ก๊อก ๆ ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่เจ้าของห้องไม่สนใจที่จะเปิดมัน ร่างบางยังคงนอนคว่ำหน้าลงบนหมอน ใบหน้าสวยอาบไปด้วยน้ำตา คำพูดของมารดายังคงก้องอยู่ในหู
‘ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลป่นปี้’ คำพูดนี้เปรียบเสมือนไม้หน้าสามที่ฟาดแสกหน้าของเธอซ้ำ ๆ ทั้งเจ็บ ทั้งมึน ที่ผ่านมาด้วยอาชีพการงานของเธอ การมีข่าวคาว ๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งมีชื่อเสียงมากเท่าไร ก็เป็นที่จับตามองของนักข่าวมากเท่านั้น
ดารานางร้ายอย่างเธอมันก็ต้องเล่นไปตามบท แต่ละครั้งที่เธอแสดงก็ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว จนทำให้นักข่าวและคนดูต่างก็วิจารณ์เธอไปต่าง ๆ นานา แต่เธอไม่เคยสนใจ เพราะรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ จนวันนี้เธอได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากปากของคนเป็นแม่ ทำให้เธอรู้ว่า ที่ผ่านมาคนในครอบครัวก็คิดว่าเธอเป็นแบบนั้น ตอนนี้เธอกำลังมีข่าวเรื่องขึ้นคอนโดฯ ไฮโซหนุ่ม และยังเคลียร์ไม่จบเพราะฝ่ายชายทำท่าว่าจะยอมรับ พ่อกับแม่ก็คงเชื่อไปด้วย
“ปอ... เปิดประตูให้พ่อหน่อยลูก” คุณประกรยังคงเรียกอยู่ซ้ำ ๆ แต่ได้ไม่ทำให้ลลนารู้สึกดีขึ้นเลย เพราะเธอรู้ว่าพ่อจะตามมาพูดเรื่องอะไร และสุดท้ายเธอก็ต้องเดินทางไปแต่งงานกับว่าที่สามีของน้องอยู่ดี ลลนาจึงเลือกที่จะเงียบ แล้วอยู่กับความคิดของตัวเอง
ถ้าพ่อกับแม่ต้องการกันเธอออกไปจากชีวิต กันเธอออกจากครอบครัว เธอก็ยินดีจะไปให้พ้น ๆ อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าให้เธออยู่แล้วต้องถูกมองด้วยสายตาเกลียดชัง
“ปอลูก...”
“ปอขออยู่คนเดียวนะคะพ่อ พรุ่งนี้เก้าโมงพ่อให้คุณเผ่าเพชรส่งคนมาได้เลย ปอยินดีค่ะ”
“ปอ... พ่อ... เปิดประตูได้ไหมลูก” คุณประกรยังคงขอร้อง เขาอยากจะอธิบายอะไรบางอย่างให้ลูกเข้าใจ
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ปอโอเค”
ไม่นานเสียงเคาะประตูก็เงียบ เมื่อคนเป็นพ่อจากไปแล้ว ร่างบางหยัดกายลุกขึ้น เสียใจไปก็เท่านั้น ร้องไห้ไปก็เท่านั้น ตัวปัญหาอย่างเธอไปจากที่นี่ได้ก็ดี อย่างน้อย ๆ ตอนนี้เธอก็เบื่อวงการมายา เต็มทน มีแต่คนหน้าไหว้หลังหลอก ในวงการมายาหาคนที่จริงใจสักคน ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรด้วยซ้ำ
บางทีการไปอยู่ที่ไกล ๆ อาจทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น การไปเป็นเมีย ‘คนหน้าผี’ มันก็เหมาะแล้วกับนางร้ายอย่างเธอ
ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งหลังจากเงียบไปนาน ลลนาเงยหน้าขึ้นจากผ้ากองโตที่กำลังจับยัดใส่กระเป๋า
“พี่ปอขา ป่านขอเข้าไปได้ไหมคะ” เป็นลันลดาที่มาเคาะประตู
“ป่านมีอะไรจ๊ะ พี่กำลังยุ่งอยู่”
“พี่ปอคะ ป่านอยาก...”
“ไม่เป็นไรนะป่าน พี่โอเค”
ตะโกนตอบน้องสาวไปอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ใจไม่โอเคเลยสักนิด เธอไม่รู้ว่าลันลดาจะมาไม้ไหนกับเธออีก บางครั้งน้องก็น่ารัก อยาก เอาอกเอาใจเธอ ข้อนี้นี่เองที่มันทำให้เธอคิดมาก เธอรู้ว่าน้องก็อยากเข้าหาเธอ แต่คนเป็นแม่กลับคอยกันน้องให้ออกห่างจากเธอ นี่ถ้ามีใครบอกว่าเธอเป็นลูกที่ติดพ่อมา ลลนาก็เชื่อสนิทใจ เพราะแม่ไม่เคยรักเธอเลย ครั้งสุดท้ายที่แม่กอดเธอเมื่อไรกันนะ ลลนาคิดอย่างน้อยใจ น้ำตาที่พยายามกักเก็บถูกปล่อยออกมาเหมือนทำนบแตก
“ไม่เอาสิปอ แกจะอ่อนแอทำไม” บอกตัวเองอีกครั้ง เมื่อหยิบรูปครอบครัวใส่กระเป๋าไปด้วย พรุ่งนี้เธอจะถูกเนรเทศออกจากบ้าน บ้านที่แสนอบอุ่น บ้านที่เธอเพิ่งจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ แค่ไม่กี่ปี
ร่างบางกอดตัวเองเมื่อความเสียใจ น้อยใจ พัดตีกลับเข้ามาในหัวใจอีกครั้ง
เผ่าเพชร... ผู้ชายหน้าผี... เจ้าของไร่องุ่นขนาดใหญ่ของเชียงราย คือคนที่เธอกำลังจะเอาชีวิตที่เหลือไปฝากไว้กับเขา และเชียงราย คงเป็นที่ที่เธอจะเอาอนาคตไปทิ้งไว้ที่นั่น
ลลนาอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย เมื่อเผ่าเพชรพูดประโยคนั้นออกมา ทำให้เขาพอใจก่อน เขาถึงจะยอมปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ อยากจะกลอกตาเป็นเลขเจ็ดไทยสักแปดตลบ นี่เขาคิดว่าเขากำลัง ทำอะไรอยู่ สิ่งที่เขากำลังทำกับเธอตอนนี้มันห่างจากคำว่าเพศสัมพันธ์แค่กางเกงกั้น ถ้าเธอไม่มีกางเกงขวางไว้ เผ่าเพชรคงทำแบบนั้นกับเธอไปแล้ว คนจะหื่น... ทำยังไงเขาก็หื่น นาทีนี้เธอต้องใช้สมองเท่านั้น เพราะดิ้นก็แล้ว ต่อสู้ก็แล้ว เธอก็แพ้เขาราบคาบ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ลลนาก็กลั้นใจ ข่มความอายไปจนหมดสิ้น ไหน ๆ เขาก็เห็นของเธอไปหมดแล้วนี่ จะเห็นอีกครั้งจะเป็นไรไป ขืนมัวชักช้า คนบ้านี่เกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมปล่อยเธอขึ้นมา เธอคงได้ เสียตัวจริง ๆเมื่อตัดสินใจได้แบบนั้นหญิงสาวก็กลั้นใจ คิดเสียว่ากำลัง ถ่ายละครฉากหนึ่งเท่านั้น เธอเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ส่วนเขาก็แค่ ตัวประกอบ หญิงสาวนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะค่อย ๆ หยัดกาย ลุกขึ้นช้า ๆ ตากลมโตมองไปยังใบหน้าของคนที่นอนหนุนแขนต่างหมอนรออย่างมีจริต เธอเห็นเผ่าเพชรขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ก่อนมันจะคลายออกอย่างเร็ว ร่างบางสะบัดผมไปมา ก่อนจะรวบเป็นห่างม้า ลวก ๆ ไว้ด้านหลัง ต
ร่างบางดิ้นหนี ร่างสูงตามติด หญิงสาวดิ้นมากเท่าไร เผ่าเพชรก็ยิ่งออกแรงกับเธอมากขึ้นเท่านั้น ที่นอน หมอน ผ้าห่มกระจุยกระจายจากแรงต่อสู้ มุ้งที่กางทิ้งไว้สายขาดร่วงลงมาพันจนทั้งเขาและเธอ เหมือนมัมมี่ แต่เผ่าเพชรไม่สนใจ เขายังกอบโกยความหวานจาก หญิงสาวอย่างเอาแต่ใจ ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชอง บวกกับกำลัง ที่เหนือกว่า ไม่นานคนที่ดิ้นเอาเป็นเอาตายก็เริ่มหมดแรง จังหวะการจูบที่หนักหน่วงในตอนแรกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความนุ่มนวล ชายหนุ่มยิ้มในใจ เมื่อคนใต้ร่างตอบสนองเขาแบบสะเปะสะปะ จูบของผู้หญิง ที่มีข่าวคาวรายวันกลับดูไร้เดียงสาเหมือนกับสาวน้อยที่เพิ่งถูกขโมยจูบ เผ่าเพชรแปลกใจตั้งแต่ตอนที่เขาปล้ำจูบเธอในห้องทำงาน แต่ก็เข้าใจเธอเป็นดารานี่ เป็นนักแสดง คงรู้ว่าต้องแสดงแบบไหนถึงจะทำให้ตัวเองดูน่าสงสาร และน่าค้นหาในเวลาเดียวกันเผ่าเพชรถอนปากออกเมื่อคนใต้ร่างขาดอากาศหายใจ ตาดุมองใบหน้าสวยที่เห่อแดง มองปากอิ่มที่บวมเจ่อ ก่อนจะจูบหนัก ๆ บน ปากบางอีกครั้ง แต่ยังไม่ลุกออกไปไหนลลนารีบโกยอากาศเข้าปอดเมื่อปากเป็นอิสระ กลิ่นบุหรี่กับรสชาติของแอลกอฮอล์ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น กลิ่นเหงื่อเจือกลิ่นบุห
ลลนาร้องลั่น เมื่อถูกโยนลงมาบนพื้นอย่างแรง ดีที่เขายังเลือกเพราะยังมีที่นอนรองอยู่อีกชั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะที่นอนยางพารามันบางจนแทบติดกับแผ่นกระดาน โยนลงมาแบบนี้มีแต่เจ็บกับเจ็บ“โอ๊ย!! เจ็บ” ร่างบางเจ็บจนตัวงอ “สำออย เมื่อกี้ทำอะไร!”“จุกค่ะ” ลลนาตอบไปอีกทาง ร่างบางนอนตัวงออยู่บนที่นอน “หึ!” ชายหนุ่มคำรามในลำคอ ก่อนจะยืนดูคนที่นอนตัวงอนิ่ง ๆ หรือเธอจะเจ็บจริง ๆ จำได้ว่าตอนที่ตกน้ำ เขานึกว่าเธอแกล้ง แต่ที่ไหนได้ เธอว่ายน้ำไม่เป็นจริง ๆ“จุกจริงเหรอ ไหนดูซิ” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะย่อเข่าลงดู มือแกร่งเอื้อมไปข้างหน้า หวังจะจับร่างบางให้หันหน้ามาหา ก่อนที่มือจะสัมผัสโดนตัว คนที่นอนตัวงอก็หันกลับมา แล้วใช้หมอนฟาดไปบนหน้าชายหนุ่มแรง ๆ มือบางฟาดไม่ยั้ง โดนส่วนไหนบ้างเธอไม่สนใจ“นี่แน่ะ ๆ ๆ ๆ” ลลนาหลับหูหลับตาฟาดหมอนใส่เผ่าเพชรรัว ๆ“ โอ๊ย!” เผ่าเพชรร้องลั่น ร่างสูงเบี่ยงหลบแต่คนตัวเล็กยังตามฟาดไม่หยุด“ว้าย!” ลลนากรีดร้องเมื่อถูกร่างหนาโถมเข้าใส่ ชายหนุ่มทับหญิงสาวไว้ทั้งตัว ก่อนจะแย่งหมอนออกแล้วรวบมือที่ทำร้ายเขา ทั้งสองข้างไว้บนหัวด้วยมือเพียงข้างเดียว
แม้จะตกใจกับเสียงที่ดังกังวานของคนร่างสูง แต่ลลนากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อมองจนแน่ใจแล้วว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของ เผ่าเพชร ร่างบางก็หมุนตัวกลับ ลงมือไขกุญแจบ้านต่อ เธออยากพักผ่อน เพราะตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่มแล้ว วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวัน แถมพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่จึงไม่อยากเสียเวลา เผ่าเพชร ก็คงตามมาหาเรื่องเธอเหมือนเคย สิ่งที่เขาทำกับเธอวันนี้มันยังติดอยู่ในหัว พอนึกถึงทีไรขนอ่อนก็พากันลุกชัน คนบ้า... ลลนาก่นด่าในใจ “ไม่ได้ยินหรือไง ถามว่าไปไหนมา จะบอกไม่บอกวะ!” เผ่าเพชรเริ่มโมโหเมื่อคนตัวเล็กมองเขาเป็นอากาศ ลลนามองบน ก่อนจะหันมาเผชิญหน้า ถ้าเธอหนีเข้าบ้าน มีหรือที่คนบ้าอำนาจอย่างเขาจะยอม ดีไม่ดีอาจจะพังบ้าน หรือเกิดโมโหหนัก จุดไฟเผาบ้านขึ้นมา มีหวังเธอได้โดนไฟคลอกตายแน่ ๆ“มีอะไรคะ”“ถามก็ตอบมา!”“แน่ใจนะคะว่าคุณไม่รู้จริง ๆ ว่าฉันไปไหนมา”ถึงแม้จะรู้ว่าเขากำลังโมโห แต่มีหรือที่เรื่องนี้เขาจะไม่รู้ แตงไปยืมรถจากนายแสง นายแสงคงรายงานให้เขารู้แล้ว แล้วเขาจะมาถามเอาอะไร“ลลนา! อย่ามากวนประสาท”“ค่ะ ถ้าคุณอยากรู้ฉันก็จะบอกให้ ฉันไปบ้านมารีมาค่ะ พอใจหรือยัง”“ไปท
ลลนาเดินกลับมาที่บ้านพัก เมื่อเผ่าเพชรสั่งให้กลับบ้าน หญิงสาวไม่ได้ไปห้องพยาบาล เพราะตอนนั้นรู้สึกอาย เลยอยากหนีมาให้พ้น ๆ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หวังว่าบุษบากับอาคมคงไม่เอาเรื่องของเธอกับเผ่าเพชรไปพูดหรอกนะ “ปอ... เป็นไงบ้าง คุณเผ่าว่าอะไรเธอไหม คิดแล้วโมโห พวกนังสายใจนี่ร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ”แตงที่นั่งรออยู่หน้าบ้านรีบเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นลลนากลับมาใบหน้าสวยแดงก่ำ เมื่อนึกถึงสิ่งที่คนบ้านั่นทำโทษเธอ ดีที่อากาศร้อน แตงเลยไม่สังเกตอะไร“ไม่มีอะไรหรอกพี่แตง ก็แค่โดนดุแล้วก็ถูกอบรมนิดหน่อยน่ะพี่”“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฉันเป็นห่วงเธอแทบบ้า เสร็จงานก็รีบมารอเธอเลย”“ขอบใจนะพี่”“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกพี่ เรียกแค่แตงก็พอ อ้ะ นี่ของเธอ”แตงบอกพร้อมกับส่งถุงในมือให้ลลนา“ถุงอะไรเหรอ เอาอะไรมาให้อีกแล้ว เกรงใจจัง” ลลนาบอกอย่างเกรงใจ ก่อนจะรับถุงมาถือไว้“ไม่เป็นไร เอาไปเถอะ”“ไหนดูซิ มีอะไรบ้าง ไว้วันอาทิตย์จะเลี้ยงของอร่อยตอบแทนน้า”ลลนาเปิดดูอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นเสื้อแขนยาวเหมือนแบบที่ใส่อีกสามตัว มีหมวกกับผ้าโพกหน้ามาด้วย“แตง ทำไมซื้อมาให้เยอะจัง
ลลนาขยับตัวลุกขึ้น เมื่อรู้สึกเมื่อยที่ต้องนั่งอยู่บนตักของ เผ่าเพชรนาน ๆ ทันทีที่ร่างบางขยับ แขนข้างที่เผ่าเพชรวางไว้บนต้นขาตัวเองก็กอดหมับเข้าที่เอวคอด ร่างบางสะดุ้งเพราะตกใจ ก่อนจะย่นคอหนี เมื่อจมูกของชายหนุ่มฝังลงมาบนต้นคออย่างจงใจ“คุณเผ่า!” ลลนาตวาดแหว เมื่อลมหายใจร้อน ๆ ยังเป่ารดอยู่ ที่เดิม แสดงว่าเขาตั้งใจหอมต้นคอของเธอ ลลนาคอแข็ง พยายามแกะมือหนาออกจากเอว เธอนั่งบนตักเขานานเป็นชั่วโมง ๆ เขาไม่เมื่อยบ้างหรือไง เธอยังเมื่อยแถมปวดไปทั้งตัว ไหนจะต้องคอยหลบจมูกจากด้านหลัง ไหนจะต้องสะดุ้งทุกครั้งเมื่อเผ่าเพชรขยับตัว“นั่งเฉย ๆ จะทำงาน” เผ่าเพชรดุ เมื่อหัวทุยสวยบังหน้าจอคอมฯ มือแกร่งกดหัวเธอจนไปจมอยู่กับอกแกร่ง ท่านี้ถ้าใครมาเห็นก็เหมือนเธอนั่งซบอกเขาอยู่นั่นแหละลลนาแอบกลอกตา จะทำงานก็ทำไปสิ แล้วจะเอาเธอมานั่งตักทำไม ยิ่งเวลาที่ชายหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากดแป้นพิมพ์ ร่างบางก็ยิ่งเกร็งหนัก“เมื่อยค่ะ”“เมื่อยแล้วนั่งเกร็งทำไม พิงมาสิ”เขาลืมไปหรือเปล่าว่ากำลังนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ถ้าเธอพิงไป ก็เท่ากับเธอนั่งซบอกเขา ลลนามองนาฬิกาบนผนัง นึกแปลกใจว่าทำไม เลขาฯ ของเขาถึง