LOGIN“ อ้าว เจ้าไฟ! นี่มันจะมืดแล้วลูกจะออกไปไหน” ครีมหอมที่กำลังจัดโต๊ะอาหารเย็นอยู่กับแม่บ้าน ร้องเรียกเมื่อเห็นลูกชายเดินผ่านหน้าห้องไป เจ้าไฟจึงหยุดชะงัก
“ ผมมีนัดคุยงานกับพนักงานที่จะไปเมกาด้วยกันอาทิตย์หน้านี้นะครับแม่ ขอโทษด้วยนะ ที่ผมไม่ได้บอกก่อน” เจ้าไฟเดินเข้ามาหาแม่ เขาอ้าแขนออกกอดร่างเล็กของแม่พลันหอมแก้มแม่หวังอ้อนไม่ให้แม่ดุ เล่นเอาเสี่ยที่เพิ่งเดินเข้ามาคิ้วขมวด “ น้อยๆ หน่อยนะไฟ! นั่นเมียพ่อนะ” เสี่ยโอมเดินมาจับลูกแยกออกจากเมีย “ โห่!พ่อนี่ก็แม่ผมไหมครับ” “ แก่จนจะมีหลานได้แล้ว นี่คุณพ่อยังหวงคุณแม่เป็นเด็กๆ อีกเหรอครับ” ทั้งสามรีบหันไปมองตามเสียง จึงเห็นว่าเจ้าของเสียงคืออนาคินที่นั่งหลบมุมอยู่กันตรงโซฟาครบสามพี่น้อง “ เจ้าคิน!” เสี่ยเอ่ยชื่อลูกเสียงดุ ทำให้อนาคินเงียบไป ลลิซที่นั่งอยู่ตรงกลางพี่ชายฝาแฝด เธอจึงได้เอ่ยแซวขึ้นบ้าง “ พี่คินบอกว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะมีหลานได้แล้ว? ของใครเหรอคะ ?” ลลิซหันไปมองอนาคินด้วยแววตากวนๆ “หรือว่า..พี่คินแอบซุกลูกซุกเมียไว้!” “ บ้าเหรอลลิซ! เห็นพี่เลวขนาดนั้นเลย!” อนาคินรีบสวนปฏิเสธทันควัน ก่อนที่สองพี่น้องจะเริ่มหยอกเล่นกัน “ ผมว่าผมออกไปก่อนดีกว่าครับ” เจ้าไฟก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนเอ่ยปากบอกพ่อกับแม่ และไม่ลืมหันไปพูดกับน้องชายอีกคนที่กำลังนั่งเงียบๆ อยู่บนรถเข็นเพราะขาเจ็บจากอุบัติเหตุ “ ทานข้าวเยอะๆ นะคีริน จะได้กลับมาแข็งแรงเร็วๆ” “ ครับ ขับรถดีๆ นะพี่” คีรินเอ่ยตามหลังไวๆ ของพี่ชาย “ บอส รอด้วยสิครับ!” เมื่อเจ้าไฟเดินออกไป ก็สังเกตเห็นว่าเอลิกรีบวิ่งหอบสังขารตัวเองมาตั้งแต่บ้านพักของการ์ดซึ่งอยู่หลังคฤหาสน์ “ มาทำไม?” เจ้าไฟเปิดประตูรถพลันหันมาเห็นเอลิกวิ่งหน้าตื่นมาจึงเอ่ยถาม “ อ้าว บอสไม่ได้จะให้ผมขับรถให้เหรอครับ” “ ไม่ต้อง! ฉันไปเองได้ แกกลับไปนอนพักเอาแรงเถอะไป!” พูดจบเขาก็ไม่รีรอเอาคำตอบ ขายาวก้าวขึ้นรถและขับออกไปในทันที “ อ้าว” ทิ้งให้เอลิกยืนงงงวย เพราะปกติไม่ว่าจะไม่ไหน เขาจะต้องถูกบอสหิ้วไปด้วยตลอด “ หรือว่า บอสมีคนใหม่?” เอลิกเดาส่งพลันทำหน้าเสียใจแล้วเดินกลับห้องพัก ค่ำคืนของวันนั้นช่วงเวลาตีหนึ่งกว่าๆ บรรยากาศรอบข้างนั้นเงียบเหงา เพราะผู้คนต่างหลับไหล แต่ในมุมหนึ่งของเพนท์เฮ้าส์ที่กว้างขวาง กลับมีร่างเล็กของแก้มขวัญ นั่งขดตัวกอดเข่าพิงผนังกระจกทอดมองดูบรรยากาศของเมืองใหญ่ด้านล่างที่มีแสงไฟระยิบระยับ ต่างจากชนบทที่เธอจากมาซึ่งเวลานี้คงจะมืดสนิท มันไม่ชินเลยสำหรับเธอ น้ำตาเม็ดใสๆ ไหลลงมาตามแก้มของหญิงสาว “ ฮื้อ…แก้มคิดถึงแม่จัง” ใบหน้าสวยที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาหมอบลงซบที่ต้นขาของตัวเองพลันร้องไห้สะอื้น ไม่สนใจรอบข้าง “ เฮ้อ ว่าจะไม่เมาแล้วเชียว สุดท้ายก็จนได้” ร่างกายสูงใหญ่เดินเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์พลางมือก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกไปสามเม็ดเพราะเจ้าตัวรู้สึกร้อนรุ่มจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ “ เฮ้ย!” เขาสะดุ้งในทันทีเมื่อเหลือบมองไปรอบๆ แล้วเจอร่างของใครบางคนนั่งขดตัวร้องไห้อยู่คนเดียวมืดๆ “ อ่า ลืมไปเลยว่าเราให้ยัยเด็กนั่นมาอยู่ที่นี่” เมื่อนึกขึ้นมาได้เขาก็ส่ายหน้าให้ตัวเองเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาเธอ “ อ่อนแอจังเลยนะ” แก้มขวัญสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคย ก่อนที่เธอจะรีบเงยหน้าขึ้นมองเขา จึงสบตาเข้ากับใบหน้าที่มองลงมายังเธออย่างเย้ยหยัน “ คุณ?” “ ใช่! ฉันเอง” เจ้าไฟเอื้อมมือไปเปิดสวิตช์ไฟ ทำให้ภายในห้องสว่างขึ้น “ คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกหนังสยองขวัญหรือไง ถึงได้มานั่งครวญครางร้องไห้คนเดียวมืดๆ แบบนี้ เดี๋ยวคนอื่นมาเจอเข้าก็หัวใจวายกันพอดี” ชายหนุ่มกอดอกพลางต่อว่าหญิงสาวไปอย่างไม่พอใจ “ แล้วฉันจะไปรู้เหรอว่ามันจะมีคนอื่นเข้ามาเวลานี้น่ะ” เธอตอบโต้เขากลับพลันลุกยืน แต่ดันผิดจังหวะไปหน่อยขาของเธอจึงพลิกและล้มลงไปหาเจ้าไฟ ชายหนุ่มตกใจจึงกางแขนออกรับทำให้ทั้งสองลงไปนอนทับกันอยู่บนพื้น “ โอ้ย!” ด้วยความตกใจสองมือใหญ่ของชายหนุ่มยกจับที่แขนเล็กเต็มแรง ในขณะที่จมูกของทั้งคู่ชนเข้าหากันอย่างแนบชิด พลันมีเสียงของบางสิ่งบางอย่างกำลังสั่นไหวอย่างผิดปกติ แก้มขวัญได้สติก่อนเธอจึงรีบชันคอให้ผละออกห่างจากหน้าของเขา แต่พอเธอทำท่าจะลุกขึ้นชายหนุ่มดันไม่ยอมปล่อยมือจากต้นแขนของเธอ “ ปล่อยสิ! ฉันจะลุก” เจ้าไฟจ้องมองที่หน้าของหญิงสาวใบหูของเขาแดงจนก่ำ เขารีบได้สติและผลักร่างของเธอให้ห่างออกเต็มแรง “ โอ้ย !” “ คิดว่าฉันอยากแตะต้องเธอนักหรือไง” ชายหนุ่มรีบลุกยืน ก่อนที่เจ้าไฟจะสังเกตเห็นว่าแก้มขวัญที่กำลังยืนข้างเขา เธออยู่ในชุดนอนถึงมันดูจะมิดชิดแต่ว่าผ้ามันบางมากและเขาเพิ่งเคยเห็น ตอนเธออาบน้ำทำตัวสะอาดสะอ้านก็ดูน่ารักดีนี่ “ มองอะไร!” หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปิดอก หน้าของเธอแดงราวกับมะเขือเทศเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ใส่บรา และยิ่งคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ที่เธอลงไปนอนทับตัวเขา เธอก็รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ หวังว่าเขาคงไม่ได้รับรู้ถึงอะไรตรงนั้นหรอกนะ คิดไปเธอก็พลางรับไม่ได้ พยายามจะเดินหลีกหนี แต่ขาที่เจ็บมันทำให้เธอจะล้มอีกรอบ “ อ๊าย!!” “ อ้าวเฮ้ย!” โชคดีที่เจ้าไฟคว้าเอวของเธอเอาไว้ได้ทัน แต่เมื่อเธอทรงตัวได้ก็รีบปัดตัวเขาออก เขาที่คิดว่าเธอรังเกียจจึงรู้สึกโมโห “ อะไร รู้แบบนี้ ปล่อยให้ล้มหัวฟาดไปเลยก็ดี เดินไม่ได้ก็อยากจะฝืนอีก” เขาดุพลางจ้องเขม็งที่หน้าเธอ ทำแก้มขวัญรู้สึกกลัวไม่กล้าทำให้เขาหัวเสียเหมือนครั้งก่อน เนื่องจากรอยจูบวันนั้นมันยังติดตา “ ว้าย!!” เธอกรีดร้องอย่างไม่ได้ตั้งใจเพราะถูกเขาอุ้มขึ้นพาดบ่า “คุณจะทำอะไร” เสียงของเธอดูต่อต้านหน่อยๆ แต่ก็ไม่คิดกล้าจะดิ้นรนเนื่องจากกลัวว่าถ้าตัวเธอดิ้นร่างกายเธอมันจะขยับลงไป จนทำให้หน้าอกหน้าใจของเธอที่อยู่เหนือหัวไหล่ของเขาเพียงนิดเดียวไหลลงไปโดนไหล่ของเขาเข้า “ ก็จะพาไปส่งไง หรือเธออยากจะคลานเข่าไปเองกัน” เจ้าไฟพาแก้มขวัญมาส่งให้ถึงเตียง เมื่อเขาวางเธอลง หญิงสาวก็รีบหยิบหมอนขึ้นมากอดเพื่อปิดบังร่างกายของเธอที่อยู่ในชุดนอนตัวบางเอาไว้ “ คุณมาทำไม” เธอเอ่ยถามในขณะที่ดวงตาจ้องเขาไม่ละ “ นี่มันเพนท์เฮ้าส์ของฉัน ฉันจะมาไม่ได้หรือไง” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็หลุบมองต่ำ “ แล้วทำไมไม่บอกล่วงหน้าล่ะ ฉันจะได้แต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้” ประโยคตอนท้ายเธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบา แต่ทว่าเขาก็พอจะได้ยินจนมันทำให้เขาเผยยิ้มที่มุมปาก “ หือ! คิดว่าฉันจะพิศวาสเด็กอย่างเธอเหรอ กีรติกร!” คำพูดของเขาดันไปจี้จุดของเธอ “ เอะ! ฉันไม่ใช่เด็กนะ ฉันจะยี่สิบแล้วด้วย” แก้มขวัญพุ่งตัวยืนขึ้นบนเตียงทำให้ตัวเธอสูงเทียบกับเขาที่ยืนอยู่ด้านล่าง คิ้วเรียวนั้นขมวดเป็นเส้นตรงเพื่อให้เขารู้ว่าเธอไม่พอใจ แต่เจ้าไฟหาได้มองหน้าเธอ เพราะเวลานี้แสงจันทร์จากนอกหน้าต่างบานกระจกมันส่องผ่านเข้ามา ทำให้ชุดนอนผืนบางของหญิงสาวกำลังทรยศเธอ เจ้าไฟรู้สึกหน้าร้อนผ่าวเมื่อมองเห็นทรวดทรงองค์เอวภายในเสื้อนอนผืนนั้น แถมเขายังเพิ่งรู้ว่าหน้าอกของเธอไม่ได้มีอะไรปิดบังนอกจากเสื้อนอนผืนบางตัวเดียว เขานิ่งอึ้งไปดั่งต้องมนต์สะกด แก้มขวัญที่เห็นสีหน้าแปลกๆ ของเขาเธอก็ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มรู้ตัว “ อ๊าย!! ทะลึ่ง!!” มือเล็กรีบยกปิดหน้าอกพลันรีบถอยห่างจากเขาไปหนึ่งก้าว ทำให้คนที่กำลังคิดเลอะเทอะได้สติ “ เหอะ! ยัยบ๊อง!” มือของเขายกขึ้นไปดันหน้าผากของเธอจนหน้าหัน “ นอนได้แล้ว! จะได้โตไวๆ” ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินออกมานั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองที่ห้องนั่งเล่น “ ยัยเด็กบ้า!” เขาบ่นพึมพำพลางยกมือกุมขมับเนื่องจากภาพเงาของร่างกายเธอมันยังติดตาเขาไม่หาย เจ้าไฟส่ายหน้าไปมาพยายามดึงสติ ก่อนจะยกมือถือขึ้นมาต่อสาย [“ ฮัลโหลครับบอส มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ถึงได้โทรมาเอาป่านนี้”] เอลิกรับสายด้วยเสียงของคนที่เพิ่งจะตื่นนอน เจ้าไฟที่นั่งนิ่งเพราะคิดอะไรบางอย่างอยู่ เขาจึงได้สติรู้ตัวว่านี่มันก็ดึกมากแล้ว “ โทษที พอดีฉันอยากรู้เรื่องของ กช ที่ให้ไปสืบนะ คืบหน้าถึงไหนแล้ว” เขาถามเสียงเรียบนิ่ง [“ ทำไมบอสถึงได้ถามถึงเธออีกล่ะครับ ผมนึกว่าบอสลืมเธอไปสนิทแล้วซะอีก”] คนฟังเงียบไม่มีอะไรจะแย้ง แถมสีหน้ายังหม่นลง [“ หรือเป็นเพราะกีรติกรเหรอครับ”] ปลายสายพูดมาตรงประเด็นเปะ เล่นเอาคนฟังไม่ชอบใจที่ลูกน้องรู้ทัน “ อย่ามาทำเป็นรู้ดี เรื่องที่ไม่ได้บอกให้ทำ!” [“ อุ้ย ขอโทษครับบอส งั้นเดี๋ยวรอเช้าก่อนแล้วผมจะรีบโทรหานักสืบให้นะครับ เพราะเวลานี้เขาคงหลับกันหมดแล้ว”] “ เอ้อ แกอย่าลืมก็พอ” [“ ครับ บอสก็นอนบ้างนะครับ”] เมื่อเอลิกตัดสายไป เจ้าไฟก็วางโทรศัพท์มือถือลงสายตาของเขามองออกไปยังท้องฟ้าด้านนอกที่เงียบสงบและมืดสนิท “ เธอหายไปไหนกันแน่ กชกร” เขาบ่นออกมาก่อนจะเอาหัวแนบไปกับพนักโซฟากำลังจะคล้อยหลับ แต่หูดันไปได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากในห้องนอน “ อึก แม่~ แม่จ้า~ แก้มอยากไปอยู่กับแม่ แม่~” “ ละเมอเหรอ?” เจ้าไฟชะเง้อคอไปมองในห้อง ตอนแรกเขาก็ทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่นานไปเธอก็ยังไม่หยุดร้องไห้ เขาจึงจำใจต้องลุกขึ้นไปดู “ ร้องไห้หนักขนาดนี้ไม่หมดแรงหรือไง” เขาบ่นระหว่างเดินเข้าไปในห้อง “ แม่ ให้แก้มไปอยู่กับแม่นะ” “ ละเมอเป็นตุเป็นตะ” ชายหนุ่มเดินมานั่งลงบนเตียงพลางมองคนที่กำลังหลับตาสนิทแต่ปากดันพึมพำน้ำตาก็ไหลจนแก้มเปียก “ ฮื้อ” “ เป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ คงจะเสียใจมากล่ะสิ” เขาเอ่ยเบาๆ พลางยื่นมือไปเช็ดน้ำตาตรงแก้มให้เธออย่างไม่รู้ตัว แก้มนุ่มจัง เขาชะงักให้กับสัมผัสที่ได้รับ ก่อนจะสังเกตเห็นว่าเธอเงียบไปแล้ว “ ยิ่งดู ก็ยิ่งเหมือน คนเราจะเกิดมาแล้วดูคล้ายกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาบ่นพลางแอบมองเธออยู่อย่างเงียบๆพระอาทิตย์ของวันลาลับฟ้าไป แก้มขวัญที่อยู่ในสวนมาเกือบทั้งวันก็เดินถือตะกร้าผักกลับมาบ้าน “ อ้าว พี่เอลิกจะกลับแล้วเหรอ” ก่อนจะเข้าบ้านเธอเห็นเอลิกเดินออกมาจึงรีบทักทายเขา “ ใช่ครับ เห็นบอสบอกว่าตอนนี้กำลังจะกลับ ผมก็เลยว่าจะกลับก่อน อ้าว นั่นบอสมาถึงพอดีเลย” เอลิกทักเมื่อเห็นรถของเจ้าไฟแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน แก้มขวัญหันไปมองตามพลางรีบยัดตะกร้าผักใส่มือเอลิก “ อ้าว!” เอลิกก็ทำตัวไม่ถูกเขาได้แต่ยืนมองแก้มขวัญเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง “ บอสครับ อ้าวๆ นี่อีกคน” ตามด้วยเจ้าไฟซึ่งลงรถปุบปับก็รีบวิ่งตามหญิงสาวเข้าบ้านไป “อะไรกันวะ” เอลิกส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจให้คนมีความรัก เขาเอาตะกร้าผักไปเก็บไว้ก่อนจะเดินกลับที่พักของตัวเอง “ อ๋าย!!” แก้มขวัญร้องออกมาเสียงดัง ตอนที่เห็นชายหนุ่มวิ่งตามมา เธอพยายามปิดประตูห้องแต่ก็โดนเขาวิ่งมาจับประตูไว้ไม่ยอมให้ปิด “ ปล่อย!!” “ เธอเป็นอะไรไปเนี่ยหะ!!” เขาใช้แรงผลักประตูไปเล็กน้อย ร่างเล็กก็กระเด็นไปนั่งกองที่พื้นห้อง “ โอ้ย..” “ อะ! นั่นไง ผลของความดื้อนะ!” เขาต่อว่าพลันคุกเข่าลงเพื่อจะช่วยดึงเธอลุกนั่ง “ เป็นอะไรไป” เขาถามพลางจ้องหน้าบูดบ
“ พี่ไฟปล่อยได้แล้ว จะพาแก้มไปไหนคะ” แก้มขวัญโดนลากเข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่ม เขาดันตัวเธอชิดกับโต๊ะทำงาน เธอจึงต้องรีบหันหน้ามาเผชิญกับเขา ผู้ชายตรงหน้าที่ทำหน้านิ่งไร้ความรู้สึกยกมือขึ้นจับเอวของเธอและยกเธอให้ขึ้นนั่งบนโต๊ะ “ พี่ไฟ!” “ เมื่อกี้เธอขายอะไรฉัน ให้ไอ้นีวายฟัง” “ กะ..ก็” หญิงสาวเลิ่กลั่กพูดไม่ออกยิ่งเขาเอาแต่จ้องจับผิดปากเธอก็ยิ่งไม่ขยับ เมื่อเขาเริ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เธอก็รีบเอ่ยปรามไว้ “ พี่ก็น่าจะได้ยินหมดแล้วไม่ใช่เหรอ แต่แก้มยังพูดไม่จบนะ สิ่งที่แก้มจะพูดมีเยอะกว่านั้นอีก” เธอคิดหาทางรอด เนื่องจากในห้องมองไปทางไหนก็มีแค่เธอกับเขา ถ้าเธอทำเขาโมโหมีหวังได้โดนตรงนี้แน่ “ ยังมีอะไรอีก!” ปากสวยเผยยิ้มก่อนยื่นมือจับแก้มชายหนุ่ม “ พี่ไฟหล่อมาก ทั้งดูดี มีเสน่ห์อีกด้วย จริงไหมคะ” “ หึ!” คนฟังถึงกับแสยะยิ้มมุมปากให้กับความช่างเอาตัวรอดของเธอ ก่อนเขาจะตะโกนใส่หน้าเธอกลับเสียงดัง “ โกหก!!” “ อ๋าย! พี่ไฟแก้มขอโทษค่ะ” ขณะนั้นแก้มขวัญที่ตกใจก็รีบหลับตายกมือขึ้นปิดใบหน้าเอาไว้ “ ฮาฮ่า” ชายหนุ่มขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แก้มขวัญจึงคลายมือออกและจ้องมองเขาที่กำลังย
มือใหญ่เอื้อมมารวบเอวของหญิงสาวในทันทีเมื่อทั้งคู่ก้าวขาเข้ามาภายในบ้านพัก มืออันซุกซนนั้นลูบล้วงพยายามจะปลดกระดุมและซิปกางเกงของหญิงสาว “ พี่จะทำอะไร! แก้มเป็นเมนส์อยู่!” มือเล็กจับห้ามมือของเขาไว้ พร้อมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “ ห๊ะ! เมนส์?” เธอหันมาสบตาเขา “ ใช่! เมนส์ ประจำเดือนน่ะ รู้จักไหม” คนฟังถึงกับยืนนิ่ง คลายอ้อมกอดออกจากน้องพร้อมยืนหลังตรงก้มมองคนตัวเล็ก ไม่น่าล่ะ ถึงได้กล้าต่อปากต่อคำอย่างไม่เกรงกลัว “ แล้วกี่วันหาย” เมื่อตัวเล็กหันหลังให้เขาก็เอ่ยถาม “ 5-6 วัน” แก้มขวัญตอบเขาไปด้วยคำโกหก เนื่องจากรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มคิดจะทำอะไร เธอขอเวลาพักผ่อนเพิ่มสักสามวันคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง “ 1 2 3” พอน้องเดินหายไปแล้วเจ้าไฟก็ยืนนับนิ้วตัวเองดู ว่ากี่วันแล้วที่เขายังไม่ได้ทำกับเธอ เมื่อนับเพิ่มมาอีกหกวัน คิ้วของเขาก็ขมวดมุ่นยิ่งกว่าตอนเครียดเรื่องงานเสียอีก ในค่ำคืนของวันนั้น “ อย่า…อย่านะ กีรติกร อย่า!!” ร่างใหญ่สะดุ้งลุกดีดตัวนั่งบนเตียง เนื่องจากฝันร้าย “ บ้าเอ่ย ฝันบ้าอะไรวะ” เขาบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ เพราะสิ่งที่เขาฝันคือแก้มขวัญเดินจูงมือเข้าประตูวิวาห์ไปกับนีวาย พอคิดเ
ปลีก!!! เจ้าไฟรีบบึ่งรถเข้ามาตัดหน้าแก้มขวัญซึ่งกำลังเดินเข้ามาในรั้วบ้าน “ อ้าวๆ เดี๋ยวก็ชนน้องเอาหรอก!” อนาคินนั่งเล่นอยู่กับพ่อและพี่ชายฝาแฝดบนระเบียงบ้านเหลือบเห็นเข้าจึงตะโกนร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ ทำพ่อกับพี่ต้องรีบชะเง้อคอมองตาม “ ไหนแม่เคยบอกว่าตอนพ่อเป็นหนุ่ม พ่อเจ้าชู้มาก ทำไมพี่ไฟเขาไม่ได้เลือดพ่อมาบ้างเลยล่ะครับ” คีรินแซวขึ้นด้วยน้ำเสียงติดตลก ต่างจากคนโดนแซวอย่างเสี่ยโอมที่ทำได้เพียงกุมขมับและบ่นกับตัวเอง “ ใครเขาสอนมันจีบสาวแบบนี้วะ เสียชื่อเกิดเป็นลูกเสี่ยโอมหมด” “ หยุด!!!” “ ว๊าย!!!” แก้มขวัญเห็นว่ารถของคนพี่วิ่งมาจอดใกล้ เธอก็รีบหลีกตัวจะวิ่งเข้าบ้าน แต่เขาก็ลงรถอย่างไวและวิ่งมากระโดดจับเธอได้ทัน แก้มขวัญจึงพยายามดิ้นให้หลุดเนื่องจากแอบอายน้องชายและพ่อของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนระเบียงชั้นสอง “ อย่ามาจับแก้มน่ะ!!” “ เดี๋ยวนี้หวงตัว จับต้องไม่ได้เลยหรือไง!!” “ เอ้อ!” น้องตะคอกใส่หน้าเขาเจ้าไฟชะงัก ทำให้หญิงรีบสะบัดตัวออกและเดินหนีเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์เสีย เจ้าพ่ออารมณ์ร้อนอย่างชายหนุ่มถึงกับงุนงงไปตามๆ กัน เขาทำอะไรผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ ? หลายชั่วโมงผ่านไป
“ นั่นเมียผมนะแม่!! แม่จะยกให้คนอื่นได้ยังไง!” ครีมหอมเหลือบจ้องหน้าลูกชาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย คนเป็นพ่อจึงเป็นคนเอ่ย “ ก็ลูกไปข่มขู่เธอมานี่ พ่อกับแม่สงสารก็เลยช่วยให้เธอหนีลูกไป แล้วอย่าคิดไปตามกลับมาด้วยนะ สงสารเธอหน่อย” คนพูดใช้ช้อนชี้ไปมากลางอากาศด้วยท่าทีสบายๆ เจ้าไฟเบ้ปากจ้องทุกคนบนโต๊ะที่มีท่าที ชิวๆ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร มีแต่เขาเนี่ยแหละ ที่แทบจะระเบิดลงแล้ว “ แล้วพ่อไม่สงสารผมบ้างเหรอครับ” เขาพูดพลางยกมือทุบอกตัวเอง บิดาก็หันมาเลิกคิ้วใส่ ไม่พูดอะไรและปล่อยให้ลูกสาวพูดแทน “ ทำไมพ่อต้องสงสารพี่ด้วยล่ะพี่ไฟ พี่ได้เปรียบเธอทุกอย่างไม่ใช่เหรอ” ลลิซเอ่ยน้ำเสียงเธอดูกลั้นขำ แต่พี่ชายที่กำลังร้อนรนใจกลับดูไม่ออก เขาทำได้แค่มองดุไปหา ลลิซก็หลบหน้าทำเป็นก้มทานข้าวต่อ “ จะไปไหน!!” เสี่ยโอมร้องดังเมื่อเห็นลูกชายไม่ต่อความและกำลังจะเดินออกไป “ จะไปตามยัยนั่นกลับมาไงครับ” พอเจ้าไฟเดินหายออกไป ทุกคนบนโต๊ะก็หัวเราะขึ้นพร้อมเพรียงกัน “ แผนคุณแม่นี่สุดยอดไปเลยนะคะ ดูสิ พี่ไฟคงจะรักจะหลงแก้มขวัญมากแน่ๆ แต่แค่ทำเป็นไม่รู้ตัว แล้วก็ปากแข็งมากด้วย” ลลิซพูดขึ้นเพื่อเปิดการสน
ทำให้วันนี้ทั้งคู่จึงต้องค้างที่บ้าน เจ้าไฟพลิกตัวไปมาบนเตียงด้วยเพราะเขานอนไม่หลับ “ โอ้ย ..” ชายหนุ่มลุกและเดินออกมาด้านนอก ยืนแอบมองหน้าห้องของน้องสาว เนื่องจากแก้มขวัญไปนอนที่ห้องกับลลิซ แต่พอเห็นว่าหญิงสาวที่เขากำลังนึกถึงเปิดประตูออกมาจากห้อง เขาก็รีบเดินเข้าไปดึงตัวน้องมา “ ว้า—” มือใหญ่ยกปิดปากหญิงสาวไว้ “ เงียบ!!” พอเห็นแก้มขวัญทำตามเขาจึงคลายมือออกและดึงเธอเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง “ พี่พาแก้มมาที่นี่ทำไม” เมื่อเข้าห้องมาเขาก็ปิดประตูบีบล็อก ก่อนหันมาจ้องหน้าเธอด้วยความโกรธ “ อยากมีสถานะเหรอ!” คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวจ้องกลับอย่างงุนงง พอเห็นน้องไม่ตอบ มือใหญ่ก็จับเข้าที่สองบ่าพลันดันน้องหันหลังชิดประตู “ โอ้ย พี่ไฟแก้มเจ็บน่ะ!!” “ เธอตั้งใจมาที่นี่ใช่ไหม อยากจะเป็นสะใภ้ของพ่อแม่ฉันจนตัวสั่นล่ะสิ!!” แก้มขวัญนิ่งไปให้กับสิ่งที่เขาพูด เธอรู้สึกเสียใจที่เขาคิดกับเธอแบบนี้ “ แก้มทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ พี่เองก็ไม่เคยพูดเรื่องที่บ้านให้ฟังอยู่แล้วนี่ แก้มรู้ตัวดีเถอะว่าเป็นได้แค่ที่ระบายอารมณ์ของพี่นะ” “ พูดบ้าอะไร!!” เขาตะคอกใส่หน้าเธอ “ ปล่อยแก้มได้แล้ว แก้มจะไปกิ







