แม่ทัพหนุ่มถึงกับตกตะลึงในคำพูดของอดีตฮูหยินที่ถือใบหย่าในมือกับคำพูดให้เขาโกรธเป็นอย่างมากว่าที่แล้วมานางไม่ใส่ใจถือว่าให้หมามันกิน โจวหลี่เฉิงตะโกนเรียกชื่ออดีตฮูหยินอีกครั้ง
"เซี่ยเสี่ยวหลาน!!? เจ้าเป็นเมียข้าแล้วกล้าดียังไงว่าข้าเป็นหมา" "โกรธมากหรือเจ้าคะท่านคงดูถูกคนอื่นได้คนเดียวสินะ ก็อย่างว่าละนะข้าจะบอกท่านอีกอย่างก็ได้ ซือเหลียนเหมย พี่สาวของข้านางไม่ได้อยากจะแต่งให้ท่านหรอก สิ่งที่นางต้องการคือตำแหน่งชายาขององค์รัชทายาทต่างหากละเจ้าคะ ช่างหน้าสงสารคนที่มีใจรักเดียวเช่นท่านข้าจึงบอกได้แค่นี้ จากนั้นก็แล้วแต่ท่านว่าจะรับแม่ดอกบัวขาวที่แสนดีมีแต่คนรังแกมาดูแลหรือเปล่า เอ๋เดี๋ยวสิตอนนี้คนที่นางไปขอพึ่งพิงคงจะเป็นตำหนักของรัชทายาทตั้งแต่เมื่อวานแล้วมั้งเจ้าคะ แทนที่จะมาขอซบอกคนรักอย่างท่านที่บอกรักหนักหนา อย่าเข้าใจผิดละที่ข้าบอกก็เพราะสมเพชท่านที่หูนวกตาบอดในคำลมลวงของอดีตพี่สาวของข้านะเจ้าคะ ลาขาดอีกครั้งเจ้าค่ะ" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดด้วยสีหน้ากวนประสาท ก่อนจะรีบออกจากห้องหนังสือของท่านแม่ทัพและรีบกลับไปรีบเก็บของกลับไปที่จวนของบิดาอย่างรวดเร็ว แม่ทัพโจวหลี่เฉิงได้ยินที่เซี่ยเสี่ยวหลานบอกก็โกรธจนสั่นที่มาพูดใส่ร้ายคนรักของเขาและไล่นางออกจากห้องก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้พลั้งมือทำร้ายนางก่อน "เย่ห่าว ไปสืบเรื่องของซือเหลียนเหมยมาให้หมดตลอดเวลาที่ผ่านมา" "ส่วนเย่เหิง เจ้าไปสืบเรื่องของเซี่ยเสี่ยวหลานมาให้หมด ข้าต้องรู้ทุกอย่างภายในสามวันและเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนวันนั้นด้วย" "พ่อบ้านอยู่ที่ไหน!" เขาตะโกนเสียงดังจนบ่าวกลัวตัวสั่นที่ได้ยินเสียงท่านแม่ทัพใหญ่ส่งเสียงดังลั่นจวน ตั้งแต่ฮูหยินเข้าไปและออกจากห้องหนังสือของท่านแม่ทัพไปแล้ว ท่านแม่ทัพก็ระเบิดเสียงดังลั่นจนบ่าววิ่งหลบกันเป็นแถว เซี่ยเสี่ยวหลานรีบพาสองสาวกลับมาที่เรือนหอ "รีบเก็บของกันพี่ เร็วๆได้ยินเสียงไอ้แม่ทัพบ้านั้นไหมเจ้าคะ เร็วรีบเก็บรีบไปกันเถอะเจ้าค่ะพี่สาว" "คุณหนูบาดเจ็บตรงไหนไหมเจ้าคะ พี่ให้มู่ตานไปตามรถม้ามาแล้วเจ้าคะ โชคดีที่นายท่านเป็นห่วงคุณหนูเลยส่งคนคุ้มกันมาสองคนตอนนี้กำลังขนของรอคุณหนูอยู่เจ้าคะ คงจะเสร็จกระมังเจ้าคะคุณหนู" ฟางหลิวทั้งเดินทั้งวิ่งตามคุณหนูของตัวเอง ทุกคนเตรียมตัวตั้งแต่รู้ว่าคุณหนูเข้าห้องหนังสือของท่านแม่ทัพแล้ว และให้มู่ตานรีบกลับมาเก็บของรอเลย "ตอนนี้รถม้าของท่านพ่อของคุณหนู รออยู่ที่ข้างจวนประตูหลังไม่ไกลจากจวนเล็กที่ใช้เป็นห้องหอเมื่อคืนนี้แล้วเจ้าค่ะ" ก็เป็นจริงทุกอย่างพอมาถึงสามคนยืนรอที่หน้าเรือนด้วยความกระวนกระวายใจที่เห็นคุณหนูเข้าไปในห้องหนังสือของท่านแม่ทัพเจ้าของจวนแห่งนี้ "คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ พี่เก็บของรอหมดแล้วเจ้าค่ะ รอแค่คุณหนูกับฟางหลิวแค่นั้นเจ้าค่ะ" มู่ตานรีบถามด้วยความเป็นห่วง "ทุกคนทำได้ดีมากเจ้าค่ะ เก็บหมดแน่นะเจ้าคะ" เซี่ยเสี่ยวหลานถามย้ำอีกทีให้แน่ใจ "หมดทุกอย่างเจ้าค่ะ ทุกคนช่วยกับตรวจทุกอย่างในห้องหมดแล้วเจ้าค่ะคุณหนู" ฟางหลิวตอบอย่างมั่นใจ "ดี ไปกันเถอะ" เซี่ยเสี่ยวหลานตอบแล้วรีบเดินตามคนของนางไปที่ท้ายจวนและขึ้นรถม้ากลับไปหาบิดาที่จวนทันที ด้วยความดีใจที่หลุดพ้นออกจากจวนนรกแห่งนี้ ขอให้ท่านมีความสุขกับรักลวงของซือเหลียนเม่ยนะท่านแม่ทัพผู้คลั่งรักจนไม่ลืมหูลืมตาเหมือนที่โบราณพูดไว้ไม่มีผิด ในห้องหนังสือแม่ทัพหนุ่มนั่งสงบใจและค่อยๆคิดตามที่เซี่ยเสี่ยวหลานบอก ที่ว่าคนที่ไม่เคยเห็นหน้าจะวางยาไปเพื่อสิ่งใดกัน รักก็ไม่ได้รัก แต่เขากับตามืดบอดไม่รับฟังสิ่งใดเลยในวันที่ตื่นขึ้นมาเจอว่าได้นางเป็นภรรยาแล้ว ทั้งด่าและไม่ฟังที่นางอธิบายสิ่งใดเลยเพราะมีคนรักที่ร้องให้เสียใจที่เขานอกใจนางกับแม่ของคนรักที่บอกว่าเซียเสี่ยวหลานแอบชอบตน เขาก็เชื่อทุกอย่างที่คนรักกับแม่ของนางบอกจึงทำให้เขาไม่รับฟังที่อดีตฮูหยินบอกทุกอย่าง มีก็แต่เสียงร้องไห้ของคนรักที่เขาใส่ใจ แต่อีกคนเขากับด่าและรังเกียจนางนี้เขาทำกับอดีดฮูหยินตัวเองมากไปหรือเปล่าแม่ทัพโจวคิด ถ้าหากเป็นจริงอย่างที่เซี่ยเสี่ยวหลานบอกวันนี้เขาจะทำเช่นไร เป็นถึงแม่ทัพแต่ฟังความข้างเดียวเหมือนที่นางบอกชั่งหน้าสมเพชคนที่ใจมืดบอกเพราะรักมากจนไม่รับฟังสิ่งใดเลย ไม่เท่ากับเขาทำลายทั้งชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งเลยหรือ ยังสติขาดเขียนใบหย่าให้กับภรรยาที่พึ่งแต่งเข้าจวนเมื่อคืนและยังเข้าหอรังแกนางทั้งคืนอีก เพื่อแก้แค้นอีกต่างหาก ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเขาก็เป็นหมาอย่างที่นางด่าเขากระมัง "มีใครอยู่ข้างนอกบ้างเข้ามานี้สิ" ท่านแม่ทัพเรียกหาคนเสียงเรียบ ฉินเฟยเดินเข้ามา "ท่านแม่ทัพต้องการอะไรหรือขอรับ" "ไปดูที่เรือนฮูหยินหน่อยว่านางออกไปหรือยัง" "ขอรับ" ฉินเฟยรับคำสั่งก็รีบไปที่เรือนของฮูหยินของท่านแม่ทัพทันที เปิดประตูเข้าไปไม่มีคนอยู่เลย ในห้องของก็หายไปรวมทั้งสาวใช้ทั้งสองคนด้วย ฉินเฟยรีบกลับมาหาท่านแม่ทัพเพื่อรายงาน พอกลับมาถึงเขาจึงเคาะประตูห้องหนังสือเพื่อรายงานทันที "ว่าอย่างไรฉินเฟย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงถามออกมาจากในห้องทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู "ไม่มีใครอยู่ในเรือนเลยขอรับ ข้าวของที่เป็นของฮูหยินก็ไม่เหลือสักอย่างในเรือนขอรับ" "อือขอบใจมาก" แล้วเสียงข้างในเงียบไป แม่ทัพใจหาย นี้นางรีบไปตั้งแต่ที่ออกจากห้องของเขาเลยหรือนางคงจะเกลียดเขามาก ที่ด่าว่านางไปเยอะและไม่มีเหตุผล มันก็จริงทุกอย่างจะแก้ตัวก็คงไม่ทันรอให้เขาได้รับข้อมูลครบก่อนเถอะ ว่ามันจะจริงอย่างที่นางบอกทุกอย่างจริงหรือเปล่า ส่วนอีกคนกลับถึงที่จวนด้วยใจที่เบิกบาน ส่วนอีกคนนั่งอึมครึมในห้องหนังสือแม้แต่ข้าวก็ไม่กิน และในตอนเย็นวันนั้นเขาก็ได้รับรู้ว่าคนรักได้ออกจากจวนไปขออาศัยจวนขององค์รัชทายาทแล้วจริงๆ ทำให้เขาเจ็บปวดที่ใจเป็นอย่างมาก ทั้งที่ปากบอกว่ารักเขาแต่พอเดือดร้อนก็วิ่งไปซบอกคนอื่นนี้หรือคนที่รักกันตอนดึกคืนนั้นร่างชายชุดดำทั้งสี่คนเร้นหายเข้าตำหนักขององค์รัชทายาทและได้ตำแหน่งที่อยู่ของสาวคนรักว่าอยู่ที่ไหนและก็เหมือนฟ้าจะลงโทษเขาแล้วจริงๆตอนนี้ ซือเหลียนเม่ยกำลังทอดกายให้คนอื่นอย่างหน้าชื่นตาบานอย่างไม่อายฟ้าดินในเรือนหลังเล็ก พร่ำบอกรักผู้ชายและพลีกายให้ชายอื่นเชยชม บอกรักองค์รัชทายาทและจะมีพระองค์คนเดียวในหัวใจ "แล้วข่าวที่เจ้าเป็นคนรักของแม่ทัพโจวหลี่เฉินละทำไมจึงกลายเป็นน้องสาวต่างมารดาเจ้าแต่งแทนเสียละ" เสียงขององค์รัชทายาทถามซือเหลียนเม่ยในห้องที่ทั้งสองเสร็จกิจกามกันและนอนกอดกันเปลือยเปล่าในห้องแม่ทัพหนุ่มทนนั่งฟังบนหลังคากำมือจนเส้นเลือดปูด ปากก็กัดจนสั่นกับสิ่งที่ได้ยินต่อก็ยิ่งตอกย้ำให้กับความรักที่โง่เขลาอย่างเซียเสี่ยวหลานบอกทุกอย่าง "ใครบอกว่าหม่อมฉันเป็นคนรักของท่านแม่ทัพโจวเพคะ ในใจของหม่อมฉันมีแค่องค์รัชทายาทคนเดียวจึงยอมเป็นของพระองค์เพคะและที่โดนไล่ออกจากจวนมาเพราะน้องสาวไปวางยาท่านแม่ทัพในงานเลี้ยง พอกลับมาที่จวนบิดาของนางจึงไล่หม่อมฉันกับมารดาออกมา ทั้งยังให้ใบหย่ากับมารดาของหม่อมฉันด้วยที่ไม่ดูแลน้องสาวจนไปก่อเรื่องในจวนของแม่ทัพเพคะ" ซือเหลียนเม่ยพูดโกหกพลางออดอ้อนองค์รัชทายาท "อ้อเป็นเช่นนี้เองหรือเจ้าก็อยู่ในเรือนที่ข้ามอบให้ไปก่อนรอให้ข้าได้ขึ้นเป็นฮ้องเต้ จะแต่งเจ้าเป็นชายารองเอง เอาละข้าคงต้องกลับแล้ว เจ้าพักผ่อนเถอะเหนื่อยมาครึ่งคืนแล้ว" พูดจบก็ก้มลงหอมหน้าผากสาวสวยกอนจะแต่งตัวและออกไปจากเรือนนอนของซือเหลียนเม่ย พอองค์รัชทายาทออกไม่นานแม่ของซือเหลียนเม่ยก็เข้ามาหาลูกสาวและถามว่า "สำเร็จหรือไม่จับองค์รัชทายาทให้อยู่ละที่แม่สอนเจ้าก็นำมันมาใช้ให้องค์รัชทายาทหลงจนโง่หัวไม่ขึ้นหึๆ ดีแค่ไหนที่แม่วางแผนให้แกกำจัดแม่ทัพหน้าโง่ไปได้ ไม่อย่างนั้นแกจะมีหน้ามานอนในเรือนที่ตำหนักขององค์รัชทายาทไหม" "เจ้าค่ะข้ารู้แล้วใครจะอยากได้แม่ทัพ เอาองค์รัชทายาทมีแต่จะได้เป็นฮองเฮาต่อไปดีนะเจ้าคะ วันนั้นเราหลอกให้นังเซี่ยเสี่ยวหลานหน้าโง่วางยามันจนได้เป็นเมียของท่านแม่ทัพโจวก่อน ข้าก็สะใจยิ่งนักที่แม่ทัพโจวหลี่เฉิงเกลียดมันได้และยังเชื่อว่าข้ายังรักเขาอยู่เหมือนเดินหึๆแต่ก็เอาเก็บไว้เป็นตัวเลือกก็ดีนะเจ้าคะท่านแม่ ข้าจะเข้าไปทำให้ท่านแม่ทัพเกลียดมันยิ่งกว่าเดิมอีกเจ้าค่ะ ท่านแม่รอสักอาทิตย์ก่อนเถอะมันแต่งเข้าจวนไปเมื่อวานนี้เอง ข้าจะเข้าไปทำให้มันโดนท่านแม่ทัพเกลียดยิ่งกว่าเดิมอีกเจ้าค่ะท่านแม่" "หึดีข้าเกลียดมันกับแม่ของมันยิ่งนักและที่ข้าเจ็บใจก็คือพ่อของมันไม่เชื่อในสิ่งที่เราทำและยังหย่าและไล่เราออกจากจวน เงินก็ให้มาแค่พันตำลึงมันจะไปพออะไรสินเดิมของเมียเก่ามันก็เต็มห้องแต่ให้มาแค่นี้ ชิไอ้พ่อบ้านก็ดูแลรักษาแทนเจ้านายทุกของมันทุกอย่างไม่ให้คลาดสายตา ดีที่ตอนนั้นข้าวางยาพ่อมันจนได้เข้าไปอยู่ในจวนตั้งห้าปีเจ้าก็ได้เป็นคุณหนูใหญ่จวนเซี่ยมาตั้งนาน ที่มันให้มาใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็ไม่พอที่จะให้แม่ไปต่อทุนยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ" เสียงนางซือให่ถงบ่นให้ลูกสาวฟัง แม่ทัพหนุ่มนั่งนิ่งไม่ไหวติงที่ตัวเองตกเป็นเหยื่อของสองแม่ลูก รวมทั้งชีวิตของเซี่ยเสี่ยวหลานก็เป็นเขาที่ทำลาย ทั้งยังพูดจาดูถูกสารพัด จะทำเช่นไรดีถึงจะไถ่โทษกับอดีตภรรยาของเขาได้ละนางโกรธจนหน้าของเขาก็ไม่อยากจะมอง ลูกน้องทั้งสามหิ้วปีกแม่ทัพใหญ่กลับไปที่จวนหลังจากที่ได้รู้ความจริงทุกอย่างด้วยตัวเองวันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
สามหนุ่มที่กลับมาจากนาเกลือรอบค่ำและเข้าตรวจความคืบหน้าภายในจวนก็ได้รับรายงานเรื่องที่ฮูหยินของท่านแม่โจวหลี่เฉิงพาทุกคนในจวนทำงานก็ยิ้มด้วยความดีใจที่นางช่างใส่ใจคนในจวนและชาวบ้านยิ่งนัก"ชาตินี้ข้าจะเจอคนเช่นน้องสะใภ้บ้างไหมนะข้าอิจฉาแม่ทัพโจวสหายข้ายิ่งนัก" องค์ชายสองหันมาพูดคุยกับสหายทั้งสองของตัวเอง"ข้าก็อยากมีฮูหยินเหมือนแม่ทัพโจวเช่นเดียวกัน แต่จะไปหาจากที่ไหนละพะยะค่ะองค์ชาย" กุนซือเจียงหันมาพูดกับองค์ชายสอง ส่วนแม่ทัพใหญ่โจวยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ได้ศรีภรรยาที่ดี จนทุกคนอยากมีเช่นเดียวกับภรรยาของตัวของท่านแม่ทัพหาให้ตายก็ไม่มีวันพบเจอหรอกกระมังเพราะบุพเพสันนิวาส นางจึงข้ามภพข้ามชาติมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับข้าผู้เป็นแม่ทัพใหญ่คนนี้หึๆ พวกท่านทั่งสองก็จงแสวงหากันต่อไปก็แล้วกันนะ แม่ทัพโจวคิดในใจเพราะมันคือความลับส่วนตัวของฮุหยินคนงามจากนั้นทั้งสามคนต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อจะมากินมื้อค่ำร่วมกัน แม่ทัพหนุ่มรีบกลับไปหาเมียกับลูกน้อยทันที"หลานเอ๋อร์พี่กลับมาแล้วลูกหมูทั้งสองของพ่อ พ่อกลับมาแล้ว" ทั้งสองแฝดได้ยินเสียงบิดาก็หันหน้ามามองร้องเรียกด้วยควมดีใจยกไม้ยกมือเรียกร
หลังจากแยกย้ายกันกลับมาพักเรือนที่รับรองเรียบร้อย สองผัวเมียก็มารับเอาตัวบุตรทั้งสองคนมาดูแลต่อจากพี่สาวหลิวฟางและพี่สาวหลิวมู่ตาลให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนหลังจากที่ดูแลคุณๆทั้งสองมาทั้งวัน"ว่าไงละจ้ะทำไมยังไม่นอนละเจ้าหมูน้อยของแม่" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดกับบุตรที่ตอนนี้เริ่มหัดเดินในคอกและร้องเรียกแมะๆจ้อเลย ถ้าเห็นหน้ามารดากับบิดายิ่งคึกคักแข่งกันเรียกชื่อพ่อกับแม่และยังพูดไม่ชัดจึงสร้างเสียงหัวเราะให้นางที่เห็นลูกน้อยพยายามที่จะเรียกชื่อแม่กับพ่อตลอดหลังจากที่พี่สาวทั้งสองกลับไปพักที่เรือนนอนกันแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็อุ้มบุตรชายขึ้นมาหยอกล้อเรียกชื่อและพูดคุยกันอ้อแอ้สองคนพ่อลูก ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็อุ้มเอาบุตรสาวลูกหมูน้อยจ้ำหม่ำของนางขึ้นมาอุ้มและพาทุกคนเข้าในมิติเลยพอมาในห้องนอนใหญ่นางก็พาลูกน้อยขึ้นเตียงนอนเพื่อจะให้นมลูกน้อยทั้งสองคนก่อนนอนทุกคืน เจ้าสองแฝดรีบโผเข้าหามารดาด้วยความดีใจที่จะได้ดื่มนมนางทำความสะอาดเต้านมเรียบร้อยแล้ว จึงเอาบุตรสาวให้ดื่มอีกข้างส่วนบุตรชายตอนนี้ก็ต้องดื่มอีกข้างหนึ่งด้วยเช่นกัน ส่วนมือป้อมน้อยก็จับแก้มมารดาคนละข้างลูบเล่นมองตามารดาปากก็ดื่มนมสื่อความหมายด