มิรินเดินตามร่างของมะเฟืองและลุงน้อยมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องรับแขกที่เปิดกว้างเอาไว้ ความประหม่ากำลังกัดกินไปทั่วทั้งหัวใจและความรู้สึกอย่างอำมหิต สองมือเล็กที่ทิ้งอยู่ข้างลำตัวชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ความจริงหล่อนไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้เลย เพราะผู้ชายที่อยู่ในห้องเบื้องหน้าก็คงจะเป็นแค่ลุงหรือไม่ก็คุณตาแก่ๆ วัยใกล้เคียงกับคุณย่าผู้ล่วงลับของตัวเอง และที่หล่อนเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อนำจดหมายมาให้เท่านั้น
แล้วทำไม? ทำไมจะต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากหน้าอก
หล่อนกำลังเป็นอะไรไปนะ?
ร้องถามตัวเองซ้ำอยู่หลายครั้ง แต่กระนั้นก็ไม่มีคำตอบใดเกิดขึ้นภายในสมองเลย
“เชิญค่ะคุณมิริน”
มะเฟืองรีบหันมาหา หลังจากที่เดินเข้าไปรายงานเจ้าของไร่ชาอีเมอร์สันเรียบร้อยแล้ว
“ขอบใจจ้ะมะเฟือง ขอบคุณคุณลุงน้อยด้วยค่ะ”
มิรินหันไปยกมือไหว้ลุงน้อยอีกครั้ง ซึ่งชายวัยกลางคนก็ยกมือขึ้นรับไหว้ในทันที
“ผมทำตามหน้าที่เท่านั้นครับ ขอตัวครับ ไปนังมะเฟือง คุณฟิกซ์เรียกค่อยกลับมา”
“แต่ว่า...” มะเฟืองทำท่าจะอยู่ยาว แต่พอเห็นสายตาดุๆ ของลุงน้อยก็จำต้องพยักหน้า และเดินตามออกไป
ในที่สุดก็เหลือมิรินคนเดียวที่หน้าห้องรับแขก หญิงสาวก้มหน้าลงมองเนื้อตัวของตัวเอง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อเรียกความมั่นใจให้ฮึกเหิมขึ้น
“เอาน่า เขาจะต้องใจดีแน่ๆ”
บอกตัวเองอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะตัดสินใจก้าวผ่าวเข้าไปภายในห้องรับแขกกว้าง ความหรูหราที่ถูกตกแต่งด้วยงานไม้เสียส่วนใหญ่ ทำให้อดมองอย่างชื่นชมไม่ได้ รอยยิ้มจึงเกลื่อนใบหน้า จนไม่ทันได้เห็นสายตาเย็นชาจากผู้ชายที่นั่งตัวตรงรออยู่ที่โซฟาด้านริมของห้อง
“คุณมาพบผม หรือว่าเข้ามาเพื่อดูความโอ่อ่าของรับแขกของผมกันแน่ครับคุณผู้หญิง”
ความตื่นตาตื่นใจของมิรินจางหายไปในทันที หล่อนยืนนิ่งตั้งสติ ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงห้าวไม่เป็นมิตร เสียงที่บอกให้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนอายุเกินห้าสิบปีอย่างที่หล่อนพยายามเข้าใจมาตลอด
แต่นั่นก็ยังไม่ตลกเท่ากับว่าผู้ชายที่หล่อนสู้อุตส่าห์เดินทางมาหานับพันกิโลเมตรจะเป็นเขา ไอ้ผู้ชายไร้มารยาทที่ขับรถเฉี่ยวหล่อนจนหัวเข่ายังไม่คลายระบมเมื่อตอนเย็นของวันนี้
“นี่คุณ...”
ฟีนิกซ์ก็คาดไม่ถึงว่ายายผู้หญิงปากร้ายที่เดินทะเล่อทะล่ามาขวางทางรถวิ่งภายในอาณาจักรของตัวเองจะเป็นคนที่มาขอพบ
“นี่เธอ...”
ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองสะอาดผุดลุกขึ้นยืนตะหง่าน จ้องมองดวงหน้าซีดสลับแดงของมิรินอย่างแปลกใจ
“เธอคือคนที่มาขอพบฉันหรือ”
“แล้ว... แล้วคุณคือ...”
หญิงสาวอึกอัก อึดอัด และไม่อยากคิดว่ามันจะเป็นความจริง
“คุณคงไม่ใช่... เจ้าของไร่ชาอีเมอร์สันใช่ไหมคะ”
มิรินภาวนาอย่างหนักหน่วงภายในใจ ให้สิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้าเป็นแค่ความเข้าใจผิด แต่ว่า...
“ฉันคือเจ้าของไร่ชาอีเมอร์สัน”
ต่อให้ล้มลงแล้วหัวฟาดลงไปบนพื้นยังไม่รู้สึกมึนงงเท่ากับสิ่งที่ได้ยินในตอนนี้เลย มิรินอ้าปากพะงาบตกใจ
“คุณคือ...”
“ฟีนิกซ์ อีเมอร์สัน”
เขาประกาศชื่อเสียงกึกก้องดังใส่หน้าของหล่อน
“ฟีนิกซ์ อีเมอร์สัน...”
มิรินทวนชื่อของพ่อรูปหล่อตรงหน้าซ้ำไปซ้ำมาราวกับคนไร้สติ ฟีนิกซ์เห็นแล้วก็แค่นยิ้มหยัน
“และก็เป็นเจ้าของรถคันที่เธอเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาขวางทางด้วย”
พอถูกเขาหยิบยกประเด็นร้อนขึ้นมา หล่อนก็ได้สติและอารมณ์ก็เริ่มเดือดปุดๆ อย่างไม่อาจจะห้ามได้
“ฉันเนี่ยนะเดินทะเล่อทะล่า คุณต่างหากที่ขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือ ในเขตชุมชนแบบนี้ขับเร็วได้ยังไงกัน มันผิดกฎหมายนะคะ”
มิรินโต้แย้งอย่างไม่ยอมแพ้
ฟีนิกซ์แค่นยิ้มหยันอีกครั้ง พลางยกมือขึ้นกอดอก ท่าทางเย่อหยิ่งถือเนื้อถือตัวพุ่งเข้าใส่คู่สนทนาสาวจนเจ้าหล่อนแสบตา
“ต่อให้ผมเหยียบเป็นร้อยในอาณาจักรของตัวเอง ก็คงไม่ผิดกฎหมายหรอกมั้ง คุณต่างหากที่บุกรุกเข้ามา”
“ฉันไม่ได้บุกรุก บอกแล้วไงล่ะว่าฉันมาขอพบเจ้าของไร่ชาอีเมอร์สันนะ”
“ก็ผมไง เจ้าของไร่ชาอีเมอร์สัน”
จะโต้แย้งออกไปอีกก็ต้องรีบหุบปากลงในทันที เพราะตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
“ฉันก็ไม่อยากจะเข้ามาที่นี่นักหรอก ถ้าไม่มีธุระน่ะ”
ฟีนิกซ์ระบายยิ้ม พลางกวาดสายตามองร่างอรชรมอมแมมตรงหน้าด้วยสายตาประเมินราคา
“ปกติผู้หญิงที่เดินทางเข้ามาหาผมที่ก็คงมีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ”
คนถูกมองหน้าแดงก่ำ ด้วยความอับอาย และแน่นอนว่าเข้าใจความหมายของพ่อเจ้าประคุณดี
ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะหลงตัวเองแบบนี้ ในเมื่อพ่อคุ๊ณพ่อทูนหัวหล่อลากไส้ลากตับเหลือเกิน เทพบุตรยังหล่อน้อยกว่านี้เลย โอ้ พระเจ้านี่หล่อนกำลังตกหลุมเสน่ห์หมอนี่อย่างนั้นหรือ
ไม่ ไม่ ไม่... หล่อนก็แค่มา... มาส่งจดหมายของคุณย่าให้กับเขาเท่านั้น และก็จะจากไป
มิรินปฏิเสธลั่นอก แต่กระนั้นก็รู้ดีว่าหัวใจของตัวเองเริ่มจะไม่เหมือนเดิมอีกแต่ไปแล้ว
“ฉันรู้นะว่าคุณกำลังหมายถึงอะไร แต่ฉันไม่ใช่แบบนั้น”
“คุณจะบอกผมว่า คุณไม่ได้มาที่นี่เพราะต้องการให้ผมลากขึ้นเตียงอย่างนั้นน่ะหรือ”
บทที่ 6 “ใช่” มิรินตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย แต่คำตอบของหล่อนมันตลกมากหรือไง พ่อสุดหล่อตรงหน้าถึงหัวเราะร่วนแบบนั้น “นี่คุณหัวเราะอะไรน่ะ ฉันไม่ใช่ตัวตลกนะ” “ผมก็ไม่ได้ว่าคุณเป็นตัวตลกสักหน่อย” “งั้นคุณหัวเราะทำไม มองฉันแล้วก็หัวเราะเนี่ย” หญิงสาวไม่พอใจ ถามเสียงขึ้นจมูก “ขำคำโกหกของคุณยังไงล่ะ” “คำโกหก? ของฉันเนี้ยนะ” นิ้วเรียวขาวสะอาดชี้เข้าหาตัวเอง และมองเขาด้วยความแคลงใจสุดขีด“ฉันไปโกหกคุณตอนไหนกัน คุณอย่ามาปรักปรำนะ”“ก็ตรงที่บอกว่าไม่ได้มาที่นี่เพื่อให้ผมลากขึ้นเตียงน่ะสิ”มิรินกำมือแน่น พลางล้วงลงไปในกระเป๋าแล้วหยิบซองจดหมายของคุณย่าเพ็ญศรีออกมา“ไอ้คนหลงตัวเอง หน้าตาแบบคุณน่ะ หาได้ทั่วไปเลยนะจะบอกให้ และที่สำคัญฉันก็มีผัวเป็นตัวเป็นตนเรียบร้อยแล้ว แถมผัวฉันก็หล่อพอๆ กับลีมินโฮ พระเอกซีรี่ย์เกาหลี รู้เอาไว้เสียด้วย”พอใบหน้าหล่อเหลาไม่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ก็กลายเป็นความเย็นชาน่าเกรงขามจนหล่อนต้องขยับถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณ ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทางคุกคามเลยแม้แต่น้อ
บทที่ 7จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายการขอความเมตตาจากลูกหนี้วัยชราผู้ล่วงลับอย่างดิฉัน หนี้ที่อนันตกาลติดค้างเอาไว้กับอีเมอร์สันจำนวนกว่าสามล้านบาท ดิฉันคงไม่มีโอกาสได้ชดใช้ให้อีกแล้ว และก็ไม่อาจจะโยนหนี้ก้อนใหญ่นี้ให้กับหลานสาวที่พึ่งจะจบมอหกอย่างมิรินได้ ดิฉันจึงอยากจะขอความกรุณางดชำระหนี้สิ้นทั้งหมดลง ด้วยการยกมิรินให้แต่งงานกับคุณเพื่อเป็นการชดใช้หนี้สิ้นทั้งจำนวนที่ติดค้างอยู่ ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะเมตตากรุณารับความต้องการสุดท้ายของดิฉัน ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับความกรุณาที่จะมีให้กับหลานสาวของดิฉัน’ฟีนิกซ์เงยหน้าขึ้นจากจดหมายในมือ และจ้องหน้าสตรีสาวสวยอย่าง มิรินด้วยความรู้สึกมากมายในอก แต่ที่ชัดเจนคือรู้สึกเหมือนกำลังถูกหลอกให้เดินเข้าสู่กรงวิวาห์“คุณ... มองฉันแบบนั้นทำไมคะ คุณย่าเขียนเอาอะไรไว้คะ”มิรินเห็นสายตามืดดำและไม่เป็นมิตรของฟีนิกซ์ที่มองมาก็รู้สึกแปลกใจ และสงสัยเหลือเกิน“ผมไม่เชื่อว่าคุณจะไม่รู้ว่าคุณย่าของตัวเองเขียนอะไรลงในจดหมาย”“พูดบ้าอะไรของคุณเนี้ย”เขายังคงแค่นยิ้มหยัน มองหล่อนราวกับเป็นเศษขยะร้าย“หรือบางที... จดหมายนี่อาจจะเป็นฝีมือของคุณเองก็ได้”“คุณ
บทที่ 8มิรินตัดบทอย่างเศร้าใจ สงสารคุณย่าที่ต้องเก็บเรื่องหนี้สินเอาไว้เป็นความลับ ท่านคงไม่อยากให้หล่อนไม่สบายใจ และตั้งใจเรียนอย่างเดียว ท่านช่างมีพระคุณกับหล่อนเหลือเกิน“ฉันสัญญา...”“เท่าที่ผมรู้ คุณพึ่งจบมอหก...”สายตาคมกริบของฟีนิกซ์สำรวจเรือนร่างของสตรีตรงหน้าอีกครั้งอย่างพิจารณาละเอียดลออ“แม้จะไม่น่าเชื่อนักก็ตาม คุณดูเป็นสาวกว่าเด็กอายุสิบแปดมากนัก”“มันเรื่องของฉัน และก็หยุดมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว ฉันไม่ใช่สินค้านะ”หญิงสาวหน้าร้อนจัดกับสายตาของฟินิกซ์ที่จ้องมองมา เขาทำให้หล่อนรู้สึกขัดเขินและอึดอัดเหลือเกิน“ก็คุณเป็นสินค้าจริงๆ นี่ เป็นผู้หญิงที่จะมานอนกับผมบนเตียง ในฐานะเมียขัดดอก”“บ้า... ฉันตกลงตอนไหนกัน ไม่มีทางหรอก”“ก็ในจดหมายนั่นยังไงล่ะ บอกให้ผมรับคุณเป็นเมีย แทนการชำระหนี้สิน ซึ่งเท่าที่ผมประเมินราคาค่าตัวของคุณ แม้จะไม่เท่ากับหนี้สินที่ติดค้างอยู่ แต่ถ้าใช้บริการสักปีสองปีก็น่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ไม่ยาก”เขาหยุดพูดไปเล็กน้อย และมองจ้องหล่อนอีก คราวนี้จ้องเขม็งมาที่หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัวของหล่อนเนิ่นนานบอกให้รู้ว่ามีนัยสำคัญ“ไอ้บ้า มามองหน้าอกฉันทำไม”
บทที่ 9. ในที่สุดเขาก็กลับมายืนอยู่ตรงหน้าของหล่อนอีกครั้ง พ่อนกแห่งไฟอย่างฟีนิกซ์ อีเมอร์สัน มิรินช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวลใจของตัวเองขึ้นมองพ่อเทพบุตรตรงหน้า ภาวนาให้คำตอบจากปากของตัวเองต่อจากนี้ไปไม่สร้างร่องรอยความเหยียดหยามในดวงตาคมกล้าของเขามากไปกว่านี้ ขอให้เขา... เข้าใจในความจนตรอกของหล่อนด้วยเถอะ ใช่ หล่อนวิงวอนต่อสวรรค์เช่นนั้น และก็หวังว่าท่านจะเมตตา ไม่ลิดรอนศักดิ์ศรีไปจากสองบ่าของหล่อนมากไปกว่านี้ “คำตอบของฉันคือ...” ผู้ชายตรงหน้าของหล่อนกอดอกยืนฟังนิ่งด้วยท่าทางผ่อนคลาย ไม่เหมือนกับหล่อนที่ตอนนี้กำลังเคร่งเครียดจนเส้นประสาทแทบจะขาดกระจุย “ฉันตกลงที่จะทำตามคำสั่งของคุณย่าค่ะ” คำตอบของหล่อนเบาหวิว แต่กลับทำให้ฟีนิกซ์หัวเราะเยาะหยันออกมาเสียงดังได้ “ผมรู้คำตอบของคุณก่อนหน้านี้แล้วล่ะ” “คุณ... คุณจะรู้ได้ยังไงคะ ในเมื่อฉันพึ่งจะตัดสินใจได้เมื่อครู่นี้เอง” คนฟังแค่นยิ้มหยัน มองอย่างรู้ทัน “สิ่งที่ผู้หญิงจะเลือกอยู่ให้ห่างไกลม
บทที่ 10“ก็ได้ค่ะ แต่คุณมิรินต้องสัญญานะคะว่าห้ามเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด”“ฉันสัญญา...” มิรินอมยิ้มพึงพอใจ เพราะอย่างรู้เหลือเกินว่าผู้หญิงที่ชื่อขวัญตาคนนั้นเป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับฟีนิกซ์“คุณขวัญตาเคยเป็นภรรยาของคุณฟิกซ์ค่ะ”“ภรรยา?”“ชูว์ เบาๆ สิคะ”“โอเค ฉันจะเบาๆ งั้นเธอเข้าไปเล่าให้ฉันฟังในห้องดีกว่า จะได้ไม่มีใครผ่านมาได้ยิน”แล้วมิรินที่อยากรู้มากมายก็คว้าข้อมือของมะเฟืองให้หายเข้าไปในห้องพักที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว พอประตูปิดสนิทลง หล่อนก็รีบถามต่อทันที“เล่าต่อเถอะ ฉันอยากรู้แล้ว”มะเฟืองพยักหน้ารับ ก่อนจะเล่าต่อไป“คุณขวัญตาเคยเป็นภรรยาของคุณฟิกซ์น่ะค่ะ สองคนนี้รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่อเมริกา ก่อนที่คุณฟิกซ์จะบินตามคุณโรเจอร์มาอยู่ที่ไร่ชาแห่งนี้ค่ะ”ภรรยา?งั้นก็แสดงว่าฟีนิกซ์มีคนที่รักอยู่แล้ว ในขณะที่หล่อนกำลังจะเป็นได้แค่นางบำเรอที่ใช้ร่างกายจ่ายชำระหนี้สินเท่านั้นทำไมถึงรู้สึกเจ็บแปลบๆ ในอกนักนะ มิรินถามตัวเองพร้อมกับสูดลมเข้าปอดแรงๆ สองสามครั้ง ก่อนจะฝืนใจถามต่อ“แล้วตอนนี้คุณขวัญตาเมียของนายนั่นไปไหนแล้วล่ะ”“หย่ากันแล้วค่ะ”“หย่า?”“ใช่ค่ะ
บทที่ 11ลุงน้อยเงียบอย่างใช้ความคิดเพราะคำพูดของมะเฟืองมันเป็นความจริงทุกประการ ถ้ามิรินไม่ใช่สิบแปดมงกุฎ ก็อาจจะเป็นนางฟ้าเลยทีเดียว ที่จะมาช่วยรักษาแผลใจให้กับฟีนิกซ์ “อย่าพึ่งสรุปเลย รอดูกันก่อนว่าแท้จริงแล้ว คุณมิรินเธอเป็นอย่างที่กำลังแสดงออกมาหรือเปล่า”“ใช่แน่ๆ ฉันเชื่อ” “แต่ข้ายังไม่เชื่อ จนกว่าจะเห็นหลักฐาน” “หลักฐานอะไรน่ะลุงน้อย ลุงน้อย...” มะเฟืองตะโกนเรียก แต่ลุงน้อยเดินหายไปแล้ว หล่อนจึงทำได้แค่เดินหน้าง้อง้ำตามประสาเด็กและรีบเดินกลับเรือนไปเท่านั้นมิรินยืนฉีกยิ้มอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ภายในห้องนอนโอ่อ่าของฟินิกซ์ ดวงตากลมโตหวานฉ่ำจ้องมองสารรูปของตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกด้วยความพึงพอใจเป็นที่สุดสีดำจากอายแชโดว์ที่พกติดตัวไว้ถูกละเลงลงบนใบหน้าจนทั่ว จนตอนนี้มองดูหล่อนไม่ผิดไปจากเงาะป่าแม้แต่น้อย มีแต่สีของฟันเท่านั้นที่ขาวสะอาด“ดูสิ ว่าคุณจะยังมีกระจิตกระใจจะปล้ำฉันอยู่หรือเปล่า”สาวน้อยหัวเราะพึงพอใจอยู่ได้ไม่กี่นาทีก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ๆ บานประตูไม้หน้าห้องก็ถูกผลักเข้ามาโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
บทที่ 12.“เพราะผมจะไปลากคุณออกมาด้วยมือของผมเอง”“คน... ไอ้คนเผด็จการ”“แล้วจะออกมาหรือยังล่ะครับ”“ยัง ฉันจะอยู่อีกสักครึ่งชั่วโมง”“แต่ผมให้คุณได้แค่ห้านาที เพราะถ้านานกว่านั้นผมจะเข้าไปลากคุณออกมา และจับแก้ผ้า จากนั้นก็จะเอาทำเมียทันที”มิรินร้องไม่มีเสียงเลย ดวงตากลมโตเบิกกว้างตกใจ แล้วหล่อนจะรอดไหมเนี่ย“คน... คนลามก คิดแต่เรื่องใต้สะดือนั่นแหละ”“ถูกต้องครับ ว่าแต่คุณจะออกมาไหมครับ”“ฉัน...” มิรินอึกอักในหัวพยายามคิดหาทางรอด และแน่นอนว่าก็คิดจริงๆ “ฉันกำลังจะอาบน้ำน่ะ”“อาบน้ำ?”“ใช่ค่ะ ก็คุณบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าชอบผู้หญิงสะอาด ฉันก็จะอาบให้สะอาด คุณจะได้ชอบไงคะ”ฟินิกซ์รู้ดีว่ามันเป็นแผนการเอาตัวรอดของมิริน “ให้ผมเข้าไปอาบให้ไหมล่ะครับ รับรองสะอาดทุกซอกทุกมุมแน่”คนถูกถามหน้าแดงก่ำ อยากจะตะโกนด่าออกไปนัก แต่ก็รู้ดีว่าประตูห้องน้ำไม่อาจจะต้านทานพลังของผู้ชายตัวใหญ่อย่างฟินิกซ์ได้ จำต้องข่มความโมโหเอาไว้ได้ความมันสมอง“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันชอบอาบน้ำคนเดียว”“ก็ตามใจครับ แต่ผมให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ถ้านานกว่านั้น ผมจะเข้าไปตาม และไม่ต้องให้บอกใช่ไหมครับ ว่าผมจะตามคุณยังไง”เขาต้องบอก
บทที่ 13.แล้วพ่อเทพบุตรสุดหล่อที่ยืนค้ำตระหง่านอยู่ข้างเตียงก็กระชากเสื้อนอนของตัวเองแรงๆ จนกระดุมกระเด็นไปคนละทิศละทาง สาบเสื้อแยกออกจากกันก่อนที่มันจะหล่นลงไปกองกับพื้น เผยแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเส้นขนสีเข้มเต็มๆ ตามิรินอ้าปากค้างเติ่งด้วยความหวาดหวั่น ตกใจ และร้อนฉ่าในบางจุดที่น่าละอาย“ผมตั้งใจจะไม่นอนกับคุณจนกว่าจะมั่นใจว่าคุณไม่โกหก แต่คุณก็ยั่วจนผมตื่น...”มือใหญ่ลดลงไปที่ขอบกางเกงนอนขายาวสีน้ำเงินอมดำ และทำท่าจะรูดมันให้ลงไปกองกับพื้นห้องเหมือนกับเสื้อนอน แต่มิรินร้องลั่น ร้องห้ามเอาไว้เสียก่อน“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณตื่น ตะ แต่... แต่ตื่นแล้วคุณก็นอนต่อได้นี่ ฉัน... ฉันจะออกไปนอนข้างนอก”ฟินิกซ์แค่นยิ้มหยัน ก่อนจะรูดกางเกงนอนให้พ้นสะโพกเพรียวลงไป ท่อนชายใหญ่โตที่กำลังผงาดจึงเผยโฉมขึ้น มิรินเห็นแล้วก็อ้าปากค้างอย่างลืมหายใจ เพราะสิ่งที่เห็นมันน่ากลัวเหลือเกินมันใหญ่มาก... ใหญ่อย่างที่หล่อนเคยคิดเอาไว้เลย“สิ่งที่ผมบอกว่าตื่น มันคือเจ้านี่...”มือใหญ่จับมันเอาไว้ และจ้องหน้าหล่อนเขม็ง“และผมคงนอนหลับไม่ลงหรอก ถ้าเจ้านี่มันยังแข็งอยู่แบบนี้”“คน... คนลามก”ฟินิกซ์หั
บทที่ 42. ตอนอวสาน“ฉันก็รักคุณค่ะฟินิกซ์ รักเหลือเกิน... รักจนเจ็บปวดไปทั้งตัวใจ”“แต่ผม... กำลังเจ็บปวดเจ้านี่น่ะ... มันร้องจะกินคุณอีกแล้ว” มือใหญ่จับท่อนชาย และหัวเราะขบขัน มิรินหน้าแดงก่ำ ขณะหรี่ตาแคบจ้องมองเจ้าแท่งเนื้อที่ใหญ่กว่าท่อนแขนของตัวเองด้วยความขัดเขิน“แล้วถ้า... ฉันจะกินคุณก่อนล่ะคะ”“มิริน...”“เอ่อ ฉันหมายถึง... ฉันจะกินคุณด้วยปาก...”หล่อนช้อนตาขึ้นมองสามี ในขณะที่มือเล็กแย่งแท่งเนื้อมากอบกุมเอาไว้ด้วยสองมือของตัวเอง“จะใช้ปากของฉัน... พร้อมกับลิ้นของฉัน กับเจ้านี่ของคุณ”“มิริน...”แค่ได้ยินคำพูดของภรรยาสาว ฟินิกซ์ก็เสียวกระสันรอคอยจนไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ซะแล้ว นอกจากครางชื่อของหล่อน“ถ้าคุณจะไม่ขัด... ข้อง...”“อย่าช้า... มิริน... ดูดมัน... โอ้ว...”ไม่ต้องให้ฟินิกซ์สั่งซ้ำ เพราะแค่เสี้ยววินาทีต่อมา อุ้งปากสาวก็ครอบครองปลายยอดของแท่นชายเอาไว้ หญิงสาวค่อยๆ ละเมียดด้วยริมฝีปาก ตวัดเลียตามรอยหยักสากด้วยลิ้นนุ่ม“โอ้ว... อู๊ยยย... เมียจ๋า... ไม่ไหวแล้ว... โอ้ว...”ฟินิกซ์คำราม ครวญคราง นอนแผ่หมดสภาพอยู่บนเตียง อยู่ภายในการครอบครองของมิริน“โอ้ว... มิรินจ๋า... ทูนหั
บทที่ 41.“นั่งบนขอบเตียงคนสวย แล้วนอนหงายลงไป ใช่แบบนั้นแหละ แยกขาออก ยกขาสวยๆ ของคุณมาพาดบ่าของผมทั้งสองข้าง ไม่ต้องอาย... มันจะสนุก คุณจะชอบ เชื่อผมนะเมียจ๋า...”หล่อนทำตามอย่างว่าง่าย สองขาของหล่อนพิงกับบ่ากำยำ กลีบสาวแยกแย้มออกจากกันจนมองเห็นเนื้อนุ่มสีแดงระเรื่อภายใน หล่อนเห็นเขามองแล้วอมยิ้ม ก่อนจะจับท่อนชายฝังลงไป“อ๊า... อ๊า...”หล่อนครางให้กับความใหญ่โตของแก่นกายร้อนจัด ก่อนจะยัดก้นสูงขึ้นเพื่อให้เขาได้เข้าไปอย่างล้ำลึกที่สุด“ว้าว... แน่นเหลือเกิน ทูนตัว...”เขาก้มหน้าลงมองใบหน้าของภรรยา ก่อนจะโน้มตัวลงไปละเลงยอดถันด้วยสองนิ้วมือ หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านทั้งบนทั้งล่าง“อู๊ยยยย... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”“ชอบไหมคนสวย ชอบสิ่งที่ผมมอบให้ไหม”“ชอบค่ะ ชอบมาก อ๊า... โยกเถอะค่ะ ไม่ไหวแล้ว... ฉันรอไม่ไหวแล้ว โยกสิคะ อ๊า...”เมื่อเขาทำตามคำสั่ง หล่อนก็กรีดร้องด้วยความเสียวกระสันรับในทันที หญิงสาวดิ้นพล่าน หยัดยกร่างกายเพื่อให้เขาได้ล่วงล้ำอย่างกระตือรือร้าน ปากอิ่มเผยอกรีดร้องตลอดเวลา“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”หล่อนเสียว... เสียวซ่านเหลือเกิน รู้สึกร้อนผ่าวไปจนถึงป
บทที่ 40.ชุดเจ้าสาวแบบเกาะอกถูกระชากให้หลุดลงไปกองอยู่ที่บั้นเอว และคนตัวโตจอมตะกละก็ผลักร่างเปลือยท่อนบนให้ชนกับขอบหน้าต่าง ส่วนตัวเองก็ก้มลงดูดอมจงอยถันงามเอาไว้เต็มปากเต็มคำ“อ๊า... อ๊า ฟิกซ์ขา...”จากที่เคยทัดทานตอนนี้ส่ายร่อนระริกรับการรุกรานของปากร้อนจัด ลิ้นแกว่งไกว่ และนิ้วมือที่ช่ำชอง“อ๊า... ซี๊ดดด... อ๊า...”ชุดเจ้าสาวที่ค้างคาบนเอวคอด มือถูกเล็กของเจ้าของร่างดันให้มันหล่นไปกองที่ข้อเท้า ก่อนจะสลัดให้มันออกไปพ้นตัว จนตอนนี้เรือนร่างสาวน้อยเปลือยเปล่าขาวเนียนอวดแสงจันทร์“เมียจ๋า... อวบ ขาว เหลือเกิน”ฟินิกซ์เงยหน้าขึ้นจากทรวงอกอวบ แต่มือยังคงเฝ้าขยำตลอดเวลา หญิงสาวกัดปาก เงยหน้าครางเสียวซ่าน“อ๊า... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”ยิ่งยามที่จงอยถันถูกปากร้อนจัดดูดอม และกึ่งกลางลำตัวถูกนิ้วแกร่งจู่โจม หล่อนก็แทบจะสุขสมเสียให้ได้ หล่อนเสียวซ่าน กระสันไปทั่วทุกอณูกาย“อ๊ะ... ซี๊ดดด... ฟิกซ์ขา... ไม่ไหวแล้ว...”หล่อนวิงวอน ส่ายร่างสาวระรัวรับการโรมรันชำนาญของชายหนุ่ม ไม่นานเขาก็เลิกดูดอมยอดถัน คุกเข่าลงตรงหน้าของหล่อนแทน หล่อนก้มลงประสบสานสายตากับเจ้าบ่าวสุดหล่อ ก่อนจะต้องยกมือที่ยันกับขอบ
บทที่ 39.“ผมแทบเป็นบ้า ตอนที่เห็นคุณล้มลงไป และมีเลือดออกเต็มหลัง”“ฉันถูกยิงนี่คะ ก็ต้องมีเลือดสิ”“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน ผมแทบขาดใจ... ตอนที่เห็นคุณสลบไป ผม... ผมนึกว่าผมจะต้องเสียคุณไปเสียแล้ว มิริน... อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ อย่าก้าวออกห่างจากผมแม้แต่ก้าวเดียว ผมคงทนเห็นคุณถูกทำร้ายไม่ได้อีกแล้ว...”“ขอบคุณค่ะ ที่เป็นห่วงฉัน” หล่อนยิ้มกว้าง มองเขาทั้งน้ำตา“คุณเจ็บก็เพราะผม ผมขอโทษ...”มิรินส่ายศีรษะน้อยๆ“ไม่ใช่เพราะคุณสักหน่อยค่ะ แต่เป็นเพราะฉัน... งี่เง่าเองต่างหาก ถ้าฉันไม่วิ่งหนีออกมา เรื่องร้ายก็คงไม่เกิดขึ้น”ฟินิกซ์คว้ามือนุ่มมากุมเอาไว้ พลางยกขึ้นแนบกับแก้มสากของตัวเอง “ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าคุณจะได้ยินอะไรมา ได้โปรด... ถามผมก่อนนะมิริน... ผมสัญญาว่าจะไม่มีความลับระหว่างเราอีกแล้ว ผม... ผมจะบอกกับคุณทุกเรื่อง ผมขอโทษ...”“ฟินิกซ์คะ คุณไม่ได้ผิดอะไร ฉันต่างหากที่ผิด คนที่ควรขอโทษคือฉันค่ะ ไม่ใช่คุณ”“แต่ถ้าผมยอมบอกเหตุผลที่พาขวัญตาเข้ามาในไร่อีกครั้งให้คุณฟัง คุณก็คงจะไม่หึงหวงผมจนเข้าใจผิดแบบนั้น”มิรินแก้มแดงก่ำ และเสหลบตาด้ว
บทที่ 38.“ขวัญ... ปล่อยมิรินเถอะครับ ผมขอร้อง”“อย่าเข้ามานะคะฟิกซ์ ขวัญยิงนังมิรินจริงๆ ด้วย”“ฟินิกซ์...” มิรินมองชายคนรักผ่านม่านน้ำตา เพราะหล่อนผิดเอง โง่เองทุกอย่างจึงต้องมาเป็นแบบนี้“ฉันขอโทษ... ฉัน... ขอโทษ...”“คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษผมมิริน”“รักกันเหลือเกินนะ มานี่นังมิริน”ขวัญตากระชากผมของมิรินแรงๆ“โอ๊ย... ฉันเจ็บนะ”มิรินพ้อด้วยความเจ็บร้าวบนศีรษะ“อย่าทำอะไรมิรินนะขวัญตา อย่าทำ...”ขวัญตาไม่สนใจคำพูดของใครอีกแล้ว หล่อนรีบดันร่างของมิรินให้ขึ้นไปบนรถ และกำลังจะก้าวขึ้นไป แต่ถูกฟินิกซ์กระโจนเข้าชาร์ตเอาไว้เสียก่อน ปืนในมือของขวัญตาถูกปัดจนกระเด็นห่างออกไป“ปล่อยนะ ปล่อยสิ” ขวัญตาดิ้นรนและจะกระโจนไปคว้าปืน แต่ถูกฟินิกซ์ผลักจนล้มไปกับพื้น“มิรินออกมาเร็วครับ”มิรินรีบทำตามที่ชายหนุ่มบอก ก้าวลงจากรถ และกำลังจะวิ่งเข้าไปกอดเขา แต่สองหูของหล่อนก็ได้ยินเสียงกัมปนาทแผดร้องขึ้นเสียงก่อน พร้อมๆ กับความเจ็บลึกที่บริเวณบั้นเอวปัง!“มิริน!”ฟินิกซ์ตกใจแทบช็อก เมื่อพบว่ามิรินถูกขวัญตาที่ไปคว้าปืนกลับมาได้ตอนไหนก็ไม่รู้ยิงเข้าเต็มๆ หนึ่งนัด ร่างของมิรินกำลังจะร่วงลงกับพื้น เขารีบถลาไป
บทที่ 37.ขวัญตาก็กำลังจะทำตาม และคนงานเอาท่อนไม้มาขวางหน้ารถเอาไว้ จนไม่สามารถไปต่อได้“มันเอาไม้มาขวาง ทำไงดีล่ะ” ขวัญตาหันไปขอความคิดเห็นไอ้สามคน“ก็แค่ปล่อยฉันลงไป แล้วฉันจะบอกกับฟินิกซ์ไม่ให้เอาเรื่องพวกคุณ” มิรินที่ใจชื้นขึ้นมาแล้วเพราะมีคนมาช่วยรีบพูดขึ้น แต่กลับถูกขวัญตาตวาดลั่นด้วยความฉุนเฉียว“อย่ามาสะเออะออกความคิดเห็น แกไม่มีทางรอดเงื้อมือฉันได้หรอก”“แต่คุณก็ไม่มีทางรอดเหมือนกัน” มิรินเถียง และพยายามหาหนทางที่จะลงไปจากรถคันนี้ให้ได้“ถ้าฉันไม่รอด แกก็ไม่รอดนังมิริน เฮ้ย... ไอ้ยักษ์พาลูกน้องแกลงไปจัดการพวกมันให้ยับ”“แต่มันหลายคนนะเจ๊ แถมแต่ละคนอาวุธครบมือ”“แล้วพวกแกไม่มีอาวุธเลยหรือไง ลงไป! ฉันบอกให้ลงไปสู้กับพวกมัน”ขวัญตาตวาดดังลั่น ตอนนี้ทั้งแค้นทั้งหวาดกลัวผสมรวมกันไปหมด“ถ้าไม่สู้พวกแกก็ต้องติดคุก แต่ถ้าสู้ บางทีอาจจะชนะ”“ก็ได้เจ๊ เฮ้ย... ลงไปจัดการพวกมันเร็วเข้า” ไอ้คนเป็นลูกพี่เปิดประตูนำลงไปก่อนที่ลูกน้องจะทำตาม จากนั้นก็ควักมีดที่เหน็บเอวเอาไว้ออกมาขู่คนงานของฟินิกซ์“พวกแกอย่าเข้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันแทงจริงๆ ด้วย”“ปล่อยเมียฉันซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่องอะไรพวกแ
บทที่ 36.“คุณขวัญตา...” มิรินไม่เข้าใจการกระทำของขวัญตา “คุณทำอะไรคะ”ขวัญตาหัวเราะ ดวงตาเต็มไปด้วยไฟริษยา “ฉันก็จะทำให้แก ถูกพวกมันจับตัวไปยังไงล่ะ”“คุณขวัญตา!”“ไม่ต้องมาทำหน้าตาตี่นแบบนั้นหรอก ฉันจะบอกให้ก็ได้นะ ว่าไอ้สามคนนั้นน่ะ เป็นคนของฉันเอง”มิรินแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สองหูได้ยิน “คุณ... คุณขวัญตาหมายความว่ายังไงคะ”“นังโง่! ฉันก็แค่จะทำทุกทาง เพื่อให้แกระเห็จออกไปจากชีวิตของฟิกซ์น่ะสิ”“แม้แต่วิธีผิดกฎหมายเหรอคะ”ขวัญตาแค่นยิ้มหยัน กระชากเส้นผมของมิรินเอาไว้แน่น“ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ!” มิรินพยายามดิ้นรนช่วยตัวเอง แต่หนทางรอดมันกลับติดลบเหลือเกิน“แกจะไม่ใช่แค่เจ็บ แต่แกจะต้องตายทั้งเป็นนังมิริน!”มิรินเงยหน้าน้ำตาไหล มองขวัญตาด้วยความเดือดดาล “คุณมันก็แค่ขี้แพ้ชวนตี พอไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็พาลคนอื่น เพราะแบบนี้ไง ฟินิกซ์ถึงไม่รักคุณแล้ว”เพี๊ยะ!!!ใบหน้านวลของมิรินสะบัดไปตามแรงปะทะจากฝ่ามือของขวัญตา“ถ้าแกตายซะคน ฉันก็จะเป็นคนชนะ นังมิริน” ขวัญตาบีบคางของมิรินแรงๆ และบังคับให้คู่กรณีเผชิญหน้า“แต่ก่อนตาย แกจะต้องถูกรุมโทรมเสียก่อน”“คุณไม่มีวันชนะฉันได้หรอก ไม่ว่าคุณจะทำ
บทที่ 35.“ผมหวังว่าคุณจะไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของมิรินนะขวัญตา” แม้จะยังไม่ได้ค้นหาทั้งไร่ แต่เพราะคำพูดทิ้งท้ายของขวัญตาทำให้ชายหนุ่มคิดเลยเถิดไปไกล“แล้วถ้าใช่ล่ะคะ”“ขวัญตา!”“ถ้าไม่มีมันสักคน คุณก็จะต้องรักขวัญ”“ผมไม่มีวันรักคุณอีกแล้วขวัญตา และถ้าคุณทำร้ายเมียของผม ผมจะลากคุณเข้าตะรางจำเอาไว้ด้วย”“น่ากลัวจังนะคะ”แล้วขวัญตาก็กดตัดสายลงอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ฟินิกซ์ตะโกนอยู่คนเดียวลั่นบ้าน“ขวัญตา! คุณอย่าพึ่งวางสายนะ ขวัญตา!”แต่ไม่ว่าฟินิกซ์จะพยายามต่อสายหาขวัญตาอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับเลย“เกิดอะไรขึ้นหรือครับคุณฟิกซ์”ลุงน้อยที่ถูกสาวใช้อย่างมะเฟืองไปตามมา รีบละล่ำละลักถามเจ้านายหนุ่มด้วยความแปลกใจ“มิรินหายไป”“คุณมิรินหายไปเหรอครับ”“ใช่ ลุงน้อยช่วยไประดมคนงานตามหาให้ทั่วไร่ด้วยนะครับ”“ครับคุณฟิกซ์”“ขอบคุณครับ”ฟินิกซ์กล่าวขอบคุณก่อนจะโทรหาตำรวจซึ่งเป็นเพื่อนของตัวเองให้ส่งกำลังมาช่วย เสร็จแล้วก็หันมามองหน้ามะเฟือง“เธอก็ขึ้นไปตามหาบนห้องอีกครั้งนะ”มะเฟืองพยักหน้ารับคำ แต่ก็อดที่จะแสดงความคิดเห็นไม่ได้ “หนูว่าบางที... คุณมิรินอาจจะแค่ไปเดินเล่นนะคะ”“แต่ฉันมีลางส
บทที่ 34.มิรินตะโกนลั่นออกมาอย่างสุดจะทน ก่อนจะวิ่งออกไปนอกบ้าน ขวัญตาหัวเราะตามหลังไปอย่างสะใจ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มะเฟืองวิ่งออกมาดูพอดีมะเฟืองเห็นแผ่นหลังของมิรินไกลๆ ก็แปลกใจ แต่ก็ต้องแปลกใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นขวัญตามาอยู่ในบ้าน“คุณขวัญตา... คุณมาได้ยังไงคะ”“ฉันมาหาฟิกซ์น่ะ แต่เห็นแม่บ้านบอกว่าไม่อยู่”“ใช่ค่ะ คุณฟิกซ์เข้าไร่ไปแล้ว หนูว่าคุณขวัญตากลับไปเถอะค่ะ”ขวัญตาไม่พอใจคำพูดของมะเฟือง แต่ก็จำต้องสะกดกลั้นเอาไว้ “ฉันก็กำลังจะกลับพอดี ไปล่ะ”“เดี๋ยวค่ะ...”ขวัญตาจะเดินไปแต่ก็ต้องชะงักเพราะถูกเรียก“มีอะไรเหรอมะเฟือง”“เมื่อกี้หนูได้ยินเสียงคุณมิรินตะโกนดังลั่น คุณขวัญตาทะเลาะกับคุณ มิรินเหรอคะ”“เปล่านะ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรกับมิรินเลย เข้ามาก็เห็นวิ่งสวนออกไปพอดี คงจะรีบเข้าไปหาฟิกซ์ล่ะมั้ง”“คงใช่ค่ะ เพราะคุณฟิกซ์สั่งให้คุณมิรินเข้าไปหาในไร่”หน้าตาของขวัญตาบูดบึงจนปิดไม่มิดทันที ซึ่งมะเฟืองก็มองเห็น จึงรีบกระพือเชื้อไฟต่อ“คุณฟิกซ์เธอเอาอกเอาใจคุณมิรินมากค่ะ สงสัยจะรักจริงๆ”“ไม่จริง! ฟิกซ์ไม่มีทางรักมัน”“คุณขวัญตาพูดว่าอะไรนะคะ”ขวัญตาได้สติจึงรีบกลบเกลื่อน “อ๋