Share

บทที่ 79

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-18 06:34:10

เซียงหรงไม่รู้แล้วว่ายามนี้เกิดสิ่งใดขึ้น รู้เพียงยามนี้ร้อนนัก ทั้งร้อนทั้งอึดอัดจนแทบทนไม่ไหว

นางพยายามจะปลดถอดเสื้อคลุมตัวนอกที่ทั้งใหญ่และเกะกะออก ทว่ากลับโดนรวบข้อมือไว้

“จะทำยังไงกับเจ้าดีนะ” น้ำเสียงที่คุ้นหูนี้ทำให้เซียงหรงจดจำได้ทันที

“หลี่...จือหลิน...” นางพยายามเพ่งสายตา เมื่อเห็นว่าเป็นเขาจริงๆ ก็โล่งใจ

โล่งใจ ทั้งๆ ที่ไม่ควรโล่งใจ

“ข้ารู้สึก...ไม่ดีเลย...” เซียงหรงพยายามตั้งสติ “พาข้า...กลับเรือนที...”

“กินยานี่ก่อน” หลี่จือหลินพยายามกรอกยาจากขวดใบเล็กให้นาง

“ไม่...ยาอะไร...”

“เหตุใดคนอื่นให้กินให้ใช้อะไร รับง่ายนัก แต่พอเป็นคู่หมั้นอย่างข้าเจ้ากลับระแวงระวัง”

เซียงหรงเม้มริมฝีปากแน่น จะอย่างไรก็ไม่ยอมกลืนของที่ไม่รู้ว่าคืออะไรกันแน่

หลี่จือหลินถอนหายใจอย่างระอา

“อย่าโทษข้าทีหลังก็แล้วกัน” เขากรอกยาเข้าปากตนเองก่อนจะบังคับ ‘ป้อน’ ให้นางอย่างจนใจ

“อึ...อื้อ...” เซียงหรงพยายามปิดปากแน่น ทว่าหลี่จือหลินไม่ยอมอ่อนข้อให้สักนิด

เขาบดริมฝีปากพัวพัน

รอจนนางเผลอ ก็ส่งยาเม็ดหนึ่งเข้าปากนาง

เซียงหรงกลืนยาเม็ดโตลงไปอย่างจำใจ คาดไม่ถึงว่าทั้งๆ ที่ยอมกลืนยาลงไปแล้ว หลี่จือหลินจะยังไม่ยอมปล่อยนางให้เป็นอิสระ

“อื้มมม...อื้มมม...” จากเสียงต่อต้าน เริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงครวญ

จูบของจวิ้นหวังจ๋างจื่อทำให้ร่างกายที่ร้อนอยู่แล้วค่อยๆ ร้อนขึ้น กว่าจะรู้ตัว ร่างน้อยๆ ก็บดเบียดเข้าหาร่างสูงใหญ่ผึ่งผายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ชวนให้รู้สึกดี

“อืมมม...” ทั้งผิวกาย ทั้งวิธีที่เขาสัมผัส ทั้งกลิ่นบนกายเขา...

เซียงหรงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลัง ‘ลอกเลียน’ วิธีการที่อีกฝ่ายปฏิบัติต่อนาง ยามนี้นางถึงกับสอดลิ้นเข้าดุนดัน โรมรันพัวพัน มือน้อยที่ยามนี้เป็นอิสระกลับกอดเกาะเขาไว้แน่น

“อา...หรงเอ๋อร์...อึก!” ตอนนี้นางถึงกับกัดปากเขาแล้ว!

ไม่...ไม่ได้!

ในที่สุดหลี่จือหลินก็ตั้งสติได้ “...หรงเอ๋อร์...หรงเอ๋อร์...เดี๋ยวก่อน...”

เมื่อครู่ขณะป้อนยานาง สติของเขากระเจิดกระเจิงไปชั่วขณะ

ใครจะนึกว่าน้องสาวตัวน้อยช่างเติบโตเร็วนัก

ร่างเล็กๆ ดูบอบบางของนางแท้จริงแล้วกลับซ่อนรูปกว่าที่คิด อีกทั้งร่างกายก็ยังนุ่มนิ่มและหอมยิ่ง

หรงเอ๋อร์ของเขา นางทั้งหอมหวานละมุนละไม ทั้งยังมีด้านที่เร่าร้อนชวนหลงใหล พาให้อยากกอดก่ายพัวพันไม่รู้จบ

ทว่าเขาทำไม่ได้

ไม่ใช่ในตอนนี้ ตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานเข้าพิธีอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นในยามที่นางต้องกลคนใจทราม โดนวางยาปลุกกำหนัดเช่นนี้

เขาไม่ต้องการฉวยโอกาสกับนางเช่นนี้

“หรงเอ๋อร์...” ตอนนี้นางถึงขั้นจะปลดถอดเสื้อผ้าของเขาแล้ว

หลี่จือหลินกัดฟันแน่น ฝืนข่มความต้องการ สกัดจุดเจ้าร่างน้อยทันที

“...ข้าจะพาเจ้าไปส่ง...” เขาเอ่ยอย่างยากเย็น ก่อนจุมพิตหน้าผากมนแผ่วเบา ลูบศีรษะปลอบโยน แล้วช้อนอุ้มร่างอ้อนแอ้นบอบบาง ใช้วิชาตัวเบาพานางแตะปลายเท้าพุ่งทะยานหลบสายตาผู้คน มุ่งตรงไปยังเรือนอี้หรงทันที

ณ โถงจัดงานเลี้ยง เฉินเหม่ยลี่เห็นว่าจวิ้นหวังจ๋างจื่อที่พลาดทำสุราหกรดตนเอง มุ่งหน้าไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือนเหมยฮวานานแล้ว ไม่เพียงไม่ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครม ทุกอย่างกลับดูสงบเรียบร้อยดี ก็อดแปลกใจไม่ได้ นางลอบเหลียวมองไปทางเฉินชิวเยว่ เพียงเห็นอีกฝ่ายถลึงตาใส่อย่างคาดโทษก็หวาดกลัว รีบขอตัวออกไป ‘ดูแลน้องสาม’ ทันที

ผ่านไปได้ราวหนึ่งเค่อยาม เฉินชิวเยว่เห็นคนที่ควร ‘เกิดเรื่องไม่ดี’ ออกจากโถงจัดงานไปนานแล้ว คนที่ควรไป ‘พบเห็นเรื่องไม่ดี’ ก็ตามไปนานแล้ว ส่วนคนที่ ‘ก่อเรื่องไม่ดี’ ก็ตามไปดูผลงานของตนเองได้พักใหญ่แล้ว ทุกอย่างกลับยังคงเงียบเชียบ จึงเกิดเอะใจขึ้นมา

หรือว่าจะมีอะไรผิดพลาด? คงไม่ใช่กลายเป็นว่า นางสู้อุตส่าห์หาพยานหลักฐานมากดดันเฉินเหม่ยลี่และเฉินเหม่ยเซียง ทั้งยังช่วยหายา ช่วยออกเงินว่าจ้างคนและช่วยลักลอบพา ‘บ่าวรับใช้หน้าใหม่’ เข้าจวนมาแทบตาย กลับกลายเป็นช่วยส่งเสริมน้องสามสารเลวให้ได้ร่วมหอลงเอยกับจวิ้นหวังจ๋างจื่อเร็วขึ้นหรอกนะ?

ไวเท่าความคิด เฉินชิวเยว่รีบส่งสายตาสั่งให้ ชิงเอ๋อร์ สาวใช้ข้างกายไปสังเกตุการณ์

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 104

    ไม่ทันที่นางจะได้ขยับตัว ตงหยางที่รัดท่อนแขนตัวเองเอาไว้อย่างแน่นหนาก็ก้มลงดูดที่แผลของตนเอง ดูดแล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ดูด แล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ทำวนซ้ำอยู่อย่างนี้จนเลือดที่ดูดออกมาจากปากแผลเป็นสีแดงสด ถึงยอมหยุดมือเขาปล่อยให้สายรัดเอวที่รัดท่อนแขนอยู่ค่อยๆ คลายออกเอง กระถดเข้าไปนั่งชิดผนัง ก่อนถอนหายใจออกมาตงหยางเหลียวมองซากงูตัวนั้นอีกครั้ง ก่อนจะตวัดสายตามองเฉินเซียงหรง เอ่ยอย่างหัวเสีย“ดีเหลือเกิน ข้าบอกให้อยู่นิ่งๆ เจ้าก็รีบขยับตัวทันที!”“ก็ข้านึกว่า...” นางละอายเกินกว่าจะกล้าพูดต่อเขาช่วยชีวิตนาง...อีกเป็นครั้งที่สอง นางกลับคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสใช้กำลังข่มเหงรังแก ทำเรื่องที่นาง...ไม่ยินยอม...“คุณหนูเฉิน ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าไม่มีความจำเป็นต้องบังคับข่มเหงสตรีที่ไม่เต็มใจ” เขาแค่นหัวเราะ ก่อนกล่าวต่อไป “ทว่าเป็นเช่นนี้จะดีหรือ หากร่วมทางกันไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งข้าเกิดดื่มสุราเมามายจนขาดสติเล่า เจ้าจะทำอย่างไร เจ้าจะยังกล้าติดตาม ‘รับใช้’ ข้าอีกหรือ ข้าว่าเจ้ายอมกลั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 103

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนเซียงหรงเองยังอดตกใจไม่ได้คืนหนึ่ง ขณะหลบฝนอยู่ในถ้ำเล็กๆ ตงหยางจุดไฟให้แสงสว่าง อากาศในถ้ำเย็นชื้น และเสื้อผ้าของพวกเขาเปียกชื้นจนต้องพาดไว้ใกล้กองไฟ เซียงหรงนั่งกอดเข่าห่างออกไปเล็กน้อย ดวงตาของนางมองเปลวไฟนิ่งราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์กระทั่งตงหยางมองนางด้วยสายตาขบขัน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่าแม้จะหนีการแต่งงาน แต่ในที่สุดเจ้าก็ต้องหาสามีอยู่ดี” เขาเอ่ยเสียงเบาเช่นเดิม “คุณหนูเฉิน เจ้ากล่าวว่าต้องการแน่ใจว่าจะสามารถส่งจดหมายถึงมือบิดาและพี่ชายที่อยู่ต่างเมือง จะทำเพียงส่งจดหมายบอกล่าวเล่าความ ไม่พบพวกเขา เจ้ามีพ่อและพี่ชายกลับคิดหนีหน้า เจ้าบอกว่ามีคู่หมั้น แต่ก็ไม่ปรารถนาที่จะแต่งงานกับคู่หมั้นผู้นั้น กลับมุ่งหมายออกบวชละกิเลสเสียมากกว่า ช่างไม่รู้เสียเลยว่าต่อให้เจ้าจะโกนผมโกนคิ้ว บุรุษที่ได้พบเห็นเจ้า พูดคุยกับเจ้า พวกเขาไหนเลยจะลืมเลือนเจ้าได้ลง เจ้าคิดว่าหากได้ออกบวช จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบได้จริงหรือ” เซียงหรงเงยหน้าขึ้นมองเขา สีหน้าของนางเย็นชา “ก็ยังดีกว่ามีสามี&rdquo

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 102

    ยามบ่ายคล้อย แดดร่ม ลมตก เป็นช่วงเวลาที่เซียงหรงรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวที่สุดในช่วงวัน พื้นอารมณ์จึงค่อนข้างดีทว่าอารมณ์ดีๆ ของนาง กลับถูกทำลายลงด้วยเสียงเฉยชาที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ“เป็นเช่นไรล่ะ คุณหนูเฉิน ใช้ชีวิตแบบนี้สนุกดีหรือไม่ ไม่ต้องมีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องมีที่นอนอุ่นๆ ไม่ต้องกินอาหารดีๆ ใช้สองขาเดินทาง ร่อนเร่พเนจร ค่ำไหนนอนนั่น” นั่นประไร! นางรู้ว่าเขาคงอดทนไม่ว่านางได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหรอก ยิ่งในตอนที่นางกำลังมี ‘ช่วงเวลาดีๆ’ รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวเช่นนี้ยิ่งแล้วใหญ่!เดินทางร่วมกันมาจนถึงตอนนี้ นางแทบจะนับเวลาที่เขาจะเอ่ยปากเหน็บแนมนางได้แม่นยำแล้ว!นางชำเลืองมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัว “ไม่เห็นจะลำบากอะไร” นางตอบเสียงเรียบพลางรวบชายเสื้อที่ปลิวเพราะลมเย็นตงหยางหันมามองนาง หัวคิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย “อ้อ เช่นนี้ไม่ลำบาก” เขาหัวเราะในลำคอ “เจ้านี่ช่างเป็นสตรีที่ดื้อดึงยิ่งนัก เจ้าอยากมีชีวิตแบบนี้ไปจนตายเช่นนั้นหรือ”นางหยุดเดิน หันไปสบตาเข

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 101

    “ข้าขอร้อง...” เซียงหรงเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำ “ข้าไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ที่บ้านของข้าในยามนี้ไม่มีใครที่ข้าจะไว้ใจได้อีก อีกทั้ง... อีกทั้งในเมืองหลวงยังมีสิ่งที่น่ากลัวมากๆ รอข้าอยู่ที่นั่น...” นางพยายามยื่นข้อเสนอ “ท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ขอเพียงท่านช่วยสะสางเรื่องที่ยังค้างคาใจและพาข้าหลบหนีจากฝันร้ายเหล่านั้น ข้ายินดีติดตามรับใช้ท่านในฐานะบ่าวคนหนึ่ง จะไม่สร้างความลำบากใดใดให้ท่านจอมยุทธสักนิด”“บ่าวคนหนึ่ง...” ชายสวมหน้ากากนิ่งเงียบไปอีกพักใหญ่ ก่อนถอนหายใจยาว “เอาเถิด หากเจ้าไม่สร้างปัญหาจริงดังปากว่า ข้าจะให้เจ้าเดินทางไปด้วย ระหว่างนั้นสบโอกาสค่อยหาทางส่งจดหมายไปถึงบิดาและพี่น้อง เรื่องคนของเจ้า สหายของข้าช่วยนางเอาไว้แล้ว”“จริงหรือ!”ได้ยินเช่นนี้ เซียงหรงโล่งใจเป็นอย่างยิ่งเขายังคงกล่าวต่อไป “ตงหลินผู้นี้เป็นสุภาพชน เชื่อถือได้ คนของเจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน หากเจ้าไม่มีความคิดอยากกลับบ้านก็ไม่ควรติดต่อ ‘คนของเจ้า’ ผู้นั้นอีก”แม้แว

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 100

    เซียงหรงมองชายแปลกหน้าเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แม้จะรู้สึกหวาดระแวงอยู่ลึกๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายร่างใหญ่ชุดดำสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าผู้นี้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ ช่วยนาง...ทั้งในตอนที่นางเสี่ยงชีวิตกระโดดลงมาจากหน้าผาสูงชัน และตอนนี้สายตาของเฉินเซียงหรงกวาดมองไปรอบๆ อีกครั้งกระท่อมหลังนี้ดูเหมือนจะถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้ว โต๊ะไม้ที่วางตะเกียงอยู่มีรอยถลอกลึก มุมหนึ่งของผนังมีช่องโหว่ที่ลมพัดผ่านเข้ามาได้ ดังนั้น นอกจากกลิ่นสาบภายในกระท่อมแล้ว ยามนี้นางได้กลิ่นสนเขาอ่อนๆ ลอยมากับสายลมนางเริ่มรู้สึกถึงความเย็นของกระแสลมที่กัดกินเนื้อหนัง“ข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้จนวันตาย...ข้าจำได้ว่าคล้ายจะเห็นท่านพลิ้วตัวมารับร่างข้าไว้ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำ ท่านเป็นจอมยุทธ์ใช่หรือไม่ จึงสามารถช่วยข้าไว้ได้เช่นนี้” นางถาม น้ำเสียงเจือความขอบคุณเขาไม่ตอบไม่เพียงไม่ตอบ ยังเบนสายตาไปทางอื่นด้วยซ้ำดวงตาที่มองลอดหน้ากากนั้นยังคงนิ่งลึกท่าทางเช่นนี้...ดูๆ ไปแล้ว ก็คล้ายองครักษ์ที่รับหน้าที่ติดตามคุ้มกันนางเช่นกันหรือว่า...นางอดถามไม่ได้ “ท่านคือองครักษ์จากตำหนักจวิ้นหวังที่คอยติดตามคุ้มกันข้าหรือ?”“ไม่ใช

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 99

    ยามเมื่อเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา นางรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมผ่านผิวกาย แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันเล็กๆ บนโต๊ะไม้ส่องประกายริบหรี่สะท้อนเงามืดบนผนังไม้ที่แตกร้าวราวกับภาพเขียนที่น่าขนลุกภาพหนึ่ง รอบตัวนางในยามนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างของกระท่อมเก่าคร่ำคร่า“ท่านแม่...” นางยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดมารดาด้วยซ้ำทว่า... เพียงฝันไปหรอกหรือ?“ที่นี่ที่ไหน...” นางพึมพำแผ่วเบา รู้สึกร้าวระบมไปทั่วทั้งตัว เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเสื่อเก่าขาด มีหมอนสีดำสนิทที่คล้ายจะทำขึ้นมาด้วยการเอาเสื้อคลุมเปียกๆ ตัวหนึ่งมาหุ้มฟางรองศีรษะ กลิ่นอับของไม้ผุและฝุ่นทำให้นางแสบจมูกจนแทบทนไม่ไหวดวงตาของนางเลื่อนไปหยุดที่ร่างของชายคนหนึ่ง เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว ใบหน้าครึ่งบนกว่าแปดส่วน[1]ถูกปกปิดด้วยหน้ากากโลหะรูปพยัคฆ์ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมดุสะท้อนแสงไฟสลัวเหมือนตาของสัตว์ร้ายเซียงหรงสะดุ้งเล็กน้อย ความหวาดกลัวไหลย้อนกลับมาบีบรัดหัวใจของนางไว้แน่นเสื้อคลุมที่ใช้ทำเป็นหมอนยังคงเปียกชุ่ม เสื้อผ้าผมเพ้าของคนผู้นี้เองก็ไม่ต่างกัน...สังเกตได้เท่านี้เฉินเซียงหรงก็ห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status