Share

บทที่ 2

Penulis: เฉียนเสี่ยวซี
บนหน้าจอมือถือมีข่าวบันเทิงแจ้งเตือนขึ้นมา

เธอไม่ได้สนใจข่าวพวกนี้แต่อย่างใด ขณะที่กำลังจะปิดหน้าข่าวกลับเหลือบไปเห็นชื่อของคนรู้จัก จึงอดไม่ได้ที่จะกดเข้าไปดูสักหน่อย

#ดีไซเนอร์ชื่อดัง “หลินเสวี่ยเวย” แห่ง EV เดินทางกลับประเทศ ได้ปรากฏตัวพร้อมแฟนหนุ่มลึกลับที่สนามบิน#

ในภาพถ่ายหลินเสวี่ยเวยสวมหมวกบักเก็ต ผู้ชายที่มากับเธอเป็นเพียงเงาร่างที่ดูเลือนราง แต่ก็สามารถมองเห็นรูปร่างที่โดดเด่นนั้นได้

หลังจากที่หมิงซีขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น ก็มีเสียง “หึ่งๆ” ดังขึ้นในหัวของเธอ

นึกไม่ถึงเลยว่าเงาร่างนั้นจะเป็น——ฟู่ซือเยี่ยน!

ดังนั้น การที่เขาได้ยกเลิกการประชุมในช่วงบ่ายอย่างกะทันหัน ก็เพื่อไปรับอดีตแฟนสาวหลินเสวี่ยเวยงั้นเหรอ?

ทันใดนั้น หมิงซีก็รู้สึกราวกับว่ามีหินใหญ่ได้กดทับจิตใจของเธอเอาไว้ และทำให้เธอกระวนกระวายเป็นอย่างมาก

มือของเธอสั่นเทา และไม่รู้ว่าเผลอไปกดโทรออกเบอร์ของฟู่ซือเยี่ยนตั้งแต่ตอนไหน

หมิงซีกระวนกระวายและทำอะไรไม่ถูก ขณะที่กำลังจะตัดสายไปก็มีเสียงดังออกมาจากปลายสายว่า

“สวัสดีค่ะ——”

น้ำเสียงของหญิงสาวอ่อนโยนเป็นอย่างมาก

หมิงซีหยุดไปชั่วครู่ และตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที

หลังจากนั้นในท้องของเธอก็เหมือนมีคลื่นซัดตีกันไปมาทำให้รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เธอทนไม่ไหวจึงรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียนมันออกมา

......

หลังจากที่ฟ้าสว่าง

หมิงซีก็ไปทำงานที่บริษัทตรงเวลา

หลังจากที่แต่งงานสายฟ้าแลบแล้วนั้น ฟู่ซือเยี่ยนก็คาดหวังให้เธออยู่บ้าน แต่เธอต้องการที่จะพึ่งพาตนเองเสียมากกว่า

ฟู่ซือเยี่ยนจึงตามใจเธอ แต่ก็ไม่ยอมให้เธอไปทำงานที่อื่น โดยให้เธออยู่ข้างกายเขาเป็นผู้ช่วยเล็กๆน้อยๆ และงานที่ทำก็คือการเสิร์ฟน้ำชาทั่วไปเท่านั้น

เขาได้มอบหมายงานหลักทั้งหมดให้โจวมู่ผู้ช่วยพิเศษเป็นผู้ดูแลต่อ

ภายในบริษัทยกเว้นโจวมู่ไม่มีใครรู้ฐานะที่แท้จริงของหมิงซี

อีกทั้งท่านประธานตระกูลฟู่กรุปก็จ้างเฉพาะผู้ช่วยที่เป็นผู้ชายมาโดยตลอด ในช่วงสองปีที่ผ่านมาหมิงซีเป็นผู้ช่วยผู้หญิงเพียงคนเดียว ดังนั้นทุกคนจึงสงสัยว่าหมิงซีกับท่านประธานมีความสัมพันธ์บางอย่างที่ไม่ชัดเจนกันหรือไม่

เมื่อวันเวลาผ่านไป พวกเขาก็พบว่าท่านประธานไม่ได้มีความสนใจอะไรเป็นพิเศษต่อหมิงซีเลยแม้แต่น้อย ทุกคนจึงยิ่งดูถูกเธอมากยิ่งขึ้น

ใช้ความสวยเอาตัวเข้าแลกผู้ชาย จะยืนยาวได้อย่างไรกัน

และในเวลานี้ เพื่อนร่วมงานก็ได้ยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้หมิงซีและขอให้เธอช่วยไปส่งเอกสารที่ห้องทำงานของท่านประธาน

เมื่อคืนฟู่ซือเยี่ยนยังไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน และเธอก็ยังไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนเลย

ในหัวเต็มไปด้วยความคิดที่ว่า ผู้หญิงในสายโทรศัพท์นั้นเป็นใครกันแน่? พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดทั้งคืนหรือเปล่านะ?

คำตอบมีอยู่ในภาพพวกนั้นแล้ว แต่เธอไม่กล้าและไม่อยากที่จะยอมรับ....

บางทีคนเราก็ต้องถูกตบสักทีหนึ่งถึงจะได้สติสินะ

ตอนนี้ในใจของหมิงซีนิ่งสงบขึ้นมาก เธอคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอต้องการข้อสรุป ต่อให้ตัวเองต้องมาอธิบายถึงการแอบรักคนหนึ่งมาตลอดสิบปีก็ตาม

เธอกดปุ่มลิฟต์ขึ้นไปอย่างใจเย็น ก่อนออกจากลิฟต์ เธอยังจัดการกับผมเผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่สวยพร้อม

และเมื่อเธอมาถึงหน้าประตูห้องทำงานของท่านประธาน ก็มีเสียงผู้ชายดังออกมาจากประตูไม้มะฮอกกานีที่ปิดไม่สนิท ทำให้ฝีเท้าของเธอต้องหยุดลงทันที

“จริงๆแล้วแกชอบหรือไม่ชอบหมิงซีกันแน่?”

คนที่พูดคือกู้เหยียนโจวเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกันของฟู่ซือเยี่ยน

“แกต้องการพูดอะไรกันแน่?” เสียงของฟู่ซือเยี่ยนถามขึ้นอย่างไม่แยแส

กู้เหยียนโจวทำเสียงจุ๊ๆแล้วถามขึ้นว่า “ฉันคิดว่าหมิงซีก็ไม่เลวนะ แต่เธอคงไม่ใช่สเปคที่แกชอบจริงๆหรอกใช่ไหม?”

“งั้นแนะนำให้แกเอามั้ย?” ผู้ชายคนนั้นถามกลับไปอย่างลอยๆ

“ช่างมันเถอะ”

เสียงหัวเราะดูถูกของกู้เหยียนโจวดังขึ้นภายในหลังประตูนั่น ได้ยินแล้วรู้สึกขัดหูเสียจริงๆ

พวกเขาพูดถึงเธอ ราวกับเป็นสิ่งของชิ้นหนึ่ง......

หมิงซีรู้สึกหายใจไม่ออก ในมือจับเอกสารเอาไว้แน่น ฝ่ามือของเธอเย็นเฉียบ

และคำพูดของกู้เหยียนโจวก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ตัวเอกของเรื่องอื้อฉาวในข่าวของเสวี่ยเวยนั่น เป็นแกใช่ไหม?”

“อืม”

“โอ๊ย! เพื่อเอาอกเอาใจให้เธอมีความสุข แกยอมสละทุกอย่างได้จริงๆเหรอนี่”

กู้เหยียนโจวถอนหายใจเฮือกหนึ่งและถามติดตลกขึ้นต่อว่า “เมื่อคืนแกค้างคืนกับเสวี่ยเวยทั้งคืน เขาว่าคนยิ่งห่างไกลกัน ก็ยิ่งรักกันกว่าเดิม แล้วแกมีอะไรอย่างว่าหรือเปล่าล่ะ... ”

ราวกับมีเสียงฟ้าร้องระเบิดขึ้นมาเหนือหัวของหมิงซี!

ใบหน้าของเธอซีดเผือด ร่างกายหนาวสะท้านราวกับถูกน้ำแข็งปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง

ทั้งคืน!

ยิ่งห่างไกล ยิ่งรักกัน !

ทุกคำพูดเหมือนมีมีดด้ามหนึ่งมากรีดแทงทะลุหัวใจของหมิงซี

มีเสียงมากมายดังก้องอยู่ในหัวของเธอ จู่ๆ เธอก็รู้สึกเวียนหัวและตาลาย มองไม่เห็นสิ่งต่างๆ และได้ยินเสียงไม่ชัดเจน

ขณะที่เธอกำลังคิดจะหนีไป เสียงบัตรเปิดประตูก็ได้ดังขึ้นและประตูก็ได้เปิดออกมา

“หมิงซี?”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พ่ายรักภรรยาที่หย่าแล้ว   บทที่ 274

    ทันใดนั้นดวงตาของหลินเสวี่ยเวยก็เบิกกว้างขึ้นเป็นไปได้ยังไง......เธอวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอป่วยหรือเรื่องที่เธอถูกลักพาตัว เธอมั่นใจเธอไม่ได้ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ผู้ชายคนนี้ต้องโกหกเธอแน่ ๆ เลยใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆหลินเสวี่ยเวยอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสและยังคงแสร้งทำเป็นโง่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา " พี่อาเยี่ยน พี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรคะ หนูฟังไม่รู้เรื่องเลย... "“ยาฉีดของหนูมาจาก ประเทศ L แล้วรถที่ชนหน้าผาและระเบิด โจวมู่พบรถที่วิ่งผ่านที่เกิดเหตุในเวลานั้น กล้องติดรถได้บันทึกไว้ว่า รถสูญเสียการควบคุมเบรกอย่างเห็นได้ชัด คนพวกนั้นยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อได้เงินสิบล้าน แต่กลับเตรียมรถที่มีปัญหาเบรกไว้”ฟู่ซือเยี่ยนเล่าอย่างใจเย็น " หลินเสวี่ยเวย หนูคิดว่ายังไงก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์อยู่แล้ว ดังนั้นคุณจึงคิดว่าผมเป็นคนโง่เหรอ"น้ำเสียงของชายคนนั้นสงบมาก ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงมื้อเย็นว่าจะกินอะไรดีแต่ทุกคำพูดทำให้หลินเสวี่ยเวยรู้สึกมือและเท้าชาไปหมด เธอรู้สึกขนลุกเธอร้องไห้อย่างน่าสงสารและเธอก็ส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง "ไม่ ไม่... พี่อาเยี่ยน พี่ฟังหนูอธิบ

  • พ่ายรักภรรยาที่หย่าแล้ว   บทที่ 273

    ดวงตาของฟู่ซือเยี่ยนจ้องลึก "ระวังปากของคุณ อะไรที่ไม่ควรชักชวน อย่าชักชวน"ดูเหมือนซูเนี่ยนเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว เธอพูดตรงประเด็นว่า "คุณฟู่ คุณคิดว่าหมิงซีจะให้อภัยคุณใช่ไหม"เมื่อมองดูใสีหน้าของฟู่ซือเยี่ยน ซูเนี่ยนรู้ตัวเองเดาถูกดูเหมือนว่านิยายที่เธออ่านไม่ได้หลอกลวงเธอไฮโซหนุ่มที่ทั้งหน้าตาดีและร่ำรวยมีความมั่นใจอย่างพิเศษในความรักซูเนี่ยนจะยอมพลาดโอกาสอย่างแก้แค้นให้เสี่ยวซีได้ยังไง"ไม่ต้องกังวล คุณฟู ฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระ แต่ -"เธอหยุดชั่วคราวและพูดตรงประเด็น "เมื่อหมิงซีตัดสินใจอะไร เธอจะเด็ดขาดมากกว่าที่คุณคิด"ฟู่ซือเยี่ยนกระชับฝ่ามือของเขาและยืนอยู่ที่นั่นสองสามวินาทีจึงเดินเข้าห้องผู้ป่วยหลินเสวี่ยเวยเห็นฟู่ซือเยี่ยนกลับมา เธอถามอย่างกังวล " พี่อาเยี่ยน พี่ได้เอาปากกาบันทึกเสียงกลับมาหรือเปล่า"เธอเห็นฟู่ซือเยี่ยนตามออกไป เธอก็คิดว่าเขาจะช่วยเธอเอาปากกาบันทึกเสียงคืนมาดูสิ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไร พี่อาเยี่ยนก็ยังปล่อยเธอไปไม่ได้ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้ติดตามเรื่องการเปลี่ยนใบรับรองผลการตรวจการเป็นบิดาไม่ใช่เหรอครั้งนี้เธอถูกหมิงซีทุบตีหนักขนาดแนี้ และป

  • พ่ายรักภรรยาที่หย่าแล้ว   บทที่ 272

    ซูเนี่ยนหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เธอเม้มริมฝีปากอันสีแดงของเธอ " หลินเสวี่ยเวย บ้านคุณไม่มีกระจกเหรออิจฉาใบหน้าของคุณที่เต็มไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิกมากเกินไปหรืออิจฉาคุณเก่งเรื่องแย่งสามีของคนอื่นหรืออิจฉาคุณทำแบ้วทันทีเมื่อเห็นผู้ชาย หรืออิจฉาคุณมีทักษะการแอบแรดเหรอ"ทุกคำพูดของซูเนี่ยนแทงทะลุหัวใจของหลินเสวี่ยเวยถ้าฟู่ซือเยี่ยนไม่ได้อยู่ที่นั่น เธอคงรีบเข้าไปฉีกปากของซูเนี่ยนเป็นชิ้น ๆ แล้วในเวลานี้ ฟู่ซือเยี่ยนค่อย ๆ ดึงมุมเสื้อผ้าของเขาออกจากมือของหลินเสวี่ยเวย เขาก้มหัวหมองหลินเสวี่ยเวย“ เสวี่ยเวย ครั้งที่แล้วพี่พูดอะไรไป หนูลืมแล้วเหรอ”เขาหมายถึงคำเตือนที่เขาพูดในคืนที่เขาจับตัวป้าหลินไปความเย็นจากฝ่าเท้ากระจายไปทั่วร่างกาย หลินเสวี่ยเวยรู้สึกหนาวจนตัวสั่น เธอบีบตัวเองแรง ๆ และน้ำตาก็ไหลอาบหน้าทันที“ พี่อาเยี่ยน ไม่ใช่หนูจริง ๆ อย่าเชื่อเธอ เธอเข้าข้างหมิงซี เธอต้องช่วยหมิงซีแน่…”"ฮือ ๆ " ซูเนี่ยนประชด:"ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันยอมจ้างองค์กรมืออาชีพทำการประเมินเพื่อดูว่าเสียงนี้เป็นเสียงที่ถูกตัดแปลงขึ้นมาหรือเปล่า"“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย” หลินเสวี่ยเวยดุอย่างแรง“พวกคุ

  • พ่ายรักภรรยาที่หย่าแล้ว   บทที่ 271

    หลินเสวี่ยเวยยังไม่ทันโต้ตอบ ซูเนี่ยนรีบถาม "ในเมื่อคุณบอกว่าหมิงซีตีคุณ ฉันขอถามคุณก่อนว่าทำไมเธอถึงตีคุณ"ใบหน้าของหลินเสวี่ยเวยแข็งทื่อทันที และความไม่สบายใจอย่างรุนแรงก็พลุ่งพล่านอยู่ในใจของเธอเธอพูดด้วยความตื่นตระหนก "ฉันบอกว่าเธอมีปัญหาทางจิต ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่..."รอยยิ้มบนใบหน้าของซูเนี่ยนหายไป และน้ำเสียงของเธอก็จริงจัง“คุณด่าว่าเธอเป็นสุนัขจรจัดที่ถูกคุณฟู่ทิ้งไม่ใช่เหรอ คุณยังบอกว่า ของในท้องของเธอเป็นตัวร้ายและตายแล้วดีมากเลย คุณยังด่าว่าเธอเป็นดวงซวยของทั้งครอบครัว..."ทุกคำพูดเป็นเหมือนการเล่าขานยิ่งหลินเสวี่ยเวยฟังมากเท่าไร สีหน้าของเธอก็ยิ่งแย่ลง และเธอก็อุทาน "คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระ"เมื่อก่อนหลินเสวี่ยเวยด่าหมิงซีนังตัวแสบ แต่ไม่เคยเห็นหมิงซีบอกใครเลย แต่คาดไม่ถึง คราวนี้หมิงซีเล่าทำคำให้ซูเนี่ยนฟังแต่แล้วยังไงได้ล่ะ เธอกล้าด่าอย่างนั้น ยอมไม่กลัวหมิงซีฟ้องอยู่แล้วอีกอย่างไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะพิสูจน์ว่าเธอพูดเช่นนั้นซูเนี่ยนยิ้มและพูดต่อ "อย่ากังวล ฉันยังพูดไม่จบ คุณยังบอกด้วยว่าคุณเปลี่ยนใบรับรองผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดาและ

  • พ่ายรักภรรยาที่หย่าแล้ว   บทที่ 270

    ฟู่ซือเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาขมวดคิ้วทันทีหลินเสวี่ยเวยตกใจมากจนเธอซ่อนตัวอยู่ข้างหลังของฟู่ซือเยี่ยน และตกใจ "ทำไมคุณถึงบุกเข้าไปในหอผู้ป่วยของคนอื่น"เธอรู้ซูเนี่ยนเป็นเพื่อนสนิทของหมิงซี พวกเธอไม่คุ้นเคยกันแต่เคยพบกันที่งานปาร์ตี้“ไม่เป็นไร ฉันรีบไปแล้ว พวกคุณสามารถไปต่อได้หลังจากที่ฉันออกไปแล้ว”ก่อนจะเข้าห้อง ซูเนี่ยนจูงใจทาลิปสติกสีแดงสดเป็นพิเศษ ในขณะนี้ เธอเม้มริมฝีปากและยิ้มเต็มไปด้วยทรงพลังหลินเสวี่ยเวยนึกว่าซูเนี่ยนมาตามหาฟู่ซือเยี่ยนเพื่อแก้แค้นให้หมิงซี ดวงตาของเธอก็ฉายแววด้วยความชั่วร้าย และเธอก็พูดอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง "คุณซู นี่คือห้องของฉัน เชิญออกไปเดี่ญวนี้เลยค่ะ"ถ้าเป็นตระกูลซูในปีที่แล้ว เธอยังคงพูดสุภาพกับซูเนี่ยน มากกว่านี้ เพราะครอบครัวของเธอยังพอแข่งกับตระกูลหลินได้แต่ตอนนี้ ตระกูลซูถูกลู่จิ่งสิงปราบปรามจนไม่เหลืออะไรแล้ว เธอได้ยินมาว่า พวกเขาทั้งหมดต้องพึ่งพาคุณซูขายตัวเพื่อช่วยบริษัทหญิงขายตัวไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะถือรองเท้าให้เธอ ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องสุภาพกับหญิงโสเพณีคนนี้ซูเนี่ยนเยาะเย้ย "ถ้าฉันออกไป ฉันจะเห็นคุณเห้อยตัวบนสามีของคนอื่

  • พ่ายรักภรรยาที่หย่าแล้ว   บทที่ 269

    คำถามนี้ทำให้หัวใจของหลินเสวี่ยเวยเต้นเร็วขึ้นเธออยู่ในสภาพที่น่าสังเวชขนาดนี้ ฟู่ซือเยี่ยนกลับไม่เรียกคุณหมอมารักษาเธอก่อน แต่สนใจเรื่องนี้ก่อนยิ่งไปกว่านั้น กระดูกสะบ้าของเธอยังเจ็บอยู่ และเธอไม่รู้ว่ากระดูกนี้ถูกนังเลวนั้นเหยียบแตกหรือเปล่าหลินเสวี่ยเวยโกรธในใจ แต่ใบหน้าของเธอสงบและดวงตาของเธอก็เปียกน้ำขณะที่เธอพูดว่า“หนูไปเยี่ยมเธอเฉย ๆ หนูไม่รู้เลย เราคุยแค่สองประโยคเอง หมิงซีก็รีบวิ่งเข้ามาหาหนูอย่างบ้าคลั่ง หนูกลัวจะตาย”“หนูพูดอะไรในสองประโยคนี้” ดวงตาสีเข้มของฟู่ซือเยี่ยนมองดูเธออย่างลึกซึ้งด้วยความหมายที่ไม่ชัดเจนหลินเสวี่ยเวยไม่คาดคิดฟู่ซือเยี่ยนจะไล่ถามเธออย่างนี้ ไม่ว่าผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้จะมองเธอกี่ครั้ง เธอก็จะรู้สึกตื่นตระหนกในใจโดยไม่รู้ตัวดวงตาของเธอสั่นไหวและเธอก็ร้องไห้ "หนูแค่ถาม' หมิงซี คุณเป็นอะไรไป ทำไมคุณดูแย่มาก' จู่ ๆ เธอก็รีบวิ่งเข้ามาตีหนู"ฟู่ซือเยี่ยนจ้องมองไปที่ใบหน้าที่บวมของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หนูไม่ได้พูดอะไรทำให้เธอโกรธเหรอ"หลินเสวี่ยเวยปฏิเสธทันที "ไม่ค่ะ หนูจะทำได้ยังไง เธอเป็นคนที่เอาแต่พูดอยู่เสมอว่า พวกเราเป็นคนที่ฆ่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status