“กุ้งคั่วพริกเกลือ ยำถั่วพู หลนไข่ปูกับผักสดแล้วก็มีต้มยำทะเลน้ำข้นค่ะ” รายการอาหารวันนี้มีของที่ริโอกับยอดพธูชอบคนละสองอย่าง
ก่อนที่ยอดพธูจะเข้ามาอยู่ที่นี่อาหารบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของที่ ริโอชอบหรืออยากจะกินเท่านั้น แต่มันก็เปลี่ยนไปเมื่อมียอดพธูเข้ามาอยู่ด้วย “แล้วของหวานล่ะมีอะไร” น้ำเสียงรวมไปถึงแววตาของริโอดูแพรวพราวเสียจนยอดพธูใจสั่น นั่นเพราะพอจะรู้ความนัยจากประโยคที่ได้ยินไปเมื่อครู่นี้ “ไม่มีค่ะ” ยอดพธูก้มหน้าตอบ เพราะไม่กล้าสบตาริโอ “อ้าว! ทำไมถึงไม่มี” ชายหนุ่มแกล้งพูดต่อ นั่นเพราะรู้ว่าตอนนี้ยอดพธูรู้ทันความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ “ก็ปกติคุณริโอไม่กินของหวานนี่คะ” “ก็เธอไง ของหวานจานโปรดของผม” พูดจบริโอก็เดินเข้ามาใกล้ยอดพธู ส่วนเธอก็รีบขยับออกให้ห่างเข้าไว้ ไม่ใช่เพราะรังเกียจแต่เวลานี้เธอกับเขาอยู่ในห้องครัว แต่กว่าจะรู้ตัวริโอก็เข้ามาประชิดยอดพธูเสียแล้ว เขาสวมกอดเธอไว้พร้อมกับดันร่างบอบบางให้เข้ามาปะทะกับอกแกร่ง จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงมาแล้วขโมยจูบไปจากเธออย่างร้อนแรง คล้ายจะทำโทษอีกต่างหาก จูบของริโอยังคงทำให้ยอดพธูใจสั่นตัวสั่นได้เสมอ เขาช่ำชองในเรื่องจูบรวมไปถึงเรื่องบนเตียง จนทำให้เธอกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่ง เขามักจะปลุกปั่นอารมณ์ของเธอจนมันลุกโชนและค่อยๆ กลืนกินเธออย่างหิวกระหาย มือของชายหนุ่มก็เริ่มสำรวจร่างกายเธออย่างเป็นเจ้าของ ร่างกายของยอดพธูอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านทานชายหนุ่มได้จริงๆ กระทั่งเขาถอนจูบออกแล้วกำลังจะฝั่งใบหน้าหล่อเหลาลงมาบนซอกคอ ยอดพธูจึงรีบขยับออกห่างพร้อมจัดการกระชับเสื้อผ้าที่เริ่มหลุดลุ่ยให้เข้าที่เข้าทาง “คุณริโอ หยุดแกล้งกี้ได้แล้ว” ยอดพธูเอ่ยห้ามชายหนุ่มเสียงอ่อย ส่วนแม่บ้านอย่างวรรณานั้นหลบฉากไปตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ลืมสังเกต “ไม่ได้แกล้ง” “คุณริโอ...” ยังไม่ทันที่ยอดพธูจะได้เอ่ยอะไร ริโอก็เรียกหาวรรณา น้ำเสียงของเขาห้วนขึ้นสีหน้าก็ดูบึ้งตึงผิดไปจากเมื่อครู่นี้ที่ยังยิ้มกริ่ม จนยอดพธูหรือใครก็ตามไม่ทัน “ป้าวรรณ เข้ามานี่” “ค่ะ” วรรณารีบเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงริโอเอ่ยเรียก “ทำไมถึงไม่โทรศัพท์ไปบอกว่าไพลินมาดักรอพบฉันที่บ้าน” “เอ่อ...” “วันหลังอย่าทำแบบนี้อีก เพราะฉันไม่อยากกลับมาแล้วเจอเหตุการณ์เหมือนวันนี้ ประสาทจะกิน” “ค่ะๆ” “ผมหิวแล้ว จะไปรอที่โต๊ะ” ริโอหันมองมาที่ยอดพธูแล้วเอ่ยบอกขึ้น จากนั้นชายหนุ่มก็ก้าวยาวๆ ออกมาจากห้องครัวที่น้อยครั้งเขาจะเดินเข้ามา คล้อยหลังริโอวรรณาถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ ตอนนี้เธอนั้นอายุสี่สิบใกล้ห้าสิบปีเข้าไปแล้ว เวลาเจอน้ำเสียงห้วนๆ แววตาแข็งกระด้างของริโอทีไร ยังรู้สึกกลัวเหมือนเด็กไม่มีผิด ทั้งๆ ที่เธออยู่รับใช้เขามาจะสิบปีแล้ว ก็ยังไม่ชินเสียที “ไปจัดโต๊ะเถอะจ้ะป้าวรรณ” “ค่ะคุณกี้” วรรณาเอ่ยรับ ก่อนจะช่วยยอดพธูจัดโต๊ะ ส่วนริโอนั้นขึ้นไปล้างไม้ล้างมือเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องนอนเสียก่อน ซึ่งไม่นานก็กลับลงมาในชุดลำลอง อาหารทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารลายหินอ่อนเวลานี้ล้วนเป็นฝีมือของยอดพธู มีบางครั้งที่เขาสั่งให้เชฟจากโรงแรมทำมาส่ง ปกติเขาไม่ใช่คนที่ชอบกลับมากินข้าวที่บ้าน แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อมียอดพธู “พรุ่งนี้ผมมีงานเลี้ยง กี้ไปด้วยกันไหม” ขณะนั่งกินข้าว จู่ๆ ริโอก็เอ่ยขึ้น เขากับยอดพธูนั้นอายุห่างกันเกือบสิบปี แต่ทุกครั้งที่เขาเอ่ยเรียกเธอ ก็มักจะเรียกชื่อเธอตรงๆ มากกว่าใช้สรรพนามอื่นแทน ส่วนเธอก็มักจะเรียกเขาว่าคุณริโออยู่เรื่อย บอกให้เรียกพี่หรืออะไรเธอก็ไม่ยอมท่าเดียว “ไม่ดีกว่าค่ะ” “ทำไมถึงไม่อยากออกงานกับผม ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนอื่นๆ อยากไป” คนอื่นอยากไปแต่ยอดพธูกลับไม่มีความคิดที่จะทำแบบนั้น เธอไม่ชอบถูกจับตามองยิ่งไปกับริโอก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงกดดันจนชวนอึดอัด “ทำตัวไม่ถูกนี่ค่ะ ไม่รู้ต้องพูดหรือต้องยิ้มให้ใครบ้าง อีกอย่างคุณริโอจะแนะนำกี้กับทุกคนว่ายังไง”“ก็ที่เธอยังยื้อเวลา ไม่ช่วยเรื่องบ้านพ่อสักทีนี่ไง ไม่เรียกอกตัญญูจะให้เรียกว่าอะไร” ทัศนีย์จ้องมองยอดพธูด้วยแววตาแข็งกร้าว นี่ถ้าเข้าไปฉีกเลือดฉีกเนื้อได้ คงทำไปนานแล้ว “ฉันช่วยไปแล้ว”“โกหก”“ภรรยาผมไม่ได้โกหกครับ เธอให้คนนำเงินสดห้าล้านไปให้คุณที่บ้านแล้ว” เสียงของริโอดังขึ้น ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องรับแขกทีหลัง เพราะไปเอาหลักฐานจากพลนั่นเอง “ฉันไม่เห็นรู้เรื่องสักนิด”“คนของผมบอกว่าวันนั้นได้ส่งเงินให้ลูกสาวคุณที่ชื่อโปรดปรานไป”“ไม่จริง เพราะถ้าได้เงินมาแล้ว ยายโปรดต้องบอกฉันสิ”“นี่ไงครับหลักฐาน” ริโอยื่นโทรศัพท์ให้ทัศนีย์ ซึ่งรูปที่เปิดค้างไว้คือรูปถ่ายของโปรดปราน ตอนที่เธอรับซองสีน้ำตาลไปจากมือของพล ริโอสั่งให้คนถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน นั่นเพราะไม่เชื่อว่าครอบครัวนี้จะหยุดสร้างปัญหาให้ยอดพธู “หรือว่าเงินที่ไปยุโรปนั่นจะเป็นเงิน...” ทัศนีย์ถึงกับตาสว่าง เธอกำมือตัวเองแน่น ใจนั้นเต้นโครมครามเพราะความโกรธ ป่านนี้ โปรดปรานจะถลุงเงินที่ได้มาไปมากแค่ไหนแล้วทัศนีย์ลุกพรวดขึ้นแล้วกลับออกไปจากบ้านของริโอแบบไม่ลา ทันทีที่เข้ามานั่งในรถได้เธอก็กรี๊ดออกมาด้วยความอัดอั้น โกรธจนเลื
เย็นวันนั้น ยอดพธูตัดสินใจเล่าเรื่องที่พ่อมาพบเธอที่บ้านให้ ริโอฟัง เพราะอยากให้ริโอรับรู้ด้วย แม้ชายหนุ่มจะรู้จากวรรณามาบ้างแล้วก็ตาม สีหน้าของริโอไม่ได้มีท่าทีกังวล เพราะเขานั้นพร้อมที่จะช่วยแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับยอดพธู พอได้มานั่งฟังก็นึกสงสารเธอไม่น้อย เพราะถูกพ่อแท้ๆ ทอดทิ้งไปตั้งแต่เล็กๆ แถมยังไม่เคยเหลียวแลใดๆ ปล่อยให้เธอกับแม่อยู่กันอย่างลำบาก “กี้”“ค่ะ”“เรื่องนี้ถ้ากี้ไม่ยื่นมือช่วย ผมว่าก็ไม่ได้ผิดอะไร ผู้ชายบางคนก็แค่มีหน้าที่ทำให้เราเกิดมา แต่ไม่ได้ทำหน้าที่พ่ออย่างที่ควรจะทำ” ริโอเอ่ยขึ้น นั่นเพราะบนโลกใบนี้มีทั้งขาวและดำ ใช่ว่าคนเป็นลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดแบบลืมหูลืมตา บางอย่างมันก็มีข้อยกเว้น “ถ้าไม่ช่วย กี้จะถูกว่าเป็นลูกอกตัญญูไหมคะ” นั่นคือสิ่งที่ ยอดพธูกังวล แต่ริโอกลับยิ้มเพราะเดาใจเธอออกว่าต้องคิดแบบนี้อยู่แน่ “ใครจะคิดยังไงก็ปล่อยเขาคิดไป เพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้มารับรู้ความเป็นมาเป็นไปนี่ จริงไหม” ริโอยกมือขึ้นมาลูบศีรษะเล็กๆ ของยอดพธูไปมาอย่างเข้าใจ “หรือจะให้ผมจัดการเรื่องนี้ให้”“งั้นกี้ขอฝากคุณริโอด้วยนะคะ กี้...”“ผมเข้าใจ” ริโอเข้าใจควา
เพราะมีหลานสาวตัวน้อยที่ชื่อว่าริชา ซึ่งกำลังน่ารักน่าหลง นั่นทำให้อิริคตัดสินใจที่จะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวร แทนการไปๆ มาๆ ระหว่างไทยกับอิตาลี ซึ่งริโอและยอดพธูก็เห็นด้วยกับความคิดนั้นครอบครัวเป็นคำว่าครอบครัวมากขึ้น ริโอเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นสามี เป็นพ่อ เป็นเจ้านายที่ดีของทุกๆ คน ชายหนุ่มดูจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่มีครอบครัวอย่างจริงๆ จังๆ ส่วนยอดพธูนั้นสิ่งสำคัญๆ ในชีวิตเธอตอนนี้ก็มีแค่ไม่กี่อย่าง หนึ่งคือริโอกับริชา สองก็คือครอบครัวและสามคือธุรกิจ ที่เวลาขยับขยายไปตามตลาดที่เปิดกว้างแต่บททดสอบอีกบทก็กำลังเดินทางไปหายอดพธู นั่นเพราะจู่ๆ พ่อของเธอที่ทอดทิ้งเธอกับแม่ไปตั้งแต่เด็กๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แม้จะสงสัยว่าพ่อรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ แต่ยอดพธูก็ไม่ปริปากถามออกไป “กี้...ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีไหมลูก” วรุธเอ่ยทักทาย ยอดพธูขึ้นอย่างสนิทสนม ทั้งๆ ที่ไม่เคยเลี้ยงดูแต่ทำตัวราวกับเลี้ยงมาเองกับมือ “สบายดีค่ะ” ยอดพธูเอ่ยตอบนิ่งๆ แม้ชายตรงหน้าจะได้ชื่อว่าพ่อ แต่ยอดพธูกลับไม่เคยผูกพัน ไม่แม้แต่จะคิดถึงด้วยซ้ำ“อย่างนั้นเหรอ เรื่องแม่พ่อเสียใ
และเมื่อต่างก็เปลือยเปล่า แรงดึงดูดที่มีต่อกันก็ยิ่งมากขึ้น ชายหนุ่มใช้ความเป็นชายที่เวลานี้ตื่นตัวเต็มที่เสียดสีไปมาอยู่แถวๆ ต้นขาของยอดพธู พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปจูบปากอิ่มอีกครั้ง กระทั่งเปลี่ยนมาเป็นจูบหน้าอกอวบอิ่ม ที่เวลานี้เต็มไม้เต็มมือของริโอเหลือเกิน “หน้าอกกี้มันใหญ่ขึ้น...ใช่ไหม” ริโอเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่เขานั้นเห็นด้วยตาและพิสูจน์ด้วยมือกับปากมาแล้ว ว่าเวลานี้หน้าอกของยอดพธูใหญ่ขึ้นมาก อาจเพราะเธอต้องให้นมลูกริโอบีบคลึงฟ้อนเฟ้นหน้าอกของยอดพธูจนเธอเสียวซ่าน ยิ่งเวลาที่เขาใช้ปลายนิ้วบีบบี้เม็ดยอดที่กำลังแข็งเป็นไตนั่นด้วยแล้ว เธอก็ยิ่งทรมานก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อริโอรับมันเข้าไปไว้ในปาก เขาทั้งดูดและใช้ลิ้นตวัดไปมาอย่างช่ำชอง จนร่างของยอดพธูอ่อนระทวย ยากจะต้านทานเขาได้จริงๆ“อื้อ...” ยอดพธูเอ่ยรับได้เพียงแค่นี้ หน้าอกเธอใหญ่ขึ้นมากแบบก้าวกระโดดก็ว่าได้ นั่นทำให้เธอต้องเปลี่ยนไซซ์ชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด ริโอลากผ่านปลายลิ้นร้อนๆ ลงไปบนร่างกายของยอดพธู จุดไหนสนใจเป็นพิเศษก็แวะทักทายนานหน่อย ก่อนจะกลับขึ้นไปมอบจูบให้ยอดพธูอีกครั้ง เขาจงใจบดเบียดสะโพกเข้าหาเธอ นั่นก็เพื่อกระตุ้นให้ยอ
“ผมก็รักกี้ คนดีของผม” ริโอยิ้มหน้าบาน ก่อนจะดึงยอดพธูเข้ามากอด เขาเคยได้ยินคนพูดว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ เมื่อก่อนเขาไม่รู้ความหมายของมัน แต่ทว่าเวลานี้เขาได้รู้และได้เข้าใจเป็นอย่างดี“คุณริโอ”“ครับ”“ปล่อยกี้” ยอดพธูดิ้นยุกยิกอยู่ในอ้อมกอดของริโอ สัมผัสจากเขายังคงทำให้เธอรู้สึกวาบหวามได้อย่างเคย “ไม่เอา”“อย่าทะลึ่งนะคะ ปล่อยกี้ก่อน”“ทำไม” เสียงแหบพร่าด้วยไฟปรารถนาของริโอดังขึ้นข้างๆ ใบหูเล็กๆ ของยอดพธู นั่นเพราะเขาต้องการเธอเหลือเกิน แต่ต้องข่มใจตัวเองไว้รอจนกว่าเธอจะพร้อมอย่างเต็มใจ ริโอไม่อยากหักหาญน้ำใจของยอดพธู ทั้งๆ ที่เธอได้ชื่อว่าเป็นเมีย “กี้ต้องไปให้นมริชา”“โอเคครับ ปล่อยก็ปล่อย” เหตุผลของยอดพธูไม่อาจทำให้ริโอแย้งได้จริงๆ “อีกครึ่งชั่วโมงกี้ก็น่าจะกลับมาแล้วค่ะ” พูดจบยอดพธูก็เดินจ้ำออกไปทันที ใบหน้าเห่อร้อนราวกับคนเป็นไข้ ที่เธอกล้าพูดทิ้งท้ายบอกให้ริโอรอเธอกลับมาจากให้นมลูกแบบนั้นส่วนริโอถึงกับเอามือทุบหมอนอิงหนักๆ อย่าดีใจที่ยอดพธูจะกลับมาหา ทำแบบนี้อยู่หลายนาทีเพราะขืนตะโกนออกไป ลูกได้ตื่นและเขาก็พลอยจะอดไปด้วย ‘ผู้ชายร้ายๆ ในสายตาทุกคนอาจกลายเป็นผู้ชายอบอุ่น
สองวันหลังจากนั้น ยอดพธูก็กลับมาที่บ้านของริโออีกครั้ง โดยครั้งนี้วรรณายังคงตามมาด้วย และยอดพธูก็ไม่ได้มาเพียงคนเดียว นั่นเพราะในอ้อมกอดของเธอมีลูกสาวตัวน้อยอยู่เมื่อมาถึงริโอก็พายอดพธูไปดูห้องนอนลูก ที่เขานั้นสั่งทำไว้เป็นพิเศษ ภายในห้องนอนถูกออกแบบเป็นอย่างดี รวมถึงมีของใช้ที่จำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างยอดพธูทุกอย่างข้าวของหลายชิ้น อิริคเป็นคนจัดหาให้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่คุณปู่ขยันซื้อมารอหลานคนนี้มากมาย จนถึงอายุห้าขวบเข้าไปแล้ว“ผมช่วย” สิ่งที่ริโออาสาเข้ามาช่วยนั่นคือการล้างขวดนมของ ริชา ซึ่งหลังจากนี้เขาจะยึดมาเป็นหน้าที่ของตัวเอง“กลับมาเหนื่อยๆ ไม่พักก่อนเหรอคะ” ยอดพธูเอ่ยถาม เพราะ ริโอพึ่งเข้าบ้านมาได้ไม่นานเท่านั้นเอง แม้จะอาบน้ำอาบท่ากินข้าวเย็นแล้ว แต่เขาก็ควรไปพักผ่อน“นี่แหละวิธีพักของผม วันนี้ลูกเป็นไงบ้าง” เสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและห่วงใยดังขึ้นข้างๆ ยอดพธู โดยที่มือนั้นก็ยังขะมักเขม้นกับการล้างขวดนม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ริโอได้ทำ “งอแงเพราะท้องอืดนิดหน่อยค่ะ พอป้าวรรณเอามหาหิงค์ทาท้องให้ก็สบายตัวขึ้น พักนี้กินจุขึ้นด้วย ดูได้จากขวดนมที่ล้างแทบไม่ทัน” แค่ได้พ