แชร์

ตอนที่ 8 เตรียมงาน

ผู้เขียน: ฝ้ายสีคราม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-18 02:16:18

รติชาเตรียมงานแต่งงานของตัวเองด้วยจิตใจที่ฟุ้งซ่าน ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องหงุดหงิดเพราะศาสตราวุธไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินกว่าเป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงการดูตัวกับผู้หญิงคนอื่น  แต่พอนึกดูดีๆ แล้ว เธอเองก็ใช้เขาเป็นเครื่องมือในการเลี่ยงการแต่งงานกับพ่อเลี้ยงคำปองเหมือนกัน ดังนั้นจะไปโกรธเขาก็คงไม่ถูก 

“งั้นก็ถือว่าหายกันก็แล้วกัน” รติชาพึมพำออกมาเบาๆ

ทางด้านศาสตราวุธเองจริงๆ แล้วก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่พูดตรงกับเธอเกินไป ที่บอกว่าเขาตัดความรำคาญเลยตั้งใจจะลองคบกับเธอดูอะไรทำนองนั้น แต่เขาคิดว่าควรพูดความจริง เพราะไม่อยากโกหกเธอ และพยายามบอกตัวเองว่า เขาทำถูกแล้วที่ไม่ได้โกหกเธอออกไป แต่อีกใจก็คิดว่า ถึงไม่โกหกแต่ก็ไม่ควรพูดออกไปให้เธอรู้สึกแย่อย่างนั้น 

เขาคิดไปพลางดูฤกษ์ในมือที่แม่ของเขายื่นให้ แล้วถอนหายใจออกมา 

“ฤกษ์จดทะเบียนสมรสอีกห้าวัน ฤกษ์แต่งงานอีกสามสัปดาห์ ทำไมเร็วอย่างนี้ล่ะครับแม่” ศาสตราวุธถามมารดา เพราะเขาคิดว่ามันเร็วเกินไป 

“ทางนั้นเขาอยากให้รีบแต่งเพราะกลัวลูกสาวเขาเสียหาย”  

“แต่ผมไม่ได้ล่วงเกินน้ำชาเลยนะครับ โทรถามพี่ยุทธก็ได้” ศาสตราวุธยืนยัน 

“แล้วกล้าไปพูดกับพ่อเลี้ยงโสภณไหมล่ะ ถ้าวุธทำอย่างนั้น วุธก็จะกลายเป็นคนที่ปัดความรับผิดชอบ นำความเสื่อมเสียมาสู่วงศ์ตระกูลของเรา แม่ไม่ยอมหรอกนะ ไหนๆ จะต้องแต่งงาน ช้าหรือเร็วก็แต่งอยู่ดี” ศศิประภาบอก 

“สามสัปดาห์จะเตรียมงานทันเหรอครับ” ศาสตราวุธถาม 

“เงินทำได้ทุกอย่างแหละ จัดพรุ่งนี้เลยแม่ก็เนรมิตได้” ศศิประภาบอกแล้วยิ้มให้ลูกชาย

“เรื่องการเตรียมงาน อาหาร สถานที่ แม่จะจัดการเอง หน้าที่วุธคือพาน้องไปลองชุดแต่งงานในเมือง เลือกการ์ด เลือกของชำร่วย ในวันพรุ่งนี้ จดทะเบียนสมรสตามฤกษ์ และยิ้มหล่อๆ ในงานก็พอ” ศศิประภาบอกแล้วเดินออกไปดูความเรียบร้อยในบ้าน ทิ้งให้ศาสตราวุธนั่งดูรายการสิ่งที่ต้องทำด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก 

*********************

ศาสตราวุธไปรับรติชาเพื่อเข้าไปลองชุดที่ร้านแต่งงานในตัวจังหวัดตามที่มารดาบอก เขามองรติชาในชุดเจ้าสาวด้วยความตกตะลึง ปกติเคยเห็นแต่เธอใส่กางเกงยีนและเสื้อเชิ้ต วันนี้เธอสวมชุดกระโปรงแต่งงานเป็นสาวหวาน เหมือนดอกไม้ตูมที่กำลังผลิบานในยามเช้า ดูสวยงามและน่าชมจนตกอยู่ในภวังค์ 

“น้ำชาสวยใช่ไหมคะ” เธอถามเขา 

“ครับ” ศาสตราวุธตอบตามตรง

“แล้ววันนี้น้ำชา กับดอกไม้ช่อนั้น พี่วุธว่าอะไรสวยกว่ากัน” เธอถามเขา ไม่ได้คาดหวังคำตอบดีๆ จากเขาอยู่แล้ว

“น้ำชาสวยกว่าอยู่แล้ว นั่นดอกไม้พลาสติกนะ สวยเทียบน้ำชาไม่ได้หรอก” เขาชมเธอจากใจ 

“นั่นสินะคะ ถ้าเป็นดอกไม้จริงก็ว่าไปอย่าง” รติชาพูดอย่างน้อยใจ

แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าที่เขายังบอกว่าเธอสวยกว่าดอกไม่พลาสติกเหล่านั้น 

“ถ้าเทียบกับกล้วยไม้ที่บ้านพี่แล้ว น้ำชาก็ยังสวยกว่าอยู่ดี” ศาสตราวุธบอกเธอ รติชาหน้าแดงเรื่อแล้วยิ้มออกมาอย่างเขินอาย 

เธอกลับไปเปลี่ยนชุดไทยออกมาให้เขาดู ศาสตราวุธก็ยังชื่นชมเธอเหมือนเดิม ทำเอารติชานั้นยิ้มไม่หุบตลอดระยะเวลาที่ลองชุดแต่งงานด้วยกัน 

“ลองแค่สองชุดเหรอครับ” ศาสตราวุธถามเจ้าของร้าน 

“คุณศศิประชาแจ้งว่าใช้ชุดไทยในพิธีเช้า งานเลี้ยงแต่งงานตอนบ่ายจนถึงงานเลี้ยงในตอนเย็นเป็นชุดสากล แค่สองชุดเท่านั้นค่ะ” เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังตอบอย่างสุภาพ 

“งั้นผมขอชุดงานเลี้ยงตอนเย็นที่ดูเรียบง่ายและไม่หนักอีกชุดได้หรือเปล่าครับ กลัวเจ้าสาวของผมจะเหนื่อยที่ต้องแบกชุดหนักๆ ทั้งวัน” ศาสตราวุธถาม เพราะเขาจำงานแต่งงานของศาสตราวุธได้ ว่าบัวบงกชนั้นเกือบเป็นลมเพราะชุดเจ้าสาวที่รัดติ้วนั้นมาแล้ว 

รติชายิ้มกับคำว่า ‘เจ้าสาวของผม’ และประทับใจ เพราะไม่คิดว่าศาสตราวุธนั้นจะรู้จักใส่ใจเธอด้วย แต่รติชาไม่ถามเหตุผลที่เขาทำอย่างนั้น เพราะไม่อยากฟังเหตุผลจริงๆ ของเขา กลัวว่าเหตุผลนั้นจะไม่ใช่เพราะว่าเขาห่วงใยเธอแล้วจะเสียความรู้สึกเหมือนอย่างเช่นทุกครั้งที่เขาชอบตอบสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ

“แล้วรูปถ่ายหน้างาน จะถ่ายวันนี้เลยหรือเปล่าคะ วันนี้สตูว่างพอดี” เจ้าของร้านถามอย่างสุภาพ 

ศาสตราวุธหันไปขอความเห็นจากรติชา เพราะมารดาไม่ได้สั่งเขาเรื่องนี้เอาไว้ 

“น้ำชาว่างทั้งวันค่ะ พี่วุธว่างหรือเปล่าคะ” เธอถามเขา 

ศาสตราวุธไม่ว่าง หากแต่คิดว่าผู้หญิงทุกคนก็คงอยากมีรูปแต่งงานสวยๆ บ้าง เลยตอบตกลงและให้พารติชาเข้าไปแต่งหน้าทำผม เพื่อเตรียมตัวถ่ายรูป 

ศาสตราวุธตะลึงกว่าเดิมกับว่าที่เจ้าสาวที่แต่งหน้าจัดเต็มในชุดไทยและชุดสากล เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถ่ายรูปเสร็จตั้งแต่ตอนไหน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนกำลังนั่งเลือกรูปที่จะใส่กรอบโชว์หน้างาน และรูปที่จะทำเป็นอัลบั้ม 

ทุกรูปนั้นศาสตราวุธมองหน้าเจ้าสาวและยิ้มอย่างมีความสุข จนศาสตราวุธนั้นสงสัยว่าเขายิ้มกว้างอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไร หรือเป็นเพราะรติชาที่ทำให้เขาหวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว

*********************

หลังจากเลือกรูปโชว์หน้างาน เลือกการ์ดแต่งงานและของชำร่วยในงานเสร็จแล้ว ศาสตราวุธก็พาเธอไปทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารไทยในตัวเมือง

“วันนี้ขอบคุณนะคะ ที่ไม่บ่นเลยสักคำ” รติชาบอกเขา ตอนนี้เธอล้างคราบเครื่องสำอางออกไปหมดแล้ว มีเพียงใบหน้าสดๆ ที่ยังดูสวยอยู่สำหรับศาสตราวุธ 

“ปกติพี่บ่นเหรอ” เขาถามเธอ 

“ไม่บ่นหรอกค่ะ แต่ไล่น้ำชาให้กลับไร่ตลอดเลย” เธอบอกแล้วทำจมูกย่นใส่เขา ศาสตราวุธเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่เข้าใจว่าทำไมเอ็นดูท่าทางของรติชาในตอนนี้ 

ขณะที่ทั้งสองคนนั่งทานอาหารกันอยู่นั้น สุริวิภาก็มากับเพื่อนๆ ของเธอ แล้วเห็นว่าศาสตราวุธมาทานข้าวกับรติชาก็เลยเดินเข้าไปทัก 

“ตายแล้ว วันนี้พี่วุธทิ้งไร่นั่งทานข้าวกับผู้หญิง วิตาฝาดไปหรือเปล่าคะ” สุริวิภาถามเขาแล้วเหยียดยิ้มมองรติชา ก่อนจะเริ่มคุ้นหน้าเธอ 

“เอ๊ะ นี่เธอหน้าคุ้นๆ นะ” สุริวิภาถามรติชา 

“น้ำชา ลูกสาวพ่อเลี้ยงโสภณไงละวิ” เพื่อนของสุริวิภาช่วยตอบ 

“อ๋อ ฉันจำได้ล่ะ ดาวคณะเกษตรศาสตร์คนนั้นเอง” สุริวิภาพูดแล้วเหยียดยิ้มมากกว่าเดิม เพราะรติชาเคยขึ้นประกวดดาวมหาวิทยาลัยแข่งกับเธอเมื่อเจ็ดปีที่แล้วตอนเรียนอยู่ปีหนึ่งแต่ก็แพ้

“ขอโทษนะคะ จำไม่ได้ว่าฉันเคยเจอคุณที่ไหนมาก่อน อ๋อ จำได้ล่ะ นางงามจังหวัดที่เป็นข่าวว่าใช้เส้นของพ่อชนะการประกวดนี่เอง” รติชาพูดแล้วยิ้มให้สุริวิภา ที่กำลังเปลี่ยนสีหน้าเป็นไม่พอใจ 

ศาสตราวุธนิ่งฟังไม่พูดอะไร เขาเคยเจอสุริวิภาแค่ครั้งเดียวและไม่ได้สนิทด้วยถึงขั้นจะทักทายกลับ แต่ก็ไม่อยากพูดแทรกขึ้นมา เพราะดูท่าทางรติชากับเธอจะไม่ถูกกัน และไม่เข้าใจว่าผู้หญิงสองคนที่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ทำไมต้องพูดกระทบกระทั่งกันไปมาอย่างนี้ 

“ขอโทษนะคะ ฉันอยากทานอาหารกับพี่วุธเป็นการส่วนตัว ถ้าหมดธุระแล้วก็เชิญกลับไปที่โต๊ะด้วยนะคะ” รติชาบอก 

“งั้นวิไปก่อนนะคะพี่วุธ เอาไว้วิจะพาเพื่อนๆ ไปที่ไร่อีก คราวนี้สัญญาว่าเป็นไม่สร้างความเสียหายให้กับทางไร่อีกแน่นอน แล้วเจอกันนะคะ” สุริวิภา หันไปบอกศาสตราวุธเสียงหวาน จงใจทำให้รติชาหึงเพราะเห็นว่าทั้งคู่มาด้วยกัน 

“ครับ” ศาสตราวุธตอบรับสั้นๆ

สุริวิภาเดินกลับโต๊ะไป เก็บความไม่พอใจที่มีต่อรติชาเอาไว้ แล้วนั่งปรึกษากับเพื่อนๆ ว่าจะเอาคืนรติชาอย่างไรดี 

“เสน่ห์แรงจังเลยนะคะพี่วุธ” รติชาพูดแล้วทำหน้าตึงใส่เขา

“นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าหึง” เขาถามเธอ

“เดี๋ยวนี้พูดเยอะขึ้นนะคะ” เธอบอกเขา

“พี่จะพูดเยอะแค่กับคนที่สนิท ถึงบางคนพี่ไม่อยากสนิทด้วยก็ตาม” ศาสตราวุธพูดแล้วยิ้มบางๆ

“กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว” รติชาพูดแล้วทำปากคว่ำใส่เขา

*********************

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฟังเสียงรัก   ตอนที่ 10 คืนเข้าหอ

    คู่บ่าวสาวถูกส่งตัวเข้าหอตามฤกษ์ พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายผลัดกันอวยพรตามธรรมเนียมปฏิบัติของการส่งตัว แล้วออกจากห้องไป ปล่อยให้คู่บ่าวสาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง รติชาขอตัวไปอาบน้ำก่อนเขา เธอใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควร พอออกมาก็พบว่าเจ้าบ่าวกำลังคุยกับไม้ประดับของเขาที่วางอยู่ตรงระเบียงห้องอยู่ เขาหันมายิ้มให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำต่อจากเธอ รติชานั่งเป่าผมจนแห้งแล้วได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆ อย่างสบายใจออกมาจากห้องน้ำ มันยิ่งทำให้เธอนั้นตื่นเต้นว่าเขานั้นกำลังจะทำเรื่องการเข้าหอในคืนนี้ให้สมบูรณ์ แล้วเธอจะบ่ายเบี่ยงด้วยวิธีไหนดีเพื่อไม่ให้เขาทำมันสำเร็จ เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเข้าหอกับเขา ถึงเขาจะมีสิทธิ์เต็มที่ก็ตาม เธอตัดสินใจไปนอนที่เตียงแล้วทำเป็นแกล้งหลับไปก่อนเขา ศาสตราวุธเดินมาที่เตียงแล้วนอนลงจนเตียงยวบลงจนรติชารู้สึกได้ เธอใจเต้นตึกตักแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมาพูดกับเขา ศาสตราวุธเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มจะห่มให้เธอ รติชาสัมผัสได้ถึงมือเขาที่ยื่นเข้ามาใกล้ เลยลืมตาขึ้นมา “พี่วุธจะทำอะไรคะ” เธอถามเขาหน้าตาตื่น “อากาศมันเย็น จะห่มผ้าให้” เขาบอกแล้วโน้มหน้าลงจะทำหน้าท

  • ฟังเสียงรัก   ตอนที่ 9 นายหญิงของไร่

    สุริวิภาไม่ชอบหน้ารติชาอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งคำพูดของเธอที่แทงใจดำเรื่องวิธีที่ทำให้เธอได้รับตำแหน่งนางงามจังหวัดมา ยิ่งทำให้สุริวิภานั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก “แกก็แย่งคุณวุธมาสิ ง่ายจะตาย” เพื่อนอีกคนพูดขึ้น “แต่ฉันไม่ชอบหรอกนะ บอกแล้วไง แค่เก็บไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกท้ายๆ” สุริวิภาบอก “ก็แค่แกล้งให้ยัยนั่นไม่พอใจ ไม่ได้ให้ไปแย่งมาจริงๆ เสียหน่อย” เพื่อนอีกคนบอก “งั้นพวกแกกินข้าวกันไปก่อน ฉันจะกลับไปที่โต๊ะนั้น” สุริวิภาบอกแล้วปรับสีหน้า ยิ้มเดินเฉิดฉายไปยังโต๊ะของศาสตราวุธ “ขอวินั่งด้วยนะคะ” เธอบอกแล้วนั่งลงข้างๆ ศาสตราวุธทั้งที่ยังไม่มีใครอนุญาต “วิรู้สึกผิดกับเรื่องวันนั้นจังเลยค่ะ อยากขอโทษพี่วุธอีกครั้ง ขอโทษนะคะ” สุริวิภาพูดแล้วกราบที่หน้าอกของศาสตราวุธ เขาตกใจรับมือเธอเอาไว้แทบไม่ทัน “ไม่เป็นไรครับ” เขาบอกเธอ แล้วยิ้มฝืนๆ ไปให้ “มื้อนี้วิขออนุญาตเลี้ยงนะคะ ถือเป็นการขอโทษ” เธอบอกเขาเสียงอ่อน ปรายตามองรติชาที่มองมาด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจนัก“ไม่เป็นไรครับ ผมจ่ายเองได้” ศาสตราวุธบอก แล้วมองรติชาที่มองสุริวิภาอย่างไม่พอใจ เข้าใจว่าเธอคงไม่ชอบหน้ากัน แต่เขาก็ไม่รู้จะจัดการปัญหา

  • ฟังเสียงรัก   ตอนที่ 8 เตรียมงาน

    รติชาเตรียมงานแต่งงานของตัวเองด้วยจิตใจที่ฟุ้งซ่าน ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องหงุดหงิดเพราะศาสตราวุธไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินกว่าเป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงการดูตัวกับผู้หญิงคนอื่น แต่พอนึกดูดีๆ แล้ว เธอเองก็ใช้เขาเป็นเครื่องมือในการเลี่ยงการแต่งงานกับพ่อเลี้ยงคำปองเหมือนกัน ดังนั้นจะไปโกรธเขาก็คงไม่ถูก “งั้นก็ถือว่าหายกันก็แล้วกัน” รติชาพึมพำออกมาเบาๆทางด้านศาสตราวุธเองจริงๆ แล้วก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่พูดตรงกับเธอเกินไป ที่บอกว่าเขาตัดความรำคาญเลยตั้งใจจะลองคบกับเธอดูอะไรทำนองนั้น แต่เขาคิดว่าควรพูดความจริง เพราะไม่อยากโกหกเธอ และพยายามบอกตัวเองว่า เขาทำถูกแล้วที่ไม่ได้โกหกเธอออกไป แต่อีกใจก็คิดว่า ถึงไม่โกหกแต่ก็ไม่ควรพูดออกไปให้เธอรู้สึกแย่อย่างนั้น เขาคิดไปพลางดูฤกษ์ในมือที่แม่ของเขายื่นให้ แล้วถอนหายใจออกมา “ฤกษ์จดทะเบียนสมรสอีกห้าวัน ฤกษ์แต่งงานอีกสามสัปดาห์ ทำไมเร็วอย่างนี้ล่ะครับแม่” ศาสตราวุธถามมารดา เพราะเขาคิดว่ามันเร็วเกินไป “ทางนั้นเขาอยากให้รีบแต่งเพราะกลัวลูกสาวเขาเสียหาย” “แต่ผมไม่ได้ล่วงเกินน้ำชาเลยนะครับ โทรถามพี่ยุทธก็ได้” ศาสตราวุธยืนยัน “แล้วกล้าไปพูดกับพ่

  • ฟังเสียงรัก   ตอนที่ 7 กะทันหัน

    หลังจากที่รติชากลับไร่ของเธอไปแล้ว ศาสตราวุธก็นั่งลงคุยกับมารดาอย่างเป็นงานเป็นงาน“แม่ครับ ผมไม่แต่งงานนะครับ” เขาบอกมารดาศศิประภาไม่คิดว่าศาสตราวุธอยู่ๆ จะพูดออกมาอย่างนี้ ปกติเขาไม่เคยพูดอะไรขัดใจเธอมาก่อน ทำเอาศศิประภานั้นอึ้งไปสักครู่ ก่อนจะถอนหายใจออกมา และทำหน้าเศร้า“แม่แค่หวังอยากให้ลูกแม่สักคนแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ สักคน ที่มีพร้อมทั้งฐานะ และหน้าตาทางสังคม ให้แม่ได้อวดใครๆ บ้างว่าลูกสะใภ้ก็มีดีไม่น้อยหน้าใคร เมียของพี่แกเป็นคนดีก็จริง แต่แม่อวดใครเขาไม่ได้ เหลือแต่แกคนเดียว จะทำให้ความฝันแม่เป็นจริงมันไม่ได้เลยหรือไง ไม่รู้ว่าแม่ไปทำเวรทำกรรมอะไรมา ลูกชายทั้งสองคน ไม่มีใครเห็นใจแม่เลยสักคน” ศศิประภาบีบน้ำตาแต่ทำท่าแอบเช็ดไม่ให้ศาสตราวุธเห็น ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาก็เห็นตั้งแต่แรกและนั่งนิ่งอยู่ด้วยความรู้สึกผิดอยู่“แม่ครับ” เขาเรียกมารดาเสียงอ่อน“ช่างเถอะพรุ่งนี้แค่ไปทานข้าวเพื่อผูกมิตรแล้วก็กลับก็แล้วกัน เรื่องข่าวลือที่ว่าลูกไม่ชอบผู้หญิงที่เขาลือกันให้แม่อับอายก็ช่างมัน” ศศิประภาพูดเสียงสั่น“ผมก็แค่ชอบต้นไม้มากกว่าผู้หญิง ต้นไม้ไม่เรื่องมาก อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ทำไมผมต้องไขว่

  • ฟังเสียงรัก   ตอนที่ 6 ผู้หญิงช่างตื๊อ

    ศาสตราวุธนั่งเล่าเรื่องที่มารดาพยายามจับคู่เขากับรติชาและสุริวิภาให้พี่ชายกับพี่สะใภ้ฟัง ศรายุทธหัวเราะลั่นที่เจ้าชายต้นไม้อย่างเขาต้องมาเจอกับการรุกของฝ่ายหญิง“ฉันว่าคนชื่อวินี่ไม่ผ่านนะ” ศรายุทธบอกน้องชายแล้วอมยิ้มขำเรื่องที่เขาเล่า“บัวว่าคุณน้ำชานี่น่าลุ้นนะคะ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ คนนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย แถมมีไร่ชาด้วย เหมาะสมกับคุณวุธมากกว่า” บัวบงกชออกความเห็น“แต่ผมยังไม่อยากแต่งงานนี่ครับ รู้จักกันไม่ทันไร อยู่ๆ จะไปเจอผู้ใหญ่แล้วพูดเรื่องแต่งงานเลย สงสารฝ่ายหญิงที่ต้องมีผมเป็นสามี ให้ตายเถอะ ผมยิ่งเอาใจใครไม่เป็นอยู่ด้วย ถ้าแต่งงานไปก็คงต้องหย่ากันอยู่ดี” ศาสตราวุธบอกพี่ชายกับพี่สะใภ้เสียงเครียดเขาเอนตัวนั่งพิงกับเก้าอี้บุนวมอย่างเหนื่อยใจ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะเจอความวุ่นวายที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้วรติชาตัดสินใจตามศาสตราวุธมา ไม่ใช่แค่เพราะจะมาตามตื๊อเขากลับไปพร้อมเธอเท่านั้น กลับไปไม่ทันอย่างน้อยก็มีข้ออ้างกับบิดาว่าเพราะเธอเป็นฝ่ายผิดนัดที่ไปสัมมนาแทนมารดา แต่เหตุผลหลักที่เธอตัดสินใจตามเขามาเพราะกลัวว่าเขานั้นจะโดนสุริวิภาฉกไปก่อนรติชาติดสินบนให

  • ฟังเสียงรัก   ตอนที่ 5 หนี

    ศศิประภาพอรู้เรื่องของที่ศาสตราวุธปรับเงินสุริวิภากับเพื่อนๆ ของเธอก็ดุลูกชายเป็นการใหญ่ ที่ทำเกินกว่าเหตุ“ผมไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุเลยนะครับแม่ ก็ผู้หญิงคนนั้นเขาเสนอขึ้นมาเองว่าจะขอจ่ายค่าปรับ” ศาสตราวุธบอกมารดา เขาก็พอรู้ว่าเธอนั้นแค่พูดไปอย่างนั้น แต่ก็อยากให้บทเรียนบ้าง“ให้ตายสิลูกชายฉัน ถ้าผู้หญิงบอกอะไร มันไม่ได้หมายความว่าต้องการสิ่งนั้นเสมอไป” ศศิประภาบอกลูกชายเสียงเครียดแล้วกุมขมับเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรกับเขาให้เข้าใจ“แล้วทำไมไม่พูดตรงๆ ล่ะครับ ต้องให้ตีความหมาย ใครจะไปรู้ ต้นไม้ยังแสดงอาการบอกเลยว่าต้องการให้ดูแลอย่างไร แต่กับคนนี่เข้าใจยากเหลือเกิน” ศาสตราวุธบ่นออกมา เขารู้ดีว่าคำพูดของผู้หญิงนั้นต้องตีความ และมันเป็นเหตุผลที่เขาไม่อยากมีใครเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเขา เพราะเขาขี้เกียจตีความหมายเหล่านั้น“ไม่รู้ล่ะ วุธต้องหาสะใภ้ให้แม่ภายในปีนี้ เลือกเอาหนูวิกับหนูน้ำชาคนใดคนหนึ่ง” ศศิประภาบอก“ผมยังไม่พร้อมครับ เพราะยังรู้จักกันได้ไม่นาน จะให้แต่งงานเร็วๆ นี้คงไม่ได้” ศาสตราวุธบอก เขาไม่พร้อมจะให้ใครเข้ามาในชีวิตในตอนนี้แต่ถ้าให้ต้องเลือกจริงๆ ระหว่างรติชากับสุริวิภา อย่างไร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status