นักธุรกิจสาวสวยเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังหัวใจล้มเหลวตื่นมาอีกที่ได้สามีและใบหย่าแต่มีหรือเธอจะสนจะทำให้พวกที่ทำร้ายเจ้าของร่างเดิมกระอักเลือดตายไปเลย
View Moreสาธิมา สาวสวยเจ้าของร้านเสื้อชื่อดังที่มีเสื้อผ้าทุกแบบทุดชนิดไม่ว่าจะยุคไหนนางมีหมดทุกแนว กองถ่ายละครทั้งหลายก็สั่งตัดและเช่ากับทางร้านของเธอ จนเธอต้องหาเสื้อผ้าแต่ละยุคมาให้จึงมีงานไม่เคยขาด สาธิมามีคนงานเย็บชุดที่เธอออกแบบเองทุกอย่าง ร้านจึงมีทั้งขายหน้าร้านและรับสั่งทำเป็นจำนวนมาก ทั้งชุดชายหญิง มีครบทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียว
ตึกชั้นสามห้องเสื้อหกคูหาที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้ สาธิมาทุบกำแพงออกกันออกทำเป็นที่พักอาศัย ห้องทำงาน ห้องครัว สวนผัก บนดาดฟ้ามีครบทุกอย่าง หลังจากเรียนจบออกแบบเสื้อผ้ามาสองปี เธอทุ่มเทให้กับงานที่เป็นมรดกตกทอดของพ่อกับแม่จนโด่งดังในวัย 24 ปี วันนี้เธอนั่งวาดแบบทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร จึงทำไปเรื่อยๆจนดึกจนวูบหลับคาโต๊ะทำงานเพราะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันตายจากโลกปัญจุบันไปไม่มีวันหวนกลับ แต่ใครจะคาดคิด เรื่องเคยอ่านเจอแต่ในนิยายที่เขาบอกตายแล้วข้ามภพข้ามมิติเหมือนละครทีวีที่นั่งดู ที่มีแม่การะเกดข้ามภพชาติที่แสนโด่งดัง ทุกคนติดกันงอมแงม จนพูดออเจ้ากันทั่วบ้านทั่วเมือง ส่วนตัวนางนั้นตื่นขึ้นมาในร่างของสาวน้อยนามว่า เซื่ยเสี่ยวหลาน ที่โดนแม่เลี้ยงวางยาจัดฉากให้นอนกับท่านแม่ทัพใหญ่โจวหลี่เฉิงที่มีใจรักใคร่ชอบพอกับพี่สาวต่างมารดาของนาง ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตัวของนางเป็นคนวางยาท่านแม่ทัพโจว ทำให้ท่านแม่ทัพใหญ่โจวเกลียดชังน้ำหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานเป็นอย่างมาก เย็นชา ปากร้าย พูดจาทำร้ายนางทุกครั้งที่เจอหน้า จนถึงวันแต่งงานกันเพราะได้เสียเป็นเมียตั้งแต่ที่โดนวางยาแล้ว จึงจัดงานแต่งงานแบบฟ้าแล๊บทันที ส่วนแม่ลูกวางแผนก็ยังไม่มีใครจับได้ อ้างกับบิดาของนางว่า เซี่ยเสี่ยวหลานอยากให้พาไปงานเลี้ยงที่จวนแม่ทัพที่ได้รับความดีความชอบที่ได้รับชัยชนะจากสงครามกลับมา หลังจากที่ฮ้องเต้ฉลองที่วังให้แล้วแต่แม่ทัพใหญ่โจวยังอยากจัดที่จวนของตัวเอง อยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าจะแต่งงานกับซือเหลียนเม่ย สาวงามที่ท่านแม่ทัพโจวหมายปองจะตบแต่งเข้าจวนแม่ทัพใหญ่ โดยที่ตัวเขาก็ไม่ได้รับรู้มารยาของสองแม่ลูกที่อยากได้องค์รัชทายาทแทนตัวเอง จึงวางแผนหลอกเซี่ยเสี่ยวหลานมาที่งานเลี้ยงในจวนของแม่ทัพและวางยาใส่ร้ายนางว่านางหลงรักแม่ทัพมานานแล้วเมื่อครั้งเห็นท่านแม่ทัพไปที่จวนของบิดา นางจึงวางแผนขอมางานเลี้ยงด้วย สองแม่ลูกพูดเข้าขากันจนทุกคนคิดว่าเป็นความผิดของเซี่ยเสี่ยวหลาน โดยที่ตัวนางนั้นแก้ตัวอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อนางเลยเพราะบิดาที่ไปค้าขายที่ต่างเมืองยังไม่กลับมา จึงเข้าทางสองแม่ลูกมหาภัยที่กระทำการทุกอย่างราบรื่น ไม่ต้องคอยระวังบิดาของนาง เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานไม่สู้คน หัวอ่อน พูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อ มีเพียงบิดาที่เชื่อนางที่พึ่งกลับมาทันก่อนสองวันที่จะถึงวันแต่งงานเข้าจวนของท่านแม่ทัพโจวหลี่เฉิง เมื่อบิดารู้ว่าสายไปแล้วจึงต้องจำใจยกลูกสาวแต่งงานเข้าจวนแม่ทัพโจวหลี่เฉิงในอาทิตย์เดียวกันกับที่เกิดเรื่องเพราะมีแขกมางานเลี้ยงที่จวนของแม่ทัพโจวมากมายล้วน มีทั้งคนสนิทของท่านแม่ทัพโจวและคนที่ไม่สนิทที่มางานเลี้ยง และรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แม่เลี้ยงจึงได้โอกาสบังคับท่านแม่ทัพโจวแต่งออกภายในอาทิตย์นั้น ก่อนที่บิดาของนางจะกลับมาถึงเมืองหลวง จึงทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานเสียใจมาก พอบิดากลับมาก็เป็นวันที่ส่งตัวลูกสาวขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว จึงทำให้บิดาเสียใจมากที่รู้ว่าลูกสาวโดนวางยาในวันนั้น บิดาบอกกล่าวกับลูกสาว "ถ้าอยู่ที่จวนของแม่ทัพโจวหลี่เฉิงไม่ได้ให้กลับมาที่จวนของเรานะลูก พ่อรู้นิสัยของลูกสาวของพ่อดีไม่มีวันที่ลูกจะทำเรื่องเสื่อมเสียอย่างแน่นอน" เซี่ยเสี่ยวหลานกอดบิดาร่ำไห้และบอกว่านางจะไม่เอาอะไรไปที่จวนนั้นมาก ขอสินเดิมเพียงแค่สิบหีบ นอกนั้นให้ปิดเรือนของนางเอาไว้ "ลูกไม่รู้ว่าลูกจะเป็นอย่างไรบ้างในจวนคนอื่นที่ไม่แม้แต่เคยเห็นหน้าลูกกลัว แต่จำใจต้องแต่งเพื่อรักษาชื่อเสียงของตระกูลของบิดาเอาไว้ เป็นลูกที่ผิดเพราะเชื่อในคำพูดของสองแม่ลูก นต้องตกเป็นเหยื่อของสองแม่ลูกเจ้าค่ะท่านพ่อ" เซี่ยเสี่ยวหลานร้องไห้บอกกับบิดา ท่านเซี่ยต้าเหิงโกรธสองแม่ลูกที่ทำร้ายลูกสาวมากจึงเขียนใบหย่าให้นางซือให่ถงและลูกสาว ขับไล่ออกจานจวนไปตั้งแต่มาถึงจวนและรู้ว่าเกิดเรื่องกับลูกสาว สองแม่ลูกกรีดร้องไม่ยินยอมแต่บิดาของเซี่ยเสี่ยวหลานไม่สนใจ ให้พ่อบ้านโยนนางออกจากจวนต่อหน้าทำใสซื่อลับหลับทำร้ายดวงใจของท่าน ตอนที่ท่านพ่อรับสองแม่ลูกเข้ามาตอนแรกก็ทำตัวดีตลอดแต่พอท่านออกไปค้าขายนางก็จะรังแกลูกสาวเขาลับหลัง แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยบอกบิดาของนางเลยเพราะเห็นว่าบิดาเหนื่อยมาจากการทำงานมามากแล้ว นางจึงไม่อยากให้ท่านพ่อต้องมาลำบากใจในเรื่องของตัวเอง แต่ก็คอยระวังตัวมาตลอด จนมาเสียรู้ในงานเลี้ยงของจวนแม่ทัพโจวหลี่เฉิงที่สองแม่ลูกขอร้องให้ไปเป็นตัวแทนของบิดาเพราะท่านแม่ทัพจะขอลูกสาวนางแต่งเข้าจวนของแม่ทัพ จะได้ไม่มีใครดูถูกบุตรสาวของนาง จึงขอร้องให้นางมาเป็นพยานในวันนั้นด้วยจนเป็นเหตุให้ตัวเองต้องแต่งออกในวันนี้ กอดลาบิดาร้องไห้นางเสียใจไม่อยากไป ไม่คิดว่าจะไม่ได้กอดบิดาอีกตลอดไปชีวิต นางต้องขึ้นเกี๊ยวเจ้าสาวไปที่จวนของแม่ทัพโจวหลี่เฉิงในวันพรุ่งนี้ เช้าวันถัดมา หลังจากจบพีธีแต่งงานกราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยาก็ส่งตัวเจ้าสาวในห้องหอ สาวน้อยเซี่ยเสี่ยวหลานหวาดกลัวสายตาของท่านแม่ทัพจนตัวสั่น ตั้งแต่ที่นางโดนวางยาและเป็นเมียของท่านแม่ทัพจนแต่งเข้าจวนเขาไม่เคยพูดดีๆกับนางเลย จึงทำให้นางทั้งหวาดกลัวตื่นเต้นหวาดระแวงมากมากจนนางหัวใจวายตายคาห้องหอโดยที่ไม่รู้ตัวและดวงวิญญาณล่องลอยจนไปเจอสาธิมาที่ดวงจิตออกจากร่าง เช่นเดียวกัน "พี่สาวช่วยใช้ชีวิตในร่างของข้าและช่วยดูแลบิดาของข้าด้วยนะเจ้าคะพี่สาว" นางขอร้องสาธิมาก่อนที่จะหลอมรวมดวงจิตเป็นหนึ่งเดียวกันกับสาธิมา เซี่ยเสี่ยวหลานที่พูดกับดวงวิญญาณของสาธิมาที่ยังไม่ทันพูดอะไร ชิงผลักร่างวิญญาณของสาธิมาอย่างแรงจนเกิดเป็นลมหนุมพัดเอาวิญญาณของสาธิมาลอยอย่างรวดเร็ว "เดี๋ยวก่อนสิโว้ยยย" แล้วทุกอย่างก็มืดสนิท แต่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อนางรู้สึกถึงแรงกระแทก "มีโจรที่ไหนมันมาลักหลับกูวะนี้" สาธิมาคิดและดิ้นรนออกจากร่างสูงใหญ่ของโจรชั่วที่กำลังข่มเหงนางตอนนี้ "จะดิ้นรนไปทำไมในเมื่อเจ้าอยากเป็นเมียข้ามาก จนลงทุนวางยาจนได้แต่งเข้าจวนสมใจเจ้าแล้วนี้" เสียงผู้ชายที่กำลังข่มขืนนางตอบและลงมือรังแกนางต่อทั้งคืน แม่ทัพใหญ่โจวหลี่เฉิงพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและลงมือตักตวงความสุขจากร่างสาวน้อยเซี่ยเสี่ยวหลานโดยไม่สนใจว่านางจะขัดขืนดิ้นรนแต่อย่างใด จนยามเหมาจึงปล่อยร่างของเซี่ยเสี่ยวหลานแล้วออกจากห้องหอไป ในขณะที่โดนสามีของเจ้าของร่างเดิมข่มขืน ความทรงจำของสาวน้อยเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไหลเข้าในหัวของสาธิมา จนได้รับรู้ว่าตัวเองทะลุมิติมาในโลกคืนหลังอีกเป็นพันปีแถมมาตอนที่เขาแต่งงานเข้าหอกันอีกต่างหาก และได้รู้สาเหตุของการตายของสาวน้อยผู้น่าสงสารคนนี้ที่บอกฝากดูแลบิดาก่อนที่จะผลักเธอมาในร่างของตัวเองและหลวมรวมดวงจิตเข้ากัน จนเธอจำเรื่องราวของสาวน้อยนามเซี่ยเสี่ยวหลาน "ขอให้ดวงวิญญาณเธอไปสู่ภพภูมิที่ดีนะ สาวน้อย พี่สัญญาจะดูแลบิดาของเธอ จะเอาคืนคนที่มันทำร้ายเธออย่างสาสม สองแม่ลูกมหาภัยอีเวรตะไลทั้งสองแม่จะจัดให้รอก่อนเถอะ" สาธิมาคิดในใจ "อีตาท่านแม่ทัพใหญ่ก็หูเบาไม่มีเหตุผลฟังความข้างเดียว โทษแต่เจ้าของร่างเดิมจนไม่คิดจะสืบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในจวนของตัวเองเลย โง่เดี๋ยวพี่สาวจะทวงคืนให้เธอเอง" สาธิมาคิดในใจก่อนจะหลับไป "ไม่รักแต่แม่งรังแกทั้งคืนไอ้แม่ทัพเลวทั้งหื่นอีกต่างหาก"วันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
สามหนุ่มที่กลับมาจากนาเกลือรอบค่ำและเข้าตรวจความคืบหน้าภายในจวนก็ได้รับรายงานเรื่องที่ฮูหยินของท่านแม่โจวหลี่เฉิงพาทุกคนในจวนทำงานก็ยิ้มด้วยความดีใจที่นางช่างใส่ใจคนในจวนและชาวบ้านยิ่งนัก"ชาตินี้ข้าจะเจอคนเช่นน้องสะใภ้บ้างไหมนะข้าอิจฉาแม่ทัพโจวสหายข้ายิ่งนัก" องค์ชายสองหันมาพูดคุยกับสหายทั้งสองของตัวเอง"ข้าก็อยากมีฮูหยินเหมือนแม่ทัพโจวเช่นเดียวกัน แต่จะไปหาจากที่ไหนละพะยะค่ะองค์ชาย" กุนซือเจียงหันมาพูดกับองค์ชายสอง ส่วนแม่ทัพใหญ่โจวยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ได้ศรีภรรยาที่ดี จนทุกคนอยากมีเช่นเดียวกับภรรยาของตัวของท่านแม่ทัพหาให้ตายก็ไม่มีวันพบเจอหรอกกระมังเพราะบุพเพสันนิวาส นางจึงข้ามภพข้ามชาติมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับข้าผู้เป็นแม่ทัพใหญ่คนนี้หึๆ พวกท่านทั่งสองก็จงแสวงหากันต่อไปก็แล้วกันนะ แม่ทัพโจวคิดในใจเพราะมันคือความลับส่วนตัวของฮุหยินคนงามจากนั้นทั้งสามคนต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อจะมากินมื้อค่ำร่วมกัน แม่ทัพหนุ่มรีบกลับไปหาเมียกับลูกน้อยทันที"หลานเอ๋อร์พี่กลับมาแล้วลูกหมูทั้งสองของพ่อ พ่อกลับมาแล้ว" ทั้งสองแฝดได้ยินเสียงบิดาก็หันหน้ามามองร้องเรียกด้วยควมดีใจยกไม้ยกมือเรียกร
หลังจากแยกย้ายกันกลับมาพักเรือนที่รับรองเรียบร้อย สองผัวเมียก็มารับเอาตัวบุตรทั้งสองคนมาดูแลต่อจากพี่สาวหลิวฟางและพี่สาวหลิวมู่ตาลให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนหลังจากที่ดูแลคุณๆทั้งสองมาทั้งวัน"ว่าไงละจ้ะทำไมยังไม่นอนละเจ้าหมูน้อยของแม่" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดกับบุตรที่ตอนนี้เริ่มหัดเดินในคอกและร้องเรียกแมะๆจ้อเลย ถ้าเห็นหน้ามารดากับบิดายิ่งคึกคักแข่งกันเรียกชื่อพ่อกับแม่และยังพูดไม่ชัดจึงสร้างเสียงหัวเราะให้นางที่เห็นลูกน้อยพยายามที่จะเรียกชื่อแม่กับพ่อตลอดหลังจากที่พี่สาวทั้งสองกลับไปพักที่เรือนนอนกันแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็อุ้มบุตรชายขึ้นมาหยอกล้อเรียกชื่อและพูดคุยกันอ้อแอ้สองคนพ่อลูก ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็อุ้มเอาบุตรสาวลูกหมูน้อยจ้ำหม่ำของนางขึ้นมาอุ้มและพาทุกคนเข้าในมิติเลยพอมาในห้องนอนใหญ่นางก็พาลูกน้อยขึ้นเตียงนอนเพื่อจะให้นมลูกน้อยทั้งสองคนก่อนนอนทุกคืน เจ้าสองแฝดรีบโผเข้าหามารดาด้วยความดีใจที่จะได้ดื่มนมนางทำความสะอาดเต้านมเรียบร้อยแล้ว จึงเอาบุตรสาวให้ดื่มอีกข้างส่วนบุตรชายตอนนี้ก็ต้องดื่มอีกข้างหนึ่งด้วยเช่นกัน ส่วนมือป้อมน้อยก็จับแก้มมารดาคนละข้างลูบเล่นมองตามารดาปากก็ดื่มนมสื่อความหมายด
Comments