Home / โรแมนติก / พ่ายรักเมียนิตินัย / บทที่ 16 แหวนเพชร 8กะรัต

Share

บทที่ 16 แหวนเพชร 8กะรัต

last update Last Updated: 2024-11-14 13:11:04

ติ๊ง! ติ๊ง!

เสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องปลุกให้นับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่

"อื้อ..เช้าแล้วเหรอเนี่ยเพิ่งนอนไปเอง" เธอส่งเสียงครวญครางออกมาเบา ๆ พลางปรือตาขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ยังง่วงจัด เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้ก็ครึ่งค่อนคืนเพราะไม่คุ้นกับที่นอนใหม่เท่าไร

จะนอนต่อก็ไม่ได้มาอยู่บ้านคนอื่นในฐานะลูกสะใภ้ก็ควรตื่นเช้าทำตัวให้เหมาะสมสักหน่อยจะได้ไม่โดนว่า ถึงแม้ไม่ได้เป็นลูกสะใภ้จริง ๆ ก็ตาม

เธอพาตัวเองลงจากเตียงอย่างขี้เกียจ จัดการอาบน้ำแต่งตัว เมื่อเสร็จก็เดินลงไปยังชั้นล่างในเวลาเจ็ดโมงกว่า ๆ

ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เลยทีเดียวเพราะปกติตะวันไม่ชี้โด่เธอไม่มีทางลุกจากที่นอนแน่นอน นอกเสียจากวันไหนมีถ่ายงานเช้า

เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างก็เห็นทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เธอจึงเดินเข้าไปร่วมแจม แม้รู้ว่าแม่สามีกับคนที่ได้ชื่อว่าสามีไม่อยากร่วมโต๊ะด้วย

ทำไมเธอถึงรู้น่ะเหรอก็มือค่ำของเมื่อวานทั้งสองคนไม่ยอมลงมาทานข้าว แต่กลับสั่งให้แม่บ้านยกขึ้นไปให้ในห้อง ทิ้งให้เธอนั่งทานกับพ่อสามีสองคน

ถามว่าเธอรู้สึกอะไรไหมตอบเลยว่าไม่กลับทานข้าวอร่อยด้วยซ้ำ

"สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณลุง คุณป้า" เธอปั้นหน้ายิ้ม ก่อนกล่าวทักทายพ่อแม่สามีพอเป็นพิธีพร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงข้างชายหนุ่ม

เคร้ง!

อรอินที่กำลังทานข้าวต้มอยู่ถึงกับวางช้อนลงอย่างแรงจนเกิดเสียงกระทบสนั่น แสดงออกโดยไม่ปิดบังว่าเธอไม่ชอบ

"ฉันอิ่มแล้ว" เอ่ยบอกคนเป็นสามีเสียงเรียบ ขณะที่สายตาตวัดมองหน้านับดาวด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะลุกเดินออกไปทั้งที่เพิ่งทานได้ไม่กี่คำ

ทิ้งให้คนเป็นสามีกับลูกมองหน้ากันนิ่ง ๆ

"เพราะนับแท้ ๆ เลยค่ะทำให้คุณป้าทานข้าวไม่ลง" คนต้นเหตุอย่างนับดาวก็แสร้งทำเป็นหน้าเศร้าเอ่ยออกมาอย่างน่าสงสารราวกับนางเอกในนิยายทั้งที่ในใจไม่รู้สึกอะไรสักนิด

"อย่าคิดมากเลยหนูนับดาว ป้าเขาก็เป็นแบบนี้แหละคงต้องให้เวลาหน่อย" เหมือนการแสดงของเธอจะใช้ได้กับประมุขของบ้านเพราะท่านมีท่าทีเห็นใจเธออย่างเห็นได้ชัดเอ่ยปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงนุ่ม ซึ่งคำพูดของท่านทำให้นับดาวรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกพลันนึกถึงคนเป็นพ่อแท้ ๆ ที่ไม่เคยพูดจาดีกับเธอเลยสักครั้ง มีแต่ต่อว่าและด่าด้วยคำพูดแรง ๆ แม้กระทั่งน้ำเสียงยังแข็งกระด้าง

พอนึกแล้วก็น่าเศร้าเหมือนกันใบหน้าสวยเผลอแสดงความเศร้าออกมา แต่เพียงเสี้ยวนาทีเธอก็รีบสะบัดความรู้สึกนี้ออกไปยิ้มรับคำพูดประมุขของบ้านเล็กน้อย "ค่ะคุณลุง"

ขณะที่ติณณภัทรกลับไม่เชื่อสักนิดว่าหญิงสาวจะเศร้า และรู้สึกผิดจริง ๆ เพราะขนาดถูกพ่อตัวเองด่าด้วยคำพูดแรงจนถึงขั้นถูกตบก็ไม่เห็นว่าเธอจะสะทกสะท้าน แล้วนับภาษาอะไรกับเรื่องแค่นี้คงไม่ทำให้เธอรู้สึกรู้สาขึ้นมาได้หรอก แสแสร้งแกล้งทำเสียมากกว่า

เขาส่ายหน้าไปมาเบา ๆ อย่างเอือมระอา ก่อนจะบอกล่าวกับผู้เป็นพ่อ "ผมไปทำงานก่อนนะครับ" แล้วลุกออกจากโต๊ะอาหารไปเพราะหมดอารมณ์จะทานจริง ๆ เพียงเห็นหน้าของผู้หญิงร้ายกาจ

"งั้นหนูก็ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะคุณลุง" นับดาวรีบขอแยกตัวออกไปเช่นกัน เมื่อประมุขของบ้านพยักหน้ารับเธอจึงยกมือไหว้สวัสดี แล้วลุกเดินกึ่งวิ่งตามชายหนุ่มไป

"สามีจะไปไหนคะ เมียขอไปด้วยได้ไหม" เมื่อวิ่งทันร่างสูงก็ถามไถ่ไปทันที ความจริงเธอไม่ได้ต้องการตามเขาไปจริง ๆ หรอกเพียงแค่อยากแกล้งเท่านั้น

ติณณภัทรถึงกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะหยุดเดินหันกลับไปมองร่างบางที่เดินตามหลังติด ๆ ด้วยความรำคาญ "เธอไม่มีงานมีการทำรึไงถึงได้ตามฉันเป็นเงาแบบนี้"

"สามีพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเลยค่ะ เพราะเมียว่างงานจริง ๆ นั่นแหละตั้งแต่มีข่าวออกไปผู้ว่าจ้างก็ทยอยยกเลิกงานไปหมดเลย แถมตอนนี้เมียก็ไม่มีเงินใช้เลยสามีข๋า" ได้ทีเธอก็ยกเรื่องเงินขึ้นมาพูดทันทียอมรับอย่างหน้าตาเฉย และมิวายแบมือขอเงินเขาด้วยพลางส่งสายตาออดอ้อนสุดฤทธิ์ "เมียขอเงินสามีใช้หน่อยสิคะ"

"เธอนี่มันเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันนับดาว" ติณณภัทรต่อว่าร่างบางตรงหน้าที่กำลังแบมือขอเงินอย่างเหลืออด ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นสามีภรรยากันแค่ในทะเบียน แต่เธอก็ยังกล้าขอเงินเขาใช้อีกเห็นแล้วสมเพชสิ้นดี

ในเมื่อเธอกล้าขอเขาก็กล้าให้

ล้วงไปหยิบกระเป๋าเงินในกระเป๋ากางเกงออกมาหยิบบัตรเครดิตส่งให้เธอพร้อมกับคำพูดเจ็บแสบ "ถือว่าฉันทำบุญให้พวกสัมภเวสี เผื่อผลบุญจะส่งผลให้สิ่งไม่ดีหายไปจากชีวิตฉัน"

"อือหื้อ..ปากแซ่บจังนะคะคุณสามี" คำพูดของติณณภัทรไม่ได้ทำให้นับดาวเจ็บสักนิด หนำซ้ำยังมีหน้าส่งยิ้มหวานให้เขาอีก ยื่นมือไปคว้าบัตรเครดิตจากเขามาถือไว้

"ขอบคุณนะคะสามี เมียจะใช้เงินทุกบาทอย่างคุ้มค่าที่สุด" เอ่ยขอบคุณเสียงอ่อนเสียงหวานพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิกแก้มเกลี้ยงเกลาหนึ่งถึงจงใจยั่วอารมณ์ของเขา

จากนั้นก็เดินฮัมเพลงไปขึ้นรถอย่างสบายใจโดยมีสายตาอีกคนมองตามด้วยความเกรี้ยวกราด

เธอรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็มิวายหันกลับไปโบกไม้โบกมือส่งจุ๊บให้เขาอีกที ก่อนขึ้นรถแล้วขับออกไป

@ห้าง

"หึ" เธอเค้นหัวเราะในลำคออย่างคนมีแผนร้ายหลังจากขับรถมาจอดลงยังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง มือเรียวล้วงไปหยิบบัตรเครดิตในกระเป๋าสะพายที่เพิ่งได้จากชายหนุ่มมาดูด้วยแววตาวาววับ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าดังเดิม  แล้วรถจากรถสาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังร้านเพชรภายในห้างเพื่อดูแหวนเพชรสำหรับใส่ไปอวดให้สองแม่ลูกมหาภัยอิจฉาตาร้อน

เธอเลือกแหวนเพชรน้ำงามที่มีน้ำหนักถึงแปดกะรัต รูปแบบของแหวนเป็นทรงบ่าข้างตัวแหวนประกอบด้วยเพชรเม็ดใหญ่ตรงกลาง และเพชรเม็ดเล็กประกบซ้ายขวา ลักษณะตัวเรือนของแหวนทำจากทองขาว เพชรถูกเจียระไนอย่างสวยงามราคาถึงหกล้านทีเดียว

แต่แล้วยังไงในเมื่อเธอไม่ได้เป็นคนจ่าย เมื่อเลือกของตัวเองเสร็จเธอก็ไม่ลืมจะเลือกให้คุณสามีสุดที่เกลียดด้วยเป็นแหวนทองคำขาวดีไซน์เรียบตรงกลางฝังเพชรหนึ่งเม็ดราคาหนึ่งล้านต้น ๆ เมื่อได้ตามที่ต้องการก็ยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน "ฉันเอา 2วงนี้ค่ะ"

"ได้ค่ะคุณผู้หญิง รอสักครู่นะคะ"

เธอมองแหวนสองวงที่กำลังถูกพนักงานอีกคนจัดใสตลับด้วยแววตาร้าย เพียงนึกถึงหน้านีรนุชกับแม่เลี้ยงใจยักษ์ตอนเห็นแหวนเพชรบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ

ครืดดด~

ระหว่างนั้นเธอเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นดึงให้เธอหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อนล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาดู

รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นประดับมุมปากหยักอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือติณณภัทร ถ้าให้เดาเขาคงเห็นยอดบัตรเครดิตที่เธอรูดแล้วถึงได้โทรมา

ทว่าเธอเลือกจะปิดเสียงแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิมปล่อยให้อีกคนโทรอยู่แบบนั้น เมื่อรับแหวนเพชรเรียบร้อยจึงเดินออกจากห้างไปขึ้นรถขับตรงสู่บ้านจิระกาญ

ทันทีที่รถจอดลงหน้าบ้านจิระกาญนับดาวก็หยิบเม็ดเพชรเม็ดงามในตลับกำมะหยี่สีแดงออกมาสวมนิ้วนางซ้าย มองพินิศพิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนเปิดประตูลงจากรถเดินนวยนาดเข้าไปภายในบ้าน

เหมือนสวรรค์จะเป็นใจเมื่อเดินมาถึงห้องโถงก็พบว่านีรนุชกับแม่ของเธอนั่งอยู่ ส่วนบิดาคงจะไปทำงาน

เธอแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามสองแม่ลูก เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม "สวัสดีค่ะคุณแม่เลี้ยง พี่นีรนุช"

"สวัสดีจ้ะน้องนับ" นีรนุชยิ้มรับด้วยความจำใจ ส่วนนิ่มเบะปากออกมาด้วยความหมั่นไส้ลูกเลี้ยงอย่างนับดาวพร้อมเบนหน้าไปทางอื่น

นับดาวหาได้แค่ไม่ว่าใครจะแสดงปฏิกิริยายังที่ทักทายไปพอเป็นพิธีเท่านั้น ก่อนจะตะเบ็งเสียงเรียกออย "พี่ออยคะนับขอน้ำเย็น ๆ สักแก้วสิคะ"

"น้ำเย็นมาแล้วค่ะคุณหนู" เพียงไม่ถึงนาทีออยก็วิ่งแจ้นนำน้ำมาเสิร์ฟให้ เธอยื่นมือด้านซ้ายที่สวมแหวนเพชรเม็ดโตไปรับน้ำมาดื่มจงใจให้ทุกคนเห็นแหวน

"ว้าว! คุณหนูแหวนสวยมากเลยค่ะ ใส่นิ้วนางข้างซ้ายแบบนี้แหวนแต่งงานใช่ไหมคะคุณหนู" ออยทำตาลุกวาวชื่นชมออกมาเสียงดังจงใจเอ่ยให้สองแม่ลูกได้ยินชัด ๆ เพราะก่อนนับดาวจะมาถึงที่นี่ได้โทรตะเตรียมกับออยไว้แล้วว่าต้องพูดอะไรบาง

"ใช่ค่ะ พี่ภัทรให้นับซื้อใส่คนอื่นจะได้รู้ว่าแต่งงานแล้ว" นับดาวเอ่ยกับออยด้วยท่าทางเคอะเขิน ทว่าสายตากลับแอบมองไปที่สองคนแม่ลูก

แวบหนึ่งเธอเห็นว่านีรนุชทำหน้าเจื่อน ส่วนแม่เลี้ยงใจยักษ์จ้องแหวนเธอตาเป็นมัน ใบหน้าฉายแววริษยาออกมาอย่างชัดเจนเป็นภาพที่เธอโคตรสะใจเลย

"เพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้คงแพงน่าดูใช่ไหมคะคุณหนู" ออยแสดงละครต่อทำเป็นถามไถ่ด้วยความอยากรู้

"แค่ 8กะรัต ราคา 6ล้านกว่า ๆ เองค่ะพี่ออย"

"โอ้โห้! คุณติณณภัทรนี่โคตรสายเปย์เลยนะคะ"

"ใช่ค่ะพี่ออย ตอนแรกนับก็มองเขาผิดไป แต่พอได้ใกล้ชิดเขาน่ารักมากเลยนะคะ นอกจากจะให้เงินนับซื้อแหวนแล้ว พอรู้ว่านับตกงานเพราะข่าวเสียหายนั่นเขาก็ยังให้บัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดมาใช้อีก"

นับดาวพูดคุยกับออยด้วยใบหน้าอิ่มเอมเหมือนคนมีความสุขตลอดเวลาแสดงให้เห็นว่าข่าวที่มีคนจงใจปล่อยทำให้เธอเสียหายไม่มีผลอะไรสักนิด หนำซ้ำยิ่งทำให้ชีวิตของเธอในตอนนี้แฮปปี้มากขึ้นไปอีก

และแน่นอนว่ามันทำให้นิ่มอิจฉาตาร้อนจนนั่งไม่ติด จ้องมองลูกเลี้ยงอย่างนับดาวที่ได้ดีเกินหน้าเกินตาลูกตัวเองด้วยความคับแค้นใจ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืน แล้วเอื้อมไปดึงมือบุตรสาวให้เดินออกจากห้องโถงด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

"หึ" นับดาวเค้นหัวเราะในลำคออย่างผู้ชนะมองตามหลังสองแม่ลูกด้วยความสะใจแผนยั่วอารมณ์ของเธอมันได้ผลเกินคาดจริง ๆ ป่านนี้ในใจของสองคนแม่มหาภัยคงร้อนระอุไปด้วยไฟริษยาแล้ว

เธออยากจะรู้นักว่านีรนุชจะทนแสดงเป็นนางเอกที่แสนดีได้นานเท่าไรกัน

"ป่านนี้สองคนแม่ลูกคงอิจฉาจนอกแตกตายแล้วมั้งคะ" ออยปิดปากหัวเราะด้วยความสะใจไม่ต่างจากผู้เป็นเจ้านายสักเท่าไร

"นับก็ว่างั้นแหละค่ะ" ว่าจบนับดาวก็กลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องนอนตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนุ่มพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย

รอยยิ้มร้ายพลันผุดพรายขึ้นประดับมุมปากหยักเมื่อคิดว่าตอนนี้หน้าเจ้าของบัตรเครดิตเป็นยังไง เธอเชื่อว่าเขาคงโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟ ใบหน้าบูดบึ้งเหมือนเศษอาหารค้างคืนที่เธอใช้เงินเขาภายในวันเดียวถึงเจ็ดล้านกว่า

เธอนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนผล็อยหลับไปในที่สุด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ออยเข้ามาปลุก เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้วจึงรีบขับรถกลับบ้านอัครกุล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 59 โชคดีที่มีเธอ (จบ)

    นับดาวให้กำเนิดบุตรสาวในวันเกิดของตัวเองพอดิบพอดีเพียงแต่คนละเวลากันเท่านั้น วันเกิดเธอปีนี้จึงกลายเป็นสุขสันต์วันคลอดแทนทุกคนต่างปลื้มปิติ โดยเฉพาะติณณภัทรวินาทีที่ได้เห็นหน้าบุตรสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่"ได้เจอกันสักทีนะลูกสาวพ่อ" ก้มจูบบนฝ่าเท้าน้อย ๆ ของบุตรสาวด้วยความรักใคร่ ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างพินิศ คิ้วเข้มขมวดชนกันเล็กน้อยเพราะทุกส่วนบนใบหน้าบุตรสาวเหมือนผู้เป็นแม่ไม่มีผิด แทบไม่มีส่วนไหนที่ได้เขามาเลยมันน่าน้อยใจชะมัด"นับคุณดูสิลูกลำเอียงชะมัดเลย คิ้วก็เอาของแม่มา ตาก็เอาของแม่มา จมูกก็เอาของแม่มา ปากก็เอาของแม่มาไม่มีส่วนไหนที่เหมือนผมเลย อุตส่าห์ทำแทบตาย" เขาแหงนหน้าขึ้นเอ่ยกับเมียสาวทีเล่นทีจริงทำเอาทุกคนอดยิ้มตามไม่ได้"แสดงว่าลูกรักแม่มากกว่าพ่อไงคะ" นับดาวตอบกลับยิ้ม ๆ อีกคนหาได้ยอมน้อยหน้าไม่เอ่ยประกาศเสียงกร้าว เชิดหน้าขึ้นอย่างมาดหมาย "แบบนี้ยอมไม่ได้นะ ลูกคนต่อไปต้องเหมือนผมแล้วแหละ"คำพูดของชายหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้อีกระลอกหนึ่ง คงจะมีแต่แบงค์ที่ต้องกลำกลืนฝืนทนมองภาพทั้งสองหยอกล้อกันทั้งที่ในใจมันชอกช้ำอย่างหนัก ส้มซึ่งรู้ดีทำได

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 58 สุขสันต์วันคลอด

    แสงแดดสีทองยามสี่โมงเย็นตกกระทบผิวน้ำทะเลสีเขียวมรกตทอประกายระยิบระยับ สายลมเอื่อย ๆ พัดโชยพากลิ่นอายทะเลลอยตลบอบอวลทำให้ผู้ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลาย"อากาศดีจังเลยค่ะ นานแล้วสิที่ไม่ได้พักผ่อนแบบนี้" นับดาวหันบอกกล่าวกับร่างสูงที่เดินเคียงข้าง จับมือพากันเดินเลียบไปตามแนวชายหาดด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้มาเที่ยวทะเล และดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบนี้ต้องขอบคุณผู้ชายข้าง ๆ ที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อนสิ้นเชิงทุกครั้งที่มาเที่ยวทะเลเธอจะมาเพราะต้องการแก้เบื่อแก้เซ็ง มาด้วยอารมณ์โดดเดี่ยว แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความสุขจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้"ใช่ครับ" ติณณภัทรระบายยิ้มตอบเขาเองก็ไม่ได้เที่ยวแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน ได้มาเที่ยวพักผ่อนแบบนี้กับคนที่รักจึงมีความสุขไม่น้อย "ได้มาพักผ่อนกับคนที่รักมันดีกว่าคนเดียวเป็นไหน ๆ เลยว่าไหม""ใช่ค่ะ นับไม่เคยรู้เลยว่าการมีความรัก มีครอบครัวมันดีขนาดนี้ต้องขอบคุณคุณนะคะที่เข้ามาในชีวิตของนับ" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยมาจากก้นบึ้งของหัวใจ"ผมก็ขอบคุณคุณเช่นกันที่เข้ามา

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 57 ความสุข

    วันต่อมาหลังจากเรื่องร้าย ๆ ผ่านไปวันนี้ติณณภัทรจึงตั้งใจพานับดาวไปทำบุญ และไหว้แม่ของเธอ"จะไปไหนกันฮึสองคนนี้" อรอินเอ่ยทักบุตรชายกับลูกสะใภ้ที่เดินเข้ามานั่งบนโต๊ะอาหารด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มเพราะดูจากการแต่งตัวแล้วเหมือนจะออกไปไหนกัน"ผมกับนับจะไปทำบุญกันครับ" ติณณภัทรตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะหันมองหน้าเมียสาวพร้อมยื่นมือไปกอบกุมมือเรียวไว้หลวม ๆ นับดาวส่งยิ้มหวานให้คนเป็นสามีบาง ๆ "ก็ดีเหมือนกันนะจะได้เป็นมงคลให้กับชีวิต แม่ขอให้ชีวิตคู่หลังจากนี้ของลูกทั้งสองพบแต่ความสุขนะ" อรอินเห็นดีเห็นงามด้วย และก็อวยพรให้เด็กทั้งสองพบเจอแต่ความสุขในชีวิตคู่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มามากมาย"พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมาก ๆ นะ จะเป็นพ่อแม่คนแล้วทำอะไรก็นึกถึงจิตใจกันและกันให้มาก ๆ อย่าเอาอารมณ์เข้าว่า อย่าละเลยความรู้สึกกัน รักและดูแลกันให้เหมือนวันแรกที่รักกัน ความสม่ำเสมอและเสมอต้นเสมอปลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคู่มาก พ่อหวังว่าลูกทั้งสองคนจะมีชีวิตคู่ที่มีความสุขไปจนแก่จนเฒ่า" พิภพอวยพรเด็กทั้งสองต่อหลังจากภรรยาเอ่ยจบ และไม่ลืมจะให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตคู่กับทั้งสองด้วย"ขอบคุณคุ

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 56 คิดถึง โหยหา

    นับดาวกำแหวนในมือแน่น แล้วเดินกลับไปยังห้องชายหนุ่มอีกครั้ง คาดว่าตอนนี้เขาคงขึ้นมาจากชั้นล่างแล้ว ยืนรวบรวมความกล้าข่มความตื่นเต้นอยู่หน้าห้องนานนับนาที ก่อนค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปเสียงเปิดประตูทำให้ติณณภัทรที่ทำท่าจะตามหาหญิงสาวหลังจากเข้ามาในห้องแล้วไม่พบเธอรีบหันไปมอง ครั้นเห็นคนตัวเล็กก็รีบเดินเข้าไปถามไถ่ "ไปไหนมาฮึ""ฉันมีอะไรจะมอบให้คุณค่ะ" นับดาวไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม แต่กลับจับมือข้างซ้ายของเขาขึ้นมา แล้วจัดการเอาแหวนที่กำไว้บรรจงสวมบนนิ้วนางของเขา "คุณมอบแหวนแต่งงานให้ฉันแล้ว ถึงคราวฉันมอบแหวนแต่งงานให้คุณบ้างแล้ว แหวนวงนี้แทนความรักจากฉันนะคะ""นะ..นี่มันอะไรกัน เธอความทรงจำกับมาแล้วเหรอ" ติณณภัทรถึงกับประมวลผลไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกในตอนนี้คือทั้งดีใจ สับสนงุนงง และไม่เข้าใจ ดวงตาคมกริบปริ่มไปด้วยน้ำสีใสจ้องมองใบหน้าสวยเชิงตั้งคำถาม "ฉันรักคุณนะคะ" นับดาวตอบคำถามของเขาแทนด้วยการบอกความรู้สึกออกไปพร้อมกับก้มจูบหลังมือของเขา ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปคล้องลำคอแกร่งเอาไว้หลวม ๆ แล้วเขย่งเท้าขึ้นประทับริมฝีปากจูบริมฝีปากหนาติณณภัทรไม่ได้ปฏิเสธถึงแม้ตอนนี้จะยั

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 55 แทนความรัก

    หลังจากนับดาวฟื้นขึ้นมาหมอก็ให้นอนดูอาการอีกสองวันจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้เพราะร่างกาย และผลการสแกนสมองปกติดีทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่เธอจำอะไรไม่ได้หมอประเมินว่าอาจเป็นอาการความทรงจำหายไปชั่วคราว อีกไม่นานความทรงจำน่าจะกลับมาเหมือนหลาย ๆ เคสที่ผ่านมา"บ้านของเราจำได้ไหม" ติณณภัทรเอ่ยถามคนที่นั่งข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อรถจอดลงหน้าบ้านอัครกุลสิ้นเสียงทุ้มนับดาวก็ทอดสายตามองเข้าบ้านหลังใหญ่โตตรงหน้า คิ้วสวยขมวดเป็นปมคล้ายกับว่าจำอะไรไม่ได้เลย"ฉันจำไม่ได้เลย" เปล่งเสียงตอบด้วยใบหน้าเศร้า แววตาหม่นหมองจนติณณภัทรต้องรีบรั้งเธอมากอดใช้มือลูบศีรษะเล็กทุยปลอบประโลม "จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็จำได้เองไม่ต้องรีบร้อน""ค่ะ""เข้าบ้านกันดีกว่าป่านนี้พ่อกับแม่คงรออยู่ ท่านดีใจมากเลยนะที่รู้ว่าเธอได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว" "ค่ะ" คนที่อิงแอบหน้ากับไหล่กว้างพยักรับ แล้วผละตัวออกจากอ้อมกอดคนตัวโต ซึ่งติณณภัทรก็รีบเปิดประตูลงจากรถเดินอ้อมาเปิดประตูให้เธอ"เชิญครับ" บอกกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางยื่นมือไปให้เธอจับ อีกคนยื่นมือไปวางบนมือหนาแล้วพาตัวลุกจากรถโดยไม่ลืมจะเอ่ยขอบคุณคนตัวโต "ขอบคุณนะคะ

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 54 แหวนแต่งงานของเธอคนเดียว

    วันต่อมาวันนี้ติณณภัทรตั้งใจว่าจะสวมแหวนแต่งงานให้นับดาวถึงแม้เธอจะยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม เขาโทรไปยังร้านดอกไม้สั่งให้ทางร้านจัดช่อดอกกุหลาบสีแดงซึ่งเป็นดอกไม้ที่เธอชอบจำนวนหนึ่งร้อยดอก แล้วให้นำมาส่งที่โรงพยาบาลหลังจากได้รับช่อดอกไม้เขาก็นำมันไปวางข้างเตียงหญิงสาว เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มองใบหน้าสวยอย่างสื่อความหมาย "ฉันเอาดอกไม้ที่เธอชอบมาให้ตื่นมาดูสิสวยมากเลยนะ และวันนี้ฉันก็มีบางอย่างจะให้เธอด้วยนะ"เขาว่าแล้วนิ่งเงียบไป ก่อนล้วงกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋ากางเกงเปิดออกแล้วหยิบแหวนมาถือไว้ "แหวนวงนี้เป็นแหวนที่ฉันตั้งใจสั่งทำเป็นพิเศษเพื่อเป็นแหวนแต่งงานสำหรับเธอเลยนะ หวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมาเห็นเธอจะชอบมันนะ"ว่าจบก็จับมือด้านซ้ายของเธอมาบรรจงสวมแหวนเพชรลงบนนิ้วนาง จากนั้นก็ประทับจูบลงบนหลังมือนิ่มแช่ค้างไว้แบบนั้นและในจังหวะนั้นเองนิ้วเรียวทั้งห้าก็ขยับขึ้นเบา ๆ ทำให้ติณณภัทรต้องรีบผละดูให้แน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง และใช่นิ้วของเธอขยับจริง ๆ เขาค่อย ๆ เลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าสวยด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ๆ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยลุ้น และตื่นเต้นกับอะไรเท่านี้มาก่อนเลย"

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status