Mag-log inตอนที่3
วันนี้หลังจากที่เสร็จพิธีต่างๆ อนงค์นางก็ต้องย้ายมาอยู่กับภูริชที่บ้านของคุณหญิงกาบแก้วเลย แต่ก็ยังแยกห้องนอนกันอยู่เพราะอนงค์นางเองก็ยังไม่ชินที่จะต้องอยู่ร่วมห้องกับเขา ถึงจะได้ชื่อว่าสามี และเธอเองก็ทำใจกับเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่ตกปากรับคำของคุณหญิงกาบแก้วเรื่องให้แต่งงานกับภูริชก็ตาม แต่เธอก็ไม่ชินอยู่ดีที่จะต้องอยู่ร่วมห้องกับเขา ที่ก็ยังคงเป็นเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเธออยู่ดี และก็โชคดีที่คุณหญิงกาบแก้วเองก็เข้าใจ และยอมทำตามที่อนงค์นางขอ
“ได้เป็นสะใภ้บ้านนี้สมใจแล้วละสิ!” เสียงของแขกที่ไม่ได้รับเชิญดังขึ้น แถมยังไม่เคาะประตูห้องก่อนจะเข้ามาอีก ทำเอาอนงค์นางถึงกับมองหน้าภูริชอย่างตำหนิ กับความไร้มารยาทของเขา ถึงที่นี่จะเป็นบ้านของเขา แต่ภูริชก็ไม่ควรที่จะเข้าห้องของคนอื่นโดยไม่เคาะประตูแบบนี้
“ครั้งหน้าช่วยเคาะประตูด้วยนะคะ” อนงค์นางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหันไปจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเก็บเข้าที่
“ทำไม? ที่นี่มันบ้านฉัน ฉันจะเข้าห้องไหนมันก็สิทธิ์ของฉัน”
“นางรู้ค่ะว่าที่นี่คือบ้านของคุณภู แต่โดยมารยาท คุณภูก็ควรจะเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องของคนอื่น”
“นี่เธอหาว่าฉันไม่มีมารยาทเหรอ?” ภูริชเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กอย่างฉุนจัด ที่ถูกอีกฝ่ายต่อว่าแบบนี้
“ค่ะ ตามที่คุณภูได้ยินนั่นแหละ” อนงค์นางยังคงตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ไม่ต่างจากใบหน้าหวานที่ไม่แสดงอาการใดๆ
“อย่าคิดว่าเป็นคนโปรดของคุณแม่ แล้วจะทำอะไรก็ได้นะอนงค์นาง เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นได้แค่ผู้อาศัยในบ้านหลังนี้เท่านั้นแหละ”
“นางทราบดีค่ะ ว่าอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะอะไร” พูดจบก็หันไปจัดข้าวของจำพวกหนังสือที่เธอมักจะเอาไว้อ่านเล่นที่หยิบติดมาด้วย วางเรียงไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ทำราวกับภูริชไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ ส่วนคนที่ถูกเมินก็ได้แต่หงุดหงิดที่ถูกอีกฝ่ายทำอย่างกับเขาเป็นเพียงอากาศ
“อ้อ แล้วฉันก็จะบอกเธอเอาไว้ด้วย ว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว เธอก็เป็นได้แค่เมียตามกฎหมาย ที่จะไม่มีวันได้ความสนใจจากฉัน”
“คุณภูหมดธุระแล้วใช่มั้ยคะ นางขออยู่คนเดียวได้มั้ยคะ?” อนงค์นางหันมาบอกกับเขา ที่เอาแต่พูดปาวๆ ตั้งแต่ย่างกายเข้ามาในห้อง คนที่ถูกไล่ถึงกับเดือดจัด ได้แต่เดินออกไปจากห้องอย่างหงุดหงิด
ฝากไว้ก่อนเถอะ!
หลังจากที่ภูริชออกจากห้องไปแล้ว อนงค์นางเพียงถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ นี่สินะที่เธอจะต้องเจอตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ แต่ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าจะต้องเจอคำพูดมากมายจากเขา เธอก็ต้องรับมันให้ได้
เพราะที่เธอยอมแต่งงานก็เพราะคุณหญิงกาบแก้ว ผู้ที่มีพระคุณต่อเธอและครอบครัวอย่างล้นเหลือ ถ้าไม่มีคุณหญิง เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้คดีที่พ่อของเธอถูกรถชนจนเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน จากรถของคู่กรณที่มีอิทธิพลของจังหวัด และไหนจะคอยส่งเสียเธอจนเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากพ่อเธอที่เป็นเหมือนเสาหลักได้จากไป มิหนำซ้ำคุณหญิงยังใจดีจะช่วยส่งเสียน้องชายของเธอเรียนมหาวิทยาลัยต่ออีก แต่เรื่องนี้เธอขอที่จะเป็นคนส่งน้องชายเรียนต่อเอง เพราะเธอเองก็เรียนจบแล้ว ไม่อยากที่จะรบกวนคุณหญิงไปมากกกว่านี้ ถึงแม้ทางคุณหญิงจะเต็มใจช่วยเหลือก็ตาม
ช่วงเย็นอนงค์นางลงมาช่วยแม่บ้านทำอาหารอยู่ในครัว ถึงป้านิดจะพยายามห้ามแต่คนตัวเล็กก็ยังดื้อที่จะขออยู่ช่วย นั่นเป็นเพราะปกติเวลาอยู่ที่บ้าน เธอก็มักจะชอบเข้าไปช่วยแม่ครัวของบ้านทำอาหารอยู่เป็นประจำ แล้วอนงค์นางเองก็เรียนจบด้านอาหารมาด้วย จึงชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
“เข้ามาทำอะไรในครัวละหนูนาง” คุณหญิงกาบแก้วได้ยินเสียงพูดคุยในครัวจึงเดินเข้ามาดู ถึงได้เห็นว่าลูกสะใภ้เข้ามาช่วยแม่ครัวทำอาหารอยู่ในครัวนี่เอง
“นางมาช่วยป้านิดทำอาหารค่ะ”
“นิดห้ามก็ไม่ฟังค่ะคุณหญิง” ป้านิดแม่ครัวใหญ่ของบ้าน รีบฟ้องคุณหญิง หลังจากที่พยายามห้ามแล้วแต่อนงค์นางยังยืนยันที่จะขอช่วย แต่ก็อดที่จะเอ็นดูหญิงสาวไม่ได้ ที่เป็นเด็กสมัยใหม่แต่กลับชอบเข้าครัวทำอาหาร และก็ไม่ถือตัวด้วยที่เป็นถึงลูกสะใภ้ของคุณหญิง แต่กลับมีความเคารพป้านิดที่เป็นเพียงแม่ครัวของที่นี่เท่านั้น
“เอาเถอะ ถ้าหนูนางอยากทำแม่ก็ไม่ห้ามเพราะแม่รู้ว่าหนูนางชอบทำอาหารใช่มั้ยล่ะ” อนงค์นางยิ้มรับ ดีใจที่กาบแก้วอนุญาต
“ขอบคุณนะคะคุณแม่” อนงค์นางยกมือไหว้แม่สามี
“แล้ววันนี้ทำอะไรทานล่ะแม่นิด” คุณหญิงหันไปถามแม่ครัวของบ้าน
“วันนี้มีกุ้งทอดเกลือ กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา แล้วก็แกงจืดเต้าหู้ค่ะคุณหญิง”
“ดีเลย ฉันกำลังอยากกินกุ้งทอดเกลืออยู่พอดี” คุณหญิงพอได้ฟังเมนูอาหารก็ถึงกับถูกใจ ที่จะได้รับประทานของโปรด
“วันนี้ผมคงไม่อยู่ทานข้าวด้วยนะครับ” เสียงของภูริชเอ่ยขึ้น เมื่อเดินลงมาแล้วเห็นว่าคนเป็นแม่ รวมทั้งภรรยาของตัวเองไปรวมตัวอยู่ที่ห้องครัวกันหมด
“แกจะไปไหนล่ะตาภู?” คุณหญิงหันไปถามลูกชายอย่างไม่พอใจ ที่จะออกไปข้างนอก ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันแรกที่อนงค์นางมาอยู่ที่นี่ แทนที่จะทำตัวเป็นสามีที่ดีอยู่ทานข้าวเย็นกับเธอ แต่กลับจะหนีออกไปข้างนอกเสียอย่างนั้น
“จะออกไปทานข้าวกับลิสาครับ” ภูริชตอบหน้าตาเฉย ถึงเขาจะแต่งงานกับอนงค์นางแล้วก็จริง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลลิสาก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่ดี
“แกจะออกไปหาแม่นั่นอีกทำไม? อย่าลืมนะว่าแกแต่งงานกับหนูนางแล้ว”
“ผมแต่งงานแล้วก็จริง แต่ผมก็มีสิทธิ์ที่จะออกไปทานข้าวนอกบ้านนี่ครับ” เขาพูด มองไปที่คนตัวเล็กอย่างไม่รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง ในขณะที่อนงค์นางกลับมีสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่ได้รู้สึกอะไรกับการกระทำที่ไม่เห็นความสำคัญของเธอจากภูริชเลยสักนิด
“ลูกสะใภ้คุณแม่เขายังไม่ว่าอะไรเลยนี่ครับ จริงมั้ย?” เมื่อเห็นว่าอีกคนทำเป็นนิ่ง ภูริชจึงแกล้งพูดเพื่อยั่วโมโหด้วยการหันไปถามความเห็นจากเธอ
“ค่ะ เชิญคุณภูตามสบาย” อนงค์นางพูดแค่นั้น แล้วก็หันไปสนใจช่วยป้านิดทำอาหารต่อ
คนที่ถูกเมินเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ถึงกับหน้าตึง เดินออกจากห้องครัวไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
ตอนที่15วันนี้ครอบครัวของภูริชกับอนงค์นางพากันมาพักผ่อนตากอากาศที่ทะเล ซึ่งเป็นบ้านพักของคุณหญิงกาบแก้วเอง และถือเป็นการมาฮันนีมูนระหว่างภูริชกับอนงค์นางไปด้วยเลย เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมาตั้งหลายเดือนทั้งคู่ยังไม่มีเวลาออกมาเที่ยวพักผ่อนด้วยกันเลยสักที ครั้งนี้เลยถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งสองครอบครัวจะได้มาเที่ยวพักผ่อนด้วยกันช่วงค่ำก็จะมีการจัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมชายหาดบริเวณหน้าบ้านพัก โดยมีป้านิดแม่ครัวของบ้านตามมาทำอาหารให้เจ้านายที่ทะเลด้วย หลังจบมื้ออาหารริมทะเลในช่วงค่ำและนั่งพูดคุยกันนิดหน่อย คุณหญิงกาบแก้วและประไพ ต่างก็พากันกลับห้องไปพักผ่อน เหลือเพียงภูริชกับอนงค์นางที่ยังนอนเล่นอยู่ที่ม้านั่งริมระเบียงหน้าบ้านต่อ“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” อนงค์นางมองไปที่ท้องฟ้า ที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งหาดูแบบนี้ไม่ได้แล้วที่ในเมื่องหลวง ที่เต็มไปด้วยแสงไฟยามค่ำคืน“นางชอบที่นี่มั้ย?” เขาเอ่ยถามคนที่อยู่ในอ้อมกอด“ชอบค่ะ ที่นี่อากาศดี แล้วทะเลก็สวยมากด้วย” เธอชอบบ้านพักหลังนี้มาก เพราะมันอยู่ติดทะเล มีชายหาดให้เดินเล่น และมานั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า“ถ้านางชอบ พี่จะพามาอีกบ่อยๆ นะ”“ขอบคุ
ตอนที่14หลังจากที่หายออกไปจากชีวิตของภูริชเป็นเดือน อยู่ๆ ลลิสาก็โทรมาขอนัดเจอกับเขาอีกครั้ง ภูริชบอกเรื่องที่ลลิสาโทรมาขอนัดทานข้าวให้อนงค์นางรู้ เพราะถ้าเธอไม่เต็มใจที่จะให้เขาออกไปพบลลิสาเขาก็จะไม่ออกไป ถึงทางนั้นจะแค่ต้องการที่จะขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น จนทำให้ภูริชถูกทำร้ายในคืนนั้นก็ตาม และภูริชเองก็บริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดกับลลิสาเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งอนงค์นางเองก็ยอมที่จะให้สามีออกไปพบกับคนรักเก่า เพราะเธอเองก็เชื่อใจว่าเขาจะไม่กลับไปคืนดีกับลลิสาอย่างที่บอกเอาไว้ และเธอก็คิดว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจเหมือนที่ธาดาเคยทำกับเธอมาแล้วอีกครั้งภูริชออกไปตั้งแต่บ่าย จนเวลานี้ก็สองทุ่มกว่าแล้วคนเป็นสามีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา ถึงใจหนึ่งเธอจะไว้ใจเขา แต่อีกใจหนึ่งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าภูริชกับลลิสาที่เคยเป็นคนรักกันมาก่อนจะหวนกลับไปคืนดีกันหรือเปล่าเพราะทั้งคู่ก็คบหากันมาก่อนเธอที่เพิ่งจะแต่งงานกับเขาได้ไม่กี่เดือน ความผูกพันระหว่างภูริชกับลลิสาย่อมมีมากว่าเธออยู่แล้วหรือเธอควรที่จะต้องทำใจและยอมรับ ว่าเมียแต่งที่ไม่ได้เกิดจากความรักตั้งแต่แรกอย่างเธอ คงจะสู้คนรักเก่าที่มีความ
ตอนที่13ภูริชประทับจูบลงที่เรียวปากอวบอิ่มอย่างลุ่มลึก อนงค์นางเองก็ตอบสนองการทักทายของเขาด้วยปลายลิ้นนุ่มลื่นอย่างดูดดื่ม ภูริชกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม มือของเขาพยายามที่จะจัดการกับเสื้อผ้าที่มันขวางกั้นของอนงค์นางออกเมื่อเสื้อผ้าของอนงค์นางถูกปลดไปกองรวมที่พื้น ร่างเปลือยเปล่าที่อยู่ตรงหน้าช่างงดงามยิ่งนัก ส่วนเว้าส่วนโค้งช่างน่าหลงใหลและน่าสัมผัสไปทุกส่วนดวงตาคมลุกวาว มองสำรวจสัดส่วนของคนตรงหน้าทุกซอกทุกมุม ก่อนที่จะดึงร่างเปลือยเปล่าของเธอให้นอนราบลงกับที่นอน แล้วร่างสูงก็ทาบทับตามลงมา อนงค์นางรู้สึกเขินจนหน้าแดงก่ำ เมื่อมือไม้ที่ซุกซนของเขาลูบไล้ไปมาบนเรือนร่างของเธออย่างเพลิดเพลิน เรียวปากหยักได้รูปซุกไซ้อยู่บนคอระหง อารมณ์ของเขาตอนนี้โหยกระหายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยอดประทุมสีชมพูเข้มตั้งชูชันทักทายปลายลิ้นร้อน เขาดูดดื่มมันอย่างเมามัน ปลายนิ้วค่อยๆ แตะสัมผัสไปยังเนินสามเหลี่ยมของเธอ อนงค์นางครางออกมาอย่างยากที่จะเก็บเสียงเพลิงสวาทนั้นได้ เมื่อถูกปลายนิ้วกระดิกหยอกล้อไปมาบนเกสรของเธอ จนน้ำหวานไหลชุ่มฉ่ำล่อแมลงให้เข้ามาชอนไช“ไว้ใจพี่นะ พี่จะทำให้เบาและนุ่มนวลที่สุด” ภูริชเอ่ยใ
ตอนที่12วันนี้ภูริชต้องไปดูแลลูกค้าที่มาจากจีนแทนคุณหญิงกาบแก้ว โดยที่คุณหญิงให้อนงค์นางไปกับเขาด้วย ทั้งคู่พาลูกค้ามาเลี้ยงที่ผับดังแห่งหนึ่ง และที่นี่ภูริชก็เจอเข้ากับลลิสาโดยบังเอิญ เธอมากับรัฐมนตรีที่จองห้องวีไอพีเอาไว้เหมือนกัน แต่ลลิสาไม่เห็นภูริช เพราะมัวแต่เอาใจคนอายุมากที่เธอมาด้วยภูริชเมื่อเห็นการกระทำที่สนิทสนม และแนบชิดกันระหว่างลลิสากับคนแก่คราวพ่อนั่นก็มีอาการไม่พอใจ แต่ก็เข้าไปหาลลิสาไม่ได้เพราะมีลูกน้องของรัฐมนตรีคอยคุมอยู่หน้าห้อง จนสุดท้ายเขาก็หมดความอดทน บุกเข้าไปหาลลิสาถึงในห้อง และสิ่งที่เขาเห็นคือลลิสากำลังกอดจูบอยู่กับคนแก่คราวพ่อ ความผิดหวังทำให้เขาถึงกับต้องเดินหนีออกมา เพราะทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ไหว ซึ่งคนที่อยู่ในห้องก็ไม่ทันได้เห็นว่าภูริชบุกเข้ามาอนงค์นางตามคนเป็นสามีออกมาเพราะความเป็นห่วง กลัวว่าความโกรธจะทำให้เขาทำอะไรแผลงๆ ขึ้นมา แต่ภูริชกลับแค่ออกมานั่งดื่มเหล้าเงียบๆ ที่บาร์ด้านนอกแทน“คุณภูคะ คุณโอเคหรือเปล่า?” อนงค์นางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง คนที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม“ฉันไม่เป็นอะไร เธอเข้าไปดูแลลูกค้าเถอะ เดี๋ยวฉันตามเข้าไป” ภูริชบอก เพราะทิ้งลูกค้าออก
ตอนที่11ภูริชกลับมาที่ห้องของตัวเอง แล้วก็ได้แต่คิดว่าเขาทำรุนแรงกับอนงค์นางไปหรือเปล่า ต่อให้เธอจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยา แต่เขาก็ไม่ควรที่จะทำอะไรกับเธอแบบนั้น ทั้งๆ ที่เธอเองก็ไม่ได้เต็มใจ ถึงมันจะแค่จูบก็เถอะแต่พอนึกถึงสัมผัสนั้นขึ้นมาเขากลับรู้สึกพอใจ และหลงใหลกับจูบของเธอ เพราะแค่หลับตาเขาก็คิดถึงแต่สัมผัสนั้นของเธออยู่ตลอด ทั้งที่เขาไม่ควรที่จะรู้สึกแบบนี้กับใครนอกจากลลิสาและพอนึกถึงลลิสา เธอก็โทรเข้ามาหาเข้าพอดี ภูริชถึงได้หลุดจากความคิดระหว่างเขากับอนงค์นาง“ครับลิสา”“ทำไมภูหายไปเลยล่ะคะ ไม่มาหาลิสาเลย” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน“พอดีคุณแม่เพิ่งกลับมาน่ะครับ แล้วผมก็ยุ่งมากด้วยเลยไม่ได้ไปหาคุณ”“ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ภูมาค้างกับลิสานะคะ ลิสาคิดถึงคุณค่ะ”“คงจะไม่ได้หรอกครับ ช่วงนี้คุณแม่จับผิดผมอยู่ แล้วท่านก็รู้เรื่องที่ลิสามาค้างกับผมที่บ้านด้วย ช่วงนี้เราอาจจะต้องห่างกันสักพักนะครับ”“แต่ลิสาคิดถึงคุณนะคะภู”“ผมก็คิดถึงคุณครับ แต่เพื่ออนาคตของเราผมว่าเราอย่าทำให้คุณแม่โกรธจะดีกว่านะ”“ก็ได้ค่ะ แต่คุณต้องสัญญานะคะว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของคุณ ระหว่างที่เราห่างกัน”“ผมสั
ตอนที่10อนงค์นางกลับมาพร้อมกับภูริช แต่พอมาถึงบ้านเขาก็ยังไม่เลิกพูดจาหาเรื่องเธอ“อนงค์นาง! อย่าเดินหนีฉันแบบนี้” ภูริชเดินตามขึ้นมาถึงบนห้องส่วนตัวของภรรยา เพราะเรื่องที่เขาคุยกับเธอบนรถมันยังไม่จบ“นางไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณภูค่ะ”“ทำไมจะไม่มี ที่เธอเคยบอกว่าแต่งงานกับฉันเพราะเธอไม่ได้คิดที่จะรักฉัน มันหมายความว่ายังไง?”“นางไม่ได้พูดสักหน่อยว่าที่แต่งงานเพราะไม่ได้รักคุณภู ก็วันนั้นคุณภูเป็นคนพูดเองว่านางไม่มีหัวใจ นางก็แค่บอกว่าที่ยอมแต่งงานกับคุณภู เพราะคิดว่าคงจะไม่ได้ใช้หัวใจต่างหาก” อนงค์นางอธิบายกับเขา“นั่นแหละ! แล้วมันต่างกันตรงไหน ที่เธอบอกว่าไม่มีหัวใจ เพราะเธอให้กับไอ้แฟนเก่านั่นไปแล้วใช่มั้ยล่ะ?” เขาถามออกไปอย่างหงุดหงิด ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องหงุดหงิดเมื่อต้องพูดถึงแฟนเก่าของเธอ“ค่ะ นางให้ธาดาไปแล้ว และเขาก็ทำลายมันไปแล้วด้วย นางถึงยอมแต่งงานกับคุณภู เพราะนางไม่คิดที่จะมีความรักให้กับใครได้อีก” เพราะความรักของเธอมันได้ตายไปตั้งแต่วันที่ธาดานอกใจเธอแล้วอนงค์นางมองเขาด้วยแววตาที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ ทั้งนั้น แต่มันกลับทำให้คนฟังรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่







