เมื่อหยางซินเยว่ถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจจนตัวเองต้องตายพอได้เกิดใหม่ในดินแดนที่แปลกประหลาดยังถูกน้องสาวต่างมารดารังแกแถมบิดาผู้ให้กำเนิดยังรังเกียจที่ไร้พลังทั้งยังต้องค้นหาชาติกำเนิดที่เเท้จริงของตน
View Moreเด็กหญิงตัวน้อยใบหน้าที่ฉายแววงดงามตั้งแต่ยังเล็กมีผิวขาวราวกับหิมะ เธอได้อาศัยและเติบโตที่บ้านเด็กกำพร้าในเมืองหนึ่งชื่อว่า 'หวงลู่'
เมื่อตอนที่อายุได้ราวหนึ่งขวบ เธอถูกคนนำมาทิ้งไว้ที่หน้าประตู บ้านเด็กกำพร้า ภายในตัวของเด็กน้อยยังมีแหวนหยกเก่าๆ ที่สลักตัวอักษร 'หยาง' ไว้ด้านในมันถูกห้อยด้วยเชือกผ้าเก่าๆ แขวนไว้ที่คอของเธอ
เมื่อผู้ดูแลมาพบเข้าจึงนำตัวเธอมาดูแลรวมกับเด็กคนอื่นและตั้งชื่อให้เธอว่า ซินเยว่ให้ใช้นามสกุลหยางเหมือนกับตัวอักษรที่สลักอยู่บนแหวนหยก
เมื่อซินเยว่อายุได้ห้าขวบเธอได้ถูกรับเลี้ยงโดยสามีภรรยาที่ดูร่ำรวยและใจดี เกาชิงและเกาหลิงลี่ สองสามีภรรยาแซ่เกาที่ความจริงแล้วเป็นนักโจรกรรมและนักต้มตุ๋นที่ทางตำรวจสากลต้องการตัว
สองสามีภรรยาถูกออกหมายจับนับสิบประเทศเมื่อเป็นแบบนั้น พวกเขาจึงคิดวางแผนรับเลี้ยงเด็กกำพร้าให้เป็นลูกบุญธรรมเพื่อฝึกฝนให้เป็นตัวแทนของเขาและภรรยา โดยมีพวกเขาที่อยู่เบื้องหลังคอยสั่งการ
สองสามีภรรยาแซ่เกาปลอมตัวเป็นเศรษฐีใจบุญคอยบริจาคเงินช่วยเหลือบ้านเด็กกำพร้า เพื่อให้ดูแนบเนียนจึงเสแสร้งรักและสงสาร เหล่าเด็กที่ถูกทอดทิ้ง อีกอย่างทั้งสองคนยังไม่เคยมีลูกเป็นของตัวเองนั่นยิ่งง่ายต่อแผนที่วางเอาไว้
ครั้งนี้ซินเยว่คือเด็กหญิงที่ได้รับเลือกจากสามีภรรยาแซ่เกาพราะมีเธอมีผิวพรรณขาวผ่องหน้าตาน่ารัก อายุของเธอยังน้อยจึงง่ายต่อการล้างสมองและฝึกให้เชื่อฟัง
เมื่อซินเยว่ย้ายไปอยู่กับสามีภรรยาแซ่เกาเธอก็ถูกฝึกทักษะ ด้านต่างๆ จากทั้งสองไม่ว่าจะด้านร่างกายจิตใจการต่อสู้และทักษะการเอาตัวรอดเพื่อง่ายต่อการหนีหลังจากที่ชิงของล้ำค่ามาจากเศรษฐีพวกนั้น ทุกอย่างที่เธอถูกฝึกมาแทบจะไม่ต่างอะไรกับการฝึกหน่วยพิเศษหรือสายลับขององค์กรต่างประเทศ
นอกจากซินเยว่แล้วยังมีเด็กที่ถูกรับมาเลี้ยงก่อนหน้าเธออีกสามคนคือ ชิงเหอ หานเยี่ย และหลิงหลง ทุกคนต่างถูกรับมาจากบ้านเด็กกำพร้าต่างที่กัน
ผ่านไปสิบสี่ปีพวกเขาทั้งสี่เติบโตมาพร้อมกันในบ้านสกุลเกา แต่ดูเหมือนว่าความสามารถของซินเยว่จะก้าวหน้าและโดดเด่นมากกว่าใครในหมู่พี่น้องของเธอ เพราะซินเยว่มีพรสวรรค์และทักษะที่โดดเด่นความทรงจำของเธอเป็นเลิศกว่าใคร
ทุกอย่างที่เธอทุ่มเทมาตลอดในการฝึกนั่นเพราะซินเยว่ต้องการความรักจากสองสามีภรรยา เธอจึงเพียรพยายามฝึกฝนตนเองเพื่อจะได้เป็นที่โปรดปราน
ทุกครั้งที่ถูกชมเชยเธอจะดีใจเป็นอย่างมากแต่ซินเยว่ก็ไม่เคยทำตัวหยิ่งผยองหรือร้ายกาจเห็นเเก่ตัวกับลูกบุญธรรมคนอื่น เธอยังคงตระหนักอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงเด็กที่ถูกรับมาเลี้ยง เธอยังคงเป็นซินเยว่ที่ร่าเริงและอบอุ่นอยู่เสมอ แต่ภายใต้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมานั้นกลับมีแต่ความโดดเดี่ยวและอ้างว้างซินเยว่หวังอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งจะมีใครสักคนเข้ามาเติมและทำให้ความรู้สึกที่อ้างว้างของเธอนั้นหายไป
ตลอดมาซินเยว่รับงานโจรกรรมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นภาพวาดเก่าแก่หายาก เครื่องเพชรมูลค่าสูง หรือปล้นพิพิธภัณฑ์ที่มีมรดกเก่าเเก่ล้ำค่าของโลก ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรที่สามีภรรยาแซ่เกาสั่งมาโอกาสที่ซินเยว่สามารถมันได้สำเร็จคือหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
ตั้งแต่อายุสิบแปดเธอก็เริ่มเดินทางออกนอกประเทศใช้ชีวิตโลดโผนไม่เคยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และตอนนี้ซินเยว่เริ่มมีชื่อเสียงและถูกกล่าวขวัญในหมู่นักประมูลใต้ดินผิดกฎหมายเพราะฝีมือที่ยอดเยี่ยมของเธอ แต่ไม่เคยมีใครได้พบตัวจริงของเธอมาก่อน หากต้องการจ้างเธอทำงานต้องผ่านระบบและคัดกรองจากสามีภรรยาแซ่เกา
ซินเยว่จะรับคำสั่งผ่านรหัสที่มีเพียงสามีภรรยาแซ่เกาเท่านั้นที่รู้เธอจึงยังคงเป็นบุคคลปริศนาที่ไม่มีใครรู้ประวัติอายุหรือหน้าตา บางคนก็ลือกันว่าเธอเป็นผู้ชายบ้างก็ว่าเป็นผู้หญิง แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่พวกเขารู้ตรงกันคือฉายาที่ตำรวจสากลทั่วโลกมอบให้เธอ
"นักโจรกรรมเงา"
'หยดน้ำตาสวรรค์' สร้อยเพชรที่มีเอกลักษณ์และมีมูลค่ามหาศาลซึ่งถูกเก็บอยู่ในห้องนิรภัยทันสมัยที่สุดในโลกและได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาจากบอดี้การ์ดมือดีของคฤหาสน์ 'เรนเดล'
สร้อยเพชรเก่าเเก่ที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคนของตระกูลเรนเดล อีกไม่นานจะมีการจัดงานเดินแบบแฟชั่นโชว์การกุศลและหยดน้ำตาสวรรค์ จะออกมาสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
ซินเยว่คือหัวโจกในการวางแผนปล้นครั้งสำคัญ เธอรู้ดีว่าต้องเลือกใครมาร่วมทีมเพราะเป้าหมายในการโจรกรรมครั้งนี้คือ เพชรเม็ดงามมูลค่ากว่าห้าร้อยล้านเหรียญที่จะถูกจัดให้อยู่กลางเวทีงานการกุศลใหญ่แห่งปี แผนการทุกอย่างต้องรัดกุมและแนบเนียนก่อนที่พวกเธอจะลอยลำหายเข้ากลีบเมฆไป
โดยปกติแล้วซินเยว่จะทำงานคนเดียวเพราะง่ายแก่การเร้นตัว แต่คราวนี้เป็นงานใหญ่ และระบบรักษาความปลอดภัยเเน่นหนาซินเยว่จึงต้องมีผู้ช่วย เธอเรียกตัวชิงเหอ หานเยี่ย และหลิงหลงมาช่วยในการโจรกรรมครั้งนี้
ก่อนงานการกุศลเริ่มขึ้นหนึ่งชั่วโมง
ซินเยว่ ที่ปลอมตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลอัญมณีได้รับมอบหมายให้เข้าไปในห้องนิรภัยเพื่อตรวจสอบ หยดน้ำตาสวรรค์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนการนำไปสวมให้นางแบบที่จะเดินในชุดฟินาเล่ในคืนนี้ ส่วนชิงเหอและหานเยี่ย ปลอมตัวเป็นบอดี้การ์ดในงานและคอยดึงดูดความสนใจพวกบอดี้การ์ดคนอื่นที่เฝ้าอยู่ด้านนอก
เมื่อซินเยว่นำหยดน้ำตาสวรรค์ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบทำการสับเปลี่ยนกับของจริงและนำไปใส่ให้กับนางแบบ จากนั้นจึงแอบนำหยดน้ำตาสวรรค์ของจริงแยกชิ้นส่วนแล้วส่งให้หลิงหลงที่ปลอมตัวเป็นบริกรหญิงและส่งต่อให้ชิงเหอนำออกไปอย่างแนบเนียน
หลังจบงานแฟชั่นโชว์เจ้าหน้าที่ได้นำหยดน้ำตาสวรรค์มาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเก็บเข้าตู้นิรภัยและพบว่ามันกลายเป็นสร้อยที่ทำขึ้นมาเลียนแบบแต่ตอนนี้ซินเยว่ได้หายตัวไปแล้ว
สิบวันต่อมาซินเยว่ได้เดินทางไปยังจุดนัดพบที่ทั้งสี่ได้ตกลงกันไว้หลังจบงานนี้
ณโรงแรมใหญ่ใจกลางกรุงนิวยอร์ก
มีการจัดงานประมูลลับขึ้นที่ชั้นใต้ดินที่ลึกที่สุดของโรงแรมและสินค้าที่นำมาทำการประมูลส่วนใหญ่ถูกปล้นมาทั้งนั้น ผู้ที่สามารถเข้าร่วมการประมูลจะต้องลงทะเบียนออนไลน์และได้รับการ์ดทองเพื่อยืนยันตัวตนจึงจะสามารถเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ได้ สถานที่จะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่จัดงานประมูลลับขึ้นและข้อมูลสถานที่จะถูกส่งเข้ามือถือส่วนตัวของผู้ลงทะเบียนเท่านั้น
คนที่เข้าร่วมการประมูลลับนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกอิทธิพลมืด นักการเมือง พ่อค้ายาดังนั้นจึงไม่แปลกที่สินค้าที่นำมาประมูลจะมีมูลค่าสูงลิ่วแต่ยังคงเป็นที่ต้องการของพวกนักสะสมกระเป๋าหนัก
หยดน้ำตาสวรรค์ ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่จะเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ด้วย ซินเยว่สวมชุดเดรสยาวเกาะอกเปิดไหล่สีดำดูเรียบแต่หรูหรา เพียงแต่งหน้าบางๆ ก็สามารถทำให้เธอดูสวยโดดเด่นยิ่งกว่าใคร ขาเรียวยาวก้าวลงจากแลมโบกินี่สีแดงตัดกับชุดสีดำของเธอเมื่อเดินเข้าไปในเลาจ์ชั้นใต้ดินขอโรงแรม ซินเยว่สั่งไวน์มานั่งดื่มรอหลิงหลง ชิงเหอและหานเยี่ย อย่างใจเย็นจากนั้นไม่นานทั้งสามก็เดินเข้ามาพร้อมกัน
หลิงหลงเปิดแชมเปญเพื่อดื่มฉลองให้กับความสำเร็จเงินที่ได้จากการประมูลมากกว่าราคาจริงของสร้อยเพชรเสียอีก ซินเยว่รับแชมเปญจากหลิงหลง เมื่เธอดื่มเข้าไปก็รู้สึกแสบร้อนที่คอคล้ายกำลังกลืนลูกไฟเข้าไป แก้วเเชมเปญในมือร่วงลงพื้นแตกกระจาย ซินเยว่ล้มลงจากเก้าอี้แล้วกระอักเลือดออกมา
'ทำไม'
ซินเยว่ส่งสายตาเป็นคำถามเธอมองพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่ได้รับคำตอบจากพวกเขานอกจากรอยยิ้มเย้ยหยัน พร้อมกับลมหายใจรวยรินที่ค่อยๆ จากไปของเธอ
เห็นเขามองหน้านางอยู่นานแต่ไม่ยอมพูดอะไรสักที"เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการหรือไม่เขาถามซินเยว่เบาๆ นางส่ายหน้าไปมาทำสีหน้าเบื่อหน่าย"ท่านลากข้ามาจากบ้านเพื่อที่จะมาดูอะไรที่น่าเบื่อแบบนี้เนี่ยนะ ช่างเสียเวลาของข้าซะจริงท่านจะรับผิดชอบอย่างไร"ซินเยว่ทำหน้างอง้ำ พานางมาทั้งที่นางไม่เต็มใจแถมยังต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด"ข้าคิดว่ามีบางสิ่งที่เจ้าต้องการ"หลังจากที่ไป๋เยี่ยนหลงพูดจบด้านล่างก็บังเกิดเสียงฮือฮาของผู้คนดังขึ้น"เกิดอะไรขึ้นหรือ"ซินเยว่หันไปให้ความสนใจด้านล่าง ผู้ดูแลหอประมูลจันทราที่ก่อนหน้านี้เข้ามาทำความเคารพไป๋เยี่ยนหลงยืนอยู่กลางลานเวทีประมูลด้านข้างมีสาวงามชุดสีแดง ยืนถือถาดสีทองตรงกลางมีกล่องกำมะหยี่สีดำวางอยู่"สิ่งนี้คือของประมูลชิ้นสุดท้ายของวันนี้ บางท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าของที่อยู่ในกล่องนี้คือสิ่งใด"ผู้ดูแลกล่าวเสียงดังชัดเจน เขารับกล่องกำมะหยี่จากสาวงามมาวางไว้บนเเท่นศิลาสีดำกลางลานประมูล"สิ่งนี้ก็คือโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยมีในครอบครองมาก่อน ผู้ที่กินโอสถนี้เข้าไปสามารถเลื่อนระดับพลังได้ถึงสามขั้นย่อยหนึ่งขั้นให
ตอนนี้ซินเยว่เขินจนต้องมุดหน้าหลบที่ซอกคอของไป๋เยี่ยนหลงนางตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความตกใจระคนขัดเขิน ถึงแม้นางจะเคยเกิดมาแล้วสองรอบแต่นี่เป็นจูบแรกของนางเลยนะ จูบแรกของนาง ใบหน้าเล็กแดงก่ำทำปากบ่นขมุบขมิบคนเดียวหลังจากที่ซินเยว่ได้สติคืนมานางไม่กล้าดื้อที่จะลงจากตักของไป๋เยี่ยนหลงอีกนางกลัวว่าจะถูกเขาทำโทษอีกครั้ง ซินเยว่ได้แต่บ่นในใจเจ้าคนหน้าหนาทำโทษอะไรกันเอาเปรียบนางชัดๆ คอยดูเถอะนางจะวางยาถ่ายในอาหารของเขาซินเยว่ได้เเต่บ่นในใจคนเดียวไม่กล้าเอ่ยออกมาแม้เพียงครึ่งคำกลัวเขาจะเอาคืนมากกว่าเดิม รถม้าออกจากเรือนของซินเยว่วิ่งตามถนนผ่านหมู่บ้านต้งเถียนไปอย่างช้าๆ หม่าชิวหนิงมองตามจนลับสายตาจากนั้นจึงหันมาพูดกับหญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี"รถม้านั่นวิ่งมาจากบ้านของหญิงหม้ายแซ่เซวี่ยนี่นา........ หญิงเเพศยาไม่มีสามีแต่กลับพาบุรุษเข้ามาอยู่ในบ้าน"หม่าชิวหนิงบิดปากพูดออกไปด้วยความริศยา หวังให้หญิงวัยกลางคนเห็นด้วยกับตน ตั้งแต่ได้ยินชาวบ้านเล่าลือว่ามีหญิงหม้ายใบหน้างดงามมาอาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้านกับบุตรสาว นางก็บังเกิดความรู้สึกเกลียดชังทั้งๆ ที่นางไม่เคยพบหน้าเซวี่ยฟังเฟยเลยสักครั้ง ยิ่งมีคนเล
ซินเยว่พูดไม่ออกนางได้แต่ยกมือขึ้นโบกไปมาพลางพยักหน้า"เยี่ยนหลง"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาเเต่ชัดเจนในโสตของเขา ซินเยว่เงยหน้าขึ้นสบสายตาที่กำลังมองมาที่นาง ใบหน้าของไป๋เยี่ยนหลงยังคงเรียบเฉยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมีเพียงใบหูเท่านั้นที่เเดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด แต่ซินเยว่สังเกตเห็นมันได้นี่เขาอายหรือ ซินเยว่รู้สึกประหลาดใจเพียงแค่นางเอ่ยชื่อเขาเนี่ยนะ ซินเยว่มองหน้าไป๋เยี่ยนหลงตาปริบๆ ตอนนี้นางทำตัวไม่ถูกแล้วเสี่ยวเป่าที่เล่นดินอยู่ที่พื้นนอนกลิ้งไปมาส่งเสียง จิ๊ จ๊ะ คล้ายไม่พอใจที่พวกเขาไม่สนใจมัน"นายท่าน"เยี่ยเฉิงเดินเข้ามาคุกเข่ายกกำปั้นขวาขึ้นแนบอกด้านซ้ายทำท่าคารวะ เขาโบกมือหนึ่งทีให้เยี่ยเฉิงลุกขึ้น ซินเยว่เห็นว่าเยี่ยเฉิงมีเรื่องสำคัญจะคุยกับไป๋เยี่ยนหลงนางจึงอุ้มเสี่ยวเป่าเดินมาหามารดาที่นั่งคุยกับซ่งเว่ยหลงที่ระเบียงหน้าบ้าน คล้อยหลังซินเยว่เยี่ยเฉิงกางม่านพลังป้องกันเสียง"นายท่านมีการปะทะกันของสองกลุ่มทำให้เทพโอสถหนีไปได้ข้าน้อยไร้ความสามารถขอนายท่านโปรดลงโทษ "ไป๋เยี่ยนหลงยังคงเงียบเหม่อมองออกไปที่ซินเยว่"ตามต่อไป"พูดเพียงเท่านั้นไป๋เยี่ยนหลงก็เดินตรงไปหาซินเยว่ที่ระเบียงหน้าบ
"แม่จะไปรู้จักพวกเขาได้อย่างไรเขาบอกว่าเป็นสหายของลูกที่กำลังออกท่องเที่ยวผ่านมาทางนี้เลยแวะมาเยี่ยมเจ้า"ซินเยว่กลอกตาท่าทางหงุดหงิด ท่านแม่ท่าทางพวกเขาดูเหมือนเป็นสหายของข้าหรือท่านถูกคนพวกนั้นหลอกแล้วซินเยว่เค้นสมองคิดหาทางไล่สามคนนั้นกลับไป นางไม่อยากให้มารดารู้เรื่องที่นางเป็นตีนแมวย่องเข้าเรือนผู้อื่น ตอนนี้นางมีชนักติดหลังอยู่จึงโวยวายมากไม่ได้ อีกอย่างนางสู้พวกนั้นไม่ได้อย่างเเน่นอนหากสู้กันเรือนของนางคงพังไม่เหลือชิ้นดี และท่านแม่กับฮุ่ยหลิงอาจเป็นอันตรายได้ ซินเยว่ได้แต่ตอบรับไปส่งๆ เอาไว้ค่อยหาวิธีขับไล่พวกเขาไปทีหลัง"ชะ......ใช่ๆ ข้าลืมไปได้อย่างไรพวกเขาเป็นสหายของข้าเอง "ซินเยว่กัดฟันพูดนางลอบปาดเหงื่อบนหน้าผาก ได้แต่คาดโทษพวกเขาเอาไว้ในใจ"เช่นนั้นเราเข้าไปด้านในกันเถอะ”ซินเยว่ดันหลังมารดาเข้าไปก่อน เจ้าพวกนี้ทำให้อายุขัยของนางลดลงไปหลายปีเลยทีเดียว"คารวะคุณชาย..........."ซินเยว่ทำท่าประสานมือค้อมตัวแล้วมองหน้าบุรุษผมสีเงินสลับกับบุรุษทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง เยี่ยจื่อเข้าใจสายตาที่ส่งมาเป็นคำถามของนางทันที" ข้าคือองครักษ์นามว่าเยี่ยจื่อและเยี่ยเฉิงส่วนท่านนี้คือคุณ
"นี่ นี่!!!......"คู่มือการใช้มิติจิตซินเยว่ถึงกับคิ้วกระตุกอะไรจะสะดวกขนาดนั้นอย่างกับซื้อของออนไลน์แล้วแถมคู่มือการใช้งานแบบนั้นเลย ซินเยว่อ่านวิธีใช้มิติจิตของนางคร่าว ๆ คือถ้าพลังเพิ่มในนี้ก็อุดมสมบูรณ์ เข้าออกโดยการใช้จิตควบคุม น้ำในบ่อ คือน้ำทิพย์มรกตใช้ดื่มเพื่อเพิ่มพลังปราณ ใช้ปรุงโอสถจะทำให้เม็ดยาที่หลอมขึ้นมามีคุณภาพมากกว่าเดิมห้าเท่าขวดที่วางบนชั้นคือโอสถหายากที่แผ่นดินชิวหลิงนี้ที่เคยบันทึกเอาไว้ในตำราโบราณ แต่ไม่เคยมีใครสามารถหลอมมันขึ้นมาได้มาก่อนตำราบนชั้นคือตำราสมุนไพรปราณธรรมดาหาง่ายไปจนถึงสมุนไพรปราณในตำนาน ถ้ารู้ว่าที่นี่มีตำราสมุนไพรตั้งแต่แรกนางคงไม่ต้องไปเสี่ยงตายที่ร้านตาเฒ่าคนนั้น และตำราฝึกพลังจิตหืม!!!"พลังจิตหรือ"ซินเยว่ให้ความสนใจตำราเล่มนี้เป็นพิเศษนางใช้เวลาในกระท่อมไปนานเท่าใดไม่รู้จนกระทั่งรู้สึกถึงเจ้าก้อนขนที่ตอนนี้ ใช้อุ้งเท้าหน้าเขี่ยๆ ที่ขาของนาง"ว่าอย่างไรเจ้าตัวน้อย ......ไม่สิเจ้ามีชื่อหรือไม่"ซินเยว่ถามมัน เจ้าก้อนขนส่ายหน้าทำตาปริบๆ"เช่นนั้นให้ข้าตั้งชื่อให้เจ้าดีหรือไม่ ชื่ออะไรดีนะที่ฟังดูแล้วไพเราะและจำได้ง่าย”ซินเยว่นิ่งคิดเล็กน
ยามห้าย (21.00-22.59) ท้องนภากระจ่างใสไร้เมฆหมอกดวงดารานับล้านกระจายเกลื่อนทั่วท้องฟ้า เสียงหวีดหวิวเป็นท่วงทำนองคล้ายเพลงพิณแว่วมาตามสายลมมองขึ้นไปไร้ที่สิ้นสุด ดวงตาสีดำสนิททอประกายแวววาวไม่ต่างจากสีของท้องนภาในยามนี้กะพริบขึ้นลงทำให้ขนตางอนยาวของนางกระพือตาม มองดูคล้ายปีกผีเสื้อสีดำกำลังโบยบิน ดวงหน้างามเด่นขาวราวหยกเหมันต์ชั้นดีตัดกับความมืดยามราตรีเห็นเด่นชัดซินเยว่ในชุดสีดำรวบผมตึงด้วยผ้าผูกผมสีแดงยืนอยู่หน้าร้านขายตำราร้านเล็กท้ายตลาดในเมืองเยว่กว่าง นางยกผ้าสีดำขึ้นมาปิดใบหน้าครึ่งล่างเห็นเพียงดวงตาดำขลับ ซินเยว่กระตุกยิ้มร้ายเมื่อนึกถึงสีหน้าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ในวันพรุ่งนี้ซินเยว่ทะยานตัวขึ้นไปบนหลังคาของร้านหนังสือ ไต่ไปตามแนวหลังคากระโดดลงไปในสวนที่น่าจะเป็นด้านหลังของร้านหนังสือ ไฟในห้องหลังร้านหนังสือดับลงไปนานแล้ว เพื่อความไม่ประมาทซินเยว่ได้จุดกำยานยาสลบโยนเข้าไปให้ห้องอีกที"หึหึ รับรองหลับยันเช้าแน่"ซินเยว่หัวเราะเบาๆ แล้วค้นหาตำรารายชื่อสมุนไพรปราณเล่มเก่าที่นางหมายตาทันที นางจำได้ว่าตาเฒ่าหยิบตำรามาจากตรงนี้นี่นา ซินเยว่มองไปที่ชั้นตำรารอบๆ ตัวนาง ตอนนี้ซินเยว่ไม่จำเ
Comments