/ รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 12 อย่าไว้ใจผู้ใด

공유

ตอนที่ 12 อย่าไว้ใจผู้ใด

last update 최신 업데이트: 2025-01-15 07:00:07

เมื่อได้ยินศิษย์น้องพูดเช่นนั้น หยางซีอวิ๋นได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาเองก็ไม่รู้เลยว่าปลายทางของโชคชะตาจะเป็นอย่างไร จึงเอ่ยปลอบใจจื่อเถิงว่า “เช่นนั้นข้าจะพยายาม”

“แล้วเจ้าเล่าอิงฮวา” จื่อเถิงถามศิษย์น้องบ้าง

“ข้าก็จะพยายามเจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับปากเป็นอย่างดี

จู่ ๆ ท้องฟ้าโปร่งกลับมีเค้าเมฆฝนราวกับพายุลูกใหญ่กำลังจะพัดผ่านมาทางนี้ หยางซีอวิ๋นพูดขึ้นมาว่า “ไม่ไกลจากที่นี่คงเป็นเมืองเป่ย พวกเรารีบไปหาที่พักก่อนฝนตกจะดีกว่า”

หนึ่งก้านธูปต่อมา

ครั้นเข้ามายังใจกลางเมืองเป่ย ทหารอารักขาหลายสิบนายต่างกรูกันเข้ามาทำความเคารพพวกเขาราวกับว่ารู้จักกันมาก่อน

“เอ่อ... พวกท่าน...” จื่อเถิงทำตัวไม่ถูก มือไม้พันกันเป็นระวิง

“ท่านเซียนสำนักดาราสวรรค์ใช่หรือไม่” หนึ่งในนั้นถามพวกเขาสีหน้าจริงจัง

“พวกท่านรู้ได้อย่างไรหรือ” หยางซีอวิ๋นรู้สึกไม่ไว้ใจอยู่ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาทั้งสามเดินทางโดยไม่เปิดเผยตัวตนมานานแล้วจึงเกรงว่าอาจมีกับดักรออยู่

“ท่านเซียนอย่าได้กังวลไปเลย” เขาผ่อนคลายน้ำเสียงให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น “พวกมารปีศาจอาละวาดไปทุกหนแห่ง ท่านเจ้าเมืองเองก็พอจะได้รับข่าวสารจากเมืองอื่น ๆ มาบ้างจึงรู้มาว่าท่านเซียนต้องการที่พักพิงจึงสั่งพวกข้าเอาไว้ขอรับ”

“เราสามคนไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานนักหรอก ขอเพียงแค่หลบพายุก็จะออกเดินทางต่อแล้ว” หยางซีอวิ๋นปฏิเสธความช่วยเหลือเพราะเกรงว่าจะนำภัยมาสู่ชาวเมือง

“หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ขอเชิญพวกท่านเข้าพักที่จวนเจ้าเมืองก่อนเถิด เมฆตั้งเค้าลอยมาทางนี้แล้ว อีกไม่นานพายุฝนคงกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา”

จื่อเถิงมองหน้าศิษย์ร่วมสำนักแล้วบอกคนตรงหน้าว่า “รบกวนท่านนำทางไปเถิด”

ทหารอารักขาผู้นั้นจึงพาพวกเขาทั้งสามคนมาที่จวนเจ้าเมืองเป่ย

ชายวัยฉกรรจ์สวมอาภรณ์สีดำประดับลายทองเดินออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ข้าน้อยมีนามว่าเสิ่นฉือเป็นผู้ปกครองเมืองเป่ยแห่งนี้ ยินดีต้อนรับท่านเซียนทั้งสามเป็นอย่างยิ่งขอรับ”

น้ำเสียงและท่าทางสุภาพของคนตรงหน้าดูไม่มีพิษภัยอันใด หากแต่ศิษย์สำนักเซียนยังคงเคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวัง

“เชิญนั่งก่อนเถิด” เขาผายมือไปที่เก้าอี้ทางด้านซ้ายมือแล้วสั่งให้บ่าวรับใช้นำชุดน้ำชาออกมาต้อนรับแขก

“ขอบคุณน้ำใจของท่านเจ้าเมืองยิ่งนัก แต่ว่าพวกข้าคงจะไม่รบกวนท่านนาน” หยางซีอวิ๋นเอ่ยปากบอกแผนการเดินทางที่วางเอาไว้

เจ้าเมืองเป่ยเข้าใจเป็นอย่างดีว่าหลายวันที่ผ่านมาเซียนทั้งสามระหกระเหเร่ร่อนและได้รับความลำบากจึงยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าจะช่วยเหลือทุกอย่าง

เขาโน้มน้าวใจจื่อเถิงและคนที่เหลือให้คล้อยตามทีละนิด “เมืองเป่ยตั้งอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาหลายชั่วอายุคน ด้านหลังไม่ไกลนักเคยเป็นที่ตั้งของสำนักเซียนในอดีต เมืองแห่งนี้จึงมีพลังเซียนไหลเวียนคอยปกป้องคุ้มภัยจากมารปีศาจมาเนิ่นนาน” เจ้าเมืองเป่ยยกถ้วยชาดื่มแล้วเอ่ยต่อ “หากพวกท่านกังวลว่าจะนำภัยมาสู่เมืองของเรา ข้าน้อยยืนยันได้เลยว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นขอรับ”

“ถึงอย่างนั้น พวกเราก็ไม่อยากรบกวนท่านเจ้าเมืองจริง ๆ” จื่อเถิงยังคงยืนยันคำเดิม

“อืม ข้าคงไม่อาจบังคับพวกท่านได้หรอก ระหว่างที่พักหลบฝนในจวนแห่งนี้ พวกท่านลองตรึกตรองดูอีกสักครั้งเถิด” เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “พลังเซียนที่ไหลเวียนในเมืองเป่ยเป็นเกราะกำบังชั้นดีช่วยพรางตาให้ชาวเมืองหลบพ้นจากสายตาของพวกมารปีศาจ หลายวันมานี้คนของข้าน้อยรายงานมาว่าเห็นพวกมันผ่านไปผ่านมาแต่กลับทำตัวราวมองไม่เห็นที่ตั้งเมืองเป่ยเสียอย่างนั้น”

“...”

“ข้าน้อยจึงคิดว่าหากพวกท่านต้องการที่หลบภัย จวนข้าน้อยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วขอรับ”

“ขอบคุณท่านเจ้าเมือง พวกข้าจะลองปรึกษากันก่อน” หยางซีอวิ๋นเอ่ยขอบคุณความมีน้ำใจของเขา

หลังจากนั้นทหารอารักขาจึงพาทั้งสามไปพักที่เรือนรับรองอีกฟากหนึ่งของจวนใหญ่ พลันฝนเม็ดใหญ่พรั่งพรูลงมาจากฟ้าไม่ขาดสาย

อากาศหนาวเย็นพัดผ่านมาเป็นระลอกพร้อมไอฝนเปียกชื้น ศิษย์สำนักเซียนจึงได้แต่นั่งอยู่ข้างในเรือนรับรองพลางปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป

“ข้าตรวจดูม่านพลังเซียนอย่างที่เจ้าเมืองเป่ยบอกแล้ว” อิงฮวาใช้วิชาเซียนที่เรียนมาตรวจสอบว่าเขาพูดจริงหรือไม่ “หากดูผิวเผินไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีม่านกั้นอยู่เจ้าค่ะ”

“อืม เพราะอย่างนั้นบริเวณรอบนอกที่เราเพิ่งผ่านเข้ามาจึงมีไอมารปีศาจจาง ๆ แต่พอเข้ามาในเมืองเป่ยกลับไม่ได้ร่องรอยของพวกมันแม้แต่น้อย” หยางซีอวิ๋นครุ่นคิดตามที่สัมผัสได้

“แต่ข้ากลับรู้สึกว่าแปลกยิ่งนัก ไม่อยากอยู่ที่นี่นานนักเลย” จื่อเถิงออกความเห็นบ้าง

“เช่นนั้นพอฝนหยุดก็กลับออกไปจะดีกว่า” หยางซีอวิ๋นสรุปตามนั้น ประสบการณ์หลบหนีพรรคพวกกงจื่อเย่หลายวันที่ผ่านมาสอนพวกเขาไว้หลายอย่าง

อย่าไว้ใจใคร อย่าหลงกลและห้ามเปิดเผยตัวตนให้ผู้ใดรับรู้ หูตาของจอมมารแฝงอยู่ทุกที่และสิ่งที่เขาเห็นในเวลานี้อาจเป็นภาพลวงตา

ทว่า พายุฝนไม่หยุดโดยง่าย ทำท่าจะตกหนักเช่นนี้ไปอีกสามสี่วัน จื่อเถิงจึงฆ่าเวลาด้วยการตั้งสมาธิหลอมรวมสรรพสิ่งเพียงลำพังในห้องรับรองโดยมีอิงฮวาและหยางซีอวิ๋นคอยระวังอยู่รอบนอก

อีกฟากหนึ่งของจวนเจ้าเมืองเป่ย

เสิ่นฉือนั่งคุกเข่าอยู่หน้าแท่นสักการะ กลิ่นธูปเทียนฉุนโชยอบอวลทั่วห้อง

เขาเอ่ยปากท่องภาษาแปลก ๆ อยู่คนเดียวพลางกรีดข้อมือของตนเองให้เลือดหยดลงบนแผ่นยันต์สีดำที่มีอักขระโบราณกางไว้บนพื้น

ด้านหน้าของเขามีร่างไร้วิญญาณของคนผู้หนึ่งนอนแน่นิ่ง ร่างกายยังคงอุ่น ๆ เพราะเพิ่งถูกสังหารเมื่อครู่

“ท่านจอมมารได้โปรดปรากฏกายในที่แห่งนี้ด้วยเถิด” เสิ่นฉือท่องตำราเรียกจอมมารอย่างใจจดใจจ่อ ท่องวนไปวนมาซ้ำ ๆอยู่อย่างนั้นเกือบหนึ่งชั่วยาม

จนสุดท้ายแล้วความพยายามของเขาก็สัมฤทธิ์ผล กงจื่อเย่โผล่ขึ้นมาเหนือร่างไร้ชีวิตพลางแสยะยิ้ม สายตาของเขามองไปยังเจ้าเมืองเป่ยไม่สบอารมณ์

“เฮอะ มนุษย์อย่างเจ้ามีน้ำหน้าหาญกล้าเรียกข้าเชียวหรือ” กงจื่อเย่ดูถูกซึ่งหน้า

“ท่านจอมมาร อย่าได้กริ้วไปเลย ข้ามีเรื่องจะรายงานท่านขอรับ” เสิ่นฉือรีบเอ่ยปาก ในใจเต้นระรัวที่ได้เห็นร่างแท้จริงของจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ตามข่าวลือ

“...”

“ได้โปรดรับข้าและชาวเมืองเป่ยเป็นผู้รับใช้ท่านด้วยเถิด”

“ยังไม่ทันไรก็ริอาจต่อรองกับข้าเสียแล้ว ไม่รักตัวกลัวตายหรืออย่างไร” จอมมารรู้สึกทึ่งกับมนุษย์ตรงหน้าเพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะผู้ใดย่อมเกรงกลัวเขา “หากเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะลองทำตามคำขอของเจ้า”

เสิ่นฉือดีใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับใช้ผู้ยิ่งใหญ่ คิดในใจว่านับจากนี้ไปจะได้พลังมารมาครอบครอง

“ข้าน้อยกักตัวเซียนผู้นั้นเอาไว้แล้วขอรับ”

“ผู้ใด” กงจื่อเย่สงสัย

“เซียนสำนักดาราสวรรค์ จื่อเถิงขอรับ” เจ้าเมืองเป่ยเอ่ยปาก “นางพักอยู่ที่ตรงนั้นขอรับ ท่านจอมมาร...” เจ้าเมืองเป่ยไม่ทันได้พูดจบประโยคดีจอมมารก็หายตัวไปทันควัน

กงจื่อเย่ปรากฏตัวอยู่ในเรือนรับรองที่จื่อเถิงพักอยู่เมื่อครู่ หากแต่กวาดตามองไปรอบห้องกลับไม่พบเจอนาง เขาหัวเราะลั่นราวกับคนบ้าเพราะคลาดกับนางอีกครา

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 81 ตัวเลือก

    คืนนั้น เรื่องราวการประลองรวมถึงผลแพ้ชนะถูกเล่าลือไปทั่วทั้งเมืองแต่ละคนกระจายข่าวได้เร็วยิ่งกว่าสิ่งใด อีกทั้งยังพูดคุยถึงเหตุการณ์เหล่านี้อย่างสนุกสนานอีกด้วยสวีลู่ชิงพาคุณชายที่ช่วยชีวิตนางเข้าไปทำแผลที่ห้อง เมื่อเห็นว่าเป็นแค่เพียงรอยบาดเล็กน้อยจึงโล่งใจเอ่ยกล่าวขอบคุณยกใหญ่“ข้าแวะมาค้าขายที่เมืองนี้ หน้าที่การงานยุ่งเหยิงจนไม่มีเวลาดูแลเขา จะฝากเจ้าไว้ได้หรือไม่” สวีต้าเฟิงเอ่ยปากขอร้อง“เรื่องแค่นี้ ไม่เป็นอันใดหรอกเจ้าค่ะ เทียบกับสิ่งที่คุณชายทำให้ ข้าตอบแทนทั้งชีวิตก็คงไม่มีวันหมด” นางครุ่นคิดด้วยความหนักใจ “แต่ว่าคุณชายจะลงหลักปักฐานที่นี่จริงหรือเจ้าคะ”“ขอรับ” อีนั่วตอบแทนผู้เป็นลุง “ข้าไม่อ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 80 ประลองกับอริ

    เดิมทีกงจื่อเย่มักคอยจับตามองสวีลู่ชิงและบุตรชายทุกค่ำคืนอยู่แล้วพอได้เห็นนางกับลูกชายจึงนึกถึงวันวานที่ผ่านมา แม้อยากเข้าไปกอดทั้งคู่มากแค่ไหนกลับต้องอดใจไว้คนหนึ่งจำเรื่องราวพวกเขาไม่ได้ ส่วนอีกคนยังคงโกรธเขาอยู่ แต่จะมีบางคราที่อีนั่วยอมให้เขาเข้าใกล้เพราะเห็นว่ามารดามีความสุขยิ่งนักเวลาได้อยู่ด้วยกันสามคนแทนที่จะได้พูดคุยสนทนาตามประสาคนในครอบครัวเดียวกันเหมือนอย่างทุกวัน เวลานี้กลับถูกมนุษย์หน้าเดิมขัดขวางทำให้เสียเวลามากนัก“เจ้าพูดว่าอันใดนะ ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นผู้ใด” คุณชายสกุลลั่วโพล่งออกมาเพราะรู้ว่าอำนาจของเขาในเมืองนี้ไม่เป็นรองใคร แต่กระนั้น สวีต้าเฟิงผู้นี้ไม่เคยสนใจตำแหน่งลาภยศของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ไม่มีค่าอันใดเลยในสายตาของเขา&

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 79 ปลอมตัว

    หลังจากได้ฟังเรื่องราวอันน่าเศร้าสลดของกงอีนั่วแล้วสวีลู่ชิงเกิดความสงสารคุณชายตัวน้อยขึ้นมาทันใดที่เขาสูญเสียทั้งมารดาและบิดาไปตั้งแต่อายุยังน้อยเวลานี้อาศัยอยู่กับลุงที่เข้มงวด แต่ละวันต้องคอยเล่าเรียนอักษร อ่านตำรา อยู่ในกฎระเบียบจนอึดอัดใจไปหมด พอเห็นนางที่ตลาดจึงคิดถึงมารดาที่ล่วงลับไปจนอดใจไม่ไหว รบเร้าให้บ่าวรับใช้คนสนิททั้งสองปลอมตัวพาเข้ามาหานางที่หอเยว่ส่างครั้นพูดเรื่องที่ต้องพูดจบแล้ว บ่าวสองคนปล่อยให้คุณชายกงได้อยู่ตามลำพังกับนาง หวังว่าเขาจะมีความสุขขึ้นมาบ้าง คิดว่าอย่างน้อยการได้อยู่กับสวีลู่ชิงจะทำให้ลืมชีวิตโดดเดี่ยวไปได้บ้าง“คุณชายกงเจ้าคะ” นางเอ่ยเรียกคนตรงหน้าพลันได้เห็นว่าคุณชายตัวน้อยทำหน้ามุ่ยไม่พอใจที่นางเรียกเขาห่างเหิน

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 78 แขกคนแรก

    ก่อนที่จะทำสิ่งอื่นใดกงจื่อเย่บอกข่าวดีกับนางว่าครอบครัวของนางปลอดภัยแล้วและเวลานี้หลบซ่อนอยู่ที่ใด“เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่หรือไม่ จื่อเย่” สวีลู่ชิงรีบถามด้วยความดีใจ ไม่คิดว่ากงจื่อเย่จะพูดเช่นนี้เพื่อปลอบใจนาง“ข้าไม่โป้ปดหรอกขอรับ” เขายืนยันว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง เพราะนำคำพูดของคุณชายสวีมาบอกนางด้วย“ท่านพ่อ ท่านแม่ไม่เป็นอันใดมากใช่หรือไม่ ตอนนั้น ข้าเห็นพวกเขา...” นางหยุดชะงักเพราะนึกถึงช่วงที่เห็นสภาพคนที่รักถูกวางยาพิษ“คุณหนู ใจเย็น ๆ ก่อนนะขอรับ” ทาสหนุ่มปลอบโยนพลางเล่าให้ฟังว่าเขาช่วยทั้งสามคนมาได้อย่างไร ไม่รวมถึงเสี่ยวมู่ บ่าวคนสนิทของนางที่ตอนนี้คอยดูแลเจ้านายทั้งสามเพียงลำพัง “คุณชายสวีฝา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 77 ไม่ต้องกลัว

    ร่างของคนสกุลสวีถูกทหารนำใส่รถเข็นไม้ลากเลื่อนมาทิ้งไว้ในป่าลึกเพื่อให้สัตว์ที่อาศัยอยู่มากินถือเป็นการทำประโยชน์อย่างหนึ่งครั้งสุดท้ายในชีวิตทหารนายหนึ่งเหงื่อผุดเต็มใบหน้ารู้สึกว่ามีลางสังหรณ์แปลก ๆ จึงรีบบอกให้เพื่อนที่มาด้วยกันรีบขนศพพวกเขาลงไปกองไว้ที่พื้น“จะเร่งข้าทำไมนักเล่า” เขาบ่นหงุดหงิดที่ถูกรบเร้าให้รีบทำรีบเสร็จ“ไอ้นี่ เจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าป่าลึกข้างหน้าชอบมีพวกปีศาจมาเพ่นพ่าน” ทหารคนเดิมพูดพร่ำเพ้อถึงข่าวลือที่ได้ยินมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ส่วนคนที่เหลือต่างพยักหน้าเห็นด้วย หากไม่จำเป็นจะไม่มาเหยียบพื้นที่ตรงนี้เด็ดขาด“กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง ข้าบอกแล้วว่าอย่าไปฟังเรื่องเล่าจากปากคนขี้เมานัก” เขาส่ายหน้าแล้วหันรถเข็นกลับไปที่ทางออกพลันได้ยินเสียงส

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 76 หญิงคณิกา

    คุณหนูสกุลสวีตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงร้องของพวกเขาภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูก หันไปดูบิดาทางซ้าย กวาดตามองไล่เลี่ยมาทางขวา มารดาและพี่ชายกลับอยู่ในอาการไม่ต่างกัน“ท่านพ่อ ท่านแม่” นางตะโกนเสียงดังเรียกสติพวกเขา พยายามประคองใครคนหนึ่งขึ้นมา ร้องเรียกทหารนอกคุกที่ยืนเฝ้าเวรยามด้วยความกลัวสุดขีดทุกคนที่มาถึงต่างมองหน้ากันเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักโทษชั้นสูง หากแต่ประเมินแล้วว่าอาการที่แสดงออกมาเหมือนโดนพิษอะไรสักอย่างจึงทำท่าครุ่นคิดขึ้นมาทันใด“ข้าขอร้อง ตามหมอมารักษาครอบครัวข้าได้หรือไม่” นางอ้อนวอนคนตรงหน้า น้ำตาเอ่อคลอเบ้า“แต่ว่า...” หนึ่งในนั้นลังเลเพราะไม่รู้ว่าคนสกุลสวีถูกใบสั่งจากผู

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status