ตอนที่ 1 แรกพบ
แสงสีสลัวสาดส่องทั่ว “The Babylon” ผับหรูใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เสียงเพลง EDM เร่งจังหวะกระหึ่มก้องกังวาน ผสมปนเปไปกับเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยจอแจของผู้คนที่มาสังสรรค์ยามค่ำคืน
วาดฝันในชุดเดรสเกาะอกสีดำสั้นเหนือเข่า เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียดจนเป็นที่ดึงดูดสายตาเหล่าชายหนุ่มทั้งหลาย เธอเดินตามหลังเหมือนแพร หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งที่แต่งกายด้วยชุดรัดรูปสีแดงเพลิง ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดรับกับชุดของเธอได้เป็นอย่างดี รอยยิ้มกว้างบวกกับใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจทำให้หนุ่มๆ ทั้งหลายมองเหลียวหลังจนแทบน้ำลายสอออกมา
เหมือนแพรเป็นเพื่อนสนิทของวาดฝัน เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ทั้งยังมีนิสัยไม่กลัวหรือยอมใครอีกด้วย นั่นทำให้เหมือนแพรเป็นดั่งโล่กันภัยให้กับวาดฝันอยู่ตลอดเวลา
วาดฝันเดินตามหลังเหมือนแพรอย่างไม่ยอมให้ห่างกาย หัวคิ้วของเธอขมวดขึ้นเป็นปมอย่างรู้สึกไม่ชอบใจ เมื่อสัมผัสได้กับสายตาที่เอาแต่จับจ้องมองมาที่เธอราวกับเสือที่เตรียมขย้ำเหยื่อก็ไม่ปาน ความรู้สึกอันน่าขนลุกเช่นนี้ทำให้วาดฝันรู้สึกอึดอัดและกระอักกระอ่วนใจอยู่ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเหล่านี้ทุกครั้งที่ออกมาเที่ยวกับเพื่อนๆ
วาดฝันแม้จะมาเที่ยวผับกับกลุ่มเพื่อนของเธออยู่บ่อยครั้ง แต่เพราะโรคกลัวการสัมผัสของเธอ ทำให้วาดฝันรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ต้องเดินผ่านกลุ่มคนที่ยืนเบียดเสียดเข้าไปด้านใน สองมือของเธอยกขึ้นกอดอกเอาไว้แน่นอย่างรู้สึกระแวดระวังตัว
“ฝัน...แกจะกลัวอะไรนักหนาวะ พวกหนุ่มๆ ก็แค่มองเพราะพวกเราสวย แกไม่ชอบก็ไม่เห็นต้องสนใจเลย” เหมือนแพรหันมาเอ็ดเพื่อนเบาๆ แต่ก็มิวายที่จะจับมือของเพื่อนสาวเอาไว้แน่นอย่างกลัวว่าเธอจะหายไปต่อหน้าต่อตา
“รีบๆ ไปที่โต๊ะเถอะ อึดอัดจะแย่แล้วเนี่ย” วาดฝันบ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับก้มหน้าลงต่ำ เหมือนแพรหันไปค้อนขวับเข้าใส่เพื่อนสาวอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดู
“อ้าว...ยายแม่ไก่กับลูกเจี๊ยบมาแล้ว นี่จับมือแน่นขนาดนี้ไม่กลัวหนุ่มๆ เข้าใจผิดหรือไง” “แพร...ติดกันเป็นตังเมขนาดนี้ ระวังเรตติ้งตกนะเพื่อน” เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างแซวออกมาเมื่อเห็นคนทั้งสองแทรกตัวเข้ามาถึงที่โต๊ะ
เหมือนแพรทำหน้าปูเลื่อนขึ้นมา “ก็ฝันนะสิ...เกิดแพนิคขึ้นมาอีกละ เขยิบไปหน่อยให้ฝันเข้าไปอยู่ด้านใน” เหมือนแพรเจ้ากี้เจ้าการแหวกช่องว่างให้วาดฝันเข้าไปอยู่ด้านในของโต๊ะ ก่อนจะหันไปหยิบเหล้าที่ชงไว้แล้วกระดกเข้าปากภายในรวดเดียว
วาดฝันแทรกตัวเดินเข้าไปยังเซฟโซนของเธออย่างว่าง่าย วาดฝันค่อยๆ ยิ้มกว้างขึ้นมาอีกครั้ง เธอเข้าไปอยู่ด้านในราวกับเป็นไข่แดงที่ถูกล้อมรอบด้วยไข่ขาวจนไม่อาจเปิดโอกาสให้ใครเข้ามารบกวนเธอได้ในค่ำคืนนี้
“ฝัน...ดื่มอะไรดี” เสียงเหมือนแพรถามขึ้น
“อะไรก็ได้ที่ไม่แรงมาก ไม่อยากเมา” วาดฝันตอบกลับเบาๆ
เหมือนแพรหัวเราะให้กับความคออ่อนของเพื่อนสาว “งั้นเอาค็อกเทลอ่อนๆ สักแก้วก็แล้วกัน”
เครื่องดื่มถูกยกมาเสิร์ฟ วาดฝันจิบเครื่องดื่มสีสวยในแก้วทรงสูง รสชาติหวานอมเปรี้ยวซ่าซ่า ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง เสียงเพลงดังกระหึ่มทำให้การพูดคุยต้องตะโกนแข่งกัน แต่พวกเขากลับสนุกสนานกับการได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลงและบรรยากาศที่ชวนให้ลุ่มหลงอย่างง่ายดาย
ในขณะที่วาดฝันกำลังยกแก้วขึ้นมาจิบอีกครั้ง สายตาของวาดฝันก็พลันสะดุดเข้ากับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาด้านในและหยุดยืนอยู่ที่หน้าบาร์ เขารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ใบหน้าคมคาย ดวงตาเรียวรีคมกริบประดุจเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักได้รูป ภายใต้แสงไฟสลัวที่สาดส่องมา วาดฝันรู้สึกราวกับกำลังต้องมนต์สะกด ร่างกายแข็งทื่อขึ้นมาพร้อมกับสายตาที่ไม่อาจละจากดวงตาคู่คมนั้นไปได้
ชายหนุ่มคนนั้นหันหน้ามาทางวาดฝันเข้าพอดิบพอดี ดวงตาคมเข้มประสานเข้ากับดวงตากลมโตของเธออย่างจัง วาดฝันใบหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม หัวใจเต้นระรัวราวกับกลอง วินาทีนั้นเองที่หัวใจของวาดฝันราวกับจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ ความรู้สึกราวกับมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง วาดฝันรู้สึกเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงช็อตเข้าให้อย่างจัง นี่เป็นอาการรักแรกพบหรือเปล่านะ วาดฝันกัดฟันแน่นอย่างไม่เข้าใจตัวเองมากนัก
ชายหนุ่มคนดังกล่าวหรี่ตาลง พร้อมกับยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากเล็กน้อยอย่างท้าทาย ดวงตาคมกริบที่ประสานสายตาเข้ากับวาดฝันเป็นประกายวาววับอย่างไม่คิดจะหลบเลี่ยงไปไหน มีก็แต่เพียงวาดฝันเองที่สะดุ้งตัวขึ้นพร้อมก้มหน้าหลุบต่ำอย่างไม่กล้าสบตากับเขาอีก
“เป็นอะไรไปวาดฝัน หน้าแดงเชียว เมาแล้วเหรอ” เหมือนแพรสังเกตเห็นความผิดปกติของเพื่อนรักจึงทักขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร” วาดฝันตอบเสียงสั่น รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบอีกครั้งเพื่อกลบเกลื่อนอาการประหม่า แต่ก็ไม่วายเหลือบตาขึ้นไปมองเขาอีกครั้ง
“แน่ใจนะ” เหมือนแพรยังคงมองเพื่อนด้วยสายตาจับผิด
“อื้อ...แน่ใจสิ” วาดฝันพยายามตอบด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ในใจกลับสับสนวุ่นวายอย่างบอกไม่ถูก
ตลอดค่ำคืนนั้น วาดฝันเอาแต่แอบเหลือบมองชายหนุ่มคนนั้นอยู่หลายครั้ง เขายังคงยืนอยู่ที่หน้าบาร์ พูดคุยกับบาร์เทนเดอร์บ้าง หันไปคุยกับคนอื่นๆ บ้าง แต่ทุกครั้งที่สายตาของวาดฝันเหลือบไปมอง เขาก็เหมือนจะรู้ตัวและหันกลับมาสบตากับเธอเสมอ
วาดฝันรู้สึกประหม่าอย่างมาก เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวได้เช่นนี้ เธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงมีเสน่ห์ดึงดูดใจจนไม่อาจละสายตามองไปได้เลยทีเดียว
“ฝัน...แกมองอะไรนักหนาวะ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” เหมือนแพรสะกิดถามขึ้นอีกครั้งอย่างอยากรู้อยากเห็น เมื่อเพื่อนสาวของตนที่ท่าทางผิดแผกไปจากทุกที
“แพร...แกรู้จักคนคนนั้นไหม” วาดฝันกระซิบถามด้วยความสงสัย พร้อมพยักพเยิดปากไปทางชายหนุ่มคนดังกล่าว
“ไหนๆ คนไหน” เหมือนแพรหันไปมองรอบๆ ด้วยความสนใจ ในเมื่อนานๆ ทีเพื่อนรักของเธอจะเอ่ยปากบอกชอบใครสักคนขึ้นมา
วาดฝันรีบส่ายหน้าอย่างไม่อยากตอบคำถามให้เยิ่นเย้อ “ช่างมันเถอะ...มา...มาดื่มกัน”
ตอนที่ 39 เรื่องราวที่น่ายินดีภายในห้องนอนที่เงียบสงบ แสงไฟสีอ่อนจากโคมไฟข้างเตียงทอประกายอ่อนโยน ขับเน้นบรรยากาศอบอุ่นที่แผ่กระจายอยู่ทั่วห้อง ภูทัชกำลังนั่งพิงหัวเตียง มือข้างหนึ่งถือหนังสือเล่มหนา อีกข้างวางอยู่บนตักอย่างสบายใจ ดวงตาคมกริบกำลังจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ แต่หูยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าของวาดฝันที่เดินเข้ามาใกล้วาดฝันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของชายหนุ่ม ก่อนจะย่างเท้าก้าวขึ้นมาบนเตียงนอนนุ่ม จากนั้นเธอจึงล้มตัวลงซุกไซร้ร่างบางเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ร่างบางแนบชิดกับชายหนุ่มราวกับต้องการให้เขารับรู้ถึงความอบอุ่นจากตัวเธอ ใบหน้าของเธอซุกลงที่อกของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดไปตามสาบเสื้อ แทรกซึมเข้าไปปะทะกับผิวกายหนา สัมผัสอันชวนให้ฟุ้งซ่านทำให้ภูทัชถึงกับละสายตาจากหนังสือ เขาโน้มตัวก้มมองร่างบางตรงหน้าด้วยความเอ็นดู“ฝัน...เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงอ้อนพี่เป็นพิเศษ” ภูทัชถามออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือใหญ่เอื้อมไปลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา ลมหายใจเริ่มหอบถี่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับร่างบางตรงหน้าวาดฝันช้อนตาเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่สวยเป็นประกายระยิบระยับ เธอลอบกลืนน้ำลาย นิ่งเงียบไปสักค
ตอนที่ 38 แต่งงานแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องลอดผ่านกระจกบานใหญ่ของร้านอาหารหรู สาดแสงสีทองอ่อนโยนลงมาต้องพื้นไม้ขัดมันสะท้อนเป็นเงาวูบไหวไปตามจังหวะของเปลวเทียนที่ประดับอยู่ตามโต๊ะอาหาร ภายในร้านอบอวลไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก เสียงไวโอลินบรรเลงคลอเบาๆ แทบกลมกลืนไปกับเสียงพูดคุยของคู่รักที่กำลังดื่มด่ำกับมื้อค่ำสุดพิเศษภูทัชจูงมือวาดฝันเดินเข้ามาภายในร้าน ฝ่ามือของเขากอบกุมมือเล็กของเธอแน่นราวกับไม่อยากปล่อยไปไหนวาดฝันเหลือบตามองชายหนุ่มข้างกายอย่างสงสัย วันนี้ภูทัชดูต่างไปจากทุกวัน เขาดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ แม้จะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่เธอก็ยังจับสังเกตถึงความผิดปกตินั้นได้“พี่ภู...ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ ไปนะ...พี่ภูมีอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ” วาดฝันถามเสียงแผ่วเบา ดวงตากลมโตไหวระริกด้วยความสงสัยภูทัชหันมายิ้มให้เธอ รอยยิ้มของเขาอ่อนโยนและอบอุ่นกว่าทุกครั้ง “มีสิครับ... วันนี้เป็นวันที่พิเศษที่สุดในชีวิตของพี่”คำพูดของเขาทำให้หัวใจของวาดฝันเต้นรัว แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เพียงแค่เห็นแววตาของเขาที่เต็มไปด้วยความมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยความรัก เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลอมละลายทั้งส
ตอนที่ 37 ขอรางวัลแสงไฟสีส้มสาดส่องจากเสาไฟข้างทางทอดเงาสะท้อนเข้ามาในรถยนต์คันหรู เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเบา ๆ คลอเคลียไปกับเสียงลมหายใจของคนสองคนที่อยู่ภายในวาดฝันนั่งตัวเกร็งอยู่ด้านข้างชายหนุ่มพลางใช้มือกอบกุมชายกระโปรงของตัวเองแน่นอย่างไม่กล้าแม้แต่จะปรายตามองคนข้างกาย คำหยอกล้อของณภพทำให้เธออดที่จะคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สัมผัสอันเร่าร้อนในค่ำคืนก่อนวนเวียนเข้ามาภายในหัวจนเธอนึกอยากจะเขกหัวตัวเองเสียให้ได้ภูทัชหันมามองหญิงสาวด้วยสายตาพราวระยับ รอยยิ้มบางยกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ ชายหนุ่มพอจะเดาอารมณ์ของหญิงสาวได้ดีว่าตอนนี้เธอกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่ภายในหัว “คิดอะไรอยู่หรือ” เสียงทุ้มเอ่ยแซวขณะที่มือหนายื่นไปแตะแก้มนวลเบาอย่างหยอกเย้าวาดฝันสะดุ้งเฮือกจะภวังค์ เธอม้วนอายจนรีบเบือนหน้าหนีออกไปทางกระจก หญิงสาวพยายามปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติตามเดิม พร้อมสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวอย่างรวดเร็ว “เปล่าค่ะ...ฝันแค่รู้สึกง่วง” หญิงสาวรีบแก้ตัวออกมาเบาๆ โดยไม่ยอมสบสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อยภูทัชหัวเราะหึ ๆ อย่างนึกเอ็นดู ชายหนุ่มไม่พูดอะไรออกมาให้หญิงสาวได้อับอายอีก เ
ตอนที่ 36 ปรับความเข้าใจภูทัชกระแอมไอออกมาอย่างรู้สึกเก้อเขิน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเพื่อพูดคุยอย่างจริงจังอีกครั้ง “ภพ...ครั้งนี้ต้องขอบคุณนายมากที่ช่วยฝันไว้” ภูทัชเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาต้องการที่จะขอบคุณณภพจากใจจริง“พี่ภูไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมเต็มใจอย่างยิ่ง” ณภพตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ท่าทีที่แต่เดิมดูขี้เล่นแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาวาดฝันมองณภพด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอรู้สึกขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า และรู้สึกปล่อยวางความขลาดกลัวภายในใจลงได้แล้วในที่สุด“ภพ...ฉันขอโทษนะ...และขอบคุณภพด้วย” วาดฝันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือ“ฝัน...ขอแค่ฝันปลอดภัย ภพเต็มใจอย่างยิ่ง” ณภพย้ำชัดให้หญิงสาวคลายความกังวล “แต่ว่า...” น้ำเสียงของเขาเริ่มแผ่วลง เมื่อเขาอยากจะเริ่มต้นขอโทษหญิงสาวอย่างจริงจังอีกครั้ง“ภพ...ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว...ฝันไม่โกรธภพแล้วล่ะ...ต่อไปฝันหวังว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้” วาดฝันย้ำชัดกับความคิดของตนเอง เธอไม่ต้องการรื้อฟื้นความหลังที่เจ็บปวดเพื่อทำร้ายกันและกันอีกต่อไปแล้ว“ฝันให้อภัยภพแล้วเหรอ” ภพถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดูยินดียิ่
ตอนที่ 35 ปกป้อง“เปรี้ยง...” เสียงปืนดังสนั่นก้องกังวานไปทั่วโกดังร้าง ณภพวิ่งออกมาขวางวาดฝันเอาไว้อย่างไม่คิดชีวิต สัญชาตญาณสั่งการให้ชายหนุ่มเบี่ยงกายเข้าขวางวิถีกระสุนพร้อมกางมือปกป้องหญิงสาวเอาไว้ให้ปลอดภัยจากรัศมีกระสุนณภพใช้ร่างกายของตนเองเข้าบังหญิงสาวเอาไว้ กระสุนแล่นทะลุเข้าที่หน้าอกของณภพ เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาเปรอะเปื้อนเสื้อสูทสีเทาของเขา ร่างของเขาทรุดตัวลงกับพื้นอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังคงจ้องมองวาดฝันด้วยความเป็นห่วง“กรี๊ด...” วาดฝันกรีดร้องเสียงดัง เธอทรุดตัวลงนั่งด้านข้างของณภพ สองมือโอบกอดร่างหนาเอาไว้แนบกาย น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้งอย่างไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าจะเป็นความจริง เธอโกรธแค้นณภพมาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มที่ทำให้เธอหวาดกลัวและหลีกหนีต่อโลกใบนี้ แต่ครั้งนี้เขากลับเสี่ยงชีวิตเข้าปกป้องเธอเอาไว้ เธอรู้สึกเจ็บปวดระคนสับสนในใจอย่างรุนแรงภูทัชรีบเข้ามาประคองวาดฝันเอาไว้อีกทาง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่ยอมให้เธอต้องตกอยู่ในอันตรายอีก ชายหนุ่มยกมือขึ้นเป็นสัญญาณ ดวงตาแดงก่ำราวกับพยัคฆ์ร้ายที่พร้อมจะเข่นฆ่าศัตรูให้ตายไปลงต่
ตอนที่ 34 ต่อรองภูทัชยืนประจันหน้ากับสาริน สายตาคมกริบจับจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ แม้ในใจจะเดือดดาลเพียงใด เขาก็ต้องควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง ชายหนุ่มรู้ดีว่าหากเผลอทำอะไรไปโดยไม่คิดให้รอบคอบ วาดฝันอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ “ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าวาดฝันอยู่ที่นี่...แกพาเธอออกมาให้ฉันเห็นก่อน แล้วพวกเราค่อยเจรจากัน” ภูทัชพูดเสียงดังต่อรองออกไป เขาต้องพยายามพลิกสถานการณ์เพื่อให้กลับมาเป็นต่อขึ้นมาได้บ้างสารินหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสะใจที่เห็นท่าทีที่ดูร้อนรนของศัตรูคู่แค้นตรงหน้า “ภูทัช...ฉันจะให้นายได้เห็นคนรักของแก...ฮ่าๆ...ฉันไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึง...วันที่นายจะต้องมาวิงวอนขอร้องฉัน...วันที่นายมีจุดอ่อนให้ฉันเหยียบย่ำ” สารินพูดออกมาอย่างนึกสะใจสารินมองชายหนุ่มที่เคยเป็นเสี้ยนหนามในชีวิตเขามาตลอดด้วยความยินดีที่ในที่สุดก็ได้เห็นภูทัชมี ‘จุดอ่อน’ เสียที เขาต่อกรกับภูทัชเพื่อขึ้นเป็นหนึ่งเดียวมานาน แต่เพราะภูทัชระวังตัวอย่างมาก ซ้ำยังมีลูกน้องฝีมือดีมากมาย ทำให้ภูทัชกลายเป็นกระดูกที่ขวางทางอำนาจของเขามาโดยตลอด แต่ไม่นึกว่าบัดนี้เขาจะมีจุดอ่อนที่เป็นเพียงหญิงสาวที่ดู
ตอนที่ 33 ลักพาตัวความมืดมิดปกคลุมไปทั่วบริเวณสวนหลังงานเลี้ยง มีเพียงแสงไฟสลัวจากสองข้างทางสอดส่องไปตามทางเดินยาว วาดฝันที่กำลังวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก ในเวลานี้หญิงสาวตื่นกลัวจนไม่รู้ว่าเธอควรจะไปทางไหนดี มีเพียงสัญชาตญาณที่สั่งให้เธอวิ่งหนีออกมาเพียงอย่างเดียว น้ำตาไหลนองอาบสองแก้ม มือบางปาดไล้น้ำตาบนใบหน้าจนเครื่องสำอางเปรอะเปื้อนเป็นแถบเมื่อวาดฝันวิ่งไปได้สักพักใหญ่ เธอก็หยุดชะงักลง หญิงสาวหันซ้ายหันขวามองไปตามทางเดินที่เธอจากมา เมื่อไม่เห็นร่างของณภพ เธอก็ค่อยๆ ผ่อนแรงลงด้วยความเหนื่อยหอบในระหว่างที่วาดฝันกำลังรวบรวมสติอีกครั้ง มือบางที่สั่นเทาก็รีบเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่แล้วจู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบที่ใบหน้า ผ้าเช็ดหน้าผืนบางโปะมาที่จมูกของเธอจากทางด้านหลังวาดฝันเบิกตากว้าง พร้อมดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลังอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว แต่แล้วภาพตรงหน้าก็ค่อยๆ พร่าเลือน ร่างของเธอทรุดลงก่อนที่สติของเธอจะดับวูบลงไปในที่สุดวาดฝันหายตัวไปเป็นเวลานานมากแล้ว ณภพที่พยายามออกตามหาหญิงสาวไปทั่วบริเวณแต่กลับไม่พบเธ
ตอนที่ 32 ชนะประมูลแสงไฟระยิบระยับส่องประกายไปทั่วห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ เสียงดนตรีบรรเลงคลอเป็นจังหวะ สร้างบรรยากาศหรูหราและมีชีวิตชีวา ผู้คนในชุดราตรีและสูทหรูหราเดินไปมา พูดคุยและหัวเราะกันอย่างคึกคักบริษัทของภูทัชและทรงกลดได้รับคัดเลือกในการประมูลโครงการกาสิโนขนาดใหญ่ที่พวกเขาทั้งสองต่างทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ให้กับโครงการนี้ พวกเขาจึงจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะนี้ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จครั้งสำคัญของพวกเขาที่ไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจเท่านั้น แต่ยังหมายถึงอำนาจและอิทธิพลของพวกเขาในวงการนี้อีกด้วยภูทัชในชุดสูทสีน้ำตาลชวนให้ดูหล่อเหลาและสง่างาม ควงคู่มากับวาดฝันในชุดราตรีสีครีมที่ขับเน้นรูปร่างงดงามของเธอ ทั้งสองดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกวาดฝันพยายามยิ้มแย้มให้กับแขกเหรื่อที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับงานเลี้ยงที่มีคนแปลกหน้าเยอะแยะสักเท่าไหร่ แต่งานเลี้ยงดังกล่าวเป็นความภาคภูมิใจของคนที่เธอรักทั้งสองคน นั่นทำให้วาดฝันพยายามฝืนตัวเองอย่างสุดกำลังระหว่างงานเลี้ยงที่จัดขึ้น ภูทัชเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบปะและพูดคุยกับแขกเหรื่อในงาน แต
ตอนที่ 31 กันและกันเมื่อภูทัชเห็นว่าวาดฝันพร้อมสำหรับตัวเองแล้ว เขาก็ค่อยขยับกายขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้อย่างแนบชิด สองขาสอดแทรกดันแยกต้นขาอ่อนให้เปิดกว้าง จากนั้นชายหนุ่มจึงค่อยๆ แทรกความเป็นชายของเขาเข้าไปในร่องหลืบที่บัดนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาภูทัชกดแก่นกายเข้าไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง ร่างบางก็เกร็งสั่นด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับ “อ๊ะ...” วาดฝันครางออกมาเบาๆ ร่างกายเริ่มประท้วงจากความเจ็บแปลบที่แล่นริ้วไปทั่วร่างกายภูทัชชะงักค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น เขากัดฟันข่มกลั้นความคับแน่นที่บีบรัดแก่นกายของเขาจนแทบจะระเบิด ชายหนุ่มโน้มหน้าพรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานอย่างต้องการปลอบโยน มือใหญ่เริ่มลูบไล้ บีบคลึงไปตามจุดสัมผัสอ่อนไหวเพื่อให้ร่างบางผ่อนคลายลงอีกครั้ง“ฝัน...อย่ากลัว...พี่จะพยายามไม่ทำให้ฝันเจ็บ...อดทนหน่อยนะคนดี” ภูทัชปลุกปลอบหญิงสาวตรงหน้าอย่างใจเย็น แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเขาแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วก็ตามวาดฝันที่เริ่มผ่อนคลายลง ความเจ็บปวดค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเข้ามาแทน ร่างบางเริ่มขยับตัวเข้าหาชายหนุ่ม สองมือโอบวาดกอดรัดรอบลำคอของเขาเอาไว้แน่นภูทัชใช้จั