ซินเยว่พูดไม่ออกนางได้แต่ยกมือขึ้นโบกไปมาพลางพยักหน้า
"เยี่ยนหลง"
นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาเเต่ชัดเจนในโสตของเขา ซินเยว่เงยหน้าขึ้นสบสายตาที่กำลังมองมาที่นาง ใบหน้าของไป๋เยี่ยนหลงยังคงเรียบเฉยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมีเพียงใบหูเท่านั้นที่เเดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด แต่ซินเยว่สังเกตเห็นมันได้นี่เขาอายหรือ ซินเยว่รู้สึกประหลาดใจเพียงแค่นางเอ่ยชื่อเขาเนี่ยนะ ซินเยว่มองหน้าไป๋เยี่ยนหลงตาปริบๆ ตอนนี้นางทำตัวไม่ถูกแล้ว
เสี่ยวเป่าที่เล่นดินอยู่ที่พื้นนอนกลิ้งไปมาส่งเสียง จิ๊ จ๊ะ คล้ายไม่พอใจที่พวกเขาไม่สนใจมัน
"นายท่าน"
เยี่ยเฉิงเดินเข้ามาคุกเข่ายกกำปั้นขวาขึ้นแนบอกด้านซ้ายทำท่าคารวะ เขาโบกมือหนึ่งทีให้เยี่ยเฉิงลุกขึ้น ซินเยว่เห็นว่าเยี่ยเฉิงมีเรื่องสำคัญจะคุยกับไป๋เยี่ยนหลงนางจึงอุ้มเสี่ยวเป่าเดินมาหามารดาที่นั่งคุยกับซ่งเว่ยหลงที่ระเบียงหน้าบ้าน คล้อยหลังซินเยว่เยี่ยเฉิงกางม่านพลังป้องกันเสียง
"นายท่านมีการปะทะกันของสองกลุ่มทำให้เทพโอสถหนีไปได้ข้าน้อยไร้ความสามารถขอนายท่านโปรดลงโทษ "
ไป๋เยี่ยนหลงยังคงเงียบเหม่อมองออกไปที่ซินเยว่
"ตามต่อไป"
พูดเพียงเท่านั้นไป๋เยี่ยนหลงก็เดินตรงไปหาซินเยว่ที่ระเบียงหน้าบ้าน เยี่ยเฉิงทำหน้าไม่เข้าใจเหตุใดนายท่านไม่โกรธที่เขาทำงานพลาดเหตุใดนายท่านไม่สั่งลงโทษเขา เยี่ยเฉิงมองตามแผ่นหลังที่ตั้งตรงของผู้เป็นนายที่เดินจากไปอย่างไม่เข้าใจหรือว่านายท่านจะไม่สบาย เป็นไปไม่ได้เยี่ยเฉิงสะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่สิ่งที่อยู่ในหัวออกไป
ซ่งเว่ยหลงกลับไปแล้วก่อนกลับเขายังย้ำกับเซวี่ยฟังเฟย อีกหลายครั้งว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นให้รีบมาบอกเขา เขาจะรีบมาทันทีส่วนเจ้าตัวต้นเรื่องก็ยังคงนั่งทำหน้าตายไม่รู้ร้อนรู้หนาวน่าหมั่นไส้จริงๆ
"คุณหนูเจ้าคะท่านหัวหน้าหมู่บ้านท่าทางดูแปลกๆ นะเจ้าคะ"
ซินเยว่หันไปมองฮุ่ยหลิงแล้วยกนิ้วขึ้นปัดจมูกนางเบาๆ
"เรื่องของผู้ใหญ่"
ฮุ่ยหลิงย่นจมูกใส่นายสาวของนาง
"คุณหนูท่านแกล้งข้าอีกแล้ว"
ซินเยว่หัวเราะเสียงใสออกมาอย่างอารมณ์ดี นางไม่ได้หัวเราะมานานแค่ไหนแล้วนะ ตั้งแต่ที่เจ้าคนหน้าตายย้ายมาอยู่ที่บ้านของนางกระมัง หนังจากวันนั้นซ่งเว่ยหลงก็แวะมาที่บ้านของเซวี่ยฟังเฟยทุกวันทั้งตอนเช้าและตอนเย็นเดี๋ยวเอาไก่ป่าห้าสีมาให้เดี๋ยวเอาเนื่อกวางหางงูมาฝาก ล่าสุดได้กระต่ายป่าหิมะสีขาวตัวอ้วนพีมาฝากเซวี่ยฟังเฟยเป็นเช่นนั้นอยู่หลายเดือน จนซินเยว่อดจะเอ่ยเย้ามารดามิได้
"ท่านแม่ท่านว่าช่วงนี้ท่านลุงซ่งมาบ้านเราบ่อยไปหรือไม่ คนบ้านเราก็มีอยู่เท่านี้แต่อาหารไม่มีที่จะให้เก็บแล้ว"
เซวี่ยฟังเฟยยิ้มน้อยๆ ทำไมนางจะไม่รู้ว่าบุตรสาวของนางหมายความว่าอย่างไร ตัวนางเองก็พอจะมองออกว่าหัวหน้าหมู่บ้านซ่งคิดอย่างไรกับนาง แต่เรื่องนี้เซวี่ยฟังเฟยเคยเจ็บปวดมาก่อนนางจึงไม่อยากรีบร้อนกระทำตามใจเหมือนครั้งที่นางตกหลุมรักหยางจิ่งเทียน
"ท่านซ่งก็เเค่เป็นคนมีน้ำใจเจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหลเชียว”
ซินเยว่เลิกคิวมองมารดา
"อ้อ ดูท่าจะมีน้ำใจให้แค่กับคนที่บ้านของเราเท่านั้นนะเจ้าคะ"
พูดจบซินเยว่ก็ทำหน้าล้อเลียนมารดา
"เยว่เอ๋อ เด็กคนนี้เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ"
เซวี่ยฟังเฟยทำหน้าขึงขังดุบุตรสาวเสียงเขียวทั้งที่ใบหน้านั้นแดงก่ำเป็นลูกผิงกั่วสุก
"โธ่ ท่านแม่ที่เคารพที่ผ่านมาท่านลุงซ่งก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าจริงใจกับท่านแค่ไหน ข้าตอนนี้ไร้ข้อกังขากับการกระทำและความรู้สึกที่เขามีต่อท่าน ถ้าหากว่าในอนาคตท่านจะมีใครสักคนที่จริงใจมาคอยดูแลข้าก็ไม่คัดค้านนะเจ้าคะ อีกอย่างท่านลุงซ่งก็ไม่เคยแต่งงานบิดามารดาจากไปหมดแล้วมีเพียงน้องสาวและหลานชาย ตัวข้าไม่กีดกันถ้าหากท่านลุงซ่งจะแต่งงานกับท่านแม่เเต่ต้องให้ท่านลุงซ่งมาอยู่ที่บ้านของเรานะ"
เซวี่ยฟังเฟยตกใจกับคำพูดของบุตรสาวที่ช่างขวานผ่าซากไม่รู้ว่านางนิสัยเหมือนใคร
"เยว่เอ๋อเจ้าเด็กคนนี้แม่ไม่อยากคุยกับเจ้าแล้ว"
เซวี่ยฟังเฟยหน้าแดงก่ำลุกเดินหนีไป
ทุกๆ วันที่เรือนริมเขาผ่านไปอย่างเรียบง่าย ซินเยว่ก็ยังคงเข้าป่าหาสมุนไพรตอนเช้าอยู่ทุกวันพร้อมกับฝึกวิชาทะยานเมฆาให้ช่ำชอง เพื่อเลื่อนขึ้นไปในระดับสูงมากกว่านี้ ตอนนี้มีเสี่ยวเป่าเป็นผู้ช่วยมือดีเพราะมันเป็นเหมือนเรดาร์หาสมุนไพรให้นาง ทั้งสมุนไพรปราณขั้นสูงและพวกสมุนไพรหายาก ทำให้ตอนนี้นางมีเงินเก็บมากพอที่จะใช้ชีวิตสบายๆ โดยไม่ต้องทำอะไร
ทางด้านเมืองเยว่กว่างหลังจากที่ซินเยว่ขายโอสถเพิ่มพลังปราณให้เถ้าแก่สวี นี่ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้วเถ้าแก่สวีได้นำโอสถเพิ่มพลังปราณเข้าประมูลที่หอประมูลจันทรา
หอประมูลจันทรามีสาขาอยู่ทุกๆ หัวเมืองใหญ่ในแผ่นดินชิวหลิง เหมือนกับหอโอสถของสำนักแพทย์โอสถ ทั้งสองเป็นขุมกำลังที่ทุกคนในแผ่นดินชิวหลิงให้ความยำเกรง หอประมูจันทราจะจัดงานประมูลขึ้นเดือนละหนึ่งครั้ง เวียนไปเรื่อยๆ ในทุกๆ เมืองครั้งนี้เป็นรอบของเมืองเยว่กว่าง
วันนี้ไป๋เยี่ยนหลงแต่งตัวด้วยชุดขาวเช่นเดิมแต่ที่แปลกไปคือ เขามายืนอยู่หน้าเรือนพักของนาง ซินเยว่เปิดประตูออกมาเจอกับเขาแต่นางยังไม่ทันได้ถามไป๋เยี่ยนหลงก็เอ่ยขึ้นมาก่อน
"ไปกับข้า"
เขาพูดเพียงสั้นๆ แล้วจับมือของนางดึงให้เดินตาม
"ท่านจะพาข้าไปไหน"
ซินเยว่พยายามขืนตัวไว้แต่สู้แรงเขาไม่ได้ ไป๋เยี่ยนหลงจูงมือของนางมาหน้าเรือนใหญ่ เขา ใช้สายตาบอกให้นางขึ้นไปบนรถม้าที่ไม่รู้ว่าเยี่ยจื่อไปเอามาจากไหน ซินเยว่ทำท่าอิดออดไม่อยากขึ้นไป
"บอกข้ามาก่อนว่าเราจะไปที่ใดไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ยอมขึ้นรถม้าคันนี้"
ซินเยว่ต่อรอง ไป๋เยี่ยนหลงมองนางเล็กน้อยแล้วรวบตัวซินเยว่ด้วยมือข้างเดียวยัดนางเข้าไปในรถม้า ด้านนอกมีเยี่ยจื่อกับฮุ่ยหลิงนั่งคู่กัน
"นี่เจ้าคนเผด็จการข้าบอกว่าไม่ไปอย่างไรเล่า"
ซินเยว่โวยวายอยู่ด้านใน นางโมโหที่เขาทำอะไรตามใจตัวเองไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา
"แล้วมากันหมดแบบนี้ท่านแม่ก็ต้องอยู่คนเดียวน่ะสิ"
นางทำท่าจะลงจากรถม้า ไป๋เยี่ยนหลงรวบตัวซินเยว่มานั่งบนตักของเขา นางตัวแข็งทื่อไปทันที
"หากเจ้ายังดิ้นอีกข้าจะลงโทษเจ้า"
ไป๋เยี่ยนหลงเอ่ยคาดโทษเสียงเย็น ซินเยว่ได้แต่ขยับปากบ่นเสียงเบา
"ข้าเลิกดิ้นแล้วปล่อยข้าลงสิข้านั่งเองได้"
ซินเยว่ขยับตัวทำท่าจะลงจากตักของไป๋เยี่ยนหลง
"ข้าบอกแล้วว่าถ้าหากเจ้าขยับข้าจะลงโทษเจ้า"
ไป๋เยี่ยนหลงเอ่ยเสียงเรียบแต่นัยน์ตาพราวระยับ เขาโน้มใบหน้าเข้าหานางอย่างรวดเร็วแล้วกดจูบลงไปที่ปากเล็กนุ่มนิ่มสีแดงสดของนางและค่อยๆ แทะเล็มริมฝีปากบางอวบอิ่มอย่างนุ่มนวลมือขวากอดเอวคอดของนางเอาไว้มือซ้ายประคองท้ายทอยไม่ให้นางถอยห่าง ซินเยว่ตกตะลึงตาค้างไม่คิดว่าเขาจะลงโทษนางแบบนี้ หัวใจซินเยว่เต้นรัวกระหน่ำจนนางกลัวว่าเขาจะได้ยิน
ไป๋เยี่ยนหลงผละออกจากซินเยว่เมื่อใดไม่รู้ นางสูดหายใจเข้าปอดอย่างเหนื่อยหอบไร้เรี่ยวแรง ไป๋เยี่ยนหลงยังคงกอดนางเอาไว้หลวมๆ ฝ่ามือแกร่งลูบแผ่นหลังซินเยว่เบาๆ ดวงตาจ้องใบหูเล็กที่แดงก่ำของนาง เขาอดที่จะใช้ปากขบติ่งหูน่ารักสีชมพูของซินเยว่ไม่ได้
นางช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักน่าใคร่ยิ่งนัก กลิ่นกายของนางหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นสมุนไพรทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสูดดมอีกหลายครั้ง ไป๋เยี่ยนหลงกดจูบที่แก้มของนางอีกที
เห็นเขามองหน้านางอยู่นานแต่ไม่ยอมพูดอะไรสักที"เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการหรือไม่เขาถามซินเยว่เบาๆ นางส่ายหน้าไปมาทำสีหน้าเบื่อหน่าย"ท่านลากข้ามาจากบ้านเพื่อที่จะมาดูอะไรที่น่าเบื่อแบบนี้เนี่ยนะ ช่างเสียเวลาของข้าซะจริงท่านจะรับผิดชอบอย่างไร"ซินเยว่ทำหน้างอง้ำ พานางมาทั้งที่นางไม่เต็มใจแถมยังต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด"ข้าคิดว่ามีบางสิ่งที่เจ้าต้องการ"หลังจากที่ไป๋เยี่ยนหลงพูดจบด้านล่างก็บังเกิดเสียงฮือฮาของผู้คนดังขึ้น"เกิดอะไรขึ้นหรือ"ซินเยว่หันไปให้ความสนใจด้านล่าง ผู้ดูแลหอประมูลจันทราที่ก่อนหน้านี้เข้ามาทำความเคารพไป๋เยี่ยนหลงยืนอยู่กลางลานเวทีประมูลด้านข้างมีสาวงามชุดสีแดง ยืนถือถาดสีทองตรงกลางมีกล่องกำมะหยี่สีดำวางอยู่"สิ่งนี้คือของประมูลชิ้นสุดท้ายของวันนี้ บางท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าของที่อยู่ในกล่องนี้คือสิ่งใด"ผู้ดูแลกล่าวเสียงดังชัดเจน เขารับกล่องกำมะหยี่จากสาวงามมาวางไว้บนเเท่นศิลาสีดำกลางลานประมูล"สิ่งนี้ก็คือโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยมีในครอบครองมาก่อน ผู้ที่กินโอสถนี้เข้าไปสามารถเลื่อนระดับพลังได้ถึงสามขั้นย่อยหนึ่งขั้นให
ตอนนี้ซินเยว่เขินจนต้องมุดหน้าหลบที่ซอกคอของไป๋เยี่ยนหลงนางตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความตกใจระคนขัดเขิน ถึงแม้นางจะเคยเกิดมาแล้วสองรอบแต่นี่เป็นจูบแรกของนางเลยนะ จูบแรกของนาง ใบหน้าเล็กแดงก่ำทำปากบ่นขมุบขมิบคนเดียวหลังจากที่ซินเยว่ได้สติคืนมานางไม่กล้าดื้อที่จะลงจากตักของไป๋เยี่ยนหลงอีกนางกลัวว่าจะถูกเขาทำโทษอีกครั้ง ซินเยว่ได้แต่บ่นในใจเจ้าคนหน้าหนาทำโทษอะไรกันเอาเปรียบนางชัดๆ คอยดูเถอะนางจะวางยาถ่ายในอาหารของเขาซินเยว่ได้เเต่บ่นในใจคนเดียวไม่กล้าเอ่ยออกมาแม้เพียงครึ่งคำกลัวเขาจะเอาคืนมากกว่าเดิม รถม้าออกจากเรือนของซินเยว่วิ่งตามถนนผ่านหมู่บ้านต้งเถียนไปอย่างช้าๆ หม่าชิวหนิงมองตามจนลับสายตาจากนั้นจึงหันมาพูดกับหญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี"รถม้านั่นวิ่งมาจากบ้านของหญิงหม้ายแซ่เซวี่ยนี่นา........ หญิงเเพศยาไม่มีสามีแต่กลับพาบุรุษเข้ามาอยู่ในบ้าน"หม่าชิวหนิงบิดปากพูดออกไปด้วยความริศยา หวังให้หญิงวัยกลางคนเห็นด้วยกับตน ตั้งแต่ได้ยินชาวบ้านเล่าลือว่ามีหญิงหม้ายใบหน้างดงามมาอาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้านกับบุตรสาว นางก็บังเกิดความรู้สึกเกลียดชังทั้งๆ ที่นางไม่เคยพบหน้าเซวี่ยฟังเฟยเลยสักครั้ง ยิ่งมีคนเล
ซินเยว่พูดไม่ออกนางได้แต่ยกมือขึ้นโบกไปมาพลางพยักหน้า"เยี่ยนหลง"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาเเต่ชัดเจนในโสตของเขา ซินเยว่เงยหน้าขึ้นสบสายตาที่กำลังมองมาที่นาง ใบหน้าของไป๋เยี่ยนหลงยังคงเรียบเฉยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมีเพียงใบหูเท่านั้นที่เเดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด แต่ซินเยว่สังเกตเห็นมันได้นี่เขาอายหรือ ซินเยว่รู้สึกประหลาดใจเพียงแค่นางเอ่ยชื่อเขาเนี่ยนะ ซินเยว่มองหน้าไป๋เยี่ยนหลงตาปริบๆ ตอนนี้นางทำตัวไม่ถูกแล้วเสี่ยวเป่าที่เล่นดินอยู่ที่พื้นนอนกลิ้งไปมาส่งเสียง จิ๊ จ๊ะ คล้ายไม่พอใจที่พวกเขาไม่สนใจมัน"นายท่าน"เยี่ยเฉิงเดินเข้ามาคุกเข่ายกกำปั้นขวาขึ้นแนบอกด้านซ้ายทำท่าคารวะ เขาโบกมือหนึ่งทีให้เยี่ยเฉิงลุกขึ้น ซินเยว่เห็นว่าเยี่ยเฉิงมีเรื่องสำคัญจะคุยกับไป๋เยี่ยนหลงนางจึงอุ้มเสี่ยวเป่าเดินมาหามารดาที่นั่งคุยกับซ่งเว่ยหลงที่ระเบียงหน้าบ้าน คล้อยหลังซินเยว่เยี่ยเฉิงกางม่านพลังป้องกันเสียง"นายท่านมีการปะทะกันของสองกลุ่มทำให้เทพโอสถหนีไปได้ข้าน้อยไร้ความสามารถขอนายท่านโปรดลงโทษ "ไป๋เยี่ยนหลงยังคงเงียบเหม่อมองออกไปที่ซินเยว่"ตามต่อไป"พูดเพียงเท่านั้นไป๋เยี่ยนหลงก็เดินตรงไปหาซินเยว่ที่ระเบียงหน้าบ
"แม่จะไปรู้จักพวกเขาได้อย่างไรเขาบอกว่าเป็นสหายของลูกที่กำลังออกท่องเที่ยวผ่านมาทางนี้เลยแวะมาเยี่ยมเจ้า"ซินเยว่กลอกตาท่าทางหงุดหงิด ท่านแม่ท่าทางพวกเขาดูเหมือนเป็นสหายของข้าหรือท่านถูกคนพวกนั้นหลอกแล้วซินเยว่เค้นสมองคิดหาทางไล่สามคนนั้นกลับไป นางไม่อยากให้มารดารู้เรื่องที่นางเป็นตีนแมวย่องเข้าเรือนผู้อื่น ตอนนี้นางมีชนักติดหลังอยู่จึงโวยวายมากไม่ได้ อีกอย่างนางสู้พวกนั้นไม่ได้อย่างเเน่นอนหากสู้กันเรือนของนางคงพังไม่เหลือชิ้นดี และท่านแม่กับฮุ่ยหลิงอาจเป็นอันตรายได้ ซินเยว่ได้แต่ตอบรับไปส่งๆ เอาไว้ค่อยหาวิธีขับไล่พวกเขาไปทีหลัง"ชะ......ใช่ๆ ข้าลืมไปได้อย่างไรพวกเขาเป็นสหายของข้าเอง "ซินเยว่กัดฟันพูดนางลอบปาดเหงื่อบนหน้าผาก ได้แต่คาดโทษพวกเขาเอาไว้ในใจ"เช่นนั้นเราเข้าไปด้านในกันเถอะ”ซินเยว่ดันหลังมารดาเข้าไปก่อน เจ้าพวกนี้ทำให้อายุขัยของนางลดลงไปหลายปีเลยทีเดียว"คารวะคุณชาย..........."ซินเยว่ทำท่าประสานมือค้อมตัวแล้วมองหน้าบุรุษผมสีเงินสลับกับบุรุษทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง เยี่ยจื่อเข้าใจสายตาที่ส่งมาเป็นคำถามของนางทันที" ข้าคือองครักษ์นามว่าเยี่ยจื่อและเยี่ยเฉิงส่วนท่านนี้คือคุณ
"นี่ นี่!!!......"คู่มือการใช้มิติจิตซินเยว่ถึงกับคิ้วกระตุกอะไรจะสะดวกขนาดนั้นอย่างกับซื้อของออนไลน์แล้วแถมคู่มือการใช้งานแบบนั้นเลย ซินเยว่อ่านวิธีใช้มิติจิตของนางคร่าว ๆ คือถ้าพลังเพิ่มในนี้ก็อุดมสมบูรณ์ เข้าออกโดยการใช้จิตควบคุม น้ำในบ่อ คือน้ำทิพย์มรกตใช้ดื่มเพื่อเพิ่มพลังปราณ ใช้ปรุงโอสถจะทำให้เม็ดยาที่หลอมขึ้นมามีคุณภาพมากกว่าเดิมห้าเท่าขวดที่วางบนชั้นคือโอสถหายากที่แผ่นดินชิวหลิงนี้ที่เคยบันทึกเอาไว้ในตำราโบราณ แต่ไม่เคยมีใครสามารถหลอมมันขึ้นมาได้มาก่อนตำราบนชั้นคือตำราสมุนไพรปราณธรรมดาหาง่ายไปจนถึงสมุนไพรปราณในตำนาน ถ้ารู้ว่าที่นี่มีตำราสมุนไพรตั้งแต่แรกนางคงไม่ต้องไปเสี่ยงตายที่ร้านตาเฒ่าคนนั้น และตำราฝึกพลังจิตหืม!!!"พลังจิตหรือ"ซินเยว่ให้ความสนใจตำราเล่มนี้เป็นพิเศษนางใช้เวลาในกระท่อมไปนานเท่าใดไม่รู้จนกระทั่งรู้สึกถึงเจ้าก้อนขนที่ตอนนี้ ใช้อุ้งเท้าหน้าเขี่ยๆ ที่ขาของนาง"ว่าอย่างไรเจ้าตัวน้อย ......ไม่สิเจ้ามีชื่อหรือไม่"ซินเยว่ถามมัน เจ้าก้อนขนส่ายหน้าทำตาปริบๆ"เช่นนั้นให้ข้าตั้งชื่อให้เจ้าดีหรือไม่ ชื่ออะไรดีนะที่ฟังดูแล้วไพเราะและจำได้ง่าย”ซินเยว่นิ่งคิดเล็กน
ยามห้าย (21.00-22.59) ท้องนภากระจ่างใสไร้เมฆหมอกดวงดารานับล้านกระจายเกลื่อนทั่วท้องฟ้า เสียงหวีดหวิวเป็นท่วงทำนองคล้ายเพลงพิณแว่วมาตามสายลมมองขึ้นไปไร้ที่สิ้นสุด ดวงตาสีดำสนิททอประกายแวววาวไม่ต่างจากสีของท้องนภาในยามนี้กะพริบขึ้นลงทำให้ขนตางอนยาวของนางกระพือตาม มองดูคล้ายปีกผีเสื้อสีดำกำลังโบยบิน ดวงหน้างามเด่นขาวราวหยกเหมันต์ชั้นดีตัดกับความมืดยามราตรีเห็นเด่นชัดซินเยว่ในชุดสีดำรวบผมตึงด้วยผ้าผูกผมสีแดงยืนอยู่หน้าร้านขายตำราร้านเล็กท้ายตลาดในเมืองเยว่กว่าง นางยกผ้าสีดำขึ้นมาปิดใบหน้าครึ่งล่างเห็นเพียงดวงตาดำขลับ ซินเยว่กระตุกยิ้มร้ายเมื่อนึกถึงสีหน้าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ในวันพรุ่งนี้ซินเยว่ทะยานตัวขึ้นไปบนหลังคาของร้านหนังสือ ไต่ไปตามแนวหลังคากระโดดลงไปในสวนที่น่าจะเป็นด้านหลังของร้านหนังสือ ไฟในห้องหลังร้านหนังสือดับลงไปนานแล้ว เพื่อความไม่ประมาทซินเยว่ได้จุดกำยานยาสลบโยนเข้าไปให้ห้องอีกที"หึหึ รับรองหลับยันเช้าแน่"ซินเยว่หัวเราะเบาๆ แล้วค้นหาตำรารายชื่อสมุนไพรปราณเล่มเก่าที่นางหมายตาทันที นางจำได้ว่าตาเฒ่าหยิบตำรามาจากตรงนี้นี่นา ซินเยว่มองไปที่ชั้นตำรารอบๆ ตัวนาง ตอนนี้ซินเยว่ไม่จำเ