LOGIN"มึงว่าไงนะ!!! น้องกูหายไปสองวันแล้ว ทำไมพวกมึงไม่มาบอกกูห๊ะ!!! แค่ให้ดูแลน้องกูมึงยังทำไม่ได้ มึงก็ไม่ต้องอยู่แล้วบนโลกใบนี้" วิลเลี่ยมเสียงดังลั่น ทำให้สองสาวที่อยู่บนเตียงของเขาหอบผ้าหนีก่อนที่พวกเธอจะโดนลูกหลง
"ขอโทษครับนาย ผมไม่รู้จะบอกนายอย่างไงดี" โจนาธาน ลูกน้องระดับหัวหน้าของเขาเอ่ยปากพูดเอง หลังจากลูกน้องอีกคนพูดให้นายเขาฟัง "มึงก็ด้วยเหรอ" วิลเลี่ยมหันไปโจนาธานด้วยความโกรธอย่างขีดสุด "ผมพึ่งรู้จากมันไม่กี่นาทีครับ" โจนาธานบอกเขาไปตามความจริง เพราะเขาก็ตกใจเหมือนกันคุณหนูของนายท่านหายไป เขาวิ่งดูงานที่โรงแรมของวิลเลี่ยมมากว่าสิบแห่งและไม่มีใครมาบอกเขาด้วยจนกระทั่งเมื่อเช้าเขาอยากจับแม่งยิ่งเป้าแทนเจ้านายตัวเอง เขากำชับนักหนาให้ดูแลอย่างดีห้ามให้คลาดสายตา "ตามหาน้องกูให้เจอภายในเจ็ดวัน ถ้าตามหาไม่เจอ กูเอาพวกมึงตายแน่" วิลเลี่ยมเสียงดังจนไม่มีใครกล้าสบตา ชายหนุ่มนอนมองหญิงสาวที่นอนข้างตัว เธอหลับสนิทไม่มีท่าทีจะตื่น จนล่วงเลยเกือบบ่ายโมง เขาตื่นมาตอนแปดโมงแล้วเตรียมตัวอาบน้ำทำงาน เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หันไปมองเรือนร่างของเธอที่งดงามไร้ที่ติ เขาจึงลักหลับเธอสองครั้งเธอไม่ยอมตื่น เหมือนว่าเธอหลับเป็นตาย เขามองเธอหลากหลายอารมณ์ ใจหนึ่งก็อยากจะปล่อยไป อีกใจหนึ่งก็อยากให้เธออยู่ ตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้ไม่เคยมีใครขัดใจเขาแม้นแต่คนเดียว ผู้หญิงที่เขานอนด้วยนั้นเอาอกเอาใจเขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ และห้องนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมานอน มีเพียงเขาเท่านั้นที่นอน เขาจัดห้องให้ผู้หญิงนอนไว้ห้องข้างๆ เป็นห้องที่เธอนอนมาสองวันแล้ว ก๊อกๆ "นายครับ" แบร์กิวเคาะประตูเรียกนาย เพราะรู้ว่าเจ้านายไม่เคยนอนตื่นสาย มากสุดก็ไม่เกินเก้าโมงแต่นี่มันผิดวิสัยของเขา แบร์กิวจึงต้องขึ้นมาดูด้วยตัวเองเพราะลูกน้องที่อยู่หน้าห้องไม่กล้าที่จะเรียกเขากลัวลูกกระสุนจะลอยมาหา "อืมม์...อย่ากวนคนจะนอน" หญิงสาวละเมอพูดขึ้นมา ซุกอกกว้างของเขา เขาจึงเอื้อมเอาไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดบนหัวเตียงโทรออกไปทันที ปลายสายจึงรับสายทันทีไม่ต้องให้เขารอนาน "มีอะไร" เขากระชากเสียงใส่ "นายไม่ได้ป่วยใช่ไหมครับ" แบร์กิวถามกลับด้วยความเป็นห่วง "เอ่อ..." เขากดวางสาย มองหญิงสาวที่เอาขาพาดเขาอยู่ "ออสเตน ตื่นมาทำหน้าที่ของเธอได้แล้ว" เฮนรี่พูดข้างหูเธอ หญิงสาวลืมตาขึ้นช้าๆ ปรับสายตามองชายหนุ่ม ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ หญิงสาวกระเถิบหนี แต่ชายหนุ่มไวกว่าดึงเธอมาสวมกอดแนบชิด "จะหนี้ไปไหนสาวน้อย" ชายหนุ่มยิ้มชั่วให้เธอเห็น "ปล่อยฉันนะ" เธอผลักตัวเขาออกจากเธอ แต่ไม่เป็นผลเพราะตัวใหญ่กว่าเธอมากนัก "มาทำหน้าที่ของเธอก่อนกินข้าว" "ไม่ทำอะไรทั้งนั้น" หญิงสาวตะโกนใส่เขา "จะกินอาหารไหม" "ไม่กิน" หญิงสาวพูดออกไปนั้น ต่อร่างกายของเธอเรียกร้องที่ต้องการอาหาร "ปากดีนักนะ" ชายหนุ่มลุกขึ้น หญิงสาวลุกขึ้นตามเขา เขาส่งแก้วยาให้เธอ เธอจำได้ว่าเมื่อวานเขาก็วางไว้บนโต๊ะให้เธอ เขียนโน๊ตว่า กินชะ ถ้าไม่กินเธอท้องแน่ "กินชะ ไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์หรอก เพราะมันยังไม่ถึงเวลา" ชายหนุ่มส่งแก้วยาให้เธอ หญิงสาวรับไว้และกินมัน เขาส่งแก้วน้ำให้เธอ เธอรับมันไว้ดื่มไปคำเดียว เธอจึงสาดน้ำใส่เขา "อะไรว่ะเนี่ย" ชายหนุ่มร้องด้วยความตกใจ "นายมันชั่ว พรากพรหมจรรย์ของฉันไปทั้งที่ฉันห่วงแหนให้กับชายที่ฉันรักและอยู่ด้วย" หญิงสาวตะโกนใส่เขา ชายหนุ่มบีบคางไว้ "ฉันเป็นพวกชอบความท้าทาย ฉันอยากได้อะไรฉันต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นเธอก็ตาม หรือจะผู้หญิงคนไหน ถ้าฉันอยากได้ฉันก็ต้องได้" ชายหนุ่มปล่อยคางของเธอ "นายมันไม่ได้แค่ชั่ว แต่นายมันเลวด้วย" หญิงสาวลุกขึ้น ชายหนุ่มกระชากแขนเธอไม่ให้เดินหนี "ยิ่งเธอต่อต้านแบบนี้อารมณ์ฉันยิ่งขึ้นรู้ไหม สาวน้อย" ชายหนุ่มบีบก้นเธอ หญิงสาวสะบัดแขน แต่ก็ไร้ประโยชน์ "ปล่อยนะ" หญิงสาวเหยีบเท้าเขา แต่เขาไม่หนี "เมื่อคืนยังไม่เข็ดใช่ไหม?" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็ขนลุกรวมถึงเธอด้วย "ปล่อยนะ" "เดี๋ยวฉันทำให้เธอเย็นวูบวาบมันเป็นอย่างไง" ชายหนุ่มกระซิบข้างหู เขาเอากุญแจมือที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง เขาเอาจากห้องมืด เพื่อไว้เล่นกับหญิงสาว แต่ตอนนี้ได้ใช้แล้ว เธอขัดขืน เขาใช้กุญแจมือล็อกมือเธอไว้ด้านหน้า "ปล่อยฉันนะ ไอ้เลว" หญิงสาวตะโกนเสียงดังใส่เขา ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเธอพาดเธอไว้ที่หลัง หญิงสาวทุบเขา เขาเดินมาเปิดประตูห้องออก "พวกมึงก้มหน้าให้หมด ท้าใครมองกูจะยิงทิ้ง" ชายหนุ่มตะโกนดังลั่นตึก "ปล่อยซิ ไอ้บ้า" หญิงสาวว่าเขา ลูกน้องของเขาไม่เคยได้ยินผู้หญิงคนไหนที่จะกล้าว่านายเขาแม้แต่คำเดียว แต่ผู้หญิงคนนี้กล้าดีอย่างไง ถึงกล้าว่านายเขาเช่นนี้ "เงียบชะ" ชายหนุ่มตบก้นเธอเสียงดังลั่น เพราะเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย "โอ้ย...ปล่อยนะ ไอ้เลว" หญิงสาวตะโกนเสียงดัง ชายหนุ่มเปิดห้องทำงานวางหญิงสาวลง เธอมองไปด้านล่างที่เป็นฟิล์มสีดำ คนด้านบนเห็นคนด้านล่าง แต่คนด้านล่างไม่สามารถมองเห็นได้ ในกาสิโนนี้มีคนเล่นการพนัน เห็นผู้หญิงรูปร่างดี รูดเสาอยู่สองคนคนละเสา พวกเธอใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน มีพนักงานเดินไปเดินมาคอนเสิร์ฟน้ำและอาหาร มีหญิงสาวใส่ผ้าน้อยชิ้นนั่งบริการลูกค้า "อยากไปร่วมวงเต้นรูดเสาด้วยเหรอ" ชายหนุ่มถามเธอ "ปล่อยฉัน" หญิงสาวหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา "ไม่ง่ายหรอกสาวน้อย" ชายหนุ่มยิ้มร้าย "ไอ้เลว" "ด่าให้พอใจเลย วันนี้เธออยู่กับฉันทั้งวัน" ชายหนุ่มลูบไล้เรือนร่างของเธอ "ไอ้เลว" หญิงสาวตะโกนใส่เขาอีก "ชอบเสียงดังจังนะสาวน้อย มานี่ ฉันจะให้เธอยืนตะโกนทั้งวันเลย" ชายหนุ่มจับแขนเธอพาเธอเดิน "จะพาฉันไปไหน" ชายหนุ่มดึงเธอมาที่คานเอากุญแจมือที่อยู่ตรงคานใส่กุญแจตรงกลางที่เธอใส่อยู่ "ยืนแบบนี้ไปเลย ถ่างขาออกด้วย" ชายหนุ่มยิ้มให้เธอ "ไม่" หญิงสาวขาชิดกัน ชายหนุ่มยิ้มเดินออกไปจากห้อง สักพักเดินเข้ามาพร้อมกับตัวหนีบที่เชื่อมกับปลอกคอหนัง หญิงสาวมองด้วยความหวาดกลัวในใจ "มันจะทำให้เธอเสียวจนเธอครงดังๆ เลยทีเดียว...อ่าส์" ชายหนุ่มยิ้ม เดินมาที่ด้านหลังของเธอ "จะทำอะไร" หญิงสาวถามด้วยความหวาดกลัว เขาใส่ปลอกคอสีดำ เดินมาด้านหน้าเธอ เอาตัวหนีบ หนีบบนอกเธอ หญิงสาวเม้นริมฝีปากไม่ได้ร้องออกมา เขามองใบหน้าเธอยิ้มชั่วร้าย หนีบอีกข้าง "โอ๊ย....." หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บ "เธอกล้าตะโกนด่าฉันต่อหน้าลูกน้อง มันต้องเจอแบบนี้ ยืนไปจนกว่าฉันจะเลิกงานออสเตนก้าวเดินเข้ามาในห้อง เฮนรี่ก้าวเดินเข้ามา เฮนรี่มองในห้องของตนด้วยความแปลกใจ เพราะเขาไม่เห็นอะไรเป็นพิเศษ จึงเอ่ยถามเธอด้วยความสงสัย“ไม่เห็นมีอะไรเลยที่รัก คุณจะให้ผมดูอะไรครับ” เฮนรี่เอ่ยถามเช่นนี้ เธอจึงเลิกผ้าปูที่นอนขึ้น ทำให้เขาประหลาดใจ เขามองเห็น โซ่ แส้ กุญแจมือ และท่อเทเลสกอปิก ที่เขาเคยเล่นกับเธอเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เขาถึงกับทึ่งอย่างบอกไม่ถูก ภรรยาของเขาเธอเหนือความคลาดหมายจริงๆ เขาจึงเอ่ยถามเธอ ขณะที่มองของเหล่านี้ “คุณอยากเล่นอันไหน” เขาเอ่ยถามจบแล้วหันมาหาเธอ ทำให้เขาตกตะลึงกว่าเดิมอีก เธอสวมใส่ซีทรูสีขาวบางเบาจนเห็นหัวของอกอวบอิ่มที่เอ่อล้น เพราะเธอดูมีน้ำมีนวลมากกว่าแต่ก่อน ไม่ได้ผอมบางและไม่อ้วนจนเกินไป เขาเห็นแล้วจึงเผยยิ้ม มองด้านล่างของเธอใส่จีสตริงซีทรูไข่มุกสีขาว ไร้ขนรำไร“ฉันอยากเล่นอันนี้” เธอเอ่ยถามแผ่วเบา น้ำเสียงของเธอเร่าร้อนจนเขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มองเห็นเธอที่ถือเทเลสกอปิกส่งให้เขา เขาจึงรับไว้“ออสเตน คุณรู้ไหมว่ามันมีไว้ทำอะไร” เขาเอ่ยแผ่วเบา“มันมีไว้ทำอะไรคะ” เธอเอ่ยถามแผ่วเบา“อยากรู้ใช่ไหม”“ค่ะ” ออสเตนกัดริมฝีที่แต่งแต้มด้วยสีนู้ด
ออสเตนก้าวเข้ามาในห้อง เธอมายืนตรงหน้ากระจก เฮนรี่เดินมาด้านหลังเธอ รูดซิปชุดเดรสจากด้านหลังจนชุดลงมากองด้านล่างอย่างรวดเร็ว เขาจูบลงที่ไล่และซอกคอทันที และมือของเขาขยำลงที่ใต้ราวอกอวบอิ่มของเธออย่างเป็นเจ้าของ แล้วเขาจึงจับเธอหันกลับมา เธอจึงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาทันที เขาจึงรีบปลดเข็มขัดและกางเกงสแล็คลงมาทันที ขณะที่เธอถอดเสื้อเขาจนเสร็จแล้ว เขาจึงช่วยเธอเอาเสื้อของตนออก เธอชอบสัมผัสบนอกแกร่งที่อุดมไปด้วยซิกแพกที่แข็งจนเป็นไต ทันใดนั้นเขาจึงสอดความเป็นชายเข้าไปในตัวเธอทันที ทำให้เธอสะดุ้งด้วยความตกใจ“อา..อ่าส์...”เขาจับเรียวขาของเธอพาดกับแขนแกร่งของเขาและขยับเร็ว รุนแรง และดุดัน ออสเตนกรีดร้องด้วยความเจ็บหน่วง เธอเอามือยันโต๊ะ จนปัดเครื่องสำอางราคาแพงตกหล่นลงไปหลายชิ้นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดยั้งแต่อย่างใด เขาเธอจึงโอบไหล่ของเขา เฮนรี่จึงยกตัวเธอเดินไปชิดเสากลางห้อง หญิงสาวใช้มือข้างหนึ่งจับเสาไว้ อีกข้างหนึ่งจับไหล่เขาไว้ เขาจึงจูบที่ริมฝีปากเธอที่หอบกายใจอยู่ด้วยความเจ็บปนเสียว แล้วมาจูบที่ซอกคอหอมกรุ่น เพราะประโคมน้ำหอมราคาแพงทั้งร่างกาย ด้านล่างนั้นยังขยับไม่หยุดยั้ง เธอ
เมื่อเราอยู่ด้วยกันสองคน เฮนรี่จับมือเรียวของเธอแนบแน่น ออสเตนยิ้มให้เขาด้วยความรัก และเทิดทูนเฮนรี่ผู้เป็นสามี เฮนรี่หันมาหาเธอและเอ่ยบอก“ผมรักคุณนะ”“ฉันก็รักคุณค่ะ เฮนรี่” ออสเตนยิ้มให้เขาแล้วจูบที่หัวไหล่เขาเบาๆ เป็นรอยลิปสติกสีแดงสด“ตีตราจองใช่ไหม” เฮนรี่ยิ้มให้เธอ“ฉันจะล่ามโซ่คุณไม่ยอมปล่อยเลยทีเดียว” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ผมคือของตายของคุณ”“มันควรเป็นเช่นนั้น” เธอเอ่ยบอกมองหน้าเขา เฮนรี่จะจูบกลับเธอ แต่เธอหันหน้าหนีก่อน“จะทำอะไรควรไปทำที่บ้านนะ”“ได้” เฮนรี่เอ่ยบอกเธอ แล้วกดโทรศัพท์หาบอดี้การ์ดที่กำลังขับรถให้เขา“รับไวหน่อย”“ครับท่าน”เฮนรี่กดวางสายทันที ออสเตนมองเขาด้วยความสงสัยว่าเหตุใดต้องโทรศัพท์หาบอดี้การ์ดทั้งที่อยู่ในคันเดียวกัน“ทำไมคุณต้องโทรหาพวกเขาด้วย แค่บอกก็ได้”“พวกเขาไม่ได้ยินหรอก เพราะพวกเขาใส่หูฟัง” เฮนรี่เอ่ยบอก เธอจึงมองบอดี้การ์ดผ่านกระจกหนา ที่ปิดอยู่ตรงหน้า เป็นจริงอย่างที่เขาบอก พวกเขาใส่หูฟังกันจริงๆ แต่ไม่ทันที่เธอจะคิดอะไรต่อ เฮนรี่มุดเข้าไปในกระโปรงบางฟูฟ่องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ แต่ตอนนี้เขาซีสตริงเธอออก แล้วเขาใช้จมูกโด่งเป็นสันไล่
ออสเตนเธอก้าวเดินเข้ามาในมายังคฤหาสน์ของวิลเลี่ยม ส่วนเฮนรี่กลับไปยังคฤหาสน์ของเขา เพราะที่นั่นมีปาร์ตี้ สละโสดของเขาเช่นกัน วิลเลี่ยมพี่ชายของเธอก็ไปที่นั่นด้วย เธอทอดมองว่าคฤหาสน์ทั้งหลังปิดไฟทั้งหมดเธอจึงนึกสงสัย คงคิดว่าคงมีเซอร์ไพรส์อะไรแน่ๆ พอเดินก้าวเข้าไปยังตัวตึก ทันใดนั้นไฟก็เปิดสว่าง“ปาร์ตี้สละโสด ยินดีกับว่าที่เจ้าสาวคนใหม่” เจนเอ่ยขึ้นทันที พร้อมกับเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันมาและเป็นเพื่อนสนิทที่จะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอประมาณอีกแปดคน รวมเจนเป็นเก้าออสเตนตกใจไม่น้อยที่บ้านของเธอเต็มไปด้วยลูกโป่ง ดอกกุหลาบ ตบแต่งได้อย่างสวยงาม ส่วนพวกเธอพร้อมใจที่จะใส่สีชมพู เป็นสีที่เธอชอบอย่างมาก ทันใดนั้นเจนจึงลากเธอมา ถ่ายรู้ มาเล่นนู่นเล่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขอย่างมาก แต่เธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง เธอคิดว่าเฮนรี่กำลังทำอะไรอยู่ขณะที่เธอมีความสุขกับเหล่าเพื่อนๆ“คิดถึงเขาเหรอ” เจนเอ่ยถามเธอ ขณะที่เธอนั่งเล่นที่ริมสระ กับเหล่าเพื่อนๆ“คิดถึง แต่ต้องปล่อยซาตานไปสักวัน”“พรุ่งนี้ก็เจอในพิธีแล้วนะ และเธอคือเจ้าสาวที่สวยที่สุด”“แล้วเรื่องของเธอล่ะ” ออสเตนเอ่ยถามเร
ออสเตนก้าวจากรถลัมโบกินนีคันเก่งที่เขาใช้บ่อยที่สุด มันเป็นคนที่ดำที่เขารักมาก จากรถที่มีทั้งหมดสิบคัน เธอหันไปมองที่ตึกหลังที่ปิดไฟมืดสนิท ทั้งที่เป็นห้องของพวกผู้หญิงของเขา เธอจึงหันมาหาเขาด้วยความแปลกใจและอยากจะถาม แต่เขาทำให้เธอแปลกใจโดยการ ส่งช่อกุหลาบสีแดงหลายสิบดอก เธอคิดว่าอาจถึงร้อยเขายิ้มให้เธอ“ต้อนรับกลับบ้าน” เฮนรี่เอ่ยบอกเธอด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณ” เธอยิ้มให้เขา“ไม่มากไปหรอก เพราะมันน้อยกว่าความรักที่คุณมีให้ผม ขอบคุณนะที่คุณเสี่ยงตายเพื่อผม”“ฉันรักคุณแล้ว ฉันจึงไม่อยากเสียคุณไป”“ขอบคุณมาก” เฮนรี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นให้เธอได้ยิน“เฮนรี่ ฉันมีคำถาม”“ว่ามา ที่รัก”“ทำไมตึกหลังถึงปิดไฟล่ะ ทุกทีเปิดไฟครึกครื้นทุกคืน” ออสเตนมองตึกหลังอีกครั้ง“พวกเธอไปแล้ว” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“พวกเธอไปไหน” เธอเอ่ยถาม“ผมให้เธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยให้เงินเธอไปเล็กน้อย น้อยแบบเธอไม่ต้องทำมาหากินไปห้าปีเลยทีเดียว ผมไม่อยากให้พวกเธอมาอยู่ในบ้านอีกต่อไป ขณะที่เราจะแต่งงานกัน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม“ใครเขาแต่งงานกับคุณ ฉันยังไม่เคยบอกว่าจะแต่ง” ออสเตนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เฮนร
เฮนรี่จับเรียวขาเธอขึ้นหนึ่งข้างแล้วจูบที่เรียวขาของเธอทันที หญิงสาวจับไหล่กว้างเอาไว้ เขาจึงจับความเป็นชายเข้าไปในตัวของเธอทันที โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว เธอกรีดร้องออกมา เขาจึงประกบริมฝีปากเธอไม่ให้เธอกรีดร้องออกมา กลัวว่าบอดี้การ์ดของวิลเลี่ยมจะได้ยิน และที่สำคัญในตัวเขาเปลือยเปล่าเช่นนี้ ไม่มีปีนที่จะต่อสู้กับใครออสเตนเคลิบเคลิ้มกับการเล้าโลมและสอดใส่ในเวลาเดียวกัน เธอครางหนักๆ ในลำคอด้วยความเสียวกระสันอย่างที่สุด เขาเอาเรียวขาเธอทั้งสองข้างมาไว้ที่บั้นเอวหนา เธอมีอารมณ์ร่วมกับเขาเช่นกัน จึงกดตัวเข้าหาความเป็นชายจนสุดลำ แล้วนิ้วมือจิกลงบนบ่าของเขาด้วยความเจ็บปวดปนเสียว เธอคับแคบสำหรับเขามากมาย ทุกครั้งเธอจะรู้สึกเจ็บปวดเรือนร่างจนเกร็งตัว แต่เขากลับสอดใส่อย่างบ้าคลั่ง ทำเอาเธอโยกไปตามแรง เขานี่ก็ช่างกระไร ทั้งที่เมื่อวานยังสอดใส่เข้าหา วันนี้กลับบ้าดีเดือดกว่าเมื่อวาน อาจเป็นเพราะเขาคิดถึงเธอทุกวินาที จนอยากจะอยู่กับเธอทุกช่วงเวลาของชีวิต ตอนนี้เขารู้สึกว่าจะขาดเธอไปไม่ได้อีกแล้ว สิ่งเดียวในชีวิตของเขาในตอนนี้คือเธอที่กำลังถึงจุดความสุขหฤหรรษ์ ทั้งสองปลดปล่อยเข้าหากันและหัน จนเ







