ตกดึกคืนหนึ่ง
กึกๆ แก๊กๆ ครืดด~ ปึก! เสียงคล้ายกับใครบางคนกำลังรื้อคนข้าวของ ทำให้นายหัวไกรที่ยังไม่ได้นอนหลับค่อยๆ เดินลงมาพร้อมกับปืนพกสั้นในมือ เพราะคิดว่าเป็นโจรที่แอบเข้ามาลักขโมยของหรือเปล่า "ใครน่ะ?" "ว๊าย!" "เธอลงมาทำอะไรกลางค่ำกลางคืนแบบนี้?!" ชายหนุ่มตวาดออกไปด้วยอารมณ์โกรธ แม้มันจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบแต่เขาก็ห้ามไม่ได้แล้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย" "ก็ถ้าฉันคิดว่าเธอเป็นขโมยฉันคงลั่นไกใส่เธอไปแล้ว" "อะไรเนี่ย จะขู่กันแบบนี้อย่างเดียวเลยหรือไง ฉันก็แค่ลงมาหาขวดน้ำจะเอาใส่น้ำขึ้นไปกิน ตอนดึกๆ จะได้ไม่ต้องลงมา" "แล้วทำไมถึงไม่เปิดไฟ?" "ก็ฉันหาสวิตช์ไฟไม่เจอ มีแต่ไฟโทรศัพท์เนี่ยแหละ" "....." "นี่ ขวดน้ำอยู่ตรงไหนมาช่วยหาหน่อยสิ" "นี่ไงขวดน้ำ" "เอ้า อยู่ตรงนี้ได้ไงหาตั้งนาน" "เธอมันเซ่อซ่าเองหรือเปล่า?" "จิ๊ คนปาก.." "ถ้าเธอว่าฉันปากหมาอีกคำเดียว ฉันจูบเธอแน่!" "กล้าไหมล่ะ เอาสี้ถ้ากล้า แม่จะยืนให้จูบแลกลิ้นเลย" "....." จังหวะที่ชายหนุ่มเงียบไป หญิงสาวก็ฉายแสงโทรศัพท์ไปที่ตรงหน้าของเขา และเธอก็ได้เห็นว่าคนตรงหน้าไม่ได้ใส่เสื้อและท่อนล่างก็มีเพียงผ้าขาวม้าลายสก๊อตสีแดงพันรอบเอวอยู่ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเลยถ้าภายในผ้าขนหนูมันไม่มีบางอย่างนูนออกมา "มองอะไร?" "อึก..." "อย่ามาจ้องฉันแล้วทำตาหยาดเยิ้มนะ" "นี่คุณ มันบวมหรือเปล่าไปหาหมอไหม" เขมิกาเป็นคนที่กล้าพูดกล้าทำ และเธอก็กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด แม้เรื่องนั้นมันจะไม่ใช่เรื่องน่าพูดเลยก็ตาม "พูดอะไรของเธอไร้สาระจริงๆ" "....." "หยุดเอาไฟส่องหน้าฉันได้แล้ว" "ว่าแต่ฉันคุณลงมาทำอะไรดึกๆ?" "ก็ลงมาดูไงฉันได้ยินเสียง...นึกว่าโจร" "หมายถึงดึกป่านนี้แล้วทำไมคุณถึงยังไม่นอน ไหนคุณบอกว่า...ตอนเช้าต้องไปทำงานไง" "พรุ่งนี้หยุด เธออยากจะไปไหนหรือเปล่า" "ทำงานสวนมีหยุดกันด้วยหรอ?" "มีสิ ต้องมีวันหยุดให้กับลูกน้องบ้างสิ ให้เขาทำงานกันอย่างเดียวใครเขาจะไปทนไหว" "ฉันจะไปรู้หรอ" "เสร็จแล้วก็กลับขึ้นไปนอน แล้วคราวหน้าถ้าจะลงมาเอาอะไรก็เปิดไฟด้วยฉันจะได้ไม่ต้องคิดว่าเป็นโจร สวิตช์ไฟอยู่ตรงนั้น" "อืม..." "เดี๋ยวสิ" "อะไรอีกล่ะ?" "วันก่อนโน้น เรื่องที่หลังคาไฟไหม้...ฉัน" "อ้อ ช่างมันเถอะ ถ้าอยากจะเปลี่ยนใหม่ก็บอกก็แล้วกันฉันพอมีเงินอยู่ ถ้าอยากจะเปลี่ยนอ่ะนะ" "เปล่า ภาเพิ่งจะมาบอกให้ฉันฟัง ว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แต่ไฟมันกระเด็นขึ้นไปโดนเอง" "แล้วไงล่ะ ในสายตาของคุณสายตาของคนงานคุณ ฉันก็เป็นคนทำไปแล้วนี่ แก้ไขอะไรตอนนี้มันก็ไม่ได้แล้วล่ะ ขอตัวนะ" "......" เธอกลับมานอนที่ห้องจนกระทั่งเช้าของวันต่อมา เขมิกาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินลงไปด้านล่างตามปกติ ซึ่งตอนเช้าจะมีแม่บ้านมาคอยทำอาหารให้ส่วนตอนเย็นเธอก็จะมีหน้าที่คอยเป็นลูกมือช่วย ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เธอไม่ต้องทำอะไรเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับเธอมาก อยากจะกลับบ้านแต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีรถ และถ้าจะไปขอร้องให้ใครพาไปก็คงไม่มีใครช่วย เพราะคนที่นี่ไม่ค่อยจะชอบหน้าเธอสักเท่าไร แหงล่ะ เพราะเธอมันเป็นพวกที่เข้าหาคนไม่เก่งประจบคนไม่เก่ง และที่สำคัญยังเถียงเจ้านายของพวกเขาฉอดๆ อีก "ตื่นแล้วหรอกาแฟหน่อยไหม?" "ไม่ล่ะ ฉันไม่กินกาแฟซอง" "แถวนี้ไม่มีร้านกาแฟหรูหราหรือร้านกาแฟเปิดหรอก จะมีก็แต่กาแฟซองแบบนี้แหละ ถ้าเธออยากจะกินก็ต้องกินแบบนี้" "เหอะ! ออกจะรวยแต่ทำไมถึงมาปลูกบ้านอยู่ในป่าแบบนี้ อะไรก็ไม่สะดวกเลย ออกไปไหนมาไหนก็ไม่ได้" "ฉันชอบแบบนี้ ที่สำคัญที่นี่ก็เป็นที่ของพ่อแม่ฉันด้วย อีกอย่างมันก็อยู่ใกล้สวนที่ฉันต้องดูแลด้วย ฉันก็เลยคิดว่าปลูกบ้านที่นี่มันสะดวกดีกว่า" "สะดวกกับตัวเองน่ะสิ" หญิงสาวหันหน้าหนีออกไปพร้อมกับพูดกระซิบเบาๆ กับตัวเอง "ตกลงวันนี้จะไม่ไปไหนใช่ไหม?" "ไปสิ! แถวนี้มีห้างไหม" "จะมีแต่พวกห้างสรรพสินค้าเล็กๆ ถ้าอยากจะซื้อของจริงๆ ไปตลาดง่ายกว่า เพราะถ้าจะไปห้างใหญ่แบบที่เธอคิดคงต้องเข้าไปในเมืองกรุงโน่นเลย" "รู้ไหมว่าฉันอยากกลับบ้านมากแค่ไหน" "ถ้าเธอกลับไปได้เป็นเรื่องแน่" "รู้ไหมว่าฉันกำลังคิดที่จะหนี" เธอหันไปมองชายหนุ่มแล้วก็ยิ้มให้ ราวกับว่าเธอกำลังปั่นประสาทเขาเล่นอยู่ ซึ่งคำพูดของเธอก็ทำให้เขาขมวดคิ้วเลยเช่นกัน "เธอหนีออกไปไม่ได้หรอกถ้าไม่รู้ทาง" "คนมีความสามารถอย่างฉันหาทางออกได้ง่ายๆ สบายอยู่แล้ว" "แล้วถ้าหนีออกไปได้เธอจะไปที่ไหน?" "กลับไปต่างประเทศ และก็จะไม่กลับมาที่นี่อีกเลย" "แล้วเรื่องทะเบียนสมรสล่ะ?" "ถ้างั้นวันนี้ฉันขอเปลี่ยน เราไปอำเภอด้วยกัน ไปหย่ากันเอาไว้ก่อนแบบลับๆ เราสองคนจะได้ไม่ต้องมีพันธะต่อกัน ฉันจะไม่เอาสมบัติอะไรของคุณเลยสักแดงเดียว" "ไม่อะ ฉันไม่ทำแบบนั้น" "เอ้า ทำไมล่ะ คุณเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานอยู่แล้วไม่ใช่หรอ เราสองคนจะหย่ากันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่" "....." "หรือว่าคุณ..." "อะไร?" "คุณชอบฉันหรอ?" พรูด! คำถามของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มที่กำลังยืนจิบกาแฟอยู่สำลักออกมาไม่เป็นท่า "อะไรของคุณเนี่ย ถามแค่นี้เองถึงกับสำลักเลยหรอ?" "จะพูดอะไรก็หัดดูหน่อยสิ ฉันจะไปชอบเธอได้ยังไง" "ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อคุณไม่ยอมหย่าให้ฉันนี่" "ไม่รู้สิ สงสัยไม่อยากหย่าเพราะเอาเธอไว้เป็นไม้กันหมามั้ง" "ไม้กันหมา? แล้วใครกันเป็นหมา" "อยู่ที่นี่ไปอีกสักพักเดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละว่าใครเป็นหมา" "อย่าบอกนะว่าเป็นกิ๊กของคุณ แน่ะๆ พูดมาแบบนี้ฉันว่าใช่แน่นอน ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะคุณจะมีกิ๊กมีเด็กที่ไหนก็เรื่องของคุณ แต่อย่ามายุ่งกับฉันก็พอ" "เป็นภรรยาแท้ๆ แต่กลับปล่อยให้สามีตัวเองไปมีกิ๊ก หรือยอมอะไรแบบนี้มันไม่ดูเป็นการเสียเกียรติไปหน่อยหรอ?" "ไม่อะ เราไม่ได้รักกันสักหน่อย เผลอๆ คุณอาจจะมีคนที่ตัวเองรักอยู่แล้วด้วยมั้ง" "......"สองปีต่อมา ตอนนี้ผมได้ลูกสาวดั่งใจหวังจริงๆ แล้ว แกเป็นน้องเล็กที่สุดในบ้าน ตอนนี้ก็อายุขวบนึง ส่วนพี่ๆ ก็โตขึ้นมากแต่ก็ยังซุกซนเหมือนเดิม ลูกสาวคนเล็กผมตั้งชื่อให้ว่าน้องกอหญ้า แกเป็นเด็กที่น่ารักและไม่ได้ซุกซน นิสัยนิ่งเงียบเหมือนกับแม่ของแกไม่มีผิดเลย ไม่ได้ซุกซนเหมือนกับพวกพี่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นพวกพี่ๆ ก็รักและหวงน้องสาวเอามากๆ "มาหาแม่มากอหญ้า" "มีอะไรหรือเปล่า?" "คุณไปดูลูกชายตัวแสบของคุณเถอะ พากันเล่นอะไรอยู่หลังบ้านโน้น" ผมรีบยื่นกอหญ้าให้เขมอุ้ม ก่อนจะรีบเดินไปที่หลังบ้านและก็ได้พบว่าเจ้าลูกชายกำลังใช้ดินสอและเมจิกที่มีขีดเขียนวาดลวดลายบนรถกระบะของผม "ขุนพล! ขุนทัพ!""พ่อ/พ่อ" "หยุดยืนอยู่ตรงนั้นเลย ใครวิ่งหนีพ่อจะตี" พวกแกหยุดในทันที สองคนนี้ซุกซนกันมาก เผลอเป็นไม่ได้ถ้าได้จับปากกาหรือเมจิกอะไรสักอย่างก็จะวาดไปซะทุกที่เลย "พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามมาวาดรถแบบนี้" "ขอโทษครับ" "พรุ่งนี้ตื่นมาตั้งแต่เช้าล้างรถให้พ่อให้สะอาด และห้ามเอาปากกาเมจิกมาเขียนอีกถ้าพ่อเห็นอีกครั้งพ่อจะตีจริงๆ ด้วย" "ครับพ่อ" ผมก็พูดร่ำไปอย่างนั้นแหละอันที่จริงก็ไม่กล้าตีหรอก ตั้งแต่พวกแกโตมาผ
หลังจากที่คลอดขุนทัพออกมาที่บ้านก็วุ่นวายมากขึ้นเพราะสองพี่น้องคู่นี้ทั้งดื้อและก็ซนมาก ทำเอาฉันกับภาปวดหัวได้ไม่เว้นแต่ละวัน ตอนแรกฉันคิดว่าฉันจะทำหมันทันทีที่คลอดขุนทัพออกมา แต่คุณไกรเขาอยากจะมีลูกผู้หญิงอีกสักคนฉันก็เลยยังไม่รีบทำหมัน บางทีลูกคนที่สามของเราอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันก็ปล่อยผ่านมาร่วมสองปีได้แล้วล่ะ ขุนพลอายุสามขวบเกือบจะสี่ขวบแล้ว ส่วนขุนทัพก็เพิ่งจะสองขวบหมาดๆ ไม่รู้ว่าสองพี่น้องเขาโตทันๆ กันด้วยหรือเปล่า ที่บ้านก็เลยวุ่นวายเอามากๆ เพราะมีผู้นำอย่างที่ชายน้องชายเลยกล้า ส่วนที่ชายก็มีพ่อเป็นผู้นำอีกที พวกนี้ทำอะไรกันเป็นทอดๆ หลายปีก่อนคุณไกรเขาเคยพูดเอาไว้ว่าอยากให้บ้านของเขามีเด็กตัวเล็กๆ ออกมาวิ่งเล่นสร้างสีสันให้กับบ้านมันจะได้ไม่ต้องเงียบเหงาแบบนี้ ตอนนี้น่าจะสมใจเขาแล้วล่ะ เพราะตอนนี้มีเด็กออกมาวิ่งเล่นจนวุ่นวายตามที่เขาต้องการแล้ว มันวุ่นวายมากจริงๆ นะ ไม่รู้เป็นเพราะเด็กผู้ชายด้วยหรือเปล่า พอโตทันๆ กันก็มักจะพากันวิ่งเล่นซุกซน รื้อข้าวของโน่นนี่ บ้างก็ไปเล่นจนข้าวของของคุณไกรเสียหายไป แต่เขาจะไปว่าอะไรลูกเขาล่ะตามใจกันขนาดนี้ "ขุนพล ขุนทัพ มากินข
พอท้องเริ่มโตก็แน่นอนว่าฉันทำอะไรลำบากขึ้น ลูกคนนี้ก็ดื้อตั้งแต่อยู่ในท้องเลยไม่ต่างอะไรจากลูกคนแรกเลย และพอฉันท้องใหญ่แบบนี้คนที่ต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายตัวแสบก็คือคุณไกร บางครั้งปู่กับย่าก็จะมารับไปเล่นที่บ้านเหมือนอย่างเคย ถามว่าแต่ละวันฉันเหนื่อยบ้างไหม กับลูกฉันไม่ค่อยเหนื่อยสักเท่าไรเพราะแกไม่ค่อยเข้าใกล้ฉัน จะเหนื่อยกับการที่ต้องแบกท้องใหญ่ๆ มากกว่า บรืน~ เสียงรถกระบะแล่นเข้ามาจอดในบ้าน พร้อมกับได้ยินเสียงของลูกชายตะโกนด้วยความดีใจ เขาจะชอบมากเวลาที่พ่อกลับมาจากทำงาน เพราะคุณไกรเขาจะคอยเป็นเพื่อนเล่น "พ่อ!" "หืม วิ่งมารับเร็วเชียวนะตัวแสบ พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าวิ่งออกมาเดี๋ยวรถจะเหยียบเอา" "ขุนพลลูก ลงมาก่อนให้พ่อไปอาบน้ำก่อน""ไม่เอา" "พ่อเพิ่งทำงานมาเหนื่อยๆ นะมีแต่เหงื่อเต็มตัวเลย" "ไม่เอา ไปอาบน้ำกับพ่อ" "อะๆ โอเค ไปอาบน้ำด้วยกันก็ได้" พ่อลูกคู่นี้ตามใจกันยิ่งกว่าอะไรดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้เหนื่อยแทบตายเพราะลูกชายแสนดื้อ แต่ตอนนี้เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย ฉันปล่อยให้เขาพากันไปอาบน้ำ จนกระทั่งพากันเดินลงมา ซึ่งฉันกับภาก็เตรียมอาหารตอนเย็นเสร็จพอดี "กินข้า
เขมิกา Talk "สองขีด!" ฉันร้องอุทานออกมาเบาๆ เมื่อคือที่ตรวจครรภ์เข้ามาตรวจในห้องน้ำ ตั้งแต่ที่คลอดลูกฉันกับคุณไกรเรามีอะไรกันแค่สามครั้งเอง และก็มีแค่ครั้งเดียวที่เราไม่ได้ป้องกัน และก็เป็นครั้งล่าสุดด้วย ไม่คิดว่าจะมีลูกคนที่สองได้ง่ายขนาดนี้ เขาจะว่ายังไงนะที่เรากำลังจะมีลูกคนที่สองด้วยกันแบบนี้ แถมเจ้าขุนพลก็เพิ่งจะอายุขวบกว่าๆ เองด้วย รายนั้นก็ทั้งดื้อทั้งซนใช่ย่อยเล่นเอาคุณไกรเหนื่อยจนแทบเป็นลมทุกวัน "แม่!" "ว่าไงตัวแสบ" แกเริ่มพูดได้เป็นประโยคแล้วล่ะนะ "มีอะไรหรือเปล่าทำไมวันนี้ลงมาช้า" "ไม่มีอะไรค่ะ แล้วนี่แต่งตัวจะไปไหนกันคะ""ไปหาปู่กับย่า" "อ๋อ..." ขุนพลแกติดปู่กับย่ามาก ตอนเด็กๆ ปู่กับย่าชอบมารับไปเล่นที่บ้านโน้นด้วยบ่อยๆ ส่วนตากับยายก็แวะมาหาบ้างเป็นครั้งคราวเพราะอยู่ไกล "แล้วนี่คุณจะไปกับลูกด้วยหรอ" ฉันถามคุณไกรเพราะเขาเองก็แต่งตัวหล่อเหมือนกับจะออกไปข้างนอกเหมือนกัน "ครับ จะไปด้วยไหม""มีหรอที่ตัวแสบจะให้ฉันอยู่บ้าน" ไม่ว่าจะออกไปไหนก็ตามจะเอาลูกชายตัวแสบจะชอบให้ฉันตามติดไปด้วยตลอด จนกว่าจะได้เจอปู่กับย่าแกถึงจะยอมให้ฉันกลับได้ แกติดฉันมากเลยล่ะ พอจัดการอะไร
หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลมา นายหัวไกรก็เป็นคนดูแลลูกเองเพราะภรรยายังไม่แข็งแรงดี เขาเป็นคุณพ่อมือใหม่ที่แน่นอนว่าการเลี้ยงเด็กทารกแรกเกิดคนนึงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเขา แต่เขาก็ยังทำได้ดีทุกอย่าง เอาใจใส่ลูกและภรรยาเป็นอย่างดี ลูกชายคนแรก ได้ชื่อว่า ขุนพล ชื่อนี้เขมิกาเป็นคนตั้งให้ลูกชายเอง เพราะเป็นลูกชายคนแรกนายหัวไกรจึงให้ภรรยาเป็นคนตั้งชื่อให้กับลูกเอง แกเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย ไม่ค่อยร้องไห้งอแงสักเท่าไร "เขม..." ชายหนุ่มเรียกภรรยาของตัวเอง เมื่อเห็นเธอเดินออกมาจากห้องที่ต้องอยู่ไฟ "คุณไกร""ออกมาทำไม?""ฉันแค่อยากออกมาสูดอากาศบ้างอยู่แต่ในห้องแบบนั้นมันน่าเหนื่อย""ออกมาแค่แป๊บเดียวก็พอนะ""ค่ะ" นายหัวไกรเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่ออะไรเกี่ยวกับความเชื่อสักเท่าไร แต่เรื่องที่ภรรยาจะต้องอยู่ไฟเขาเชื่อมาก จึงให้คนงานผู้หญิงที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลสักระยะนึง หมับ!"อะไรคะเนี่ย?""อยากกอดจังเลย" ตั้งแต่ลูกคลอดออกมาทั้งสองก็แทบจะไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย เพราะเขมิกาจะต้องอยู่ไฟจึงไม่ค่อยได้เจอหน้ากับสามีสักเท่าไร เขาเองก็ต้องคอยดูแลลูกที่เพิ่งจะคลอดออกมาได้ไม่กี่อาทิตย์ "ฉัน
เขมิกา Talk เวลาดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบ้านของเราที่กำลังต่อเติมเสร็จไปได้ด้วยดีเสร็จเรียบร้อยหมดทุกอย่างรวมถึงการตกแต่งด้วย เขาคาดการณ์เอาไว้ว่าอยากจะให้บ้านที่กำลังต่อเติมเสร็จก่อนที่ลูกของเราจะคลอดออกมา และก็เป็นไปตามที่เราคาดเอาไว้จริงๆ ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนกว่าแล้ว และลูกของเราก็เป็นลูกผู้ชายด้วยล่ะ ท้องใหญ่ขึ้นมากการเดินเหินก็เลยค่อนข้างจะลำบาก และฉันก็ไม่ได้ไปทำงานที่สวนอีกเลยตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองท้อง ส่วนเขาก็ไปบ้างเป็นบางครั้งนานๆ จะไปทีนึง "โอ๊ะ!" ฉันร้องอุทานออกมาเมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวในท้อง ช่วงนี้ลูกดิ้นแรงมากๆ ถีบทีจุกไปยันลิ้นปี่ "เป็นอะไร เจ็บท้องหรอ!?" "ปะ เปล่าค่ะ ลูกดิ้นแรงไปหน่อย""หืม คนเก่งครับ อย่าทำแม่เขาแรงนักสิแม่เจ็บนะ" "สงสัยลูกอยากจะออกมาวิ่งเล่นแย่แล้วนะคะ""ตอนนี้ยังไม่ครบกำหนดรอให้ครบกำหนดก่อนแล้วค่อยออกมานะตัวแสบ" คุณไกรเขาลูบท้องของฉันไปมาเบาๆ จนลูกหยุดดิ้นไป ไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ทุกครั้งที่เขาเข้ามาลูบท้องแล้วพูดกับลูก แกจะหยุดถีบท้องฉันทันทีอย่างกับรู้ว่าพ่อของเขาพูดอะไร "อึดอัดหรือเปล่า" "ก็อึดอัดอยู่เหมือนกันค่ะ ท้องใหญ่ขึ