เทพแห่งดวงชะตาที่เมตตาสงสารโชคชะตาของฟู่หยุนชิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีแล้ว แต่กลับถูกเหล่าขุนนางที่ไม่ยอมรับนางถวายฎีกาให้สังหารนางอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้ เทพแห่งดวงชะตาจึงฝืนกฎของตนเองช่วยนำวิญญาณของฟู่หยุนชิงไปที่อีกภพหนึ่งซึ่งมีคนชื่อเดียวกับนางเพิ่งเสียชีวิตลงเช่นกัน
ฟู่หยุนชิงที่เป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้วได้แต่แปลกใจที่ได้ยินเสียงเหมือนผู้เฒ่าคนหนึ่งพูดกับนางแต่นางมองไม่เห็นตัวเขา เขาบอกนางว่าจะพานางไปยังภพอื่นและยังขอให้นางใช้ชีวิตใหม่ในภพนั้นให้ดี อย่าได้คิดถึงเรื่องราวในภพนี้อีกเลย จากนั้นเสียงนั้นก็หายไปพร้อมกับสติของนาง
ฟู่หยุนชิง นักแสดงปลายแถวที่จับพลัดจับผลูได้มาเป็นนักแสดงสมทบเพราะคนเก่าบาดเจ็บก็ซุ่มซ่ามจนตกลงไปในสระน้ำลึกสองเมตรทั้งที่ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นจนเธอต้องตายลง เธอได้แต่มองร่างไร้วิญญาณของตนเองที่ถูกคนช่วยขึ้นมาพร้อมกับปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เธออย่างดี เธอรู้ดีว่าเธอหมดบุญในชาตินี้แล้วจึงไม่ได้เสียใจอะไร อย่างไรในภพนี้เธอก็ไม่มีครอบครัวให้กังวลแต่แรกแล้ว เธอต้องปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่ยังเด็ก การตายของเธอครั้งนี้ทำให้เธอหลุดพ้นจากชีวิตที่ต้องต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยเช่นกัน เทพชะตาเห็นว่าฟู่หยุนชิงคนนี้ก็ไม่เลวร้ายนักจึงปล่อยให้นางไปเวียนว่ายตายเกิดตามดวงชะตาของนาง
เทพชะตาใช้พลังที่สะสมมาหลายพันปีนำวิญญาณของฟู่หยุนชิงเข้าสู่ร่างใหม่อย่างไม่ยากนัก เมื่อเขาเห็นว่ามีคนกำลังช่วยชีวิตนางอยู่ก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกล่าวบอกให้นางดูแลตัวเองให้ดี เขามาส่งนางได้เพียงเท่านี้แล้ว
ฟู่หยุนชิงที่ได้ยินเสียงเทพชะตาได้แต่กล่าวขอบคุณเขาในใจ ไม่นานนักนางก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำมากมายของร่างเดิม ตอนนี้นางรู้แล้วว่านางจะต้องใช้ร่างนี้ไปจนตายในภพที่แปลกใหม่แห่งนี้ ฟู่หยุนชิงขอบคุณคนที่มาช่วยร่างนี้จนนางฟื้นขึ้นมาได้
ทีมงานถ่ายทำต่างโล่งใจที่เห็นฟู่หยุนชิงฟื้นขึ้นมาเสียที พวกเขาไม่รู้ว่าฟู่หยุนชิงว่ายน้ำไม่เป็นจึงไม่ได้ลงไปด้วยแต่แรก พวกเขาเพียงนึกว่าเธอเรียกร้องความสนใจเท่านั้น เพราะฝีมือการแสดงของเธอก็ไม่ได้ดีนัก หากไม่ใช่ว่าคนแสดงคนก่อนบาดเจ็บกระทันหัน บทนี้ก็คงไม่ตกเป็นของฟู่หยุนชิงแต่แรก แต่ด้วยเวลาการถ่ายทำกระชั้นชิด พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกเลยต้องให้เธอมาแสดงแทนนั่นเอง
ผู้กำกับหลังจากเห็นว่าฟู่หยุนชิงฟื้นแล้วก็ให้ทีมงานพาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเลิกกองก่อนในวันนี้ พรุ่งนี้ค่อยให้เธอมาถ่ายทำต่อไป ฟู่หยุนชิงได้แต่กล่าวขอบคุณผู้กำกับอย่างไม่เคยชินกับคำพูดของคนในภพนี้นัก เธอได้แต่คิดว่าในเมื่อมาอยู่ร่างนี้แล้วเธอก็คงต้องทำตัวให้เหมือนร่างเดิมเสียก่อนกระมัง ไม่เช่นนั้นคนอื่นอาจจะสงสัยได้ว่าเธอไม่ใช่ฟู่หยุนชิงคนเดิมอีกแล้ว
ทีมงานพาฟู่หยุนชิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและส่งเธอกลับไปที่โรงแรม นี่เป็นเพราะพวกเขาถ่ายทำหนังพีเรียดกันอยู่จึงต้องมาถ่ายทำที่เมืองโบราณแห่งนี้ ทุกคนจึงต้องพักในโรงแรมที่ทีมงานจัดให้เท่านั้น
คนอื่น ๆ ที่ต้องร่วมเข้าฉากกับฟู่หยุนชิงก็ได้พักด้วยเช่นเดียวกัน ผู้กำกับสั่งถ่ายฉากใหม่ที่ไม่มีฟู่หยุนชิงเสียก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา บรรดานักแสดงต่างรีบเตรียมตัวกับการแสดงที่เลื่อนเวลาเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ด้วยประสบการณ์การทำงานมาหลายปีพวกเขาก็สามารถเตรียมตัวแสดงได้ทันเวลาที่ผู้กำกับต้องการเช่นกัน
ฟู่หยุนชิงที่กลับมาถึงห้องพักได้แต่ขอบคุณทีมงานที่มาส่งเธอจนถึงที่นี่ เธอเข้าไปในห้องแล้วก็อาบน้ำอุ่นเพื่อป้องกันการเป็นหวัดแล้วมานั่งคิดว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี ฟู่หยุนชิงทบทวนความทรงจำของร่างเดิมที่มีมากตั้งแต่ร่างเดิมเกิดจนกระทั่งเธอตายไป
ฟู่หยุนชิงเห็นว่าชีวิตของร่างเดิมเองก็ไม่ง่ายเลย เธอเป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน แถมยังต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อให้มีเงินเข้าเรียนจนจบมัธยมปลาย เธอไม่มีเงินเรียนต่อจึงออกหางานทำจนได้มาทำงานเป็นทีมงานในหนังเรื่องหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน หลังจากนั้นเธอเห็นว่าการเป็นนักแสดงได้เงินมากกว่าที่เธอจะเป็นทีมงาน อีกอย่างยิ่งเธอโตขึ้นเธอก็ยิ่งสวยจนทีมงานหลายคนได้แต่อิจฉา อีกทั้งผู้กำกับหลายคนก็มองเห็นว่าเธอเหมาะที่จะเป็นนักแสดง ตอนนั้นฟู่หยุนชิงที่ครูพักลักจำจากนักแสดงมากฝีมือที่เธอเคยดูก็ตัดสินใจลองแคสติ้งบทบาทในหนัง แม้ว่าจะเป็นบทเล็ก ๆ เธอก็รับหมด ตัวเธอเองไม่มีผู้จัดการคอยหางานให้แต่แรก ฟู่หยุนชิงจะต้องหาข่าวการแคสติ้งงานด้วยตัวเองมาตลอดหลายปี เธอไต่เต้ามาเรื่อย ๆ จนได้เป็นนักแสดงปลายแถวหรือตัวประกอบนั่นเอง ซึ่งเธอก็ไม่เคยย่อท้อ ร่างเดิมนี้พยายามแสดงอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้างเธอ ขณะที่เธอกำลังเดินท่องบทกลับตกลงไปในน้ำจนตาย ส่วนบทที่เปียกน้ำไปนั้น ทีมงานให้บทใหม่กับเธอมาแล้ว
หลังจากทบทวนความทรงจำทั้งหมด ฟู่หยุนชิงได้แต่มองตนเองผ่านกระจกก็เห็นว่าร่างเดิมนี้หน้าตาเหมือนกับเธอในภพก่อนไม่มีผิด แถมยังผิวพรรณดีกว่าเธอในภพก่อนอีกด้วย เธอจำได้ว่าฟู่หยุนชิงใช้ครีมทาผิวอย่างไร ต่อไปนี้ตัวเธอเองก็จำเป็นต้องรักษาร่างกายนี้ให้ดีเช่นกัน ตอบแทนที่เธอได้มาเกิดใหม่พร้อมกับความทรงจำเดิม
ฟู่หยุนชิงที่มีวรยุทธรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปอย่าง เธอลองใช้พลังปราณของเธอแต่กลับไม่ได้ผล ฟู่หยุนชิงได้แต่ถอนหายใจและสงสัยว่าเธอคงต้องฝึกฝนใหม่ตั้งแต่ต้นกระมังหากต้องการมีวรยุทธเอาไว้ป้องกันตัวในภพนี้
ในเมื่อพรุ่งนี้ฟู่หยุนชิงต้องถ่ายทำแล้ว เธอจึงนำบทมาท่องจำให้ขึ้นใจ พร้อมทั้งลองแสดงที่หน้ากระจกดูก็พบว่าเธอแสดงได้ไม่เลว เธอยังสงสัยอยู่ว่าทำไมร่างเดิมถึงแสดงไม่ได้กันในเมื่อบทนี้เป็นบทง่าย ๆ ของแม่ทัพหญิงเท่านั้นเอง
หลังจากท่องจำบทจนขึ้นใจแล้ว ฟู่หยุนชิงก็เริ่มฝึกฝนพลังปราณ เธอพบว่าในภพนี้สามารถสะสมพลังปราณได้จริง ๆ เพียงแต่มีน้อยกว่าพลังปราณในภพที่เธอจากมากเท่านั้น อย่างไรเรื่องนี้ก็จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเธอ ฟู่หยุนชิงจึงอดทนฝืนเปิดจุดต่าง ๆ ทั่วร่างกายเพียงค่ำคืนเดียวอย่างเหน็ดเหนื่อย
กว่าที่เธอจะเปิดจุดได้หมดก็เกือบเช้าแล้ว ฟู่หยุนชิงเห็นว่าเหลือเวลาอีกเพียงสามชั่วโมงก่อนจะเช้าเธอจึงรวบรวมพลังปราณไปทั่วร่างกายแล้วหลับไปอย่างอ่อนเพลีย พรุ่งนี้เธอหวังว่าตนเองจะทำงานแทนร่างเดิมได้เป็นอย่างดี
“ไม่ว่าลูกสาวหรือลูกชาย ผมก็ชอบทั้งนั้นที่รัก ขอบคุณนะครับที่ยอมเหนื่อยตั้งท้องให้ผมกับลูกได้มีลูกสาวอีกคน”“ใช่ครับ ๆ แม่เก่งที่ซู๊ดเลย หลังจากนี้ผมจะปกป้องน้องสาวเป็นอย่างดีนะครับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เห็นมั้ยครับพ่อ ผมบอกแล้วว่าต้องเป็นน้องสาว ฮิ ฮิ”“ครับผม ลูกชายพ่อเก่งมากเลย เราปล่อยให้แม่นอนพักผ่อนกันก่อนดีกว่า”“ที่รักนอนพักก่อนเถอะนะ รอให้ลูกตื่นก่อนคุณค่อยลุกมาให้นมก็แล้วกัน”“ได้ค่ะ คุณกับลูกก็นอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวพอลูกสาวเราตื่นคงไม่ได้พักผ่อนกันแน่เลย ท่าทางลูกสาวคนจะซนกว่าพี่ชายน่าดู กว่าฉันจะคลอดได้เลยเสียเวลาไปเยอะ”“ฮ่า ฮ่า จริงเหรอที่รัก ไม่ต้องกังวลไป อย่างไรเสี่ยวหมิงน่าจะดูแลน้องได้นะ” เหอจิ้งเกาจูบหน้าผากภรรยาแล้วอุ้มเสี่ยวหมิงหอมแก้มแม่ให้นอนพักผ่อน ส่วนพวกเขาพ่อลูกก็เข้าไปนอนที่เต
หลังหนังจบ เหอจิ้งเกาเห็นว่าภรรยากับลูกชายง่วงมากแล้ว เขาจึงไม่ให้ทั้งสองคนให้สัมภาษณ์นักข่าวหรือพูดคุยกับแฟนคลับ ซึ่งเขาสั่งให้บอดี้การ์ดไปบอกแฟนคลับของฟู่หยุนชิงเอาไว้ก่อน เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เข้าใจฟู่หยุนชิงผิดสัปดาห์ต่อมา รายได้ของหนังที่ฟู่หยุนชิงแสดงยังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศเหมือนเคย ทำให้ผู้กำกับและทีมงานต่างดีใจที่หนังเรื่องนี้คนดูชอบและนักวิจารณ์ยังกล่าวถึงหนังไปในทางบวกแทบทุกคน เหล่าแฟนหนังยังอยากดูภาคสองของเรื่องนี้อีกต่างหาก เสียดายที่ฟู่หยุนชิงต้องหยุดถ่ายทำเพื่อเลี้ยงลูกก่อน ทำให้ผู้กำกับไม่อยากนำคนอื่นมาแสดงแทน เขาตั้งใจจะรอฟู่หยุนชิงคนเดียวห้าเดือนต่อมา ตอนนี้ใกล้กำหนดคลอดของฟู่หยุนชิงเข้าไปทุกที เหอจิ้งเกาที่กลัวภรรยาจะคลอดก่อนกำหนดอีกจึงขอร้องให้ฟู่หยุนชิงไปพักที่ รพ.ก่อนสักสองสามวัน แน่นอนว่าพวกเขาพ่อลูกก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอด้วย&n
ก่อนที่เหอจิ้งเกาจะเคลียร์งานเสร็จในเดือนถัดมา ฟู่หยุนชิงก็จำเป็นต้องเข้าร่วมงานเปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ เหอจิ้งเกาจึงพาเสี่ยวหมิงไปให้กำลังใจและคอยดูแลฟู่หยุนชิงด้วย เพราะตอนนี้ท้องของฟู่หยุนชิงเริ่มขยายใหญ่มากขึ้นเนื่องจากใกล้เข้าสู่เดือนที่สี่ของการตั้งครรภ์แล้ว ระหว่างทางที่กำลังจะไปยังโรงหนังในห้างสรรพสินค้าใหญ่ของเหอจิ้งเกา ฟู่หยุนชิงได้แต่บ่นว่าสามีห่วงมากเกินไป“ความจริงฉันมากับลูกก็ได้นะคะ มันทำให้คุณเสียเวลาทำงานไปด้วยโดยใช่เหตุ”“เฮ้อ ที่รัก ผมจะปล่อยให้คุณกับลูกมากันเองได้ยังไง ในเมื่องานนี้มีคนเข้าร่วมมากมาย หากใครชนท้องคุณเข้าจะทำยังไงล่ะที่รัก เชื่อผมเถอะ รับรองว่าผมไม่กวนตอนคุณอยู่บนเวทีแน่ที่รัก”“ใช่ครับแม่ ให้พ่อพามาดีแล้วครับ ผมเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะคนน่าจะเยอะมากจริง ๆ นะครับแม่”“เอาล่ะ ๆ ยังไงก็มากันแล้วนี่นะ แม่จะไม่บ่นแล้วก็ได้”
ระหว่างที่ฟู่หยุนชิงกำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น เหอจิ้งเกาก็ให้ลูกน้องนำงานมาให้ทำที่บ้าน เพราะเขาอยากดูแลลูกกับภรรยาด้วยตัวเอง กระทั่งสามวันต่อมาที่เป็นวันนัดของหมอเพื่อตรวจครรภ์ของฟู่หยุนชิงมาถึง ทั้งสามคนต่างเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้า หลังอาหารเช้าพวกเขาจึงออกจากบ้านเพื่อไปที่ รพ. ระหว่างนั่งรถอยู่นั้น ฟู่หยุนชิงก็คุยกับสามีเรื่องลูกคนที่สอง“คุณคะ ครั้งนี้เรามาลุ้นกันดีไหมคะว่าลูกจะเป็นชายหรือหญิง ฉันไม่อยากรู้ก่อนเหมือนตอนเสี่ยวหมิงน่ะค่ะ ดีไหมลูก”“ได้จ๊ะ ผมตามใจคุณอยู่แล้ว เรารอลุ้นก็สนุกดีเหมือนกันนะ”“ดีครับแม่ ผมอยากลุ้นว่าน้องของผมจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง อีกตั้งหลายเดือนกว่าที่แม่จะคลอดน้องอ่ะ ยังไงผมจะช่วยแม่ดูแลน้องหลังคลอดนะครับ”“ขอบใจมากจ๊ะลูก แล้วลูกอยากไปโรงเรียนตอนกี่ขวบ แม่เห็นส่วนใหญ่เด็กสามขวบก็เข้าเรียนอนุบาลกันแล้วนะ”
เมื่อพวกเขามาถึงร้านนาฬิกา พนักงานในร้านรีบออกมาต้อนรับฟู่หยุนชิงเช่นกันกับพนักงานร้านก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับข่าวมาก่อนหน้าจากร้านเสื้อผ้าแล้วว่าภรรยาของท่านประธานกับนายน้อยมาเดินเล่นที่นี่ ด้วยการข่าวอันฉับไว ทุกร้านในห้างจึงเตรียมพนักงานเอาไว้ต้อนรับกันแต่แรกแล้ว“ไม่ทราบว่าคุณมีนาฬิกาคู่รักหรือเปล่าคะ? กับนาฬิกาของเด็กขนาดเดียวกับแขนลูกชายของฉัน”“มีทั้งสอบแบบเลยค่ะ เชิญคุณลูกค้าตามดิฉันมาดูนาฬิกาคู่รักก่อนนะคะ พอดีเพิ่งมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เผื่อว่าคุณลูกค้าถูกใจ” ฟู่หยุนชิงพยักหน้ารับคำและเดินตามพนักงานไปพร้อมอาหยงที่อุ้มเหอเสี่ยวหมิงอยู่ ส่วนอาเหว่ยก็เดินตามหลังฟู่หยุนชิงไปไม่ไกลเช่นกัน อาเหว่ยได้แต่คิดว่าตอนนี้ทั้งห้างคงรู้แล้วว่านายหญิงมา ดูจากการบริการที่รวดเร็วและไม่ถามที่มาที่ไปแบบนี้ นับว่าผู้จัดการห้างมีความสามารถไม่น้อยที่แจ้งข่าวให้ร้านต่าง ๆ ทราบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโม
ระหว่างทางไปยังบริษัท เลขารายงานเรื่องเมื่อวานให้กับเหอจิ้งเกาทราบทุกอย่าง อีกทั้งวันนี้เขาจะไปหาทนายของบริษัทเพื่อให้ทำเรื่องแจ้งความและส่งฟ้องหวงเหมยหงและลี่ลี่อีกครั้งหนึ่ง“คุณทำได้ดีมาก รอสิ้นปีผมจะเพิ่มโบนัสให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกที ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับการช่วยรักษาชื่อเสียงภรรยาของผมก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับเจ้านาย” เลขากับบอดี้การ์ดที่ช่วยเหลืองานเมื่อวานนี้ไม่คิดว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลในการทำงานครั้งนี้ด้วย นับว่าเจ้านายใจดีมากขึ้นตั้งแต่มีครอบครัว พวกเขาที่ได้รับเงินเดือนไม่น้อยต่างก็ดีใจที่เจ้านายมีความสุขและเผื่อแผ่ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้พวกเขาเช่นนี้ ฟู่หยุนชิงที่อยู่บ้านกับเหอเสี่ยวหมิงวันนี้ เธอเรียกอาหยงกับอาเหว่ยมาสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่สามีทำให้เธออยู่เบื้องหลัง เธอแน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที