ภาพเลือนรางในกระจกเงาตรงหน้าค่อยๆ จางหายไปเมื่อมือหนาพยายามจะคว้าเอาไว้ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น หัวใจทุกข์ทรมานกับการทรยศของผู้หญิงที่เคยบอกว่ารักกันจนหมดหัวใจ
ขวัญตา แอนเดอร์สัน ภรรยาสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่เลือกจะทิ้งเขาไปเพียงเพราะว่าหล่อนต้องการอยู่ในความศิวิไลย์มากกว่าจมปลักอยู่ในไร่ชาที่เต็มไปด้วยสีเขียวกับเขา
หล่อนไม่ได้ผิดเลยที่ทำแบบนี้ เพราะการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ความชื่นชอบที่ไปกันคนละเส้นทาง ทำให้ชีวิตรักที่เฝ้าประคับประคองมาร่วมห้าปีต้องพังทลายลง
เจ็บ...
ใช่ เขายอมรับว่าในปีแรกๆ ที่ถูกขวัญตาทิ้งไปนั้น เขาเจ็บปวดมาก เจ็บจนบ้างครั้งต้องพึ่งน้ำเมา แต่ตอนนี้แผลนั้นค่อยๆ ทุเลาและจางลงไปแล้ว ระยะเวลาสามปีที่ผ่านมามันช่วยกลืนกินความรักที่เคยมีต่อขวัญตาให้ค่อยๆ สลายหายไป เหลือไว้แต่เพียงความทรงจำเท่านั้น
มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าที่เปียกชื้นของตัวเองสองสามครั้ง ก่อนจะจ้องมองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่นิ่ง
ณ ตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อขวัญตานั้นไม่ใช่ความรักอีกต่อไปแล้ว นกไฟที่เคยบาดเจ็บเพราะพิษรัก ยามนี้สามารถสยายปีกกว้างและบินขึ้นสู่ฟากฟ้าได้อย่างสวยงามอีกครั้งแล้ว
รอยยิ้มบางๆ ผุดบนใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสีฟ้าเทาที่เคยหม่นหมองยามที่กระจ่างใสขึ้นผิดหูผิดตา
ก็คงเหมือนกับที่คุณตาเคยบอกเอาไว้นั้นแหละ ผู้หญิงที่เขาจะเลือกเป็นคู่ชีวิต จะต้องเป็นผู้หญิงที่มีหัวใจดวงเดียวกัน
“แล้วเธอคนนั้น อยู่ที่ไหนกันนะ”
ฉับพลันภาพของแม่สาวปากกล้าที่เขาขับรถเฉี่ยวจนล้มก็แว่บเข้ามาในสมอง แต่แค่วินาทีเดียว ฟีนิกซ์ก็รีบสลัดออกไป
“ปากเก่งแบบนั้น เอามาไว้ข้างตัว คงหนวกหูแย่”
ร่างสูงกำยำที่มีเพียงผ้าขนหนูพันหมิ่นๆ เอาไว้รอบสะโพกก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำ ตรงไปหยุดที่หน้าต่างบ้านใหญ่ของห้อง ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังถนนที่ทอดยาวจากไร่ชาเข้ามายังเขตของตัวคฤหาสน์ มองหาร่างของผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ไม่พบ
“คงไปแล้วจริงๆ”
รอยยิ้มหยันผุดขึ้นบนใบหน้าสมบูรณ์แบบ ก่อนที่ดวงตาคมกล้าจะมองเลยไปยังไร่ชาสีเขียวขจีเบื้องหน้าแทน มองด้วยความภาคภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ลงมือทำ และก็สามารถทำมันได้เป็นอย่างดี
ดวงตาของฟีนิกซ์ช้อนขึ้นมองแผ่นฟ้ากว้าง แม้ยามนี้พระอาทิตย์จะเลื่อนลงไปอยู่ที่เส้นล่างของขอบฟ้าแล้ว แต่แสงสว่างก็ยังคงกระจ่างตา รอยยิ้มบางๆ เกลื่อนใบหน้า
“ผมจะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตครับคุณตา”
ดั่งคำมั่นสัญญาที่ฟีนิกซ์ อีเมอร์สันจะมอบให้แก่คุณตาผู้ล่วงลับจากหัวใจ
“คุณฟิกซ์ลงมาแล้ว ลุงน้อย”
มะเฟืองที่ไปชะเง้อคอรอคอยอยู่ที่บันไดบ้านรีบวิ่งหน้าตั้งมาบอกลุงน้อยอย่างตื่นเต้น
“มันก็แหงอยู่แล้วล่ะ ก็นี่มันได้เวลามื้อค่ำแล้วนี่”
ลุงน้อยส่ายหัวไปมากับความบ้าบอของมะเฟือง
“ฉันรู้อยู่แล้วล่ะลุงน้อย แต่ที่ฉันตื่นเต้นก็เพราะว่าใครจะเป็นคนบอกคุณฟิกซ์ เรื่องที่...”
มะเฟืองหยุดพูดแค่นั้น เพราะรู้ดีว่าลุงน้อยเข้าใจความหมาย
“เอ็งไงล่ะ พูดมากนัก ไปบอกเลย”
มะเฟืองได้ยินก็ส่ายหน้าดิก
“ลุงน้อยนั่นแหละ ฉันยังเด็ก พูดมาก แถมพูดไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวคุณฟิกซ์จะโมโหเอาเปล่าๆ”
“ทีนี้มาทำเป็นโยนให้ข้า ตอนที่ลากคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน ทำไมไม่คิดวะ”
“แหม... ลุงน้อยก็พูดเว่อไปนั่น คุณมิรินเธอไม่ใช่คนหน้าแปลกสักหน่อย”
“ข้าบอกแปลกหน้าโว๊ย นังมะเฟืองนี้ เดี๋ยวเขลกกบาลแตกเลย”
ลุงน้อยยกมือขึ้นจะตีมะเหงกใส่หัวของมะเฟือง แต่เด็กสาวขยับตัวหนีเสียก่อน
“ฉันก็ล้อเล่นเองลุงน้อย ว่าแต่ลุงจะเป็นคนบอกคุณฟิกซ์ใช่ไหมล่ะ”
ลุงน้อยมองค้อนคู่สนทนาต่างวัย
“ก็เอ็งไม่บอก ข้าก็ต้องบอกน่ะสิ”
มะเฟืองยิ้มกว้าง
“งั้นลุงไปบอกคุณฟิกซ์นะ ส่วนฉันจะไปเรียกคุณมิริน”
“เออ เอ็งจะไปไหนก็ไปเถอะ อยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
ลุงน้อยบ่นอุบ ก่อนจะรีบเดินตรงเข้าไปหาฟีนิกซ์ที่เดินลงมาพอดี มะเฟืองเสียวสันหลังเลยรีบชิ่งไปหามิริน
“มีอะไรหรือคุณลุงน้อย”
ฟีนิกซ์หรี่ตามองหน้าชายวัยกลางคนด้วยความประหลาดใจ
“เอ่อ...”
“มีอะไรกับผมก็บอกมาเถอะครับ”
เมื่อเห็นคนสนิททำท่าอึกอักก็อดที่จะเร่งเร้าไม่ได้
“คือ... คือว่ามีคนมาขอพบคุณฟิกซ์ครับ”
คิ้วเข้มหนาดกที่ยาวขนานกับดวงตาคมกล้าเลิกสูงด้วยความประหลาดใจ
“มีคนมาพบผม”
“ครับ”
“ในเวลาโพล้เพล้จะมืดเนี้ยนะครับ”
“ครับ”
เป็นอีกครั้งที่ลุงน้อยตอบคำเดิมออกไป และแน่นอนว่าคนฟังอย่างฟีนิกซ์หงุดหงิดทันที
“ใครครับ”
“เอ่อ เห็นเธอบอกว่าเป็น...”
ลุงน้อยยังพูดไม่ทันจบ ฟีนิกซ์ก็แทรกขึ้นด้วยความแคลงใจเสียก่อน
“เธอ? งั้นก็ผู้หญิงสินะครับ”
เฉียบพลันไปหน้าของสตรีคนนั้นก็ผุดขึ้นมาในมอง แต่ฟีนิกซ์ก็รีบสลัดออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าไม่มีทางใช่
“ใช่ครับคุณฟิกซ์ ผู้หญิงจากกรุงเทพฯ ครับ”
แม้จะรู้สึกหงุดหงิดกับแขกที่เดินทางมาขอพบในยามมืดค่ำ แต่กระนั้นฟีนิกซ์ก็ยังฝืนใจอนุญาตให้เข้าพบ
“แล้วเธออยู่ไหนล่ะครับ”
ลุงน้อยแปลกใจกับการยินยอมให้เข้าพบอย่างง่ายดายของเจ้านายหนุ่มนัก เพราะปกติฟีนิกซ์จะเป็นคนที่ใครจะเข้าถึงตัวได้ยากมาก แต่ไม่รวมเหตุการณ์ในครั้งนี้นะ
“ห้องรับรองริมระเบียงกล้วยไม้ครับ”
คิ้วเข้มของฟีนิกซ์เลิกสูงเหมือนจะเอ่ยถาม แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา แต่ลุงน้อยเข้าใจความหมายดีจึงตอบออกไป
“นังมะเฟืองมันเจ้ากี้เจ้าการครับ ผมเตือนมันแล้ว”
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าลุงน้อยให้คนไปตามผู้หญิงคนนั้นมาพบผมที่ห้องรับแขกที่นี่แทนก็แล้วกันครับ”
“ครับคุณฟิกซ์”
แล้วฟีนิกซ์ก็เดินหายเข้าไปในห้องรับแขก ลุงน้อยจึงแยกออกไปตาม มิรินให้มาพบกับเจ้านายตามคำสั่งทันที
บทที่ 42. ตอนอวสาน“ฉันก็รักคุณค่ะฟินิกซ์ รักเหลือเกิน... รักจนเจ็บปวดไปทั้งตัวใจ”“แต่ผม... กำลังเจ็บปวดเจ้านี่น่ะ... มันร้องจะกินคุณอีกแล้ว” มือใหญ่จับท่อนชาย และหัวเราะขบขัน มิรินหน้าแดงก่ำ ขณะหรี่ตาแคบจ้องมองเจ้าแท่งเนื้อที่ใหญ่กว่าท่อนแขนของตัวเองด้วยความขัดเขิน“แล้วถ้า... ฉันจะกินคุณก่อนล่ะคะ”“มิริน...”“เอ่อ ฉันหมายถึง... ฉันจะกินคุณด้วยปาก...”หล่อนช้อนตาขึ้นมองสามี ในขณะที่มือเล็กแย่งแท่งเนื้อมากอบกุมเอาไว้ด้วยสองมือของตัวเอง“จะใช้ปากของฉัน... พร้อมกับลิ้นของฉัน กับเจ้านี่ของคุณ”“มิริน...”แค่ได้ยินคำพูดของภรรยาสาว ฟินิกซ์ก็เสียวกระสันรอคอยจนไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ซะแล้ว นอกจากครางชื่อของหล่อน“ถ้าคุณจะไม่ขัด... ข้อง...”“อย่าช้า... มิริน... ดูดมัน... โอ้ว...”ไม่ต้องให้ฟินิกซ์สั่งซ้ำ เพราะแค่เสี้ยววินาทีต่อมา อุ้งปากสาวก็ครอบครองปลายยอดของแท่นชายเอาไว้ หญิงสาวค่อยๆ ละเมียดด้วยริมฝีปาก ตวัดเลียตามรอยหยักสากด้วยลิ้นนุ่ม“โอ้ว... อู๊ยยย... เมียจ๋า... ไม่ไหวแล้ว... โอ้ว...”ฟินิกซ์คำราม ครวญคราง นอนแผ่หมดสภาพอยู่บนเตียง อยู่ภายในการครอบครองของมิริน“โอ้ว... มิรินจ๋า... ทูนหั
บทที่ 41.“นั่งบนขอบเตียงคนสวย แล้วนอนหงายลงไป ใช่แบบนั้นแหละ แยกขาออก ยกขาสวยๆ ของคุณมาพาดบ่าของผมทั้งสองข้าง ไม่ต้องอาย... มันจะสนุก คุณจะชอบ เชื่อผมนะเมียจ๋า...”หล่อนทำตามอย่างว่าง่าย สองขาของหล่อนพิงกับบ่ากำยำ กลีบสาวแยกแย้มออกจากกันจนมองเห็นเนื้อนุ่มสีแดงระเรื่อภายใน หล่อนเห็นเขามองแล้วอมยิ้ม ก่อนจะจับท่อนชายฝังลงไป“อ๊า... อ๊า...”หล่อนครางให้กับความใหญ่โตของแก่นกายร้อนจัด ก่อนจะยัดก้นสูงขึ้นเพื่อให้เขาได้เข้าไปอย่างล้ำลึกที่สุด“ว้าว... แน่นเหลือเกิน ทูนตัว...”เขาก้มหน้าลงมองใบหน้าของภรรยา ก่อนจะโน้มตัวลงไปละเลงยอดถันด้วยสองนิ้วมือ หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านทั้งบนทั้งล่าง“อู๊ยยยย... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”“ชอบไหมคนสวย ชอบสิ่งที่ผมมอบให้ไหม”“ชอบค่ะ ชอบมาก อ๊า... โยกเถอะค่ะ ไม่ไหวแล้ว... ฉันรอไม่ไหวแล้ว โยกสิคะ อ๊า...”เมื่อเขาทำตามคำสั่ง หล่อนก็กรีดร้องด้วยความเสียวกระสันรับในทันที หญิงสาวดิ้นพล่าน หยัดยกร่างกายเพื่อให้เขาได้ล่วงล้ำอย่างกระตือรือร้าน ปากอิ่มเผยอกรีดร้องตลอดเวลา“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”หล่อนเสียว... เสียวซ่านเหลือเกิน รู้สึกร้อนผ่าวไปจนถึงป
บทที่ 40.ชุดเจ้าสาวแบบเกาะอกถูกระชากให้หลุดลงไปกองอยู่ที่บั้นเอว และคนตัวโตจอมตะกละก็ผลักร่างเปลือยท่อนบนให้ชนกับขอบหน้าต่าง ส่วนตัวเองก็ก้มลงดูดอมจงอยถันงามเอาไว้เต็มปากเต็มคำ“อ๊า... อ๊า ฟิกซ์ขา...”จากที่เคยทัดทานตอนนี้ส่ายร่อนระริกรับการรุกรานของปากร้อนจัด ลิ้นแกว่งไกว่ และนิ้วมือที่ช่ำชอง“อ๊า... ซี๊ดดด... อ๊า...”ชุดเจ้าสาวที่ค้างคาบนเอวคอด มือถูกเล็กของเจ้าของร่างดันให้มันหล่นไปกองที่ข้อเท้า ก่อนจะสลัดให้มันออกไปพ้นตัว จนตอนนี้เรือนร่างสาวน้อยเปลือยเปล่าขาวเนียนอวดแสงจันทร์“เมียจ๋า... อวบ ขาว เหลือเกิน”ฟินิกซ์เงยหน้าขึ้นจากทรวงอกอวบ แต่มือยังคงเฝ้าขยำตลอดเวลา หญิงสาวกัดปาก เงยหน้าครางเสียวซ่าน“อ๊า... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”ยิ่งยามที่จงอยถันถูกปากร้อนจัดดูดอม และกึ่งกลางลำตัวถูกนิ้วแกร่งจู่โจม หล่อนก็แทบจะสุขสมเสียให้ได้ หล่อนเสียวซ่าน กระสันไปทั่วทุกอณูกาย“อ๊ะ... ซี๊ดดด... ฟิกซ์ขา... ไม่ไหวแล้ว...”หล่อนวิงวอน ส่ายร่างสาวระรัวรับการโรมรันชำนาญของชายหนุ่ม ไม่นานเขาก็เลิกดูดอมยอดถัน คุกเข่าลงตรงหน้าของหล่อนแทน หล่อนก้มลงประสบสานสายตากับเจ้าบ่าวสุดหล่อ ก่อนจะต้องยกมือที่ยันกับขอบ
บทที่ 39.“ผมแทบเป็นบ้า ตอนที่เห็นคุณล้มลงไป และมีเลือดออกเต็มหลัง”“ฉันถูกยิงนี่คะ ก็ต้องมีเลือดสิ”“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน ผมแทบขาดใจ... ตอนที่เห็นคุณสลบไป ผม... ผมนึกว่าผมจะต้องเสียคุณไปเสียแล้ว มิริน... อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ อย่าก้าวออกห่างจากผมแม้แต่ก้าวเดียว ผมคงทนเห็นคุณถูกทำร้ายไม่ได้อีกแล้ว...”“ขอบคุณค่ะ ที่เป็นห่วงฉัน” หล่อนยิ้มกว้าง มองเขาทั้งน้ำตา“คุณเจ็บก็เพราะผม ผมขอโทษ...”มิรินส่ายศีรษะน้อยๆ“ไม่ใช่เพราะคุณสักหน่อยค่ะ แต่เป็นเพราะฉัน... งี่เง่าเองต่างหาก ถ้าฉันไม่วิ่งหนีออกมา เรื่องร้ายก็คงไม่เกิดขึ้น”ฟินิกซ์คว้ามือนุ่มมากุมเอาไว้ พลางยกขึ้นแนบกับแก้มสากของตัวเอง “ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าคุณจะได้ยินอะไรมา ได้โปรด... ถามผมก่อนนะมิริน... ผมสัญญาว่าจะไม่มีความลับระหว่างเราอีกแล้ว ผม... ผมจะบอกกับคุณทุกเรื่อง ผมขอโทษ...”“ฟินิกซ์คะ คุณไม่ได้ผิดอะไร ฉันต่างหากที่ผิด คนที่ควรขอโทษคือฉันค่ะ ไม่ใช่คุณ”“แต่ถ้าผมยอมบอกเหตุผลที่พาขวัญตาเข้ามาในไร่อีกครั้งให้คุณฟัง คุณก็คงจะไม่หึงหวงผมจนเข้าใจผิดแบบนั้น”มิรินแก้มแดงก่ำ และเสหลบตาด้ว
บทที่ 38.“ขวัญ... ปล่อยมิรินเถอะครับ ผมขอร้อง”“อย่าเข้ามานะคะฟิกซ์ ขวัญยิงนังมิรินจริงๆ ด้วย”“ฟินิกซ์...” มิรินมองชายคนรักผ่านม่านน้ำตา เพราะหล่อนผิดเอง โง่เองทุกอย่างจึงต้องมาเป็นแบบนี้“ฉันขอโทษ... ฉัน... ขอโทษ...”“คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษผมมิริน”“รักกันเหลือเกินนะ มานี่นังมิริน”ขวัญตากระชากผมของมิรินแรงๆ“โอ๊ย... ฉันเจ็บนะ”มิรินพ้อด้วยความเจ็บร้าวบนศีรษะ“อย่าทำอะไรมิรินนะขวัญตา อย่าทำ...”ขวัญตาไม่สนใจคำพูดของใครอีกแล้ว หล่อนรีบดันร่างของมิรินให้ขึ้นไปบนรถ และกำลังจะก้าวขึ้นไป แต่ถูกฟินิกซ์กระโจนเข้าชาร์ตเอาไว้เสียก่อน ปืนในมือของขวัญตาถูกปัดจนกระเด็นห่างออกไป“ปล่อยนะ ปล่อยสิ” ขวัญตาดิ้นรนและจะกระโจนไปคว้าปืน แต่ถูกฟินิกซ์ผลักจนล้มไปกับพื้น“มิรินออกมาเร็วครับ”มิรินรีบทำตามที่ชายหนุ่มบอก ก้าวลงจากรถ และกำลังจะวิ่งเข้าไปกอดเขา แต่สองหูของหล่อนก็ได้ยินเสียงกัมปนาทแผดร้องขึ้นเสียงก่อน พร้อมๆ กับความเจ็บลึกที่บริเวณบั้นเอวปัง!“มิริน!”ฟินิกซ์ตกใจแทบช็อก เมื่อพบว่ามิรินถูกขวัญตาที่ไปคว้าปืนกลับมาได้ตอนไหนก็ไม่รู้ยิงเข้าเต็มๆ หนึ่งนัด ร่างของมิรินกำลังจะร่วงลงกับพื้น เขารีบถลาไป
บทที่ 37.ขวัญตาก็กำลังจะทำตาม และคนงานเอาท่อนไม้มาขวางหน้ารถเอาไว้ จนไม่สามารถไปต่อได้“มันเอาไม้มาขวาง ทำไงดีล่ะ” ขวัญตาหันไปขอความคิดเห็นไอ้สามคน“ก็แค่ปล่อยฉันลงไป แล้วฉันจะบอกกับฟินิกซ์ไม่ให้เอาเรื่องพวกคุณ” มิรินที่ใจชื้นขึ้นมาแล้วเพราะมีคนมาช่วยรีบพูดขึ้น แต่กลับถูกขวัญตาตวาดลั่นด้วยความฉุนเฉียว“อย่ามาสะเออะออกความคิดเห็น แกไม่มีทางรอดเงื้อมือฉันได้หรอก”“แต่คุณก็ไม่มีทางรอดเหมือนกัน” มิรินเถียง และพยายามหาหนทางที่จะลงไปจากรถคันนี้ให้ได้“ถ้าฉันไม่รอด แกก็ไม่รอดนังมิริน เฮ้ย... ไอ้ยักษ์พาลูกน้องแกลงไปจัดการพวกมันให้ยับ”“แต่มันหลายคนนะเจ๊ แถมแต่ละคนอาวุธครบมือ”“แล้วพวกแกไม่มีอาวุธเลยหรือไง ลงไป! ฉันบอกให้ลงไปสู้กับพวกมัน”ขวัญตาตวาดดังลั่น ตอนนี้ทั้งแค้นทั้งหวาดกลัวผสมรวมกันไปหมด“ถ้าไม่สู้พวกแกก็ต้องติดคุก แต่ถ้าสู้ บางทีอาจจะชนะ”“ก็ได้เจ๊ เฮ้ย... ลงไปจัดการพวกมันเร็วเข้า” ไอ้คนเป็นลูกพี่เปิดประตูนำลงไปก่อนที่ลูกน้องจะทำตาม จากนั้นก็ควักมีดที่เหน็บเอวเอาไว้ออกมาขู่คนงานของฟินิกซ์“พวกแกอย่าเข้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันแทงจริงๆ ด้วย”“ปล่อยเมียฉันซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่องอะไรพวกแ