ถ้าเกิดอะไรกับหยาดฟ้า ก็ต้องมีญาติพี่น้องฝั่งนั้นโผล่หัวมาในงานบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย ฉันกลัวว่าจะเป็นอย่างอื่นนะสิงามตา” สุจิราบอกด้วยความร้อนใจ
“แล้วจะเอายังไงดีคะ นี่ก็เลยฤกษ์ไปมากแล้วด้วย”
“งามตาไปถามสรัลสิว่าโทรหาหนูหยาดฟ้าติดหรือยัง ได้ความยังไงมาบอกฉันด้วย”
“ค่ะคุณสุ” งามตารีบเดินไปยังห้องพักที่มีคุณสรัลอยู่ในห้องทันที
พอเข้าไปในห้องก็เห็นสรัลเอาแต่ร้องไห้ พลางมองโทรศัพท์ของตนเองไปด้วย
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะคุณสรัล”
“ไปตามแม่มาหาผมที่ครับป้างามตา”
“ได้ค่ะ ๆ” แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่งามตาก็รีบวิ่งออกไปหาสุจิราทันที พองามตาไปบอกสุจิราว่าสรัลเรียกให้ไปหา พร้อมรายงานในสิ่งที่ตนเห็น สุจิราก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาลูกชายทันที
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันสรัล” แม่เข้ามาในห้องก็ถามด้วยความร้อนใจ ในตอนที่สุจิราเข้ามา แพรววนิตเลขาของเขาก็อยู่ในห้องด้วย ทำให้แม่แปลกใจเข้าไปใหญ่ แถมนังเลขาที่แม่ไม่ค่อยชอบหน้ายังยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าของสรัลลูกชายของเธอด้วย
“หยาดฟ้าไม่แต่งงานกับผมแล้วครับแม่”
“ทำไมกันสรัล”
“ก็เพราะเลขาหน้าด้านของผมไงแม่ ที่จ้องจะจับผม ปากบอกไม่ต้องให้รับผิดชอบ แต่ดูสิ่งที่ทำสิ นี่เขาเรียกว่าต้องการให้รับผิดชอบ”
“นี่มันอะไรกัน” สุจิรายังคงไม่เข้าใจ
“แต่แพรวไม่ได้ส่งคลิปนั้นไปให้คุณหยาดฟ้าจริง ๆ นะคะท่านประธาน”
“ไม่ได้ส่งแล้วใครจะส่ง คนที่ได้ผลประโยชน์ที่สุดก็คือเธอไม่ใช่เหรอแพรว” เขาตวาดกลับไป แถมสรรพนามการเรียกเลขาของเขาก็เปลี่ยนไปด้วย
“แพรวไม่ได้ส่งจริง ๆ ค่ะ”
“รังเกียจที่ฉันให้เธอเป็นได้แค่ภรรยานอกสมรสหรือไง อยากจะเป็นเมียแต่งออกหน้าออกตางั้นเหรอ” เขาดึงแขนของเธอมา บีบรัดอย่างแน่น
“โอ๊ย...เจ็บนะคะท่านประธาน” เธอพยายามเอาแขนของเขาที่บีบออกแต่ไม่เป็นผล
“นี่อะไรกัน ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย” สุจิราพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“จะมีอะไรล่ะครับ ก็ผู้หญิงคนนี้เอาเรื่องที่ท้องกับผมไปบอกหยาดฟ้าไง หยาดฟ้าถึงไม่แต่งงานกับผม” เขาบอกแม่ของเขาทั้งที่ยังคงบีบแขนของเธออย่างแรงเหมือนเดิม และมันเหมือนว่าจะแรงมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
“อะไรนะ” สุจิราแทบจะเป็นลม ดีที่งามตาเข้ามาช่วยประคองเอาไว้ได้ แล้วพาไปนั่งที่โซฟา
“นี่ไงครับ หลักฐานที่หยาดฟ้าส่งมา ก่อนที่จะบล็อกผมไป” เขาส่งไปให้แม่ดู งามตาเป็นฝ่ายรับมา แล้วเดินเอาไปให้สุจิราผู้เป็นเจ้านายดู
ในคลิปเป็นภาพที่ทั้งสองยืนคุยกันอยู่ที่ลานจอดรถยนต์ของโรงพยาบาล ยิ่งดูคลิปสุจิราก็ยิ่งจะเป็นลม จนงามตาต้องเอายาดมมาให้สุจิราดมทันที
“เป็นเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม แขกในงานถึงไม่มีฝั่งของหยาดฟ้าเลย”
“แสดงว่าเรื่องนี้หยาดฟ้าต้องรู้ตั้งนานแล้ว ถึงไม่มีแขกฝั่งหยาดฟ้ามางานเลย” เขาหันกลับไปพูดกับแม่
“ก็ใช่นะสิ สรัลทำหยาดฟ้าเสียใจ ไปทำผู้หญิงท้อง เป็นแม่ก็ต้องทำแบบนี้” ถึงปากจะต่อว่าลูกชายแต่สายตาของสุจิราเอาแต่จับจ้องไปยังเลขาของลูกชายที่เป็นตัวตนเหตุในครั้งนี้
“ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“หึ แกคงจะยั่วยวนลูกชายฉันสินะ ถึงทำให้ลูกชายของฉันไปเอากรวดอย่างแกได้”
“แพรวไม่ได้ยั่วยวนนะคะคุณสุ ทุกอย่างแพรวไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ต้องมาพูด แกตั้งใจจับลูกชายของฉัน แล้วแบบนี้จะทำยังไงดี” สุจิราเอ่ยถามอย่างหมดหวังเพราะรู้ว่ายังไงหยาดฟ้าก็ไม่มาแล้ว แม้แต่แขกในงานที่เป็นญาติของหยาดฟ้าก็ไม่มี นี่แสดงว่าหยาดฟ้าเตรียมตัวมาที่จะฉีกหน้าครอบครัวของสุจิราให้ขายขี้หน้า โทษฐานที่ทำให้หยาดฟ้าเสียใจ
“แม่ไม่ยอมให้ยกเลิกงานแต่งงานหรอกนะ แม่ไม่อยากขายหน้า”
“แต่หยาดฟ้าเขาไม่มาแต่งงานกับผมแล้ว จะไม่ยกเลิกได้ยังไงครับแม่”
“ได้สิ ก็ให้เลขาที่ท้องกับแกแต่งงานกับแกแทนไง อยากเป็นนักนี่ภรรยาของท่านประธาน ก็ให้มันเป็นให้สมใจเลย แต่จะเป็นได้แค่ภรรยานอกสมรสเท่านั้นแหละเพราะแม่จะไม่ให้จดทะเบียนสมรสด้วย” สุจิราออกคำสั่ง
“แพรวไม่ได้อยากเป็นภรรยานอกสมรสนะคะ แล้วแพรวไม่ได้อยากแต่งงานกับท่านประธานด้วยค่ะ” เธอบอกทั้งน้ำตา
“คิดว่าที่พูดมาฉันจะเชื่อเหรอ เธอแอบรักฉันมาตั้งนานแล้วนี่ คิดว่าฉันดูไม่ออกหรือไง” เขาดึงแพรววนิตเข้ามาบีบแขนด้วยความโมโหอีกครั้ง
“ใช่ค่ะแพรวแอบรักท่านประธานจริง ๆ แต่แพรวไม่ได้อยากจะครอบครองท่านประธานมาเป็นของตนเองนี่ค่ะ” เธอบอกเขาทั้งน้ำตา
“ไม่ต้องทำมาบีบน้ำตา ฉันไม่เชื่อคำพูดอะไรของเธอแล้วแพรววนิต ยังไงเธอก็ท้องลูกของฉันแล้วก็แต่งงานเป็นภรรยานอกสมรสของฉันไปเลย” เขาลากเธอพาเข้าไปในอีกห้องหนึ่งเพื่อจะได้แต่งตัวเป็นเจ้าสาว
“แพรวไม่แต่งกับท่านประธาน” เธอปฏิเสธ
“ถ้าไม่แต่งอย่าหวังว่าคลอดลูกมาจะได้อยู่กับลูกเลย เธอจะต้องชดใช้ฉันทั้งหมด!”
หนึ่งเดือนที่กลับมาอยู่กับเขาที่บ้าน เขาก็ดีทุกอย่าง ส่วนแม่สามีดีกับเธอมาก ดีจนเธอแทบจะตกใจ และตอนนี้เธอกับเขาก็ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อแม่สามีจัดหาฤกษ์หายามให้เธอกับเขาไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วจะไปสู่ขอเธอจากแม่ของเธอด้วย แต่แพรววนิตห้ามเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากจะไปตอนนี้ รอให้คลอดลูกออกมาสักพักแล้วค่อยไปขอเธอกับแม่เธอเลยเล่าปัญหาที่มีกับแม่มาตลอดให้คุณสามีและแม่สามีฟังอย่างระเอียด ทุกคนก็เห็นด้วยที่จะไปกันตอนที่เธอคลอดลูกมาสักพักก่อนเพราะถึงขนาดว่าเธอท้องมาหลายเดือนแล้ว คนเป็นแม่แท้ ๆ ยังไม่ห่วงใยกัน สามีและแม่สามีต่างเป็นห่วงเป็นใยความรู้สึก ต่างเข้ามาปลอบโยนและช่วยเติมเต็มในสิ่งที่เธอขาดหายไป“นี่คุณสรัลจะทำอะไรคะ” หลังจากเธอลงนอนบนเตียง เขาก็เอาหน้าโน้มมาที่ซอกคอของเธอ“นี่เรากลับมาอยู่กันเป็นเดือนแล้วนะ พี่ก็คิดถึงเมีย อยากจะเข้าไปทักทายลูก” เขาเอาหน้ามาฟัดซอกคอ พร้อมกับมาคลอเคลียแถวแก้มนวล“อะไรนะคะคุณสรัล จะเข้าไปทักทายลูกเหรอคะ คิดได้ไงเนี่ย” เธอดันเขาออก ชวนเขามาคุย“ครับ พี่จะเข้าไปทักทายตัวเล็กเสียหน่อย”
เธอปัดมือเขาออกจากแก้ม แถมปฏิเสธคำพูดเขา “ไม่จริงหรอกค่ะ คุณหยาดฟ้าก็เป็นสะใภ้ที่แม่ก็ชอบ แถมยังดีที่สุดด้วยนะคะ”“เมื่อก่อนนะใช่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้มีแพรวเป็นลูกสะใภ้ที่ดีคนเดียวแล้วครับ” เขาว่าแล้วกอดเธอไว้หลวม ๆ พร้อมกับหอมแก้มเธอฟอดใหญ่“อื้อ...คุณสรัล” เขาเห็นเธอทำหน้าตาเขิน เลยหอมแก้มให้อีกฟอดหนึ่ง“ยิ่งพอแม่ของพี่รู้ว่าหยาดฟ้าตั้งใจยกเลิกงานแต่งตั้งแต่แรก แต่เอาเรื่องของพี่ที่ทำแพรวท้องมาเป็นข้ออ้าง แม่ของพี่ก็โกรธมาก โทรไปต่อว่าพ่อแม่หยาดฟ้ายกใหญ่”“เหรอคะ”“พี่ก็รู้ว่าพี่เองก็ผิด ที่เห็นแก่ตัวเกินไป ตั้งใจจะปิดบังหยาดฟ้า แต่นั้นก็เป็นเพราะหยาดฟ้ามีคนอื่นก่อน ตั้งใจปิดบังพี่ตั้งแต่แรก ผลมาก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ ทำให้พี่คิดจะปิดบังเรื่องที่แพรวท้อง”“ค่ะ”“แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้ก็ดี ทำให้พี่รู้ว่าที่จริงแล้ว พี่รักแพรวแค่คนเดียว ไม่รู้ว่ารักแพรวมาตั้งแต่ตอนไหน แต่พอมารู้อีกทีพี่ก็โคตรรักแพรวเลย” ชายหนุ่มจูบที่หน้าผากมนของเธอ หลังจากที่เขาพูดจบ เธอเองก็หลับตารับจูบอ่อนโยนของเขาตอนนี้หัวใจของเธอรู
“หนูแพรวกลับมาแล้วหรือลูก เป็นอะไรมากไหม” สุจิราเข้าไปกอดแพรววนิตแถมยังเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกเธอด้วย เธอเลยยังไม่คอยชินมากนักทำได้แต่หันไปมองหน้าของเขา ที่ส่งยิ้มกลับมาให้น้อย ๆ เพราะเขาเองก็ยังไม่คอยจะชินกับท่าทางแบบนี้ของแม่ แต่ทว่าท่าทางแบบนี้เขาก็เคยเห็นมาบ่อย เวลาที่แม่ของเขารักชอบลูกสะใภ้คนไหนเข้าไปแล้ว จะทุ่มให้หมดหัวใจเลย“ปลอดภัยดีครับแม่ แพรวกับลูกไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แค่พักผ่อนน้อย”“ไม่ได้นะต่อไปนี้ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ” สุจิรานำมือทั้งสองข้างของลูกสะใภ้ไปจับ บอกด้วยความเป็นห่วง “นี่แม่ก็ให้งามตาตุนยาจีนบำรุงครรภ์เอาไว้ให้ด้วยนะ ปานนี้ก็น่าจะตักรอ หนูแพรวแล้วแหละ ไป ๆ ไปกินยาบำรุงกัน” ท่านดึงมือของเธอให้เดินตามไปพร้อมกันเดินไปท่านก็คอยประคองเธอไปด้วย ชวนคุยนู้นนี้นั้นตามประสาคนคุยเก่ง หญิงสาวได้แต่มองหันหลังไปทางสรัล เขาก็ยิ้มหวานส่งมาให้ พร้อมกับพยักหน้าให้กำลังใจเธอไปด้วย“งามตายาจีนได้หรือยัง”“ได้แล้วค่ะคุณสุ” งามตานำมาวางไว้ให้ตรงโต๊ะรับประทานอาหาร“รีบกินเลยกำลังอุ่น ๆ” สุจิราบอกพร้อมกับนั่งเก้าอี้ตรงห
ตอนนี้หญิงสาวท้องได้ห้าเดือนแล้ว ระยะเวลาสองถึงสามเดือนที่เธอเธอเขียนนิยายขาย หญิงสาวก็ได้ยอดเกินเป้าทุกเดือน จากหลักพันก็ขึ้นมาเป็นหลักหมื่น จนเกือบจะครึ่งแสน เธอตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์งานต่อไปเพราะอยากจะให้ยอดต่อเดือนไปถึงหนึ่งแสนให้ได้เพราะในช่วงเวลาที่เธอคลอดลูกแล้ว เวลาทั้งหมดของเธอก็จะมีให้ลูกแค่คนเดียว เวลาว่างของเธอก็จะมีน้อยลงเพราะฉะนั้นช่วงนี้เธอถึงต้องเร่งปั่นงานให้เยอะ ๆช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ สรัลได้เบาะแสจากทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้ว เธอฝากครรภ์ที่นั้น และสืบรู้อีกว่าวันนัดของเธอครั้งหน้าตรงกับวันไหน เขาจึงเตรียมมาดักรอเธอที่แผนกสูติ-นรีเวชและวันนัดก็มาถึงแพรววนิตออกไปตามนัดของคุณหมอ แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินเข้าโรงพยาบาลนั้น อากาศมันร้อนมาก จนทำให้เธอเป็นลม โชคดีที่คนแถวนั้นเห็นและมารับเธอไว้ได้ทันท่วงที เธอถูกส่งตัวเข้าไปโรงพยาบาลและพยาบาลได้เอาโทรศัพท์ของเธอที่สั่นอยู่ตลอดมารับและบอกญาติของเธอให้มาดูแลปลายสายที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใคร ถ้าไม่ใช่สรัล เมื่อสรัลรู้เรื่องก็ตกใจมาก เขารีบมาหาเธอที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลทันที ชายหนุ่มเป็
ตั้งแต่สองวันก่อนที่แพรววนิตออกมาจากบ้านของสรัล เธอก็หาคอนโดอยู่ใหม่ โดยเธอหาคอนโดที่ปลอดภัยหน่อย แม้ว่าจะต้องเสียเงินเช่าหลายบาทก็ตาม แต่เพื่อความปลอดภัยของเธอกับลูกในท้องแพรววนิตก็ยอมที่จะจ่าย เงินหนึ่งล้านที่เขาให้มามันมีประโยชน์มาก เธอใช้เงินนี้ในการเลี้ยงดูตัวเองในตอนที่ยังไม่มีรายได้เข้ามา ตอนนี้เธอกำลังเขียนนิยายเรื่องสั้น ก็ใกล้จะจบแล้ว ระหว่างที่อยู่กับเขาสองสัปดาห์ เธอก็เขียนในมือถือบ้าง ในโน๊ตบุ๊คของเธอบ้าง แต่ตอนนี้เธอมีเวลาเต็มที่เพราะไม่ต้องโดนใครใช้งานแบบเมื่อก่อนความหวังของเธอตอนนี้ขอให้การเขียนนิยายสำเร็จ พอที่จะเลี้ยงดูตัวเองกับลูกได้ หวังว่าการที่เธอชอบอ่านนิยาย จนพลันตัวมาเป็นนักเขียนได้ไม่นานจะทำให้ชีวิตเธอกับลูกดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร ไม่ต้องไปยืมจมูกของใครหายใจ แม้ว่าจะต้องอยู่กันสองคนแม่ลูก หญิงสาวก็ยอมหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลังจากเธอย้ายออกมาจากบ้านของเขา การเขียนนิยายได้สร้างรายได้ให้เธออยู่บ้าง เธอลงเรื่องสั้นไปเดือนที่แล้วสองเรื่องก็เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเป็นยอดหลักพันยังไม่ถึงหลักหมื่น ก็ทำให้เธอมีแรงที่จะสู้ต่อ เข
สุจิราและอินทุอรแอบมองแพรววนิตอยู่อีกห้องหนึ่ง ต่างทำหน้าตาสะใจอย่างมากที่กำจัดตัวปัญหาออกไปจากบ้านได้ สุจิราคิดว่ารู้แบบนี้ให้อินทุอรเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งนานแล้ว ถ้าจะกำจัดแพรววนิตออกไปได้อย่างง่ายดาย“มันออกบ้านคุณแม่ไปแล้ว แบบนี้อินต้องกลับบ้านไหมคะ”“กลับได้ไง ต้องอยู่ต่อสิ อยู่เจอพี่เขาก่อน แล้วตอนนั้นแม่จะหลีกทางให้ เพื่อว่าแม่จะมีหลานชายน่ารัก ๆ ให้อุ้ม”“คุณแม่พูดอะไรก็ไม่รู้” อินทุอรทำเขิน ทั้งที่ในใจระริกระรี้มาก ที่จะได้เป็นเมียของพี่สรัล“เอาแบบนี้ ๆ หนูอินขนเสื้อผ้าไปไว้บนห้องพี่เขาก่อน”“ให้อินขนไปเองหรือคะ คนรับใช้ไม่มีเลยหรือคะ”“ก็พอดีช่วงนี้แม่ใช้งานนังแพรวมันอย่างเดียวไง คนรับใช้ในบ้านก็ให้กลับบ้านไปหมดแล้ว นี่งามตาก็มาลากะทันหันอีก หนูอินก็ขนเองไปก่อนนะลูก” ท่านบอกอย่างเอ็นดู“ไม่เอาค่ะคุณแม่ อินไม่เคยทำอะไรเลยนะคะ จะให้อินมายกของหนัก ๆ ได้ไง นี่กระเป๋าอินก็มีตั้งหลายใบ”“แล้วจะทำยังไงล่ะ คนใช้บ้านแม่ไม่มีแล้ว”“ก็คุณแม่ไงค่ะ คุณแม่ก็ขนขึ้นไปให้อินหน่อย” อินทุอรออกปากสั่ง“ฮะ...