Share

บทที่ 1057

Auteur: โมเนโต้
หลังจากนั้น เวนดี้ก็พูดต่อว่า “ผู้เข้าแข่งขันที่จับได้หมายเลขหนึ่งถึงสิบ กรุณาขึ้นมาประลองบนเวทีตามลำดับ อย่างเช่น ผู้ที่จับได้การ์ดหมายเลขหนึ่งก็จะขึ้นไปบนเวทีหมายเลขหนึ่ง หลังจากทั้งสิบคู่ประลองกันเสร็จแล้ว ฉันก็จะเรียกผู้ที่จับการ์ดได้กมายเลขต่อไปจนถึงหมายเลขยี่สิบ!”

หลังจากที่เธอคิดเกี่ยวกับมัน เธอก็พูดต่อว่า “กฎสำหรับรอบนี้ง่ายมาก คุณจะไม่ฆ่าคู่ต่อสู้ก็ได้ คุณสามารถชนะได้โดยการทำให้คู่ต่อสู้ของคุณตกจากเวที และแน่นอน คุณจะชนะโดยอัตโนมัติหากคู่ต่อสู้ของคุณยอมแพ้!”

หลังจากที่เวนดี้ประกาศกฎสำหรับรอบนี้จบแล้ว ผู้เข้าประลองที่จับได้อันดับหนึ่งถึงสิบก็เหาะขึ้นไปบนเวทีของตน

มันชัดเจนว่าผู้เข้าแข่งขันที่ชนะในรอบที่สองนี้จะได้เป็นผู้เข้าแข่งขัน 50 อันดับแรก และพวกเขาก็จะเข้าใกล้รางวัลชนะเลิศมากขึ้น

“ฮ่า นายโชคดีนะที่มาเจอกับฉัน!”

หนึ่งในเวทีการประลองที่ปรมาจารย์ระดับเจ็ดเจอกับปรมาจารย์ระดับสี่ ปรมาจารย์ระดับเจ็ดอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

เนื่องจากรอบแรกเป็นการประลองหมู่ จึงมีหลายคนที่แข็งแกร่งไม่มากยืนหยัดอยู่ต่อจนจบรอบแรกได้เพราะพวกเขาโชคดี

ปรมาจารย์ระดับเจ็ดคนนี้ถือเป็นนักสู้ทั่วไป เพร
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1058

    เมื่อเฟนด์พูดคำสุดท้ายจบ ผู้อาวุโสลำดับที่สี่ เวนดี้ วินด์ ก็เดินกลับขึ้นมาบนเวทีการประลองอีกครั้ง เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดออกมาว่า “เป็นการประลองที่ยอดเยี่ยม เชิญผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 21 ถึง 30 ขึ้นสู่เวทีได้!” “ฮ่า ๆ ! พี่เฟนด์ ถึงตาฉันแล้ว!” ยูลหัวเราะอย่างเป็นมิตรและเดินไปที่เวที เธอกระทืบเท้าขวา กระโดดขึ้นลอยตัวในอากาศและลงสู่บนเวที ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที เฟนด์มองไปที่ยูลซึ่งอยู่บนเวทีแล้ว จากนั้นเขาก็ก้มลงมองกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ในมือ ตัวเลขบนกระดาษทำให้เขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์แบบ “ไม่มีทาง! เป็นเธอไปได้ไง? แล้วฉันควรจะทำยังไงดี?” เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาไม่คิดว่า ยูลจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา? ช่างบังเอิญจริง ๆ! ฟิ้ว! ฟุ่บ! วูบ! ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ กระโดดขึ้นไปบนเวทีการประลอง บางคนก็เหาะขึ้นไปบนเวที “คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ไหน?” ยูลขมวดคิ้วด้วยความสงสัย คู่ต่อสู้ของเธอทำไมยังไม่ขึ้นมาบนเวทีอีก ไม่นาน แววตาสังสัยของเธอก็ถูกแทนที่ด้วยอาการพูดไม่ออก เฟนด์ก้าวออกจากกลุ่มคน และด้วยการกระทืบเท้าเบา ๆ วินาทีต่อมา เขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ายูล “

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1059

    ลิลลี่หัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันไม่คิดว่าคุณจะใช้แผนแบบนี้ในรอบที่สอง คุณต้องใช้แผนสกปรก ๆ บางอย่างเพื่อทำเครื่องหมายระหว่างที่เขียนเลขลงบนการ์ด เพื่อให้ลูกชายที่รักของคุณได้มาสู้กับลูกสาวของคุณในรอบนี้! แผนขั้นต่อไปก็จะง่ายขึ้น คุณก็แค่ขอให้ลูกสาวของคุณตั้งใจแพ้เฟนด์เพื่อให้เฟนด์ได้เข้าสู่รอบต่อไป ฉันเดาถูกไหม? สุดท้ายเขาก็จะได้เข้าสู่ 50 อันดับแรกใช่ไหม?” “ผม…” ความโกรธพุ่งขึ้นมาในอกของแนชทันทีเมื่อได้ยินข้อกล่าวหาของลิลลี่ เขาไม่คิดว่าลิลลี่จะเห็นเขาเป็นคนแบบนั้น เขากระแอมออกมาเสียงดัง จากนั้นก็พูดออกมาได้แค่ว่า “ผมไม่ได้ทำ!” “ฮึ่ม! คุณไม่ได้ทำ? ถ้าคุณไม่ได้วางแผนไว้ แล้วมันจะบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง? ยังไงก็ตาม ฉันก็ยังอยากดูว่าคุณจะมีแผนอะไรซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า! คุณจะทำให้ลูกชายของคุณเป็นแชมป์การประลองนี้ได้ยังไง!” ลิลลี่ฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชาและสีหน้าของเธอดูหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ “นายหญิง แนชไม่ได้ทำอย่างนั้นจริง ๆ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ คุณรู้จักแนชมาตั้งหลายปีแล้ว คุณก็น่าจะรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เขาทำเรื่องต่าง ๆ อย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเสมอ!” ลิซซี่ที่ยืนอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1060

    “พี่ได้ที่หนึ่งเองงั้นเหรอ? จริงจังหรือเปล่าเนี่ย? พี่รู้ใช่ไหมว่าฉันอยู่ระดับกึ่งเทพขั้นกลางแล้ว?” ยูลรู้สึกงุนงงกับคำพูดเกินจริงของเฟนด์ เธอสงสัยว่าเธอได้ยินสิ่งที่เขาพูดผิดไปหรือเปล่า เธอค่อนข้างอายุน้อยในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ของตระกูลวู๊ด และการที่เธออยู่ในระดับดังกล่าวได้ เธอถือว่าเป็นเด็กอัจฉริยะในกลุ่มคนอัจฉริยะ! เฟนด์มั่นใจในความสามารถของตัวเองขนาดนั้นได้ยังไง? หรือว่าระดับศิลปะการต่อสู้ของเขาและความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นจะอยู่ระดับสูงกว่าเธอ? “พี่รู้ระดับศิลปะการต่อสู้ของเธอ ดังนั้นพี่จะยั้งมือไว้นิดหน่อย เพราะยังไงซะ เธอก็เป็นน้องสาวของพี่ พี่ไม่อยากทำร้ายเธอ!” เฟนด์ยิ้มให้ยูลบาง ๆ แม้ว่ารอยยิ้มจะเลือนลาง แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่สดใสและอบอุ่น เขารู้ว่ายูลเป็นคนจิตใจดี แม้ว่าเธออาจจะถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กและมักจะมีออร่าที่น่าเกรงขามและสูงส่งอยู่เสมอ แต่เธอก็เป็นหญิงสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์และเรียบง่าย “ฮ่า ๆ! ไม่เลวเลย! งั้นออมมือให้ฉันด้วย!” ยูลตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร ใกล้ ๆ มุมปากของเธอปรากฏลักยิ้มน่ารักออกมา หลังจากที่หยอกล้อกับเฟนด์เสร็จ ยูลก็กำห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1061

    “ออมมือให้เขา?” ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งทนฟังคำพูดร้าย ๆ พวกนั้นต่ออีกไม่ไหว “นายหญิง คุณล้อเล่นอยู่ใช่ไหม? เห็นชัด ๆ ว่าการต่อสู้มันรุนแรงมาก ยูลไม่ได้ออมมือให้เฟนด์เลย! นั่นเป็นเพียงแค่การโจมตีรอบแรก และยูลไม่ได้ออมมือให้เฟนด์อย่างแน่นอน!” ผู้อาวุโสลำดับที่สาม เวด วู๊ด ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้แสดงความเห็นอะไร แต่เขาก็ขมวดคิ้วออกมา เป็นเพราะเขาเห็นการโจมตีอย่างชัดเจนด้วยตาของตัวเขาเอง การโจมตีนั้นดูเหมือนยูลจะไม่ได้ตั้งใจออมมือให้เฟนด์เลย “เป็นไปได้ไหม... เป็นไปได้ไหมว่าเด็กนั่นแข็งแกร่งพอที่จะได้อันดับหนึ่งจริง ๆ? แนช วู๊ด ถึงได้มั่นใจในตัวเขามาก” สีหน้าของเวดหมองและมืดมนลง ดูเหมือนว่าทางเดียวที่เขาจะคว้าตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมาได้นั่นก็คือ ต้องหาวิธีลอบสังหารผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งแล้วก็สังหารเฟนด์หลังจากที่แนชตายเพราะยาพิษ เมื่อถึงตอนนั้น ระดับการต่อสู้ของเขาคงจะสูงที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในตระกูลวู๊ด และถ้าเขาบอกว่า เขาต้องการเป็นหัวหน้าตระกูลวู๊ด ใครจะกล้าขัดคำสั่งของเขา? ปัง! ในตอนนั้นเอง ที่ด้านบนของเวทีการประลองหมายเลขหนึ่ง ยูลพุ่งเข้า

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1062 คนโง่

    “บ้าน่า ไม่น่าเชื่อ! หมอนั่นเอาชนะยูลเด็กอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมของเราและทำให้เธอต้องออกจากการประลองเนี่ยนะ? เฮ้! การประลองครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย น่าตื่นเต้นดีนะว่าไหม?” ที่อัฒจันทร์ หนึ่งในหัวหน้าตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ดอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ใช่แล้ว มันน่าตื่นเต้นและน่าประหลาดใจจริง ๆ! เฟนด์ได้รับการเลี้ยงดูและฝึกฝนมาจากทางโลก แต่เขากลับมีทักษะดังกล่าวและประสบความสำเร็จ! ฉันสงสัยว่าระดับพลังยุทธของเขาในตอนนี้จะอยู่ที่ระดับไหน มันคงไม่ต่ำกว่าระดับของคนในตระกูลวู๊ดแน่!” หัวหน้าตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ดอีกคนพูดขึ้น หัวหน้าตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ดคนก่อนหน้าก็ตอบกลับไปว่า “นั่นไม่น่าจะเป็นไปได้นะ เราเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่ซ่อนเร้นอยู่ในโลก และยูลก็เป็นคนของตระกูลหลัก เธอน่าจะมีเทคนิคและกลยุทธ์ในการต่อสู้ดีกว่า ส่วนที่เฟนด์เอาชนะเธอได้นั้น บางทีเขาอาจจะมีระดับพลังยุทธสูงกว่า เขาอาจจะอยู่ระดับกึ่งเทพขั้นสุดยอดแล้ว” “ฮ่าฮ่า! อันที่จริงฉันก็หวังว่าเด็กนั่นจะได้รับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล เพราะยังไงซะ มีเพียงคนแบบนั้น คนที่ค่อย ๆ เติบโตจากโลกธรรมดาถึงจะเข้าใจว่าการใช้ศิลปะการ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1063

    มาร์ตินที่ตัวสูงใหญ่พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหยาบคาย “ในรอบที่แล้วไอ้หมอนี่โชคดีจึงเอาชนะยูลมาได้!” ชายอีกคนก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย็นชา “อย่างแรก ยูลไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในระดับกึ่งเทพ ดังนั้นยูลจึงไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ในการต่อสู้ ทำให้เขามีโอกาสชนะเธอ อย่างที่สอง ยูลยังไม่ทันได้ใช้เทคนิคและทักษะยุทธของเธอเลย เฮ้! ถ้าเธอมีเวลาใช้มัน หรือ มีเวลาเอาอาวุธออกมา มันคงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะชนะในรอบนั้น!” คนที่พูดแทรกขึ้นมาหลังจากที่คิดทบทวนคือปรมาจารย์ระดับเก้า เฟนด์ไม่สนใจคนพวกนี้ เขากลับนั่งลง ขาไขว่ห้าง และรอแข่งรอบต่อไปอย่างสบาย ๆ แทน คำเหยียดหยามจากคนพวกนี้ ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะใช้กำปั้นตอบโต้และทำให้พวกเขาเข้าใจว่า แม้ว่า เฟนด์ วู๊ด จะมาจากโลกธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอัจฉริยะพวกนี้ที่มาจากตระกูลวู๊ดเลย เฟนด์สังเกตผู้อาวุโสลำดับที่สามจากระยะไกลซึ่งอยู่บนอัฒจันทร์ของผู้ชม คนเดียวที่เขาเป็นกังวลคือผู้อาวุโสลำดับที่สาม เพราะก่อนหน้านี้ไททัสเคยบอกเขาว่าผู้อาวุโสลำดับที่สาม ลิลลี่ และผู้พิทักษ์รุ่นที่เก้า เบรนตัน วู๊ด เป็นพวกเดียวกัน พวกเขาสนิทกันมาก ผู้อาวุโสลำดับที่สาม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1064

    เอเลนที่อยู่ข้างเซเลน่าส่งยิ้มจาง ๆ แต่อ่อนโยนให้เซเลน่า จากนั้นเธอก็อธิบายอย่างสุภาพว่า “พี่เซเลน่า ทุกสิ่งบนโลกนี้มีจิตวิญญาณ รวมทั้งต้นไม้ หญ้า และสิ่งอื่น ๆ หากสิ่งมีชีวิตเติบโตในสถานที่ที่มีพลังจิตวิญญาณหนาแน่นและอุดมสมบูรณ์ ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพลังจิตวิญญาณเป็นเวลานานมาก หญ้าพวกนั้นหรืออะไรก็ตามก็จะมีจิตวิญญาณขึ้นมา พวกมันจะเริ่มดูดซับพลังจิตวิญญาณรอบ ๆ ตัว” เซเลน่าพยักหน้าด้วยใบหน้าที่สับสน “ทำไมทุกคนดูตื่นเต้นกับหญ้าวิญญาณนี้ ว่าแต่มันใช้ทำอะไรได้บ้าง? ประโยชน์ของมันน่าอัศจรรย์มากเหรอ?” “แน่นอน มันวิเศษมาก! มันยากที่จะเจอหญ้าวิญญาณ มันจึงหาได้ยากมาก หญ้าวิญญาณพวกนี้ไม่เพียงแต่จะต้องเติบโตในสถานที่ที่มีพลังจิตวิญญาณหนาแน่น แต่อายุของมันก็มีความสำคัญด้วยเหมือนกัน หญ้าวิญญาณยิ่งอายุมาก ก็จะยิ่งหายากมากขึ้นและมันก็ยิ่งวิเศษมากขึ้นด้วย!” “อีกอย่าง เราจะพิจารณาระดับความสมบูรณ์ของพลังวิญญาณในตัวพวกมัน และจัดหมวดหมู่เป็นระดับตามลำดับ ซึ่งมีทั้งหมดเก้าระดับ ระดับหนึ่งจะมีคุณภาพต่ำสุด และระดับเก้าจะมีคุณภาพสูงสุด ภายในระดับของมันเอง เรายังแบ่งพวกมันออกเป็นขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1065

    เอเลนหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนจำนวนมากสงสัยว่าหญ้าวิญญาณระดับสามหรือระดับสี่ หรือระดับสูงกว่านั้นมีอยู่จริงหรือเปล่า เพราะไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน นอกจากนี้ยังมีตำนานอื่นที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่า แต่ใครจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า!”“ตำนานอะไรเหรอ?”เซเลน่ากับเบ็นถามออกมาพร้อมกันเอเลนยิ้ม “ระดับสูงสุดที่ปรมาจารย์ฉีสามารถบรรลุได้ในตอนนี้คือระดับเทพแท้จริงขั้นสุดยอด เมื่อคุณไปถึงขั้นนั้นแล้วมันก็เริ่มยากมากที่จะพัฒนาต่อ เนื่องจากเรายังไม่มีทักษะยุทธที่มากกว่าระดับนั้น ยังมีตำนานบอกว่าคนที่สามารถบรรลุมากกว่าขั้นนั้นได้ก็จะอยู่ในระดับเทพสูงสุด”เอเลนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็มองไปที่ชายตรงหน้าอย่างเคร่งขรึม “ตามตำนานเล่าว่า คุณจะมีอายุยืนขึ้นเมื่อบรรลุระดับเทพสูงสุดได้” เธอพูด “จริง ๆ คุณจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองร้อยปี!”“ไม่น่าเชื่อ!”เซเลน่ากับเบ็นสูดหายใจเข้าอย่างแรง สงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า ถ้าตำนานที่ว่ามานั่นเป็นเรื่องจริง งั้นคนที่อยู่ในระดับนั้นก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงอายุสองร้อยปี แล้วใครจะไม่ต้องการแบบนั้นล่ะ?อีกอย่าง คนที่อยู

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status