การทำงานของบริษัทที่ถูกเปิดขึ้นมาบังหน้าธุรกิจสีเทาที่ถูกสืบทอดอำนาจมาโดยผู้เป็นพ่อที่มอบให้กับลูกชายของเขาได้ดูแล
ช่วงนี้ทุกอย่างดูชุลมุนไปหมดเพราะทั้งงานที่แทบจะแยกร่างกันไปทำแล้ว แถมยังมีเรื่องพยายามหนีคู่หมั้นของผมอีก แม่อยากให้ผมมีเจ้าสาวได้แล้วเพราะอายุผมก็ย่างเข้าเลข3แล้ว
"ท่านประธานคะ นี้เอกสารค่ะ เย็นนี้ท่านประธานมีนัดกับ....."
"ฉันไม่ว่าง มีนัดต่อ"พอเซ็นเอกสารจบผมก็กำลังที่จะลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อที่จะไปดูงานที่อื่นต่อ แต่ทว่าไอ้น้องชายตัวดีกลับเดินเข้ามาในห้องพอดีเลยทำให้ผมต้องนั่งนิ่งมองหน้ามัน
"คืนนี้ผมไม่กลับบ้านนะ ต้องทำรายงานหอเพื่อน"
"ก็ดี หมดธุระแล้วก็ออกไปซะ"
"อย่าพึ่งดิ ไม่อยากฟังเรื่องของไอ้เสี่ยชลันหน่อยหรอได้ข่าวมาว่า....ตอนนี้มันกำลังจะเอาตัวอดีตลูกสาวของท่านพิทักษ์กับคุณหญิงนฤมลไปขัดดอกเพื่อใช้หนี้ให้พวกมัน"จากที่ไม่สนใจก็ต้องหันมาสนใจกับคำพูดของไอ้สงกรานต์ที่พูดออกมา
พวกเรากับไอ้เสี่ยชลันเป็นศัตรูกันมาตั้งเนิ่นนานพอรู้ว่ามันกำลังจะนำตัวผู้หญิงไปขัดดอกชดใช้การใช้หนี้ยิ่งทำให้ผมสนใจมากไปใหญ่
"หมายความว่าไง"
"ก็พ่อกับแม่เลี้ยงของเด็กคนนั้นล้มละลายเลยติดหนี้ไอ้เสี่ยชลัน ทำให้มันคิดที่จะนำตัวนางเด็กนั้นไปให้ลูกชายมันขัดดอกไง เด็กมัธยมม.ปลายที่พึ่งจบมาใหม่ๆ แถมโปรไฟล์ยังดีมากซะอีก ผมว่า....ถ้าพี่ชิงตัวเธอมาเป็นของเราได้ ธุรกิจของเราอาจจะได้เงินเยอะกว่าที่คิด"ไม่คิดเลยว่ากับอีแค่เด็กลูกบ้านรวยแค่นั้นแถมตอนนี้ยังล้มละลายอีกต่างหากจะมีค่ามากงั้นหรอ ไม่รู้ว่าไอ้น้องชายตัวแสบไปได้ข้อมูลจากไหนมาแถมยังได้ข่าวมาก่อนผมอีก
"กับอีแค่เด็กคนเดียว......"
"หึ พี่ไม่รู้ซะแล้วว่านางเด็กนั้นหนะ มีค่ามากกว่าที่พี่คิด เมื่ออายุเธอครบ20ปีเมื่อไหร่ ทรัพย์สินเงินทอง บริษัทXMARK และเกาะลูซา ก็จะตกเป็นของนางเด็กนั้นทุกอย่าง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยไอ้เสี่ยนั่นก็คงตามสืบแบบที่ผมทำเลยอยากทำให้พวกมันจนมุมและตกไปเป็นของพวกมันได้อย่างไม่มีพิรุธยังไงล่ะ"สิ่งที่ไอ้สงกรานต์พูดมายิ่งทำให้ผมอยากเล่นกับเด็กน้อยคนนั้นซะละ แถมยังต้องมาแข่งแย่งชิงกันอีกยิ่งทำให้สนุกเข้าไปใหญ่
"หึ น่าสนุกว่ะ"
"ผมให้พี่ละกัน ผมไม่ชอบเด็ก อ่าข้อมูลนางเด็กนั้นผมหามาให้ละ"มันยื่นเอกสารข้อมูลของนางเด็กมาให้กับผมและเดินออกไปจากห้องทำงาน
เด็กน้อยน่าตาใสซื่อแถมยังน่ารักมากๆ อีกด้วย ผมอ่านเอกสารของเธอจนมาหยุดที่ชื่อและนามสกุลเก่าของยัยเด็กนั้นก่อนที่ภาพเก่าๆ จะลอยตามมา
'สวัสดีค่ะหนูชื่อไอริสนะคะ แล้วพี่ล่ะคะ'เด็กน้อยที่ยื่นไอติมมาให้ผมขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ
ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอบวกกับกิริยาและท่าทางที่น่ารักเอามากๆ ผมเหงยหน้าขึ้นไปมองและหยิบไอศกรีมที่เธอยื่นมาให้และกลับมาอ่านหนังสือต่อ
'พี่ชื่ออะไรคะ นั่นหนังสือหนูหนิพี่ชอบอ่านเหมือนกันหรอคะ เล่มนี้เล่มโปรดหนูเลยหนูให้พี่ค่ะถือซะว่าเป็นการต้อนรับแขกที่มาเที่ยวที่นี่"เด็กน้อยยิ้มแป้นและนั่งกินไอติมอยู่ข้างๆ ผม ผมพลิกหนังสือไปที่หน้าปกและมันเขียนชื่อติดไว้ เด็กหญิง ไอริส มรพิจิตรศักดิ์
'พี่จะอยู่ที่นี้นานไหมคะ'
'ไม่'
'แล้วพี่.....'
'สงครามลูก อ้าวหนูไออยู่นี้นี่เองแม่หนูตามหาหนะลูก'
'สวัสดีค่ะคุณป้าฤดี งั้นหนูไปหาแม่ก่อนนะคะขอตัวก่อนนะคะ'เด็กน้อยอายุราวๆ 5ขวบวิ่งแจ้นออกไปจากตรงนั้นทันที เธอเป็นลูกสาวของเจ้าของเกาะที่นี่ และแม่ผมก็เป็นเพื่อนสนิทของแม่เธอ ไอ้สงกรานต์และไอริสถูกเลี้ยงมาพร้อมกันที่ต่างจากผมที่ถูกย้ายไปเรียนต่อที่เมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ นี้เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน และเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเธอ พอหลังจากผมกลับไปได้ไม่นานนักพ่อกับแม่เธอก็ได้เสียชีวิตส่วนข่าวคราวของเธอก็หายไปตลอดกาล
ครอบครัวผมพยายามตามหาตัวเธอมาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเจอเลยสักครั้งจนแม่ยอมถอนใจจากการตามหาเด็กนั่นไปตั้งแต่2-3ปีก่อน
"สุดท้ายฉันก็เจอเธอสักที เด็กน้อย"ผมจ้องมองดูรูปของเธอและกดเข้าไปส่องโซเชียลของเด็กนั่น เธอดูสดใสเอามากๆ แถมยังติดเกมเป็นที่หนึ่ง
เด็กนั่นทั้งฉลาดและเก่งเอามากๆ แถมยังสอบติดคณะวิศวะที่เดียวกันกับไอ้สงกรานต์อีกต่างหาก ผมนั่งส่องโซเชียลของเธอมาได้สักพักก่อนที่จะมีข่าวของเด็กนั้นโผล่เข้ามา และมันเป็นคอมเมนต์เสียหายที่สุด ที่ด่า ว่าทอเธอสารพัด
เด็กสาวที่พึ่งจบม.ปลายและกำลังจะเริ่มเข้าสู่รั้วมหาลัยและมาจบลงเพราะการเห็นแก่ตัวของใครบางคน พอดูไปได้สักพักก็ให้ลูกน้องจัดการกับหนี้ของเธอและตามล่าหาตัวพ่อกับแม่เลี้ยงของเธอมาเพื่อฆ่าทิ้งซะให้สิ้นซาก
"นายครับ ผมจัดการให้นายแล้วนะครับ ตอนแรกมันไม่ยอมแต่พอเราขู่มันก็เลยยอมแพ้ไปแล้วครับ"
"ก็ดี เดี๋ยวกูจะไปผับไม่ต้องตามกูมา"ผมบอกกับมือขวาของผมก่อนที่จะเดินออกไปจากบริษัททันทีเพียงคนเดียว ที่ต้องรีบออกมาเพราะกลัวว่าคู่หมั้นที่แม่จับคู่ให้มาหาหาผมก่อนนัด
ผมมุ่งตรงไปที่ผับแต่ทว่าก็มีสายเรียกเข้าจากผู้เป็นแม่โทรเข้ามาตอนแรกผมก็กะจะไม่สนใจแต่แม่เลยโทรมาหลายสายติดจนต้องจอดรถและรับสายไป
"ครับ"
(ไอ้ลูกบ้า ทำไมไม่ยอมรับสายแม่ แกรู้ไหมว่าหนูชิลินเค้ารอแกมานานมากแล้วนะ)
"ผมมีงาน"
(งานอะไรของแก) ยังไม่ทันที่จะได้พูดต่อผมก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่หน้าตาคลับคล้ายครับคราไอริสเดินผ่านรถผมไปและหยุดเดินอยู่ที่สะพานด้วยสภาพร่างกายที่หมดเรี่ยวแรง
(นี้ฟังแม่ไหมเนี่ย)
"ตามหาลูกสะใภ้แม่ไงครับ แค่นี้ก่อนนะ"พูดจบผมก็ตัดสายแม่ทันทีและคอยสังเกตเด็กผู้หญิงคนนั้นผ่านในรถหรูของผม
พอเธอยืนเกาะราวสะพานได้ไม่นานก็เหมือนกับว่ายัยเด็กนั่นคิดจะฆ่าตัวตายและใช่เธอกำลังจะกระโดดสะพานงั้นหรอ ผมรีบวิ่งเข้าไปทางเธอและหยุดเดินไปหาเธออย่างช้าๆ
"คิดจะทำอะไรโง่ๆ ของเธอ!!"ยัยเด็กนั่นมองผมนิ่งและพอจ้องไปดีๆ ก็ใช่ เธอคือไอริสจริงๆ ด้วย เธอเปลี่ยนไปมากๆ เลยจริงๆ
"....."
"คิดจะฆ่าตัวตาย?? โง่"
"นี้พี่ว่าใคร!"
"ฉันยืนคุยกับใครอยู่ล่ะ"ผมพูดแค่นั้นก่อนที่นางเด็กนั่นจะพยายามง้างขาเพื่อข้ามสะพานนั่นไป ผมจึงรีบดึงตัวลงมาจนกองกับพื้น ก่อนที่จะใช้ปืนจ่อเข้าไปที่หน้าของเธอ
ฟุ๊บ
"อ๊ะ พะ พี่ทำบ้าอะไร"
"อยากตายไม่ใช่รึไง หึ เด็กจากโรงเรียนชื่อดังกระโดดนํ้าฆ่าตัวตาย อยากให้เป็นข่าวแบบนี้งั้นหรอ"
"พี่ไม่ต้องยุ่ง"ผมหัวเราะออกมาในลำคอเมื่อเด็กน้อยปีกกล้าขาแข็งได้มากกว่าที่คิด เธอเหมือนจะปากร้ายอยู่ใช่ย่อยต่างจากหน้าตาที่น่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้
"ฉันจะไม่ถามเหตุผลโง่ๆ ของเธอหรอกนะว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะคงได้คำตอบที่ดูโง่มาก"
"นี้พี่มายุ่งอะไรด้วย ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉะ...."ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบผมก็จับแขนของเธอไว้อย่างแน่นเมื่อเด็กน้อยเริ่มก้าวร้าวและชี้หน้าผม ซึ่งไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผมมาก่อนเลย
"อย่ามาขึ้นเสียงกับฉัน"
"ปล่อย!! ฮึ้ก"ผมค่อยๆ ปล่อยมือออกจากเด็กนั้นไปและยืนมองเธออย่างนานเมื่อเด็กน้อยเริ่มร้องไห้ออกมาต่อหน้าผม
"ขนาดจะตายยังตายไม่ได้เลย ฮึ้ก ทำไมชีวิตฉันมันเป็นแบบนี้กันล่ะ"
"หึ เธออยากตายมากงั้นหรอ ฉันยิงเธอแค่เม็ดเดียวเธอก็ตายได้ละ ลองดูไหมล่ะ"
ปั้ง
ที่ผมเลือกจะทำแบบนี้เพราะผมไม่ชอบสิ่งที่เธอคิดเอามากๆ เรื่องแค่นี้เธอจะต้องมาฆ่าตัวตายและไม่คิดสู้ชีวิตงั้นหรอ
"อย่านะ กรี๊ดดดด"ผมหันปืนไปทางอื่นแต่เฉียดแขนของเธอไปนิดหน่อย เธอคงกลัวมากจนเด็กนั้นกลัวและสลบลงไปกับพื้น ผมจึงอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวและพาเธอขึ้นรถกลับบ้านซะ
"แม่ครับ ยุเหงาจังเลยครับแม่มาเล่นกับยุหน่อย""ได้สิลูก"ฉันปิดเอกสารลงและเดินลงไปเล่นนํ้ากับลูกแทน ซึ่งอีกไม่นานลูกก็จะได้ไปเรียนแล้วและฉันก็คงอยู่เหงาๆ คนเดียวแน่นอน"ฟิ้วว สนุกจังครับ""สาดนํ้าใส่แม่หรอ หื้มมตัวแสบ"ฉันทำเป็นว่ายนํ้าเข้าไปหาลูกชายที่อยู่ในห่วงยางและกำลังจะว่ายหนีด้วยเช่นกัน"ว่ายนํ้าเร็วจริงๆ ตัวแสบ""ตามให้ทันสิครับ ฮ่าๆ"ตู้มมมมเสียงกระโดดลงนํ้าของใครคนหนึ่งกระโดดลงมาร่วมเล่นกับพวกเราด้วยเช่นกัน"พ่อมาแล้ว ฮ่าๆๆ เล่นนํ้าๆ""มาแข่งว่ายนํ้ากัน"พวกเราทั้งสามต่างพากันสนุกกันในเรื่องราวความฝันของฉันที่ถูกสร้างขึ้นโดยห้วงแห่งนิทราพอฉันตื่นขึ้นหัวใจตอนนี้ก็สั่นเป็นอย่างมาก
"พอเหอะ ไอว่ายูเลิกเล่นละครเหอะสงครามไม่งั้นยูจะได้เสียอะไรไปมากกว่านี้แน่"ผู้หญิงคนนั้นบอกออกมาพร้อมกับพยายามผลักพี่สงครามให้ออกห่างออกมาให้ได้มากที่สุด"หมายความว่ายังไง""คือ.....""ไอกับสงครามไม่ได้เป็นอะไรกันหรอก สงครามแค่เล่นละครหลอกเธอเพื่อลองใจเท่านั้น"พอได้ยินสิ่งที่เธอพูดออกมาแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บไปมากขึ้น เขาหลอกฉันอีกแล้วงั้นหรอ ผู้ชายคนนี้ตั้งใจจะหลอกฉันงั้นหรอ"ลองใจงั้นหรอ สนุกมากปะ!!!""เฌอเอมพี่....""พี่ต้องการอะไรงั้นหรอ ตั้งแต่พี่กลับเข้ามาในชีวิตเฌอพี่ทำเฌอร้องไห้และเจ็บปวดไม่เว้นวัน พี่สนุกมากงั้นหรอวะ!!!"ฉันร้องโวยวายและผลักไหล่ของเขาออกพร้อมกับจับคอเสื้อของเขาไว้แน่น ร่างกายที่อ่อนตัวลงฉันร้องไห้และฟุบหน้าลงกลางอกของเขาอย่างหมดแรงแล้วจริงๆ"พี่ขอโทษ พี่อธิบายได้นะเฌ
และหลังจากวันนั้นพี่สงครามก็เริ่มแยกตัวห่างจากฉันตอนนอนถ้าลูกจะนอนกับฉันก็มานอนที่ห้องฉัน แต่ถ้าลูกอยากนอนกับพ่อเขาก็ไปนอนที่ห้องลูกเราสองคนไม่มีแม้แต่บทสนทนาที่ดีต่อกันเลยสักนิดจนฉันเริ่มรู้สึกถึงความห่างเหิน แต่มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอแต่ทำไมฉันกลับเสียใจอยู่แบบนี้กันล่ะ"แม่ครับ แม่มาเล่นทรายกับยุสิครับ ยุเหงามากๆ เลยครับ""ได้ครับ ทำอะไรอยู่เอ่ย""เซอไพรส์//เซอไพรส์"เสียงคนกลุ่มหนึ่งเดินมาจากทางด้านหลังฉันและนั้นคือพวกเพื่อนๆ ฉันนั้นเอง ฉันรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเพื่อนทันทีเพราะพวกเราไม่ได้เจอกันนานมากพอสมควร"คิดถึงพวกแกจัง""คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงตัวเล็กด้วยหล่อขึ้นนะเรา""สวัสดีครับ"ลูกชายยกมือไหว้เพื่อฉันอย่างมีมารยาทก่อนที่พวกเราจะพากันเล่นนู้นเล่นนี้ด้วยกันอย่าสนุกสนาน
สายวันต่อมาฉันแทบจะไม่มีแรงเลยด้วยซํ้าเพราะดูเหมือนว่าจะติดไข้จากอีกคนมาจนได้ พอฉันตื่นขึ้นมาก็รีบลงไปหาลูกทันทีที่ตอนนี้มีเสียงหัวเราะคิกคักกันอยู่ด้านล่างพี่สงครามที่แต่งตัวด้วยชุดธรรมดาเสื้อยืดสีขาวและกางเกงวอร์มขายาวสีดำโดยที่ผมไม่ได้ถูกเซ็ท มันชั่งทำเอาใจฉันสั่นแทบจะหยุดไม่อยู่"พายุรักคุณพ่อนะครับ""พ่อก็รักลูกครับ""พ่อครับ ยุอยากได้น้องเพื่อนยุมาอวดยุว่ามีน้องแล้วครับ"ฉันยืนมองทั้งสองที่กำลังคุยกันอยู่ก่อนที่สองพ่อลูกจะหันหน้ามามองฉัน เด็กน้อยรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันทันทีและทำสีหน้ามึนงงอีกด้วย"ทำไมคุณแม่ตัวร้อนครับ คุณพ่อหายแล้ว""สงสัยแม่เค้าติดพ่ออ่ะลูก เฌอขึ้นไปอาบน้ำเหอะเดี๋ยวพี่พาออกไปเที่ยว""วันนี้เฌอไม่ว่างมีธุระ"พอพูดจบฉันก็หันหลังเดินขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวทันที วันนี้กะว่าจะเข้าไป
"แม่ครับ พ่อกลับมารึยังครับ""ยังเลยลูก"เด็กน้อยเอ่ยถามหาผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้ก็คํ่ามากแล้วแต่ก็ยังไม่กลับมาถึงบ้าน ในใจของฉันก็เป็นห่วงเขาอยู่ตลอดเวลากลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไปรึเปล่าแต่การกระทำของฉันมันกลับทำเป็นไม่สนใจอะไรเขาเลยสักนิด"แม่ไม่ห่วงคุณพ่อหรอครับ แม่โทรหาพ่อหน่อย""วันนี้พ่อเขาอาจจะไม่กลับมาก็ได้ อย่าลืมสิว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันนะพายุ"พอฉันพูดออกไปแบบนั้นลูกชายตัวน้อยก็หงอยลงไปก่อนที่จะมีเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นและพบกับคนตัวสูงที่ดูใบหน้าออกซีดๆ ด้วยแกร๊ก"พ่อครับ พายุคิดถึงพ่อที่สุดเลยครับ""พ่อก็คิดถึงยุกับแม่ที่สุดเลย พ่อซื้อข้าวมาด้วยนะ"พอพูดจบพี่สงครามก็เดินนำถุงอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะอาหารและเดินไปนั่งเล่นกับลูกของเขาที่โซฟาแทน"ทำไมพ่อตัวร้อนจังครับ"
เช้าวันต่อมาหลังจากเมื่อคืนที่กินข้าวเสร็จฉันก็เข้านอนทันทีพร้อมกับคนตัวสูง เราไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยสักนิดเพราะฉันเอาที่เอาแต่เงียบและนิ่งกับเขามากจนเกินไป ความสัมพันธ์ของเราฉันยังไม่แน่ใจเลยด้วยซํ้าว่ามันจะไปได้ไกลกันมากแค่ไหน หรือมันจะต้องถึงจุดแตกหักกันอีกครั้ง"กลับไปแล้วงั้นหรอ"ตื่นเช้ามาข้างเตียงของฉันที่ดูโล่งๆ พอเดินไปดูที่ห้องนํ้าก็ไม่เจอใครเลยด้วยซํ้า ฉันไม่ได้คิดอะไรและคิดว่าเขาคงจะกลับบ้านของเขาไปแล้วจึงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวและจะพาลูกกลับมาที่บ้านแต่พอเดินลงบันไดมาได้เพียงไม่กี่ก้าวฉันก็ต้องหยุดและแอบยืนฟังเสียงคนคุยกันและนั่นคือเสียงของพี่สงครามและลูกชายของเขานั่นเอง"พายุไม่มีพ่อครับ แม่บอกว่าพ่อของพายุตายไปแล้วครับ""พ่ออยู่นี่ไงลูก พ่อเป็นพ่อของพายุนะ"เขาพูดออกมาด้วยความเสียใจที่ลูกชายไม่ยอมรับว่าเขาเป็นพ่อ แต่ถ้าจะให้ผิดก็ผิดที่ฉันเต็มๆ ที่ไปหลอกลูกแบ