Share

บทที่ 2031

Auteur: โมเนโต้
คำพูดของโนเอลดึงดูดความสนใจของเฟนด์และเฟนด์หันกลับมามองเขาด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดเลยว่าโนเอลจะรู้จักศิษย์ภายนอกที่เพิ่งได้รับคัดเลือกใหม่ถึงสองคนนี้ โนเอลรู้สาเหตุที่ทำให้เฟนด์ประหลาดใจเมื่อเขาสังเกตเห็นแววตาของอีกฝ่าย “ฉันมาจากตระกูลชนชั้นสูงเหมือนกันนะ แม้ว่าจะไม่ใช่ตระกูลที่ใหญ่โตอะไรแต่ก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอที่ฉันจะรู้จักศิษย์รุ่นเยาว์ที่โดดเด่นสองคนนี้?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฟนด์ก็หัวเราะเบา ๆ และพยักหน้าเล็กน้อยโดยพูดว่า "คุณแน่ใจเหรอว่าสองคนนี้ถือว่าโดดเด่น?" เฟนด์ไม่ได้พูดสิ่งนี้จากความไร้เดียงสาของตัวเองและทักษะที่มี และเขาก็ไม่ได้ดูแคลนอีกฝ่ายด้วย เขาแค่พูดความจริงออกมาเท่านั้น เฟนด์กำลังพูดจากรูปลักษณ์โดยรวมต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ทำให้ไฟสว่างขึ้นเพียงสี่ดวงในระหว่างการประเมินเท่านั้นเอง

ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่ได้โดดเด่นมากนักสำหรับบรรดาศิษย์ภายนอก แต่ดูเหมือนโนเอลจะมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาสองคน โนเอลเลิกคิ้วตอบ แม้จะมีความตะหงิดใจเล็กน้อย “พวกเขาค่อนข้างโดดเด่น ฉันรู้เกี่ยวกับผลการประเมินของนาย แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถได้คะแนนเต็ม แต่พวกเขาก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2032

    เจอรัลด์ตอบอย่างใจเย็นว่า “ไม่ว่าเราจะขยับตัวทำอะไร เราต้องการคะแนนสะสมของตำหนัก ถ้าเราสองคนมัวแต่อยู่ในตำหนัก เราจะเก็บคะแนนสะสมได้สักกี่คะแนน แม้ว่าเราจะพยายามหนักแค่ไหน? แต่เราจะได้รับคะแนนสะสมมากขึ้นจากการออกไปนอกสถานที่เช่น ป่าดงอสูร”คะแนนสะสมของตำหนักเป็นสิ่งที่ศิษย์ทุกคนต้องการ ในตำหนักแห่งนี้ไม่ว่าพวกเขาจะขยับตัวไปไหน ต่างก็ต้องใช้คะแนนสะสมของตำหนักจำนวนมาก แม้ว่าเฟนด์เพิ่งจะได้รับคะแนนสะสมของตำหนักมาเป็นจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนนจากการประลองกับเวสลีย์ แต่คะแนนนั้นก็เป็นเหมือนน้ำหยดเดียวในมหาสมุทรและไม่เพียงพอสำหรับเฟนด์การรับคะแนนสะสมของตำหนักมีหลายวิธี โดยปกติแล้ว ศิษย์ภายนอกที่ถูกคัดเลือกเข้ามาใหม่จะอยู่ในตำหนักเพื่อทำงานง่าย ๆ และอาจได้รับคะแนนสะสม เช่นงานบ้านต่าง ๆ ให้กับศิษย์อาวุโส ช่วยช่างหลอมในการผลิตสรรพาวุธ หรือช่วยนักเล่นแร่แปรธาตุในการปรุงยา ศิษย์จะได้รับคะแนนจากงานเหล่านี้แต่คะแนนสะสมดังกล่าวไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป มันน้อยเกินไปสำหรับเจอรัลด์และมอร์ตันกลับกันการออกจากตำหนักและไปล่าสัตว์อสูรในป่าดงอสูรเพื่อเอาแก่นวิญญาณของพวกมันมาแลกคะแนนจะดีกว่ามาก พวกเขาสาม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2033

    นี่คือเหตุผลที่สุดท้ายแล้วโนเอลตัดสินใจที่จะไม่ถามอะไรออกมา อันที่จริง มอร์ตันกับเจอรัลด์ควรจะจากไปได้แล้ว เพราะบทสนทนาของพวกเขาจบลงแล้ว และพวกเขาก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันนักทันใดนั้น มอร์ตันก็ทำราวกับว่าเขาสนิทสนมกับโนเอลและต่อบทสนทนาอีกครั้ง “ป่าดงอสูรเป็นภูเขาที่กว้างใหญ่ที่สุดในเกาะเวสต์ เซอร์ซีอย่างแท้จริง แม้ว่าเราจะสามารถเข้าไปในเขตรอบนอกของชายป่าก็เถอะ แต่เราก็ยังพบกับอันตรายมากมาย โชคดีที่เราแข็งแกร่งพอและเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ ไม่ว่ามันจะอันตรายแค่ไหนก็ตาม”โนเอลพยักหน้าและชมเชยเขา พูดตามตรง เขาอยากจะพูดกับมอร์ตันไปตรง ๆ เขาอยากจะบอกอีกฝ่ายว่าไม่สนใจฟังเรื่องไร้สาระของอีกฝ่ายเลย มอร์ตันและเจอรัลด์ไม่ต้องบอกเขาหรอกว่าป่าดงอสูรนั้นอันตรายแค่ไหน เพราะโนเอลเคยไปที่นั่นมาหลายครั้งแล้วเฟนด์ฟังด้วยความสนใจสูงในขณะที่เขาเตรียมการสำหรับหนทางต่อไปของตัวเอง แต่ขณะที่เฟนด์กำลังฟังการสนทนาของพวกเขา จู่ ๆ มอร์ตันก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ศิษย์น้องเฟนด์ นายมาทำอะไรที่นี่นี่”เฟนด์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วที่มอร์ตันลดระดับความอาวุโสลงโดยเรียกเขาว่า 'ศิษย์น้อง' เฟนด์ไม่รู้ว่ากฎของตำหนักอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2034

    ผู้ชมบางคนเริ่มซุบซิบกันเองเบา ๆ“หมอนี้เป็นใครกัน? เขามาจากที่ไหน? เขาบ้าไปแล้วเหรอ?”"ใครจะไปรู้ล่ะ? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหากับเฟนด์ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยู่ในขั้นแรกระดับแรกกำเนิดด้วย เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ”มอร์ตันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าคนโดยรอบจ้องมองมาที่เขา เขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ? ทำไมทุกคนถึงมองราวกับเขาเป็นตัวตลก?เขาเขาพยายามคิดเกี่ยวกับคำพูดของตัวเองอย่างรอบคอบ แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป เช่นนั้นแล้วทำไมผู้คนถึงมองเขาแบบนั้น?เจอรัลด์ตกตะลึงพอ ๆ กัน และเขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาแปลก ๆ ที่คนเหล่านี้มองมาที่พวกเขาไม่ต่างจากสหายโนเอลมองไปที่มอร์ตันอย่างพูดไม่ออก อันที่จริงเขาต้องการบอกมอร์ตันว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ต่างจากการตบหน้าตัวเองอย่างแรง แต่เมื่อฟังจากสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก็ชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายได้ยินเรื่องการประลองเดิมพันของเฟนด์มาแล้วเช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้จะเป็นการดีที่สุดที่เขาจะปิดปากเงียบเฟนด์หัวเราะเบา ๆ และมองไปที่มอร์ตันอย่างเย็นชา แม้ว่าเขาจะไม่อยากเสียเวลาเปลืองน้ำลายไปกับใครก็ตาม แต่เขาก็รังเกียจที่มอร์ตันสร้างปัญหา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2035

    คำพูดง่าย ๆ เช่นนี้ทำให้ทั้งมอร์ตันและเจอรัลด์ตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ และปากของพวกเขาก็อ้าค้างมอร์ตันหัวเราะแห้ง ๆ รำพึงกับตัวเองว่าบรู๊คอาจเสียสติไปแล้ว ทำไมบรู๊คถึงพูดอะไรไร้สาระเช่นนี้ออกมา? เฟนด์และเวสลีย์ประลองเดิมพันกันไปแล้ว และเฟนด์… เอาชนะเวสลีย์ได้งั้นเหรอ? ช่างไร้สาระอะไรเช่นนี้!ทว่าสายตาแปลก ๆ ที่พวกเขาได้รับทำให้มอร์ตันชะงักไปโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธเจอรัลด์โพล่งขึ้น “นี่นายว่ายังไงนะ? เฟนด์จะเอาชนะเวสลีย์ได้ยังไง?” สีหน้าของเขามืดลงเมื่อเขาได้เบาะแสบางอย่าง เขาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวศิษย์ภายนอกทุกคนรอบตัวพวกเขาได้ยินอย่างชัดเจน และทุกคนก็ได้ยินสิ่งที่บรู๊คพูด แต่ไม่มีใครปฏิเสธสิ่งที่เขาพูด และไม่มีสายตาแปลก ๆ มองมาที่เขาด้วย นั่นหมายความว่าบรู๊คไม่ได้ปั้นน้ำเป็นตัว เขากำลังพูดความจริงแม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็ยังรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติมอร์ตันและเจอรัลด์กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวขณะที่พวกเขามองไปที่เฟนด์ด้วยสายตาที่ต่างออกไป ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนรอบข้างถึงมองพวกเขาราวกับตัวตลก ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ถึงจุดผิดปกติในคำพ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2036

    “ศิษย์อาวุโสเซเยอร์ ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนที่มีความยุติธรรมและปราศจากอคติ จริงอยู่ที่ตอนแรกเรามีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเขา แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แม้ว่าหมอนั่นจะไม่พอใจ แต่เขาก็น่าจะคำนึงการสนับสนุนที่คุณมีต่อศิษย์พี่เวสลีย์ไว้บ้างและไม่ควรโจมตีเขารุนแรงเช่นนี้ ทักษะยุทธของธาตุวิญญาณทำให้ผู้คนบาดเจ็บสาหัส ผู้ชายคนนั้นไม่สนใจอะไรและทำร้ายศิษย์พี่เวสลีย์โดยตรง บาดแผลตามร่างกายของเขาสามารถรักษาให้หายได้โดยง่าย แต่บาดแผลพี่อยู่ในจิตวิญญาณของเขาไม่สามารถรักษาได้ในระยะเวลาอันสั้น!”นัยน์ตาแห่งความโกรธฉายแววผ่านนัยน์ตาสูงวัยของศิษย์อาวุโสเซเยอร์ ขณะที่เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ความโกรธดังกล่าวก็หายไปในไม่ช้า “ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เขายังมีอารมณ์ร้ายอีกด้วย ในฐานะผู้อาวุโสของตำหนัก ฉันจะลงไม้ลงมือกับเหล่าศิษย์ไม่ได้ แต่ถ้าฉันปล่อยให้ผู้ชายคนนี้พัฒนาตัวเองต่อไป สักวันหนึ่งเขาจะเหยียบหัวฉันไปด้วย”ชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมรีบกล่าวเสริมคำพูดของอีกฝ่าย "ใช่แล้วล่ะครับ! ศิษย์อาวุโสเซเยอร์ หมอนี่น่ะจองหองมาก ไม่เพียงแค่นั้น ผมคิดว่าเขาทั้งหยิ่งยโสและเป็นพวกยอมหักไม่ยอมงออี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2037

    กลิ่นของชาที่หอมกรุ่นอบอวลไปทั่วพื้นที่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้สนใจว่าชาจะมีกลิ่นที่ดีเพียงใด โนเอลพูดด้วยความอับจนหนทาง “สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องทำสงครามกัน แต่สงครามปะทุขึ้นเร็วอย่างนี้ได้อย่างไร? ศิษย์น้องเฟนด์นายคิดที่จะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วยหรือไม่? หากนายฆ่าศัตรูในระหว่างการต่อสู้ได้นายจะได้รับคะแนนสะสมเป็นจำนวนไม่น้อยเลย”คนหลายคนมองไปที่เฟนด์เป็นตาเดียวเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่โนเอลพูด เฟนด์ส่ายหน้าในทันที “จริงอยู่ที่ผมสามารถจะได้รับคะแนนสะสมไม่น้อย แต่หากผมรับงานนี้และออกจากตำหนักไปฆ่าคนจากอีกฝ่าย ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของผมผมไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะปลอดภัย เราต่างก็รู้กันดีว่าสมาชิกของเผ่าปฐมหายนะเองก็ต้องการกำจัดสมาชิกจากตำหนักของเรา แต่แม้แต่สมาชิกในตำหนักนี้ก็ต้องการให้ผมตายด้วยเหมือนกัน”ผู้คนรอบตัวเขาเงียบลงทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด พวกเขาสามารถระบุความนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องคำพูดของเฟนด์ได้ แม้ว่าเฟนด์จะมีพรสวรรค์สูงกว่าคนอื่น ๆ แต่เขาก็ได้สร้างศัตรูมาจำนวนไม่น้อย หลายคนจะลงมือกับเฟนด์ด้วยความอิจฉาริษยา เวสลีย์และคนอื่น ๆ จะไม่ยอมให้เขาเติบโตอย่างแข็งแกร่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2038

    ผู้ช่วยแชปแมนนำป้ายหยกประจำตัวสีแดงเรืองแสงออกมา ทั้งขนาดและวัสดุที่ใช้ล้วนดีกว่าป้ายหยกประจำตัวของศิษย์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ชื่อ 'เมย์นาร์ด เซเยอร์' เขียนอยู่บนนั้น และแม้ว่าเฟนด์จะไม่รู้จัก เมย์นาร์ด แต่เขาก็เดาได้ว่านั่นคือป้ายหยกประจำตัวของศิษย์อาวุโสเซเยอร์จากนั้น ผู้ช่วยแชปแมนก็หยิบหยิบกระดาษสีเหลืองที่มีอักษรรูนหลายตัวเขียนอยู่ และวางไว้ตรงหน้าเฟนด์ “ฉันต้องการให้นายเซ็นเอกสารโอนกรรมสิทธิ์นี้”เฟนด์ชำเลืองมองไปที่โนเอลที่ยืนอยู่ด้านข้างแต่ตรวจไม่พบสิ่งแปลกปลอมในสีหน้าของเขา ดังนั้นเขาจึงเซ็นชื่อในกระดาษซึ่งลุกเป็นไฟทันทีหลังจากที่เขายกปากกาขึ้น สิ่งนี้ทำให้เขาตะลึงเล็กน้อย“ในตำหนักของเรามีกฎว่าไม่สามารถโอนคะแนนสะสมให้กันได้หากอีกฝ่ายไม่สมัครใจ หากนายต้องการโอนคะแนนสะสม นายต้องเซ็นชื่อในกระดาษโอน หลังจากลงนามในกระดาษโอนคะแนนแล้ว จะสามารถโอนคะแนนไปยังป้ายหยกประจำตัวของนายได้” ผู้ช่วยแชปแมนอธิบายอย่างเฉยเมยหลังสิ้นคำอธิบาย ป้ายหยกประจำตัวของเฟนด์ก็เริ่มเรืองแสงเล็กน้อย เฟนด์ตรวจดูคะแนนบนป้ายหยกด้วยพลังจิต และตามที่คาดไว้ คะแนนการสนับสนุนที่เป็นศูนย์ก่อนหน้านี้ของเขาเพิ่มขึ้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2039

    เฟนด์พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ แค่สิบสี่วัน ผมมีแผนที่จะใช้คะแนนสะสมสิบคะแนนที่เหลือกับอย่างอื่น”เฟนด์คุ้นเคยกับความมืดที่เหนียวเหนอะหนะ และเช่นเคย เขาไม่ได้ขอให้โนเอลเลื่อนระดับความยากระดับห้า เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถบ่มเพาะตัวเองภายใต้ความยากระดับห้าได้อยู่แล้ว แต่ความจริงก็คือความจริง ระดับห้านั้นถือว่ายากสำหรับเขาแต่หลังจากการบ่มเพาะครั้งก่อน เฟนด์ได้เข้าใจเรื่องหนึ่ง การถูกกระตุ้นที่แรงขึ้นไม่ได้แปรผันตามความเร็วของความก้าวหน้าในการบ่มเพาะตน เขาควรรักษาสมดุลโดยทำให้แน่ใจว่าคลื่นกระแทกวิญญาณจะไม่แรงหรืออ่อนเกินไป และในความยากระดับสี่ก็นับว่าเป็นระดับที่เหมาะสม หลังจากอัญเชิญประตูเรียงเนตรแล้ว เฟนด์ก็รู้สึกได้ถึงการกระตุ้นที่คุ้นเคยทันทีที่คลื่นกระแทกวิญญาณซัดเข้าใส่เขา เมื่อนั้นการฝึกของเขาจึงเริ่มต้นขึ้นครั้งนี้ เขาตั้งใจจะควบรวมดาบวิญญาณเล่มที่สี่ให้ได้ เวลาล่วงเลยไปและยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าไหร่ การฝึกก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น หลังจากผ่านไปสี่วัน เขาเพิ่งจะสามารถควบแน่นดาบวิญญาณเล่มที่สี่ได้เพียงสองในสามส่วนเท่านั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ สองในสามส่วนก็หมายความว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status