หลังจากวันนั้นเวลาก็ลุล่วงผ่านไปได้ไม่ค่อยนานมากนัก ชีวิตที่ไม่มีพ่อกับแม่คอยดูแลมันช่างยากลำบากเอามากๆ ฉันและพี่ชายต้องเริ่มทำงานหาเงินเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง แม้ว่าเงินประกันจะเยียวยาชีวิตแต่มันก็คงไม่ตลอดไปสักเท่าไหร่
ตอนนี้พวกเราเรียนอยู่ปีสี่กันแล้วและเทอมหน้าเป็นปีสุดท้ายที่ต้องฝึกงานกันเพียงเท่านั้นเอง ฉันโดนลากให้ไปฝึกงานที่บริษัทของแม่เพียงเพราะลูกสาวของเธอที่ดันมาเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันนั่นเอง
ยัยนั่นเรียนที่เดียวกับฉันและคณะเดียวกันพอเธอรู้ว่าพวกเราเรียนด้วยกันยัยนั่นกลับเข้ามาวอแวและตีสนิทฉันจนเรากลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันจนได้ เธอพยายามพูดเรื่องของผู้หญิงคนนั้นให้ฉันฟังอยู่เสมอ แต่ทว่าฉันกลับไม่ได้สนใจและเดินหนีเธอไปอย่างไม่สนใจใยดีทุกครั้งที่เธอพูดอยู่เป็นประจำและวันนี้ก็เช่นกัน
"มึงวันนี้แม่ทำข้าวผัดมาให้"
"ขอบใจ"
"เมื่อไหร่มึงจะไปอยู่กับกู พานัดไปด้วยดิ"
"แพรวกูพูดเรื่องนี้ชัดมากแล้วนะ ถ้ามึงยังจะพูดอีกกูจะเลิกคบกับมึงแล้วจริงๆด้วย"ใบหน้าหวานเริ่มจ๋อยลงไปเมื่อฉันเอ่ยออกมาแบบนั้นเหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่มันเริ่มรู้จักฉันมาแล้ว
การที่ต้องมาเป็นเพื่อนกับมันนอกจากมันจะชอบมาวอแวฉันเรื่องที่บ้านเป็นประจำ แต่ทว่าการที่มีมันเป็นเพื่อนก็มีข้อดีในอะไรหลายๆอย่างเช่นกัน
"ก็กูอยากให้มึงไปอยู่ด้วยหนิ แม่ก็...."
"กูไปละ"ฉันรีบตรงดิ่งเดินออกมาจากตรงนั้นทันทีในขณะที่เพื่อนกำลังรีบเก็บของตามมาอยู่เช่นกัน แต่ทว่าจู่ๆฉันก็ต้องยืนนิ่งลงไปเมื่อสายตาของฉันมันดันเจอเข้ากับใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยก่อนที่เพื่อนสาวจะวิ่งเข้ามาเกาะแขนฉันเอาไว้
"เป็นไรเนี่ย"
"ป่าวอ่ะ"
"นั่นมันพี่แดเนียลหนิ มึงมองเขามึงรู้จักรึไง"
"ป่าวหนิฮันจะไปรู้จักหมอนั่นได้ไง จ้างฉันสักกี่ล้านกี่คงไม่มีทางไปยุ่งหรอก"เมื่อฉันตอบออกไปแบบนั้นอย่างน่าเบื่อไปตามอารมณ์ขอลฮันที่เป็นอยู่ก่อนที่จะฝ่ามือเรียวจะฟาดเข้ามาที่แขนของฉันทันทีอย่างจังพร้อมกับสีหน้าของมันที่จ้อบมองมาอย่างน่ากลัวเอามากๆ
"มึงตีกูทำไมเนี่ย"
"มึงอย่าพูดแบบนั้นเชียวพี่แดเนียลไม่ใช่คนที่ใครจะเข้าไปยุ่งหรือพูดแบบนั้นได้หรอกนะ"
"หมอนั่นมีอิทธิพลมากงั้นสิ"
"พี่เขาเป็นมาเฟียที่โหดมากเลยนะมึง ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาเลยด้วยซํ้าเพราะไม่มีใครรอดจากนํ้ามือเขาได้เลยสักคน ยิ่งพ่อของเขาอีกพูดแล้วขนลุก"ฉันเบะปากมองบนไปทีหนึ่งกับผู้ชายคนนั้นเพราะหลายปีก่อนฉันก็เล่นเขาเอาซะแสบเลยทีเดียว แต่ก็ไม่เห็นเขาจะว่ายังไงเลยสักนิดกับคนอย่างฉัน
พวกเราพากันเดินเข้าไปเรียนกันตามปกติโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรหมอนั่นเลยด้วยซํ้าและคิดว่าคำพูดของเขาที่เคยพูดออกมาแบบนั้นคงไม่มีอะไรมากเพราะนี่ก็ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้วหลังจากวันนั้นก็ไม่เห็นวี่แววที่เขาจะทำอะไรฉันเลยสักนิด
"ไปกินข้าวที่บ้านกัน"
"มีงานต่อ"
"ใช่สิกูเห็นมึงทำงานที่ผับอ่ะ เงินที่แม่ให้ไม่พอหรอวะ"
"กูไม่ได้ใช้"
"ไม่ได้ใช้? แล้วมึงเอาเงินไปไหนหมด"
"บริจาค กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนนั้น"ฉันบอกออกไปแบบนั้นแล้วก็รีบเดินออกมาจากห้องเรียนทันทีเพื่อที่จะได้มุ่งหน้ากลับไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวไปทำงานในตอนเย็นต่อโดยทิ้งเพื่อนไว้ตรงนั้นอย่างหงอยเหงาไปเพียงลำพัง
แต่ในขณะที่ฉันกำลังเดินตรงดิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ที่ประจำของฉันอยู่นั้นจู่ๆก็ได้มีรถตู้หรูขับมาจอดเทียบฉันที่เดินอยู่และรีบลากฉันขึ้นไปบนรถทันทีอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซํ้าในตอนนี้
"เห้ยยย ทำอะไรหนะปล่อยฉันนะ"
"เข้าไป!!"แรงดีดดิ้นไม่ได้ช่วยทำให้ฉันหลุดพ้นจากพวกเขาได้เลยสักนิดก่อนที่ร่างกายของฉันจะถูกดันเข้าไปในรถและเจอเข้ากับใครคนหนึ่งที่นั่งนิ่งๆอ่านหนังสืออยู่ข้างๆฉันเอง
มือหนาค่อยๆลดหนังสือในมือลงและหันหน้ามามองฉันที่ร้องเอะอะโวยวายอยู่แบบนั้นอย่างน่ารำคาญใจและอากาศที่ร้อนอบอ้าวอีกต่างหาก
"ปล่อยฉันไปนะเว้ย"
"หุบปากได้ยัง"
"นาย!! ไอ้บ้าโรคจิตนี่นายยังไม่หายป่วยใช่ไหมถึงได้ทำเรื่องบ้าๆแบบนี้อีกอ่ะ"เขาแค่ปลายตามองฉันเพียงแค่แวบหนึ่งเพียงเท่านั้นก่อนที่จะกลับไปอ่านหนังสือที่เดิมของเขาต่ออย่างไม่ได้สนใจอะไรมากนักก่อนที่คนข้างกายจะหยิบมือออกมาจากภายในเสื้อเพื่อโชว์ให้ฉันได้เห็นและเงียบปากไป
"......"
"......'
"ถึงเวลาแล้วนะ"
"พูดบ้าอะไร!!"ในใจตอนนั้นที่เริ่มรู้สึกกลัวและหวั่นๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนอกจากแสดงอาการที่ไม่เกรงกลัวและข่มขู่อีกฝ่ายไปเพื่อปกป้องตัวเอง
รอยยิ้มแสยะของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาเมื่อเห็นกระต่ายน้อยมีสีหน้าและท่าทางที่ดูตื่นกลัวจนผิดปกติคนก็ทำเอาเขาพอใจเป็นอย่างมากเพราะไม่ต้องลงแรงอะไรมากเธอก็กลับตื่นกลัวเขาไปเอง
เมื่อจังหวะที่ใช่ถือว่ามีโอกาสฉันรีบเปิดประตูรถรีบวิ่งออกไปจากรถนั้นทันทีในขณะที่รถกำลังติดไฟแดงอยู่ ชายชุดดำคนหนึ่งวิ่งตามฉันมาติดๆก็ต้องยอมพ่ายแพ้เมื่อฉันดันวิ่งเข้าไปหลบในมุมตึกมุมหนึ่งจากการช่วยเหลือจากใครบางคนที่อยู่แถวนั้นพอดี
มือหนาของเขาปิดปากฉันไว้และยืนประกบร่างกายของฉันไว้อย่างมิดชิดจนพวกเขาไม่ทันได้สังเกตและเดินหนีหายไปทันทีอย่างหมดหนทาง
"เป็นอะไรมากรึเปล่า"
"เปล่าอ่ะ ขอบใจนะที่ช่วย"
"ไปทำท่าไหนล่ะพวกมันถึงวิ่งไล่ตามขนาดนั้น"
"ไม่มีอะไรหรอก แล้วนี่....เด็กBOหรอ"ฉันขมวดคิ้วถามเล็กน้อยเมื่อใบหน้าที่คุ้นเคยของเขาจากที่ไหนสักแห่งในมหาลัย แต่ทว่ากลับจำไม่ได้เลยสักนิดว่าไปเห็นที่ไหนแต่ฉันดันเจอเข้าบ่อยมากจนแทบจะคุ้นเคยใบหน้านี้ไปแล้วเอาจนได้
"อื้มใช่ เธอรู้ได้ไง"
"หน้าคุ้นๆอ่ะ อ้อนายที่ได้ทุนไปเรียนต่อคู่ฉันหรอแถมยังเป็นเดือนคณะมนุษศาสตร์ด้วยหนิ"เขาพยักหน้าเป็นการตอบกลับและยกยิ้มออกมาให้กับฉันเมื่อเราสองได้พบเจอกันสักทีจากที่เดินสวนทางกันไปมาหลายอยู่หลายหนเอามากๆ
"ได้เจอกันสักทีนะ"
"อื้ม"
"เมอท้องแล้ว ฮึ้ก เมอท้องแล้ว"ร่างเล็กรีบพุ่งตัวเข้าไปสวมกอดพี่ชายของตัวเองทันทีอย่างไม่รอช้าพร้อมกับนํ้าตาที่ไหลรินออกมาด้วยความดีใจ"หนูท้องงั้นหรอ"นํ้าเสียงคุ้นเคยที่เอ่ยดังขึ้นจากประตูหน้าบ้านด้วยใบหน้าที่ดูตกใจเช่นกันที่ในที่สุดฉันนั้นก็ตั้งท้องลูกของเขาสักทีโดยที่พี่แดเนียลเองก็รีบเข้ามาดูผลตรวจนั้นอย่างดีใจและสวมกอดฉันด้วยนํ้าตาที่ไหลรินออกมา ทุกคนต่างพากันแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อให้เราสองคนนั้นได้คุยกันไป"พี่ดีใจมากเลยนะที่เรากำลังจะมีลูกกัน""เมอก็ดีใจค่ะ""ขอบคุณนะคะที่ทำให้พี่แบบนี้""ขอบคุณอะไรกันคะ ฮึ้ก เมอว่าพี่ไปพักผ่อนเถอะค่ะมาเหนื่อยๆ"ร่างเล็กรีบพาคนตัวสูงนั้นเดินเข้าไปจัดของเก็บของไว้กับที่ก่อนที่จะออกมากำชับคนงานในไร่ให้ช่วยกันเตรียมของที่จะกินเลี้ยงกันในวันนี้ต้อนรับครอบครัวของพี่อีริคและฉลองที่ฉันท้องลูกแล้วเรียบร้อย
"เป็นยังไงบ้างคะ"เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเย็นฉันเองที่ยังคงไม่ทันได้หายปวดหัวจากอาการแฮงค์เหล้านั้นก็ถึงกลับนั่งกุมขมับทันทีเมื่อตื่นขึ้นเพราะนอกจากปวดหัวแล้วนั้นก็มีอีกจุดหนึ่งที่รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กันนั่นก็คือบริเวณที่ทำร่วมรักกับเขานั่นเองก็รู้สึกอักเสบเป็นอย่างมากอีกต่างหากจากการกระทำของเขาที่ทำแบบนี้กับชฉันลากยาวติดร่างสูงเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลังที่มีที่ว่างอยู่อย่างออดอ้อนและดึงร่างกายของเขาให้มาพิงซบที่อกของเขาไปก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมานวดหัวเธอไปเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวนั่นเอง"โอเคขึ้นรึเปล่าคะ""โอเคขึ้นค่ะ""พี่โอเคนะถ้าหนูจะรอถึงตอนที่ต้องเรียนจบ แต่หนูเรียนจบเมื่อไหร่หนูต้องแต่งงานและมีเจ้าแสบให้พี่ทันทีรู้เมอรีน"ร่างเล็กลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองคนพี่ที่นั่งนวดขมับให้เธออยู่ปล่อยให้ร่างเล็กนั้นนอนซบที่อกของเขาอย่างสบายๆ"พี่แค่อยากแ
"หนูขอโทษ หนูจะไม่ทำอีกแล้ว""......"เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วนั้นร่างสูงเองยังคงไม่ยอมพูดคุยอะไรกัยเธอเลยสักนิดเดียวโดยที่เขาได้กลับมาจากการไปคุยเรื่องห้องเพื่อที่จะทำการพักที่นี่อีกหนึ่งคืนและเลื่อนให้งานของยัยเด็กแสบนี้ไปเสียก่อน โดยที่เมื้อกลับเข้ามาในห้องแล้วนั้นร่างเล็กก็รีบทำการเข้ามาง้อผมทันทีอย่างไม่รอข้าเมื่อได้เห็นหน้าผมแล้วอันนี้จริงเขาเองก็ไม่ได้โกรธก็คือไงยัยตัวเล็กสักเท่าไหร่เพราะจากการออดอ้อนของเธอที่พยายามง้อผมนั้นก็ทำให้ผมหายโกรธเธอแล้วจริงๆ"หนูขอโทษค่ะ"".....""พี่จะไม่คุยจริงเหรอคะ"ร่างสูงเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับเปิดโทรทัศน์เพื่อหาอะไรดูแก้เหงาก่อนที่ร่างเล็กเองจะเดินเข้ามานั่งคค่อมร่างกายของเขาพร้อมกับแขนที่โอบกอดรัดคอเขาไว้เพื่อไม่ให้เขาหนีไปไหนได้อีกสายตาของคนพี่ได้แต่จ้องมองยัยเด็กแสบที่ทำแบบนี้อย่างยั่วยว
เมื่อพวกเรามาถึงก็แยกย้ายกันเข้าไปในห้องของใครของมันที่อีริคเองจ่ายให้พวกเราโดยที่อีริคและพี่นัดนอนด้วยกัน ส่วนฉันเองต้องนอนเพียงลำพังด้วยความเป็นส่วนตัวโดยที่บรรยากาศรอบๆห้องนั้นค่อนข้างที่จะเงียบสงบจนได้ยินเสียงแอร์ดังชัดเจนจนทำให้หวนคิดถึงคนพี่เป็นที่สุดที่ผ่านมาฉันเองไม่เคยที่จะนอนคนเดียวเลยด้วยซํ้าเพราะมีพี่แดเรียลอยู่ด้วยเสมอแม้ในวันที่เขาติดงานเยอะสักเท่าไหร่พี่แดเนียลเองก็ไม่เคยคิดที่จะปล่อยให้ฉันอยู่เพียงลำพังเลยแม้แต่นิดเดียว"เมอคิดถึงพี่นะ"ความคิดที่เมื่ออยู่เพียงลำพังก็ดันคิดไปไกลมากพอสมควรต่างๆนาๆก่อนที่จะหลับไปในที่สุดด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและศึกหนักเมื่อคืนที่กว่าเขาจะปล่อยให้ฉันนอนได้ก็นานมากอยู่พอสมควรจนเกือบเช้าได้แล้วพวกเราเตรียมตัวที่จะไปผับในเวลาสองทุ่มที่ได้นัดกันเอาไว้โดยที่พวกเราเดินทางกันมาในเวลาไม่กี่นาที เสียงดนตรีที่ดังจนแทบจะต้องตะโกนคุยกันนั้นทั้งสามค่อนข้างที่จะคุ้นชินมากพอสมควรจา
สายของวันต่อมาเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วนั้นฉันก็พบเข้ากับร่างสูงที่กำลังนอนเล่นมือถืออยู่โดยที่หน้าจอกำลังแสดงเป็นชุดแต่งงานและงานแต่งงานต่างๆนาๆโดยที่ฉันไม่ได้เรียกหรือพูดอะไรออกมาเลยสักนิดก่อนที่ทางเขาเองจะขยับตัวเล็กน้อยและพลิกตัวหันมามองทางฉันที่แกล้งทำเป็นหลับอีกครั้งหนึ่ง"อื้อออ""......."ร่างสูงที่พึ่งสังเกตการเมื่อพอรู้ได้ว่ายัยตัวเองได้ตื่นแล้วและทำเป็นแกล้งหลับไปอีกครั้งหนึ่งอย่างท่าทางที่ดูมีพิรุธเป็นที่สุด"ยังไม่ตื่นแบบนี้.....ต้องลักหลับดีหน่อยไหม""อย่านะ"ร่างเล็กรีบลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีพร้อมกับพยายามลุกขึ้นถอยห่างเขาให้ได้มากที่สุดพร้อมกับหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมเรือนร่างกายที่เปลือยเปล่าจนคนข้างกายที่เห็นแบบนี้แล้วถึงกับอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ด้วยความเอ็นดูมือหนารีบคว้าข้อแขนเรียวเล็กและรีบทำการดึงยัยเด็กแสบของเขาเข้าไปสวมกอดพร้อมกับก้มตัวลงมาหอมแก้มแนียนขาวไปอย
นานแล้วนานเล่าก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะกลับมาเลยจนเธอเองได้ผล็อยหลับไปในที่สุดพร้อมกับเจ้าหมาที่นอนอยู่บนตักอย่างเช่นเคย โดยที่มีเหล่าบอดี้การ์ดและแม่บ้านที่คอยไล่ยุงให้ตามที่สามารถทำได้"ถ้านายกลับมาพวกเราตายแน่""นั่นสิพี่""ทำเท่าที่ทำได้แหละหว้า"เสียงรถที่ขับเข้ามาในยามราตรีและนั่นไม่ใช่รถของใครนอกซะจากเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ขับเข้ามาเมื่อได้ยินมาว่ายัยเด็กแสบนั้นไม่ยอมเข้าบ้านแต่แอบมานั่งหลับกับสุนัขแบบนี้คนตัวสูงค่อยเดินจ้ำก้าวมาดูอย่างช้าๆก่อนที่จะยืนมองเหล่าบอดี้การ์ดและแม่บ้านที่นั่งเฝ้ายุงให้เธอแบบนั้นก่อนที่พวกเขาเองจะหันเข้ามาเจอพอดี"เดี๋ยวฉันจัดการเอง""ครับนาย""ไปเตรียมนํ้าอุ่นให้ด้วย""ค่ะ"เมื่อเหล่าบอดี้การ์ดและแม่บ้านเดินจากไปแล้วนั้นผมเองก็ยื