หน้าหลัก / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 43 ความทรงจำหวนกลับ

แชร์

ตอนที่ 43 ความทรงจำหวนกลับ

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-21 07:00:17

หากแต่ผลที่ได้ไม่เป็นอย่างคาดคิดเพราะพลังมารที่เขาส่งออกไปสะท้อนกลับเข้าหาตัวเหมือนอย่างเคย

กงจื่อเย่ชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ “เหตุใดจึงฆ่าเจ้าไม่ได้!!!”

เขาเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ของชาตินี้ที่อยู่ในแก่นวิญญาณของนางต้องได้รับความเสียหายจนปริแตกแล้วจึงได้ลงมือ แต่กลับทำอันใดนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ครั้นลองร่ายพลังมารใส่อู๋เยว่ชิงอีกครั้ง พลังรุนแรงนั้นยังคงสะท้อนกลับมาหาเขาไม่เคยเปลี่ยน

กงจื่อเย่กระอักเลือดออกมากองใหญ่ คิ้วขมวดเป็นปม เอ่ยถามนางด้วยความสงสัย “ที่ผ่านมาเจ้าไม่ได้รักข้าหรือ”

นั่นเพราะเขาเข้าใจมาโดยตลอดว่าความรักมักจะทำให้มนุษย์อ่อนแอ ยิ่งรักมากเท่าใดยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น หากถูกคนที่ไว้ใจมากที่สุด รักมากที่สุด หักหลังและทำลาย

อู๋เยว่ชิงแค่นหัวเราะ “รักหรือ เจ้าพูดเรื่องใดกัน จะฆ่ากันอยู่แล้ว เหตุใดจึงพูดเรื่องไร้สาระอยู่ได้”

นางรอเวลาที่จะตามอีนั่วไปปรโลกอยู่นานแล้ว หวังจะได้ข้ามสะพานไน่เหอไปด้วยกันเพื่อที่เขาจะไม่เดียวดาย แต่คนตรงหน้ากลับพูดสิ่งที่นางไม่เข้าใจ

“ข้าถามว่าเจ้าไม่เคยรักข้าหรืออย่างไร” กงจื่อเย่ตวาดเสียงดังใส่คนตรงหน้า “เจ้าพร่ำบอกรักข้าแต่นั่นเป็นแค่คำพูดโป้ปดหรือ”

เขาต้องการความรักของนางเพียงเพื่อทำลายนางในเวลานี้ หาเพื่อสิ่งอื่นใด ครั้นสังหารนางไม่สำเร็จจึงคิดไปว่านางเล่นละครตบตาเขาเช่นกัน “เจ้ารู้มาตลอดหรือว่าข้าเป็นผู้ใด”

อู๋เยว่ชิงที่ไม่มีความทรงจำใดในชาติก่อนหลงเหลืออยู่ ยิ่งฟังยิ่งเหนื่อยล้าหัวใจนัก “ข้ากับเจ้ามีความแค้นมาตั้งแต่อดีตชาติหรืออย่างไร ข้าจะรักหรือไม่รักหลินซีเวยมันสำคัญด้วยหรือ”

เขาทนไม่ไหวบีบคอนางจนเกิดรอยแดงบนลำคอของตนเองเช่นกัน “ข้าถามว่าเจ้ารักข้าบ้างหรือไม่”

“รักสิ” น้ำตาของอู๋เยว่ชิงล้นเอ่ออาบแก้ม ขอบตาแดงก่ำ หัวใจของนางสั่นสะท้าน “เพราะข้ารักจึงเจ็บปวดอย่างที่เห็น”

“โกหก” เขาออกแรงบีบมากขึ้น หากแต่อู๋เยว่ชิงไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ จากสิ่งที่เขาทำเพราะสิ่งเหล่านั้นสะท้อนกลับมาหากงจื่อเย่ทั้งหมด

ดวงตาสีฟ้าสบประสานดวงตาสีม่วงแดงซึ่งหน้า “อีนั่ว ไว้ชีวิตเขาไม่ได้เลยหรือ เขาเป็นลูกของเรานะ”

“เฮอะ” กงจื่อเย่สบถพลางกรอกตา “ก็แค่ก้อนเนื้อที่ข้าตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเจ้า ข้าจะทำลายเมื่อใดย่อมได้”

ครั้นได้ยินคำตอบเสียดแทงหัวใจเช่นนั้น อู๋เยว่ชิงรู้สึกผิดต่ออีนั่วเป็นอย่างมาก ทั้งบิดามารดาของนาง ผู้คนในเมืองไท่หยางล้วนแล้วต้องจากไปเพราะนาง

จู่ ๆ แสงสีฟ้าขาวสว่างวาบเข้ามาครอบคลุมตัวของอู๋เยว่ชิงพานางหายไปจากที่ตรงนั้นในพริบตา

ร่างเสือขาวปรากฏต่อหน้านางในสถานที่แห่งหนึ่ง ดวงตาอู๋เยว่ชิงหรี่มองปรับเข้ากับแสงจนได้เห็นว่าข้างหน้านางมีเสือขาวกำลังเดินเข้ามาใกล้

หากแต่ความรู้สึกคุ้นชินไม่ได้ทำให้นางตระหนกตกใจ มือข้างซ้ายเอื้อมลูบขนสัตว์เทพตรงหน้าอย่างเคย

อู๋เยว่ชิงคลับคล้ายคลับคลายิ่งนักยามได้เห็นเสี่ยวไป๋ร่างนี้ แก่นวิญญาณของนางสะท้อนปลดผนึกเรื่องสำคัญที่ฝากฝังสัตว์เทพเอาไว้ก่อนที่จะสูญสิ้นในชาติแรก

เทพดารารู้เป็นอย่างดีว่าจอมมารจะต้องตามจองล้างจองผลาญชีวิตของนางในชาติที่สองเหมือนที่เคยทำมาจึงวางแผนสำรองเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เมล็ดพันธุ์ที่นางต้องเก็บเกี่ยวปริแตกจนเปิดช่องทางให้จอมมารอย่างเขาฉวยโอกาสทำลาย

ครั้นผนึกเทพดาราเปิดออก ความทรงจำยามอยู่ภพสวรรค์ ทั้งยังชาติแรกที่เกิดเป็นจื่อเถิงหลั่งไหลเข้าหา อู๋เยว่ชิงในชาตินี้จึงได้รับรู้เสียทีว่าเหตุใดหลินซีเวยจึงทำลายทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวนางจนสลายสิ้น

“กงจื่อเย่” เทพดาราสวีลู่ชิงเอ่ยพึมพำ

แม้นางจะคิดไว้แล้วว่าชาตินี้จะต้องพบเจอเขาอีกหนเพื่อฝังเมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้ายในแก่นวิญญาณของจอมมาร แต่กลับนึกไม่ถึงว่ากงจื่อเย่จะข้องเกี่ยวกับโชคชะตาของนางมากเพียงนี้

ไม่ใช่แค่สายลมหรือพายุฝนพัดผ่าน หากแต่เป็นด่านเคราะห์ที่หนักหนาสาหัสที่สุด

เดิมทีอู๋เยว่ชิงควรจะมีชีวิตผาสุกอยู่กับคนรักและครอบครัวที่แสนอบอุ่นตลอดชีวิตของนาง แต่ความรู้สึกทั้งหมดกลับกลายเป็นเรื่องที่กงจื่อเย่ใช้หลอกลวง

เสแสร้งเพื่อให้นางเจ็บปวดทรมานจนไม่อาจรักษาเมล็ดพันธุ์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้ และเมื่อนั้นเขาจะได้โอกาสกำจัดนางอย่างที่คาดหวัง

สวีลู่ชิงไม่รู้เลยว่าความรู้สึกที่นางมีต่อเขาจะทำให้เมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้ายเกิดรอยร้าวจมดิ่งอยู่ในมหาสมุทรแห่งความโศกา

ครั้นรู้แล้วว่าการเผชิญด่านเคราะห์ครั้งนี้ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำให้สำเร็จ นางจึงสวมบทบาทของเทพดาราเรียกพลังเทพกลับคืนมา

หากแต่ใจร้าวรานแตกเป็นเสี่ยงจนยากที่จะลืมเลือน นางโกรธตัวเองยิ่งนัก “เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้”

ทันใดนั้น

จอมมารปรากฏตัวต่อหน้านางในพริบตา เขายังคงแสยะยิ้มเมื่อได้เห็นคนตรงหน้าหมดอาลัยตายอยาก

“กงจื่อเย่” สวีลู่ชิงเอ่ยนามจอมมาร

เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ท่าทางสงสัยว่านางรู้จักเขาได้อย่างไร แต่เมื่อได้เห็นพลังเทพก่อตัวขึ้นในมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแล้วจึงนึกได้ว่า “จำได้แล้วหรือ”

เขายิ้มมุมปากพร่ำพูดไม่หยุดเยาะเย้ยราวกับจะเหยียบนางให้จมดิน “คราวที่แล้วเจ้าทิ้งข้าแล้วหนีมาดื้อ ๆ ครานี้จะทำแบบเดิมอีกหรืออย่างไร”

“...” สวีลู่ชิงไม่พูดคำใด นางร่ายพลังเทพหลอมรวมกับแก่นวิญญาณของตน

“ศิษย์น้อง อาจารย์ พ่อแม่เจ้า อีนั่ว ข้าตั้งใจส่งไปปรโลกพร้อมกันเลยนะ พวกเขาจะได้ไม่เหงาอย่างไรล่ะ อ้อ ไม่รวมศิษย์พี่ผู้นั้นของเจ้า ต้องขอโทษจริง ๆ แต่ก็เป็นเพราะเจ้าไม่ยอมออกมาเสียที ข้าจึงจำใจต้องทำลายแก่นวิญญาณของเขา คงไม่มีทางได้ผุดได้เกิดอีกแล้วล่ะ” จอมมารทำท่ายียวนกวนประสาทไม่สลดเสียใจเพราะไร้ความรู้สึกใด ๆ

“...”

เวลานั้น โจวเหวินหลงและเฉินซือหยางโผล่เข้ามายืนข้างกายเจ้านายของตน เสี่ยวไป๋เห็นพวกเขาจึงขู่คำรามอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น

เสือขาวระแคะระคายมาพักหนึ่งว่าพลังของอีนั่วถูกใครบางคนบังคับอยู่ ทั้งยังทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ครั้นจะเตือนให้อู๋เยว่ชิงรู้ตัวกลับถูกกงจื่อเย่สั่งตามฆ่าเสียก่อน

“ไหนว่าจัดการแมวนั่นไปแล้วอย่างไร เหตุใดมันจึงมายืนขู่ข้าได้” กงจื่อเย่ถามลูกน้องปีศาจของตน

“ข้ากำจัดไปแล้วจริง ๆ ขอรับ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใดมันจึงยังมีชีวิตอยู่” โจวเหวินหลงพูดตามความจริงและมีเฉินซือหยางคอยยืนยันอีกทาง

“เฮอะ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นมาร แต่ที่ผ่านมา เจ้าไม่เคยเรียนรู้สิ่งใดบ้างเลยหรือ” สวีลู่ชิงถามอีกฝ่าย “อ้อ เจ้าคงจะรับรู้อยู่บ้างกระมัง ความสนุกจากการย่ำยีทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่อีนั่วเจ้าก็ไม่คิดละเว้น”

เขาพยักหน้ายอมรับ “ถึงเวลานี้จะยังทำลายเจ้าไม่ได้ แต่แค่ได้เห็นหน้าเจ้าตอนนี้ ข้าก็มีความสุขมากทีเดียว”

รอยยิ้มบางของสวีลู่ชิงปรากฏบนใบหน้า ไหน ๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ก่อนที่นางจะฝังเมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้าย จึงกล่าวกับเขาว่า “กงจื่อเย่... เจ้าถามว่าข้ารักเจ้าหรือไม่... ข้ารักเจ้ามากทีเดียว มากถึงขนาดที่รู้ว่าเจ้าตั้งใจทำลายชีวิตข้าก็ยังรู้สึกรักเจ้าไม่เปลี่ยนไป เพราะอย่างนั้นชาตินี้เจ้าก็ชนะข้าอีกแล้ว ดีใจหรือไม่”

“เฮอะ เจ้าไม่ได้รักข้าจริง ๆ เสียหน่อย มิเช่นนั้นเหตุใด ข้าจึงสังหารเจ้าไม่ได้” กงจื่อเย่ไม่เชื่อคำพูดของนาง

“เพราะข้ารู้ว่าเจ้าต้องเล่นพลิกแพลงจึงผนึกพลังของเทพบรรพกาลเอาไว้ในร่างของอู๋เยว่ชิง ยามใดที่เจ้าคิดทำร้ายข้า พลังนั่นจะสะท้อนกลับหาเจ้า” นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ในเมื่อเจ้าอยากรับรู้ว่าข้ารักเจ้าจริงหรือไม่ ข้าจะสนองสิ่งนั้นให้เจ้าได้สัมผัส”

“...”

สวีลู่ชิงยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายเอ่ยว่า “พบกันคราหน้าอย่าได้ข้องเกี่ยวกันอีกเลย เราสองคนจะได้จบสิ้นชะตาผูกพันกันเสียที”

“...” สายตาของกงจื่อเย่ไม่ไว้ใจร่ายพลังมารพุ่งเข้าหานาง

ทว่า สายไปเสียแล้ว ผนึกเทพบรรพกาลคลายออกจนพลังอันล้นเหลือสว่างวาบขึ้นมาแผดเผาไอมารปีศาจรอบข้างจนคนที่เหลือต้องขยับถอยหลังไป

เมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้ายถูกหลอมรวมเข้ากับแก่นวิญญาณส่วนหนึ่งของเทพดาราลอยลิ่วเข้าฝังในร่างจอมมาร ความเร็วราวสายฟ้าแลบไม่อาจทำให้เขาปัดป้องมันออกไปได้

พลันร่างกายของอู๋เยว่ชิงในชาตินี้สลายหายไปต่อหน้าต่อตาของกงจื่อเย่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 44 เมล็ดพันธุ์หยั่งรากในใจ(จบเล่ม1)

    หลังจากที่เมล็ดพันธุ์ถูกฝังในแก่นวิญญาณของจอมมารเรียบร้อยแล้ว ความทรงจำที่อู๋เยว่ชิงมีต่อเขาในฐานะคนรักของหลินซีเวยจึงพรั่งพรูเข้าหาสวีลู่ชิงใช้พลังเทพบรรพกาลทำให้เขารับความรู้สึกของนางแม้จะยืนยาวได้ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจแต่ก็พอทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบชั่วขณะความรักของนางที่เขาบอกว่าเป็นเรื่องลวงหลอก ดูเหมือนจอมมารจะสัมผัสได้ว่านางเอ่ยความจริงจากก้นบึ้งในใจ แต่มันกลับทำได้แค่เพียงสะกิดความรู้สึกแล้วจางหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยนางไม่ได้หวังอันใดไปมากกว่านี้ ขอแค่ให้เขาได้รับรู้บ้างเผื่อจอมมารจะรู้สำนึกว่าได้ทำอันใดลงไปแม้สวีลู่ชิงจะไม่รู้ว่าเมล็ดพันธุ์ดวงสุดท้ายที่แตกร้าวจะทำให้ดวงอื่น ๆ ที่เคยถูกฝังในร่างจอมมารปริแตกหยั่งรากลึกก่อนเวลาอันควรจนความรู้สึกทั้งปวงก่อตัวขึ้นใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 45 บาดแผล

    หลังจากอู๋เยว่ชิงผนึกเมล็ดพันธุ์ทั้งสามดวงได้แล้ว ร่างมนุษย์ของนางจึงแตกสลาย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ววิญญาณเทพดาราควรกลับแดนสวรรค์เพราะนางได้ผ่านด่านเคราะห์อันแสนสาหัสไปเรียบร้อยหากแต่เวลานี้ยังไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าวิญญาณของเทพดาราหายไปอยู่ที่ใดราวกับนางไม่มีตัวตนสิ่งที่นางหลงเหลือไว้มีเพียงความทรงจำและความเจ็บปวดที่ฝังลึกในเมล็ดพันธุ์ที่ปริแตกในแก่นวิญญาณของจอมมาร คนที่กำลังทรมานกับสิ่งที่ตนเองกระทำตลอดหลายปีที่ผ่านมากงจื่อเย่เพิ่งสัมผัสได้ว่านางทุกข์ทน ผิดหวังและเศร้าโศกมากเพียงใด เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดจึงไม่อาจกำจัดความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงออกไปได้“นายท่าน เหตุใดจึงไม่ทำลายมันทิ้งไป พลังของนายท่านยังไม่สมบูรณ์ดีหรือขอรับ” โจวเหวินหลงเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเพราะเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้มีกำลังมากมายที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-06
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 46 รักและคิดถึง

    กาลเวลาผันผ่านจากหนึ่งเดือนเป็นหนึ่งปีเหมันตฤดูเวียนมาบรรจบกันอีกครั้ง กงจื่อเย่ยังคงเป็นดังเช่นวันวาน นัยน์ตาสีม่วงแดงของจอมมารเหม่อมองสรรพสิ่งรอบตัวถวิลหาคนที่จากไปอย่างไร้ร่องรอยแม้พยายามลบเลือนนางออกไปจากใจแต่สุดท้ายกลับทำไม่ได้อย่างที่คิดจึงได้รู้ซึ้งความทรมานที่ฝังลึกถึงแก่นวิญญาณ โหยหาอยากพบเจอนางอีกครั้งทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการกลับมาพบกันในครานี้นางมีหน้าที่ต้องสังหารมารปีศาจอย่างเขาขณะปล่อยความทรงจำโลดแล่นราวกับยินดีติดอยู่ในอดีตของช่วงเวลาที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคือความสุขหนึ่งเดียว“เสด็จพี่ เทศกาลชมจันทร์ค่ำคืนนี้ เราสองคนออกไปนอกวังได้หรือไม่เพคะ”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบกงจื่อเย่หันไปมองทางด้านหลังแต่กลับไม่พบเจอใครเพราะที่แห่งนั้นมีเพียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 47 โกรธ

    นับตั้งแต่นั้นมากงจื่อเย่จึงไม่ออกไปที่ไหนอีกติดอยู่ในภพมารเพื่อกระทำบางอย่างด้วยความตั้งใจจนไม่รู้ตัวว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าใดแล้วเมื่อผู้ปกครองละเว้นหน้าที่ ความวุ่นวายในภพมารจึงเริ่มบังเกิดทีละส่วน หากแต่ลูกน้องทั้งสามยังคงใช้อำนาจของเขาคอยจัดการได้อยู่แม้จะแลกมาด้วยความเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวก็ตามครั้งนี้เช่นเดียวกัน ไอมารปีศาจชั่วร้ายก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง เดิมทีกงจื่อเย่จะคอยดูดซับพลังพวกนั้นมาเป็นอาหารของตนเองแต่เวลานี้สิ่งที่เขาให้ความสนใจอยู่เหนือสิ่งอื่นใด พวกปีศาจและสัตว์อสูรจึงได้ทีฉกฉวยมันมาเป็นของตัวเองจึงทำให้มีพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นแต่บางขณะ ไอมารปีศาจที่แข็งแกร่งย่อมปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเดียวกันและเป็นฝ่ายกัดกินมารปีศาจพวกนั้นแทนที่จนสามารถหล่อหลอมรูปลักษณ์สร้างตัวตนขึ้นมาได้&n

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-10
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 48 ตามหาทุกหนแห่ง

    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมากงจื่อเย่ออกเดินทางตามหาร่องรอยของอู๋เยว่ชิงทุกหนแห่ง ยามคิดถึงหรือเหนื่อยล้าหัวใจมักจะหยิบถุงหอมและปิ่นปักผมที่เคยมอบให้นางมาดูเขาเริ่มฟื้นฟูตำหนักจันทราให้เป็นเหมือนเดิมแล้วใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน กลิ่นอายเก่า ๆ หวนกลับมาทุกครั้งจนเขานึกอยากย้อนวันเวลากลับไป“เจ้าอยู่ที่ใดหรือเยว่ชิง” จอมมารกวาดสายตามองไปรอบตำหนักที่เวลานี้เริ่มมีต้นไม้ดอกไม้ผลิบานตามฤดู “ดอกไม้งดงามปานนี้แล้ว เจ้าไม่อยากเห็นหรือ”คำถามของเขาไม่มีเสียงตอบกลับมา ความว่างเปล่าเกาะกุมหัวใจจนทรมานในเมื่อตามหาทุกหนทุกแห่งแล้วยังไม่พบเจอ คงจะเหลือเพียงสถานที่สุดท้าย หากเสี้ยววิญญาณของนางยังคงอยู่ บางทีนางอาจจะยังอยู่ที่แห่งนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-12
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-14
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-16
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-18

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status