในใจ หากข้ามีธุระคุยกันไปสักพักข้าจะเกริ่นให้เจ้าถามเอง”

“ท่านแม่ เหตุใดต้องทำให้ยุ่งยากถึงเพียงนั้น อย่างไร เราสองคนก็เป็นบุตรีกับมารดา หากท่านมีธุระ ไม่สู้รีบพูดออกมา ข้าเป็นสิ่งที่ข้าช่วยได้ ไหนเลยจะไม่ช่วยละเจ้าคะ”

“เงินในหีบเจ้าไปไหนหมด”

“เงินของข้า ไม่ได้เก็บไว้ในหีบแล้วเจ้าค่ะ”

“แล้วเงินเจ้าเอาไปเก็บไว้ที่ใด”

“ข้าเก็บไว้อย่างดีเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเก็บไว้อย่างดี แต่ข้าถามเจ้าว่าเก็บไว้ที่ใด”

“ท่านแม่ต้องการเงินหรือเจ้าคะ”

“อาจู เจ้าเสียมารยาทถามข้าเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ท่านแม่ ข้าเพียงถามเท่านั้นเจ้าค่ะ หากท่านต้องการเงิน ต่อไปนี้เงินเดือนสิบตำลึงของข้า ข้าจะยกให้ท่าน”

“เอาตามเจ้าว่าเถอะ อืม ข้าเห็นว่าในหีบมีปิ่นทองกับจดหมาย เป็นของคุณชายหลินหรือ”

“ใช่เจ้าค่ะ คุณชายหลินให้ข้ามาก่อนออกเดินทางไปเมืองหลวง”

“เช่นนั้นเจ้าก็เก็บไว้ให้ดี ต่อไปเมื่อเขามาที่บ้านเจ้าก็ปักปิ่นให้เขาดู เห็นทีว่าคุณชายหลินคงหลงเสน่ห์เจ้าเข้าแล้ว อีกหน่อยเวลาเจ้าต้องการใช้เงินก็ไปขอคุณชายหลิน เอาใจสักนิดสักหน่อย จะสิบตำลึงยี่สิบตำลึงก็คงได้มาง่ายๆ”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

“รีบยั่วยวนคุณชายหลินให้ตกเป็นของเจ้าให้ได้ ต่อไปจะร้อยตำลึงสองร้อยตำลึงหากเจ้าอยากได้คุณชายหลินก็ต้องนำมาให้เจ้า คุณชายหลินอนาคตไกลนักต่อไปเจ้าจะได้ไม่ต้องตกระกำลำบาก”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าพักผ่อนเถอะ ต่อไปก็ไม่ต้องไปรับเงินแล้ว ข้าจะไปรับเงินแทนเจ้าเอง”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

มี่ซิ่นที่เห็นว่าซูเจินจูช่างว่านอนสอนง่ายอีกทั้งเงินเดือนสิบตำลึงยังยกให้นางก็คร้านจะดุด่าให้มากความเดินออกจากเรือนของซูเจินจูไปอย่างอารมณ์ดี

“คุณหนู เหตุใดรับคำง่ายๆเช่นนั้นละเจ้าคะ”

“เพราะข้าเป็นลูกกตัญญูยังไงเล่า แค่คำตอบรับง่ายๆก็ทำให้ท่านแม่มีความสุขได้ แล้วยังออกจากห้องข้าไปง่ายๆไม่ซักไซ้เรื่องเงินอีกด้วย”

“แต่รับคำแล้ว ไม่ทำได้หรือเจ้าคะ”

“ได้สิ การที่ข้ารับคำหมายความว่าข้าได้รับรู้สิ่งที่นางต้องการบอกข้าแล้ว ส่วนจะทำหรือไม่ นางไม่รู้หรอก”

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูจะให้บ่าวทำบัญชีของวันนี้เลยหรือไม่เจ้าคะ”

“เอาไว้ก่อน ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าไปเตรียมน้ำเถอะ”

วันถัดมา สี่เสวี่ยวิ่งเข้ามาหาซูเจินจูพูดจาติดๆขัดๆ หน้าซีดจนซูเจินจูตกใจ กว่าจะปลอบให้สงบได้ก็ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งเค่อ

“เกิดอะไรขึ้น ค่อยๆเล่าเถอะ ร้อนรนถึงเพียงนี้ข้าฟังไม่รู้เรื่อง”

“พี่เหลียนฮัว บ่าวของคุณหนูรองถูกคนของฮูหยินตีจนตายแล้วเจ้าค่ะ ศพถูกโยนทิ้งไว้ที่สุสานไร้ญาตินอกเมือง ส่วนคุณหนูรองถูกฮูหยินสั่งกักบริเวณเจ้าค่ะ”

“ไอหย๋า ตีจนตายเลยรึ ไหนๆ เจ้าเล่าต่อสิ”

“เมื่อวานคุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวไปหานายน้อยไฉที่ร้านชำเจ้าค่ะ แต่คนงานบอกว่านายน้อยไฉไม่อยู่ คุณหนูรองไม่เชื่อ แต่นายน้อยไฉไม่อยู่จริงๆจึงคร้านจะห้ามนาง ปล่อยให้นางเข้าไปนั่งรอนายน้อยไฉด้านในห้อง อันที่จริงแค่นั่งรอเฉยๆก็ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ แต่พี่เหลียนฮัวไม่รู้ว่าไปซื้อธูปราคะปลุกกำหนัดจากที่ใด นำไปจุดไว้ในห้องทำงานของนายน้อยไฉเพราะคิดว่านายน้อยไฉคงแอบอยู่ในห้อง แต่ห้องทำงานของนายน้อยไฉก็เล็กไปหน่อย ช่องประตู รูหน้าต่างก็มิได้แน่นหนา กลิ่นธูปจึงโชยออกมาที่ลานขนข้าวด้านหลัง เอ่อ แล้วก็ บังเอิญว่า นายท่านไฉถังเทียนบิดาของนายน้อยไฉตงชุนก็ทำงานอยู่ลานขนข้าวพอดีเจ้าค่ะ”

“ไอหย๋า ไอหย๋า ไอหย๋า อย่างนี้พี่รองข้าก็จะมีข่าวดีใช่หรือไม่ ใช่หรือไม่เจ้ารีบเล่าต่อสิ”

“คุณหนู บ่าวยังเล่าไม่จบ อย่าเพิ่งขัดบ่าวสิเจ้าคะ!! คือว่า เรื่องมันไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้นเจ้าค่ะ”

“อ๋อ เพราะเหลียนฮัวอยู่ในห้องด้วยสินะ”

“ถูกกึ่งนึงเจ้าค่ะ แต่ว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกิดในห้อง คุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวได้ยินเสียงคนมาจากลานขนข้าว จึงเดินออกมาดู คิดว่าเป็นนายน้อยไฉกำลังหนี แต่กลับ เจอ เอ่อ เจอนายท่านไฉ เอ่อ อยู่กับคนงานอีกสองคนเจ้าค่ะ”

“ไอหย๋า!!!!!!”

“น่าอับอายเหลือเกินเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินว่า เอ่อ ทำเรื่องบัดสีกันกลางลานขนข้าว นายท่านไฉโกรธมาก ยังแต่งตัวไม่ทันเรียบร้อยก็ทิ้งคุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวที่เสื้อผ้าฉีกขาดจนหมดไว้ที่ลานขนข้าวกับคนงานเจ้าค่ะ”

“เพ้ย ถึงจะโกรธแค่ไหนก็ไม่ควรทิ้งพี่รองข้าไว้เช่นนั้น”

“ใช่ไหมล่ะเจ้าคะ สุดท้ายคุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวก็ต้องใส่เสื้อผ้าของคนงานกลับมาเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินคนเฝ้าประตูเล่าว่า เสื้อผ้าที่ใส่กลับมาทั้งสกปรก ทั้งเหม็น แถมยังมีรอยช้ำสีแดงสีม่วงเต็มตัวด้วยเจ้าค่ะ ตอนเข้ามาคุณหนูรองทั้งหลบทั้งเลี่ยงเจอบ่าวคนไหนก็ขู่บ่าวคนนั้นว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่ตอนเย็นฮูหยินไฉก็มาเป็นแม่สื่อสู่ขอคุณหนูรองให้คนงาน เรื่องเลยรู้ถึงหูฮูหยินเจ้าค่ะ

“ไอหย๋า สู่ขอพี่รองข้าไปให้คนงาน ฮูหยินไฉช่างหน้าใหญ่เสียจริง”

“หน้าใหญ่จริงๆด้วยเจ้าค่ะ อย่างไรซะคุณหนูรองก็ยังเป็นถึงคุณหนูตระกูลซู การค้าของตระกูลซูก็กว้างขวางกว่าบ้านไฉมาก ทำแบบนี้ตั้งใจฉีกหน้าตระกูลซูของคุณหนูชัดๆ”

“มิน่า เมื่อวานท่านแม่ข้าจึงดูเหมือนคนเพิ่งดูงิ้วจบ ที่แท้มีงิ้วโรงใหญ่นี่เอง เจ้าเองก็ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้มาก หากเจ้าสนใจมากไปคนจะโยงไปถึงเรื่องที่ไฉตงชุนเคยส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้า ข้าไม่อยากเป็นนักแสดงงิ้ว”

“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ”

 ...

เมื่อครบกำหนดสามวัน ซูเจินจูเข้าไปบอกฮูหยินว่าตนจะไปทำการค้าต่างเมือง แต่ฮูหยินซูปิดประตูไม่รับแขก จึงเพียงบอกสาวใช้เข้าไปบอกให้

ซูเจินจูเข้าไปรับเข็มเงินที่โรงเหล็กอู่จินชาง และไปที่ตลาดค้าทาสอีกครั้ง ครั้งนี้ซูเจินจูซื้อทาสหญิงรับใช้ที่ทำกับข้าวได้หนึ่งคน เมื่อรับคน จ่ายเงินเรียบร้อยก็เช่ารถม้าเพื่อตรงไปยังหมู่บ้านซานทันที

 ..

“หมดแล้ว คราวนี้หมดจริงๆแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”

“อะไรหมด เจ้าบ่นอะไรนะ ตั้งแต่ขึ้นรถมาเจ้ายังบ่นไม่หยุดเลย”

“ก็เงินหมดแล้วไงเจ้าค่ะ คุณหนู เหลือเงินเพียงสิบสี่ตำลึงเองนะเจ้าคะ”

“ข้าให้เจ้านำปิ่นทองดอกเหมยไปขาย เจ้าทำอิดออดไม่ยอมไปจนข้าหมดตัวแล้ว” ซูเจินจูพูดไปขำไป ที่เห็นหน้าสี่เสวี่ยทำหน้าเจ็บปวด

“โถ่คุณหนู ของที่คุณชายหลินให้มา ขายไม่ได้นะเจ้าคะ”

“เอาล่ะๆ เจ้าไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นแล้ว คราวนี้เจ้าวาดผ้าให้ข้าสักสามพับข้าก็จะมีเงินแล้วไม่ใช่หรือ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   51

    นายน้อยหงพาซูเจินจูเดินชมสินค้าภายในร้าน สินค้าหลากหลายแต่เต็มไปด้วยของชั้นดี สินค้ามากมายที่ได้มาจากต่างแคว้น สินค้าหลายอย่างเป็นของที่ได้มาจากชนเผ่าต่างๆ หนังสัตว์ที่ผ่านการฟอกหนังมาอย่างดี ขนสัตว์หายากอย่างพวกจิ้งจอกแดงหรือขนหมาป่าสีขาวก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ หนังเสือ หนังหมี หรือแม้แต่เขากวาง เขี้ยวเสื้อ ก็ถูกนำมาตั้งแสดงสินค้า ยิ่งเห็นว่าร้านฟู่หงเทียนมีสินค้าชั้นดีเท่าใดซูเจินจูก็ยิ่งตระหนักได้ถึงอิทธิพลของเจ้ากรมอาภรณ์ ร้านค้าขนาดสี่ห้องกว้างขวางเกินกว่าจะดูได้อย่างละเอียดทั้งหมด แม้ซูเจินจูจะพยายามเดินดูจนทั่ว แต่ด้วยประกอบกับนายน้อยหงที่คอยอธิบายสิ่งต่างๆภายในร้านอย่างใส่ใจทำให้กินเวลายาวนานเกือบสามชั่วยาม“อีกสองวันถึงจะเป็นงานเปิดรับศิษย์ของสำนักต่อสู้ พรุ่งนี้คุณหนูซูอยากไปที่ใดหรือไม่ ข้าจะพาท่านไปเอง”“ไม่รบกวนนายน้อยเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะพาคนของข้าไปเดินเล่นในเมือง เพียงเดินเล่นไปเรื่อยๆมีจุดหมายใด”“เช่นนั้นข้าจะให้คนคุ้มกันของข้ามาดูแล”“ข้าคงต้องเสียมารยาทปฏิเสธเสียแล้ว หลิวหยาง จางหมิ่นของข้าคงเพียงพอจะปกป้องข้าได้ อย่าให้ข้าทำให้นายน้อยหงต้องเป็นกังวลเลยเจ้าค่ะ”“เช

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   50

    วันถัดมาในยามเฉิน เฟยอวี่เข้ามาหาซูเจินจูเพื่อรายงาน“คุณหนู บ่าวสืบข่าวมาได้เล็กน้อยเจ้าค่ะ พ่อค้าต่างแคว้นหลายคนเร่งเดินทางเข้าเมืองหลวง ของมีค่าหลายอย่างถูกขนเข้าเมืองหลวงผ่านขบวนขนสินค้า จุดหมายคือตรอกถงยู่ ที่เป็นแหล่งจัดงานประมูลของตลาดมืด นี่เป็นของรายการของส่วนหนึ่งที่บ่าวได้มาจากบัญชีส่งสินค้าเจ้าค่ะ”“งานประมูลของตลาดมือหรือ น่าสนใจ เจ้ารู้เรื่องงานนี้ดีแค่ไหน”“บ่าวเคยได้ยินว่าเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อประมูลของหายาก มีทั้งโสมพันปี อาวุธต่างๆ หยกม่วง หินแร่ รวมถึงหัวของผู้ครองแคว้นก็เคยถูกนำมาประมูลเจ้าค่ะ การจะเข้าร่วมประมูลได้ต้องจ่ายเงินค่าเข้าคนละหนึ่งพันตำลึง และหากมีของที่ต้องการนำเข้าประมูลก็นำของไปประเมิณได้เช่นกันเจ้าค่ะ”“เจ้าทำงานได้ดีมาก พักสักหน่อยแล้วออกเดินทางไปรอข้าที่เมืองหลวง สืบข่าวเรื่องการประมูลให้ข้า และจองโรงเตี๊ยมที่ปลอดภัยที่สุดเอาไว้ให้เพียงพอกับคนของเรา ข้าจะพาสี่เสวี่ย เฟยหลัน เฟยหรง เฟยเมี่ยว หลิวหยาง จางหมิ่นไป”“บ่าวรับคำสั่งคุณหนูเจ้าค่ะ” เฟยอวี่รับตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงจากซูเจินจูก่อนจะออกจากห้องไป คล้อยหลังเฟยอวี่ออกไปไม่ถึงหนึ่งเค่อซูเจินจูก็ตรง

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   49

    “เฟยอวี่ การเข้าเมืองหลวงต้องใช้ป้ายผ่านเข้าเมืองด้วยหรือ”“จริงๆแล้วไม่ต้องใช้เจ้าค่ะคุณหนู แต่ชาวบ้านทั่วไปหากต้องการผ่านเข้าเมืองหลวงจะต้องเสียอีแปะเป็นค่าผ่านทางให้กับทหารเฝ้าประตู เสียเยอะหรือเสียน้อยแล้วแต่ว่าผู้เฝ้าประตูเป็นใคร ส่วนป้ายผ่านเข้าเมืองเป็นเพียงชื่อเรียกเท่านั้นเจ้าค่ะ ในความเป็นจริงแล้วป้ายพวกนี้มีขึ้นเพื่อให้คนมีเส้นสายสามารถผ่านเข้าออกเมืองโดยไม่ต้องเสียอีแปะ ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องตรวจค้นสัมภาระอย่างละเอียดและได้รับความเคารพจากทหารเฝ้าประตู รวมถึงป้องกันไม่ให้พวกทหารสร้างปัญหากับพวกคนรวยและขุนนางด้วยเจ้าค่ะ”“อ่อ แค่ยื่นป้ายออกไปก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยแล้วสินะ ช่างดีจริงๆ”“นายน้อยหงคงเหลือเส้นสายอยู่ไม่น้อยถึงขนาดใจกว้างทำป้ายให้คุณหนูได้ง่ายๆ”“เขาเห็นข้าเป็นโอกาสที่จะช่วยร้านผ้าฟู่หงเทียนกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งต่างหาก เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ ออกไปสืบข่าวดูสักหน่อยก็ได้ ไปเมืองหลวงครั้งนี้ข้าจะพาเจ้า สี่เสวี่ย หลิวหยาง จางหมิ่น เฟยหรง เฟยเมี่ยว และเฟยหลันไปด้วย บอกเพ่ยเพ่ยกับเยว่ชิงเสียแต่เนิ่นๆให้นางได้เตรียมตัวจัดการงานและดูแลเรื่องต่างๆทั้งหมดที่นี่ตอนที่พวกเรา

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   48

    “พ่อหนุ่มเจิ้งผู้นี้ดูมีลับลมคมในเหลือเกินนะเจ้าคะ จะว่าไปพ่อหนุ่มเจิ้งเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องของตน แม่แต่แซ่ก็ไม่บอก ชื่อเจิ้งก็ไม่รู้ว่าใช่ชื่อจริงหรือไม่”“นั่นสิเจ้าคะคุณหนู คุณหนูเองก็แปลกนัก แค่พ่อหนุ่มเจิ้งบอกจะมาด้วยก็ปล่อยให้มา บอกจะไปก็ไม่ถามไถ่สิ่งใดสักคำ”“ช่างเขาเถอะ เพียงแค่ไม่มีพิษภัยกับพวกเราก็พอแล้ว เรื่องอื่นๆรู้มากไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี”“เจ้าค่ะคุณหนู”ซูเจินจูพาเจียงไป๋ไปยังห้องที่เจียงชิงนอนอยู่และให้ซินเซียงยกที่นอนอีกหนึ่งอันมาวางข้างเตียงเพื่อให้พี่น้องได้นอนห้องด้วยกัน“เจ้านอนห้องเดียวกันไปก่อน ช่วงนี้ก็คอยดูแลนาง ข้างๆห้องเจ้าคือห้องของชิงหยุน มีอะไรก็ไปหานางได้ สี่เสวี่ยเจ้าไปบอกให้ซินเซียงหาอะไรให้เด็กนี่กินเสียหน่อยเถอะ”“เจ้าค่ะคุณหนู”เจียงไป๋มองคนทั้งหมดทยอยออกจากห้องไปก่อนจะหันกลับมานั่งข้างเตียงของเจียงชิง“พี่สาว ท่านรีบตื่นขึ้นมานะ…”... เช้าวันต่อมาซูเจินจูเดินทางเข้าร้านหว่างลี่เซียงพร้อมเฟยหลันตั้งแต่ยามเฉิน กิจการของร้านหว่านลี่เซียงเป็นไปด้วยดี คนที่ดูเหมือนจะทะเลาะกับผู้อื่นได้ง่ายๆอย่างเพ่ยเพ่ยกลับทำงานได้อย่างสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นก

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   47

    “มองอะไร พวกเจ้ามองอะไร ไอ้พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว เด็กมันมีวาสนาได้ช่วยเหลือสกุล เลี้ยงมันต่อไปก็ไม่ใช่ว่ามันจะหาเงินให้ข้าได้ถึงยี่สิบตำลึงเสียเมื่อไหร่ ต้องมากินข้าวบ้านข้านอนบ้านข้าไม่สู้ไปกินบ้านอื่นนอนบ้านอื่นแล้วยังได้เงินรึ แล้วเงินที่มันถืออยู่ไม่ใช่ว่าขโมยของข้าไม่หรือไงเด็กอย่างพวกมันจะเอาปัญญาหาเงินมากมายขนาดนี้ได้ที่ไหน เอาเงินข้าคืนมานะไอ้พวกเด็กตัวเหม็น”“ท่านย่านี่เป็นเงินที่พี่สาวหามาได้ ไม่ได้ขโมยเงินของท่าน”“นั่นมันเงินโชคดีที่แม่หนูเจินจูแจกไม่ใช่หรือ บ้านข้าก็ได้มาสองพวง ไหมถักแบบนั้นรูปทรงแบบนั้น ข้าจำไม่ผิดหรอก” ชาวบ้านที่มุงดูอยู่พูดขึ้น“ใช่ ข้าเองก็จำได้ นั่นมันพวงเงินที่แม่หนูเจินจูแจกเมื่อวันเกิด” หัวหน้าหมู่บ้านหวังสำทับขึ้น ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ต่างเคยได้รับพวงเงินโชคนี้ทุกคนล้วนเป็นพยายานให้เด็กน้อยว่าเขาไม่ได้ขโมยเงินของแม่เฒ่าเจียง“เหอะ เอาเข้าบ้านข้าก็ต้องเป็นของข้านั่นแหละ อาไป๋ เข้าบ้าน เหม่ยเหมย เสี่ยวเจี๋ยลากนังเด็กชิงเข้าบ้าน”“แม่เฒ่าเจียง รอเดี๋ยวก่อนเถอะ ข้าขอเจรจาเรื่องเด็กสองคนนี้สักประโยคหนึ่งได้หรือไม่” ซูเจินจูพูดยังไม่ทันจบ เฟยหลันก็เอาตัว

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   46

    การค้าของร้านหว่านลี่เซียงเต็มไปด้วยความราบลื่น ที่ควรขายได้ขาย ที่ควรสงบก็สงบ กว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะออกจากร้านก็เป็นยามโหย่ว หลังจากปิดร้าน เหล่าคนงานที่หมดแรงมานั่งรวมกันอยู่ที่กลางร้าน ซูเจินจูลากเก้าอี้มานั่งก่อนจะขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการเปิดร้านวันแรกจนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี วันนี้ถุงหอมขายได้หกร้อยหกใบ เป็นเงินหนึ่งหมื่นสองพันหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึง การขายได้จำนวนมากตั้งแต่วันแรกนับเป็นเรื่องดีแต่ซูเจินจูกังวลว่าหากขายดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่สามารถผลิตมาขายได้ทันสี่เสวี่ยรับหน้าที่สอนเยว่ชิงวาดลายผ้าและผสมสีผ้าไหมหอมหมื่นลี้ เมื่อเชี่ยวชาญแล้วเยว่ชิงจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผ้าไหมหอมหมื่นลี้พวกนี้แทนสี่เสวี่ย อีกทั้งสี่เสวี่ยยังต้องคุมคนงานเย็บปัก และติดป้ายรับสมัครหญิงสาวที่เชี่ยวชาญงานเย็บปักมาปักถุงหอมหมื่นลี้ที่ร้านหว่านลี่เซี่ยงด้วยเฟยหรงและเฟยเมี่ยวที่เพิ่งได้ข่าวพรรคพวกอีกหนึ่งคนด้วยเห็นว่าพรรคพวกที่เจอนั้นถูกซื้อตัวไปด้วยชายชราที่อยู่กับหลานชายหนึ่งคนบนกระท่อมบนเขา นางไม่ได้ลำบากหรือโดนทำร้ายจึงพักการติดต่อแล้วหันมาช่วยซูเจินจูดูแลร้านหว่านลี่เซียงไปก่อน“เอาล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status