ช่วงเย็นในวันเดียวกัน
ร่างสูงโปร่งในชุดกีฬาเดินออกจากลิฟต์คอนโดมาด้วยใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ เนื่องจากพึ่งเล่นบอลกับเพื่อนเสร็จ ในมือมีถุงอาหารสี่ห้าอย่าง แน่นอนว่ากินคนเดียวไม่มีทางหมด เพราะนี่คนไม่ใช่ปอบ
ขายาวๆมาหยุดตรงบานประตูของห้องตรงกันข้ามกับห้องตัวเอง พร้อมทั้งไม่มีความลังเลหรือชั่งใจที่จะยกมือเคาะ รอเกือบนาทีเจ้าของห้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาเปิด การเคาะครั้งนี้จึงหนักมือกว่าเดิม
ปึง ปึง ปึง!!
และมันได้ผลเมื่อแก้วหูได้ยินเสียงคนข้างในเดินใกล้เข้ามา ก่อนที่ประตูจะแง้มเปิดเพียงเล็กน้อย แล้วตามมาด้วยใบหน้านิ่งงันของเด็กแว่น
เธอโผล่หน้าออกมาเพียงนิดเดียว มาวินรู้ทันทีเจ้า
ของห้องไม่อยากให้เขาเข้าไปสักเท่าไหร่ แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ เพราะน้องคงลืมไปว่าเขามันพวกเอาแต่ใจ
“เฮ้ย! พี่วิน” ปันปันงอแง ไม่ชอบใจที่คนตัวโตใช้มือดันประตูให้เปิดกว้างแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างถือสิทธิ์
และเหมือนว่าเธอจะหัวเสียหนักกว่าเดิมเพราะคนบุกรุกไม่ยอมถอดรองเท้า แล้วเดินไปนั่งกับโซฟาหน้าทีวี พร้อมวางถุงในมือลงกับโต๊ะ ทำตัวเป็นเจ้าของห้องเสียเอง
“ลืมมารยาทไว้หน้าห้องหรือไงเนี่ย!!” เด็กน้อยฟึดฟัดราวกับแมวหิวจนขนฟู่ ในใจกำหมัดแน่นเต็มที่ แต่ก็ทำได้แค่เดินถือสลิปเปอร์ไปวางให้ เหมือนเช่นทุกครั้ง “พี่วินมีอะไรคะ?” ดวงหน้าเล็กนิ่งงัน ทว่าน้ำเสียงที่เปล่งออกมามีแต่ความขุ่นเคือง
ใช่เธอเคือง!
เคืองแรกคือเขามันเป็นบ้าอะไรถึงชอบเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ถอดรองเท้า ขี้ดินขึ้นทรายจากด้านนอกติดมาเต็ม ยิ่งวันนี้อีกฝ่ายใส่รองเท้าสตั๊ดมันยิ่งเลอะ เป็นเรื่องให้ต้องเสียพลังงานความขยันมาดูดฝุ่นอีก
เคืองสองคือเขาลืมไปแล้วหรือไงว่าเมื่อเช้าได้ทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงกับเธอ ทั้งความรู้สึกและสัมผัสอันแนบแน่นยังไม่จางหายจากความรู้สึก แต่เขากลับตีหน้ามึนทำอย่างกับไม่เคยเกิดเรื่อง บ้าชะมัด!
“ไม่มี” ตอบเรียบๆ พลางถอดรองเท้าเปลี่ยนให้แต่โดยดี แต่ไม่วายยังใช้เท้าเขี่ยรองเท้าตัวเองไปใกล้ๆกับเท้าน้อยๆ เป็นการเรียกอารมณ์หัวร้อนของคนตัวเล็กให้แล่นพล่าน
“ไม่มีก็กลับไปเก็บมาสิคะ จะมานั่งหัวโด่เป็นตอทำไมก่อน” ปกติเธอไม่ใช่คนช่างพูดช่างประชดประชัดอะไรแบบนี้ แต่กับพี่คนนี้ปันปันขอหน่อย ก็เขาน่ะโคตรจะกวนประสาทคนได้แบบขั้นสุด โดยเฉพาะกวนเธอนี่แหละ
“ก็พี่หิว” นั่งเอนหลังขณะหรี่ตาลง ดูสีหน้าว่าคนตัวเล็กจะปี๊ดแตกตอนไหน ไม่รู้สิ จะว่าโรคจิตก็คงได้ เขาชอบตอนเห็นเด็กอินโทรเวิร์ตอย่างเธอหัวร้อน ร้อนรุ่มหรือจะเรียกอะไรก็ช่าง ยิ่งเป็นแบบเมื่อตอนกลางวันยิ่งสะใจ
กรี๊ดที กร้าวใจพี่ชิบหาย!
“แต่ปันไม่หิว พี่วินหิวก็เอากลับไปกินที่ห้องตัวเองสิ จะมา...”
“ไปเอาจานมาหน่อยสิ”
“หา?” นี่เธอไล่เขาอยู่ รู้ตัวหรือเปล่า
“วันนี้พี่เหนื่อยแล้วก็ง่วงมากๆ” เป็นประโยคบอกเล่าที่น่าหงุดหงิด เพราะกายหนานอนราบไปกับโซฟาพร้อมปั้นหน้าปรือตาอ่อนล้า “ดูสิ เรี่ยวแรงพี่หายหมดแล้ว”
“เหนื่อยก็กลับไปนอนห้องตัวเองสิคะ”
“แต่พี่หิวมากๆเหมือนกัน ไปเอาจานมาให้หน่อยสิครับ” พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ปกติวิธีนี้สามารถมัดใจหญิงมาได้นับต่อนับ แต่พอเป็นน้องคนนี้ ไอ้มาวินแทบทำอะไรมากไม่ได้เลย รู้ทันไปหมด หรืออาจเพราะเรารู้เช่นเห็นชาติกันละมั้ง น้องถึงได้ไว้ตัวแบบสุดๆ ไม่หลงคารมเลยแม้แต่แอ๊ะเดียว
“ถ้าพี่วินหิว ก็เชิญเสด็จกลับห้องตัวเองค่ะ” มีการผายมือไล่อีกต่างหาก ดูเอาเถอะว่าเด็กนี่มันรักพี่ชายคนนี้มากแค่ไหน
“พี่จะกินที่นี่” อยู่ๆก็ดีดตัวนั่ง ยืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ซึ่งก็ไม่เกินการคาดเดาของคนตัวเล็ก ที่ทำเป็นเหนื่อยเป็นง่วง เขาก็แค่แสดง “แล้วถ้าเธออยากให้พี่กลับไวๆก็มานั่งกินด้วยกันสิ ถ้าหมดแล้วพี่จะกลับ”
คนหน้าตึงดันแว่นตาพร้อมถอดหายใจเสียงดังพรืด กับพี่มาวินคนนี้เธอทำอะไรได้บ้างถามหน่อย
ขาเรียวเดินไปยังโซนครัวแบบเปิดโล่งที่สามารถมองเห็นกันทั่ว ไม่มีแบ่งสัดแบ่งส่วนเจ้าของห้องจึงเอาตู้หนังสือที่สูงเท่าเอวกั้นเอาไว้
ท่าทีแง่งอนนั่นคงจะจำใจน่าดู
มาวินหัวเราะในลำคอขณะมองตามแผ่นหลังบาง การกระทำของคนฟึดฟัดไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่ดีแม้แต่น้อย ชินแล้ว น้องเป็นคนพูดน้อยหรือบางครั้งไม่พูดเลยก็มี ถ้าบอกว่าเป็นพี่น้องกับไอ้เพทายเพื่อนรัก เขาก็เชื่อสนิทใจ
เด็กสาวเดินกลับมา วางจานสองใบกับช้อนส้อมสองคู่ลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าพี่รหัสชุดหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องครัวเอาขวดน้ำกับแก้วน้ำสองใบ ในขณะที่คนมาเยือนก็ทำหน้าที่เปิดถุงอาหารไว้รอ
เช่นเคยที่คนตัวเล็กจะเดินไปเอาเบาะรองนั่งจากเก้าอี้โต๊ะกินข้าวมาวางลงกับพื้น แล้วก็นั่งทับอีกที ได้ที่ก็ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดไม่จาต่อความใดๆ
ถ้าหมดนี่แล้วเขาจะกลับ งั้นเธอจะฟาดให้เรียบ
ในขณะที่คนตัวเล็กตักนั้นนี่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาคู่คมก็เอาแต่ลอบมองคนแก้มป่องเคี้ยวข้าวตุ่ยๆ มองยังไงก็เหมือนหนูแฮมเตอร์ไม่มีผิด น่าฟัดเป็นบ้า!
อึก
ยิ่งมองนานๆลำคอหนาก็เกิดอาการแห้งเผือด เผลอกลืนน้ำลายหลายต่อหลายอึกตามลำคอน้อยที่กลืนอาหารลงคอ สายตากวาดมองไปทั่วใบหน้าเนียนละเอียดอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะมาหยุดที่...ริมฝีปากอิ่ม
จังหวะยามเจ้าตัวกัดน่องไก่ทอดแล้วมีความมันวาวติดที่ริมฝีปาก เคี้ยวขมุบขมิบไม่หยุดและมีบ้างที่ลิ้นน้อยๆจะแลบออกมากระหวัดเลียกลีบปากล่างตัวเอง บอกตามตรงว่าคนฝักใฝ่ในกามารมณ์ มันคิดดีไม่ได้เลยจริงๆ
“ไหนว่าหิว?” ความไม่เห็นว่ามือหนาหยิบของกินตรงหน้าเลย จึงเอ่ยถามโดยไม่ได้ช้อนสายตาขึ้นมอง
และเป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มต้องกลืนน้ำลายเพื่อข่มอารมณ์ทุกอย่างที่กำลังก่อเกิด ก่อนจะละสายตาไปสนใจของบนโต๊ะ
เย็นไว้ไอ้เสือ เย็นไว้นั่นน้อง!
เกือบสิบนาทีที่ของบนโต๊ะหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้
แต่เศษของผัก ทว่าคนที่บอกว่า ‘ถ้าหมดแล้วพี่จะกลับ’ ก็ยังนั่งเอนหลังตีพุงตัวเองอยู่ที่เดิม
ทั้งที่รู้ว่าเชื่อไม่ได้แต่เธอก็ยังจะนั่งกินกับเขา เอ่อเอาสิ!
ปันปันเอาจานของรุ่นพี่มาซ้อนกับจานของตัวเอง ส่วนพวกถุงอาหารต่างๆก็ใส่รวมๆกันเป็นถุงเดียว แต่ยังไม่ทันจะได้มัดปากถุงดี มือหนาก็มารวบไปถือ รวมทั้งจาน
“เธอไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ว่าจบคนเป็นพี่ก็ลุกขึ้น ถือของทั้งหมดไปตรงซิงค์ล้างจาน เห็นเขาทำหน้าที่พี่ชายที่ดีร่างเล็กก็เดินตามเขาไป
ไม่ใช่จะช่วย แค่มาเอาผ้าเปียกสำหรับเช็ดทำความสะอาดไปเช็ดโต๊ะที่เรากินกันเมื่อครู่เท่านั้น
อย่าได้มองว่าเป็นคนขยัน พอดีว่าห้องเธอมันไม่ได้กว้างขวาง อากาศก็ไม่ค่อยจะถ่ายเทอะไรมากมายเลยไม่อยากให้ในห้องมีกลิ่น แม้กระทั่งทำอาหารเจ้าในห้องยังไม่เอาด้วย ซื้อกินวนไปง่ายกว่า
เสร็จเรียบร้อยก็มานั่งที่โต๊ะทำงาน โดยคิดว่าหากใครอีกคนล้างจานเสร็จก็คงจะออกจากห้องไปเหมือนกัน เลยไม่ได้สนใจอะไรต่อ มานั่งเกลาสำนวนในสิ่งที่ตัวเองพึ่งเขียนค้างไว้
ใช่ เธอเป็นนักเขียนนิยายที่เขียนแนวประเภทอีโรติก โรมานซ์ แบบที่ต้องใช้สมาธิและพลังงานภายในแบบขั้นสุด
ปันปันเป็นคนจำพวกที่ชอบย้ำคิดย้ำทำมั้ง พอเห็นอะไรติดขัดก็จะปล่อยผ่านไม่ได้ ต้องกลับมาจดจ่อแก้ไขกับมัน ถึงจะสามารถเขียนตอนถัดไปได้ เพราะงั้นนิยายแต่ละเรื่องที่ออกสู่สายตาประชาชีจึงล่าช้า สามเดือนหนึ่งเรื่องก็ว่ากันไป
“แผ่นหลังบางลอยขึ้นจากที่นอน เมื่อถูกสอดสะ...”
พรึบ!
มือบางกดพับหน้าจอแมกบุ๊คลงอัตโนมัติ หลังจากได้ยินเสียงหนาอ่านประโยคอันหวาดเสียวที่เธอเป็นคน
บรรจงบรรยายเป็นตัวหนังสือ
หันไปส่งสายตาดุก็เห็นว่าพี่เขามายืนอยู่ด้านหลังโดยที่เธอเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด ว่ามายืนตั้งแต่เมื่อไหร่
“พี่วินจะกลับห้องไปเก็บมารายาทมาใช้กี่โมงคะเนี่ย”
“จะไปส่งว่างั้น?” กอดอกถามอย่างคนหน้ามึน ก่อนจะเอ่ยถามกลับที่แทบจะเหมือนช็อตฟิวกัน “ถามหาแต่มารยาทพี่ แล้ววันที่เธอเป็นถ้ำมอง แอบมองพี่ปี้กับสาว มารยาทตัวเองน่ะอยู่ไหน? แล้วจะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่อีก มารยาทเราไปไหนหมด?”
มีการจับหมุนเก้าอี้ ให้เด็กสาวหันหน้ามาเผชิญหน้ารับกับความอับอายอีกต่างหาก
คนถูกย้อนกลืนน้ำลงคอ พูดไม่ออก ไม่สิ! ที่จริงเรื่องที่เขาบอกว่าเธอเป็นถ้ำมองนั้น ต้องเล่าย้อนไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
วันนั้นพี่มาวินนั่นแหละที่มาลากเธอไปดูบอล แต่
อยู่ๆพ่อคุณก็หายไปไหนก็ไม่รู้ จนรุ่นพี่คนอื่นๆต้องให้เธอไปตาม แต่ที่ไหนได้เขาดันหนีไปโอโบ๊ะจามะกับสาวที่โรงยิมของคณะ เกือบเป็นตากุ้งยิงเข้าให้
แต่ถึงอย่างนั้นก็อธิบายกับเขาไปตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจจะแอบดู มันเป็นเพียงแค่ความบังเอิญที่โคตรจะโบ๊ะบ๊ะ และไม่ได้เห็นอะไรมากมายด้วย พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ถอยออกมา แต่ดันถูกจับได้เสียก่อนก็เท่านั้น
จะบ้าตาย! ผ่านมาแล้วเกือบสองอาทิตย์ เขายังติดใจ
ส่วนเรื่องเมื่อตอนกลางวันมันเป็นอุบัติเหตุ...หรือเปล่า? ก็เขาทำเสียงดัง เลยคิดว่าเป็นอะไร เธอไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย
สีหน้าคิดหนักของเด็กน้อยทำให้คนตัวโตยิ้มกรุ้มกริ่ม พยักหน้าหน่อยๆล้อเลียน ชอบใจที่ได้เห็นเธอพองแก้ม ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟากว้างอย่างสบายอารมณ์
คนบ้า!
คิ้วบางขมวดปมข้องใจ แต่ก็ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียง หายใจแรงๆแล้วหันกลับมาเปิดหน้าจอแมกบุ๊ค แต่คล้ายว่าคนชอบแกล้งยังไม่อยากจะจบเท่าไหร่
“เขียนได้เห็นภาพแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเคยแล้วหรอกนะ?” เหมือนจะพูดลอยๆคนเดียว แต่เด็กน้อยได้ยินมันชัดเจนเพราะเรานั่งห่างกันไม่ถึงสิบก้าว ถอดหายใจไปหนึ่งทีก่อนจะหันไปตอบ
“พี่วินรู้จัก G****e ไหมคะ หรือรู้จักแต่ Pornhub?” มาวินหุบยิ้มให้กับประโยคยอกย้อนของคนตัวเล็ก เขาแค่ถามเล่นๆอยากเห็นน้องเสียอาการ ไม่ใช่กลายเป็นตัวเองที่ไปไม่ถูกเสียเอง แล้วประเด็นคือตอนถามเขานี่หน้าน้องมันนิ่งมาก
เด็กอะไรพูดเรื่องพอนฮับ พูดเรื่องใต้สะดือได้หน้า ตาเฉย?
ความจริงที่เธอเป็นนักเขียนนิยายและเขียนแนวอีโรติกนั่นเขารู้อยู่แล้ว ก็จะไม่รู้ได้ไง เมียไอ้อคิณมันอ่านอยู่ทุกวัน ชมตลอดว่าน้องน่ะเขียนดีจัด จนเขาทนไม่ไหวต้องขออ่านบ้าง ซึ่งก็เป็นตามที่เด็กนั่นว่าจริงๆ
อ่านทีไรเป็นขึ้นทุกที
เหอะ! ปันปันก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะตอบกลับมาแต่อย่างใด เพราะแค่มองหน้า ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะเลือกเข้าเว็บไหนมากกว่ากัน
เอาดีๆก็ไม่ต่างจากเธอหรอก วันไหนที่ต้องเขียนฉากอย่างว่าแต่ดันหัวตัน พอนฮับหรือเว็บอื่นๆก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว
“แล้วนี่พี่วินจะกลับห้องตอนไหนคะ?” จะว่าไล่ก็ไล่แหละ อยากทำงานแบบที่ไม่มีอะไรมากวนใจ และการที่เขาเสนอตัวอยู่ที่นี่มันกำลังทำลายสมาธิอย่างที่สุด
“แอร์ห้องพี่เสีย ขอพี่ดูบอลก่อน แล้วจะกลับ”
ดวงตากลมกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่อีกฝ่ายเข้าห้องมาแล้วจะรากงอกออกตูด จึงเลือกที่จะเลิกสนใจหมุนเก้าอี้กลับมานั่งจดจ่อกับงานตัวเองต่อ คิดว่าเขาดูจบแล้วก็คงจะกลับจริงๆ ทว่าไม่ถึงนาที
“พอนฮับจริงๆด้วย”
“หึ?” งงที่อยู่ๆเขาก็โพลงขึ้นมา จนกระทั่งคิดอะไรได้บางอย่าง จึงหันไปดูหน้าจอโทรทัศน์ หัวใจถึงกับตกวูบเมื่อเห็นภาพที่ค้างอยู่
คุณพระ! มันคือเว็บหนังผู้ใหญ่ ที่เธอเข้าค้างไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็จำไม่ได้
“ปันปัน” ยิ้ม เด็กสาวหน้าตาน่ารักที่เห็นว่าเจ้าของชื่อนั่งคนเดียวจึงเดินเข้ามาทักทาย พร้อมกับนั่งลงข้างๆ “ฉันขอนั่งด้วยได้ไหม?”ดวงหน้าจิ้มลิ้มมีอาการอึกอักเล็กน้อย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายนั่งลงเรียบร้อย เธอจะว่าอะไรได้จึงพยักหน้าหงึกหงักเดิมทียิ้มกับปลาทูนั้นเป็นเพื่อนรักกัน ส่วนตัวเธอพึ่งจะมารู้จักตอนกินเลี้ยงที่ผับของรุ่นพี่เพทาย ซึ่งพี่รหัสอย่างพี่มาวินเป็นคนแนะนำ ทำให้เธอกับสองสาวกลายมาเป็นเพื่อนกันอีกที แต่เพราะเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ สาวน้อยน่ารักขี้อายอย่างยิ้มถึงได้ทำเรื่องใหญ่โตจนปลาทูกลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของคนทั้งมหาวิทยาลัย และเกิดบาดเจ็บถึงขั้นเย็บแผลที่เข่าทั้งสองข้าง ข้างละห้าเข็ม มันโหดอยู่พอควรตอนนี้ผ่านมาแล้วเป็นเดือน ปันปันรู้เพียงแค่ว่ายิ้มเป็นต้นเหตุ แต่ก็ไม่ได้รู้ว่าลึกๆแล้วมันเพราะอะไรบางทีก็อยากจะถามเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ ขนาดปลาทูยังไม่เล่า แล้วกับยิ้มที่พูดน้อยไม่ต่างกันก็คงไม่อยากจะเล่าเช่นกัน จึงคิดว่ายั้งปากเอาไว้จะดีกว่าและด้วยความที่เป็นคนไม่พูดกันทั้งคู่ ระหว่างเรียนทั้งปันปันและยิ้มจึงไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเพื่อนๆกลุ่มอื่น จนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง หลายคนก
นาทีนั้นที่ไวกว่าสมองคือสองขา รีบรุดไปหาคนถือรีโมททีวี หวังจะแย้งเอามากดปิด ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ยอมง่ายๆยืดแขนออกสุดฤทธิ์“หื่นไม่ใช่เล่นนะเนี่ย”ปันปันแทบจะปรี๊ดแตกเป็นรอบที่สองของวัน พยายามจะยื้อแย้งเอารีโมทกลับคืนมายิ่งเด็กสาวว้าวุ่นมันยิ่งทำให้มาวินเอ่อล้นไปด้วยความสุข กระตุกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์กดปุ่มเล่นคลิปที่ค้างอยู่ จนบนโทรทัศน์เกิดภาพเคลื่อนไหวที่ตามมาด้วยเสียงครวญครางประสานกับเสียงเนื้อกระทบกัน เล่นเอาคนอับอายแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี“พี่วินนน!”“อยากได้ก็มาแย่งไปสิ” ไม่ว่าเปล่า คนขี้แกล้งยังกดเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นอีกห้าระดับ ชนิดที่คิดว่าคนเดินผ่านไปมาหน้าห้องต้องได้ยินอย่างแน่นอน“เอาคืนมาพี่วิน!!” ราวกับเกิดมาใช้เวรใช้กรรม คนหัวร้อนเริ่มขึ้นเสียง ยืนเข่าคร่อมกับตักหนาจนมือเกือบจะเอื้อมถึง ทว่าคนแขนยาวก็ใช้ความไวเอาอ้อมกับเอวคอดแล้วเปลี่ยนจากถือมือขวาเป็นมือซ้าย ปั่นหัวกันไปอีก เล่นเอาตบะคนร้อนรนจะแตก “พี่วิน!!!”“ครับ” ยียวนน้องด้วยน้ำเสียงลากยาวหวานๆ เอากับเขาสิ!“เอารีโมทมาให้ปัน!”“ทำไมล่ะ? ดูหนังโป๊กับเธอก็ดีออก” ยังจะกะพริบตาใสใส่กันอีก นี่เธอจะโกรธเขาจริงๆแล้วนะ!“ไม่ดี
ช่วงเย็นในวันเดียวกันร่างสูงโปร่งในชุดกีฬาเดินออกจากลิฟต์คอนโดมาด้วยใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ เนื่องจากพึ่งเล่นบอลกับเพื่อนเสร็จ ในมือมีถุงอาหารสี่ห้าอย่าง แน่นอนว่ากินคนเดียวไม่มีทางหมด เพราะนี่คนไม่ใช่ปอบขายาวๆมาหยุดตรงบานประตูของห้องตรงกันข้ามกับห้องตัวเอง พร้อมทั้งไม่มีความลังเลหรือชั่งใจที่จะยกมือเคาะ รอเกือบนาทีเจ้าของห้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาเปิด การเคาะครั้งนี้จึงหนักมือกว่าเดิมปึง ปึง ปึง!!และมันได้ผลเมื่อแก้วหูได้ยินเสียงคนข้างในเดินใกล้เข้ามา ก่อนที่ประตูจะแง้มเปิดเพียงเล็กน้อย แล้วตามมาด้วยใบหน้านิ่งงันของเด็กแว่นเธอโผล่หน้าออกมาเพียงนิดเดียว มาวินรู้ทันทีเจ้าของห้องไม่อยากให้เขาเข้าไปสักเท่าไหร่ แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ เพราะน้องคงลืมไปว่าเขามันพวกเอาแต่ใจ“เฮ้ย! พี่วิน” ปันปันงอแง ไม่ชอบใจที่คนตัวโตใช้มือดันประตูให้เปิดกว้างแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างถือสิทธิ์และเหมือนว่าเธอจะหัวเสียหนักกว่าเดิมเพราะคนบุกรุกไม่ยอมถอดรองเท้า แล้วเดินไปนั่งกับโซฟาหน้าทีวี พร้อมวางถุงในมือลงกับโต๊ะ ทำตัวเป็นเจ้าของห้องเสียเอง“ลืมมารยาทไว้หน้าห้องหรือไงเนี่ย!!” เด็กน้อยฟึดฟัดราวกับแมวห
@Dee Day Condominium ปึก!ร่างกำยำสูงร้อยแปดสิบห้าถูกหญิงสาวใบหน้างามผลัก จนแผ่นหลังกว้างชนเข้ากับประตูห้องเสียงดัง ก่อนที่เธอจะตามมาแนบชิด บดเบียดความอวบอิ่มไร้ซึ่งบาร์เซียสีปกปิดเข้ากับแผงอกแกร่ง ช้อนสายตาขึ้นมองสีหน้าชายหนุ่มอย่างเย้ายวน แล้วซุกหน้าคลอเคลียกับซอกคอหนา ยั่วยวนปลุกอารมณ์“อย่าดูด” เสียงทุ้มกระเส่า หลับตาลงแล้วเงยหน้าขึ้น ถึงกลิ่นกายสาวตรงหน้าจะไม่ถูกจมูกแต่ก็พอทนได้อยู่บ้างไม่ใช่ว่าเธอตัวเหม็นหรืออะไร แต่คนเรามันมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ต่างกัน และกลิ่นที่ชอบมันไม่ใช่กลิ่นนี้...หญิงสาวผุดยิ้มบางๆ พรมจูบโดยไม่ฝากรอยตั้งแต่ไหปลาร้าลงมาที่เม็ดยอดสีเข้ม ปากอิ่มเตรียมจะดูดสร้างความรัญจวนให้แก่อีกฝ่าย ทว่าก็ถูกมือหนาบีบเข้าที่ลำคอ“มะ มาวินคะ” คนตกใจกลืนน้ำลายลำบาก เธอแค่อยากให้ความสุขแก่เขา“ถ้าพูดไม่ฟังก็พอแค่นี้” การที่เธอทำเกินกว่าคำสั่ง มันทำให้หมดอารมณ์อย่างง่ายดาย“วะ วีวี่ทราบแล้วค่ะ” ลำคอที่ถูกบีบรัด ทำให้เธอ กลัวขึ้นมาจับใจ กฎเหล็กของ มาวิน เมธาวัฒนกิจ เจ้าของใบหน้าหวานล้ำกระชากใจ มีอยู่สามข้อข้อหนึ่งเวลาเอากันห้ามทำรอย ข้อสองเวลาเอากันห้ามร้องคราง มันรำคาญหูข้อ