ตอนที่ 7. ความจริงไม่มีวันตาย…มันแค่ซ่อนอยู่ในความเงียบ
เกียวโต, ประเทศญี่ปุ่น เจ็ดปีก่อน
ลานฝึกศิลปะต่อสู้ของแก๊งมังกรดำ เสียงฝ่ามือกระทบไม้ไผ่ดังสะท้อนทั่วลาน ท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือกของฤดูหนาวที่คลุมเมืองด้วยม่านหมอก
เซียวหานในวัยเพียง 18 ปี ยืนประจันหน้ากับเด็กหนุ่มอีกคน ดวงตาเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน
“นายไม่ควรมาอยู่ที่นี่ ฮารุโตะ” เซียวหานกัดฟันเอ่ยขณะเงื้อดาบไม้ในมือ
“ก็ฉันไม่มีที่ไปและที่นี่คือที่ที่ฉันจะพิสูจน์ว่าเด็กญี่ปุ่นตัวเล็ก ๆ คนนี้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่ใคร ๆ คิด!”
สองดาบไม้ปะทะกันกลางลาน เสียงดังปัง ๆ ราวกับจะสะท้อนอนาคตที่กำลังจะแตกสลาย
ไม่นานหลังจากนั้น…เซียวหานตายอย่างลึกลับในการปฏิบัติการลับที่ไม่ควรพลาด และฮารุโตะ...หายตัวไปโดยไม่มีใครเห็นแม้แต่เงา
ปัจจุบัน กรุงเทพฯ
อาตงถือซองเอกสารมาให้เซียวเล่ห์ที่นั่งอยู่ในห้องพักอาจารย์
“เราเจอหลุมศพชื่อเซโตะ ฮารุโตะจริงครับ แต่…ในหลุมนั้นไม่มีศพ”
“ของปลอม?” เซียวเล่ห์ถามด้วยความแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่น่าจะเป้นไปได้ในตอนนี้
“ครับ…และเราพบว่า เขาอาจมีชีวิตอยู่ภายใต้อีกชื่อหนึ่ง ชื่อที่เกี่ยวข้องกับแก๊งยากูซ่าที่กลับมาปรากฏตัวในไทยไม่นานนี้”
เซียวเล่ห์ลุกขึ้นเต็มความสูง แววตาเข้มดุดัน
“ถ้ามัน คือคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของเซียวหาน...ฉันจะลากมันขึ้นมาชดใช้ไม่ว่าจะอยู่ใต้โลกไหน!”
ฮานะเดินไปที่โรงจอดรถ เพื่อเอาของที่ลืมไว้
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังตามหลังมาตลอดทาง แม้เธอจะหันมองก็ไม่มีใคร เธอรีบกดล็อกรถ แต่ก่อนจะได้สตาร์ทรถ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เบอร์ที่ไม่รู้จัก ไม่มีชื่อ ไม่มีรหัสประเทศ เธอรับสายอย่างลังเล“หนูชอบเดินคนเดียวแบบนี้เหรอ?” เสียงชายหนุ่มที่ทั้งนุ่มและเย็นยะเยือกดั่งเหล็กกล้า
“หรือคิดว่าความลับของพี่ชายหนูมันหายไปกับเถ้ากระดูก?”ฮานะใจหายวาบ มือสั่น ขณะพยายามพูดให้มั่นคง
“คุณเป็นใคร?”
“แค่คนที่รู้จักกับอดีตของเธอดีเกินไป และถ้าเธอยังอยากใช้ชีวิตแบบสงบสุขต่อไป
ก็อย่าให้เซียวเล่ห์รู้ว่าเลือดในตัวเธอ…มันเคยเปื้อนเลือดคนของมังกรดำมาก่อน”ตื๊ด สัญญาณตัดไปในที่สุดทำเอาฮานะตกใจเป็นอย่างมาก
ฮานะรีบหันไปมองรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง
เงาของใครบางคนพาดผ่านกระจกข้าง…แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ” คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวขอเธอ ฮานะนั่งนิ่งอยู่ในรถนานพอสมควร ก่อนจะตกใจเป็นอย่างมากเมื่อโซระมาเคาะกระจกเรียก
“ฮานะเป็นอะไรหรือเปล่า ไหนบอกว่าจะมาเอาของแต่ทำไมมานานจัง”
“โซระ !!” ฮานะร้องออกมาด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก
“เกิดอะไรขึ้น” โซระเอ่ยถามทันทีที่เข้ามานั่งภายในรถ ฮานะมองไปรอบ ๆ และส่ายหน้า ก่อนที่เธอจะขับรถออกไปในที่สุด ระหว่างทางฮานะพยายามจะมองดูว่ามีใครตามเธอมาบ้าง
“อ่อ คือว่าฉันเป็นประจำเดือนอ่ะสิ เดี๋ยวเธอไปซื้อผ้าอนามัยให้หน่อยนะ แล้วเอามาให้ฉันที่ในห้องน้ำ ในปั๊มนี่แหละ” ฮานะพูดพร้อมกับตบไฟเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน เพื่อให้โซระไปที่ร้านสะดวกซื้อ และซื้อของตามที่เธอบอกไปเมื่อก่อนหน้านี้
เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน โซระตรงมาที่ห้องน้ำพร้อมกับผ้าอนามัย และทันทีที่ทั้งสองอยู่เพียงลำพังในห้องน้ำนั้น ฮานะรีบหยิบกระดาษกับปากกาออกมาจากกระเป๋าแล้วรีบเขียนข้อความให้โซระในทันที “ฉันถูกสะกดรอยตามจากใครก็ไม่รู้ แต่มันรู้เรื่องของฉันทุกอย่าง !!”
โซระอ่านข้อความในกระดาษก่อนจะแกล้งพูดออกมา “อาจารย์รู้หรือเปล่าที่ออกมาข้างนอก แล้วต้องบอกอาจารย์ไหม? ”
ฮานะพยักหน้า แต่ก็ตอบออกมาอีกแบบหนึ่ง
“ไม่แน่ใจฉันไม่ได้บอกใคร พอดีปวดท้องก็เลยออกมานี่แหละ”
“โอเครีบจัดการตัวเอง แล้วจะได้รีบไปเรียน”
“อืมเข้าใจแล้ว” ฮานะตอบพร้อมกับเขียนข้อความในกระดาษ “ฉันอยากได้โทรศัพท์ใหม่” โซระพยักหน้า ก่อนที่ทั้งสองคนจะขยำกระดาษและทิ้งลงในชักโครก และพากันออกมาจากห้องน้ำ และกลับไปที่มหาลัย
ระหว่างที่เรียนอยู่นั้น จิตใจฮานะว้าวุ่นเป็นอย่างมาก หญิงสาวแทบไม่มีสมาธิในการเรียนเลยด้วยซ้ำ
“โซระฮานะมันเป็นอะไร” แพรวถามและกระซิบเบาๆ เพราะเกรงใจอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่ในตอนนี้
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เป็นประจำเดือนนั่นแหละ มันเลยหงุดหงิด อย่าไปใส่ใจเลย” โซระรีบตัดปัญหา กระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไปจนเลิกเรียน
“ไปกินข้าวกัน” แพรวเอ่ยชวนทั้งสองคน
“อือไปเถอะ ฉันไม่หิว” ฮานะบอกกับทั้งสองคนก่อนจะฟุบหน้าไปที่โต๊ะ และหลับตาลงไปในที่สุด แต่พอทุกคนเดินออกไปหมดแล้วนั้น ฮานะก็ลุกขึ้นมานั่งหน้าเครียด ดวงตาหม่นลง
เซียวเล่ห์เดินเข้ามาเงียบ ๆ แล้ววางแฟ้มไว้ตรงหน้าเธอตอนพิเศษ แสงอาทิตย์ในทุกเช้าที่มีเธอเช้านี้ต่างจากเช้าทุกวัน…เพราะมันเป็นเช้าวันแรกหลังจากที่ทั้งสี่คนใช้คำว่า “ครอบครัว” ได้อย่างเต็มปาก ฮานะตื่นขึ้นมาพร้อมกลิ่นหอมของขนมปังที่อบในครัว ดวงตายังปรือ ๆ อยู่แต่กลับมีรอยยิ้มประดับมุมปากโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าเตียงข้าง ๆ ว่างเปล่า แต่พอเธอก้าวลงจากเตียง เดินตามเสียงในครัวไป ก็พบว่าคนที่หายตัวไปคือสามีสุดหล่อ…ที่กำลังใส่ผ้ากันเปื้อนรูปเป็ดแสนน่ารัก ก้มหน้าก้มตาเจียวไข่และจัดจานอย่างตั้งใจ “จะทำอาหารเช้าทุกวันเลยเหรอ?” ฮานะถามเสียงงัวเงียเซียวเล่ห์เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มกว้างแบบที่ทำให้ใจเธอสั่นทุกที “ไม่ทุกวัน…แต่จะทำทุกเช้าที่เธอยังอยู่ข้าง ๆ ฉัน”เธอหัวเราะเบา ๆ เดินเข้าไปกอดเขาจากด้านหลัง “พูดแบบนี้…ใครจะไปไหนได้คะที่รัก” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้น ก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับมากอดเธอไว้ทั้งตัว แล้วโน้มลงมาจูบหน้าผากเธอหนึ่งที “ยอมให้หอมหมดทั้งตัวเลยด้วยซ้ำ”ขณะเดียวกัน… ในอีกฝั่งของบ้าน เคียวกับโซระก็ไม่แพ้กัน โซระที่ห่มผ้านอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนโซฟาหนังสุดหร
ตอนที่ 52. แต่งงาน “ชุดนี้ใช่เลย...หรือหัวใจฉันใช่เธอ”ร้านชุดแต่งงานกลางเมืองที่ถูกจองไว้ล่วงหน้าสำหรับวันนี้โดยเฉพาะฮานะกับโซระยืนอยู่หน้าแร็กชุดแต่งงานยาวเหยียด สายตาสำรวจแต่ละแบบด้วยความจริงจัง“อันนี้ดูหวานไปไหม?” ฮานะชี้ไปที่ชุดลูกไม้สีขาวแบบเจ้าหญิง“แล้วอันนี้ดูเหมือนชุดขึ้นเวทีรำบวงสรวงเลย” โซระพูดถึงชุดทรงบานอีกตัว จนฮานะหลุดหัวเราะด้านนอกห้องลองชุด เคียวนั่งไขว่ห้างรอพลางเปิดมือถือเช็กอีเมล ส่วนเซียวเล่ห์นั่งพิงกำแพงอย่างอดทน ใบหน้าคมหล่อเหลามองประตูห้องลองชุดไม่ละสายตาพนักงานเดินนำทางก่อนจะเปิดม่านออก...ฮานะก้าวออกมาในชุดเดรสเข้ารูปสีขาวสะอาด ท่อนบนมีลูกไม้ปักอย่างประณีต ผ้าทิ้งตัวแนบเรือนร่างพอดิบพอดีอย่างพอดี...จนเซียวเล่ห์เผลอลืมหายใจเขาลุกขึ้นยืนช้า ๆ เหมือนโดนสะกด“...สวย” เสียงของเขาเบาแต่ชัดฮานะหลบตาเล็กน้อย “ไม่เยอะไปใช่ไหม...?”“ไม่น้อยไปด้วย” เขาเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอ ก่อนจะเอื้อมมือแตะแขนเบา ๆ “มันพอดีมาก…พอดีกับเธอ…แล้วก็พอดีกับใจฉัน”ฮานะกลั้นยิ้มจนแก้มขึ้นสี ส่วนโซระที่เดินออกมาจากอีกห้องในชุดลูกไม้สีงาช้าง ก็ยักไหล่แล้วพูดเรียบ ๆ“งั้นฉันไม่ใส่ละ เด
ตอนที่ 51. ทะเลาะกันก่อนแต่งงานหลังจากอาหารเช้าอิ่มท้อง กลิ่นชาขิงอุ่น ๆ เริ่มลอยคลุ้งไปทั่วห้องนั่งเล่น ทั้งสี่คนฮานะ, เซียวเล่ห์, เคียว และโซระนั่งรวมตัวกันตรงโซฟาแบบไม่มีใครรีบจะลุกไปไหนบทสนทนาไหลเรื่อยไปเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องละครเมื่อคืน เกมที่เคียวเล่นแพ้ไม่เป็นท่า หรือแม้แต่เรื่องชวนหัวเราะอย่างท่าทางตอนหลับของโซระที่เจ้าตัวยืนยันว่า “ไม่ได้กรน!”บรรยากาศดีจนกระทั่ง…“ฉันตั้งใจจะขอฮานะแต่งงาน”เสียงของเซียวเล่ห์นิ่ง สุขุม แต่ออกมาชัดเจนราวกับค้อนกระแทกกลางโต๊ะทุกคนหันขวับฮานะชะงักไปนิด ก่อนจะหันไปจ้องเขาตาโต “เมื่อไหร่นายจะ…บอกฉันก่อนได้ไหม?!”เซียวเล่ห์หันมายิ้มบาง ๆ ให้เธอ “ก็บอกอยู่ตอนนี้ไง”โซระอ้าปากพะงาบ กำถ้วยชาขิงแน่น ส่วนเคียวถึงกับชะงักมือที่กำลังจะหยิบคุกกี้เข้าปาก“แต่งงาน?!” เคียวทวนคำ “น้องจะแต่งก่อนพี่ได้ยังไงวะเนี่ย?!”“เกี่ยวอะไรกับนาย?” เซียวเล่ห์เลิกคิ้ว“โถ่ ไอ้เล่ห์! ถ้านายแต่งก่อน ฉันก็โดนล้อแน่ดิ!” เคียวโอดครวญ “แถมโซระยังอยู่ข้าง ๆ ด้วย ฉันไม่สามารถแพ้ได้!”โซระหันขวับมามอง “เอ๊ะ?! เรื่องนี้ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย?”เคียวชี้นิ้วทันที “ถ้าเซียวเล่ห์จะขอแต่ง ฉ
ตอนที่ 50. เอาคืนแสงไฟในห้องสลัวลงจนแทบมืดสนิท เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาและเสียงกระซิบอ่อนโยนกลมกลืนไปกับความเงียบงันของค่ำคืนเซียวเล่ห์ค่อย ๆ ขยับตัวเหนือร่างของฮานะ ราวกับกลัวว่าจะทำให้เธอหวาดกลัวหรือเจ็บปวดมือใหญ่ลูบไล้เรียวแขนที่โอบกอดเขาอย่างมั่นคง ก่อนจะค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปสัมผัสบริเวณต้นคอที่บอบบางฮานะหลับตาพริ้มพร้อมกับปล่อยใจให้ความรู้สึกนั้นซึมลึกเข้าไปในทุกเส้นใยของร่างกายริมฝีปากของเซียวเล่ห์โอบอุ้มริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล ก่อนจะเริ่มจูบคลอเคล้าอย่างช้า ๆเหมือนต้องการบอกทุกความรู้สึกผ่านสัมผัสนี้ทั้งคู่ผ่อนคลายลง ร่างกายและหัวใจเคลื่อนเข้าหากันอย่างเป็นธรรมชาติเซียวเล่ห์ถอดเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีฮานะสายตากล้าหาญแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน ส่งเสียงกระซิบ “ฉันไว้ใจคุณ...เต็มที่”มือทั้งสองจับกันแน่นเป็นสัญญาแห่งความรักและความมั่นคงเขาค่อย ๆ ก้าวเข้าหาเธออีกครั้ง ร่างกายสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาแต่หนักแน่นทุกจังหวะทุกสัมผัสล้วนบอกเล่าความต้องการและความรักที่ไม่มีวันลดน้อยลงในคืนนั้น เวลาหยุดเดิน ความรู้สึกทั้งหมดถ่ายทอดผ่านก
ตอนที่ 49. ร่วมรักทั้งสองนั่งเคียงข้างกันบนระเบียงขนาดกะทัดรัด ใบหน้าของฮานะยังคงเปี่ยมไปด้วยความสงบ ริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ขณะที่แสงสีส้มทองของพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าไปช้า ๆสายลมเย็นพัดเบา ๆ ปะทะใบหน้า เหมือนเป็นบทเพลงธรรมชาติที่บรรเลงไว้เพียงเพื่อพวกเขาสองคนเสียงนกร้องไกล ๆ กับกลิ่นหญ้าระเบียงชั้นบน ทำให้เวลาที่หยุดนิ่งไปเหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในชีวิตเขาหยิบกล่องอาหารเย็นเล็ก ๆ ออกมา ท่ามกลางรอยยิ้มที่ซ่อนความสุขเงียบ ๆ“กินด้วยกันไหม?” น้ำเสียงนุ่มลึกถามอย่างอ่อนโยนเธอพยักหน้าอย่างอ่อนแรง แต่สายตาเต็มไปด้วยความอบอุ่นพวกเขาแบ่งอาหารจากกล่องนั้นอย่างตั้งใจ อาหารมื้อนี้ไม่มีความรีบร้อน มีเพียงความรู้สึกที่ค่อย ๆ เติมเต็มใจทั้งสองคนหลังอาหารเย็น พวกเขายังนั่งกันต่อไม่ลุกไปไหน ท้องฟ้ากลายเป็นสีครามเข้ม และดาวดวงเล็ก ๆ เริ่มผุดขึ้นทีละดวงเซียวเล่ห์ลูบมือของฮานะอย่างช้า ๆ “คืนนี้ดาวสวยมากนะ”“เหมือนชีวิตที่เราจะเริ่มต้นใหม่...ด้วยกัน”สองมือประสานกันแน่นขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนราบลงบนเก้าอี้เลานจ์ที่เตรียมไว้เงาจันทร์สาดส่องลงมาเป็นประกายเงินบนผิวหน้าทั้งสองราวกับมีเว
ตอนที่48. ฮานะเซียวเล่ห์ห้องพักฟื้นถูกแสงแดดอ่อนส่องลอดผ่านม่านสีครีมเข้ามา เสียงเครื่องวัดชีพจรยังคงดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลิ่นยาสะอาดลอยแตะจมูกตลอดเวลาเซียวเล่ห์นั่งเงียบอยู่ข้างเตียงคนไข้ ร่างสูงนั่งหลังตรง ดวงตาคมสบหน้าคนที่นอนหลับสนิทบนเตียงสีขาว — ฮานะยังคงซีดเซียวจากบาดแผลที่ได้รับจากการปะทะเมื่อคืน แม้หมอจะบอกว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าหลับเลยสักวินาทีมือเรียวของฮานะวางนิ่งอยู่ข้างลำตัว นิ้วก้อยของเธอถูกเขาเกี่ยวเอาไว้เบา ๆ คล้ายคำสัญญาเงียบ ๆ ว่าเขาจะไม่ไปไหนดวงตาของเธอกระพริบขึ้นช้า ๆ เหมือนพยายามฝืนลืมตามองหาใครบางคน“เซียว…เล่ห์…”“อยู่ตรงนี้” เขาขานรับแทบจะทันที พร้อมกับโน้มตัวลงใกล้ แล้วใช้นิ้วแตะไรผมที่ปรกหน้าผากเธอออกให้“ไม่ต้องฝืนนะฮานะ หลับต่อก็ได้”“เจ็บ…จังเลย…”น้ำเสียงแผ่วเบานั้นทำให้เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะมือเธอเบา ๆ อย่างอ่อนโยนที่สุด“ฉันรู้…เธอเจ็บ แต่เธอปลอดภัยแล้ว ฉันจะดูแลเธอเอง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น”เมื่อเธอหลับไปอีกครั้ง เขาจึงลุกขึ้น เดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่กับกะละมังน้ำอุ่น เขานั่งลงข้างเตียงอีกครั้ง ค่อย ๆ เช็ด