“ปันปัน” ยิ้ม เด็กสาวหน้าตาน่ารักที่เห็นว่าเจ้าของชื่อนั่งคนเดียวจึงเดินเข้ามาทักทาย พร้อมกับนั่งลงข้างๆ “ฉันขอนั่งด้วยได้ไหม?”
ดวงหน้าจิ้มลิ้มมีอาการอึกอักเล็กน้อย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายนั่งลงเรียบร้อย เธอจะว่าอะไรได้จึงพยักหน้าหงึกหงัก
เดิมทียิ้มกับปลาทูนั้นเป็นเพื่อนรักกัน ส่วนตัวเธอพึ่งจะมารู้จักตอนกินเลี้ยงที่ผับของรุ่นพี่เพทาย ซึ่งพี่รหัสอย่างพี่มาวินเป็นคนแนะนำ ทำให้เธอกับสองสาวกลายมาเป็นเพื่อนกันอีกที
แต่เพราะเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ สาวน้อยน่ารักขี้อายอย่างยิ้มถึงได้ทำเรื่องใหญ่โตจนปลาทูกลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของคนทั้งมหาวิทยาลัย และเกิดบาดเจ็บถึงขั้นเย็บแผลที่เข่าทั้งสองข้าง ข้างละห้าเข็ม มันโหดอยู่พอควร
ตอนนี้ผ่านมาแล้วเป็นเดือน ปันปันรู้เพียงแค่ว่ายิ้มเป็นต้นเหตุ แต่ก็ไม่ได้รู้ว่าลึกๆแล้วมันเพราะอะไร
บางทีก็อยากจะถามเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ ขนาดปลาทูยังไม่เล่า แล้วกับยิ้มที่พูดน้อยไม่ต่างกันก็คงไม่อยากจะเล่าเช่นกัน จึงคิดว่ายั้งปากเอาไว้จะดีกว่า
และด้วยความที่เป็นคนไม่พูดกันทั้งคู่ ระหว่างเรียนทั้งปันปันและยิ้มจึงไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเพื่อนๆกลุ่มอื่น จนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง หลายคนก็เริ่มทยอยกันออกจากห้อง ปันปันยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ ก่อนจะเริ่มเก็บของตัวเอง
“แว่น” เสียงหนาของโบนัสเพื่อนร่วมห้องตะโกนเรียกมา คนรู้ตัวจึงเงยหน้าขึ้น เพราะทั้งห้องมีเธอคนเดียวที่สวมแว่นสายตา “ยัยทิงเจอร์กลับวันไหนนะ?”
“วันนี้มั้ง” ฝ่ายนั้นพอได้คำตอบก็พยักหน้าแล้วเดินตามหลังกลุ่มเพื่อนของตัวเองออกไป
“นี่โบนัสยังไม่เลิกชอบปลาทูอีกเหรอเนี่ย?” ยิ้มพูดขึ้นขณะมองตามชายหนุ่ม
ปันปันมองตามเช่นกันแต่ไม่ได้พูดอะไร เรื่องหัวใจใครรักใครชอบใครจะว่าอะไรใครได้ ละความสนใจจากคนที่ว่าก็ก้มหน้าเก็บของ วันนี้มีเรียนแค่ช่วงเช้าเธอจะกลับไปนอนให้สบายใจแล้วตื่นอีกทีในตอนเย็นมาเขียนนิยาย ทุกอย่างกะเกณฑ์เอาไว้เรียบร้อย
“เรารีบไปโรงอาหารกันเถอะปันปัน ป่านนี้คนน่าจะเยอะแน่ๆเลย” ยิ้มเอ่ยด้วยรอยยิ้มขณะที่ดวงตาเป็นประกายราวกับมีความหวังบางอย่างเกิดขึ้นในใจ ทว่าชั่วพริบตาทุกอย่างก็ดับลง
“คือช่วงบ่ายไม่มีเรียน ฉันว่าจะกลับหะ...ห้อง...เลย” ประโยคหลังเสียงเล็กเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน เมื่อเห็นแววตาของอีกคนที่ค่อยๆวูบไหวไม่สดใสเท่าก่อนหน้า ไม่รู้ว่าได้เผลอพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
แต่แล้วครู่เดียวที่มองผ่านร่างของยิ้มไป สายตาก็พลันเห็นร่างสูงโปร่งที่คุ้นตายืนอยู่หน้าห้องเรียน ลมหายใจก็เกิดอาการติดขัด เป็นเธอบ้างแล้วที่แววตาไม่สดใส
โดนกัดไปเมื่อคืน ไม่เข็ดบ้างหรือไงกันน้า...
“เลิกเรียนแล้วใช่ไหม?” ขายาวเดินเข้ามา ถือวิสาสะเอากระเป๋าผ้าของน้องรหัสไปถือเสียเอง พลางเหลือบมองหน้าเด็กสาวอีกคน “พี่ขอตัวน้องพี่นะ”
ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตอบ มือหนาก็คว้าแขนเล็กให้ออกมาด้วยกัน จนกระทั่งลับตาก็ปล่อย
“ไหนว่าไม่ถูกกัน?”
“ใครบอกคะว่าไม่ถูกกัน?” เลิกคิ้วถาม จำได้ว่าเธอไม่เคยพูดแบบนั้น กับยิ้มเราไม่ได้ทะเลาะกันหรือเกลียดกันแต่อย่างใด เราเพียงแค่ไม่ค่อยได้พูดคุยและตัวติดกันเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ยังทักทายกันปกติ
“ก็ตั้งแต่วันนั้นเธอกับปลาทูก็ไม่เห็นจะคุยกับยิ้ม”
“คุยค่ะ” ถึงจะคุยน้อยก็ยังเรียกว่าคุย แต่ก็นั่นแหละเธอขี้เกียจอธิบายให้ยืดยาว จึงเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่พี่วิน ลากปันมาแบบนี้ไม่เข็ดหรือไง?” ใช้สายตาชี้ไปที่ไหล่ของเขา ทว่าคำตอบที่ได้ก็ทำเอาขนลุกเกลียว
“ลองเธอมากัดพี่อีกรอบ พี่จะกัดปากเธอให้เจ่อกัน
ไปข้าง” ขาเรียวก้าวถอยหนึ่งก้าว ทั้งน้ำเสียงและแววตาแพรวพราวเจ้าเล่ห์จนน่าหวั่นใจ แล้วดูพูดเข้า กัดมันต้องเลือดออกไม่ใช่บวมเจ่อหรือเปล่า ถ้าบวมเจ่อมันต้องจู...
อร๊ายยย!!! หยุดคิดนะปันปัน
“กลัวอะไร? อย่างเธอห่างไกลกับสเป็กพี่เยอะ” ดึงร่างเล็กมาโอบไหล่ ก่อนจะเลื่อนเป็นกอดคอ ปันปันปัดออก คนมือไวก็ใช้อีกข้างมาตวัดกอด เล่นเอามึนหัวเพราะต้องหันซ้ายทีขวาที สุดท้ายคนที่ยอมก็เป็นคนที่อ่อนกว่า สู้เขาไม่เคยได้หรอก
“จะพาปันไปไหนเนี่ย?” ถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย พี่มาวินพาเธอออกจากตึกเข้ามายังใต้อาคารประชาสัมพันธ์ เปลือกตาคู่น้อยก็เบิกกว้าง “พี่วินน...”
“วันนี้พี่มีประชุมกิจกรรม” เฉลยด้วยน้ำเสียงติดขบขัน ในขณะที่น้องรหัสหน้าบึ้งตึง
เหนื่อยและเซ็งมาก มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่พี่มาวินมีกิจกรรมของคณะหรือของทางมหาลัย ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจ สาวๆเขาเยอะแยะทำไมไม่เรียกให้มาอยู่ด้วยสักคน มันเสียเวลาเธอ เขาไม่เข้าใจบ้างหรือไงกัน
“ประชุมประกวดดาวเดือนคณะนั่นแหละ ไม่เข้าไม่ได้ด้วย” คนตัวเล็กพองแก้มขุ่นเคือง ทำคนเป็นพี่เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวยกมมือขึ้นบีบเบาๆ ก่อนจะจูงมือน้อยให้เดินเข้าไปข้างใน “นั่งอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวพี่มา” จับน้องให้นั่งแถวหน้าสุด เวลาทำอะไรจะได้มองเห็น อยู่ในสายตาตลอด
เด็กสาวกระชับแว่นบนใบหน้าไม่ถูกใจกับสิ่งนี้พันเปอร์เซ็นต์เต็ม แต่ก็ทำได้แค่นั่งรอด้วยการเอาการบ้านขึ้นมาทำ พร้อมภาวนาให้เวลาผ่านไปไวๆ
มาวินยืนอยู่ตรงหน้าเวทีหัวเราะในลำคอเอ็นดู มองจากตรงนี้เห็นชัดว่าแววตาของเด็กน้อยนั้นกำลังเหวี่ยงฟึดเหวี่ยงฟัด เดาเอาจากท่าทีถอนหายใจที่ดูรุนแรงกว่าปกติข้างๆเธอนั้นก็มีอาเธอร์นั่งอยู่ด้วย คงไม่ต้องถามว่าทำไมมันมาอยู่ตรงนี้
“พี่น้องจริงปะ เห็นจ้องอย่างกับกลัวว่าน้องมันจะหนี” เบบี๋ที่ยืนข้างกันกระซิบถาม เธอเห็นนานล่ะว่าไอ้พี่คนนี้มันเอาแต่มองน้องคนนั้นไม่วางตา
“พี่น้องจริงดิวะ มึงถามอะไรเนี่ย?” หัวคิ้วมุ่นเล็กน้อย ไอ้เด็กนี่มันจงใจจะสื่ออะไร สรรพนามที่ใช้ก็ตามความสนิทสนมกัน
“ปากบอกพี่น้อง แต่แววตามึงนี่นำไปก่อนเลยนะ”
“แววตาอะไร? กูปกติทุกอย่าง” ละสายตาจากน้องรหัสมาหาคนพูด เห็นหน้าไอ้เบบี๋ทีไรหงุดหงิดทุกที มันชอบเตะขาปลั๊ก
“เหอะ!” กระแทกเสียงใส่ไปที คนอย่างไอ้พี่มาวิน เธอรู้จักมันมาสองปี กับผู้หญิงคนอื่นมันจ้องเขาแบบนี้ที่ไหนกัน นอกจากแววตาจะสื่อความแล้วยังเอาแต่ลากน้องมันไปนู้นมานี้ ทำตัวตัวติดเป็นเงา กูเชื่อก็กินหญ้าเป็นควายแล้วค่ะ!
อาทิตย์หน้าจะมีงานประกวดดาวเดือนซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก วันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเลยต้องมาประชุมกัน เพื่อตระเตรียมอะไรหลายๆอย่าง มาวินกับกับเบบี๋จึงถูกจับให้เป็นพิธีกร เนื่องจากเป็นดาวเดือนกันทั้งคู่
“เหมาะสมกันจัง จับเป็นพระเอกนางเอกเรื่องถัดไปดีไหมนะ?” ปากบางขยับเอ่ยกับตัวเอง ขณะช้อนสายตาขึ้นมองบนเวทีพร้อมกับหยิบขนมที่พี่รหัสออกไปซื้อมารองท้อง เข้าปากเคี้ยว
เรื่องที่เด็กสาวเป็นนักเขียวทั้งกลุ่มรู้หมดแต่พ่อหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งข้างๆไม่เคยอ่าน ดังนั้นการที่เธอเปรยมาอย่างนั้นจึงไม่ได้นึกเอ๊ะใจแต่อย่างใด นอกจากตงิดใจและเห็นต่าง
“หน้าตาก็งั้นๆ มีอะไรให้เหมาะ”
“แล้วต้องเป็นพี่อาเธอร์กับพี่บี๋เท่านั้นหรือเปล่าคะ ถึงจะเหมาะ?” คนถูกย้อนตวัดมองพร้อมกับเหยียดหลังตรง
“ตะ ต่อให้เป็นพี่กับยัยนั่น ยังไงก็ไม่เหมาะเว้ย”
“พี่อาเธอร์พูดไม่หนักแน่นเลยค่ะ” จำได้ว่าตอนเธอรับน้อง น้ำเสียงพี่เขาทรงพลังกว่านี้
อาเธอร์ที่พอโดนเด็กจี้จุดก็แทบสำลักน้ำลายไปไม่เป็น จำต้องเบือนหน้าหนีร้อนรนก็หยิบห่อขนมขึ้นกลอกปากจนเกลี้ยง ก่อนจะหันมาคว้าขวดน้ำเปล่า สายตาก็เหลือบเห็นเด็กจ้องหน้า โดยที่มือน้อยก็ค้างเติงอยู่กับซองขนมนั้น
ชิบหาย! กูกินขนมน้องมัน
“อ่ะนี่ พอดีพี่ไม่ได้มองเลยหยิบผิด โทษที” เอาขนมของตัวเองหยัดใส่มือน้อง ทั้งที่รู้ว่ามันอาจจะแทนกันไม่ได้เพราะขนมไม่ใช่แบบเดียวกันและยังจะคนละรสชาติอีก ยิ่งสีหน้าคนตัวเล็กนิ่งงันก็ยิ่งรู้สึกผิด จึงสู้ด้วยรอยยิ้มแต่ก็ต้องหุบลงอย่างไว
“ไม่เป็นไรค่ะ ขนมพี่อาเธอร์มันจืดไป ไม่เผ็ดไม่อร่อยเหมือนอันนั้น” ชี้ให้ดูด้วย ยิ่งกว่ารู้สึกผิดอีกกู
บี๋มึงรีบประชุมสิ กูอยากกลับแล้ว
“ปันปัน” ยิ้ม เด็กสาวหน้าตาน่ารักที่เห็นว่าเจ้าของชื่อนั่งคนเดียวจึงเดินเข้ามาทักทาย พร้อมกับนั่งลงข้างๆ “ฉันขอนั่งด้วยได้ไหม?”ดวงหน้าจิ้มลิ้มมีอาการอึกอักเล็กน้อย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายนั่งลงเรียบร้อย เธอจะว่าอะไรได้จึงพยักหน้าหงึกหงักเดิมทียิ้มกับปลาทูนั้นเป็นเพื่อนรักกัน ส่วนตัวเธอพึ่งจะมารู้จักตอนกินเลี้ยงที่ผับของรุ่นพี่เพทาย ซึ่งพี่รหัสอย่างพี่มาวินเป็นคนแนะนำ ทำให้เธอกับสองสาวกลายมาเป็นเพื่อนกันอีกที แต่เพราะเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ สาวน้อยน่ารักขี้อายอย่างยิ้มถึงได้ทำเรื่องใหญ่โตจนปลาทูกลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของคนทั้งมหาวิทยาลัย และเกิดบาดเจ็บถึงขั้นเย็บแผลที่เข่าทั้งสองข้าง ข้างละห้าเข็ม มันโหดอยู่พอควรตอนนี้ผ่านมาแล้วเป็นเดือน ปันปันรู้เพียงแค่ว่ายิ้มเป็นต้นเหตุ แต่ก็ไม่ได้รู้ว่าลึกๆแล้วมันเพราะอะไรบางทีก็อยากจะถามเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ ขนาดปลาทูยังไม่เล่า แล้วกับยิ้มที่พูดน้อยไม่ต่างกันก็คงไม่อยากจะเล่าเช่นกัน จึงคิดว่ายั้งปากเอาไว้จะดีกว่าและด้วยความที่เป็นคนไม่พูดกันทั้งคู่ ระหว่างเรียนทั้งปันปันและยิ้มจึงไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเพื่อนๆกลุ่มอื่น จนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง หลายคนก
นาทีนั้นที่ไวกว่าสมองคือสองขา รีบรุดไปหาคนถือรีโมททีวี หวังจะแย้งเอามากดปิด ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ยอมง่ายๆยืดแขนออกสุดฤทธิ์“หื่นไม่ใช่เล่นนะเนี่ย”ปันปันแทบจะปรี๊ดแตกเป็นรอบที่สองของวัน พยายามจะยื้อแย้งเอารีโมทกลับคืนมายิ่งเด็กสาวว้าวุ่นมันยิ่งทำให้มาวินเอ่อล้นไปด้วยความสุข กระตุกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์กดปุ่มเล่นคลิปที่ค้างอยู่ จนบนโทรทัศน์เกิดภาพเคลื่อนไหวที่ตามมาด้วยเสียงครวญครางประสานกับเสียงเนื้อกระทบกัน เล่นเอาคนอับอายแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี“พี่วินนน!”“อยากได้ก็มาแย่งไปสิ” ไม่ว่าเปล่า คนขี้แกล้งยังกดเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นอีกห้าระดับ ชนิดที่คิดว่าคนเดินผ่านไปมาหน้าห้องต้องได้ยินอย่างแน่นอน“เอาคืนมาพี่วิน!!” ราวกับเกิดมาใช้เวรใช้กรรม คนหัวร้อนเริ่มขึ้นเสียง ยืนเข่าคร่อมกับตักหนาจนมือเกือบจะเอื้อมถึง ทว่าคนแขนยาวก็ใช้ความไวเอาอ้อมกับเอวคอดแล้วเปลี่ยนจากถือมือขวาเป็นมือซ้าย ปั่นหัวกันไปอีก เล่นเอาตบะคนร้อนรนจะแตก “พี่วิน!!!”“ครับ” ยียวนน้องด้วยน้ำเสียงลากยาวหวานๆ เอากับเขาสิ!“เอารีโมทมาให้ปัน!”“ทำไมล่ะ? ดูหนังโป๊กับเธอก็ดีออก” ยังจะกะพริบตาใสใส่กันอีก นี่เธอจะโกรธเขาจริงๆแล้วนะ!“ไม่ดี
ช่วงเย็นในวันเดียวกันร่างสูงโปร่งในชุดกีฬาเดินออกจากลิฟต์คอนโดมาด้วยใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ เนื่องจากพึ่งเล่นบอลกับเพื่อนเสร็จ ในมือมีถุงอาหารสี่ห้าอย่าง แน่นอนว่ากินคนเดียวไม่มีทางหมด เพราะนี่คนไม่ใช่ปอบขายาวๆมาหยุดตรงบานประตูของห้องตรงกันข้ามกับห้องตัวเอง พร้อมทั้งไม่มีความลังเลหรือชั่งใจที่จะยกมือเคาะ รอเกือบนาทีเจ้าของห้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาเปิด การเคาะครั้งนี้จึงหนักมือกว่าเดิมปึง ปึง ปึง!!และมันได้ผลเมื่อแก้วหูได้ยินเสียงคนข้างในเดินใกล้เข้ามา ก่อนที่ประตูจะแง้มเปิดเพียงเล็กน้อย แล้วตามมาด้วยใบหน้านิ่งงันของเด็กแว่นเธอโผล่หน้าออกมาเพียงนิดเดียว มาวินรู้ทันทีเจ้าของห้องไม่อยากให้เขาเข้าไปสักเท่าไหร่ แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ เพราะน้องคงลืมไปว่าเขามันพวกเอาแต่ใจ“เฮ้ย! พี่วิน” ปันปันงอแง ไม่ชอบใจที่คนตัวโตใช้มือดันประตูให้เปิดกว้างแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างถือสิทธิ์และเหมือนว่าเธอจะหัวเสียหนักกว่าเดิมเพราะคนบุกรุกไม่ยอมถอดรองเท้า แล้วเดินไปนั่งกับโซฟาหน้าทีวี พร้อมวางถุงในมือลงกับโต๊ะ ทำตัวเป็นเจ้าของห้องเสียเอง“ลืมมารยาทไว้หน้าห้องหรือไงเนี่ย!!” เด็กน้อยฟึดฟัดราวกับแมวห
@Dee Day Condominium ปึก!ร่างกำยำสูงร้อยแปดสิบห้าถูกหญิงสาวใบหน้างามผลัก จนแผ่นหลังกว้างชนเข้ากับประตูห้องเสียงดัง ก่อนที่เธอจะตามมาแนบชิด บดเบียดความอวบอิ่มไร้ซึ่งบาร์เซียสีปกปิดเข้ากับแผงอกแกร่ง ช้อนสายตาขึ้นมองสีหน้าชายหนุ่มอย่างเย้ายวน แล้วซุกหน้าคลอเคลียกับซอกคอหนา ยั่วยวนปลุกอารมณ์“อย่าดูด” เสียงทุ้มกระเส่า หลับตาลงแล้วเงยหน้าขึ้น ถึงกลิ่นกายสาวตรงหน้าจะไม่ถูกจมูกแต่ก็พอทนได้อยู่บ้างไม่ใช่ว่าเธอตัวเหม็นหรืออะไร แต่คนเรามันมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ต่างกัน และกลิ่นที่ชอบมันไม่ใช่กลิ่นนี้...หญิงสาวผุดยิ้มบางๆ พรมจูบโดยไม่ฝากรอยตั้งแต่ไหปลาร้าลงมาที่เม็ดยอดสีเข้ม ปากอิ่มเตรียมจะดูดสร้างความรัญจวนให้แก่อีกฝ่าย ทว่าก็ถูกมือหนาบีบเข้าที่ลำคอ“มะ มาวินคะ” คนตกใจกลืนน้ำลายลำบาก เธอแค่อยากให้ความสุขแก่เขา“ถ้าพูดไม่ฟังก็พอแค่นี้” การที่เธอทำเกินกว่าคำสั่ง มันทำให้หมดอารมณ์อย่างง่ายดาย“วะ วีวี่ทราบแล้วค่ะ” ลำคอที่ถูกบีบรัด ทำให้เธอ กลัวขึ้นมาจับใจ กฎเหล็กของ มาวิน เมธาวัฒนกิจ เจ้าของใบหน้าหวานล้ำกระชากใจ มีอยู่สามข้อข้อหนึ่งเวลาเอากันห้ามทำรอย ข้อสองเวลาเอากันห้ามร้องคราง มันรำคาญหูข้อ