การทำงานของบริษัทที่ถูกเปิดขึ้นมาบังหน้าธุรกิจสีเทาที่ถูกสืบทอดอำนาจมาโดยผู้เป็นพ่อที่มอบให้กับลูกชายของเขาได้ดูแล
ช่วงนี้ทุกอย่างดูชุลมุนไปหมดเพราะทั้งงานที่แทบจะแยกร่างกันไปทำแล้ว แถมยังมีเรื่องพยายามหนีคู่หมั้นของผมอีก แม่อยากให้ผมมีเจ้าสาวได้แล้วเพราะอายุผมก็ย่างเข้าเลข3แล้ว
"ท่านประธานคะ นี้เอกสารค่ะ เย็นนี้ท่านประธานมีนัดกับ....."
"ฉันไม่ว่าง มีนัดต่อ"พอเซ็นเอกสารจบผมก็กำลังที่จะลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อที่จะไปดูงานที่อื่นต่อ แต่ทว่าไอ้น้องชายตัวดีกลับเดินเข้ามาในห้องพอดีเลยทำให้ผมต้องนั่งนิ่งมองหน้ามัน
"คืนนี้ผมไม่กลับบ้านนะ ต้องทำรายงานหอเพื่อน"
"ก็ดี หมดธุระแล้วก็ออกไปซะ"
"อย่าพึ่งดิ ไม่อยากฟังเรื่องของไอ้เสี่ยชลันหน่อยหรอได้ข่าวมาว่า....ตอนนี้มันกำลังจะเอาตัวอดีตลูกสาวของท่านพิทักษ์กับคุณหญิงนฤมลไปขัดดอกเพื่อใช้หนี้ให้พวกมัน"จากที่ไม่สนใจก็ต้องหันมาสนใจกับคำพูดของไอ้สงกรานต์ที่พูดออกมา
พวกเรากับไอ้เสี่ยชลันเป็นศัตรูกันมาตั้งเนิ่นนานพอรู้ว่ามันกำลังจะนำตัวผู้หญิงไปขัดดอกชดใช้การใช้หนี้ยิ่งทำให้ผมสนใจมากไปใหญ่
"หมายความว่าไง"
"ก็พ่อกับแม่เลี้ยงของเด็กคนนั้นล้มละลายเลยติดหนี้ไอ้เสี่ยชลัน ทำให้มันคิดที่จะนำตัวนางเด็กนั้นไปให้ลูกชายมันขัดดอกไง เด็กมัธยมม.ปลายที่พึ่งจบมาใหม่ๆ แถมโปรไฟล์ยังดีมากซะอีก ผมว่า....ถ้าพี่ชิงตัวเธอมาเป็นของเราได้ ธุรกิจของเราอาจจะได้เงินเยอะกว่าที่คิด"ไม่คิดเลยว่ากับอีแค่เด็กลูกบ้านรวยแค่นั้นแถมตอนนี้ยังล้มละลายอีกต่างหากจะมีค่ามากงั้นหรอ ไม่รู้ว่าไอ้น้องชายตัวแสบไปได้ข้อมูลจากไหนมาแถมยังได้ข่าวมาก่อนผมอีก
"กับอีแค่เด็กคนเดียว......"
"หึ พี่ไม่รู้ซะแล้วว่านางเด็กนั้นหนะ มีค่ามากกว่าที่พี่คิด เมื่ออายุเธอครบ20ปีเมื่อไหร่ ทรัพย์สินเงินทอง บริษัทXMARK และเกาะลูซา ก็จะตกเป็นของนางเด็กนั้นทุกอย่าง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยไอ้เสี่ยนั่นก็คงตามสืบแบบที่ผมทำเลยอยากทำให้พวกมันจนมุมและตกไปเป็นของพวกมันได้อย่างไม่มีพิรุธยังไงล่ะ"สิ่งที่ไอ้สงกรานต์พูดมายิ่งทำให้ผมอยากเล่นกับเด็กน้อยคนนั้นซะละ แถมยังต้องมาแข่งแย่งชิงกันอีกยิ่งทำให้สนุกเข้าไปใหญ่
"หึ น่าสนุกว่ะ"
"ผมให้พี่ละกัน ผมไม่ชอบเด็ก อ่าข้อมูลนางเด็กนั้นผมหามาให้ละ"มันยื่นเอกสารข้อมูลของนางเด็กมาให้กับผมและเดินออกไปจากห้องทำงาน
เด็กน้อยน่าตาใสซื่อแถมยังน่ารักมากๆ อีกด้วย ผมอ่านเอกสารของเธอจนมาหยุดที่ชื่อและนามสกุลเก่าของยัยเด็กนั้นก่อนที่ภาพเก่าๆ จะลอยตามมา
'สวัสดีค่ะหนูชื่อไอริสนะคะ แล้วพี่ล่ะคะ'เด็กน้อยที่ยื่นไอติมมาให้ผมขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ
ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอบวกกับกิริยาและท่าทางที่น่ารักเอามากๆ ผมเหงยหน้าขึ้นไปมองและหยิบไอศกรีมที่เธอยื่นมาให้และกลับมาอ่านหนังสือต่อ
'พี่ชื่ออะไรคะ นั่นหนังสือหนูหนิพี่ชอบอ่านเหมือนกันหรอคะ เล่มนี้เล่มโปรดหนูเลยหนูให้พี่ค่ะถือซะว่าเป็นการต้อนรับแขกที่มาเที่ยวที่นี่"เด็กน้อยยิ้มแป้นและนั่งกินไอติมอยู่ข้างๆ ผม ผมพลิกหนังสือไปที่หน้าปกและมันเขียนชื่อติดไว้ เด็กหญิง ไอริส มรพิจิตรศักดิ์
'พี่จะอยู่ที่นี้นานไหมคะ'
'ไม่'
'แล้วพี่.....'
'สงครามลูก อ้าวหนูไออยู่นี้นี่เองแม่หนูตามหาหนะลูก'
'สวัสดีค่ะคุณป้าฤดี งั้นหนูไปหาแม่ก่อนนะคะขอตัวก่อนนะคะ'เด็กน้อยอายุราวๆ 5ขวบวิ่งแจ้นออกไปจากตรงนั้นทันที เธอเป็นลูกสาวของเจ้าของเกาะที่นี่ และแม่ผมก็เป็นเพื่อนสนิทของแม่เธอ ไอ้สงกรานต์และไอริสถูกเลี้ยงมาพร้อมกันที่ต่างจากผมที่ถูกย้ายไปเรียนต่อที่เมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ นี้เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน และเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเธอ พอหลังจากผมกลับไปได้ไม่นานนักพ่อกับแม่เธอก็ได้เสียชีวิตส่วนข่าวคราวของเธอก็หายไปตลอดกาล
ครอบครัวผมพยายามตามหาตัวเธอมาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเจอเลยสักครั้งจนแม่ยอมถอนใจจากการตามหาเด็กนั่นไปตั้งแต่2-3ปีก่อน
"สุดท้ายฉันก็เจอเธอสักที เด็กน้อย"ผมจ้องมองดูรูปของเธอและกดเข้าไปส่องโซเชียลของเด็กนั่น เธอดูสดใสเอามากๆ แถมยังติดเกมเป็นที่หนึ่ง
เด็กนั่นทั้งฉลาดและเก่งเอามากๆ แถมยังสอบติดคณะวิศวะที่เดียวกันกับไอ้สงกรานต์อีกต่างหาก ผมนั่งส่องโซเชียลของเธอมาได้สักพักก่อนที่จะมีข่าวของเด็กนั้นโผล่เข้ามา และมันเป็นคอมเมนต์เสียหายที่สุด ที่ด่า ว่าทอเธอสารพัด
เด็กสาวที่พึ่งจบม.ปลายและกำลังจะเริ่มเข้าสู่รั้วมหาลัยและมาจบลงเพราะการเห็นแก่ตัวของใครบางคน พอดูไปได้สักพักก็ให้ลูกน้องจัดการกับหนี้ของเธอและตามล่าหาตัวพ่อกับแม่เลี้ยงของเธอมาเพื่อฆ่าทิ้งซะให้สิ้นซาก
"นายครับ ผมจัดการให้นายแล้วนะครับ ตอนแรกมันไม่ยอมแต่พอเราขู่มันก็เลยยอมแพ้ไปแล้วครับ"
"ก็ดี เดี๋ยวกูจะไปผับไม่ต้องตามกูมา"ผมบอกกับมือขวาของผมก่อนที่จะเดินออกไปจากบริษัททันทีเพียงคนเดียว ที่ต้องรีบออกมาเพราะกลัวว่าคู่หมั้นที่แม่จับคู่ให้มาหาหาผมก่อนนัด
ผมมุ่งตรงไปที่ผับแต่ทว่าก็มีสายเรียกเข้าจากผู้เป็นแม่โทรเข้ามาตอนแรกผมก็กะจะไม่สนใจแต่แม่เลยโทรมาหลายสายติดจนต้องจอดรถและรับสายไป
"ครับ"
(ไอ้ลูกบ้า ทำไมไม่ยอมรับสายแม่ แกรู้ไหมว่าหนูชิลินเค้ารอแกมานานมากแล้วนะ)
"ผมมีงาน"
(งานอะไรของแก) ยังไม่ทันที่จะได้พูดต่อผมก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่หน้าตาคลับคล้ายครับคราไอริสเดินผ่านรถผมไปและหยุดเดินอยู่ที่สะพานด้วยสภาพร่างกายที่หมดเรี่ยวแรง
(นี้ฟังแม่ไหมเนี่ย)
"ตามหาลูกสะใภ้แม่ไงครับ แค่นี้ก่อนนะ"พูดจบผมก็ตัดสายแม่ทันทีและคอยสังเกตเด็กผู้หญิงคนนั้นผ่านในรถหรูของผม
พอเธอยืนเกาะราวสะพานได้ไม่นานก็เหมือนกับว่ายัยเด็กนั่นคิดจะฆ่าตัวตายและใช่เธอกำลังจะกระโดดสะพานงั้นหรอ ผมรีบวิ่งเข้าไปทางเธอและหยุดเดินไปหาเธออย่างช้าๆ
"คิดจะทำอะไรโง่ๆ ของเธอ!!"ยัยเด็กนั่นมองผมนิ่งและพอจ้องไปดีๆ ก็ใช่ เธอคือไอริสจริงๆ ด้วย เธอเปลี่ยนไปมากๆ เลยจริงๆ
"....."
"คิดจะฆ่าตัวตาย?? โง่"
"นี้พี่ว่าใคร!"
"ฉันยืนคุยกับใครอยู่ล่ะ"ผมพูดแค่นั้นก่อนที่นางเด็กนั่นจะพยายามง้างขาเพื่อข้ามสะพานนั่นไป ผมจึงรีบดึงตัวลงมาจนกองกับพื้น ก่อนที่จะใช้ปืนจ่อเข้าไปที่หน้าของเธอ
ฟุ๊บ
"อ๊ะ พะ พี่ทำบ้าอะไร"
"อยากตายไม่ใช่รึไง หึ เด็กจากโรงเรียนชื่อดังกระโดดนํ้าฆ่าตัวตาย อยากให้เป็นข่าวแบบนี้งั้นหรอ"
"พี่ไม่ต้องยุ่ง"ผมหัวเราะออกมาในลำคอเมื่อเด็กน้อยปีกกล้าขาแข็งได้มากกว่าที่คิด เธอเหมือนจะปากร้ายอยู่ใช่ย่อยต่างจากหน้าตาที่น่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้
"ฉันจะไม่ถามเหตุผลโง่ๆ ของเธอหรอกนะว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะคงได้คำตอบที่ดูโง่มาก"
"นี้พี่มายุ่งอะไรด้วย ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉะ...."ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบผมก็จับแขนของเธอไว้อย่างแน่นเมื่อเด็กน้อยเริ่มก้าวร้าวและชี้หน้าผม ซึ่งไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผมมาก่อนเลย
"อย่ามาขึ้นเสียงกับฉัน"
"ปล่อย!! ฮึ้ก"ผมค่อยๆ ปล่อยมือออกจากเด็กนั้นไปและยืนมองเธออย่างนานเมื่อเด็กน้อยเริ่มร้องไห้ออกมาต่อหน้าผม
"ขนาดจะตายยังตายไม่ได้เลย ฮึ้ก ทำไมชีวิตฉันมันเป็นแบบนี้กันล่ะ"
"หึ เธออยากตายมากงั้นหรอ ฉันยิงเธอแค่เม็ดเดียวเธอก็ตายได้ละ ลองดูไหมล่ะ"
ปั้ง
ที่ผมเลือกจะทำแบบนี้เพราะผมไม่ชอบสิ่งที่เธอคิดเอามากๆ เรื่องแค่นี้เธอจะต้องมาฆ่าตัวตายและไม่คิดสู้ชีวิตงั้นหรอ
"อย่านะ กรี๊ดดดด"ผมหันปืนไปทางอื่นแต่เฉียดแขนของเธอไปนิดหน่อย เธอคงกลัวมากจนเด็กนั้นกลัวและสลบลงไปกับพื้น ผมจึงอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวและพาเธอขึ้นรถกลับบ้านซะ
เช้าวันต่อมาเมื่อลืมตาตื่นขึ้นในสายของอีกวันฉันยังคงนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนด้วยใบหน้าและอารมณ์ที่ไม่ดีมากนักคนข้างกายเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นแล้วนั้นก็ค่อยๆ เข้ามาสวมกอดและรัดฉันมากขึ้นพร้อมกับหอมแก้มฉันทันทีอย่างนุ่มนวล แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักและพยายามจะดีดตัวออกมาจากเขาให้ได้มากที่สุด"พี่ขอโทษ พี่รู้ว่าพี่ทำกับเราไม่ดี เฌอให้อภัยพี่ได้ไหมคะ"ฉันยังคงเงียบและขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสรรพนามและคำพูดของเขาดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้"พี่ป่วยรึไง""พี่อยากจะเป็นคนสำคัญในชีวิตเฌอบ้าง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้......เฌอก็มีแต่พี่ที่อยู่ในชีวิตเฌอคนเดียว""พี่อย่าทำให้เฌอรู้สึกสำคัญตัวเองผิดไปเลยค่ะ เฌอเป็นแค่......ทาสบนเตียงของพี่เพียงเท่านั้น"ฉันพูดจบก็รีบลุกลงไปจากเตียงและสวมใส่เสื้อผ้าทันทีแต่ก็โดนพี่สงครามดึงตัวเข้าไปสวมกอดไว้อย่างแน่น"ยัยเด็กโง่เอ้ยย!!! ถ้าฉันเห็นเธอเป็นแค่ทาสบนเตียงฉันคงไม่ทำอะไรขนาดนี้หรอก!! ฉัน ....ฉันชอบเธอน่ะยัยเด็กโง่""ฮึ้ก ฮึ้ก"ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงได้ร้องไห้แบบนี้ แต่ความรู้สึกของฉันมันสับสนและอธิบายไม่ถูกเลยกับเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น เขาบอกชอบฉันงั้นหรอ
พอกลับมาถึงที่คอนโดฉันก็ชะงักเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูรถมาและพบกับรถของพี่สงครามที่จอดอยู่ ก่อนที่พี่สงกรานต์จะเดินเข้ามาจับมือฉันไว้และเดินพาฉันเข้าไปในตึกทันทีไม่รู้ว่าจะใช่เขาใช่ไหมแต่ฉันไม่อยากเจอพี่สงครามมากๆ เลยจริงๆ เพราะยังรู้สึกกลัวและน้อยใจที่พี่เขาทำแบบนั้นกับฉันอยู่ รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงแต่ทำไมฉันกลับยิ่งชอบเขามากขึ้นแกร๊กพอเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอเข้ากับพี่สงครามที่นั่งนิ่งมองไปทางโทรทัศน์ที่กำลังฉายหนังอยู่ พอเข้าไปถึงพวกเราก็ไหว้พี่เขาตามมารยาทแต่เหมือนกับว่าพี่สองครามจะนิ่งเฉยมากกว่าเดิมอีก"กูมีเรื่องจะคุยด้วย ส่วนตัว!!"พี่สงครามเน้นคำว่าส่วนตัวเป็นอย่างมากและหันมาจ้องมองฉันนิ่ง แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจและหันไปพูดกับพี่สงกรานต์แทน"เฌอไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัวจะแย่""ได้เลยค่ะ"ฉันเดินผ่านพวกพี่เขาและมุ่งตรงเข้าไปในห้องทันทีอย่างไม่ได้สนใจพี่เขาเลยด้วยซํ้า"พี่มีอะไรก็ว่ามาเถอะ""กูได้ข่าวว่าไอ้ชลันไปเจอน้องมา"ใช่ครับ ที่ผมรู้เพราะที่ผ่านมาผมให้คนคอยตามเฌอเอมอยู่ตลอดเวลาเพราะความปลอดภัยของน้องนั่นเองจนมารู้ว่าน้องถูกไอ้เสี่ยนั่นไล่ตามหาซึ่งเท่าที่ผมรู้มาพวกมันอยากไ
"มึงพูดเหี้ยไรวะ แค่เธอเอาของที่เบลให้แตกมึงต้องเป็นขนาดนี้เลยงั้นหรอ มึงจะเอาไงกันแน่ถ้ามึงไม่ได้รักเฌอจริงปล่อยมาให้กู กูจะดูแลเองแล้วมึงจะรู้ว่าเฌอแม่งมีค่ากว่าผู้หญิงที่ตายจากมึงไปหลายเท่า"พี่สงกรานต์พูดจบก็ลากพาฉันออกไปทันทีโดยมีเสียงโครมครามที่ดังตามมาติดๆโคร้มมม"โว้ยยยย จะไปไหนก็ไป!! ผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอฉันไม่ต้องการเลยสักนิด"ฉันหยุดยืนนิ่งสักพักก่อนที่จะเหงยหน้าไปมองพี่สงกรานต์ที่ยืนยิ้มให้กับฉันและพาฉันให้ออกมาจากบ้านหลังนี้ทันทีตลอดทั้งทางฉันเอาแต่เงียบนิ่งไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยสักนิดก่อนที่จะมาโผล่ที่คอนโดหรูที่หนึ่งซึ่งเป็นห้องของพี่เขานั้นเองระหว่างทางพี่สงกรานต์สั่งให้คนไปเก็บของของฉันมาให้เรียบร้อยเพื่อย้ายมาอยู่ที่นี่สักพัก ตอนแรกฉันก็ค้านที่จะอยู่เพราะเกรงใจพี่เขามากพี่สงกรานต์เลยให้ฉันทำความสะอาดห้องและทำอาหารให้เขาเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนแทน และฉันก็ตกลงคอนโดที่นี่เป็นคอนโดหรูสูงมีสองห้องนอนและกว้างเอามากๆ พอมาถึงที่ห้องฉันก็เดินเข้าไปในห้องนอนและพักผ่อนซะก่อนที่จะมีคนเอาของมาให้"อยู่กับพี่นะ พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกเฌอ""ขอบคุณนะคะพี่สงกรานต์"พอพูดจบเขาก็เดินออกไป
"อย่าเลยดีกว่าครับ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว"ไม่รู้เลยว่าจะยอมทนเห็นคนตรงหน้าทะเลาะกันได้นานแค่ไหนแต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่คิดที่จะยอมหยุดการทะเลาะกันแบบนี้เลยด้วยซํ้า"ถ้าพวกพี่ไม่หยุด เฌอจะไม่ยอมคุยกับพวกพี่จริงๆ ด้วย!!"และนั่นแหละไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะยอมหยุดให้กับฉันงั้นหรอ แต่ฉันก็ยังคงยืนกอดอกทำหน้ามุ่ยไม่พอใจมากนักที่ทั้งสองเป็นแบบนี้เพราะฉันเอง"เก่งใช่ย่อย""หุบปาก!!"ฉันจ้องมองไปทางต้นเสียงที่เอ่ยดุลูกน้องก่อนที่จะลากพาทั้งสองคนไปทำแผลที่ด้านล่าง ฉันนั่งมองพวกเขานิ่งไปที่กอดอกมองหน้าฉันที่นั่งอยู่อีกทางหนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา"พวกพี่เป็นบ้ากันไปแล้วรึไง พวกพี่จะมาทะเลาะกันเพราะเฌอหรอคะ พวกพี่เป็นพี่น้องกันนะเฌอขอล่ะค่ะให้เรื่องนี้มันเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะคะ เฌอไม่สบายใจเลยที่พวกพี่จะมาทะเลาะกันแบบนี้"ใครจะไปสบายใจได้ในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดมาจากตัวฉันเอง"โอเครค่ะ พี่จะทำตามที่เราบอกนะตัวเล็ก""แล้วพี่ล่ะคะ""ไม่มีใครกล้าออกคำสั่งกับฉัน""งั้นเราก็ไม่มีอะไรที่จะต้องมาคุยกันแล้วค่ะ"พูดจบฉันก็เตรียมตัวที่จะลุกขึ้นเพื่อเดินหนีแต่ก็ถูกพี่สงครามจับข้อแขนไว้และจับตัวฉั
พอพวกพี่เขาตะโกนพูดนู้นนี้นั้นเสร็จก็สั่งให้ปีหนึ่งและปีสองทำโทษด้วยการลุกนั่ง ซึ่งขาที่พึ่งเกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ และฉันไม่อยากมีปัญหามากจึงพยายามข่มตัวเองให้ทำโทษถึงแม้เพื่อนๆ จะห้ามแล้วก็ตามแต่เหมือนยิ่งฝืนฉันยิ่งเจ็บขึ้นหลายเท่าตัวและล้มลงไปกับพื้นเพราะความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา และเผลอหันไปมองที่ข้อขาของตัวเองที่บวมเป่ง"4 5 //อ๊ะ""เฌอ พอเหอะ"กายรีบถอดรองเท้าของฉันออกมาดูและนั่นแหละเลยรับรู้ได้ว่าข้อเท้าของฉันบวมมากแค่ไหนแถมยังมีรอยชกชํ้าอีกด้วย"ตรงนั้นเป็นอะไรกันครับ!!""เพื่อนบาดเจ็บครับ"รุ่นพี่ที่เป็นฝ่ายพยาบาลเดินเข้ามาดูอาการฉันและเดินพาไปนั่งข้างๆ แถวโดยมีพี่สงกรานต์และเพื่อนที่เดินมาดูและเพื่อนๆ ที่ยังคงโดนทำโทษต่อ"น้องเป็นอะไรมากไหม""น้องเท้าบวมมากเลยค่ะพี่สงกรานต์"ไม่ว่าเปล่าจู่ๆ พี่เขาก็อุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาวและเดินพาฉันไปที่รถทันที โดยมีสายตาของพวกพี่ๆ และกลุ่มเพื่อนที่มองมาแต่ยังคงโดนทำโทษอยู่@โรงพยาบาลAหลังจากที่หมอเช็คและตรวจอะไรเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วนั้นจู่ๆ พี่สงครามก็เดินเข้ามาและยืนกอดอกมองหน้าฉันนิ่งก่อนที่จะเลื่อนสายตามองไปที่ข้อเท้าพร้อมกับเสียงถอนหายใจ"
ทุกอย่างดำเนินการไปเหมือนกับทุกๆ วันซึ่งมันเป็นเรื่องที่โคตรน่าเบื่อที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะการใช้ชีวิตอยู่ของฉันมันกลับไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นเลยฉันต้องอยู่กับคนแปลกหน้าร่วมเกือบปีแถมพ่อกับแม่บุญธรรมก็หายหน้าหายตาไปตั้งนานและยังหาตัวไม่ได้เลยด้วยซํ้า ฉันได้แต่ภาวนาให้เจอพวกเขาเร็วๆ เพราะฉันอยากรู้ความจริงว่าพวกเขาทำแบบนี้ทำไมกันทั้งๆ ที่ปากบอกว่ารักฉันเหมือนลูก"น้องรหัส มายืนทำอะไรตรงนี้ไม่เรียนหรอ""หนู.....รอคนเอางานมาให้อ่ะค่ะ หนูลืมเอามา""เรานี่หนายัยขี้ลืม"พี่รหัสปี2ขยี้หัวฉันอย่างน่าเอ็นดูเหมือนปกติ ฉันได้พี่เจเดนเป็นพี่รหัสซึ่งมีพี่เทคเป็นพี่สงกรานต์อีกด้วย การจับสายรหัสเฉลยเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ตอนแรกกะจะไม่เข้าแต่ถูกบังคับจึงจำใจต้องเข้าซะ"ให้พี่รอเป็นเพื่อนรึเปล่า""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยว....พ่อหนูก็เอางานมาให้แล้ว""งั้นพี่ไปก่อนนะน้องรหัส"พูดจบฉันและพี่เขาก็โบกมือรํ่าลากันและยืนรอพี่สงครามที่หน้าคณะต่อโดยสายตาก้มมองที่จอมือถืออยู่ตลอดเวลาแต่ระหว่างนั้นเองก็ได้มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาจับรั้งข้อแขนฉันไว้อย่างแน่นจนฉันนิ่วหน้าและแทบจะนํ้าตาเล็ดเลยด้วยซํ้า"อ๊ะ พี่ครามเฌอเจ็บ"