Home / รักโบราณ / ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น / 11 อ๋องปีศาจ ท่านทำให้ข้า...คลั่ง (2)

Share

11 อ๋องปีศาจ ท่านทำให้ข้า...คลั่ง (2)

last update Last Updated: 2025-06-19 07:15:54

มู่ชิงซานกวาดตามองไปรอบๆ ตัว เขามั่นใจว่าสตรีอัปลักษณ์คงอยู่ไม่ห่างจากที่นี่ นางเหมือนภูตผีซึ่งหลบซ่อนคอยกัดกินซากสัตว์เน่าตาย

ร่างสูงใหญ่ก้าวไปเบื้องหน้าโดยไม่เกรงกลัวใคร กระทั่งหูแว่วได้ยินเสียงน้ำตก ด้วยความที่เมื่อยล้าและอยากล้างเนื้อตัว จึงเปลื้องผ้าหวังชำระร่างกาย

เมื่อเขาลงสู่ผืนน้ำใส ความสดชื่นทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าหายเครียด แต่พอเงยหน้าขึ้นเขารู้สึกวูบเล็กน้อย อีกทั้งปวดศีรษะอย่างรุนแรงยามนั้นชายหนุ่มคิดถึงความผิดพลาดที่ตนไม่ทันเฉลียวใจแต่แรก ด้วยประมาทว่าแคว้นหมิงอ่อนด้อยหลายอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับเดินเข้าสู่กับดัก มู่ชิงซานนึกย้อนถึงป้ายหยกของน้องชายและกล่องไม้ที่มีนิ้วมือมนุษย์ หรือเป็นไปได้ว่าของสองสิ่งนี้ล้วนแอบแฝงด้วยพิษร้ายและตอนนี้มันกำลังเล่นงานเขาหลังจากที่ใช้พลังภายในเพื่อป้องกันตนเอง

มู่ชิงซานปวดศีรษะรุนแรงกว่าเดิมและมีเลือดไหลออกจากจมูกกับรูหูทั้งสองข้าง อาการหน้ามืดเล่นงานเขาอย่างฉับพลัน แต่เขาพยายามทรงตัวเอาไว้ด้วยได้ยินเสียงฝีเท้าคน แม้ว่าแผ่วเบาแต่มีจำนวนไม่น้อย

“ใครมันบังอาจรบกวนข้า” มู่ชิงซานตวาด ก่อนกระโดดตัวลอยเหนือผิวน้ำ เมื่อมีมีดสั้นซึ่งเป็นอาวุธลับพุ่งตรงมายังร่างเขา

“บัดซบ! ลอบกัดเช่นนี้คงมีแต่พวกคนเขลาแคว้นหมิง” เขาเอ่ย และมองหาคนที่ซุ่มอยู่หลังแนวป่าไผ่

การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็ว ดูท่าแล้วคงเป็นกลุ่มคนที่มีฝีมือมากกว่าชายชุดดำเมื่อครู่

มู่ชิงซานคว้าเสื้อคลุมมาพันกายเอาไว้เพื่อไม่ให้อุจาดตา แล้วลอยตัวไปคว้าดาบใหญ่ จากนั้นก็พุ่งเข้าฟันร่างซึ่งหลบอยู่ตามโขดหิน ร่างเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บต่างกันไป แต่พวกมันมีฝีมือมิได้ต่ำทราม เขาจึงต้องออกแรงมากสักหน่อย

การต่อสู้ยืดเยื้อ ร่างกายของมู่ชิงซานเกิดอาการแปลกประหลาด เขาสะบัดร้อนสะบัดหนาว ศีรษะหนักข้างเดียว อีกทั้งมีอาการหอบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“พิษ!...พวกหมาลอบกัด”

ชายหนุ่มขบกรามแน่น พิษประหลาดคงซ่อนอยู่ในหยกและกล่องไม้ที่เขาได้รับ เมื่อออกแรงหนักมันก็กำเริบหนัก กระนั้นเขาก็ฝืนตนเข้าไปสังหารคนที่พุ่งเข้ามา ดาบใหญ่ฟันไปข้างหน้าก่อนหมุนตัวกลับอย่างเร็วเมื่อมีคนโจมตีจากด้านหลัง ชายหนุ่มจึงถีบศัตรูเหล่านั้นตามด้วยใช้ฝ่ามือซัดอีกร่างซึ่งพุ่งมาทางขวามือ

ยามนั้นเขาไอแห้งๆ ความกลัวพลันเกิดท่วมใจ เขาไม่เคยพ่ายแพ้ต่อสิ่งใด มู่ชิงซานคือหมาป่ารัตติกาล เป็นอ๋องปีศาจที่ใครได้ยินชื่อก็ต่างนึกขยาด ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกเข้าปอด พยายามบ่ายหน้าเพื่อฉวยเอาเสื้อผ้าของตนมาสวมใส่ ทว่าไม่ทันได้หยิบจับอะไร เขากลับลื่นล้ม ก่อนที่ร่างจะถูกกระแสน้ำพัดพา

สองมือของเขาหาที่ยึดเหนี่ยว แต่แรงของน้ำซึ่งซัดใส่ร่างสูงใหญ่มีกำลังมหาศาล อีกทั้งบางส่วนไหลเข้าสู่ปากและหู ยามนั้นชายหนุ่มดิ้นรนสุดกำลังทว่าแรงที่เคยมีเหมือนจะหดหายไป

“ข้าจะตายไม่ได้ หากยังไม่ได้สะสางความแค้นกับนางผู้นั้น!!” เขาเอ่ยแต่เสียงของอ๋องจากต้าหลางเบาจนน่าวิตก

ฟ่านรั่วเจี๋ยต้อนฝูงเป็ดของนางเข้าโรงเรือน และร้องเพลงพื้นบ้านที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กด้วยความสบายใจ ขณะที่พยายามตามจับลูกหมูแคระที่ซุกซน ดวงตาของนางต้องเบิกค้างเมื่อมีท่อนขาแกร่งขาวซีดโผล่ให้เห็นตรงหน้า พิศแล้วหัวใจพลันหล่นหายไปอยู่ตรงปลายเท้า

กระทั่งสติฟ่านรั่วเจี๋ยกลับคืน นางจึงชะโงกหน้าไปมองร่างที่นอนอยู่บนพื้น ก่อนเผลอหลุดร้องเสียงดัง เสียงนั้นทำให้เจ้าหมูแคระวิ่งออกมาจากที่ซ่อน

หมูตัวนั้นชื่อตือเมี่ยว มันใช้จมูกโตๆ ดมปลายเท้าร่างที่นอนสลบไม่ได้สติ พอเห็นว่าไม่เคลื่อนไหว มันก็ดมไปทั่วเรือนกายสูงใหญ่ กระทั่งเริ่มใช้ปากเล็กๆ ขบต้นขายาวซึ่งมีแพขนสวยงามเปียกลู่นาบไปกับผิวของเขาซึ่งชวนให้หวามใจอย่างยิ่ง ทว่าเจ้าหมูแคระคงไม่ทันหายมันเขี้ยว ตือเมี่ยวจึงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่

“อาเมี่ยว หยุด นั่นไม่ใช่ไส้เดือน!!”

หญิงสาวกลั้นหายใจลึก ก่อนรีบเข้าไปอุ้มตือเมี่ยวลูกหมูแคระขึ้นมากอด

ยามนั้นสายตานางจดจ้องร่างกายของบุรุษซึ่งนอนไร้สติ โดยเฉพาะตรงกึ่งกลางลำตัว ซึ่งนางไม่แน่ใจว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เมื่อได้เห็นแท่งหยกของบุรุษแห่งอาณาจักรต้าหลางเต็มสองตา!

เจ้าสิ่งนั้นนอนหลับใหลอยู่ในฝักสวย ขนาดมันไม่ได้เล็กสักนิด ฟ่าน-รั่วเจี๋ยยอมรับว่ายามนี้นางกระวนกระวายใจอย่างที่สุด

“เป็นเขาจริงๆ หรือ”

นางรำพึงรำพันกับตนเองพลางสำรวจเรือนกายนั้นอย่างละเอียดแน่นอนว่าร่างสูงใหญ่ซึ่งนอนสลบไร้อาภรณ์ห่มกายคือหมาป่ารัตติกาล หรืออ๋องปีศาจซึ่งใครๆ ต่างขยาดกลัว ทว่ายามนี้เขากลับมาอยู่ตรงหน้านางในสภาพเปล่าเปลือย อีกทั้งนอนสลบและหายใจแผ่วเบาราวกับคนหมดแรงนับว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมเสียจริง

“คนชั่วช้าเช่นท่านตกอยู่ในเงื้อมมือข้า สวรรค์ยังมีความยุติธรรม หึๆอย่าคิดว่าจะได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกอีกเลย” นางว่าอย่างลำพองใจ ยิ่งเห็นร่างกายเขาไม่ไหวติง ฟ่านรั่วเจี๋ยยิ่งสาแก่ใจนัก

“กำจัดคนพาลอภิบาลคนดีเช่นนี้นับว่าประเสริฐ!” นางประกาศกร้าวสายตาฉายโชนความมุ่งมั่นทำตามที่ใจคิด

มือเรียวสวยดึงปิ่นปักผมที่เป็นเข็มเงินเล่มใหญ่ พอเลื่อนสลักเล็กก็กลายเป็นมีดสั้นคมกริบ ฟ่านรั่วเจี๋ยค่อยๆ ทรุดลงไปอยู่ใกล้ๆ ร่างกายสูงใหญ่

มู่ชิงซานผู้นี้เป็นชายผิวขาวอยู่สักหน่อย บางส่วนไหม้แดดจึงดูสมชายชาตรี ทว่าทั่วทั้งเรือนกายกำยำนั้นชวนให้ดวงตานางพร่างพราย

“อ๋องปีศาจ ท่านตั้งใจล่อลวงข้า ฮึ...ไม่มีวัน ท่านมิอาจทำเรื่องนี้สำเร็จ”

มีดสั้นจี้ตรงลำคอของมู่ชิงซาน เส้นเลือดเขาเต้นตุบๆ ลูกกระเดือกสวยเคลื่อนไหวช้าๆ ฟ่านรั่วเจี๋ยตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ นางกำลังหวั่นไหว!

หญิงสาวเปลี่ยนจุดหมายใหม่ นางคิดจะแทงมีดสั้นเข้าที่หัวใจเขาเพียงครั้งเดียวร่างนี้ก็จะสิ้นใจ!

“ไม่ได้สิ คนอย่างท่านสมควรถูกทรมาน จะให้ตายง่ายๆ คงไม่สาสมกับความเลวแสนต่ำช้าที่เคยกระทำไว้”

ฟ่านรั่วเจี๋ยก้าวจบจึงเตรียมจะขึ้นนั่งคร่อมตัวเขา ทว่าเป็นตอนนั้นที่กายสาวร้อนผ่าวอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ด้วยมือเรียวสวยของนางสัมผัสแผงหน้าอกแน่นๆ ของชายหนุ่ม ก่อนที่จะเผลอไผลบีบยอดหน้าอกซึ่งกำลังแข็งชูชัน!

ความรู้สึกตอนนั้นไม่เหมือนกับยามที่เย้าหยอกเกาเจียวหั่ว และแต่ไหนแต่ไรนางนึกว่าตนชอบอีกฝ่าย ทว่าเหตุใดเพียงแค่ใกล้ชิดอ๋องปีศาจไม่ถึงหนึ่งอึดใจ นางกลับเผลอทำเรื่องน่าละอายเช่นนี้ คิดแล้วฟ่านรั่วเจี๋ยก็สะท้านไปทั้งร่าง!!

หัวใจนางเต้นแรง เรือนกายร้อนวูบวาบ บริเวณท้องน้อยคล้ายมีผีเสื้อปีกบางบินว่อนนับร้อยนับพันตัว

“ขะ...ข้าเป็นอะไรไป ปีศาจร้าย อ๋องอำมหิต...ท่านไม่สมควรมีชีวิตรอด”นางว่าแล้วจึงลุกพรวดห่างจากร่างชายหนุ่ม ก่อนต้องหวีดเสียงร้องแหลมออกมาเมื่อไส้เดือนของเขาที่นางเห็นก่อนหน้านี้มันเริ่มพองขยายขึ้น และถึงแม้ไม่เต็มที่ แต่ก็ทำให้ฟ่านรั่วเจี๋ยหน้าแดง หูแดง และร้อนอบอ้าวจนเหงื่อผุดท่วมหน้าผาก

“ทะ...ท่าน คนชั่วช้า คิดล่อลวงข้าเยี่ยงนั้นรึ ก่อนที่จะฆ่าท่านให้ตายข้าขอเฉือนไส้เดือนทิ้งแล้วสับให้ละเอียดเอาไปผสมปลายข้าวให้อาเมี่ยวกินก็แล้วกัน หากกระทำเช่นนี้คงนับว่าเกิดประโยชน์!”

นางว่าอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น ก่อนกึ่งก้าวกึ่งวิ่งเข้าไปในครัว เมื่อออกมาก็เห็นว่าชายหนุ่มค่อยๆ ฟื้นคืนสติ ฟ่านรั่วเจี๋ยหยุดชะงัก นางมิอาจรับมือเขาได้แน่ บุรุษผู้นี้คือเทพสงครามกระหายเลือดเชียวนะ!

“อย่าเข้ามา ไม่งั้นข้าจะสับท่านเป็นหมื่นๆ ชิ้น” นางขู่เขา พลางยกมีดทำครัวเล่มใหญ่ในมือขึ้น ท่าทางเหมือนจะจัดการเขาให้ถึงแก่ชีวิต

ดวงตาเรียวคมกริบคู่นั้นมองฟ่านรั่วเจี๋ย และมองอยู่นาน นานจนนางผิดสังเกต

“จ้องข้าเยี่ยงนี้ ทะ...ท่านคิดย่ำยีข้าใช่หรือไม่ ฝันไปเถอะ สตรีเช่นข้ามิยอมให้ผู้ใดข่มเหงง่ายๆ และตำหนักเย็นแห่งนี้จะเป็นที่ฝังศพบุตรชายแห่งต้าหลาง” นางกล่าวและปั้นสีหน้าเป็นขึ้งโกรธ ทว่าทำได้เพียงอึดใจเดียว นางก็ต้องประหลาดใจเป็นล้นพ้น เมื่อสีหน้าของมู่ชิงซานกลับระบายยิ้มกว้างรอยยิ้มนั้นทำให้ใบหน้าแข็งกระด้างดูเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

“พิลึก ทะ...ท่านยิ้มให้ข้า!” นางเอ่ย แล้วเผลอยิ้มตอบเขา

“ยิ้ม” ชายหนุ่มว่าและหัวเราะขบขัน คราวนี้ฟ่านรั่วเจี๋ยถึงกับตะลึงงันยามนี้เหตุใดบุรุษสกุลมู่ถึงไม่เหมือนคนที่นางเคยพบหน้า อีกทั้งแววตาร้ายๆเต็มไปด้วยความอาฆาตซึ่งแผ่รังสีปีศาจหายไปอยู่แห่งหนใด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    11 อ๋องปีศาจ ท่านทำให้ข้า...คลั่ง (2)

    มู่ชิงซานกวาดตามองไปรอบๆ ตัว เขามั่นใจว่าสตรีอัปลักษณ์คงอยู่ไม่ห่างจากที่นี่ นางเหมือนภูตผีซึ่งหลบซ่อนคอยกัดกินซากสัตว์เน่าตายร่างสูงใหญ่ก้าวไปเบื้องหน้าโดยไม่เกรงกลัวใคร กระทั่งหูแว่วได้ยินเสียงน้ำตก ด้วยความที่เมื่อยล้าและอยากล้างเนื้อตัว จึงเปลื้องผ้าหวังชำระร่างกายเมื่อเขาลงสู่ผืนน้ำใส ความสดชื่นทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าหายเครียด แต่พอเงยหน้าขึ้นเขารู้สึกวูบเล็กน้อย อีกทั้งปวดศีรษะอย่างรุนแรงยามนั้นชายหนุ่มคิดถึงความผิดพลาดที่ตนไม่ทันเฉลียวใจแต่แรก ด้วยประมาทว่าแคว้นหมิงอ่อนด้อยหลายอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับเดินเข้าสู่กับดัก มู่ชิงซานนึกย้อนถึงป้ายหยกของน้องชายและกล่องไม้ที่มีนิ้วมือมนุษย์ หรือเป็นไปได้ว่าของสองสิ่งนี้ล้วนแอบแฝงด้วยพิษร้ายและตอนนี้มันกำลังเล่นงานเขาหลังจากที่ใช้พลังภายในเพื่อป้องกันตนเองมู่ชิงซานปวดศีรษะรุนแรงกว่าเดิมและมีเลือดไหลออกจากจมูกกับรูหูทั้งสองข้าง อาการหน้ามืดเล่นงานเขาอย่างฉับพลัน แต่เขาพยายามทรงตัวเอาไว้ด้วยได้ยินเสียงฝีเท้าคน แม้ว่าแผ่วเบาแต่มีจำนวนไม่น้อย“ใครมันบังอาจรบกวนข้า” มู่ชิงซานตวาด ก่อนกระโดดตัวลอยเหนือผิวน้ำ เมื่อมีมีดสั้นซึ่งเป็นอาวุธล

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    10 อ๋องปีศาจ ท่านทำให้ข้า...คลั่ง

    อ๋องปีศาจ ท่านทำให้ข้า...คลั่งมู่ชิงซานไม่ได้ประมาท เขารับมือในยามคับขันได้ดีเสมอ ดาบเล่มยักษ์ในมือกวัดแกว่งป้องกันตนเอง กระทั่งไร้ลูกธนูที่พุ่งมาหมายสังหารเขาจึงมีเสียงร้องข่มขวัญก่อนปรากฏร่างของผู้คนที่วิ่งไล่กวดชายหนุ่มผู้หนึ่งดวงตาคมกริบจ้องเขม็งไปยังคนซึ่งวิ่งหนีตาย“พี่รอง ชะ...ช่วยข้าด้วย”“น้องเล็ก!”มู่หรูซื่อพยายามเอาตัวรอดจากโจรชุดดำนับสิบชีวิต เขาวิ่งหลบหน้าหลบหลัง ปากร้องเรียกพี่ชาย กระทั่งถูกจับตัวไว้ได้จึงออกแรงดิ้นขัดขืน มือข้างหนึ่งใช้มีดสั้นจ้วงแทงใส่คนที่ทำร้ายเขา ทว่าด้วยจำนวนคนที่มาก มู่หรูซื่อจึงเพลี่ยงพล้ำชายหนุ่มถูกจับลากไปตามพื้น และในขณะที่หวิดโดนฟันเข้าบริเวณหัวไหล่ ร่างสูงใหญ่ของพี่ชายพลันทะยานเข้ามาแล้วใช้ฝ่าเท้าถีบใส่กลางหลังศัตรูเต็มแรง “น้องเล็ก หลบมาอยู่ด้านหลังพี่” มู่ชิงซานออกคำสั่ง ดาบในมือเขาฟันไปเบื้องหน้า ร่างคนร้ายซึ่งพุ่งเข้ามาถึงกับขาดเป็นสองท่อน โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วเมื่อกลุ่มชายชุดดำเห็นอย่างนั้นจึงปรับกลวิธีจัดการชินอ๋องจากต้าหลางใหม่“ถ้าไม่อยากให้ร่างกายแยกออกเป็นห้าส่วน จงถอยกลับไปเสีย” มู่-ชิงซานตวาดเสียงก้อง พวกที่ตั้งท่าอยู่จึงละ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    9 บุรุษรูปงามที่ข้าจับตัวได้ (4)

    ฟ่านรั่วเจี๋ยไม่ได้คิดว่านางจะต้องกระทำเรื่องน่ากลัวเช่นนี้มาก่อนแต่เกาเจียวหั่วได้พบร่างของทหารต้าหลาง และคนผู้นั้นได้รับพิษประหลาดพิษซึ่งดูเหมือนจะมีต้นตอมาจากตำหนักเย็นที่นางอาศัยอยู่ “อาเจี๋ย เจ้ากระทำเรื่องใหญ่เกินตัว เช่นนี้หัวอาจหลุดออกจากบ่า!”“พี่หั่ว ข้าอยากบอกให้ท่านรู้ สิ่งที่เกิดขึ้นหาใช่ฝีมือสตรีผู้นี้ มีคนต้องการใส่ความข้า อีกอย่างพิษดังกล่าวคล้ายคนเป็นไข้หวัด ทว่ามันอันตรายถึงแก่ชีวิต ติดต่อทางการสัมผัสและไอจาม นี่คงเป็นเหตุให้ทหารต้าหลางล้มป่วยลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรเราต้องป้องกันคนของเราด้วย มิเช่นนั้นอาจเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่” “พี่เข้าใจ” เกาเจียวหั่วพยักหน้า ก่อนเอ่ยถามต่อ“แล้วบุรุษที่เจ้าจับตัวไว้จะทำเช่นใดต่อ”“ชายผู้นี้ควรเป็นผู้นำทัพแทนพี่ชายเขา ส่วนมู่ชิงซานอ๋องปีศาจ หากหายสาบสูญไปได้ แผ่นดินนี้ย่อมเป็นสุข”“เฮ้อ เจ้ากำลังกล่าวเรื่องตลกอันใดอาเจี๋ย”“ฮึๆ เดี๋ยวพี่หั่วก็รู้ หากคาดการณ์มิผิด ตอนนี้บุรุษแซ่มู่คงกำลังคลั่งเหมือนหมาบ้า ด้วยกองทัพระส่ำระสาย และน้องชายยังตกอยู่ในมือผู้อื่น”“เจ้านี่มัน!” เกาเจียวหั่วยื่นมือหมายจะขยี้ผมเส้นเล็กดำละเอียดบนศีรษะของฟ่

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    8 บุรุษรูปงามที่ข้าจับตัวได้ (3)

    “ฮ่าๆ เก่งกาจถึงเพียงนี้ หากไร้ประโยชน์ ในเมื่อบ้านเมืองของเจ้ากำลังจะล่มสลาย” มู่ชิงซานไม่คิดขู่สตรี เขาเพียงแต่เอ่ยความจริงเพื่อให้พวกนางเข้มแข็ง ดีเท่าไรแล้วที่มาพบกับเขา มิใช่พวกเผ่าคนเถื่อนที่นอกด่านหากพบเห็นสตรีเช่นนี้ ทั้งสามนางคงไม่แคล้วถูกย่ำยีราวกับเป็นหญิงจากหอนางโลม“ท่านอ๋อง ให้ข้าได้ปรนนิบัติท่านก่อนเถิด” จางหลิงเวยซึ่งเป็นลูกของพ่อค้าเอ่ย นางสืบเท้าเข้ามาหาชายหนุ่ม ท่าทางนางเป็นกุลสตรี แต่ก็ชวนให้เขารู้สึกเร่าร้อนจนเป้ากางเกงพองขยาย“เจ้ามีแซ่อันใด”“ผู้น้อยแซ่จาง นามว่าหลิงเวย”ชายหนุ่มทำเสียงคำรามในลำคอ เขาชมชอบความงามเพราะเป็นสิ่งที่สตรีพึงมี ทว่าหลายปีมานี้ไม่ได้ตบแต่งพระชายา ด้วยยังไม่ถูกใจใครเป็นพิเศษ อีกทั้งไอสังหารรุนแรงที่อยู่ในร่างกายเขาอาจทำให้ธาตุไฟแตกได้ง่ายๆหลายปีที่ผ่านมาจึงติดตามหาคนผู้หนึ่งที่จะมาช่วยทำให้เขาควบคุมสิ่งที่อยู่ในร่างกายให้เป็นปกติ กระนั้นของสวยงามริมทางเขาก็เชยชมมิขาด ด้วยมันช่วยทำให้เลือดลมสูบฉีด ลดอาการงุ่นง่าน“หากเจ้าแน่ใจที่จะรับใช้ข้า จงรีบปรนนิบัติเสีย”แม้จะทำใจดีสู้เสือ แต่จางหลิงเวยยังอดกลัวมิได้ นางค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเข

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    7 บุรุษรูปงามที่ข้าจับตัวได้ (2)

    ความคิดแรกของมู่ชิงซาน ถึงอย่างไรก็ไม่อยากถอยทัพห่างจากกำแพงแคว้นหมิง ทว่าความอ่อนแอของทหารที่เขานำทัพสร้างความเครียดให้ชายหนุ่ม อีกทั้งสถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นทุกที ซึ่งดูเหมือนฟ้าดินกำลังลงโทษเขา ดังนั้นมู่ชิงซานจึงต้องออกคำสั่งลงไปเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจเหล่าทหารกลับคืนยามนี้ ศพทหารเกือบสามร้อยนายเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าแผ่นดินเล็กๆกำลังเปิดศึกกับแคว้นหมิง โดยใช้หมอตำแยชั่วร้ายวางยาพิษ ใช่...เขาต้องควานหาคนผู้นั้นให้ได้ และนำเลือดของมันมาล้างเท้าชดเชยความผิดที่มันก่อขึ้น“อ๋องชิงซาน ข้าเกรงว่าตอนนี้ท่านก็ควรระวังชีวิตเอาไว้ด้วย เพราะหน่วยแพทย์ของเรายังมิอาจหาวิธีรักษาพิษดังกล่าว”มู่ชิงซานได้ยินเข้าพลันตบโต๊ะเสียงดัง เขาไม่กลัวตาย แต่ตอนนี้ความอ่อนแอของทหารต้าหลางทำให้เขาอยากสั่งโบยพวกมันให้เนื้อแตกเพื่อเลิกคร่ำครวญหามารดา“ใครป่วยก็ดูแล แต่ถ้าใครสำออยจงโยนมันลงหลุมแล้วฝังดินเสีย อย่าให้ข้าได้เห็นหน้าอีก ต้าหลางยิ่งใหญ่เกรียงไกร จะมาพ่ายแพ้ต่อไข้ป่าเช่นนี้ได้หรือ”หยวนซางถอนหายใจออกมาหลายเฮือก เขาติดตามมู่ชิงซานมาหลายปีรู้ถึงความเลือดร้อนของอีกฝ่าย แต่ก็รักพวกพ้องยิ่ง หากยามนี้ดูเหมือนผ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    6 บุรุษรูปงามที่ข้าจับตัวได้

    บุรุษรูปงามที่ข้าจับตัวได้ฟ่านรั่วเจี๋ยกลับมายังตำหนักของตน เสียงเป็ดที่ร้องต้อนรับทำให้นางรู้สึกปลอดภัย จากนั้นนางจึงเปลื้องผ้าแล้วก้าวลงไปยังบ่อน้ำพุซึ่งก่อนหน้านี้ได้แช่สมุนไพรลับเอาไว้ อีกทั้งใต้บ่อน้ำพุแห่งนี้มีหินวิเศษและแร่ธาตุซึ่งช่วยทำให้ผ่อนคลาย แต่เหนืออื่นใดคือมันมีสรรพคุณช่วยทำให้ความอัปลักษณ์ของนางหายไป!นางหลับตาพริ้ม รู้สึกถึงความผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ขัดเนื้อขัดตัวกระทั่งรู้สึกสบายเนื้อตัวและหายปวดเมื่อยตามร่างกายก็ลุกออกจากบ่อน้ำพุ แล้วสวมใส่เสื้อผ้าในชุดสีเข้มๆ ประหนึ่งเป็นผู้ถือศีลกินเจ นางตรงไปยังกระท่อมหลังเล็กที่อยู่ห่างออกไปเพื่อพบคนผู้หนึ่งเสียงกระแอมไอดังลอดมาจากด้านใน นางจึงรู้ว่าเชลยที่นางได้พบเห็นตรงหน้าปากถ้ำฟื้นแล้วร่างทรงเสน่ห์ก้าวไปมองบุรุษที่นอนอยู่ใกล้ๆ กองฟืน นางมัดผ้าปิดตาเขาไว้ และยังฝังเข็มเพื่อไม่ให้เขาเคลื่อนไหวร่างกายได้“แม่นาง เป็นแม่นางผู้นั้นใช่หรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยถาม ท่าทางเขาดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงกว่าเดิม บาดแผลต่างๆ ก็มีเพียงภายนอก ซึ่งมิอาจส่งผลต่อชีวิต“เหตุใดถึงไม่ตอบข้า” เขาถาม น้ำเสียงดูร้อนรนฟ่านรั่วเจี๋ยหัวเราะน้อยๆ นับว่าเขาไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status